ลำดับตอนที่ #24
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #24 : Reward
O u t s i d e
" Shi-t...บ้าเอ๊ย "
" จะอะไรกันนักกันหนาวะ "
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อเล่น : ไคล์ || Kyle
ชื่อ-นามสกุล : ไคล์ ไอเมลด้า || Kyle Imelda
➭ ไคล์ แปลว่า มีความระมัดระวัง
➭ ไอเมลด้า แปลว่า นักรบ
➭ ไคล์ ไอเมลด้า แปลว่า นักรบผู้มีความระมัดระวัง
อายุ : 19 ปี
ส่วนสูง : 187 เซนติเมตร
อาชีพ : นักศึกษาชั้นปีที่1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมปิโตรเลียม
งานอดิเรกนอกจากอ่านหนังสือ :
➭ เล่นบาส
➭ ออกกำลังกาย (เข้าฟิตเนสหรือออกกำลังกายยืดเส้นยืดสายด้วยตัวเอง)
สิ่งที่ชอบ :
➭ กีฬา ; ชอบทั้งการเล่นกีฬาและการดูกีฬา เชียร์กีฬานั่นแหละ มันเป็นอะไรที่สนุกแล้วก็ลุ้นระทึกดีออกนี่ บางทีก็ท้าทายน่าตื่นเต้นอีกต่างหาก!
➭ อากาศเย็น ; มาอยู่เมืองไทยแล้วมันร้อน... ทำให้เขานึกถึงตอนอยู่ที่อเมริกาเลยล่ะ ที่นั่นอากาศเย็นกว่าเยอะถึงบางทจะหนาวจนตับแทบแข็งก็เถอะ แต่สำหรับเขาอากาศร้อนๆมันทำให้หงุดหงิดน่ะ
➭ เพลง ; ได้หลากหลายอารมณ์ดี บางครั้งก็ฟังเเก้เบื่อ ผ่อนคลายได้ดีเหมือนกัน
➭ ต้มยำกุ้ง ; เป็นอาหารไทยที่เคยกินตอนเด็กๆแล้วก็ชอบมากๆ ...ถึงเขาจะกินเผ็ดไม่ได้เบอร์นั้นก็เถอะแต่เขาก็ชอบนะ รสชาติเปรี้ยวเค็มเผ็ดพร้อมๆกับมันกุ้งมันลงตัวกันอย่างน่าประหลาดเลยล่ะ
➭ ชีส ; ได้ทุกรูปแบบ...อร่อยดีออกนะ
➭ ตุ๊กตากระต่าย ; เห็นหนังหน้าแบบนี้แต่เขาก็ชอบอะไรๆน่ารักๆได้นะ แค่รู้สึกว่าชอบ---ตอนเด็กๆเขาติดมันมากเลยล่ะ แต่ตอนโตขึ้นก็ไม่ได้ติดถึงขนาดจะพกไปไหนมาไหนด้วย แค่เจอแล้วเห็นว่าน่ารักหน่อยก็จะแวะซื้อ เขาเห็นว่ามันน่ารักดี และ..ถ้าเขาเห็นว่าใครน่ารักก็ชอบบอกว่าคนคนนั้นเหมือนกระต่าย ซึ่งนั่นเป็นการชมว่าน่ารักโดยไม่ได้พูดว่าน่ารักนั่นแหละนะ...
➭ บุหรี่ ; สูบเป็นบางครั้ง ไม่ได้ติดหรอกแต่แค่ไม่เลิกสักที(?) ...อืม อย่างน้อยๆเขาก็มีมารยาทพอจะไม่สูบมนที่สาธารณะน่ะนะ
➭ เบียร์,เหล้า,ไวน์ ; รวมๆแล้วก็เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์...เขาไม่ได้ติดเหมือนกัน แต่แค่กินเข้าไปเพราะตอนอยู่อเมริกาก็กินจนชิน เที่ยวสังสรรค์กับเพื่อยนก็กินบ่อยๆทำให้กลายเป็นคนคอแข็งสุดๆไปเลยล่ะ
สิ่งที่เกลียด :
➭ ของเผ็ด ; หมายถึงอะไรที่เผ็ดเกินไปน่ะ ระดับเขากินเผ็ดไม่ได้มากนัก จมูกกับแก้มจะแดงไปหมดเลยล่ะเขาถึงได้เกลียดเวลาตัวเองกินของเผ็ดเพราะเขาไม่สามารถควบคุมสีหน้าของตัวเองได้เลย เว้นแต่ถ้าเป็นของชอบก็จะทนๆอายแล้วกินเข้าไปดังเช่นต้มยำกุ้งน่ะนะ
➭ อากาศร้อน ; อย่างว่านั่นแหละ มันทำให้หงุดหงิดไปหมดถึงเขาจะอยู่เมืองหนาวมานานก็เถอะแต่เขาก็ไม่ชอบอากาศร้อนๆอยู่ดี
➭ พวกตามตื้อ ; หมายถึงการตามรังควานด้วยเรื่องไร้สาระมากเกินจำเป็นน่ะ มันน่ารำคาญสำหรับเขา
➭ ชาขิง ; เคยกินแล้ว ไม่อร่อยเลย...
