ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Strange Tales Of Panorama Island

    ลำดับตอนที่ #250 : わっしょい Shuffle : HYSTERIA

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ย. 67


    HYSTERIA
    Playlist: SixTONES – Hysteria



    “มีแค่ฉันลำพัง รู้สึกหดหู่เหลือเกิน
    ฉันเอาแต่ร้องเรียกชื่อของเธอ



    “ดวงตาคู่นั้นทำให้ฉันแทบคลั่ง
    เธอย้อมโลกของฉันให้เป็นสีชมพู

    .

    เคียวโมโตะ คาเอระ นึกทึ่งใจที่ตัวเองยังสามารถฝืนปั้นหน้าแสร้งทำเป็นหัวเราะเฮฮากับคนอื่นอยู่ได้ นับตั้งแต่วินาทีที่เพื่อนในกลุ่มอย่างโอนิชิ ฟูกะ พามัตสึมูระ ฟูวะ หญิงสาวนอกกลุ่มตัวเล็ก น่ารัก ท่าทางร่าเริงสดใสเหมือนกับเด็กน้อย ที่ดูอย่างไรก็แตกต่างลิบโลกจากหญิงสาวตัวสูงหน้าตาสะสวยแบบผู้ใหญ่ทั้งสองคนในกลุ่มชายหญิงที่มีกันทั้งหมดหกคน มาแนะนำให้ทุกคนรู้จักที่ร้านอาหารแถวมหาวิทยาลัยอันเป็นแหล่งซ่องสุมประจำของพวกเขาในฐานะ ‘แฟนสาว’

    เพราะนั่นคือตำแหน่งที่คาเอระเฝ้าฝันมาตลอดครึ่งปีที่ได้รู้จักกับฟูกะจากการเป็นเพื่อนร่วมคณะภาษาอังกฤษ ทั้งรอยยิ้มและความเป็นมิตรที่เขามอบให้นับแต่แรกเริ่มคือสิ่งที่ทำให้คาเอระตกหลุมรักผู้ชายที่ไม่มีอะไรตรงสเปคเลยคนนี้หมดทั้งใจ เหมือนกับที่คาเอระก็คิดเพียงว่าขอแค่ได้อยู่ใกล้ๆ ก็เพียงพอแล้ว ถึงฟูกะจะไม่เคยแสดงออกว่าชอบเธอมากกว่าเพื่อน...แต่เขาก็ไม่เคยแสดงออกว่าชอบใครมากกว่าเพื่อนเหมือนกัน เพราะอย่างนั้นคาเอระถึงได้ไม่เคยคาดคิดถึงเรื่องราวของวันนี้ที่ไม่มีแม้แต่สัญญาณเตือนล่วงหน้าให้ได้ตระเตรียมใจ เหมือนอย่างพยากรณ์อากาศที่บอกว่าสัปดาห์นี้พายุจะเข้าและทำให้มีฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์

    และเมื่อคู่รักที่มีชื่อคล้ายคลึงกันขอแยกตัวกลับไปก่อนเพราะ “ฟูวะต้องไปทำงานพิเศษ” ด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยเหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดาจากฟูกะ ทั้งที่เรื่องอย่างนั้นไม่เคยธรรมดาในสารบบชีวิตของลูกเศรษฐีอย่างพวกเขา คาเอระก็ต้องพยายามข่มกลั้นความรู้สึกต่อหน้าเพื่อนคนอื่นที่เหลือต่อไปโดยไม่แสดงพิรุธออกมา ไม่ว่ายังไงความลับก็จะต้องเป็นความลับ เพราะถ้าพวกเขาเกิดรู้ขึ้นมา สุดท้ายก็จะต้องมีคนปากโป้งเอาไปบอกเจ้าตัว แล้วฟูกะก็ต้องเลือกที่จะตีตัวออกหากเพราะไม่อยากทำให้เธอต้องเสียใจ และการไม่ได้เป็นอะไรกับเขาอีกเลยแม้แต่เพื่อนก็ไม่ใช่สิ่งที่คาเอระต้องการ ต่อให้ต้องเจ็บปวดเธอก็แน่ใจว่าอดทนไหว ในเมื่อการแสดงที่ทำอยู่ตอนนี้ก็ยอดเยี่ยมเสียจนน่าจะมอบตุ๊กตาทองให้

