ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SHinee JONGKEY INNOCENT XX รักร้ายคุณชายตัวเเสบ18+ part I

    ลำดับตอนที่ #22 : CHAPTER 18 INNOCENT ( Be My Girl )

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.พ. 55


    CHAPTER   18   INNOCENT   ( Be   My  Girl )

     

      คนที่ซื้อหุ้นจากบริษัทเราคือเขาสินะ ”    การประชุมที่ไม่ใช่แค่การประชุมธรรมดาทั่วๆไป 

    กลับเรียกเสียงฮือฮาจากคนทั้งห้องประชุมเสียส่วนใหญ่          โดยเฉพาะกับคิมจงฮยอน

     

     

     การปรากฏตัวของเชวมินโฮ  เล่นเอาชายหนุ่มตกใจในระดับหนึ่ง   มันกลับทำให้เขาตกใจ

    เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า  ทันทีที่ปาร์คยูซอนเปิดประเด็นหัวข้อหลักต่อที่ประชุม   โดยไม่ได้บอก

    กล่าวล่วงหน้า   

     

     

      ไม่ทราบว่าคุณมีหลักฐานอะไรมายืนยัน   ระวังนะเดี๋ยวจะโดนข้อหาปลอมแปลงเอกสาร ”

     คิมจงฮยอนจงใจแกล้งพูดพลางส่งเสียหัวเราะดังลั่น    เชวมินโฮกลับไม่รู้ร้อนรู้หนาวในข้อหา

    ที่ว่านั้นแม้แต่น้อย    ไม่มีใครรู้ว่าใบหน้าของเขากำลังยิ้ม   ยามที่สายตาเจาะจงไปยังศัตรู

    หมายเลขหนึ่งตัวฉกาจ  

     

     

      ถ้าคุณสงสัยมากขนาดนั้นก็ลองถามท่านผู้อาวุโสจางดูสิครับ     จะได้รู้กันไปเลยไงว่ามันจริง

    หรือไม่จริง  ถึงตอนนั้นคุณจะยังรับผิดชอบในสิ่งที่คุณพูดจาดูถูกไว้กับผมหรือเปล่า ”   เชวมินโฮ

    ยิ้มเหยียดดั่งคนที่ถือไพ่เหนือกว่า    พอนึกถึงเรื่องที่เขาจะต้องแต่งงานกับคีซุนในอีกสองวันนี้ 

    คิมจงฮยอนก็เอาชนะเขาไม่ได้อยู่ดี       

     

     

    “ เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นกับบริษัทของเราในตอนนี้ไม่ดีเท่าที่ควร    ผมได้ปรึกษาหารือกับท่าน

    ผู้อาวุโสทุกๆท่านว่า เราจำเป็นต้องขายหุ้นให้กับเขาด้วยเงินสองร้อยล้านวอน    เพื่อให้เขาได้มี

    ส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหานี้ด้วย   ดังนั้นเชวมินโฮจะต้องทำหน้าที่บริหารงานด้านการตลาด

    แทนคิมจงฮยอน..  สิ้นประโยค คิมจงฮยอนตกตะลึงไปกับสิ่งที่เขาได้ยินมัน  ลีโบยองจึงได้

    แต่ยกยิ้มตรงมุมปาก  พึงพอใจกับฉากเหตุการณ์อันน่าสนุก 

       

     

      เธอหวังว่าจะให้มีวันนี้มานานมากแล้วและตอนนี้เธอก็ได้เห็นมันด้วยตาของเธอเอง หาก

    คิมจงฮยอนยังอยู่ที่นี่  โอกาสก้าวหน้าก็แทบจะมีความเป็นได้ค่อนข้างสูง  เธอเลยใช้โอกาส

    นี้พูดเกลี่ยกล่อมสามี    ปลดจงฮยอนออกจากตำแหน่งไปเสีย        

     

     

     

    “ ก็ดีเหมือนกันนะคะ    ตอนนี้บริษัทของพวกเราก็ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก    ดังนั้นก็

    ควรที่จะมีการมอบหมายงานแก่บุคลากร  ที่มีความสามารถเฉพาะด้านมาทำงานให้กับเรา

    หากได้คนไร้ศักยภาพมาทำงาน  บริษัทดีๆก็พลอยตกต่ำไปด้วย ”   ลีโบยองเน้นถ้อยคำชัด

    เจน    แม้คนอื่นๆจะยังไม่รู้ว่าเธอพูดถึงใคร   แต่มีหรือที่จงฮยอนจะไม่รู้   เขาเลยปรายตา