➭ พวกชอบหาเรื่อง ; จริงๆแล้วเขาเป็นคนรักสงบ แต่ถ้าอยากมีเรื่องเขาก็ยินดีจะจัดให้นะ...
ข้อมูลส่วนตัว
ลักษณะการพูด :
ไคล์มักพูดจาแบบห้วนๆดูเหมือนคนชอบพูดแบบส่งๆหรือขอไปทีมาก บางครั้งก็ดูไร้น้ำใจ ไม่น่ารัก แข็งกระด้างอีกทั้งบางทีน้ำเสียงยังราบเรียบเป็นโทนเดียวในเวลาที่ต้องการหาความจริงจังอีก บางครั้งที่กระแทกกระทั้นก็ตอนที่เริ่มมีน้ำโหนั่นแหละ น้ำเสียงของไคล์นับได้ว่าเซ็กซี่เย้ายวน...เอ่อ จริงๆนะ เพราะมันติดทุ้มๆแหบๆมากกว่านุ่มนวลน่ะ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ค่อยจะเอื้อนเอ่ยคำวาจาดีๆกับใครนักหรอก
โดยปกติแล้วเขาใช้สรรพนามแทนตัวเองว่า “ฉัน” และแทนคนอื่นๆว่า “นาย/เธอ” ตามเพศจิตใจ ถ้าเป็นคนที่อายุมากกว่าหรือน่าเคารพหน่อยก็จะ “คุณ” และจะมีหางเสียงตามมาบ้างบางครั้งเพื่อความเหมาะสม แต่ถามว่ามันฟังดูสุภาพอ่อนหวานขึ้นบ้างไหม? บอกได้เลยว่าไม่ หรืออาจจะเเค่เล็กน้อย เพราะเขายังติดความห้วนๆและการพูดแบบหกร้านโลกระคนขอไปทีอยู่ดี แต่ถ้าอารมณ์เสียเมื่อไหร่ก็จะเปลี่ยนเป็น “แก” ได้กับทุกเพศทุกวัยเลยทีเดียว
นิสัย :
➠ Formidable
คนอย่างไคล์ที่แม้จะดูหล่อเหลาปานเทพบุตรมาโปรดยังไงทว่าทั้งสายตาและกิริยาท่าทางของเขากลับดูเหมือนพวกหัวหน้ามาเฟียไม่มีผิด... ใช่แล้ว เขาน่ะดูน่ากลัวมากทีเดียวหากมองจากภายนอก ไม่ใช่น่ากลัวในทางที่ว่าเหมือนเขาเป็นพวกติดยาหรือมีคดีฆ่าฟันอะไรหรอกหากแต่เพราะความที่การแสดงออกเหมือนกับไม่ต้องการผูกมิตรกับใคร ไม่อยากให้ใครเข้ามายุ่ง และถึงจะเป็นแบบนั้นขณะเดียวกันเขากลับดูมาดเท่ แบดบอย เยือกเย็นจนทำเอาสาวๆกรี๊ดได้เหมือนกันล่ะนะ แต่คนส่วนมากก็ไม่ได้อยากเข้าหาเขานักหรอก...
เกือบจะตลอดเวลาที่ใบหน้าของไคล์ไม่มีรอยยิ้มอยู่เลยนั่นจึงอาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เขาดูเหมือนพวกกร้านโลกไปโดยปริยาย ท่าทีที่ดูหมางเมินต่อหลายๆสิ่ง เสียบหูและมองตรงไปด้านหน้า บางครั้งก็นั่งหลับตาฟังเพลง แน่นอนว่าน้อยคนนักที่จะกล้าเข้าไปทักเขาในเวลานั้น เพราะสายตาที่เขาชอบใช้มองคนอื่นมันมักเป็นการปราดมองอย่างรวดเร็วแถมยังแหลมคมอย่างกับคิดจะฆ่าจะแกงกันเสียให้ได้ หากว่าไม่สนิทกันจริงๆก็คงไม่รู้หรอกว่าไคล์ไม่ได้ตั้งใจจะมองใครแบบนั้นหมดทุกคน เขาแค่...ทำไปเพราะเผลอเท่านั้นเอง
ด้วยความที่เป็นคนเอเชียเขาจึงมีรูปร่างที่สูงโปร่งติดกำยำและมีกล้ามเนื้อบวกกับความที่มีแรงเยอะ โดยรวมแล้วภายนอกเขาจึงดูน่าเกรงขามปานมาเฟียจริงๆนั่นแหละ แต่ก็ยังไม่วายมีพวกอยู่ไม่สุขเข้ามาหาเรื่องอยู่ดีส่วนตัวไคล์ก็ไม่ได้ปล่อยใครไปง่ายๆด้วย อยากบวกนักก็เข้ามา---หลังจากซัดคนนนั้นคนนี้ไปเรื่อยภาพลักษณ์ของเขามันก็ไม่ต่างอะไรจากชายหนุ่มนักเลงผู้น่ากลัวน่ะนะ...
