ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    One Shot / Short Fiction | HUNHAN

    ลำดับตอนที่ #22 : ( OS ) THE SEVENTH ROOM

    • อัปเดตล่าสุด 25 เม.ย. 60


    THE SEVENTH ROOM






    มนุษย์บางประเภทก็ชอบควบคุม มีความสุขกับการเห็นทุกอย่างอยู่ใต้ฝ่าเท้า เกลียดคนหัวรั้น และพึงพอใจเป็นพิเศษกับพวกว่านอนสอนง่าย

     

     

    แต่โอเซฮุนเป็นมากกว่านั้น

     

     

    แค่ว่าง่ายไม่พอสำหรับเขา

     

     

    ชายหนุ่มโปรดปรานคำว่า เชื่อง มากกว่า

     

     

     

    “เจอตัวเอซแล้วครับท่าน”

     

     

     

    ประโยคบอกเล่าจากร่างสูงใหญ่ที่สวมอาภรณ์สีดำสนิทจุดรอยยิ้มบนเรียวปากคนฟัง สองเท้าใต้รองเท้าหนังก้าวเดินเข้าสู่คฤหาสน์หรูหรายามวิกาล ความเงียบสนิทราวกับไร้สิ่งมีชีวิตใด ณ ที่แห่งนี้ขับให้เสียงทุ้มต่ำดังก้อง

     

     

    “เจอแถวไหน”

     

     

    “ตีนเขาครับ พวกผมลากคอมันกลับมาแล้ว ท่านอยากให้จัดการแบบไหนครับ”

     

     

    “รู้อยู่แล้ว ริว”

     

     

    ผู้เป็นนายหัวเราะในลำคอ

     

     

    “นายรู้ว่าต้องจัดการยังไง”

     

     

    คำตอบผ่านน้ำเสียงนิ่งสงบชวนให้หนาวยะเยือก หัวใจคนฟังเต้นถี่เมื่อความหวาดหวั่นแผ่ซ่านทุกอณูความรู้สึก

     

     

    มั่นใจเหลือแสนว่าทุกชีวิตที่นี่ต่างเกรงกลัวชายหนุ่มตรงหน้า

     

     

    รวมถึง...เขา...เช่นกัน

     

     

    เขา...ที่ใครต่างรู้ว่าใกล้ชิดกับนายท่านมากที่สุด

     

     

    “เด็กดี มานี่สิ”

     

     

    ร่างสูงน่าเกรงขามหยุดยืนหน้าบันไดหินอ่อน ใบหน้าหล่อเหลาผินมองพร้อมยื่นมือมาหา เด็กหนุ่มตัวเล็กที่เงียบงันเหมือนไม่มีตัวตนมาตลอดค่อยๆ ขยับก้าวอย่างว่าง่าย

     

     

    ก่อนร่างทั้งร่างจะสั่นระริกยามแว่วเสียงโหยหวนน่าขนลุกลอยมา

     

     

    แน่นอน เขาจำได้ดี

     

     

    มันเป็นเสียงของเอซ อดีตคนสนิทนายท่านที่วางแผนทำเรื่องสกปรกกับเขา ก่อนจะหนีหัวซุกหัวซุนออกจากคฤหาสน์ไปเมื่อคืนก่อน หลังจากเขาสู้มันด้วยแจกันราคาหลายพันดอลล่าร์ในห้องนอน

     

     

    “ฉันไม่ได้กลับหลายวัน เป็นยังไงบ้าง”

     

     

    “สบายดีครับ”

     

     

    “งั้นหรือ”

     

     

    ขนอ่อนลุกชันทันทีที่ท่อนแขนแกร่งโอบรอบบ่า ไม่ว่าจะถูกแตะต้องสักกี่ครั้งก็ไม่เคยทำใจเป็นปกติได้เลย

     

     

    เท้าสองคู่ก้าวผ่านบันได จนถึงทางแยกซ้ายขวา และเช่นเคย...ร่างน้อยถูกพาไปยังฝั่งซ้ายมือผ่านความมืดสนิท

     

     

    ใช่ ที่นี่ไม่มีความสว่างไสว มีแค่แสงสลัวจากโคมไฟสีนวลประปรายเท่านั้น

     

     

    “อยากตอบใหม่รึเปล่า”

     

     

    “.........”

     

     

    “สบายดี...อย่างนั้นหรือ” ร่างสูงหัวเราะแผ่ว “ฉันไม่ชอบคำตอบนี้สักเท่าไหร่นะ”

     

     

    “.........”

     

     

    “ว่ายังไง ลู่หาน

     

     

     

    ปัง!

     

     

     

    “ผม...ค...คิดถึงท่าน...ครับ”

     

     

    “ดีมาก เด็กดี ฉันเชื่อเธอ”

     

     

     

    ปัง!

     

    ปัง!! ปัง!!