    มองเธอด้วยความรังเกียจ   หน้าด้าน   ไม่รู้จักอาย  

     

     

     

      จากประวัติ  เขาเป็นคนที่เก่งเรื่องการตลาด แม้จะไม่มีสังกัด   แต่นักธุรกิจดังๆหลายราย

     ส่วนใหญ่ก็ได้เขาเป็นที่ปรึกษา    มันไม่ง่ายเลยนะครับเนี่ยที่เราจะเจอตัวเขา ”    

     

     

     

    “ ผมขอบคุณนะครับที่ทุกคนให้ความไว้วางใจผม     และผมต้องขอขอบคุณท่านผู้อาวุโส

    จางและท่านประธานปาร์คที่มอบโอกาสนี้ให้กับผมไว้ ณ ที่นี้   ขอบคุณจริงครับๆ  หลังจาก

    นี้   ผมไม่หวังหรอกว่าตัวเองจะได้บริหารในระดับสูงๆ  เพราะผมพอใจกับงานที่ผมทำ  และ

    มีความตั้งใจสูงกว่าคนอื่นๆ” เชวมินโฮกล่าวด้วยท่าทางเชื่อมั่น   ถึงเขาจะเรียนรู้เรื่องธุรกิจ

    จากพ่อของเขาตอนอยู่ในโกดังมามาก   แต่ก็ใช่ว่าเขาจะสามารถลงมือบริหารงานได้ดีเท่า

    กับคิมจงฮยอน  ซึ่งนั่นก็คือจุดอ่อนที่เขายังต้องปรับปรุง   

     

       

    “ แต่ยังไงดิฉันก็ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้คะ     ซอจูฮยอนปิดปากเงียบอยู่นาน จึงเปิดปากพูด 

    ทั้งจงฮยอนมินโฮ รวมไปถึงคนอื่นๆ  ต่างหันไปมองเธอเป็นสายตาเดียว       คิมจงฮยอนซึ่งนั่ง

    ข้างๆ  รู้ว่าเธอคงจะรู้สึกไม่ดีเขาเลยกุมมือหญิงสาว  ราวกับบอกว่าให้เธอใจเย็นลง    ซอจูฮยอน

    จึงรีบลดมือลงแล้วอธิบายต่อ    

     

     

     

     ทำไมจะต้องให้คนที่ไม่มีประสบการณ์ในการทำงานมาก่อน    มาทำงานด้วยคะ  ทั้งที่ควรจะ

    ให้คนที่มีประสบการณ์อย่าง ผ.อ คิมจงฮยอน  ผู้ที่ทำงานออกมาให้เราได้เห็นอยู่บ่อยๆ  มันไม่

    ยุติธรรมเลยถ้าคนดีๆ อย่าง ผ.   คิม  จะถูกปลดออกจากตำแหน่ง เพราะอะ ”    ซอจูฮยอนยัง

    พูดไม่ทันจบ   คิมจงฮยอนกลับลุกขึ้นยืนพูดแทรกเธอกลางคัน 

     

     

     

     

    “ เมื่อพวกคุณมีความเห็นที่จะไล่ผมออก   ผมก็คงจะไม่มีความคิดเห็นใดๆกับเรื่องนี้  ก่อนที่ผม

    จะไป  ผมขอยืนยันด้วยจรรยาบรรณของนักธุรกิจที่ดี   เรื่องที่ลูกค้าของบริษัทเราไม่ได้รับสินค้า

      ไม่ใช่เป็นเพราะผมทำงานพลาด    แต่นั่นเป็นเพราะมีคนบางคนจงใจจะครอบครองบริษัท  

    ด้วยวิธีสกปรกๆที่คนๆนั้นกำลังใช้มันกับผม  เหมือนอย่างตอนนี้     ทั้งบรรดาผู้บริหาระดับสูง

    และกลาง พากันมองหาตัวการ ณ ที่แห่งนี้  จวบจนเวลาผ่านไป แทบจะไม่มีใครยอมรับแม้แต่

    คนเดียว

     

     

     

    “ ผ.  คิมจงฮยอน  ถ้าคุณจะมาเรียกร้องสิทธิ์ในที่นี่     ก็เก็บของไปซะเถอะ   คำแก้ตัวของ

    คุณน่ะ ไม่เห็นจะฟังขึ้นเลยซักนิด     เพราะงั้นอย่ากล่าวโทษคนอื่น และการที่คุณเดาสุ่มสี่สุ่ม

    ห้า   คุณอาจคาดการณ์ว่าต้องเป็นคนนั้นคนนี้ ไปแบบผิดๆก็ได้นะ ”    

     

     

     

    “ คาดการณ์ไว้ผิดเหรอ  ฮ่าๆ  น่าขำชะมัด  ฉันกลายเป็นแพะรับไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน  ฮ่าๆ บ้าเอ๊ย!   