     

    ถึงจะบอกว่าเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน เกาะกลุ่มกันในคลาสเรียน หรือไปไหนมาไหนด้วยกันหลังเลิกเรียนและวันหยุดสุดสัปดาห์เป็นกลุ่มเล็กบ้างใหญ่บ้างเสมอ แต่ก็มีแค่ฟูกะคนเดียวเท่านั้นที่คาเอระเรียกได้อย่างเต็มปากว่าเป็น เพื่อนสนิท

    เพราะเธอรังเกียจความมักง่ายของฟุคาดะ เบื่อหน่ายความไม่รู้จักคิดของมายูมิ และเกลียดความหน้ามืดตามัวของฮิโนฮะ เหมือนกับที่พวกเขาก็คงเหลือรับกับความถือดีของเธอ กระนั้นความสัมพันธ์ที่จอมปลอมไร้ซึ่งความจริงใจต่อกันตลอดมาก็ยังดำเนินต่อไปได้โดยมีจุดศูนย์กลางคือชีวิตที่ร่ำรวยของพวกเขาเอง

    หรือที่คาเอระคิดว่าอาจจะเป็นของเพื่อนในกลุ่มอีกคนอย่างนาสุ ยูโตะต่างหาก

    เพราะเขาคือลูกชายของนายกรัฐมนตรีที่ร่ำรวยที่สุด หัวดีที่สุด หน้าตาดีที่สุด และเป็นเจ้าของเพนต์เฮาส์ราคาแพงที่สุดในมินาโตะซึ่งสามารถมองเห็นวิวของโตเกียวทาวเวอร์และอ่าวโตเกียวได้ชัดเจนประหนึ่งว่าแค่เอื้อมมือออกไปก็ไขว่คว้ามาได้ หรือก็คือแหล่งซ่องสุมนานๆ ทีเมื่อมีโอกาสอีกแห่งหนึ่ง ที่ทุกคนกำลังมานั่งทำรายงานกลุ่มวิชาเอกด้วยกันในตอนเย็นวันศุกร์ มากกว่าคือการกินดื่มสนทนาและเปิดเพลงเสียงดังแบบไม่เกรงใจใครของเพื่อนทั้งสามที่เธอไม่เคยนึกชอบใจได้ลง คิดอยากจะทำอะไรก็ทำ คิดอยากจะกลับก็กลับกันไปง่ายๆ ทิ้งภาระทั้งหมดไว้กับเธอ ฟูกะ และนาสุ อันที่จริงมันก็เหมือนกับที่เป็นมาโดยตลอด เว้นก็แต่หนนี้ที่คาเอระทนเก็บปากเก็บคำเอาไว้ไม่อยู่อีกต่อไป หลังจากลุกไปหยิบรีโมตมาปิดเพลงร็อคที่หนวกหูเป็นบ้าแล้วกลับมากระแทกตัวลงนั่งหน้าโต๊ะเตี้ยบนพื้นพรม เหมือนกับที่ก็กระแทกเสียงบ่นด้วยความหงุดหงิดว่า

    “ทำไมสามคนนั้นถึงได้ชอบเอาเปรียบพวกเราอยู่เรื่อยเลย เห็นนาสุฉลาดเข้าหน่อย เห็นฟูกะไม่เคยว่าอะไร ก็เลยคิดว่าจะทำอะไรก็ได้งั้นสิ! บ้านช่องตัวเองก็ไม่ใช่ ไม่เคยเกรงใจเจ้าของห้องเลยด้วยซ้ำ น่าเบื่อน่ารำคาญ!”