     

     

     

    ลู่หานสะดุ้งสุดตัว เสียงทุบประตูดังจากแทบทุกห้องที่เดินผ่าน บ้างก็ปะปนมากับเสียงหวีดร้อง เคล้าคลอเสียงโหยหวน หรือบางห้องก็ส่งเสียงเรียกนายท่านด้วยน้ำเสียงเย้ายวน แต่โอเซฮุนหาได้สนใจมัน ชายหนุ่มแค่กดริมฝีปากแนบขมับคนข้างกายเบาๆ ก่อนหยุดหน้าห้องริมสุดที่ลู่หานคุ้นเคย

     

     

    ป้ายหน้าประตูทำจากไม้อย่างดี สลักเป็นตัวเลข 7 สีทองสวยงาม

     

     

    แกร๊ก

     

     

    อากาศหนาวยะเยือกหลังบานประตูกระทบผิวกาย โอเซฮุนเปิดสวิตซ์โคมไฟเล็กๆ พอให้เห็นบรรยากาศภายในห้องเลือนราง

     

     

    ภาพตรงหน้าจุดยิ้มไร้ความหมายบนใบหน้าหล่อเหลาได้อีกครั้ง

     

     

    หมอนสองใบตกบนพื้น เศษแจกันแตกกระจัดกระจาย เลือดสีเข้มเปรอะพื้นแห้งกรัง และเด็กหนุ่มเจ้าของใบหน้างดงามที่หยุดยืนตรงหน้า

     

     

    “เมื่อคืนริวพาไปนอนที่ไหน”

     

     

    “ฝั่งซ้ายครับ ผมขอเขาทำความสะอาดที่นี่แล้ว แต่...”

     

     

    “ริวทำถูกแล้ว มันไม่ใช่หน้าที่ของเธอ”

     

     

    มือหนาไล้แก้มเนียนเชื่องช้า ดื่มด่ำความงดงามผ่านดวงตาอย่างหลงใหล และเซฮุนโปรดปรานนัยน์ตาเว้าวอนของลู่หานตอนนี้ยิ่งนัก

     

     

    “อีกอย่าง ฉันอยากรู้ว่ามันทิ้งผลงานอะไรเอาไว้บ้าง”

     

     

    “นายท่าน...”

     

     

    “เธอบอกริวไว้ว่ายังไง...มันไม่ได้แตะต้อง ไม่ได้ทำอะไร...ใช่ไหม”

     

     

    “...ครับ...”

     

     

    “พูดความจริงรึเปล่า หืม...ที่รัก?”

     

     

    “ผม...ผม...อ๊ะ!

     

     

    แคว่ก!!

     

     

    ชายหนุ่มเป็นเจ้าของเสียงเรียบนิ่งกับใบหน้าหล่อเหลาเย็นชา แต่แท้จริงกลับว่องไวและซุกซ่อนเพลิงร้อนไว้อย่างแนบเนียนเหลือเกิน เพียงเสี้ยววินาทีหลังเอ่ยคำถามเขาก็กระชากเสื้อเชิ้ตสีขาวของลู่หานออก กระดุมกระจัดกระจายบนพื้น พร้อมกับแผ่นหลังบางกระแทกเตียงสี่เสาอย่างแรง

     

     

    “อึก!

     

     

    “โกหกเหรอลู่หาน”

     

     

    “ผ...อึก...ผม...”

     

     

    ศีรษะแหงนเงย ดิ้นรนกระสับกระส่ายเมื่อฝ่ามือหนาทาบทับลำคอ ออกแรงบีบเข้าหากันช้าๆ เซฮุนหนักมือมากขึ้น ดวงตาคมดังพญาราชสีห์แวววับดุดันหลังเห็นรอยแดงจ้ำตรงต้นคอขาว

     

     

    “เลี้ยงไม่เชื่องแล้วหรือ”

     

     

    “ม...ไม่...ฮึก...”

     

     

    “ถามว่าไม่เชื่องใช่ไหม!!

     

     

    เสียงทุ้มตวาดลั่น ปล่อยมือออกให้ร่างบางกอบโกยลมหายใจจนตัวโยน ลู่หานผวาลุกโอบกอดเอวสอบ ส่ายศีรษะแรงๆ ทั้งทำนบน้ำตาพังทลาย

     

     

    “แค่...เท่าที่เห็นจริงๆ ครับ”

     

     

    “.........”

     

     

    “เพราะถ้าไม่ใช่นายท่าน...ผม...ยอมตาย...”

     

     

    สายธารเย็นฉ่ำพยายามดับเปลวไฟร้อนเร่า แม้รู้ดีว่าถ้าเปรียบเทียบก็เป็นแค่น้ำหนึ่งขันโง่ๆ ที่กำลังต่อสู้กับเพลิงลุกโหมก็ตามที

     

     

    ลู่หานสะอื้นเมื่อมือใหญ่ผลักออกจากตัวจนล้มลงกับที่นอน แว่วเสียงลิ้นชักข้างหัวเตียงเปิดออก ก่อนดวงตาจะถูกทาบทับด้วยผ้าสีดำจนมองไม่เห็นอะไรอีกต่อไป

     

     

    “ฉันอยากรู้ ที่รัก”

     

     

    “.........”

     

     

    “ว่าเธอจะยอมตายจริงรึเปล่า”

     

     



    - CUT -

    http://bit.ly/2jLqDYW }



    .

    .


    To be continued


    HERE -


    #seventhroomhh


    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×