คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : CHAPTER 2 INNOCENT II 100%
CHAPTER 2 INNOCENT II
“ เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ ”
“ ฉันจะชวนมินฮยอก เราจะไปปั่นจักรยานในสวนเยริมกัน ”
“ สติดีอยู่หรือเปล่า ”
“ ทำไมคะ อย่างน้อยมินฮยอกก็ไม่ได้คิดทำอะไรไม่ดีได้อย่างใครบางคนหรอก ”
“ ว่าไงนะ ”
“ เอ่อผู้จัดการคะ ไว้พรุ่งนี้ฉันค่อยมาใหม่ดีกว่า ลาล่ะค่ะ”
“ นี่คุณจะให้ผมขายหน้าอย่างงั้นใช่มั้ย ถ้าผมไม่อนุญาตคุณก็ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น แล้วนั่น
จะไปไหน ” เสียงตะโกนเรียกค่อยๆไกลออกไปเรื่อยๆ ฉันไม่แม้แต่จะหันหลังกลับ เดิน
ก้าวเท้ายาวๆและเลี้ยวเข้าไปทางขวามือ แล้วห้องที่เต็มไปด้วยเสียงบรรเลงเปียโนสุดพิลึก
จึงหยุดชะงักกับการมาของฉัน
“ แม่!! ผมเล่นเปียโนเก่งมั้ยฮะ ” มินฮวานกระโดดลงมาจากเก้าอี้ โผล่เข้ากอด
ฉันทันทีที่เดินเข้ามาในห้อง ระหว่างนั้นแทมินก็เงยหน้ามองฉันด้วยความงุนงง
“ มินฮวานวันนี้เราพอแค่นี้ก่อน ไว้คราวหน้าอาจะสอนเล่นเพลงหมีสามตัว ดีมั้ย
มินฮวาน ”
“ เยี่ยมไปเลยฮะ~ หมีสามตัว..หมีสามตัว คุณอาแทมินเพลงหมีสามตัวมันร้องไง
ผมร้องไม่เป็น ”
“ นี่!! มินฮวาน แม่ว่า รีบๆเข้านอนได้แล้วนะ พรุ่งนี้หนูมีเรียนภาษาอังกฤษกับ
คุณครูเจนไม่ใช่รึไง ”
“ ทำไมแม่ถึงชอบไล่มินฮวานทุกทีเลยอ่ะ ผมโกรธแล้วนะฮะ ”
“ แม่พูดครั้งเดียวลูกน่าจะฟังรู้เรื่องนะ ”
“ โป้ง!! มินฮวานไม่รักแม่แล้ว ชิ~ วาวาแกได้ยินมั้ยว่าแม่มดใจร้ายกับลูกพี่แกแค่ไหน”
“ มินฮวาน!!”
“ ไปนอนกันเถอะนะ เมี้ยว~ เมี้ยว~ ” จงฮยอนน้อยก้มหน้าพูดกับวาวาซึ่งนอนหมอบอยู่
ใต้เปียโนหลังใหญ่แล้วอุ้มมันออกไปนอกห้อง ฉันละสายตาจากจงฮยอนน้อยและวาวา
ชั่วครู่ ก่อนจะหันไปหาแทมินที่น่าจะรอฟังฉันพูดอยู่
“ พี่สาว .พี่ทะเลาะกับพี่จงฮยอนอีกแล้วสินะ ”
“ อืมม ก็ไม่เชิงหรอก ”
“ มีวันไหนบ้าง ที่พวกพี่ไม่ทะเลาะกันเพราะเรื่องพวกนี้น่ะ ”
