ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SHinee JONGKEY INNOCENT XX รักร้ายคุณชายตัวเเสบ 18+ part II

    ลำดับตอนที่ #2 : CHAPTER 2 INNOCENT II 100%

    • อัปเดตล่าสุด 1 เม.ย. 55


    THE'FARRY

    CHAPTER   2   INNOCENT  II     

     

     

    “ เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ ”   

     

     

     

      ฉันจะชวนมินฮยอก      เราจะไปปั่นจักรยานในสวนเยริมกัน ”

     

     

     

     

    “ สติดีอยู่หรือเปล่า ”

     

     

     

    “ ทำไมคะ    อย่างน้อยมินฮยอกก็ไม่ได้คิดทำอะไรไม่ดีได้อย่างใครบางคนหรอก ” 

     

     

     

     

    “ ว่าไงนะ ”

     

     

     

     

    “ เอ่อผู้จัดการคะ   ไว้พรุ่งนี้ฉันค่อยมาใหม่ดีกว่า  ลาล่ะค่ะ”   

     

     

     

     

    “ นี่คุณจะให้ผมขายหน้าอย่างงั้นใช่มั้ย  ถ้าผมไม่อนุญาตคุณก็ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น   แล้วนั่น

    จะไปไหน เสียงตะโกนเรียกค่อยๆไกลออกไปเรื่อยๆ  ฉันไม่แม้แต่จะหันหลังกลับ    เดิน

    ก้าวเท้ายาวๆและเลี้ยวเข้าไปทางขวามือ    แล้วห้องที่เต็มไปด้วยเสียงบรรเลงเปียโนสุดพิลึก

    จึงหยุดชะงักกับการมาของฉัน   

     

     

     

     

    “ แม่!!  ผมเล่นเปียโนเก่งมั้ยฮะ      มินฮวานกระโดดลงมาจากเก้าอี้  โผล่เข้ากอด

    ฉันทันทีที่เดินเข้ามาในห้อง    ระหว่างนั้นแทมินก็เงยหน้ามองฉันด้วยความงุนงง

     

     

     

     

    “ มินฮวานวันนี้เราพอแค่นี้ก่อน  ไว้คราวหน้าอาจะสอนเล่นเพลงหมีสามตัว  ดีมั้ย

    มินฮวาน ”

     

     

     

    “ เยี่ยมไปเลยฮะ~  หมีสามตัว..หมีสามตัว   คุณอาแทมินเพลงหมีสามตัวมันร้องไง

     ผมร้องไม่เป็น    

     

     

     

     

    “ นี่!! มินฮวาน  แม่ว่า รีบๆเข้านอนได้แล้วนะ  พรุ่งนี้หนูมีเรียนภาษาอังกฤษกับ

    คุณครูเจนไม่ใช่รึไง   

     

     

     

    “ ทำไมแม่ถึงชอบไล่มินฮวานทุกทีเลยอ่ะ  ผมโกรธแล้วนะฮะ ” 

     

     

     

     

       แม่พูดครั้งเดียวลูกน่าจะฟังรู้เรื่องนะ ” 

     

     

     

     

    “ โป้ง!!   มินฮวานไม่รักแม่แล้ว    ชิ~ วาวาแกได้ยินมั้ยว่าแม่มดใจร้ายกับลูกพี่แกแค่ไหน”

     

     

     

    “ มินฮวาน!!” 

     

     

     

    “ ไปนอนกันเถอะนะ   เมี้ยว~ เมี้ยว~     จงฮยอนน้อยก้มหน้าพูดกับวาวาซึ่งนอนหมอบอยู่

    ใต้เปียโนหลังใหญ่แล้วอุ้มมันออกไปนอกห้อง       ฉันละสายตาจากจงฮยอนน้อยและวาวา

    ชั่วครู่    ก่อนจะหันไปหาแทมินที่น่าจะรอฟังฉันพูดอยู่  

     

     

     

    “ พี่สาว….พี่ทะเลาะกับพี่จงฮยอนอีกแล้วสินะ       

     

     

     

    “ อืมม  ก็ไม่เชิงหรอก   

     

     

     

    “ มีวันไหนบ้าง  ที่พวกพี่ไม่ทะเลาะกันเพราะเรื่องพวกนี้น่ะ    

     

     

     

     