     

     

     

    “ คุณทำให้บริษัทเราตกอยู่ในสภาพนี้   ยังจะมีหน้ามาพูดแบบนี้อีก   ผมเองก็เห็นด้วยที่ท่าน

    ประธานจะปลดคุณ  ยิ่ง..   

     

     

     

    “ ไม่จำเป็นที่พวกคุณจะต้องสาธยายให้มันมากเรื่องนักหรอก   ผมไปแน่!!แต่ถ้าบริษัทต้องล้ม

    ละลายเมื่อไหร่อย่ามาเรียกหาผมก็แล้วกัน       ถึงตอนนี้เขาแทบเสียความรู้สึกไปมาก  และรับ

    ไม่ได้กับที่ต้องถูกปลดออกจากตำแหน่งกระทันหันเช่นนี้    คิมจงฮยอนจึงตัดสินใจจูงมือซอจูฮยอน

    ก้าวเท้าออกจากห้องประชุมโดยพลการ  

     

     

     

      ทำอะไรของเธอ!!!    จงฮยอนตวาดพร้อมกับปล่อยมือซอจูฮยอนทิ้งด้วยความโกรธ   หลังจาก

    ที่เขาพาเธอเดินลงมาทางบันไดหนีไฟ      

     

     

     

    “ พี่ไม่คิดจะทำอะไรเลยหรือ  ปล่อยให้คนพวกนั้นทำกับพี่แบบนี้ได้ยังไง !! แล้วเรื่องที่พี่พูดก่อนหน้า

    นั้นมันเรื่องจริงใช่มั้ย   คนที่คิดจะครอบครองบริษัท  เป็นเธองั้นสินะ  เธอทำแบบนั้นได้ยังไง..   

     

     

     

    …… 

     

     

     

    “ฮือๆ ถ้าพี่ยอมตกลงแต่งงานกับฉันก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นหรอก  ฉันผิดหวังในตัวพี่จริงๆ

    พี่จงฮยอน ฮือๆ  พี่มันขี้ขลาด  โง่เง่า  ไอ้คนสมองกลวง!!! ทำอะไรบ้างสิ ”   ใบหน้าของซอจูฮยอน

    เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา  เธอสบถคำพูดพลางระรัวกำปั้นทุบหน้าอกบนร่างสูงเต็มๆแรง  

    ทว่า  จงฮยอนแทบไม่มีปฏิกิริยาใดๆนอกจากยืนนิ่งราวกับรูปปั้น   ให้เธอได้ซุกหน้าเข้ากับแผงอก

    ของเขาอย่างว่าง่าย 

     

     

      ซอจูฮยอน…. ฉันอยากจะบอกกับเธอจริงๆว่าฉันรู้สึกเหนื่อย   แต่ฉันจะไม่ปล่อยให้บริษัทต้องตก

    ไปอยู่ในมือของคนชั่วหรอกนะ         ไม่รู้ว่าพ่อจะเชื่อฟังฉันรึเปล่า  ท่านเลือกที่จะเชื่อฟังผู้หญิงคน

    นั้นมากกว่าตัวฉันซะอีก    ทำอะไรฉันก็ไม่เคยได้ดี   แล้วทีนี้ฉันจะเชื่อใจใครได้อีกนอกจากคิมแทยอน

     ผู้หญิงที่เปรียบเสมือนกับแม่ของฉัน ”

     

     

     

    “ แม่เหรออย่างน้อยพี่ก็ยังเชื่อใจฉันได้นะ   ถึงพี่จะไม่รักฉันในแบบที่ควรจะเป็นก็เถอะ  แค่นี้ฉันก็

    รู้สึกดีใจมากแล้ว   ขอบใจนะที่พี่ยอมฟังฉันมากกว่าแต่ก่อน   

     

     

     

     

    “ เธอจะต้องเสียใจ  ถ้าเธอยังทำแบบนี้ ” 

     

     

     

    “ อย่าจริงจังนักสิ  ฉันแค่ล้อเล่นนิดเดียว ”  คำพูดนั้นเสียดแทงลงกลางหัวใจซอจูฮยอนเข้าอย่างจัง 