“ ฉันแค่ชวนเขาออกไปเที่ยว แต่เขาน่ะไม่ยอมฟังฉันเลย เห็นงานสำคัญ
กว่าเมียตัวเองได้ไงก็ไม่รู้ ยัยนั่นก็เหลือเกินนะไม่รู้ว่าจะปรึกษาเรื่องงาน
อะไรเอาป่านนี้ ถามหน่อยว่ามันใช่เวลางานมั้ย ”
“ พี่หมายถึง จอนฮโยซอง ”
“ ใช่! เขาพูดว่าไงรู้มั้ย ‘เลิกก่อกวนแล้วออกไปซะ’ นั่นล่ะสิ่งที่เขาพูดกับฉัน คิดว่า
ฉันไม่รู้หรือว่าวันก่อน หล่อนเอาแต่เล่นโทรศัพท์ในเวลางานทั้งวันเลย พอเจ้านาย
ตัวเองกลับมา หล่อนก็ดูขยันดี น่าหมั่นไส้ชะมัด ”
“ ของแบบนี้พี่ต้องทำใจหน่อยนะ มันเป็นเรื่องปกติน่ะ พวกผู้หญิงอย่างจอนฮโยซอง
มีเยอะแยะไป พี่น่าจะภูมิใจในข้อนี้นะ ว่าพี่จงฮยอนเป็นคนที่ชอบคนยาก ถ้าเขาได้
รักใครแล้ว ไม่มีทางที่พี่จะมองผู้ชายคนอื่นได้นอกจากเขาหรอก ”
คืนนี้ฉันนึกถึงใบหน้าจอนฮโยซองจนนอนไม่หลับ ถอนหายใจขณะมุดตัวอยู่
ใต้ผ้าห่ม ไม่รู้ว่าเขากลับเข้ามารึยังนะ ให้ตายสิป่านนี้นังฮโยซองคงนอนหัวเราะ
เยาะฉันสนุกปากแล้วมั้ง
“ ไม่น่าเลย ไม่น่าเลย ”
“ คีซุน .คุณทำให้ผมนอนไม่หลับนะ ” ฉันสะดุ้งตื่นหันหลังกลับไปยังต้นเสียงที่ว่าทันใด
พบว่าคุณจงฮยอนนอนหนุนมือตัวเอง และสายตาซึ่งมองมาที่ฉันนั้นแลดูผิดหวังราวกับ
กำลังโกรธ ดังนั้นฉันจึงรีบหันหน้ากลับมาขยับผ้าห่มมาทางตัวเองให้มากที่สุด
“ ทำไมคะ โกรธที่ฉันพูดแทงใจดำคุณเมื่อตอนหัวค่ำรึไง ”
“ ไม่รู้หรือว่าผมรู้สึกอับอายขายหน้าแค่ไหน เธอเป็นเลขาผม อย่าคิดอะไร
ที่มันไม่มีทางเป็นไปได้นักสิ ”
“ คุณไม่ยอมฟังฉันแถมยังไล่ฉันไปอีก จะไม่ให้โกรธได้ยัง ห๊า!! คนโง่!! ”
“ ผมขอโทษ แต่คุณน่าจะแยกแยะหน่อย คุณเป็นแม่ของลูกผมไม่ใช่รึไง ช่วยทำหน้าที่
ภรรยาที่เชื่อฟังสามีด้วย ” ว่าแล้วอีตานั่นก็เลื่อยคลานขึ้นมาบนตัว พลิกร่างฉันขึ้นไป
อยู่บนตัวเขาเร็วไว นี่ฉันกำลังโกรธเขาอยู่นะ อีตาบ้า!!ยังมีหน้ามาเล่นแบบนี้อีกหรือ
ปล่อยฉันลงนะ
“ ปล่อยฉันลงสิ !! TTOTT ”