➠ Edgy
หนึ่งในข้อเสียนอกจากภาพลักษณ์แย่ๆของไคล์ก็คือความขี้หงุดหงิดของเขานี่แหละ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะหงุดหงิดเสียจนโวยวายใครปทั่วหรอกนะ ไคล์แค่ชักสีหน้าทันทีเมื่อหงุดหงิดอะไรทำให้เดาได้ไม่ยากว่าอะไรที่เขากำลังไม่ชอบใจอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการขมวดคิ้ว จิ๊ปาก ถอนหายใจแรงๆหรือกระแทกสิ่งของ(ที่เป็นของตัวเอง)ลงกับโต๊ะ มันกับเขาเป็นเด็กมีปัญหา...แต่ก็ไม่ใช่แบบนั้นซะทีเดียวหรอก ไคล์แค่ไม่ชอบปล่อยให้อารมณ์หงุดหงิดของตัวเองมันอยู่ในใจนานเกินไปนัก อย่างน้อยๆแค่ได้แสดงออกมาก็ยังดีกว่าเก็บเอาไว้แล้วยิ้มรับเพราะสำหรับเขามันไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ง่ายๆนักหรอกที่จะยิ้มรับกับอารมณ์ด้านลบน่ะ
เรื่องที่ทำให้เขาหงุดหงิดก็มีไม่น้อย แต่ก็ใช่ว่าไคล์จะหงุดหงิดจนไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร อย่างน้อยๆเขาก็ยังเก็บอาการได้ดี...ในระดับเบื้องต้นน่ะ แค่ชักสีหน้าและขมวดคิ้วหน้ายุ่ง แสดงออกให้รู้ว่ากำลังหงุดหงิดเท่านั้น ไม่ได้เตะถังขยะหรือแหกปากโวยวายจนกลายเป็นหมาบ้าอะไรทว่าแค่นั้นมันก็ทำให้เขาดูน่ากลัวมากพอแล้ว เวลาที่เขาหงุดหงิดถ้าไม่โง่ซะอย่างคนที่ไม่รู้จักก็คงไม่เข้าไปหาเรื่องเขาหรอกเพราะถ้ามีก็คนคนนั้นนั่นแหละที่จะกลายเป็นที่ระบายอารมณ์ไปซะเลย
เวลาที่ไคล์โกรธขึงนั้นหาได้ยากแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลยเหมือนกัน อย่างที่กล่าวไปว่าส่วนมากเขาจะไม่ลงมือทันที แค่เก็บอาการได้เบื้องต้น(แต่แสดงสีหน้าออกมาเท่านั้น ไม่ได้ตบตีถล่มทลายทำลายข้าวของจนเละแต่อย่างใด) หากทว่าเวลาที่เขาโกรธขึงก็มีโอกาสที่เขาจะลงมือซัดเจ้าคนที่ทำให้หงุดหงิดได้ทันทีเลยก็ได้นะ แล้วเขาก็มือหนักเสียด้วย ไม่ปางตายก็ให้มันรู้ไปสิ...
