ลำดับตอนที่ #20
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : + + Chapter 19 + + [Fixed : แก้คำผิด] + (BG Music)
เอี๊ยดด
รถคันหนึ่งขับมาจอดเทียบเข้าที่ริมฟุตบาทข้างๆ ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ก่อนที่หญิงสาวคนหนึ่งจะกดเลื่อนกระจกลงและก้มมองดูป้ายบอกทางสีเขียวไม่ไกลจากเธอเท่าไรนัก
‘Miami 2 Km.’
มาเชลยิ้มออกมาก่อนที่เธอจะขับรถต่อไป
ทางด้านของเฟิร์ส ณ. SFAG
“จะบอกว่างานในครั้งนี้พลาดงั้นเหรอ !?”
มอร์เฟียสถามขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ๆ ชายหนุ่มที่ยืนก้มหน้าให้กับตนอยู่ หรือก็คือเฟิร์สนั่นเอง
“ผมขอโทษครับเจ้านาย
” เขาตอบกลับ แต่สายตาของมอร์เฟียสที่จ้องไปยังเขานั้นยังคงดุดันไม่เปลี่ยนแปลง จนทำให้เขารู้สึกหนาวสันหลังเลยทีเดียว
แว่บบบ !!
/ตอนนี้สถานการณ์ความไม่สงบณ. ใจกลางย่านชุมชนของไมอามี่ได้สงบลงแล้วครับ ณ. ตอนนี้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเกือบ 100 ราย ทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการอยู่
/
ไม่ทันที่โฆษกจะพูดจบ มอร์เฟียสก็กดเปลี่ยนช่องในทันที
/
ห่างออกมาจากจุดเกิดเหตุราวๆ 4 กิโลเมตร พบศพของนาย ไบรอัน ฟิชเชอร์ ในสภาพน่าสยดสยองศรีษะหลุดออกจากบ่า โดยมีผู้เห็นเหตุการณ์ท่านนึงเล่าว่า
พบชายคนนี้ถูกหญิงสาวในชุดสีดำใส่หมวกกันน๊อคปิดหน้าปิดตาขับขี่จักรยานยนต์เข้ามาสังหารผู้ชายรายนี้
/
ปิ๊บบ !!
โทรทัศน์ถูกเปลี่ยนช่องอีกครั้งหนึ่ง
/พบศพผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอกอยู่ในรถ Honda Civic และผู้บาดเจ็บสาหัสจากรถขนแก๊สที่เกิดระเบิดขึ้น คุณยายท่านหนึ่งซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ได้เล่าให้เราฟังว่า เธอพบคนๆ หนึ่งใส่ชุดหนังสีดำ ขับขี่จักรยานยนต์สีดำสนิททั้งคัน ขับผ่านมาและจัดการยิงรถคันดังกล่าว
/
แว่บบบ !!
มอร์เฟียสจัดการกดรีโมทย์ปิดโทรทัศน์ไปในทันที ก่อนที่เขาจะค่อยๆ หันหน้ากลับมาหาเฟิร์สที่ยืนอยู่ทางด้านหลังของตน
ปังงงงง !!!!
กระสุนหนึ่งนัดถูกยิงใส่เข้าที่กลางศรีษะของเฟิร์สอย่างไร้ความปราณีจนร่างนั้นแน่นิ่งไปกับพื้นปล่อยให้เลือดสีแดงสดไหลออกมาจนนองพื้น
“จัดการทำความสะอาดให้เรียบร้อยด้วย !”
พูดจบมอร์เฟียสก็เดินออกจากห้องไปอย่างหัวเสียและปล่อยให้คนอื่นๆ นั้นจัดการเก็บกวาดห้องต่อไป เมื่อกลับมาถึงห้องทำงานของตนแล้ว เขาก็จัดการหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา พร้อมกับกดไปหาซีโร่ทันที
ซึ่งไม่กี่นาทีต่อมาเขาก็รับสาย
“นี่ชั้นเอง
”
มอร์เฟียสพูดขึ้น
“อืมใช่
คืบหน้าไปถึงไหนแล้ว ?”
.