“ ไม่เอาน่า ผมกำลังจะลงแดงตายเพราะคุณเนี่ยแหละ ”
“ ช่างปะไร!! ตอนนี้ฉันมีน้ำโหเยอะมาก ”
“ ไม่เอาน่า วันพฤหัสเราสามคนไปเที่ยวไหนกันดีล่ะ หรือไปปั่นจักรยานชมสุสานดี ”
เปลี่ยนเรื่องเฉยเลยแฮะ -_-‘’
“ ฉัน เอ่อ . นี่ ” ที่ฉันตอบไม่ได้ก็เพราะมือปลาหมึกของคุณนั่นล่ะ
“ มืออยู่นิ่งๆไม่เป็นรึไง ” ฉันเอ่ยเสียงห้วนหน้าแดงจัด เอื้อมไปจับมือเขาออกขณะ
ปลายนิ้วเรียวยาว จงใจเลิ่กชายกระโปรงผ้าแพรสีชมพูอ่อนเลยเกือบถึงต้นขา ฝ่า
มือบีบแก้มก้นฉันอย่างนึกสนุก
“ นี่!! เอามือ ออกไปจากก้นฉันนะคนทุเรศ ” ฉันเอื้อมไปตีมือทั้งสองข้างเต็มๆแรง
ขบเคี้ยวเขี้ยวฟันในท่าทีกะล่อนนั้นเต็มแก่ ตานี่ดันกลับหัวเราะเยาะ เอาแต่ส่งสายตา
เจ้าเลห์อีกระลอก
“ วันนี้คุณดูเซ็กซี่จัง ไม่ได้ใส่คอนเท็คเลนส์เหรอ ”
“ จะบ้ารึไง ใครเขาใส่คอนเท็คเลนส์ก่อนนอนกันบ้างล่ะ ปล่อยฉันลงนะ ”
“ นั่นสินะ ผมลืมไปเลย ”
“ ที่รักคะ ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ ถ้านับหนึ่งถึงสามเมื่อไหร่โดนไล่ออกไปนอนนอก
ห้องแน่ ฉันจะเริ่มนับหนึ่งแล้วนะ ”
“ มุกนี้เด็กไปนะ คืนนี้คุณไม่อยากนอนกับผมรึไง เลิกนับเหอะ ”
“ นับหนึ่ง!! ”
“ ต่อไปนี้ผมจะเชื่อฟังสิ่งที่เมียผมพูดทุกคำ ”
“ นับสอง!! “
“ ผมขอโทษ ยกโทษให้ผมเถอะนะ ”
“ ฉันจะนับสามแล้วนะ ..”
“ ก็ได้ ผมปล่อยคุณแล้วพอใจรึยัง ” เขาคลายมือทั้งสองออกจากเอวฉัน ฉันเลยรีบลุก
ออกจากตัวเขาจัดการสภาพตัวเองให้เขาที่ พร้อมกับเอามือสางผมหยิกเป็นลอนจับมัดรวบไว้
ด้วยหนังยางรัดผมสีดำสนิททิ้งตัวลงนอนบนหมอน ไม่ทันหลับตาดีตานี่กลับเล่นมุกต่อรอง
ฉันอีกแล้ว
“ ฉันไม่อยากเป็นไมเกรนเพราะคุณตอนยี่สิบสี่นี่หรอกนะจะบอกให้ ”
“ แล้วไง ถ้าคุณไม่นอนกับผมคืนนี้ พรุ่งนี้อาจจะสองยกไม่รู้ด้วยนะ ดีล่ะท่าน
จะได้มีหลานเพิ่มอีกคนซักที ”
“ นี่คุณเห็นฉันเป็นอะไร!! เลิกส่งสายตาแบบนั้นแล้วนอนซะนะ นะคะที่รักนอนได้แล้ว ”
“ นี่ผมเอาจริงนะ สามวันแล้วนะ!! สามวัน!! คุณเลิกผลัดวันประกันพรุ่งซะทีเฮ่อะ ”