    “น่าๆ คาเอระ” ฟูกะที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะเอื้อมมือมาตบแขนเธอเบาๆ ด้วยรอยยิ้มเอ็นดูอย่างไม่ถือสา “รายงานชิ้นนี้ก็ไม่ได้ยากอะไรสักหน่อย อีกนิดเดียวเดี๋ยวก็เสร็จ แค่เราสามคนก็ทำได้สบายอยู่แล้ว”

    “ไหมล่ะ! ฟูกะเคยว่าอะไรซะที่ไหน!”

    เรียกเสียงหัวเราะขบขันจากเจ้าตัวเมื่อเอ่ยว่า “ก็ทุกคนเป็นเพื่อนกันนี่นา” ให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าของคาเอระกระตุกไหวไปเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะกลับไปแสร้งทำเป็นง่วนกับหน้าจอแล็ปท็อปที่ค้างไว้ต่อ

    เพราะเธอก็เป็นได้แค่นั้นสำหรับเขา เป็นได้แค่เพื่อนคนหนึ่งที่อาจมีความหมายมากมายสำหรับฟูกะ แต่คนเดียวที่มีความหมายมากมายที่สุดก็คือคนรักของเขา ทั้งที่คาเอระพยายามลืมเลือนหล่อนไปแล้วเพราะช่วงเวลาที่ได้ใช้ร่วมกัน หากเธอก็น่าจะรู้ดีว่าจินตนาการนั้นย่อมคงอยู่เพียงชั่วครั้งชั่วคราว และอีกไม่ช้าเธอก็จะต้องกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงที่แสนเจ็บปวด

    นั่นคือตอนที่โทรศัพท์มือถือของเขาสั่นครืดคราดอยู่บนโต๊ะ และชื่อที่คาเอระได้ยินชัดเจนเต็มสองรูหูก่อนฟูกะจะขอตัวลุกออกไปคุยที่ระเบียงข้างนอกด้วยใบหน้าที่อาบไปด้วยรอยยิ้มก็คือ “ฟูวะ”

    เพราะอย่างนั้นในตอนที่ฟูกะกลับเข้ามาในห้องพร้อมส่งสีหน้าขอโทษขอโพย โดยไม่จำเป็นต้องพูดอะไร คาเอระก็จะตะโกนบอกเขาด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้นว่า “ที่เหลือฉันกับนาสุทำต่อได้สบายมาก! ฟูกะไปหาฟูวะจังเถอะ!”

    “แต่ว่า...”

    “เหลืออีกนิดเดียวเดี๋ยวก็เสร็จแล้วเหมือนอย่างที่ฟูกะว่านั่นแหละ!”

    “งั้นให้ฉันอยู่ช่วยต่อจนเสร็จ...”

    “ไปเถอะน่า! เสียงฟ้าร้องขนาดนี้ เดี๋ยวฝนตกแล้วจะเดินทางลำบากเปล่าๆ นะ”

    โชคดีที่นาสุจะเงยหน้าขึ้นจากหนังสือ แล้วช่วยเสริมรับคำพูดของเธอก่อนฟูกะจะทันได้เปิดปากแย้งอีกหนว่า “อืม นายไปเถอะ”

    “งั้นก็ขอบคุณมากนะ! แล้ววันจันทร์จะเลี้ยงข้าวทั้งสองคนเป็นการไถ่โทษ!”

    คาเอระยังคงหัวเราะไล่หลังตามฟูกะที่เธอไล่กลับไปจนได้ในที่สุด และเมื่อทั่วทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง รอยยิ้มสดใสจนถึงเมื่อครู่ก็จางหายไปจากใบหน้า แบบนี้แหละดีแล้ว คาเอระคิด เพราะอย่างน้อยๆ เธอก็จะได้ไม่ต้องมาทนฝืนนั่งปั้นหน้า ทั้งที่ข้างในใจกำลังทุกข์ตรมเพราะหัวใจของเขาไม่ได้อยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้วไม่ใช่หรือไง

    ชายหญิงทั้งสองที่เหลืออยู่ตอนนี้ไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรกันอีก ไม่ใช่แค่เพราะต่างยุ่งกับการตั้งหน้าตั้งตาทำรายงาน แต่เป็นเพราะต่างก็ไม่ใช่คนช่างพูดช่างจา — ยิ่งโดยเฉพาะระหว่างกันด้วยอีก — และคนกลางตลอดมาก็คือฟูกะที่สนิทกับเธอ หรือไม่ก็ฟุคาดะที่สนิทกับเขาและเป็นคู่ลับฝีปากชั้นยอดให้เธอมากกว่า