“อย่าทำให้ชั้นต้องผิดหวังอีกคนก็แล้วกัน”
พูดจบเขาก็ตัดสายวางไปทันที
ทางด้านของเจสสิก้า ณ. สำนักงาน FBI
ท้องฟ้าที่ค่อยๆ มืดลงทีละน้อยๆ ทำให้บรรยากาศในตอนนี้ช่างวังเวงเสียเหลือเกิน เธอเดินขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงชั้นดาดฟ้าที่มีสวนหย่อมเล็กๆ อยู่ แสงไฟกลมๆ สีเหลืองนวลที่ส่องสว่างเป็นระยะๆ ดูแล้วช่างสวยงามยิ่งนัก
สายลมหนาวที่พัดผ่านไปมาเป็นระลอกๆ ทำให้รู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย
เจสสิก้าหยิบเอาโทรศัพท์ของตนเองขึ้นมาและมองดูหมายเลขโทรออกในเครื่องที่โชว์อยู่ ซึ่งเบอร์ดังกล่าวนั้นไม่ใช่ของใครอื่นเลย นอกเสียจากควอนยูริคนรักของเธอนั่นเอง
เธอเป็นอะไรรึเปล่านะ ทำไมถึงไม่ยอมรับสายของชั้นล่ะยูริอา
ระบบ GPS ก็ใช้งานไม่ได้ เธอจึงไม่สามารถรู้ได้เลยว่าตอนนี้คนรักของเธอยังอยู่ดีหรือเปล่า ตลอดเวลาหลายวันที่ผ่านมา เธอได้แต่เฝ้าคิดถึงอยู่ตลอดเวลา
ความรู้สึกเจ็บแปลบในอกที่เกิดขึ้นมาทำให้เธอรู้สึกแย่ไม่น้อย ราวกับเธอกำลังจะสิ้นใจตายยังไงยังงั้น
กึกก
กึกก
เสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นทำให้เจสสิก้าต้องเหลือบหันกลับไปดู และพบว่าแมทธิวเพื่อนหนุ่มของตัวเองกำลังเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ก่อนจะมาหยุดอยู่ข้างเธอ
“มีอะไรไม่สบายใจงั้นรึ เจส ?”
เขาถามขึ้นพร้อมกับใช้แขนเกาะราวระเบียงเอาไว้ สายตาจ้องมองไกลออกไป
“ชั้นคิดถึงแฟนน่ะ
”
เจสสิก้าตอบกลับไปอย่างอ่อนแรง
“แฟนงั้นเหรอ ?”
“อือ
” เธอตอบกลับไปพลางเหลือบไปมองเพื่อนข้างๆ กาย
“เธอมีแฟนกับเค้าด้วยเหรอเนี่ย ?” แมทธิวพูดแหย่ขึ้น แต่เจสสิก้ากลับนิ่งเฉย
“ชั้นไม่มีอารมณ์จะมาเล่นนะแมท
ขอชั้นอยู่คนเดียวก่อนได้ไหมล่ะ ?”
เจสสิก้าพูดขึ้นก่อนที่เธอจะค่อยๆ พลิกตัวกลับมาหาแมทธิวและใช้สายตาเป็นเชิงขอร้อง
“อือๆ ตามสบายแล้วกัน
”
พูดจบแมทธิวก็หันหลังกลับและโบกมือน้อยๆ ก่อนที่เขาจะเดินหายไปจากบริเวณนั้นปล่อยให้เจสสิก้าได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่ตามลำพัง เธอค่อยๆ แหงนหน้ามองขึ้นไปยังท้องฟ้าเบื้องบนซึ่งตอนนี้ดวงจันทร์สีเหลืองนวลค่อยๆ โผล่พ้นออกมาจากกลีบเมฆแล้ว
เวลายังคงเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมาย ซึ่งไม่ต่างอะไรกับชีวิตของเธอที่ไม่มียูริอยู่ข้างกายเลย
เจสสิก้าตัดสินใจเดินลงมาจากชั้นดาดฟ้าและกลับเข้าไปในห้องทำงานของตน ซึ่งตอนนี้แมทธิวเองก็กำลังเคลียร์พื้นที่อยู่และเตรียมพร้อมที่จะกลับบ้านแล้วเช่นกัน
“ดีขึ้นรึยังล่ะ ?”