“ ได้ .เอางั้นก็ได้!!! คุณอยากนอนกับฉันเองนะ ” และแผนการแก้เผ็ด
ที่ทำให้เขาอารมณ์ค้างจึงเริ่มต้นขึ้น
ฉันกระโดดขึ้นไปนั่งคร่อมบนสะโพกเขาทันที ส่งสายเย้ายวนพร้อมกับฝ่ามือ
ลูบไล้ผ่านแผงอก ก่อนจะค่อยๆปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้าทิ้ง เหลือเพียง
เสื้อกล้ามสีขาวบางมองเห็นผิวขาวเนียนละเอียดชัดเจน
“ ที่รักคุณ ชอบมั้ยหืมมม.....” ฉันก้มหน้าก้มตายิ้มชั่วร้าย ทั้งๆที่ยังกวาดลิ้นสากๆ
ของตัวเองไปทั่วแผงอกอันลำสั่นอย่างเชื่องช้า ส่วนมือข้างหนึ่งค่อยๆลูบระหว่างกลาง
ของกางเกงวอร์มสีกรมท่าขึ้นลง
“ นี่..ถ้าคุณเป็นแม่มดแล้ว ผมเป็น อะไรดีล่ะ พ่อมดในเรื่องแฮรี่ พ็อตเตอร์ก็ไม่เลวนะ
หรือว่าจะเป็นโจรสลัดปล้นสวาทอย่างดี ”
“ ฉันไม่ให้คุณเป็นอะไรทั้งนั้น ”
“ ผมเป็นสามีคุณนี่ ~ ” แล้วฉันก็ส่งยิ้มหวานแบบเซ็กซี่ๆ พร้อมกับดึงหนังยางรัดผม
ปล่อยสยายยาวคลุมหัวไหล่ โน้มตัวจูบริมฝีปาก ก่อนจะไล้ต่ำลงมายังเนินอก ถลกเสื้อ
กล้ามสีขาว ปลายลิ้นจัดการหยอกเย้ายอดอกสีน้ำตาลอ่อน จนเรียกเสียงคำราม
ต่ำเบาๆเปล่งดังภายในลำคอ
“ อ้าาา... คุณทำให้ผมคลั่งแล้วนะ ”
“ ใจเย็นสิคะที่รัก หึๆ อีกนิดเดียวเอง ” ฉันหัวเราะเบาๆพลางใช้ปลายนิ้วลากผ่าน
แผงอก ก่อนจะเหยียดตัวตรงมือค่อยๆเอื้อมไปปลดตะขอพร้อมกับโยนบราลูกไม้ทิ้งไปด้านหลัง
จ้องมองดวงตาคู่สวยที่กำลังเบิกโต เพราะไม่เคยเห็นฉันทำเช่นนี้มาก่อน ดังนั้นร่างกาย
ของเขาจึงตอบสนองเร็วกว่าที่คิด
“ คิมคีซุน!! ไม่ว่าผมจะมองยังไง คุณก็เหมือนกับพี่ชายของคุณแทบทุกอย่างเลย รู้อะไร
มั้ย คุณนะสวยกว่าพี่ชายคุณเป็นร้อยเท่า เพราะงั้นผมถึงปล่อยคุณไปไม่ได้ยังไงล่ะ ”
หลังจากที่เขาเอ่ยคำนั้น เอื้อมมือสัมผัสใบหน้าด้านข้างแผ่วเบา ฉันได้เเต่อมยิ้มออกมาอย่าง
รู้สึกดี ปัญหาหลักก็คือ .แผนแก้เผ็ดเขาจะเอาไงต่อดี =_=''
“ ฮือ ต่อสิ.......ผมรออยู่นะ ”
“ ..”