     ฉันแค่ชวนเขาออกไปเที่ยว  แต่เขาน่ะไม่ยอมฟังฉันเลย เห็นงานสำคัญ

    กว่าเมียตัวเองได้ไงก็ไม่รู้   ยัยนั่นก็เหลือเกินนะไม่รู้ว่าจะปรึกษาเรื่องงาน

    อะไรเอาป่านนี้    ถามหน่อยว่ามันใช่เวลางานมั้ย       

     

     

     

      พี่หมายถึงจอนฮโยซอง     

     

     

     

     

      ใช่!    เขาพูดว่าไงรู้มั้ย  เลิกก่อกวนแล้วออกไปซะ  นั่นล่ะสิ่งที่เขาพูดกับฉัน คิดว่า

    ฉันไม่รู้หรือว่าวันก่อน   หล่อนเอาแต่เล่นโทรศัพท์ในเวลางานทั้งวันเลย พอเจ้านาย

    ตัวเองกลับมา  หล่อนก็ดูขยันดี  น่าหมั่นไส้ชะมัด ”   

     

     

     

     

     ของแบบนี้พี่ต้องทำใจหน่อยนะ   มันเป็นเรื่องปกติน่ะ  พวกผู้หญิงอย่างจอนฮโยซอง

    มีเยอะแยะไป    พี่น่าจะภูมิใจในข้อนี้นะ  ว่าพี่จงฮยอนเป็นคนที่ชอบคนยาก   ถ้าเขาได้

    รักใครแล้ว  ไม่มีทางที่พี่จะมองผู้ชายคนอื่นได้นอกจากเขาหรอก ”   

     

     

     

      คืนนี้ฉันนึกถึงใบหน้าจอนฮโยซองจนนอนไม่หลับ      ถอนหายใจขณะมุดตัวอยู่

    ใต้ผ้าห่ม ไม่รู้ว่าเขากลับเข้ามารึยังนะ   ให้ตายสิป่านนี้นังฮโยซองคงนอนหัวเราะ

    เยาะฉันสนุกปากแล้วมั้ง   

     

     

     

     ไม่น่าเลย   ไม่น่าเลย    

     

     

    “ คีซุน….คุณทำให้ผมนอนไม่หลับนะ ”    ฉันสะดุ้งตื่นหันหลังกลับไปยังต้นเสียงที่ว่าทันใด 

     พบว่าคุณจงฮยอนนอนหนุนมือตัวเอง   และสายตาซึ่งมองมาที่ฉันนั้นแลดูผิดหวังราวกับ

    กำลังโกรธ       ดังนั้นฉันจึงรีบหันหน้ากลับมาขยับผ้าห่มมาทางตัวเองให้มากที่สุด

     

     

     “ ทำไมคะ   โกรธที่ฉันพูดแทงใจดำคุณเมื่อตอนหัวค่ำรึไง    

     

     

     

    “ ไม่รู้หรือว่าผมรู้สึกอับอายขายหน้าแค่ไหน  เธอเป็นเลขาผม  อย่าคิดอะไร

    ที่มันไม่มีทางเป็นไปได้นักสิ    

     

     

     

     “ คุณไม่ยอมฟังฉันแถมยังไล่ฉันไปอีก  จะไม่ให้โกรธได้ยัง  ห๊า!! คนโง่!!     

     

     

    “ ผมขอโทษ  แต่คุณน่าจะแยกแยะหน่อย    คุณเป็นแม่ของลูกผมไม่ใช่รึไง ช่วยทำหน้าที่

    ภรรยาที่เชื่อฟังสามีด้วย    ว่าแล้วอีตานั่นก็เลื่อยคลานขึ้นมาบนตัว     พลิกร่างฉันขึ้นไป

    อยู่บนตัวเขาเร็วไว   นี่ฉันกำลังโกรธเขาอยู่นะ   อีตาบ้า!!ยังมีหน้ามาเล่นแบบนี้อีกหรือ  

    ปล่อยฉันลงนะ  

     

     

     

      ปล่อยฉันลงสิ !!  TTOTT   

     

     

     

      ไม่เอาน่าผมกำลังจะลงแดงตายเพราะคุณเนี่ยแหละ ”

     

     

     

      ช่างปะไร!!  ตอนนี้ฉันมีน้ำโหเยอะมาก          

     

     

     

      ไม่เอาน่า วันพฤหัสเราสามคนไปเที่ยวไหนกันดีล่ะ หรือไปปั่นจักรยานชมสุสานดี     

    เปลี่ยนเรื่องเฉยเลยแฮะ …-_-‘’    

