คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : ( OS ) THE SEVENTH ROOM
มนุษย์บางประเภทก็ชอบควบคุม
มีความสุขกับการเห็นทุกอย่างอยู่ใต้ฝ่าเท้า เกลียดคนหัวรั้น
และพึงพอใจเป็นพิเศษกับพวกว่านอนสอนง่าย
แต่โอเซฮุนเป็นมากกว่านั้น
แค่ว่าง่ายไม่พอสำหรับเขา
ชายหนุ่มโปรดปรานคำว่า ‘เชื่อง’ มากกว่า
“เจอตัวเอซแล้วครับท่าน”
ประโยคบอกเล่าจากร่างสูงใหญ่ที่สวมอาภรณ์สีดำสนิทจุดรอยยิ้มบนเรียวปากคนฟัง
สองเท้าใต้รองเท้าหนังก้าวเดินเข้าสู่คฤหาสน์หรูหรายามวิกาล
ความเงียบสนิทราวกับไร้สิ่งมีชีวิตใด ณ ที่แห่งนี้ขับให้เสียงทุ้มต่ำดังก้อง
“เจอแถวไหน”
“ตีนเขาครับ พวกผมลากคอมันกลับมาแล้ว ท่านอยากให้จัดการแบบไหนครับ”
“รู้อยู่แล้ว ริว”
ผู้เป็นนายหัวเราะในลำคอ
“นายรู้ว่าต้องจัดการยังไง”
คำตอบผ่านน้ำเสียงนิ่งสงบชวนให้หนาวยะเยือก
หัวใจคนฟังเต้นถี่เมื่อความหวาดหวั่นแผ่ซ่านทุกอณูความรู้สึก
มั่นใจเหลือแสนว่าทุกชีวิตที่นี่ต่างเกรงกลัวชายหนุ่มตรงหน้า
รวมถึง...เขา...เช่นกัน
เขา...ที่ใครต่างรู้ว่าใกล้ชิดกับนายท่านมากที่สุด
“เด็กดี มานี่สิ”
ร่างสูงน่าเกรงขามหยุดยืนหน้าบันไดหินอ่อน ใบหน้าหล่อเหลาผินมองพร้อมยื่นมือมาหา
เด็กหนุ่มตัวเล็กที่เงียบงันเหมือนไม่มีตัวตนมาตลอดค่อยๆ ขยับก้าวอย่างว่าง่าย
ก่อนร่างทั้งร่างจะสั่นระริกยามแว่วเสียงโหยหวนน่าขนลุกลอยมา
แน่นอน เขาจำได้ดี
มันเป็นเสียงของเอซ อดีตคนสนิทนายท่านที่วางแผนทำเรื่องสกปรกกับเขา
ก่อนจะหนีหัวซุกหัวซุนออกจากคฤหาสน์ไปเมื่อคืนก่อน
หลังจากเขาสู้มันด้วยแจกันราคาหลายพันดอลล่าร์ในห้องนอน
“ฉันไม่ได้กลับหลายวัน เป็นยังไงบ้าง”
“สบายดีครับ”
“งั้นหรือ”
ขนอ่อนลุกชันทันทีที่ท่อนแขนแกร่งโอบรอบบ่า
ไม่ว่าจะถูกแตะต้องสักกี่ครั้งก็ไม่เคยทำใจเป็นปกติได้เลย
เท้าสองคู่ก้าวผ่านบันได จนถึงทางแยกซ้ายขวา
และเช่นเคย...ร่างน้อยถูกพาไปยังฝั่งซ้ายมือผ่านความมืดสนิท
ใช่ ที่นี่ไม่มีความสว่างไสว
มีแค่แสงสลัวจากโคมไฟสีนวลประปรายเท่านั้น
“อยากตอบใหม่รึเปล่า”
“.........”
“สบายดี...อย่างนั้นหรือ” ร่างสูงหัวเราะแผ่ว
“ฉันไม่ชอบคำตอบนี้สักเท่าไหร่นะ”
“.........”
“ว่ายังไง ลู่หาน”
ปัง!
“ผม...ค...คิดถึงท่าน...ครับ”
“ดีมาก เด็กดี ฉันเชื่อเธอ”
ปัง!
ปัง!! ปัง!!