    คาเอระที่มัวแต่ก้มๆ เงยๆ พิมพ์งานอย่างขะมักเขม้นไม่ทันได้เห็นว่าคนที่นั่งฝั่งตรงกันข้ามกับเธอลุกไปไหนหรือตั้งแต่เมื่อไหร่ มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่กระป๋องเบียร์เย็นเฉียบจนมองเห็นไอน้ำเกาะพราวถูกวางลงบนโต๊ะ คาเอระยังไม่ทันได้แหงนเงยขึ้นไปมองหรือพูดขอบคุณเลยด้วยซ้ำ เมื่อปุบปับ คนที่นั่งบนโซฟาด้านหลังก็จะโอบวงแขนแข็งแกร่งทั้งสองข้างรอบลำคอของเธอ ลมหายใจอุ่นที่เมื่อรดรินข้างใบหูของเธอก็เปลี่ยนกลายเป็นร้อนจัด ยิ่งเมื่อน้ำเสียงที่สั่นพร่าของเขาเอ่ยขึ้นชวนให้เกิดความรู้สึกสั่นไหวข้างในอกได้อย่างน่าประหลาด แวบหนึ่งที่คาเอระคิดว่าเธอจะหลอมละลายเหมือนขี้ผึ้งได้เลยหรือเปล่านะ

    “รักฉันนะคาเอระ”

    ด้วยชื่อต้นของเธอที่ไม่เคยออกมาจากปากของเพื่อนคนนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

    “น...นาสุ”

    “แค่คืนนี้ก็ได้ ช่วยรักฉันนะ แล้วฉันจะรักคาเอระให้มากพอจนทำให้เธอลืมฟูกะ นะ

    คาเอระไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเขาดูออกได้ยังไง เมื่อเธอมั่นใจว่าไม่เคยแสดงพิรุธใดๆ ออกมา แต่บางทีอาจเป็นเพราะสายฝนที่ทำให้คนเราอ่อนไหว เหมือนกับความรู้สึกที่อ่อนไหวเมื่อได้อยู่ใกล้กับผู้ชายอีกคนมากขนาดนี้...คนที่คาเอระไม่เคยรับรู้ดูออกมาก่อนว่าเขารักเธอตั้งมากขนาดนั้น

    สายฝนบดบังแสงไฟสีส้มเหลืองของโตเกียวทาวเวอร์ในยามค่ำคืนซึ่งเธอรักที่จะมองดูให้กลายเป็นความพร่ามัว หากจินตนาการที่แจ่มชัดทุกอย่างก็สามารถเป็นจริงได้เมื่อคาเอระหลับตาลง แหงนเงยใบหน้าที่ถูกรั้งไปด้านหลังเพื่อรับรู้ถึงริมฝีปากที่กดแนบลงมาในทีแรกก่อนควานไขว่เข้ามาเพื่อถ่ายทอดความรักที่มากขนาดนั้น ความรักที่คาเอระโหยหาจากใครอีกคน แต่ก็ยินยอมพร้อมรับความปรารถนาจากใครอีกคนในค่ำคืนนี้...ให้มากกว่านั้นจนหัวสมองของเธอมัวพร่า

     

     

    เคียวโมโตะ คาเอระ เข้ามาอยู่ในความคิดจิตใจของนาสุ ยูโตะ นับตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาได้จดประสานกับดวงตาแข็งกร้าวไร้ความรู้สึกของเธอไม่ว่ากับใคร และมันจะโอนอ่อนลงไปทุกครั้งยามได้ทอดมองดูเพื่อนสนิทอีกคนในกลุ่มอย่างฟูกะ มนุษย์คนเดียวบนโลกที่หญิงสาวผู้เย่อหยิ่งเย็นชามอบความจริงใจให้โดยไร้ซึ่งความเสแสร้งอย่างที่ปฏิบัติต่อพวกเขา แม้ว่านั่นจะไม่ได้หมายถึงเขามากเท่ากับริวเซย์ ทาเคยูกิ และลูอิสที่เธอเกลียดชังนักหนาทั้งที่ต่างก็เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน

    หรืออันที่จริงตัวเขาเองก็อาจเสแสร้งไม่ได้ต่าง เขาเกลียดการมีปฏิสัมพันธ์ ไม่เคยคิดว่าอยากมีเพื่อนสนิทหรือกลุ่มก้อนกับใครถ้าต้องเจอแต่การหวังผลประโยชน์เหมือนที่แล้วๆ มาจนกลายเป็นด้านชา หากนาสุกลับยอมปล่อยให้ริวเซย์ที่มีเจตนาตรงตามนั้นแทบทุกประการพาไป เพียงเพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับผู้หญิงคนแรกในชีวิตที่เขารู้สึกว่าสนใจ ถึงความสนใจของเธอจะไม่เคยเป็นเขาที่เหินห่างกันมากที่สุดในกลุ่มเลยก็ตาม

    การต้องมองดูเคียวโมโตะกับฟูกะเป็นเรื่องที่รบกวนจิตใจของนาสุได้ทุกครั้ง หรือแม้แต่การที่เธอคอยแสดงความเหยียดหยันต่อทั้งริวเซย์หรือทาเคยูกิ ขณะที่เขาแทบไม่เคยได้รับอะไรคืนกลับมา แต่จะว่าอะไรได้ในเมื่อเขาก็ไม่เคยให้อะไรเธอเหมือนกัน

    นาสุที่ฉลาดในทุกเรื่องไม่จำเป็นต้องคิดคำนวณก็รู้ว่าความเป็นไปได้คือเท่ากับศูนย์ เคียวโมโตะ คาเอระมีตาไว้มอง...มีหัวใจไว้รัก...แต่โอนิชิ ฟูกะ เพื่อนคนเดียวในกลุ่มที่จริงใจกับเขามากขนาดที่แค่นึกอยากเกลียดก็ทำใจให้เกลียดไม่ลง และการลงเล่นในสนามที่มองไม่เห็นหนทางชนะก็ไม่ใช่วิธีของเขา ถ้ารู้ว่าสุดท้ายแล้วจะไม่มีหวัง นาสุคงไม่พาตัวเองเข้ามาอยู่ในจุดที่ต้องเจ็บใจ...มากกว่าคือความเจ็บปวดใจ...ตั้งแต่แรกแบบนี้

    หากทุกครั้งที่นาสุได้สบประสานสายตากับเธอ แม้อาจแค่เพียงเสี้ยววินาทีเดียว หรือต่อให้อย่างไร้ความหมายใดๆ นาสุก็จะได้เข้าใจถึงความหมายอย่างมากมายที่เคียวโมโตะมีต่อเขา จากผีเสื้อที่กระพืออยู่ในท้อง จากความต้องการสัมผัส ครอบครอง ได้ร้องเรียกชื่อที่ไพเราะที่สุดในโลก ไม่ใช่แค่ในความฝันหรือความเป็นจริงที่เขาได้หมกมุ่นดำดิ่งเพื่อปลดปล่อยอยู่ในโลกของตัวเองที่มีเธอ

    นาสุไม่เคยคิดว่าการได้เห็นความเสแสร้งทั้งที่เธอก็เป็นมาตลอดจะทำให้หัวใจของเขาทรมานได้มากขนาดนี้ เขาไม่ได้นึกยินดีที่ฟูกะจะมีคนรักเผื่อว่าตัวเองจะมีหวังกับใครอีกคน เพราะเคียวโมโตะที่ปั้นหน้าหัวเราะดีใจไปกับฟูกะโดยที่ดวงตาหม่นแสงลงไปราวกับดวงดาวที่ดับลงทั้งที่มันเคยเป็นประกายเจิดจ้าที่สุดในดวงตาของเขาก็คือคำตอบ