     

     

     

    “ ฉันเอ่อ….  นี่ ”    ที่ฉันตอบไม่ได้ก็เพราะมือปลาหมึกของคุณนั่นล่ะ     

     

     

     

     

    “ มืออยู่นิ่งๆไม่เป็นรึไง    ฉันเอ่ยเสียงห้วนหน้าแดงจัด  เอื้อมไปจับมือเขาออกขณะ

    ปลายนิ้วเรียวยาว  จงใจเลิ่กชายกระโปรงผ้าแพรสีชมพูอ่อนเลยเกือบถึงต้นขา  ฝ่า

    มือบีบแก้มก้นฉันอย่างนึกสนุก    

     

     

    “ นี่!! เอามือออกไปจากก้นฉันนะคนทุเรศ       ฉันเอื้อมไปตีมือทั้งสองข้างเต็มๆแรง

    ขบเคี้ยวเขี้ยวฟันในท่าทีกะล่อนนั้นเต็มแก่    ตานี่ดันกลับหัวเราะเยาะ เอาแต่ส่งสายตา

    เจ้าเลห์อีกระลอก         

     

     

     

      วันนี้คุณดูเซ็กซี่จัง  ไม่ได้ใส่คอนเท็คเลนส์เหรอ    

     

     

     

    “ จะบ้ารึไง   ใครเขาใส่คอนเท็คเลนส์ก่อนนอนกันบ้างล่ะ  ปล่อยฉันลงนะ   

     

     

     

      นั่นสินะ ผมลืมไปเลย    

     

     

     

    “ ที่รักคะ    ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ    ถ้านับหนึ่งถึงสามเมื่อไหร่โดนไล่ออกไปนอนนอก

    ห้องแน่     ฉันจะเริ่มนับหนึ่งแล้วนะ ”  

     

     

     

      มุกนี้เด็กไปนะ    คืนนี้คุณไม่อยากนอนกับผมรึไง    เลิกนับเหอะ    

     

     

     

    “ นับหนึ่ง!!  

     

     

     

      ต่อไปนี้ผมจะเชื่อฟังสิ่งที่เมียผมพูดทุกคำ ”  

     

     

     

      นับสอง!!   

     

     

     

     

     ผมขอโทษ     ยกโทษให้ผมเถอะนะ     

     

     

     

    “ ฉันจะนับสามแล้วนะ…..   

     

     

     

      ก็ได้ผมปล่อยคุณแล้วพอใจรึยัง     เขาคลายมือทั้งสองออกจากเอวฉัน   ฉันเลยรีบลุก

    ออกจากตัวเขาจัดการสภาพตัวเองให้เขาที่  พร้อมกับเอามือสางผมหยิกเป็นลอนจับมัดรวบไว้

    ด้วยหนังยางรัดผมสีดำสนิททิ้งตัวลงนอนบนหมอน     ไม่ทันหลับตาดีตานี่กลับเล่นมุกต่อรอง

    ฉันอีกแล้ว

     

     

     

    “ ฉันไม่อยากเป็นไมเกรนเพราะคุณตอนยี่สิบสี่นี่หรอกนะจะบอกให้    

     

     

     

    “ แล้วไง     ถ้าคุณไม่นอนกับผมคืนนี้    พรุ่งนี้อาจจะสองยกไม่รู้ด้วยนะ  ดีล่ะท่าน

    จะได้มีหลานเพิ่มอีกคนซักที    

     

     

    “ นี่คุณเห็นฉันเป็นอะไร!!…    เลิกส่งสายตาแบบนั้นแล้วนอนซะนะ   นะคะที่รักนอนได้แล้ว       

     

     

     

    “ นี่ผมเอาจริงนะ   สามวันแล้วนะ!!  สามวัน!!   คุณเลิกผลัดวันประกันพรุ่งซะทีเฮ่อะ  

     

     

      ได้….เอางั้นก็ได้!!!  คุณอยากนอนกับฉันเองนะ ”   และแผนการแก้เผ็ด

    ที่ทำให้เขาอารมณ์ค้างจึงเริ่มต้นขึ้น   

     

     

     

     

     