“ คิมคีซุน ”
“ ..” ปล่อยผมแล้วเอาไงดี เกี่ยวคว้าคอเขาขึ้นมาจูบเลยดีมั้ย อาาา นี่ฉันกลาย
เป็นผู้หญิงแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน แล้วอย่างงี้แผนการของฉันจะราบรื่นได้ไง
“ นึกไม่ออกเหรอ งั้นผมจะทบทวนบทเรียนให้คุณเอง ” O_O ห๊าาา~ ว่าไงนะ
“ เดี๋ยวก่อนเซ่~ อุ้บ ” ถึงตอนนี้ฉันแทบจะไม่มีปัญญาปริปาก หนุ่มฮอตอย่างเขา
เล่นเกี่ยวคว้าลำคอฉันลงต่ำ ยกตัวขึ้นเล็กน้อยมือประคองใบหน้าแล้วเป็นฝ่าย
จูบริมฝีปากฉันเสียเอง
“ อะอ๊ะ นี่~” ยางรัดผมที่ฉันทิ้งมันไปเมื่อครู่นี้ คุณจงฮยอนกลับหยิบมันขึ้นมา
ขณะผลักฉันนอนลงบนเตียง แล้วจับแขนทั้งสองข้างของฉันมัดรวบเข้าไว้ด้วยกัน
ก่อนที่ศรีษะเขาจะสอดเข้ามาในช่องโหว่งนั้น ริมฝีปากบางพลันประกบจูบริมฝีปากฉัน
พลางแทรกลิ้นอุ่นๆกวาดเอาความหวานในกันและกันอย่างดูดดื่ม
“ คุณพอจะจำได้คร่าวๆหรือยัง หึ~ จะให้ผมตายใจและก็อารมณ์ค้างไปเลยใช่มั้ยผมรู้
หรอกน่า”
“ รู้ได้ไง ”
“ ก็สีหน้าแบบนั้นมันยังไม่ใช่ จะให้ผมพูดยังไงดีล่ะ เหมือนกับคุณกำลังคิดอะไรอยู่ในหัว
คุณแพ้ผมราบคราบเลยนะ ดูเหมือนว่าหอยนางรมที่ผมกินไปเมื่อวันก่อนจะออกฤทธิ์
แล้วสิทำไงดี ” ไม่นานนักเขาก็ประคองตัวฉันลุกขึ้นนั่งบนเตียง ดึงยางรัดผมจากข้อมือ
ถอดชุดกระโปรงนอนผ้าแพรสีครีมเนื้อดีเลยเข่าประมาณหนึ่งถึงสองเซนไปจากตัว เเล้วเพ่ง
สายตาเจ้าชู้สำรวจเรือนร่างอย่างละเอียด ไม่นานเขาจึงกดหัวไหล่ฉันแนบลงไปกับเตียงนอน
พร้อมกับร่างหนาที่ทาบทับลงมาโดยเร็ว
“ อ้าาา~ อื้อ~ ฮะ..อ๊ะ ที่รักคะ อะอื้อ~ ที่รัก ”
“ อาา เสียงร้องของคุณเนี่ย..เหมือนเจ้าวาวาเลย~ ผมชอบมันมากเลยนะ
คิมคีซุน . พูดคำว่ารัก..ให้ผมได้ยินหน่อยสินะ ”
“ อื้อ~ ฉันรักคุณ ฉันรักคุณ ฉันรักคุณ อะอื้อ ” เสียงครางที่ไม่ได้ตั้งใจจะเปล่ง
ออกมาแต่อย่างใด ทำให้ฉันถึงกับเอนศรีษะพิงพาดไปบนไหล่กว้าง สองมือจับเส้นผม
เขาไว้ไม่ปล่อย เมื่อปลายนิ้วทั้งสามขยับขึ้นลงช้าๆ ผ่านกางเกงชั้นในลูกไม้เนื้อบางสี
ชมพู่อ่อน ก่อนจะรูดไปจากท่อนขา ไม่ทันไรความเป็นตัวตนอันคับแน่นจึงเข้าครอบ
ครองร่างกายฉันไปชั่วขณะ
" คิมคีซุน~ อะอ๊ะ...อื้อ "
" หืมมม... คะ... "
" ผมรักคุณนะ~ " แม้จะเรียกสติกลับคืนมาก็ตาม แต่ฉันก็ยังไม่สามารถทำได้อย่าง
ที่คิดไว้ตั้งแต่ต้น หากปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเขาแล้วล่ะก็ คืนนี้ฉันก็คงเหมือนกับแมลงเม่า
ตัวเล็กๆที่พยายามจะบินเข้ากองไฟอันลุกโชนนั้น อย่างเชื่องช้า
" ฉัน....ก็รักคุณค่ะ "
“ ฉันอยากจะไปปั่นจักรยานในสวนเยริมจริงๆนะ ” คุณจงฮยอนรีบวางหนังสือพิมพ์
ลงอย่างใจเย็น หลังจากตัดสินใจพูดออกไป เพราะฉันกลัวว่าจะเป็นเหมือนเมื่อวานอีก
แต่วันนี้ค่อยดีหน่อย สามีของฉันเขาไม่พูดอะไรนอกจากจะหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาจิบ
อึกหนึ่งและวางมันลงที่เดิม
“ ถ้าคุณอยากไปจริงๆ ไว้วันพฤหัสนี้ผมพาคุณกับลูกไปที่นั่นก็ได้ ”
“ จริงๆเหรอ ”
“ ผมจะโกหกคุณไปเพื่ออะไร..”