เขาถามขึ้นและยังคงก้มหน้าก้มตาเก็บของต่อไป
“ไม่เลยสักนิด
”
พูดจบเธอก็คว้ากระเป๋าและเดินออกมาจากห้องทำงานทันที ปล่อยให้แมทธิวได้แต่มองตามแผ่นหลังของเพื่อนสาวที่หายลับไปจากห้อง
เจสสิก้าเดินมายังลานจอดรถก่อนที่จะหยิบกุญแจขึ้นมาปลดล๊อครถสปอร์ตคันงามของตัวเอง
ปึงง !!
เธอดึงประตูปิดเข้ามาและนำกุญแจเสียบเข้าที่และทำการสตาร์ทเครื่อง
บรืนนน บรืนนนนนนน !!!
ก่อนที่เธอจะขับรถ BMW M6 คู่ใจของเธอออกมาจากบริเวณนั้น
เจสสิก้าขับรถต่อมาตามทางเรื่อยๆ จนในที่สุดก็มาถึงบริเวณหน้าบ้านของยูริ เธอจอดรถเทียบที่บริเวณฟุตบาทและมองตรงไปยังตัวร้านที่ยังคงมืดสนิทและไร้ซึ่งวี่แววของคนอาศัยอยู่เลย
เมื่อไรเธอถึงจะกลับมานะ
ยูริอา
เธอคิดในใจอย่างเศร้าๆ และใช้เวลาอยู่ตรงนั้นนานพอสมควร จนกระทั่งท้องฟ้าด้านบนนั้นมืดสนิท เธอจึงถอดใจและขับรถต่อกลับมาที่บ้านของตนในทันที
บรืนนนนน
เจสสิก้ายังคงขับรถของเธอต่อไปพร้อมกับมองดูวิวรอบข้างไปด้วย ก่อนที่จะค่อยๆ เอื้อมมือไปกดที่เครื่องเล่นเพลงที่ติดเอาไว้กลางรถ และรอให้บทเพลงนั้นเล่นขึ้น
เอิ๊ยดดด
เธอจอดรถที่แยกไฟแดงด้านหน้า ก่อนที่กลุ่มคนจำนวนมากนั้นจะพากันเดินข้ามถนน
เธอมองตามกลุ่มคนที่เดินสวนกันไปมาโดยที่ไม่ได้คิดอะไร พลันสายตาเหลือบไปเห็นชายคนหนึ่ง ซึ่งเธอจำใบหน้านั้นได้ดีไม่มีลืมเลย
อิวานคอฟ อิวานโควิช
http://www.youtube.com/watch?v=FXNXB0bZVS4 [Background Music]
เจสสิก้าไม่รอช้า เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมกับกดไปยังหมายเลข 911 ทันที เพื่อแจ้งเบาะแสของเป้าหมายและเพื่อขอกำลังเสริมด้วยนั่นเอง
“เจ้าหน้าที่ FBI เจสสิก้า จอง ตอนนี้พบนายอิวานคอฟอยู่ที่ 4 แยกในพื้นที่ D-34H-2 ขอกำลังเสริมด้วย”
พูดจบเธอก็กดวางสายไปทันที ก่อนที่จะขับสะกดรอยนายอิวานคอฟไปอย่างเงียบๆ
รอบนี้แกหนีไม่รอดแน่
ทางซีโร่ที่เหลือบหางตากลับไปมอง เพราะเขาเริ่มรู้สึกราวกับว่ามีคนกำลังตามสะกดรอยอยู่ และพบเข้ากับรถ BMW M6 สีขาวคันหนึ่งที่ขับตามมาได้สักพักแล้ว แต่ด้วยการที่เจสสิก้านั้นไหวตัวทัน เธอจึงแสร้งทำเป็นเปิดไฟเลี้ยว และเลี้ยวเข้าไปในปั๊มน้ำมันด้านหน้าแทน
“บ้าเอ๊ย !”