    เธอเงยหน้าขึ้นยิ้ม   เก็บซ่อนน้ำตาเอาไว้ ขณะเอื้อมมือตบหัวไหล่เขาไปสองสามที     พอหลังจากวัน

    ที่เขาพาเธอไปกินเนื้อย่างในวันนั้นแล้ว   เธอก็รู้เลยทันทีว่าคิมจงฮยอนไม่มีทางที่จะรักเธอได้จริงๆ      

    เพราะในใจเขาแทบจะไม่มีเธออยู่ในนั้นสักเศษเสี้ยวเดียว      และขณะที่เธอจะร่ำลาเขา  

     

     

     

    “ คุณหนู   คุณหนูครับ!!    เสียงเลขาคนสนิทดังอยู่ทางด้านบน   คิมจงฮยอนจึงรีบวิ่งขึ้นไปบน

    นั้นด้วยความรวดเร็ว   พบลีจองชินผู้วิ่งกระหืดกระหอบมาตามทางหน้าตาตื่นราวกับมีเรื่องบางอย่าง

    เกิดขึ้น    ชายหนุ่มยืนกอดอก  ทำเสียงจึกจักในลำคอจ้องอีกฝ่ายแทบตาถล่น เมื่อถูกจองชินเรียก

    แบบนั้น     

     

     

     

     

    “ คุณหนู!  โอ้ยเหนื่อย   

     

     

     

     

      ฉันบอกแล้วไงว่าที่บริษัทห้ามนายเรียกฉันว่าคุณหนูอีก!    

     

     

     

     

    “ ขอโทษครับ  วันเนี่ยนักข่าวมารอทำข่าวกันให้วุ่นอยู่หน้าบริษัทกันใหญ่เลยเอาไงดี ” 

     

     

     

     

    “ นักข่าวเหรอ แล้วไง ”    สายตาคมเหลือบมองลูกน้องของเขาอย่าสงบนิ่ง    จองชิน

    ขมวดคิ้วออกมาด้วยความไม่เข้าใจ  

     

     

     

     

    “ ก็เรื่องที่ว่านายถูกปลดออกจากตำแหน่งแล้วน่ะสิครับ ”  

     

     

     

     

     วู้วว์   ข่าวเร็วดีจังแฮะ ”      

     

     

     

     

    “ เรื่องทั้งหมดที่นายตั้งใจไว้ว่าจะปกป้องบริษัทนี้เอาไว้   นายจะให้เป็นแบบนี้จริงๆใช่มั้ยครับ     

     

     

     

    “ เปล่าซะหน่อยใครว่าละ  พักนี้สงสัยฉันคงต้องเล่นไปตามบท        

     

     

     

     

    “ นายไม่คิดถึงหัวอกผมบ้างเลยรึไง    แล้วที่นี่ผมจะทำยังไงดีละ  เจ้านายโดนปลดออกจากตำ

    แหน่ง  งั้นผมก็พลอยเป็นไปด้วยสินะ  นี่มันเรื่องอะไรกัน ”    

     

     

     

    “ จองชิน ยังไงฉันก็จะไม่ปล่อยลูกน้องที่ซื่อสัตย์อย่างแกไปเด็ดขาด   แกต้องอยู่เป็นลูกน้องของ

    ฉันไปตลอดชีวิตเข้าใจมั้ย  

     

     

     

     

    “ แน่นอน.. มันเป็นเรื่องที่ผมต้องทำอย่างนั้นอยู่แล้วในชีวิตนี้ ”

     

     

     

     

     

    “ แกคิดอย่างงี้ได้ก็ดี   ส่วนเรื่องนักข่าวปล่อยให้วุ่นวายไปหน้าบริษัทนั่นแหละ  ฉันจะแอบไปอย่างเงียบๆ  

    แกต้องช่วยฉันด้วยนะ”   

     

     

     

     

     

    “ แล้วนายจะไม่กลับไปที่บ้านหลังนั้นอีกแล้วใช่มั้ยครับ ” 

     

     

     

     

     

      ใช่!ยังไงฉันจะไม่กลับไปที่นั่น ”  

     

     

     

     

     

    “ เพราะเด็กผู้หญิงที่ชื่อคีย์ซุนสินะครับ “ 

     

     

     

     

     

    “ นั่นไม่ใช่เรื่องเรื่องของนาย ”    

     

     

     

     

     

    “ พักนี้ผมเห็นเธอใส่คอนเท็คเสนส์อยู่บ่อยๆตาเธอดูโตน่ารักมาก  ผมเธอยาวเร็วมากเลย  อ้อ!!

