คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : ใบสมัครตัวละครเรื่อง LOSE - มิติกลับหัว
“พวกมันเป็นตัวจริงหรือแค่ภาพหลอนของผมกันแน่นะ”
ชื่อ-นามสกุล : จัสติน ซัลลิแวน / Justin Sullivan
ชื่อเล่น/ชื่อเรียก : จัสติน / Justin , บรูซ / Bruce
อายุ : 17
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 187 / 86
ลักษณะภายนอก : จัสตินมีผมและดวงตาสีทองเป็นประกายเงางาม ผมที่ถูกรวบไปข้างหลังทำให้เห็นดวงตาคมโฉบเฉี่ยวประดุจดวงตาของนักล่า ร่วมเข้ากับคิ้วเรียวที่ตวัดได้รูปและจมูกที่โด่งคมสันทำให้ยิ่งดูมีเสน่ห์ แต่จุดโฟกัสที่เด่นชัดที่สุดของเขาดูจะเป็นรอยแผลเป็นตรงตาซ้ายซึ่งดวงตาข้างนั้นไร้ซึ่งประกายตาไปเสียแล้ว ด้วยรูปร่างที่สูงโปร่งบวกกับร่างกายที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีจึงไม่ยากเลยที่เขาจะเป็นที่นิยม
ด้วยนิสัยที่เคร่งในกฏระเบียบเขาจึงมักจะแต่งตัวตามกฏของโรงเรียน หากแต่เป็นเวลาปกติเขาจะใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวทับด้วยเสื้อแจ็คเก็ตแขนยาวสีกากี คู่กับกางเกงขายาวสีกรมและร้องเท้าผ้าใบสีขาว
ความสามารถพิเศษ : ตาดีช่างสังเกต : เนื่องจากจัสตินเหลือดวงตาเพียงข้างเดียว เขาจึงมักจะพยายามสังเกตสิ่งรอบตัวให้มากที่สุด รู้ตัวอีกทีแม้แต่จุดแตกต่างเพียงน้อยนิดก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาเขาได้
การคิดเชิงตรรกะ : ทำให้สามารถวิเคราะห์เชื่อมโยงปัญหาต่างๆได้ง่าย
ด้านจิตวิทยา : ด้วยความฝันที่อยากเป็นนักสืบเขาจึงได้ศึกษาด้านจิตวิทยา เพื่อจะได้เข้าใจในพฤติกรรมของผู้ร้ายแล้วหาทางไขคดี
โป๊กเกอร์เฟซ : สามารถแสดงสีหน้าท่าทางที่ขัดกับความรู้สึกได้อย่างเป็นธรรมชาติ
การเจรจา : ด้วยการสั่งสอนจากครอบครัวบวกกับที่ฝึกฝนด้วยตนเองทำให้ทักษะการเจรจาของเขาเป็นเลิศ
รู้รอบด้าน : แม้อาจจะไม่ได้เชี่ยวชาญแต่ก็เรียกได้ว่าเขาเป็นคนที่มีความรู้ค่อนข้างกว้างขวาง
เทคนิคการปลดอาวุธด้วยมือเปล่า : แม้เขาจะไม่เก่งด้านการต่อสู้นักแต่เขาก็ค่อนข้างเชี่ยวชาญในการปลดอาวุธด้วยมือเปล่า
มองเห็นตัวประหลาด : จริงๆก็ไม่ถึงกับมองเห็น สิ่งที่จัสตินเห็นจริงๆก็เป็นเพียงขวันสีขาวที่ล่องลอยอยู่ท่ามกลางความมืดมิด โดยเขาจะมองเห็นพวกมันผ่านทางตาซ้ายที่บอดไปแล้วของเขา หรือหากมีพวกมันอยู่ใกล้เขาก็จะรู้สึกเจ็บที่ตาซ้าย
ประวัติ : จัสติน อดีตทายาทเศรษฐีพันล้านที่ต้องมาตกระกำลำบาก หากสงสัยว่าทำไมเขาจึงเป็นเพียงอดีตก็คงต้องย้อนกลับไปเมื่อ 7 ปีก่อน ในวันเกิดครบรอบ 10 ปี เขาและพ่อแม่ได้เดินทางไปเที่ยวด้วยกัน
ขณะที่พวกเขากำลังโดยสารบนเครื่องบน ก็เกิดเหตุขัดข้องขึ้น เครื่องบินที่พวกเขาโดยสารไปตกท่ามกลางผู้เขาหิมะที่ทุระกันดารไร้ซึ่งผู้คนในรัศมีกว่า 100 กิโลเมตร เขาและพ่อโชคดีที่รอดมาจากเหตุเครื่องบินตกแต่แม่ของเขาไม่ได้โชคดีด้วย เขาและพ่อจำต้องทิ้งร่างของคนอันเป็นที่รักไว้เบื่องหลังแล้วออกเดินทางไปกับผู้รอดชีวิตคนอื่นๆที่รอดมาได้ราวๆ 7 ถึง 8 คน