      ฉันกระโดดขึ้นไปนั่งคร่อมบนสะโพกเขาทันที    ส่งสายเย้ายวนพร้อมกับฝ่ามือ

    ลูบไล้ผ่านแผงอก  ก่อนจะค่อยๆปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้าทิ้ง   เหลือเพียง

    เสื้อกล้ามสีขาวบางมองเห็นผิวขาวเนียนละเอียดชัดเจน     

     

     

    “ ที่รักคุณชอบมั้ยหืมมม.....    ฉันก้มหน้าก้มตายิ้มชั่วร้าย  ทั้งๆที่ยังกวาดลิ้นสากๆ

    ของตัวเองไปทั่วแผงอกอันลำสั่นอย่างเชื่องช้า   ส่วนมือข้างหนึ่งค่อยๆลูบระหว่างกลาง
    ของกางเกง
    วอร์มสีกรมท่าขึ้นลง     

     

     

     

    “ นี่..ถ้าคุณเป็นแม่มดแล้ว  ผมเป็นอะไรดีล่ะ    พ่อมดในเรื่องแฮรี่ พ็อตเตอร์ก็ไม่เลวนะ

    หรือว่าจะเป็นโจรสลัดปล้นสวาทอย่างดี   

     

     

     

    “ ฉันไม่ให้คุณเป็นอะไรทั้งนั้น    

     

     

     

    “ ผมเป็นสามีคุณนี่ ~     แล้วฉันก็ส่งยิ้มหวานแบบเซ็กซี่ๆ พร้อมกับดึงหนังยางรัดผม

    ปล่อยสยายยาวคลุมหัวไหล่  โน้มตัวจูบริมฝีปาก ก่อนจะไล้ต่ำลงมายังเนินอก  ถลกเสื้อ

    กล้ามสีขาว    ปลายลิ้นจัดการหยอกเย้ายอดอกสีน้ำตาลอ่อน จนเรียกเสียงคำราม

    ต่ำเบาๆเปล่งดังภายในลำคอ 

     

     

     

    “ อ้าาา... คุณทำให้ผมคลั่งแล้วนะ     

     

     

     

     

    “ ใจเย็นสิคะที่รัก   หึๆ  อีกนิดเดียวเอง ”  ฉันหัวเราะเบาๆพลางใช้ปลายนิ้วลากผ่าน

    แผงอก  ก่อนจะเหยียดตัวตรงมือค่อยๆเอื้อมไปปลดตะขอพร้อมกับโยนบราลูกไม้ทิ้งไปด้านหลัง   

    จ้องมองดวงตาคู่สวยที่กำลังเบิกโต   เพราะไม่เคยเห็นฉันทำเช่นนี้มาก่อน ดังนั้นร่างกาย

    ของเขาจึงตอบสนองเร็วกว่าที่คิด   

     

     

     

     

      คิมคีซุน!!   ไม่ว่าผมจะมองยังไง  คุณก็เหมือนกับพี่ชายของคุณแทบทุกอย่างเลย   รู้อะไร

    มั้ยคุณนะสวยกว่าพี่ชายคุณเป็นร้อยเท่า   เพราะงั้นผมถึงปล่อยคุณไปไม่ได้ยังไงล่ะ   

    หลังจากที่เขาเอ่ยคำนั้น เอื้อมมือสัมผัสใบหน้าด้านข้างแผ่วเบา   ฉันได้เเต่อมยิ้มออกมาอย่าง

    รู้สึกดี   ปัญหาหลักก็คือ….แผนแก้เผ็ดเขาจะเอาไงต่อดี  =_=''   

     

     

     

     “ ฮือ ต่อสิ.......ผมรออยู่นะ ”      

     

     

     

    ….. 

     

     

     

    “ คิมคีซุน   

     

     

     

     

    …..  ปล่อยผมแล้วเอาไงดี   เกี่ยวคว้าคอเขาขึ้นมาจูบเลยดีมั้ย    อาาา นี่ฉันกลาย

    เป็นผู้หญิงแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน       แล้วอย่างงี้แผนการของฉันจะราบรื่นได้ไง  

     

     

     

      นึกไม่ออกเหรอ    งั้นผมจะทบทวนบทเรียนให้คุณเอง    O_O ห๊าาา~  ว่าไงนะ

     

     

     