ลู่หานสะดุ้งสุดตัว เสียงทุบประตูดังจากแทบทุกห้องที่เดินผ่าน
บ้างก็ปะปนมากับเสียงหวีดร้อง เคล้าคลอเสียงโหยหวน
หรือบางห้องก็ส่งเสียงเรียกนายท่านด้วยน้ำเสียงเย้ายวน แต่โอเซฮุนหาได้สนใจมัน
ชายหนุ่มแค่กดริมฝีปากแนบขมับคนข้างกายเบาๆ ก่อนหยุดหน้าห้องริมสุดที่ลู่หานคุ้นเคย
ป้ายหน้าประตูทำจากไม้อย่างดี สลักเป็นตัวเลข 7 สีทองสวยงาม
แกร๊ก
อากาศหนาวยะเยือกหลังบานประตูกระทบผิวกาย โอเซฮุนเปิดสวิตซ์โคมไฟเล็กๆ
พอให้เห็นบรรยากาศภายในห้องเลือนราง
ภาพตรงหน้าจุดยิ้มไร้ความหมายบนใบหน้าหล่อเหลาได้อีกครั้ง
หมอนสองใบตกบนพื้น เศษแจกันแตกกระจัดกระจาย
เลือดสีเข้มเปรอะพื้นแห้งกรัง และเด็กหนุ่มเจ้าของใบหน้างดงามที่หยุดยืนตรงหน้า
“เมื่อคืนริวพาไปนอนที่ไหน”
“ฝั่งซ้ายครับ ผมขอเขาทำความสะอาดที่นี่แล้ว แต่...”
“ริวทำถูกแล้ว มันไม่ใช่หน้าที่ของเธอ”
มือหนาไล้แก้มเนียนเชื่องช้า ดื่มด่ำความงดงามผ่านดวงตาอย่างหลงใหล
และเซฮุนโปรดปรานนัยน์ตาเว้าวอนของลู่หานตอนนี้ยิ่งนัก
“อีกอย่าง ฉันอยากรู้ว่ามันทิ้งผลงานอะไรเอาไว้บ้าง”
“นายท่าน...”
“เธอบอกริวไว้ว่ายังไง...มันไม่ได้แตะต้อง ไม่ได้ทำอะไร...ใช่ไหม”
“...ครับ...”
“พูดความจริงรึเปล่า หืม...ที่รัก?”
“ผม...ผม...อ๊ะ!”
แคว่ก!!
ชายหนุ่มเป็นเจ้าของเสียงเรียบนิ่งกับใบหน้าหล่อเหลาเย็นชา แต่แท้จริงกลับว่องไวและซุกซ่อนเพลิงร้อนไว้อย่างแนบเนียนเหลือเกิน
เพียงเสี้ยววินาทีหลังเอ่ยคำถามเขาก็กระชากเสื้อเชิ้ตสีขาวของลู่หานออก กระดุมกระจัดกระจายบนพื้น
พร้อมกับแผ่นหลังบางกระแทกเตียงสี่เสาอย่างแรง
“อึก!”
“โกหกเหรอลู่หาน”
“ผ...อึก...ผม...”
ศีรษะแหงนเงย ดิ้นรนกระสับกระส่ายเมื่อฝ่ามือหนาทาบทับลำคอ
ออกแรงบีบเข้าหากันช้าๆ เซฮุนหนักมือมากขึ้น ดวงตาคมดังพญาราชสีห์แวววับดุดันหลังเห็นรอยแดงจ้ำตรงต้นคอขาว
“เลี้ยงไม่เชื่องแล้วหรือ”
“ม...ไม่...ฮึก...”
“ถามว่าไม่เชื่องใช่ไหม!!”
เสียงทุ้มตวาดลั่น ปล่อยมือออกให้ร่างบางกอบโกยลมหายใจจนตัวโยน
ลู่หานผวาลุกโอบกอดเอวสอบ ส่ายศีรษะแรงๆ ทั้งทำนบน้ำตาพังทลาย
“แค่...เท่าที่เห็นจริงๆ ครับ”
“.........”
“เพราะถ้าไม่ใช่นายท่าน...ผม...ยอมตาย...”
สายธารเย็นฉ่ำพยายามดับเปลวไฟร้อนเร่า แม้รู้ดีว่าถ้าเปรียบเทียบก็เป็นแค่น้ำหนึ่งขันโง่ๆ
ที่กำลังต่อสู้กับเพลิงลุกโหมก็ตามที
ลู่หานสะอื้นเมื่อมือใหญ่ผลักออกจากตัวจนล้มลงกับที่นอน แว่วเสียงลิ้นชักข้างหัวเตียงเปิดออก
ก่อนดวงตาจะถูกทาบทับด้วยผ้าสีดำจนมองไม่เห็นอะไรอีกต่อไป
“ฉันอยากรู้ ที่รัก”
“.........”
“ว่าเธอจะยอมตายจริงรึเปล่า”
- CUT -
.
.
ความคิดเห็น