หลายวันผ่านไปเขาและพ่อเกิดเหตุขัดแย้งกับผู้รอดชีวิตคนอื่น ในเหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดการทะเลาะกันอย่างรุนแรงจนเขาพลาดโดนลูกหลงจึงต้องเสียตาซ้ายไป สุดท้ายพวกเขาจึงเลือกแยกตัวออกมา ในช่วงเวลาเกือบครบรอบหนึ่งเดือนที่ติดอยู่ในที่แห่งนี้เขาและพ่อได้มาหลบอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง เสบียงที่พกมาด้วยหมดไปได้ 2 วันแล้ว บวกกับสภาพอกาศด้านนอกเป็นไปไม่ได้เลยที่จะออกไปหาอาหารมาเพิ่ม ตัวเขาที่ตอนนี้มีสภาพอ่อนเพลียอย่างมากไม่อาจจะได้ยินสิ่งที่พ่อของเขากำลังพูด
เช้าวันต่อมาเขาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่ร่างกายดีขึ้นมาเล็กน้อย ขณะกำลังจะมองหาผู้เป็นพ่อ กับเห็นว่าผู้เป็นพ่อนอนอยู่ข้างตนในสภาพที่แขนซ้ายเหลือแต่กระดูกที่ชโลมไปด้วยเลือด เขาเอือมมือไปแตะก็สัมผัสได้เพียงผิวกายที่เย็นเฉียบดั่งลมหนาวที่พัดผ่านอยู่นอกถ่ำ ข้างๆยังมีกองไฟและถ้วยซุปอะไรสักอย่าง ถึงตรงนี้หยาดน้ำตาที่เขาคิดว่ามันแห้งเหือดไปแล้วกับหลั่งไหลออกมาอีกครั้ง จู่ๆคำพูดที่พ่อของเขาพูดเมื่อคืนกลับย้อนกลับมาให้เขาได้ยินอีกครั้งราวกับกำลังตอกย้ำ ‘ลูกไม่ต้องโทษตัวเอง นี่เป็นสิ่งที่พ่อเลือกเอง’
หลังจากวันที่พ่อของเขา “สละตนเอง” มาได้ 3 วัน เขาก็ได้ยินเสียงปืนล่าสัตว์ดังห่างออกไปไม่ไกล สุดท้ายแล้วเขาจึงสามารถรอดพ้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไปได้ ทว่าเมื่อกลับไปถึงบ้านกับพบว่าอาของเขาได้ทำการฮุบบริษัทของพ่อและแม่เป็นของตัวเอง แม้หลังจากนั้นเขาจะได้รู้ว่าอุบัติเหตครั้งนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญก็สาบไปเสียแล้ว เขาในตอนนี้ไม่สามารถสู้อำนาจของผู้เป็นอาได้ ทั้งยังถูกอัปเปหิให้ไปอยู่ในเมืองเล็กๆแห่งหนึ่ง
นิสัย : ด้วยความที่เขาเคยเป็นลูกคุณหนูมาก่อนจึงมีความทะนงตนสูงในบางครั้ง และจากการสั่งสอนในอดีตจึงทำให้เขามีความเป็นสภาพบุรุษและเคร่งครัดในระเบียบเป็นอย่างมาก เขาเป็นประเภทที่จะไม่เข้าหาผู้อื่นก่อน แต่หากมีคนต้องการความช่วยเหลือเขาก็ไม่เกี่ยงที่จะเป็นฝ่ายเข้าหา เป็นคนที่เรียกได้ว่ารักในความยุติธรรมคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ แต่มักจะไม่แสดงออกอย่างโจ่งแจ้ง เนื่องจากเขามีความคิดที่ว่ามีเพื่อนสนิทหนึ่งคนดีกว่ามีเพื่อนร้อยคนทำให้ในบางครั้งเขาก็ดูเข้าหาได้ยาก เขาเป็นคนที่สามารถทำโป๊กเกอร์เฟซได้เองโดยธรรมชาติทำให้ปกติคนส่วนจะเห็นแค่ใบหน้านิ่งๆเคร่งขรึมเท่านั้น เป็นคนที่มีเหตุมีผลแม้เขาจะเคร่งครัดในกฏระเบียบแต่หากมีเหตุผลที่มากพอเขาก็พร้อมจะหลับตาข้างหนึ่ง(เอ็งมีตาข้างเดียวอยู่แล้วนิ)แล้วแสร้งทำเป็นไม่เห็น แค้นฝังหุ้นเรียกได้ว่าเขาเป็นคนที่เจ้าคิดเจ้าแค้นมาก ยังดีที่การแก้แค้นของเขามักไม่เกินเลย ใครทำอะไรไว้เท่าไหร่ก็ได้รับคืนเท่านั้น ใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ อันเนื่องมาจากการที่เขาเหลือตาข้างเดียวทำให้รู้สึกว่าอยากจะมองสิ่งต่างๆให้มากยิ่งขึ้นจึงทำให้กลายเป็นคนช่างสังเกตไปด้วย