    “เปิดไฟเขียวให้ฉันที
    อย่าจากไปไหน เพราะเธอทำให้ฉันแทบบ้า”



    “ฉันมองไม่เห็นไฟเหลืองเลย
    อย่าหยุดนะ เพราะเธอทำให้ฉันเป็นบ้า

    2023年08月24日
    _______________
     โลกรู้ว่ากูรักเพลงฮิสทีเรียมาก ตั้งแต่เห็นเซ็ตลิสต์วัชโช่ยเดือนก่อนแล้วนาสุเต้นกูก็กรี๊ดมาก ขนาดตอนนั้นกูไม่รักเค้าแล้วยังอยากดูชิบหายจนจะตายได้เลย ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีวันที่ได้ดูผ่านไลฟ์สตรีม และไม่คิดไม่ฝันว่ามันจะออกมา อห (โอ้โห) ใช่กับใจกู (อุกิ)นาสุนี่เกินคำว่ากรุบกริบไปมากจริง ไม่เคยผิดหวัง ขอบพระคุณค่ะ T/|\T เห้ออ ยังไงกูก็รักนาสุเวลาอยู่บนสเตจเพราะหล่อมากจริง (ที่จริงต้องขอบคุณข่าวชูครีมโง่ๆ นั่นด้วยนะ เพราะถ้าไม่มีกูก็จะไม่กลับมาหานาสุเลย 55555) ที่ขำคือกูหวีดนาสุก่อน พอมึงเห็นโมโตดากะต่อก็ 55555 เพราะงั้นควิซคลับคู่นี้จึงได้คัมแบคอีกครั้งแล้วจ้าพี่ ไฟไม่ดับแล้ว ร้อนกว่าเดิมอีก ฟู่ววว >_< / เลือกฟูกะเพราะโอ้โห หล่อมาก หล่อชิบหาย ตอนร้องคำว่าฮิสเตอริอานั่นคือกรี๊ดทั้งฮอลล์ อากาศโตเกียวมันเป็นอย่างนี้นี่เอง งงมาก ตอนแรกยังดูธรรมดา เทียบเพื่อนในวงไม่ได้เลย ผ่านมาปีเดียวเองมั้งเปลี่ยนไปจ๊น สีม่วงคันไซนี่มันสุดยอดจริงๆ ว่ะ (รุคุก็โหวว โชเน็นนินจาอีก ค่ายนี้ตาถึงจริงๆ กูยอม) ทีแรกลังเลจะเป็นซาคุมะเพราะเค้าถลกเสื้อละมึงชอบ เอ้ย ไม่ใช่ (ใช่) แต่ไม่ไหวว่ะ น้องจากแอมบิเชียสโดนใจกูมาก คนที่นั่งเก้าอี้แล้วแหวกคอเสื้อน่ะ 55555 ก็เลยสักเรื่องแล้วกัน ถึงยังไงก็เป็นแค่ตัวประกอบแหละ จะได้เป็นบ่าวคันไซสอง คันโตสองโตยบ่ะ และก็เอ้า! เมื่อวานม.เคย์โอ(ของพี่โชและนาสุ)ได้แชมป์เบสบอลในรอบหนึ่งร้อยเจ็ดปีใช่ไหมนะ และน้องทาเคะเกิดวันนี้พอดี (วันเดียวกับพี่เซย์ยะของมึงและหลังไทโชของกู!) ก็เลยเยี่ยวจองเปิดตัววันนี้วันแรกไปเลยแล้วกัน มาแล้วสินะวงรุ่นน้อง 55555 (คำว่าหยุดอยู่แค่นี้เพราะที่เหลือก็รุ่นลูกแล้วไม่มีอยู่จริง)