➠ Impolite
ไคล์นับว่าเป็นชายหนุ่มที่มีนิสัยและการพูดการจาที่หยาบกระด้าง กร้านโลกและไม่เป็นมิตรเสียเท่าไหร่ ทั้งสีหน้าและการกระทำหลายๆอย่างของเขาก็บ่งบอกถึงความที่เป็นคนเข้ากับผู้คนได้ยาก มนุษย์สัมพันธ์เรียกได้ว่าแย่จนติดลบ เขาไม่ค่อยเข้าหาใครนักถ้าหากไม่มีเหตุจำเป็นจริงๆ สำหรับการพูดไคล์ก็มักจะชอบพูดจาห้วนๆสั้นๆจนดูไร้มารยาทบ่อยครั้งไม่ว่าจะกับใครก็ตาม ต่อให้เติมหางเสียงลงไปเวลาคุยกับผู้ใหญ่ยังไงคำพูดของเขามันก็ไม่ได้ฟังดูสุภาพนุ่มนวลฟังลื่นหูมากขึ้นนักหรอก...มันแข็งกร้าวและเหมือนกำลังจะหาเรื่องกันตลอดเวลามากกว่าล่ะนะ
คงเพราะไคล์เป็นคนที่ไม่ชอบการพูดคุยเสียเท่าไหร่หากไม่ใช่คนสนิทอะไร อีกส่วนหนึ่งที่ไม่ชอบพูดก็เพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี เขามันพวกเรียบเรียงคำพูดดีๆออกมาไม่ได้มากนัก ถ้าจะให้นั่งคิดก็คงนานจนคู่สนทนารากงอกไปเลยล่ะ เรียกได้ว่าเพราะนิสัยของเขานั้นไม่ใช่คนที่จะจุกจิกอ่อนโยนอะไรมากนักจึงทำให้เขาเป็นคนตรงแบบขวานผ่าซาก หลงลืมที่จะนึกถึงจิตใจอีกฝ่ายเวลาพูดอะไรออกไปเพียงเพราะเห็นว่ามันเป็นคำที่สื่อคสามหมายได้สั้นๆง่ายๆและไม่ต้องพูดอะไรเยอะแยะดี
การที่ไคล์พูดตรงๆออกไปมันก็เป็นนิสัยส่วนใหญ่ที่ทำเป็นประจำจนแก้ยาก แต่ก็มีบางเรื่องที่เขาจะปากไม่ตรงกับใจล่ะนะ อย่างเรื่องดีๆเช่นการจะให้กำลังใจใครแบบนี้น่ะ...บางครั้งก็ด่าไว้ก่อน พอเรื่องแย่ลงถึงได้พูดตรงๆสั้นๆอย่าง "สู้ๆ..." หรือ "เอาเถอะน่า ไม่แย่ขนาดนั้นหรอก" อะไรแบบนี้... (แต่ทางที่ดีเขาสมควรนั่งเฉยๆอยู่เป็นเพื่อนอีกฝ่ายมากกว่านะ อย่าพูดเลยเถอะ...)
แน่นอนว่ากับคำขอโทษและขอบคุณก็เหมือนกัน ไคล์ก็จะไม่พูดจาอ้อมค้อมอะไรเลยถ้าจะต้องกล่าวคำเหล่านั้นออกมา แค่มันอาจจะยากหน่อย...อ่า หมายความว่าเขาค่อนข้างอายนิดหน่อยที่ต้องพูดคำพวกนั้นแต่ถ้าได้พูดก็จะพูดแบบตรงๆไปเลยน่ะ
➠ Better
เห็นไคล์เป็นคนโหดโฉดชั่ว(?)ถึงขนาดนั้นแต่เอาเข้าจริงๆเขาก็เป็นคนดีกว่าที่คิดอีกนะถ้าไม่นับรวมเรื่องความหยาบคายไร้มารยาทกับสีหน้าท่าทางไม่เป็นมิตรของเขาน่ะ ไคล์เป็นคนปากร้ายแต่ใจดีอยู่ไม่น้อยทีเดียว บางคราก็เป็นพวกปากไม่ตรงกับใจ ภายนอกด่าต่อว่าแต่เวลาต่อมาก็เข้ามาช่วยเหลือซะอย่างนั้น แต่คนที่เขาช่วยก็มักจะมาจากความสงสารไม่ก็เห็นใจเสียส่วนใหญ่ พวกที่เข้ามาช่วยทั้งๆที่กวนตี*เขาหรือเป็นพวกไม่เอาอ่าวอยู่แล้วก็อย่าหวังเลยว่าเขาจะหันไปสนใจ (แต่ถ้าจนมุมเข้าจริงๆก็ไม่แน่หรอกนะ---นั่นหมายความว่าไอ้บ้าผู้นั้นต้องมีส่วนอยากเปลี่ยนตัวเองหรือเหตุผลอื่นๆเข้ามาปนด้วยแหละเขาถึงได้ยอมช่วยเหลือ) เขาเกลียดพวกสดใสโลกสวยแต่ถ้าทนความสงสารเห็นใจตัวเองไม่ไหว มันรบกวนใจจนรำคาญและทำให้หงุดหงิดสุดท้ายเขาก็จะหันไปช่วยเหลือสักนิดให้ตัวเองหายหงุดหงิดคิดเรื่องเดิมๆวนไปวนมาสักที
หากบอกว่าไคล์เป็นคนรักสัตว์ก็คงยากจะเชื่อหน่อยแต่มันเป็นเรื่องจริงนะ! เขาชอบดูแลสัตว์จนติดนิสัยชอบดูแลคนอื่นมาด้วยแต่การดูแลของเขาก็มักจะเป็นเฉพาะคนใกล้ชิดเท่านั้น มันไม่ได้แสดงออกอย่างหวือหวาแต่ก็เป็นการกระทำเล็กๆน้อยๆที่บ่งบอกถึงความห่วงใยและเทคแคร์ อย่างเช่นการซื้อของมาให้ ตัวเขาก็จะยื่นให้อีกฝ่ายโดยไม่บอกไม่กล่าว ทำเอาอีกฝ่ายงงเป็นไก่ตาแตกก็มี แต่ช่างเถอะ...จะเข้าใจหรือไม่เขาก็จะไม่อธิบายอะไรหรอก ขอแค่รับไว้ก็พอ ถือซะว่าเขาได้ดูแลหรือตอบแทนไปแล้วนั่นแหละ