    หุ่นเธอก็ดูเจ้าเนื้อขึ้นมากด้วย นี่ไงครับรูปของเธอ ผมแอบถ่ายรูปเธอมาด้วย  ” จองชินกล่าวยื่น

    โทรศัพท์เข้าไปใกล้ๆ    ทันทีที่เขาเหลือบไปเห็นภาพเธอในโทรศัพท์     เพียงแค่เห็นใบหน้าด้าน

    ข้างยามที่เธอทำหน้าปกติ   เขาก็คิดถึงเธอจนหัวใจเต้นแรง ไม่อยากเชื่อเลยว่าเจ้าของดวงตา

    เรียวเล็กนั่น  จะดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคนได้อย่างง่ายดายนัก       เผลอคิดไปว่าผู้หญิงในรูป

    คือ…… คิมแทยอน    

      

     

     

    “ อีกสองวันเด็กนั่นน่ะจะแต่งงานแล้ว   พักนี้ดูเธอไม่มีความสุขเลยนะครับ  นายน่าจะไปแสดง

    ความยินดีกับเธอหน่อยนะ   เธอจะได้แต่งงานกับคนอื่นได้อย่างสบายใจ ” 

     

     

     

     “ ทำไมฉันจะต้องทำแบบนั้นด้วยเล่า!        

     

     

     

     

    “ เพราะมันเป็นเรื่องที่ลูกผู้ชายควรจะทำต่อผู้หญิงที่เขารัก ”

     

     

     

      ไม่มีทางซะหรอก     นี่..ขืนพูดอีกทีล่ะก็ ฉันแตะแกกระเด็นออกนอกโลกแน่  ไปนะไอ้โย่งโฟร์ดดี!! 

     จงฮยอนเอ่ยด้วยน้ำเสียงห้วนๆ ก่อนจะเดินหายเข้าไปในลิฟต์    ระหว่างที่จงฮยอนไปได้สักพัก

    จองชินก็เอาแต่ถอนหายใจออกมา   โดยที่เขาได้แต่หวังว่าเจ้านายไม่มีทางทำได้อย่างว่า    เป็นไป

    ไม่ได้หรอกที่นายของเขาจะยอมปล่อยเธอไปง่ายๆแบบนั้น

     

     

     

    “ หุ้นในบริษัท ซองวอนกรุ๊ป ถูกซื้อไปแล้วอย่างงั้นเหรอ ”

     

     

     

     

    “ ก็ใช่น่ะสิ  เห็นว่าพวกเขาเปลี่ยนทีมงานบริหารใหม่ด้วยนะ ”      ประโยคเมื่อครู่ ทำเอาฉันหูผึ่ง

    ขึ้นมาชั่วขณะ   หลังจากนั่งรอรถไฟเที่ยวเช้ากลับโซล       ฉันจึงเหลือบมองคุณลุงแก่ๆสองคน

    นั่งฟังเรื่องที่เขาคุยกันอย่างตั้งอกตั้งใจ      

     

     

     

    “ แหงล่ะก็หุ้นถูกซื้อไปแล้วนี่   คนที่ซื้อหุ้นไปมีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้ ” 

     

     

     

     

    “ แต่นี่มันข่าวใหญ่เลยนะ   เเล้วอย่างงี้พวกเราจะได้ดื่มไวน์ข้าวราคาถูกๆอีกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ”      

     

     

     

     

    “ ไม่รู้สิ  บางทีราคาไวน์อาจเเพงขึ้นก็ได้         ฉันพูดอะไรไม่ออก    ลุกจากที่นั่งวิ่งไปยัง

    ร้านขายของชำแถวๆนั้น   ควักเงินซื้อหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกัน  และแล้วฉันก็ต้องตกใจ

    กับภาพที่เห็น    

     

     

     เมื่อพบว่าบนหน้าหนังสือพิมพ์    พาดหัวข่าวตัวโตๆเอาไว้  ด้านข้างปรากฏรูปภาพลูกชาย

    ของท่านประธานปาร์คยูซอน  เด่นหราในหน้าหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น      

     

     

     

    บริษัทไวน์ข้าวชื่อดังถูกกว้านซื้อหุ้นด้วยเงินมากมายมหาศาสจากบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง  

    คาดว่าเป็นผลกระทบจากสินค้าขาดตลาดเมื่อสองเดือนที่แล้ว   ส่งผลให้คิมจงฮยอนถูกถอด

    ออกจากตำแหน่งผู้บริหารฝ่ายการตลาดอย่างจริงจัง    

      