    “ เดี๋ยวก่อนเซ่~  อุ้บ ”  ถึงตอนนี้ฉันแทบจะไม่มีปัญญาปริปาก   หนุ่มฮอตอย่างเขา

    เล่นเกี่ยวคว้าลำคอฉันลงต่ำ       ยกตัวขึ้นเล็กน้อยมือประคองใบหน้าแล้วเป็นฝ่าย

    จูบริมฝีปากฉันเสียเอง     

     

     

    “ อะอ๊ะนี่~   ยางรัดผมที่ฉันทิ้งมันไปเมื่อครู่นี้   คุณจงฮยอนกลับหยิบมันขึ้นมา   

    ขณะผลักฉันนอนลงบนเตียง    แล้วจับแขนทั้งสองข้างของฉันมัดรวบเข้าไว้ด้วยกัน 

    ก่อนที่ศรีษะเขาจะสอดเข้ามาในช่องโหว่งนั้น    ริมฝีปากบางพลันประกบจูบริมฝีปากฉัน
    พลางแทรกลิ้น
    อุ่นๆกวาดเอาความหวานในกันและกันอย่างดูดดื่ม  

     

     

    “ คุณพอจะจำได้คร่าวๆหรือยัง  หึ~  จะให้ผมตายใจและก็อารมณ์ค้างไปเลยใช่มั้ยผมรู้

    หรอกน่า” 

     

     

     

     

      รู้ได้ไง    

     

     

     

    “ ก็สีหน้าแบบนั้นมันยังไม่ใช่ จะให้ผมพูดยังไงดีล่ะ   เหมือนกับคุณกำลังคิดอะไรอยู่ในหัว

    คุณแพ้ผมราบคราบเลยนะ    ดูเหมือนว่าหอยนางรมที่ผมกินไปเมื่อวันก่อนจะออกฤทธิ์

    แล้วสิทำไงดี     ไม่นานนักเขาก็ประคองตัวฉันลุกขึ้นนั่งบนเตียง  ดึงยางรัดผมจากข้อมือ

    ถอดชุดกระโปรงนอนผ้าแพรสีครีมเนื้อดีเลยเข่าประมาณหนึ่งถึงสองเซนไปจากตัว   เเล้วเพ่ง

    สายตาเจ้าชู้สำรวจเรือนร่างอย่างละเอียด   ไม่นานเขาจึงกดหัวไหล่ฉันแนบลงไปกับเตียงนอน

    พร้อมกับร่างหนาที่ทาบทับลงมาโดยเร็ว

     

     

     

     

    “ อ้าาา~  อื้อ~ ฮะ..อ๊ะ   ที่รักคะอะอื้อ~ ที่รัก    

     

     

     

    “ อาาเสียงร้องของคุณเนี่ย..เหมือนเจ้าวาวาเลย~    ผมชอบมันมากเลยนะ

    คิมคีซุน…. พูดคำว่ารัก..ให้ผมได้ยินหน่อยสินะ    

     

     

     

    “ อื้อ~  ฉันรักคุณฉันรักคุณฉันรักคุณ  อะอื้อ ” เสียงครางที่ไม่ได้ตั้งใจจะเปล่ง

    ออกมาแต่อย่างใด   ทำให้ฉันถึงกับเอนศรีษะพิงพาดไปบนไหล่กว้าง สองมือจับเส้นผม

    เขาไว้ไม่ปล่อย    เมื่อปลายนิ้วทั้งสามขยับขึ้นลงช้าๆ ผ่านกางเกงชั้นในลูกไม้เนื้อบางสี

    ชมพู่อ่อน ก่อนจะรูดไปจากท่อนขา       ไม่ทันไรความเป็นตัวตนอันคับแน่นจึงเข้าครอบ

    ครองร่างกายฉันไปชั่วขณะ   

     

     " คิมคีซุน~ อะอ๊ะ...อื้อ  " 


    " หืมมม... คะ...   "  



    "  ผมรักคุณนะ~   "   แม้จะเรียกสติกลับคืนมาก็ตาม     แต่ฉันก็ยังไม่สามารถทำได้อย่าง
    ที่คิดไว้ตั้งแต่ต้น
    หากปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเขาแล้วล่ะก็    คืนนี้ฉันก็คงเหมือนกับแมลงเม่า
    ตัวเล็กๆ
    ที่พยายามจะบินเข้ากองไฟอันลุกโชนนั้น   อย่างเชื่องช้า



    " ฉัน....ก็รักคุณค่ะ "     

     


     

     

     