     ที่บังเอิญคือกูไปนั่งอ่านคำแปลเพลง ละโอ้โห มาครบทุกสี! บลู กรีน เยลโลว์ เรด พิงค์ แบล็ก! แต่เพราะไม่มีม่วงกูเลยปุ๊บปั๊บรับสีชมพูให้เอง (จะได้เหมือนไทกะ ฮ่าๆๆ) แต่เสียดายตรงพอมาเอามาแปลแล้วไม่สามารถคงคำว่าบลูไว้เหมือนเดิมได้ U_U จะบอกว่ารู้สึกฟ้า คราม น้ำทะเล อะไรก็บ่ได้ไหม (ฟูกะสีม่วง ส่วนน้องทาเคะสีแดงเว้ย! กูไปนั่งดูรูปรวมวงละเป็นเซนเตอร์เลยว่ะ แต่สูงแค่ร้อยหกหกเอง ท่าจะมาสายฮาด้วย แต่วงนี้มันก็สายฮายกวงอยู่ละ ตามบุรตามกำ)
     แน่นอนว่ากูแต่งไปได้เยอะแล้วตามธรรมเนียมที่ว่างานยุ่งเท่าไหร่หัวจะแล่นเท่านั้น ซิ่งเหมือนเรือยนต์เลยไหมล่ะอีเหี้ย! ถ้าเอาแบบที่ยังไม่ได้เกลาลงมีให้อ่านเป็นสิบเรื่องละ แต่รอกูเกลาดีๆ ดีกว่า เห้ออ ไม่ชอบตรงเกลานานกว่าแต่งนี่แหละ คงอีกนานหน่อยนะเพราะงานกูเยอะจนถึงเดือนหน้าเลย เฬวมาก U_U แต่ก็จะเปิดมาอวด (เมาท์) ว่ากูมีฟิคใหม่จริงนะ เมื่อวานก็ได้มาอีกเรื่องเพราะเอ็มวีใหม่เซ็กซี่โซน โว้ยยย! / แต่อย่างที่รู้ว่าฟิคในเซ็ตไนท์ไลฟ์มันตึงซ้ำๆ เพราะกูจะแต่งบทคนรวย โลเคชั่นสวยๆ หรูๆ และเพราะมันคือสตอรี่ที่แต่งเพื่อปูไปลงทางนั้นหมดอยู่ดี อ่านแล้วเดี๋ยวก็ด่ากูว่าแนวเดิมอีกแล้วเหรอวะ! แต่ไม่สนไม่แคร์ กูเชิด ฮึ! เพราะนี่แหละคือแนวที่กูรักที่สุด! เข้ามือที่สุด! ฉิวกว่านี้ไม่มีอีกแล้วโว้ย! / ว่าไปกูยังไม่ได้แต่งไทโชลงเซ็ตนี้สักทีเลยเนอะ ยังไม่เจอเพลงโดนๆ พล็อตดีๆ เพราะบชนยังไม่มีเพลงไนท์ไลฟ์เลยมั้ง คัฟเวอร์เพลงแนวนี้ก็ไม่ใช่ที่กูเปิงใจเท่าไหร่ (มาสคาร่าเหรอ ฮ่าๆๆ) วัชโช่ยก็ดันไปร้องไลอ้อนฮาร์ทแก๊งคณาจารย์ปิดงานโรงเรียนอีก หรือไม่บางทีกูอาจต้องรออันอันคู่แบบนาสุริวก่อน เป็นกำลังใจให้ด้วย