เธอสบถออกมาพร้อมกับเอามือขึ้นเสยผมอย่างเซ็งๆ
เจสสิก้าเปลี่ยนเป็นขับมาจอดที่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊มแห่งนั้นแทน ก่อนที่เธอจะหยิบปืนออกมาจากช่องเก็บของทางด้านหน้า และเก็บไว้ในซองปืนด้านในเสื้อ
แกร๊กก
เธอเปิดประตูออกมาจากรถ พร้อมๆ กับที่กดล๊อครถของเธอเอาไว้
เจสสิก้ารีบวิ่งออกมาจากปั๊มและพยายามมองหานายอิวานคอฟและผู้ติดตามอีกหนึ่งคน แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยที่จะค้นหาคนเพียงสองคนจากกลุ่มคนที่เดินสวนไปมานับร้อย
เจสสิก้าพยายามเดินตามไปยังทิศที่ทั้งสองคนเดินไปเรื่อยๆ และใช้สายตาของเธอสอดส่องหาเป้าหมายไปด้วย แต่ระหว่างที่เธอกำลังจะตัดใจ เธอก็เหลือบไปเห็นสองคนนั้นอีกครั้งและเป็นจังหวะเดียวกับที่โทรศัพท์ของเธอดังขึ้น
/นี่เจ้าหน้าที่เอฟเวอร์ลีนจาก CIA จริงรึเปล่าที่พบนายอิวานคอฟ ?/
“ตอนนี้ฉัน เจ้าหน้าที่ FBI เจสสิก้ากำลังไล่ตามสะกดรอยเป้าหมายอยู่” เธอตอบกลับไปก่อนที่จะรีบใช้มุมตึกข้างๆ ในการซ่อนตัวเพราะทางฝ่ายนั้นเริ่มจะรู้แล้วว่ามีคนกำลังไล่ตามพวกตนอยู่
“เดี๋ยวจะแจ้งที่อยู่โดยใช้ระบบ GPS เริ่มต้นการใช้สัญญาณ
”
พูดจบเธอก็กดตัดสายไป พร้อมกับเปิดระบบ GPS ไว้ให้ทาง CIA สามารถตามเธอมาได้ และเริ่มต้นการสะกดรอยตามเป้าหมายอีกครั้ง
เจสสิก้าอาศัยผู้คนที่เดินกันอย่างหนาแน่นในการอำพรางตัว และยังคงรักษาระยะห่างเอาไว้เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายนั้นรู้ว่ากำลังโดนสะกดรอยอยู่ ซึ่งเธอก็สามารถทำมันได้ดีเลยทีเดียว
เจสสิก้าค่อยๆ เดินตามเป้าหมายไปอย่างเงียบๆ จนในที่สุดก็มาถึงบริเวณอาคารร้างแห่งหนึ่งที่ดูทรุดโทรมเป็นอย่างมาก เธอใช้หลังพิงกำแพงเอาไว้และแอบดูชายสองคนนั้นเดินผ่านชายฉกรรจ์อีก 2 คนเข้าไปยังด้านใน
เจสสิก้าลองสังเกตดูดีๆ และพบว่าชายอีกสองคนที่อยู่ทางด้านหน้านั้นมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองด้วย เพราะฉะนั้น ต้องไม่ใช่กลุ่มคนระดับปกติแน่
M4A1 งั้นรึ
เจสสิก้าเอี้ยวตัวกลับมาแอบอีกครั้ง ก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
“เจ้าหน้าที่จองจาก FBI ตอนนี้อยู่ที่แหล่งกบดานของนายอิวานคอฟ ขอกำลังเสริมด้วย กลุ่มคนร้ายมีอาวุธครบมือ และอาวุธสงครามไว้ในครอบครอง
”
/รับทราบ/
ปลายทางตอบกลับมา
ก่อนที่เธอจะกดตัดสายไปและเบนความสนใจไปที่ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งที่เดินออกมาแทน
เนื่องจากระยะที่ไกลเกินเธอจึงไม่สามารถรู้ได้เลยว่าทั้งสามคนนั้นกำลังคุยอะไรกันอยู่ แต่สิ่งที่เธอเห็นก็คือ มีการเปลี่ยนเวรกันด้วย แสดงว่าด้านในนั้นต้องมีคนอยู่เยอะพอสมควร