     

     

    “ มัน…..เรื่องจริงงั้นหรือเนี่ย~   มือไม้ฉันสั่นไปหมดเพราะข่าวนั้น    จนกระทั่งหนังสือพิมพ์

    ที่ฉันถือมันอยู่ในมือ   ร่วงลงบนพื้นในที่สุด

     

     

     

       รถไฟมาถึงสถานีอับกูจงในตอนเที่ยง  คุณมินโฮยืนรอฉันบริเวณหน้าลานน้ำพุ  โบกมือทักทาย

    ก่อนจะวิ่งตรงดิ่งมาทางฉัน    เขาสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวธรรมดา  ผูกด้วยเน็คไทสีดำลายเรียบ  

    ทว่าใบหน้าเรียวยาวช่างเป็นผู้ที่มีดวงตาโดดเด่นอะไรเช่นนี้   จนฉันอดทึ่งไปกับรัศมีความเปล่ง

    ประกายนั้นไม่ได้  เย็นนี้แล้วสินะที่ฉันจะแต่งงานกับเขา  มิน่าเมื่อวานนี้เขาถึงได้ทำเสียงโมโหใส่

    ฉัน    

     

     

     

    “ มารอฉันนานรึยัง ”   

     

     

     

     

    “ สักพักแล้วล่ะ  เธอใส่คอนเท็คเลนส์ด้วยเหรอ  ใส่ซะจำไม่ได้เลย  ว่าแต่ว่าหิวข้าวรึยัง ” 

     

     

     

     

    “ ฉันไม่ค่อยหิวเท่าไหร่หรอก   นึกอยากกินมันต้มร้อนๆมากกว่า   ไม่รู้ว่าแถวนี้จะมีขายบ้าง

    รึเปล่านะ ” 

     

     

     

     

      มันจะมีขายได้ยังไง  มันยังไม่ถึงหน้าหนาวเลย ”      

     

     

     

     

    “ งั้นไปหาอะไรเผ็ดๆ  เปรี้ยวๆ ทานกันเถอะ  อย่างต็อกบกกีข้างทางเป็นไง     

     

     

     

     

    “ เอางั้นก็ได้ ”    ว่าแล้วเขาก็จูงมือฉันเดินขึ้นรถพาไปทานต็อกบกกีในตอนเที่ยง   

     

     

     

     

    “ ไหนบอกว่าไม่หิวไง    

     

     

     

     

    “ แฮะๆ  ก็มันอร่อยอะ  ป้าคะหนูขอเพิ่มอีกถ้วยค่ะ  หนูขอกิมจิเพิ่มด้วยเหมือนกันนะ ”    ฉันพัก

    เรื่องคุณนายโบยองเอาไว้ชั่วคราว    ตั้งหน้าตั้งตากินต็อกบกกีอย่างเอร็ดอร่อย   งัมๆๆ ^O^     

     

     

     

    “ ได้แล้วจ้ะ ”  คุณป้าตักต็อกบกกีในกะทะร้อนๆใส่แก้วกระดาษ ส่งให้ฉันผ่านหน้าเขา    คุณมินโฮถึง

    กับอึ้งไปนิดๆ พอเห็นฉันกินขนมต็อกเป็นรอบที่ห้า  

     

     

     

    “ ถ้าฉันกินแบบเธอฉันคงได้ท้องแตกตายก่อนแน่    แปลกดีนะเธอไม่ซีเรียสเรื่องน้ำหนักเธอเลยรึไง ”  

     

     

     

     

    “ ทำไมฉันจะต้องซีเรียส  คนเราเกิดมาครั้งเดียวต้องกินให้คุ้มสิถึงจะถูก  รู้มั้ยว่าพวกเพื่อนๆฉันน่ะ

    ขากินกันทั้งนั้นเลยนะ    ถ้าคุณมาอยู่ในกลุ่มฉันดูรับรองว่าน้ำหนักคุณ  ขึ้นเอาๆแน่คอยดูเหอะ ”   

     

     

     

     

      ไม่ล่ะเชิญเธออ้วนไปคนเดียวเหอะ   เราน่าจะรีบกลับไปเตรียมตัวนะ    

     

     

     

     

     คุณอยากจะแต่งงานกับฉันจริงๆเหรอ”

     

     

     

     

    “ ถามแปลกๆ  ก็ต้องอยากแต่งงานกับเธออยู่แล้ว ”

     

     