➠ Memory
ไคล์เป็นคนฉลาดและความจำดี...เขาค่อนข้างจะจำเรื่องราวต่างๆในชีวิตได้อย่างแม่นยำทีเดียว ไม่ว่าจะดีหรือร้ายเขาก็มักจะจำมันได้เป็นส่วนใหญ่ทั้งนั้น หากเป็นเรื่องแค้นก็ไม่ได้แค้นฝังหุ่นหรอกแค่จำได้และไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวด้วยอีกเลยหากว่ามันจบไปแล้ว อยากจะตีตัวออกห่างมากกว่า แต่หากเป็นเรื่องดีอย่างการถูกช่วยเหลือ ทุกครั้งที่เจอตัวเขาเองก็อยากจะเข้าหาคนคนนั้น ทำอะไรสักอย่างที่คิดว่ามันเป็นการตอบแทนจนกว่าตัวเองจะคิดว่าควรพอ
และแน่นอน..รวมถึงเรื่องราวเศร้าโศกด้วย เหตุนี้เขาจึงกลายเป็นคนคิดมากไปบ้าง มากเกินไปจนทำให้เครียด ปวดหัวและหงุดหงิดจนคนภายนอกมองว่าเขามันพวกเข้าใจยาก เดาอารมณ์ไม่ถูกและไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่---ซึ่งนั่นก็ค่อนข้างจริงเลยล่ะ เพราะเขาเป็นพวกมองออกยาก มองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากความเกรี้ยวกราดบนใบหน้า น้อยคนนักที่จะเข้าใจเขา
แต่เอาเถอะ...เขาไม่ได้แคร์ทุกคนบนโลกสักหน่อย จะต่อว่ายังไงก็ช่างหัวมันสิ
➠ Come in
คนอย่างไคล์ถ้าได้รู้จักหรือเป็นคนใกล้ชิดเขาจริงๆก็จะกลายเป็นคนที่โชคดีอยู่นะ เพราะไคล์จะลดเกราะกับความร้ายกาจของตัวเองลงเวลาอยู่กับคนใกล้ชิด คนสนิท ไม่ได้หมายความว่าเขาจะกลายเป็นคนยิ้มง่ายไปเลย เพียงแต่จะดูน่ารักมากขึ้นเหมือนกับลูกแมวตัวโตๆที่พูดน้อยแต่ขี้อ้อนขี้เอาอกเอาใจน่ะนะ นั่นหมายความว่าเขากำลังสบายใจที่ได้อยู่กับคนคนนั้น ปลอดภัยและอยากจะปกป้องไปในเวลาเดียวกัน หากแต่เพราะภาพลักษณ์ของเขามันเถื่อน(?)จนไม่น่าคบหาน้อยคนนักจึงจะได้รับโอกาสนี้ไป
ประวัติส่วนตัว :
} เด็กหนุ่มตัวเล็กงอแงที่หลงทาง
ครอบครัวของไคล์ทำงานเกี่ยวกับธุระกิจ พ่อของเขาเป็นชาวอเมริกันส่วนแม่เป็นคนไทย พ่อของเขาทำงานเกี่ยวกับบริษัทค้าขายแบรนด์ของเล่นเด็กชื่อดัง ส่วนแม่เป็นนักดนตรีไทย ทั้งคู่พบรักและแต่งงานกันก่อนจะย้ายไปอยู่ในอเมริกา นานพักใหญ่จนกระทั่งให้กำเนิดบุตรชายคนแรก พวกเขาเลี้ยงดูและพล่ามสอนอย่างดีถึงจะมีกดดันบ้างแต่เด็กคนนั้นก็เติบโตมาได้อย่างสมบูรณ์ไม่มีเรื่องบาดหมางอะไรเลวร้ายนัก
ไคล์ ไอเมลด้า เด็กหนุ่มที่มีผลการเรียนดีจนได้เป็นตัวแทนนักเรียนแลกเปลี่ยนกับประเทศไทย
ครานั้นเด็กหนุ่มที่ถูกเลี้ยงดูดั่งคุณหนูหวาดหวั่นต่อโลกภายนอกอย่างมาก แต่สุดท้ายก็ยังถูกคะยั้นคะยอให้ไปดู และแล้วไคล์ในวัยเพียงสิบสองปีก็ต้องขึ้นเครื่องมาที่ประเทศไทย
ตอนนั้นไม่รู้เพราะอะไรเขาถึงได้เป็นคนที่ผอมแห้ว ตัวเล็กและไม่มีกล้ามเนื้อดั่งชายชาตรีเอาซะเลย
ท้ายที่สุดก็หลงทางจนได้ เด็กหนุ่มกระบนกระวาย เดินลากกระเป๋าหาที่พักอยู่นานโข เดินจนเมื่อยและเหนื่อยล้า กระทั่งท้อแท้แล้วมานั่งร้องไห้งอแงเป็นเด็กๆอยู่ริมระพานแห่งหนึ่ง
เขาพูดภาษาไทยไม่แข็ง ไม่รู้จักใครแถมโทรศัพท์ก็ดันแบตหมด พรุ่งนี้เขาคงไปโรงเรียนไม่ได้แล้วล่ะมั้ง....