เจสสิก้าเหลือบหันไปมองดูรอบตัวเพื่อความปลอดภัยของตนและยังคงซุ่มเงียบอยู่อย่างนั้น รอให้กำลังเสริมจากทาง CIA และตำรวจนั้นมาสมทบ
เอี๊ยดดด
เอฟเวอร์ลีนและมิลล่าที่เพิ่งจะจอดรถห่างออกมาจากอาคารที่เจสสิก้าแสดงพิกัดให้รู้ และนำพรรคพวกของตนเข้าไปอย่างเงียบๆ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ฝ่ายศัตรูรู้ว่าพวกเธอนั้นกำลังจะทำการโจมตี
หน่วย SWAT ที่เข้าประจำที่แล้วต่างก็รอเพียงแต่คำสั่งจากเอฟเวอร์ลีนเท่านั้น
“นี่เจ้าหน้าที่เอฟเวอร์ลีน CIA เรียกเจ้าหน้าที่จองจาก FBI
”
/เจ้าหน้าที่จอง ทราบแล้วเปลี่ยน
/
เธอตอบกลับมา
“ถอยออกมาจากตรงนั้นก่อน มารวมกันทางด้านหลัง ตรงนี้”
/รับทราบ
/ เจสสิก้าตอบกลับมา
ไม่นานนักเธอก็ตามมาสมทบกับทางเอฟเวอร์ลีนที่ทำการล้อมอยู่ห่างๆ
“เจ้าหน้าที่จอง เจสสิก้าจาก FBI”
“เจ้าหน้าที่ เอฟเวอร์ลีน ซอลท์ จาก CIA”
“เจ้าหน้าที่มิลล่า แอสการ์ด จาก CIA
”
ทันทีที่มิลล่าแนะนำตัวเสร็จ เธอก็เดินกลับไปประจำที่ของตนเองทันที ปล่อยให้เอฟเวอร์ลีนและเจสสิก้ายืนอยู่ด้วยกัน เพื่อคุยเรื่องแผนการ
หลังจากที่ตกลงกันได้แล้ว พวกเธอก็พากันแยกย้ายไปตามจุดที่ได้ตกลงกันเอาไว้ โดยที่เจสสิก้าได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบเรื่องการนำกองกำลังบุกเข้าไปทางด้านหลังของอาคาร ซึ่งเป็นตรอกเล็กๆ และมีเพียงอาคารหลังนั้นหลังเดียวเท่านั้นที่มีทางเชื่อมออกทางด้านหลัง
และเป็นไปอย่างที่คิด เมื่อพบว่ามีชายสองคนกำลังยืนเฝ้าทางเข้าออกอยู่
เจสสิก้าให้สัญญาณมือหยุดและประจำที่ เพื่อรอคำสั่งจากทางเอฟเวอร์ลีน สายตาของเธอเหลือบไปเห็นปืนลูกซองที่ชายคนหนึ่งถือเอาไว้ พร้อมกับลองคำนวนถึงระยะการกระจายของกระสุนดูในระหว่างที่รอคำสั่ง
/พร้อมรึยัง ?/
เอฟเวอร์ลีนถามขึ้น
“พร้อมค่ะ !” เจสสิก้าตอบกลับไป ก่อนที่การจู่โจมนั้นจะเริ่มต้นขึ้น
http://www.youtube.com/watch?v=1ERBIdvQFiU&feature=related [Background Music]
ทันทีที่เจสสิก้าให้สัญญาณบุก หน่วย SWAT ที่อยู่ข้างๆ ก็ทำการเคลื่อนพลในทันที
ปังง ปังงง ปังงงง !!!
กระสุนถูกกราดเข้าใส่ยามทั้งสองคนจนแน่นิ่งไปกับพื้น พร้อมๆ กับที่เจสสิก้าวิ่งเข้าไปประจำที่ และให้สัญญาณคนอื่นๆ ให้ตามเธอมา
เธอหยิบเอาปืนลูกซองของคนร้ายนั้นขึ้นมาและเก็บปืนพกเอาไว้ที่เดิม
แกร๊กกก !!!
เธอขึ้นลำเอาไว้และเตรียมพร้อมที่จะทำการลุยต่อในทันที
“เคลียร์ !!”
ทันทีที่ผ่านทางประตูหลังเข้ามา กลุ่มของชายฉกรรจ์จำนวนมากต่างก็พากันวิ่งมาตามเสียงปืนที่ดังขึ้น
ปังงง !!!
แกร๊กกก !!!