“ คุณพูดจริงๆนะ ห้ามโกหกฉัน ห้ามโกหกฉันนะคะน้า ” เขายิ้ม น้ำเสียง
แลดูอ่อนโยนกว่าเมื่อวาน ฉันจึงโผล่เข้ากอดเขาอย่างดีอกดีใจ ในขณะนั้น
จอนฮโยซองหล่อนก็เดินเข้ามาได้จังหวะพอดี
“ ผู้จัดการคะ ไม่ทราบว่าจะให้เริ่มทำยีสต์ใหม่เลยมั้ยค่ะ ดิฉันกลัวว่าออร์เดอร์
อาทิตย์หน้านี้จะมาเร็วกว่าปกติน่ะคะ ”
“ งั้นเหรอ กี่โมงเเล้วเนี่ย ให้ตายสิ!! ผมต้องรีบเข้าไปดูในโรงงานหน่อยแล้ว
เดี๋ยวบ่ายวันนี้จะมีคนงานมาใหม่ คุณอย่าลืมสัมภาษณ์เขาด้วยนะ ถ้ามีอะไร
ให้รีบโทรหาผม ผมต้องรีบไปแล้ว ไว้เจอกัน ”
“ รีบกลับมาเร็วๆนะคะที่รัก ฉันคงคิดถึงคุณม้ากมากเลยแหละ โชคดีนะคะ ”
สิ้นประโยคนั้น สามีของฉันก็ลุกพรวดออกจากม้านั่งออกไปจากห้องทำงานด้วย
ความรีบเร่ง ในขณะที่ฉันได้แต่มองปฎิกิริยาฮโยซอง ไม่ทันไรหล่อนซึ่งเดิน
ตามหลังเขากลับตวัดสายตามองฉัน เป็นครั้งแรกเลยมั้งที่ฉันได้แต่จ้องหน้า
หล่อนกลับ
>>>>>> ต่อ <<<<<<
“ คุณหนูทำงานเร็วๆหน่อยสิคะ”
“ เขียนลงไปในนี้หรือฮะคุณครูเจน!!”
“ ใช่คะ ถ้าได้คำตอบแล้วก็เขียนใส่ลงไปเลย ”
มินฮวานกำลังเรียนวิชาภาษาอังกฤษบนโต๊ะม้าหินอ่อน ฉันซึ่งนั่งอยู่ใต้ต้น
เมเปิ้ลที่อยู่ห่างๆจากพวกเขาประมาณยี่สิบเมตรถึงกับละสายตาจากนิยาย
ในมือ ครูสอนภาษาอังกฤษคนนี้ ดูแปลกๆ ขณะที่ฉันตัดสินใจลุกขึ้น
ไปหาพวกเขาอย่างไม่รอช้า เสียงที่ฉันรู้สึกคุ้นชินเป็นอย่างดี ใบหน้าของ
ฉันก็ค่อยๆหันไปทางต้นเสียงที่ว่า
“ ที่นี่ยังรับสมัครคนงานอยู่ใช่มั้ยครับ ”
“ .”