} วันนั้นเป็นวันที่เขาได้พบเธอ
“นี่นายน่ะ” ฉับพลันเสียงใสเสียงหนึ่งดังขึ้น เรียกร้องความสนใจจากเด็กหนุ่มให้หันไปมอง ดวงตาสีน้ำเงินเข้มชะงักค้างเมื่อภายในสายตาพบเห็นเด็กสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง เธอเท้าสะเอวแล้วเดินเข้ามาหาเขาช้าๆ
“ชาวต่างชาติเหรอ?” เด็กสาวเอ่ยถาม คงเพราะเห็นว่าสีตาของเขาเป็นสีน้ำเงิน
เด็กหนุ่มพยักหน้า และหวังว่าเธอคงจะพูดภาษาอังกฤษได้บ้างเพราะเป็นเขาเองที่แย่พอจะพูดภาษาไทยไม่แข็ง ที่เก่งก็ดันไปเป็นภาษาอื่นเสียนี่
“คุณ...เอ่อ ทำไมถึงได้มาอยู่แถวๆนี้ล่ะครับ?”
“คงต้องถามนายมากกว่ามั้งว่าทำไมถึงมานั่งร้องไห้อยู่ตรงนี้” เด็กสาวกอดอกหลังจากตอบกลับไปเป็นภาษาอังกฤษ โชคดีที่เธอล้ำเรียนมาบ้างจึงพอจะตอบโต้กลับไปได้ ดีจริงๆที่พ่ออุตส่าห์บังคับให้เรียนน่ะ...
“ผมหลงทาง” ไคล์ตอบกลับแล้วก้มหน้า อับอายเหลือเกินที่ต้องพูดแบบนี้ออกไปทั้งๆที่ตัวเองเป็นเด็กผู้ชาย ทว่าไม่นานนักเขาก็ได้ยินเสียงเด็กสาวคนเดิมหัวเราะ
“จะเครียดอะไรขนาดนั้นล่ะ ฉันก็เคยหลงทางเหมือนกันนั่นแหละ แต่ตอนนี้ฉันแค่มาเดินเล่นนิดหน่อย มีอะไรให้ช่วยไหมล่ะ?” บนใบหน้าของเธอฉาบไปด้วยรอยยิ้ม...รอยยิ้มที่ทำเอาเขาหวั่นไหวไปกับความน่ารักสดใสดั่งเจ้าหญิงในเทพนิยายนั่น
และในวันนั้นก็เป็นวันที่เขาได้รับความช่วยเหลือจากเด็กสาวหน้าตาน่ารักคนนั้น ตอนที่เขาไปถึงที่พักเขาเหลือบมองไปยังแผ่นหลังเล็กๆที่เดินจากไปจนลับสายตาก่อนจะเพิ่งตระหนักได้ว่า
ยังไม่รู้จักชื่อของเธอเลยแฮะ
} เด็กหนุ่มที่ขี้ขลาด
เช้าวันใหม่ที่ไคล์เริ่มต้นไปโรงเรียนในเมืองไทย มีเพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งถูกส่งตัวมารับเพื่อนำทางไปโรงเรียน และแล้ว...การไปโรงเรียนวันแรกของเขามันก็ทำให้เขาได้พบเจอกับเธออีกครั้ง
ทว่าน่าขำนักที่เวลานั้นไคล์ไม่ค่อยกล้าคุยกับใครสักเท่าไหร่ ด้วยความที่ภาษาไม่เเข็งนักจึงทำได้แค่แอบมอง และแอบมองเท่านั้น มองดูเด็กสาวคนนั้นอยู่ห่างๆ รับรู้ถึงความชอบอะไร ไม่ชอบอะไรของหล่อนแล้วซึมซับมาเอง เพราะเขาเป็นคนความจำดีอยู่แล้ว เรื่องแบบนี้มันเลยติดหัวไปโดยปริยาย
ไคล์ได้รู้แล้วว่าเธอชื่อพลอย---แต่ก็น่าขำอีกนั่นแหละที่เขายังไม่กล้าพอจะเข้าไปคุยเลย ทำให้เป็นเขาคนเดียวที่รู้เรื่องของเธอ
ทว่าเธอไม่รู้เรื่องของเขา ไม่รู้แม้แต่ชื่อด้วยซ้ำ และอีกไม่นานเธอก็คงลืมเรื่องที่เราเจอกันไปแล้วด้วยก็ได้
สองวัน สามวัน สี่วันผ่านไป กระทั่งถึงเวลาที่เขาจะต้องกลับอเมริกา ไคล์ที่ไม่รู้จะทำยังไงได้ทิ้งพวงกุญแจรูปหมีอันเล็กไว้ให้เธอบนโต๊ะเรียน หวังว่าเธอจะมาเจอในตอนเช้าและไม่เอาไปทิ้งซะก่อน
ตัวเขาที่ขี้ขลาดในวันนั้นทำได้เพียงแค่นั้นแหละ...