เจสสิก้าจัดการยิงชายคนหนึ่งที่โผล่พ้นออกมาจากประตูจนถึงกับกระเด็นหงายไป และด้วยแรงถีบของปืนลูกซองจึงทำให้เธอถึงกับเซไปเล็กน้อย
ปังงง ปังงงง ปังงงงง !!!
การปะทะกันได้เริ่มต้นขึ้น พร้อมๆ กับที่ทางหน่วย SWAT นั้นหยิบเอาระเบิดออกมาดึงสลัก และขว้างเข้าไปในห้องที่คนร้ายพากันวิ่งออกมา
“หมอบบบ !!!”
เสียงตะโกนดังขึ้น จนทุกคนต่างก็พากันขยับถอยออกมาจากรัศมีของระเบิดและหมอบราบลงกับพื้น
ตูมมมมม !!!!
“ไปๆ !!”
เจสสิก้าตะโกนสั่งลูกน้องขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่ตนเองจะวิ่งตามพวกเขาเข้าไปยังด้านใน
กลุ่มควันที่ฟุ้งกระจายไปในอากาศแทบจะทำให้มองอะไรไม่เห็นเลยทีเดียวและนั่นก็ยิ่งทำให้พวกเธอต้องระวังตัวกันมากยิ่งขึ้นไปด้วย เจสสิก้าหันกระบอกปืนไปทางชายคนหนึ่งที่วิ่งตรงเข้ามาและกดลั่นไกทันที
ปังงงง !!!
แกร๊กกก !!
“อั่คคคค !!”
กระสุนอีกหนึ่งนัดถูกยิงใส่เข้ากลางลำตัวจนปลิวกระเด็นไป เธอไม่รอช้าที่จะสั่งให้ลูกทีมทำการลุยเข้าไปต่อในทันที ซึ่งการปะทะกันก็เริ่มจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ปังงง !!! แกร๊กกก !!! ปังงงงง !!!!!
เจสสิก้ายิงเข้าที่ส่วนขาของชายคนหนึ่งจนขานั้นขาดกระเด็นไป
“อ๊ากกกกกก !!!!!”
เลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูดราวกับท่อประปาแตก ก่อนที่เธอจะหยิบเอาปืนพกออกมาและยิงเข้าที่ส่วนหัวของชายคนนั้น เพื่อทำให้เขาพ้นจากความทรมาณ
ปังงงง !!!
ปังง ปังงง ปังงง ปังง ปังงง ปังงงง !!!
เจสสิก้ากระโดดพุ่งหลบกระสุนที่ถูกกราดเข้าใส่อย่างรวดเร็ว และเอาหลังของเธอพิงกับกำแพงเอาไว้
เธอเหลือบมองไปยังลูกทีมที่อยู่ฝั่งตรงข้าม พร้อมกับสัญญาณลุย
ปังง ปังงง ปังงงง !!!
จังหวะที่ลูกทีมนั้นยิงตอบโต้เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ เจสสิก้าก็ไม่รอช้าที่จะพุ่งเข้าไปประชิดตัวชายคนนั้นและใช้ตัวปืนลูกซองฟาดเข้าที่ใบหน้าอย่างแรง พร้อมๆ กับที่ใช้ขาอันเรียวงามของเธอเตะหวดเข้าที่ข้อพับจนชายคนนั้นเสียหลักล้มลงไปนอนกับพื้น
ก่อนที่เธอจะปิดฉากด้วยการยิงลูกซองใส่ในระยะประชิด
ปังงงง !!!
แผละ !!
ชิ้นเนื้อที่กระจัดกระจายออกทำให้สภาพโดยรอบนั้นไม่น่าดูเอาเสียเลย เจสสิก้าไม่ได้สนใจสภาพรอบตัว เธอยังคงตั้งหน้าตั้งตาบรรจุกระสุนที่เก็บมาเพิ่มเข้าไป
แกร๊กก แกร๊กกก แกร๊กกกก !!!
แกร๊กกก !!!
เมื่อบรรจุกระสุนเสร็จแล้ว เธอก็พร้อมที่จะลุยต่ออีกครั้ง
ทางด้านของซีโร่ หลังจากที่รู้ว่ากำลังโดนโจมตีอยู่ เขาจึงเดินไปหยิบเอาปืนคู่ใจออกมาและทำการบรรจุกระสุนให้เรียบร้อย ก่อนที่จะขึ้นลำและเดินออกจากห้องไป
แกร๊กกก !!