     ฉันอยากจะไปปั่นจักรยานในสวนเยริมจริงๆนะ      คุณจงฮยอนรีบวางหนังสือพิมพ์

    ลงอย่างใจเย็น    หลังจากตัดสินใจพูดออกไป  เพราะฉันกลัวว่าจะเป็นเหมือนเมื่อวานอีก

    แต่วันนี้ค่อยดีหน่อย     สามีของฉันเขาไม่พูดอะไรนอกจากจะหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาจิบ

    อึกหนึ่งและวางมันลงที่เดิม 

     

     

     

     

      ถ้าคุณอยากไปจริงๆ    ไว้วันพฤหัสนี้ผมพาคุณกับลูกไปที่นั่นก็ได้    

     

     

     

     

    “ จริงๆเหรอ ” 

     

     

     

    “ ผมจะโกหกคุณไปเพื่ออะไร..   

     

     

     

      คุณพูดจริงๆนะ  ห้ามโกหกฉัน   ห้ามโกหกฉันนะคะน้า      เขายิ้ม น้ำเสียง

    แลดูอ่อนโยนกว่าเมื่อวาน   ฉันจึงโผล่เข้ากอดเขาอย่างดีอกดีใจ   ในขณะนั้น

    จอนฮโยซองหล่อนก็เดินเข้ามาได้จังหวะพอดี   

     

     

     

    “ ผู้จัดการคะ   ไม่ทราบว่าจะให้เริ่มทำยีสต์ใหม่เลยมั้ยค่ะ     ดิฉันกลัวว่าออร์เดอร์

    อาทิตย์หน้านี้จะมาเร็วกว่าปกติน่ะคะ    

     

     

     

     งั้นเหรอ  กี่โมงเเล้วเนี่ย   ให้ตายสิ!!   ผมต้องรีบเข้าไปดูในโรงงานหน่อยแล้ว

    เดี๋ยวบ่ายวันนี้จะมีคนงานมาใหม่     คุณอย่าลืมสัมภาษณ์เขาด้วยนะ  ถ้ามีอะไร

    ให้รีบโทรหาผม     ผมต้องรีบไปแล้ว ไว้เจอกัน ” 

     

     

     

    “ รีบกลับมาเร็วๆนะคะที่รัก   ฉันคงคิดถึงคุณม้ากมากเลยแหละ   โชคดีนะคะ    

    สิ้นประโยคนั้น   สามีของฉันก็ลุกพรวดออกจากม้านั่งออกไปจากห้องทำงานด้วย

    ความรีบเร่ง     ในขณะที่ฉันได้แต่มองปฎิกิริยาฮโยซอง     ไม่ทันไรหล่อนซึ่งเดิน

    ตามหลังเขากลับตวัดสายตามองฉัน    เป็นครั้งแรกเลยมั้งที่ฉันได้แต่จ้องหน้า

    หล่อนกลับ   


    >>>>>>    ต่อ  <<<<<<

     

        

     

     “ คุณหนูทำงานเร็วๆหน่อยสิคะ” 

     

     

      เขียนลงไปในนี้หรือฮะคุณครูเจน!! 

     

     

    “ ใช่คะ    ถ้าได้คำตอบแล้วก็เขียนใส่ลงไปเลย     

     

      มินฮวานกำลังเรียนวิชาภาษาอังกฤษบนโต๊ะม้าหินอ่อน   ฉันซึ่งนั่งอยู่ใต้ต้น

    เมเปิ้ลที่อยู่ห่างๆจากพวกเขาประมาณยี่สิบเมตรถึงกับละสายตาจากนิยาย

    ในมือ    ครูสอนภาษาอังกฤษคนนี้  ดูแปลกๆ    ขณะที่ฉันตัดสินใจลุกขึ้น

    ไปหาพวกเขาอย่างไม่รอช้า   เสียงที่ฉันรู้สึกคุ้นชินเป็นอย่างดี    ใบหน้าของ
    ฉันก็ค่อยๆหันไปทางต้นเสียงที่ว่า

     

     

      ที่นี่ยังรับสมัครคนงานอยู่ใช่มั้ยครับ ”   

     

     

    ……….  