} กลับไปอีกครั้งเพื่อพบกับเธอ
หลังจากกลับมายังอเมริกาแล้ว ไคล์ก็เรียนจนจบชั้นเกรดสิบสอง(ม.6) ผลการเรียนของเขานับว่าน่าชื่นชมทีเดียว เขามีน้องชายตอนที่กลับมาใหม่ๆพอดี และเขาก็เข้ากับน้องชายได้ดีเสียด้วย ทว่าพอวันเวลาผ่านไปแม่ก็เริ่มอยากกลับไปหาครอบครัวบ้าง ครั้งนั้นจึงตัดสินใจถามว่าไคล์ต้องการเรียนต่อที่ไหน บุพการีของเขาจะไม่บังคับ ขอเพียงตั้งใจเรียนเข้าไว้ก็พอแล้ว
ไคล์ที่ศึกษาด้านภาษาและวิชาการมามากจนกระทั่งมั่นใจในตัวเอง (ถึงจะมีเรื่องบ่อยๆจนทำให้นิสัยเปลี่ยนไปเป็นคนก้าวร้าวบ้างก็เถอะ) เขาตัดสินใจตอบไปว่าเมืองไทย---นั่นเพราะนึกถึงเด็กสาวคนนั้น ยังคงจำเธอได้เสมอ ในวันนั้นเขาอาจตัวเล็กผอมแห้งแต่ในวันนี้กลัวสูงใหญ่สมดังชายชาติอเมริกัน
อีกอย่าง...เขาพูดภาษาไทยได้คล่องแล้วด้วย
หากแต่เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอีกฝ่ายจะจำเขาได้รึเปล่า
} กาแฟแก้วนั้น
ซ่า!!
“กรี๊ด!! ยัยพลอย! ทำไมซุ่มซ่ามแบบนี้!” เสียงหวีดร้องเสียงแหลมสูงของผู้หญิงคนหนึ่งดังก้องร้าน เรียกความสนใจจากผู้คนได้ดี
...รวมทั้งเขาก็ด้วย ไคล์หันไปมองตามเสียงก่อนจะพบกับหญิงสาวสองสามคนที่นั่งร่วมโต๊ะกันอยู่ หนึ่งในนั้นก็เป็นหญิงสาวที่เขาคุ้นหน้าคุ้นตา แม้เวลาจะผ่านไปนานสักเท่าไหร่ แต่ทั้งโครงหน้า น้ำเสียงและท่าทีแบบนั้นเขาก็ยังจำได้
จำได้ดีเลยล่ะว่าคือเธอ หากแต่...แค่เขาตัดสินใจเดินเข้าไปที่โต๊ะนั้น สายตาแห่งความหลงใหลก็ถูกมองเข้ามา
เออ...ให้ตายสิ เดินเข้ามาโต้งๆแบบนี้ทำไมวะเนี่ย ยิ่งถูกมองก็กลายเป็นว่าเขายิ่งรู้สึกเขินอายอยู่ลึกๆ---แค่กับเธอคนนั้นเท่านั้นแหละนะ...
“คุยกันเงียบๆหน่อยได้มั้ย น่ารำคาญชิบ...” ปากก็พาลพูดออกไปแบบนั้น
โอเค เธอคงประทับใจหรอกที่มีรุ่นพี่หน้าตาดีเข้ามาหาติดที่ว่าปากหมาสุดๆ
...พูดแล้วก็เดินจากไป ไม่ได้หันหลังไปมองอีก แค่ก่นด่าตัวเองในใจก็อนาจพอแล้ว ไอ้ปากเจ้ากรรมเอ๊ย...