“เฝ้าไว้อย่าให้ใครเข้ามาถึงนี่ได้
”
ซีโร่พูดพร้อมกับเดินตรงมายังลิฟท์เก่าที่กำลังเลื่อนขึ้นมาเรื่อยๆ ก่อนที่จะหันกลับไปหาลูกน้องอีกคนหนึ่ง
“ถ้าเห็นท่าไม่ดี พาแขกคนสำคัญหนีไปด้วย”
“ครับ !”
เขาเดินไปหยิบเอาแท่งเหล็กที่หล่นอยู่ใกล้ๆ ขึ้นมา และเสียบมันเข้ากับประตูลิฟท์ก่อนที่จะออกแรงง้างมันออก
เมื่อง้างได้สำเร็จ ซีโร่จึงเดินมาและชะเง้อมองลงมายังด้านล่างยังตัวลิฟท์และมองไล่ขึ้นมายังสายสลิงเรื่อยๆ ก่อนที่ความคิดอันชั่วร้ายจะผุดขึ้นมาในหัว
เขาหยิบเอาปืนเดสเสิร์ทอีเกิลคู่ใจของตนขึ้นมาและเล็งไปที่สายสลิงตรงหน้าทันที
ปังงง !!!
กระสุนหนึ่งนัดพุ่งออกจากปากกระบอกและตรงไปตัดสายสลิงนั้นจนขาด
ผึงงงง !!!
ครืดดดดดด !!!!
ซีโร่มองดูลิฟท์ที่ขรูดกับผนังจนเกิดประกายไฟ ก่อนที่จะร่วงลงไปกระแทกกับพื้นด้านล่างเสียงดังสนั่น
โครมมมมม !!!!
เอฟเวอร์ลีนที่อยู่บริเวณชั้นล่างหันไปมองตามต้นเสียง และพบว่าลิฟท์ที่บรรดาลูกน้องที่ขึ้นไปนั้นร่วงลงมาจนสภาพนั้นดูไม่ได้ กลุ่มควันนั้นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณอีกครั้ง
http://www.youtube.com/watch?v=oxIK5grHB6E&feature=related [Background Music]
เธอและมิลล่าตัดสินใจที่จะใช้บันไดที่อยู่ข้างๆ นั้นขึ้นไปยังด้านบนแทน โดยแบ่งให้มิลล่านั้นนำลูกทีมขึ้นไปยังด้านซ้ายของตัวอาคาร และเธอจะขึ้นไปยังทางขวานั่นเอง
ตัวอาคารที่สูง 10 ชั้นในลักษณะรูปตัว L ทำให้สามารถกระจายกำลังกันได้อย่างทั่วถึง
เอฟเวอร์ลีนนำลูกทีมขึ้นมายังชั้นสองของตัวอาคารและถูกต้อนรับด้วยกระสุนปืนชุดใหญ่ทันที
ปังง ปังงง ปังงงง ปังง ปังงง ปังงงง !!!!!!
เพล้งงงง !!!!
เศษกระจกแตกกระจัดกระจายไปทั่วทั้งบริเวณ โดยที่เธอได้แต่เพียงหลบอยู่หลังมุมกำแพงเท่านั้น
พิ้งงง !!!
เอฟเวอร์ลีนถอดสลักระเบิดออก พร้อมกับโยนไปทางกลุ่มของผู้ก่อการร้าย
แว่บบบบบบ !!!!!
แสงสีขาวแสบตาสว่างจ้าขึ้นจนทำให้มองอะไรแทบไม่เห็น เอฟเวอร์ลีนอาศัยช่วงจังหวะนั้นโผล่ออกไปและยิงใส่เป้าหมายทันที
ปังง ปังงง ปังงงง !!!
“อ๊ากกกกกก !!!”
ร่างของกลุ่มผู้ก่อการร้ายนั้นนอนเกลื่อนกลาดจนเต็มไปหมด เธอค่อยๆ เดินผ่านอย่างระมัดระวังและเล็งปืนใส่ชายคนหนึ่งที่ยังคงนอนดิ้นอยู่ตรงนั้น
ปังงงง !!!!
“เคลียร์ !!!”