“ คิม คี ซุน ” ฉันหยุดลมหายใจไปชั่วขณะ ทันทีที่ร่างสูงร้อยแปด
สิบเอ็ดเซนติเมตรสะพายกระเป๋าไว้ด้านหลัง เดินก้าวเข้ามาหาฉันเพียง
หนึ่งก้าวสั้นๆ หากเป็นคนแปลกตาฉันก็คงจะต้องถอยหลังกลับ ผู้ชาย
คนนี้คือ ฉันไม่ได้ฝันกลางวันไปหรอกใช่มั้ย
“ เชว มินโฮ นายคือเชวมินโฮใช่มั้ย”
“ ขอโทษนะ .” ถ้อยคำสั้นๆ ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มจึงกลายเป็นใบหน้าที่
เศร้าหม่น ร่างของมินโฮลงไปนั่งคุกเข่าโดยไม่บอกกล่าว ฉันพยายามฉุด
เขาให้ลุกขึ้นสายตา ระหว่างที่สองสายตาจ้องมาทางฉันและเขาด้วย
ความสงสัย
“ ลุกขึ้นเถอะ ”
“ ฉันเสียใจ เสียใจจริงๆ คิมคีซุน...เธออย่าเพิ่งวิ่งหนีฉันเลยนะ ”
“ มินโฮคุณลุกขึ้นเดี๋ยวนี้นะ ”
“ ฉันรู้สึกผิดกับเธอมากนะ อย่างน้อยๆมันก็พอจะทำให้เธอหายโกรธฉันได้ ”
“ พอเหอะ ~คนที่คุณควรจะขอโทษไม่ใช่ฉันแต่เป็น ”
“ ไปให้พ้นนะ !! ” น้ำเสียงตะคอก ฉันและเชวมินโฮถึงกับสะดุ้งตื่น หันไป
มองทางเดียวกัน คุณตาเดินผึ่งผายออกมาจากอาคาร เพ่งสายตาจ้องมอง
คุณเชวมินโฮไม่กะพริบ
“ คุณปู่ ”
“ ฉันไม่ใช่ปู่แกไอ้เด็กเวร อย่ามาคิดเหยียบที่นี่ ไปซะ!! ”
“ ผมรู้ว่าผมไม่สมควรได้รับการให้อภัยจากใคร แต่ผมมาที่นี่ก็เพราะว่าผมต้อง
การเป็นแค่คนงานธรรมดาๆ ในโรงงานของคุณปู่เท่านั้น เพราะงั้นได้โปรดเชื่อใจ
ผมเถอะครับ ผมตัดสินใจลาออกจากที่นั้น เพราะผมรู้สึกละอายใจตัวเอง
และไม่อยากดิ้นรนกับสิ่งเหล่านั้นอีก ”
“ จะให้ฉันเชื่อใจแกได้สักกี่เปอร์เซ้นต์ อย่าหวังว่าฉันจะให้อภัยแก่ทุกอย่าง
สิ่งที่แกกับแม่ทำไว้กับหลานฉันมันยากเกินกว่าที่ฉันจะให้อภัยแกได้
ฉันก็จะให้แกเป็นแค่คนงานธรรมดาของที่นี้ อย่าได้คิดหวังสูงเหมือน
กับแม่แก เพราะงั้นแกอาจจะโดนฉันไล่ตะเพิดก่อนเริ่มทำงานแน่ ”
“ .. ขอบคุณครับคุณปู่ !! ”
“ อย่ามาเรียกฉันว่าคุณปู่นะ ”
“ ครับนายท่าน ” เหตุการณ์ทั้งหมดจบลงด้วยดี คุณปู่เดินผ่านเราไปแล้ว
ระหว่างที่ฉันหันกลับมาทางเชวมินโฮอย่างโล่งอก ทว่าสายตาดันสะดุดกับ
ร่างๆหนึ่ง แทมินกำลังยืนอยู่ข้างหลังเขา เมื่อเขาเห็นว่าฉันมองเขาอยู่
แทมินจึงส่งยิ้มกลับมาพร้อมกับเดินจากไป มินฮวานผู้ไม่ประสีประสา
ดันรั้งมือเขาไว้เสียก่อน เป็นเหตุให้มินโฮหันไปทางต้นเสียงทันใด
ความคิดเห็น