} ชีวิตในเมืองไทยอีกครั้ง
เพราะเป็นชาวต่างชาติแม้จะพูดภาษาไทยได้แต่ชีวิตของไคล์ก็ไม่ได้ราบลื่นขนาดนั้น เขาค่อนข้างลำบากทีเดียวกับเรื่องการเดินทาง การใช้ชีวิตและวัฒนธรรมที่ไม่ค่อยคุ้นเคย เมืองอากาศร้อนๆต่างจากที่อเมริกาทำให้เขาปรับตัวแทบไม่ทัน
แต่เขาก็แค่ต้องพยายามเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ถึงจะเหนื่อยแต่ก็มีดีเหมือนกันนั่นแหละนะ
เขาใช้ชีวิตอยู่ในคอนโดแห่งหนึ่ง เลี้ยงแมวเอาไว้หนึ่งตัว แม่ของเขาอยู่กับญาติๆในต่างจังหวัดและเจ้าตัวก็กลับไปอเมริกาหลังจากเยี่ยมญาติๆเสร็จ จึงเหลือตัวเขาคนเดียวในเมืองไทย พ่อของเขาส่งเงินมาให้ แล้วเขาก็คุยกับครอบครัวบ่อยๆ รายงานถึงสารทุกข์สุกดิบกันไป
ว่าไปนั่น การเรียนยังไม่ลำบากเท่าต้องเดินขึ้นบันไดตอนลิฟท์เสียเลย ไอ้เวร--
เพิ่มเติมหรือหมายเหตุ
หนังสือเล่มโปรด :
➭ หนังสือชุด Trylle Trilogy (มีทั้งหมด3เล่มจบ)
※ ผู้เขียน ; Amanda Hocking (อแมนดา ฮ็อกคิง)
※ เนื้อหาโดยสังเขป ; ชีวิตอาจแตกดับ หัวใจอาจสลาย หากปกป้องคนที่รักไว้ไม่ได้ ทุกสิ่งที่เธอยอมสละย่อมไร้ความหมาย สงครามครั้งใหญ่กำลังใกล้เข้ามา ทุกเรื่องราวกำลังก้าวไปสู่จุดจบ เว็นดี...กำลังจะสูญเสียราชินีและแม่แท้ๆ ของตัวเองไป ท่ามกลางไฟสงครามที่กำลังปะทุด้วยน้ำมือพ่อของเธอเอง
※ หมายเหตุ ; แม้จะดำเนินเนื้อเรื่องด้วยตัวละครผู้หญิงคนหนึ่ง แต่เขากลับชอบมันด้วยเพราะเหตุผลที่ว่าเป็นการผจญภัย ฝ่าฟันปัญหาต่างๆที่เกี่ยวกับพวกคนมีพลังจิต เรื่องราวของราชวงศ์ สงคราม ความรักที่ต้องแยกห่าง การแบ่งฝ่ายต่างๆนาๆที่สนุกดีเหมือนกัน ถึงแม้ว่าหน้าตาเขาจะดูไม่เหมือนกับคนที่จะมีความรักได้ก็เถอะ แต่เอาเข้าจริงๆ...ตัวเขากลับรู้สึกเพลิดเพลินและสนุกไปกับวรรณกรรมเรื่องนี้เหลือเกิน
※ เพิ่มเติมเกี่ยวกับหนังสือ ; X X X
เพศ : ชาย
ความสนใจทางเพศ : หญิง
หมายเหตุ :
- น้องชายของเขาชื่อ เคน ไอเมลด้า ปัจจุบันอายุ7ขวบอยู่ที่อเมริกา
- ไคล์ถนัดมือซ้าย
- ทำอาหารและขนมเก่งจนไม่เข้ากับหนังหน้าเลยล่ะ...
- อยากตอบแทนชพลอยมากแต่เพราะสันดา---นิสัยเป็นคนพูดจาไม่ดี ไม่น่ารัก ทำตัวไม่น่าคบเลยไม่อยากเข้าหาเธอสักเท่าไหร่ เกรงว่าจะทำอีกฝ่ายกลัวไม่ก็เกลียดหน้ากันมากกว่าเดิม แต่ถ้าเจอต่อหน้า---ปากมันก็ว่าร้ายไปเองอยู่ดี เอาเป็นว่าถ้าเธอร้องไห้ค่อยถือโอหาสเข้าหาแล้วขอโทษแล้วกัน
- เรื่องคู่จริงไม่ซีนะคะ ยังไงก็ได้หมด555555
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น