พูดจบเธอก็ให้สัญญาณลุยต่อทันที เช่นเดียวกับทางมิลล่าและเจสสิก้า
ปังงงง !!!!
กระสุนปืนหนึ่งนัดถูกยิงสวนกลับมาและเข้าที่กลางศรีษะของลูกทีมคนหนึ่งจนแหลกคาตา เลือดสีแดงสดกระเด็นมาเปรอะตัวของเธออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เจสสิก้าอาศัยมุมกำแพงเป็นที่กำบังเอาไว้ พร้อมๆ กับที่ทำการบรรจุกระสุนไปด้วยในตัว
ปังงงงง !!!! แกร๊กกกกก !!!
เธอโผล่ออกไปและกดลั่นไกใส่เป้าหมายในทันที ด้วยความแรงของปืนจึงทำให้ร่างของชายตรงหน้านั้นถึงกับลอยกระเด็นไปเลยทีเดียว
ปังงงง ปังงงงง !!!
กระสุนที่ถูกยิงสวนกลับมาทำให้เธอต้องคอยหาที่กำบังไปด้วย
ปังงงงง !!!!
เมื่อยิงเสร็จ เจสสิก้าจึงอาศัยช่วงที่คนร้ายเสียหลักพุ่งเข้าไปซัดเสียจนร่างของเขานั้นหงายท้องไป
“น
นังบ้านี่ !!”
เจสสิก้าใช้ศอกตีเข้าที่ส่วนท้องของชายคนหนึ่งอย่างแรง จนร่างนั้นเซถอยหลังและต่อด้วยการใช้ปืนลูกซองนั้นยิงอัดซ้ำเข้าไปที่กลางลำตัวอย่างรวดเร็ว
ปังงงงง !!!!!
“อ่อคคคคคคค !!”
เลือดที่สาดกระเซ็นมาจนเปรอะไปทั้งตัว ทำให้เธอในตอนนี้ดูช่างน่ากลัวยิ่งนัก
เจสสิก้ายังคงกระหน่ำยิงต่อไปอย่างสนุกมือ พร้อมๆ กับที่บรรดาลูกทีมของเธอก็รุกหน้าต่อไปเรื่อยๆ จนในที่สุดเธอก็สามารถเก็บกวาดชั้น 2 จนเสร็จเรียบร้อย และเตรียมพร้อมที่จะลุยขึ้นไปยังชั้น 3 ต่อไป
ทางด้านของซีโร่ เขาเดินลงมาตามบันได และพบเข้ากับเจสสิก้าโดยบังเอิญ เขาอาศัยความเงียบ และการที่เธอยังไม่ทันได้รู้ตัวค่อยๆ ใช้ปืนพกเล็งไปทางเธอ
ปังงงงง !!!!!
กระสุนนัดดังกล่าวพุ่งตรงเข้าใส่ที่กลางลำตัวของเจสสิก้า แต่เพราะลูกทีมที่บังเอิญเดินเข้ามาทำให้เธอรอดจากกระสุนนัดนั้นได้อย่างปาฏิหาริย์
“อ่อคคค !!”
ทันทีที่ลูกทีมข้างตัวนั้นล้มฟุบลงไปกับพื้นก็ทำให้เจสสิก้ารู้ได้ทันทีว่ามีคนกำลังซุ่มโจมตีอยู่ เธอลากตัวลูกน้องคนนั้นหลบเข้ามุมอย่างเร่งรีบ และก้มลงดูอาการบาดเจ็บทันที
“เฮ้ !!” เธอเรียกชายคนนั้นและเปิดเสื้อออกดู ก่อนที่จะพบว่ากระสุนนัดนั้นถูกเข้าที่บริเวณชุดเกราะกันกระสุนเท่านั้น แต่เพราะแรงอัดของมันจึงทำให้เขาทรุดลงไป
“ไม่เป็นไรนะ !?”
“คร
ครับ
” ชายคนนั้นตอบพร้อมกับพยุงตัวขึ้นมา
“เอาล่ะ ทุกคนประจำที่ !”
เจสสิก้าตะโกนสั่ง ก่อนที่เธอจะเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าจู่โจมอีกครั้ง เมื่อทุกคนให้สัญญาณตอบรับโดยการพยักหน้า เธอจึงโผล่ออกไปอีกครั้ง !!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น