     

     

     

      คิมคีซุน ”     ฉันหยุดลมหายใจไปชั่วขณะ   ทันทีที่ร่างสูงร้อยแปด

    สิบเอ็ดเซนติเมตรสะพายกระเป๋าไว้ด้านหลัง    เดินก้าวเข้ามาหาฉันเพียง

    หนึ่งก้าวสั้นๆ   หากเป็นคนแปลกตาฉันก็คงจะต้องถอยหลังกลับ    ผู้ชาย

    คนนี้คือ     ฉันไม่ได้ฝันกลางวันไปหรอกใช่มั้ย  

     

     

     

    “ เชวมินโฮ นายคือเชวมินโฮใช่มั้ย”

     

     

    “ ขอโทษนะ….  ถ้อยคำสั้นๆ ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มจึงกลายเป็นใบหน้าที่

    เศร้าหม่น    ร่างของมินโฮลงไปนั่งคุกเข่าโดยไม่บอกกล่าว  ฉันพยายามฉุด

    เขาให้ลุกขึ้นสายตา  ระหว่างที่สองสายตาจ้องมาทางฉันและเขาด้วย

    ความสงสัย

     

     

     

      ลุกขึ้นเถอะ 

     

     

     

     

     “  ฉันเสียใจ  เสียใจจริงๆ คิมคีซุน...เธออย่าเพิ่งวิ่งหนีฉันเลยนะ    

     

     

     

     

     มินโฮคุณลุกขึ้นเดี๋ยวนี้นะ ” 

     

     

     

      ฉันรู้สึกผิดกับเธอมากนะ   อย่างน้อยๆมันก็พอจะทำให้เธอหายโกรธฉันได้ ” 

     

     

     

    “ พอเหอะ ~คนที่คุณควรจะขอโทษไม่ใช่ฉันแต่เป็น ” 

     

     

     

      ไปให้พ้นนะ !!     น้ำเสียงตะคอก  ฉันและเชวมินโฮถึงกับสะดุ้งตื่น หันไป

    มองทางเดียวกัน   คุณตาเดินผึ่งผายออกมาจากอาคาร    เพ่งสายตาจ้องมอง

    คุณเชวมินโฮไม่กะพริบ

     

     

     

     คุณปู่ 

     

     

     

    “ ฉันไม่ใช่ปู่แกไอ้เด็กเวร    อย่ามาคิดเหยียบที่นี่   ไปซะ!!   

     

     

     

      “ ผมรู้ว่าผมไม่สมควรได้รับการให้อภัยจากใคร    แต่ผมมาที่นี่ก็เพราะว่าผมต้อง

    การเป็นแค่คนงานธรรมดาๆ ในโรงงานของคุณปู่เท่านั้น   เพราะงั้นได้โปรดเชื่อใจ

    ผมเถอะครับ   ผมตัดสินใจลาออกจากที่นั้น    เพราะผมรู้สึกละอายใจตัวเอง

    และไม่อยากดิ้นรนกับสิ่งเหล่านั้นอีก       

     

     

      จะให้ฉันเชื่อใจแกได้สักกี่เปอร์เซ้นต์     อย่าหวังว่าฉันจะให้อภัยแก่ทุกอย่าง

    สิ่งที่แกกับแม่ทำไว้กับหลานฉันมันยากเกินกว่าที่ฉันจะให้อภัยแกได้   

    ฉันก็จะให้แกเป็นแค่คนงานธรรมดาของที่นี้   อย่าได้คิดหวังสูงเหมือน

    กับแม่แก   เพราะงั้นแกอาจจะโดนฉันไล่ตะเพิดก่อนเริ่มทำงานแน่   

     

     

    ….. ขอบคุณครับคุณปู่ !!    

     

     

     

      อย่ามาเรียกฉันว่าคุณปู่นะ    

     

     

     

    “ ครับนายท่าน      เหตุการณ์ทั้งหมดจบลงด้วยดี    คุณปู่เดินผ่านเราไปแล้ว  

    ระหว่างที่ฉันหันกลับมาทางเชวมินโฮอย่างโล่งอก    ทว่าสายตาดันสะดุดกับ

    ร่างๆหนึ่ง  แทมินกำลังยืนอยู่ข้างหลังเขา     เมื่อเขาเห็นว่าฉันมองเขาอยู่

    แทมินจึงส่งยิ้มกลับมาพร้อมกับเดินจากไป       มินฮวานผู้ไม่ประสีประสา

    ดันรั้งมือเขาไว้เสียก่อน   เป็นเหตุให้มินโฮหันไปทางต้นเสียงทันใด      

     

     

     

     

       

     

     



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×