     

     

      งั้นเหรอ    ไม่มีทางที่อื่นที่พอจะทำให้ฉันไม่แต่งงานได้เลยรึไงนะ ”   ฉันพูดพึมพำกับตัวเองเบาๆ 

     

     

     

     

    “ เมื่อกี้..เธอว่าอะไร ”   

     

     

     

     

    “ อ๋อ เปล่าๆไม่มีอะไร~  ก็พูดไปเรื่อยไม่มีอะไรหรอก แฮะๆ  งึม งั่มๆ ” 

     

     

     

     

     เราสองคนก็รีบๆกินแล้วรีบไปกันเถอะ ”   

     

     

     

    “ อื้มมม..   -_-'' 

     

     

     

     

    ชุดฮันบกสีสวยถูกแขวนไว้หน้าตู้เสื้อผ้า   ขนาดของชุดได้ถูกตัดเย็บออกมาพอดีกับลำตัว  ขณะ

    ที่ฉันทิ้งตัวลงนั่ง มองชุดฮันบกจนไม่อยากนึกจะใส่มันในอีกสี่ชั่วโมงข้างหน้านี้     

     

     

      มัวทำอะไรอยู่ทำไมถึงไม่รีบไปแต่งตัว         

     

     

     

     

    “ ฉันจะไม่แต่งงานค่ะ ” 

     

     

     

     

      ว่าไงนะ   

     

     

     

    “ ยังไงฉันก็จะไม่แต่งงาน ” 

     

     

     

     

      เธอพูดเรื่องอะไร      

     

     

     

     

     ไหนคุณบอกว่าจะปลดเขาไปเป็นพนักงานธรรมดาๆในบริษัท    แต่คุณกลับเล่นงานจนเข้า

    โดนไล่ออก ทำไมถึงได้ใจร้าย  เลือดเย็นถึงเพียงนี้    น่าสงสารท่านประธานนะที่ไม่น่าหลงกล

    ผู้หญิงชั่วๆอย่างคุณเลย”  

     

     

     

     

      คนที่มีสิทธ์จะไล่เขาออกจากบริษัทได้คือพ่อของเขาต่างหาก   ไม่ใช่ฉัน     

     

     

     

     

    “ แต่คุณก็เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังความวุ่นวายเหล่านี้ไม่ใช่เหรอ   ทำไมคุณถึงทำกับฉันแบบนี้   

     ฉันรู้สึกว่าตัวเองโง่มากที่ยอมทำตามคำสั่งของคุณมาโดยตลอด     คุณทำให้ฉันนึกเกลียด

    ตัวเอง   และฉันก็ตัดสินใจแล้วว่าฉันจะไม่แต่งงานบ้านี่.. 

     

     

     

    “ เพียะ”    

     

     

     

     

    “ พูดพอรึยังนังเด็กเวร!        ฉันเงยหน้ากลอกตามองเธอด้วยความอาฆาต     ความโกรธที่แล่น

    เข้ามาเป็นริ้วๆ  ราวกับถูกเหล็กร้อนทาบไปทั้งลำตัว     

     

     

     

     

     สิ่งที่คุณต้องการคืออะไร….. เงินทอง….  เกียรติยศหรือชื่อเสียง   การที่คุณคิดจะแก้แค้น  คิดจะ

    เอาแต่ชนะ   มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาหรอก   มันจะมีประโยชน์อะไร  ถ้าหากว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ได้

    ช่วยให้คุณเป็นคนดีขึ้นมาดะ” 

     

     

    “ เพียะ ”   

     

       

     

    “ ตบแค่นี้มันยังน้อยไปหน่อย  ฉันน่าจะบีบคอเธอให้ตายเสียแต่ตอนนั้น   จะได้รู้ซะบ้างว่าอย่ามา

    ทำเป็นปากดีกับฉัน!!    ช่วยลืมเรื่องที่ฉันเคยพูดกับเธอซะอีกสิบห้านาทีจะมีรถมารับไปแต่งหน้า ”  

     

     

     

    ……   นังงบ้าเอ๊ยยย !!!   นังมารจอมทุเรศ 

     

     

     ‘ Grand Ambassador Seoul  Hotel ’

     

    เวลา  17.24

     

     

    “ ท่านคะข่าวที่ว่า ผ.   คิมจงฮยอนถูกปลดจากตำแหน่งเป็นความจริงใช่มั้ยคะท่าน ”    

     

     

     

    “ เป็นความจริงครับ   เพราะนั่นเป็นมาตราการขั้นเด็ดขาดของบริษัทเรา ”  