ลักษณะคำพูด : น้ำเสียงของเขาจะค่อนข้างทุ้มเคร่งขรึม มักใช้คำพูดที่สุภาพ ในเวลาราชกาล การพูดจะเป็นทางการ แทนตัวเองว่าผม แทนอีกฝ่ายด้วยคุณตามด้วยนามสกุล ในเวลาปกติ จะเป็นแบบกึ่งทางการ แทนตัวเองว่าผม แทนอีกฝ่าย ว่าคุณ,นาย,เธอ,ชื่อ
EX1
“นี่ คุณครับ บริเวณนี้เป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่กรุณาไปยังโซนพื้นที่สำหรับสูบบุหรี่ทางด้านนั้นด้วยครับ” เสียงของชายหนุ่มผมทองดังทักอีกฝ่าย
EX2
“อึก! ภาพหลอนอีกแล้ว…” หลังจากได้สติเขาก็พึมพัมกับตัวเองเบาๆ
“เฮ นายเป็นอะไรมากไหม”
เสียงของคนข้างๆทำให้เขาพึ่งนึกได้ว่าตนออกมาเที่ยวกับเพื่อนจึงตอบเพื่อให้อีกฝ่ายหายกังวล “เรื่องปกตินะ ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก”
EX3
‘หืม มีงานใหม่เข้ามา ให้ตามหาแมวหาย?’ ระหว่างที่จัสตินกำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องก็มีข้อความเข้ามาในบล็อกของเขา ด้วยเนื้อหาของงานจึงทำให้เขาเกิดความเบื่อหน่ายไม่น้อยเนื่องจากคำขอทำนองนี้ส่งเข้ามาเป็นจำนวนมาก มันก็ดีอยู่หรอกที่ได้เงิน แต่เขาเป็นนักสืบนะไม่ใช่พนักงานจับสัตว์
“ขอรายละเอียดของสัตว์เลี้ยงและสถานที่ที่พบล่าสุดด้วยด้วยครับ ส่วนค่าใช้จ่ายคืิอ xxx เหรียญครับ หากทางเราปิดงานไม่ได้ภายใน 3 วันจะทำการคืนเงินให้ครับ” สุดท้ายแล้วชีวิตก็ต้องกินต้องใช้มีนายได้ก็ย่อมดีกว่าไม่ไมีเขาจึงได้คุยรายละเอียดต่างๆกับลูกค้า
เพลงที่บ่งบอกถึงตัวละคร : Nightmare
สิ่งของที่พกติดตัว : สมุดโน๊ตและปากกา
เพิ่มเติม : หลังจากเหตุการณ์เครื่องบินตกทำให้จัสตินมีอาการโรคลมหลับทำให้ในบางครั้งเขาก็เผลอหลับโดยไม่รู้ตัวและบางครั้งมันก็ทำให้เขาเห็นภาพหลอนเป็นพวกปีศาจ อาการของเขาเกิดได้ทั้งในสภาพที่หลับและกึ่งหลับ แต่โชคยังดีที่ส่วนมากมักไม่เกิน 10 วินาที
ทุกครั้งที่เขาหลับเขามักจะฝันเห็นปีศาจรูปลักษณ์แปลกประหลาดต่างๆ และการที่เขาเห็นภาพหลอนเป็นพวกมันก็ราวกับว่าเขาจะต้องเผชิญฝันร้ายนี้แม้ยามตื่นนอนก็ตาม
เขาพยายามหลีกเลี่ยงการกินเนื้อแดงเท่าท่ี่จะทำได้ หากไม่จำเป็นก็จะไม่กินเด็ดขาด เพราะมันทำให้เขานึกถึงเหตุการณ์ที่ต้องกินพ่อตัวเอง
ปัจจุบันจัสตินอาศัยอยู่กับคนรับใช้คนสนิทของพ่อ เนื่องจากอีกฝ่ายเลิกลากับภรรยาไปนานแล้ว จึงรับเขามาเป็นลูกบุญธรรม สถานะการเงินอยู่ในระดับกลางๆ
บรูซเป็นชื่อเล่นที่เพื่อนที่โรงเรียนตั้งให้เขาเพราะชีวิตเขามันคล้ายๆกับแบทแมน
ปัจจุบันจัสตินไม่คิดแก้แค้นอาของเขาแล้ว เพราะอีกฝ่ายป่วยเป็นโรคตายไปแล้ว
หากสงสัยว่าทำไมเขาเลือกที่จะเป็นนักสืบแทนที่จะนำบริษัทกลับคืนมา เพราะอาของเขาทำการแก้ไขพินัยกรรมพ่อและแม่ของเขาให้เป็นของอาทำให้เขาหมดสิทธิ์ในมรดกส่วนนั้น และเขาเองก็ไม่คิดจะเริ่มบริษัทใหม่อะไรทำนองนั้นด้วย เนื่องจากเขาไม่อยากเจอการแย้งชิงทรัพย์สมบัติอีกแล้ว
เนื่องจากอาการภาพหลอนจากโรคลมหลับทำให้บางครั้งเขาแยกระหว่างตัวประหลาดกับภาพหลอนไม่ออกยกเว้นจะใช้ตาซ้ายช่วยเพราะถ้าตัวไหนเป็นตัวประหลาดจริงๆถ้ามองด้วยตาซ้ายมันจะเป็นขวันสีขาว
ส่งบทผู้หยั่งรู้ครับ
ความคิดเห็น