    2023年10月14日
    _______________
     ที่จริงพาร์ทนาสุมันต้องมีต่อให้กูแต่งฉากเอโร่ยเหอะ แต่พอเหตุการณ์ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ เค้ากลับมาเป็นปกติ กูก็กลับมาเป็นปกติ ไฟที่มีอยู่ตอนนี้เลยดับวูบ พัดวาบ เหมือนจุดเทียนกลางสายฝน แต่ใครจะรู้ว่าวันหนึ่งกูอาจกลับมาต่อ! (ไม่มีหรอกวันนั้น) แต่เป็นเรื่องที่แต่งแล้วฉิวมากเพราะโลกรู้ว่านี่แหละคือแนวกู! ไนท์ไลฟ์ คนรวย (แต่ชีวิตจริงจ๊นจน) คืออะไรที่เข้ามือกูสุดแล้ว อยากแต่งแนวนี้อีกร้อยเรื่องแต่คิดไม่ออก ถึงช้ำก็ไม่ซ้ำละกันโว้ยย >_< ละเอาจริงกูชอบเรื่องนี้มากด้วยนะ ถามว่าขนาดไหน ก็ขนาดกูแต่งในมือถือแล้วเปิดมาอ่านมาแก้เป็นสิบรอบ พอเอาลงคอมฯก็แทบไม่ต้องเกลาอะไรเลย ซึ่งปกติกูต้องเกลาเป็นชาติกว่าจะอ่านได้ ขนาดนั้นแหละ U_U ชอบบทชายหญิงทุกคนในเรื่องนี้ทั้งแก๊งหมดเลย แต่ผู้ชายทุกคนในเรื่องนี้กูเฉยๆ หมดแล้ว (โอ๊ยย ซอรี่(นอทซอรี่)เมนโมโตดากะด้วยจ้าา) ฟูกะก็หล่อแหละแต่ไม่ไทป์ วงนั้นใจกูอยู่แต่กับสีเหลือง ละเผอิญเห็นรูปมายูมิผ่านตาก็เห้ออ เด็กน้อยจังวะ (แต่เห้ย เหมือนน้องเค้าจะสนิทกับไทโชหลังวัชโช่ยนี่แหละ...มั้ง ถ้ากูจำไม่ผิด) แต่สเตจเพลงนี้ในวัชโช่ยก็ยังดีจริงไม่จกตา แส้บนัวอยู่ (ไม่ all หรอกแต่ไม่พูดละกัน)
     ขอพื้นที่เล่าหน่อยว่าที่จริงกูเคยมีเมนสองนะ เพราะปกติวงหนึ่งกูต้องชอบสองคนเอาไว้สลับๆ กัน เหมือนวงที่ผ่านๆ มาทั้งหมด รู้ป่ะว่ากูเคยชอบอิสเสมากมายแบบชิบหาย ชอบเมนคู่สูสีแบบสมัย W Kaito เลย แค่เพราะแต่งฟิคให้ไม่เยอะเลยดูเหมือนกูชอบไม่มากสินะ แต่ที่จริงกูชอบเค้ามากเลยเว้ยมึงจนมาเจอข่าวนั้นแหละ orz แล้วหลังจากนั้นกูก็เฉยๆ ไปเลย จิตใจด้านชา ถึงจะยังชอบหน้ามากเหมือนเดิมแต่ความรู้สึกก็ไม่เหมือนเดิม นาสุกูก็ชอบหน้ามาก แต่ก็เออๆ นั่นแหละ เลยเหรอ เอ๋กรุ๊ปก็มีไว้แค่ชอบหน้าแต่ไฟไม่สปาร์ค นานิวะก็อยู่ยั้งยืนยงพราะไทโชมิจิเอดะเป็นเพื่อนสนิทกัน ละมึงก็รู้ว่าปกติกูตามวงไหนก็จะตามเป็นบ้าเป็นบออยู่วงเดียว พอในวงมันเป็นเงี้ยก็เลยเออ เงี้ย ฟูจิอิเพราะเป็นเพื่อนเมนมึงก็ไม่เอานะ ไม่พูด
     ขณะที่มึงบอกว่าแต่งฟิคไม่ออกเลย ตัดมากูมีที่แต่งไว้เยอะมาก เอามาลงได้ไม่ใช่เศษฟิคด้วยเอ้า! ไม่ตอแหล ไม่จกตา แต่ไม่มีอย่างเดียวคือเวลานี่แหละ เห้อออ ดาวเคลื่อนแล้วบอกกูด้วยนะเพื่อน งานกูหนักจริงๆ ว่ะช่วงนี้ / ละอีกสี่วันอันอันอุกิไทจะออก มาภาวนาให้กูหน่อยเร้วหลังจากยมแล้วยมอีกกับแมกฯนับพันล้านเล่ม / ปล. โอ๊ยมึงไม่รู้ได้ไงเนี่ยย! คันจิตัวเดียวกับไคอ่านว่ามิ เพราะมาจากคำว่าอุมิไงวะ!
    SNAP
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×