     

     

     

     

    “ แล้วท่านคิดไว้หรือยังคะว่าจะให้ใครมาดำรงตำแหน่ง” 

     

     

     

     

    “ ผมคงต้องปรึกษาหารือจากท่านผู้อาวุโสก่อน     ไม่แน่ไม่นอนว่าเป็นใครแต่คนที่จะมาทำ

    งานกับเรา    เป็นผู้ที่มีประสบการณ์การทำงานมากพอสมควร  ส่วนเรื่องการแต่งตั้งอย่าง

    เป็นทางการกับสื่อมวลชน   ไว้ผมจะจัดการชี้แจงอีกที ”    

     

     

     

    “ ไม่ทราบว่าท่านจะยังมอบงานให้กับผ.  คิม จงฮยอน ลูกชายของท่านอยู่หรือเปล่าคะ ”     

     

     

     

    “ ผมต้องขอเวลาคิดดูก่อน  ขอตัวครับ  คลิก ”  วีดีโอจากยูทูปสิ้นสุดที่สี่นาทีกว่า ฉันถอดสายหู

    ฟังแล้วเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า    เงยหน้ามองภาพฉันที่กำลังสวมชุดแต่งงานในกระจกเงา

    ระหว่างที่ช่างเติมลิปกรอสสีเชอร์รี่ลงบนริมฝีปากของฉัน

     

     

     

     ทันทีที่ฉันนั่งดูข่าวในยูทูปทางโทรศัพท์  ฉันก็รู้ทันทีว่าคงจะเป็นฝีมือเธอแน่นอน    ผู้หญิงที่ร้าย

    กาจยิ่งกว่าแม่มด  สามารถทำเรื่องยากๆให้เป็นเรื่องง่ายๆ    ไม่รู้ว่าปานนี้คุณจงฮยอนจะเป็นไงบ้าง 

    ฉันรู้สึกเป็นห่วงเขา   จริงๆนะ

     

     

     

    “ คุณเจ้าสาว ทำไมทำหน้าอย่างงั้นล่ะคะ    วันนี้เป็นวันที่คุณควรจะยิ้มออกมาอย่างมีความสุขสิ      

     ฉันเงยหน้ามองพี่ผู้หญิงผมยาวหน้าม้าและขณะที่ฉันกำลังจะยิ้มให้เธอ   ทันใดนั้นสายตาของฉัน

    เหลือบไปเห็นร่างสูงโปร่งเดินเข้ามาในชุดสูธสีดำ  พร้อมกับช่อดอกกุหลาบสีแดงและดอกลิลลี่ปะปน

    กันเป็นช่อเดียว ผูกด้วยริบบิ้นสีชมพูอ่อน  ในมือเขา

     

     

    “ บอกแล้วไงว่าฉันไม่อยากให้เธอแต่งงานกับคนที่ไม่ใช่ฉัน!!    ทั้งฉันและพี่สาว หันหลังไปมอง

    ทางเดียวกัน   ฉันเบิกตาโพลง  เพราะไม่คิดว่าเขาจะมางานแต่งงานของฉันกับคุณมินโฮในวันนี้     

     

     

     

     เธอควรจะเป็นผู้หญิงของฉันมากกว่าจะเป็นเขานะ !   

     

     

     

    “ คุณคือเจ้าบ่าวของวันนี้หรือคะ  เมื่อกี้ฉันเพิ่งจะ ”    พี่สาวกล่าว  พลางชี้นิ้วไปทางเขาอย่าง

    งงงวย   พอได้ยินเขาพูดแบบนั้นกับฉัน  เธอเริ่มมองคุณคิมจงฮยอนตั้งแต่หัวจรดเท้า พินิจ

    พิจารณาด้วยความสงสัย

     

     

     

     ส่วนสูงดูจะใกล้เคียง   นี่มันอะไรกันคะเนี่ย   เจ้าบ่าวมีสองคนหรือคะคุณเจ้าสาว!!  ฉันก้ม

    หน้าหลับตาปรี๋   ก่อนจะเงยหน้ามองคุณจงฮยอนซึ่งยืนกอดอกปิดปากเงียบ   และเวลาก็ช่าง

    ประจวบเหมาะดีเสียจริงๆ   โอ้ย..ฉันอยากจะบ้าตาย  TOT..  

     

     

     

    “ ใกล้จะได้เวลาแล้วนะคีซุน!   นายนายมาที่นี่ทำไม     O_O!!!!

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×