คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : คือรักใช่ไหม : เหตุผลที่ 1
คือรักใช่ไหม : เหตุผลที่ 1
รถสปอร์ตเปิดประประทุนสีดำขับด้วยความเร็วเกิบ 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง บนถนนที่มี่รถไม่พลุกพล่านมากนัก รถเบี่ยงซ้ายทีขวาทีหลบหลีกรถที่อยู่ข้างหน้า มีหนุ่มผิวเข้มสวมแว่นตาดำเป็นคนขับ ไม่นานรถคันนั้นก็เลี้ยวเข้าไปในห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง
“สวัสดีครับ......คุณชาย...” ผู้จัดการและเหล่าพักงานของบริษัทของห้างต่างออกมาต้อนรับ คุณชายนภัทร ทายาทเจ้าของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ แต่คุณชายนภัทรกลับไม่สนใจเหล่าพนักงานที่ยืนยิ้มต้อนรับ กลับเดินเข้าไปในห้างโดยไม่สนใจอีกฝั่งหนึ่งของอีกประตู
“โอ๊ย!!....” เสียงของเด็กหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้น พร้อมกับร่างเล็กลงไปกองกับพื้นแต่คุณชายนภัทรกับไม่สนใจร่างของเด็กหนุ่มที่ล้มลงอยู่กับพื้นกลับเดินผ่านไปและปล่อยให้เด็กหนุ่มนอนอยู่กับพื้นอย่างนั้น เด็กหนุ่มเมื่อเห็นคู่กรณีไม่สนใจและไม่คิดที่จะรับผิดชอบก็รีบลุกและเก็บของที่กระจัดกระจายอยู่ที่พื้นแล้วรีบตามไป
“นี่คุณ.....คุณ.....นี่นาย!!หยุดเดี๋ยวนี้นะ” เด็กหนุ่มพยายามเรียกคู่กรณีที่กำลังตรงไปกดลิฟต์แต่ก็ดูทีท่าว่าเขาจะไม่สนใจจึงเร่งฝีเท้าแล้วไปคว้าไหล่เอาไว้
“อะไรของคุณเนี่ย!!” เมื่อคุณชายนภัทรถูกใครที่ไหนมาคว้าตัวเอาไว้ก็ทำให้โมโหแล้วกระคอกกลับไป
“ฉันมากกว่าที่จะต้องถามคำนั้น....อะไรกันทำคนอื่นเขาล้มแล้วยังไม่คิดจะรับผิดชอบอีก”
“ก็นายอยากเซ่อซ่าเดินไม่ดูทางทำไมละ”
“อ๋อนี่สรุปว่าฉันผิด...ทั้งที่ฉันเป็นคนเจ็บตัวเนี่ยนะ..เฮอะๆ” เด็กหนุ่มมีสีหน้างงกับคำพูดของคนตรงหน้าแล้วใช้นิ้วมาที่ตัวเอง
“ใช่นายผิด” คุณชายนภัทรตอบกลับไปอย่างกวนๆ และเป็นจังหวะเดียวกันที่ลิฟต์ลงมาพอดี เขาจึงจะเดินเขาไปในลิฟต์แต่ก็ต้องหยุด
“หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ...นายยังไปไหนไม่ได้มาคุยกับฉันให้รู้เรื่องก่อน” เด็กหนุ่มเมื่อเห็นคู่กรณีกำลังจะเดินเข้าลิฟต์ไปเขาจึงรั่งตัวคู่กรณีไว้ไม่ให้เขาไปในลิฟต์
“นายจะเอาอะไรกับฉันอีก!!” คุณชายนภัทรเมื่อถูกรั้งไว้ก็เริ่มโมโห
~อยากวอนขอให้อยู่....อยากวอนให้เธออภัย/ชอบก็จีบ ชอบก็จีบเลยเซ่ ชูวับ ชูวับ~ เสียงโทรศัพท์ของทั้งคู่ดังขึ้นระงับศึกฝีปากของคนทั้งสอง
“ฮัลโลครับพี่โน่/พ่อ” เด็กหนุ่มหันไปรับโทรศัพท์ พร้อมกับที่คุณชายนภัทรรับโทรศัพท์แล้วเดินเข้าลิฟต์ไป
“ครับพี่โน่เดี๋ยวริท...ไปนะครับ...ขอริทจัดการเรื่องไร้สาระให้เสร็จก่อนนะครับ”
“นี่นาย..เอ่อ....หายไปไหนแล้วเนี่ย...อย่าให้ฉันเจอนายอีกนะ...” หลังจากที่ริทวางสายจากโตโน่แล้วหันกลับมากะจะมาต่อว่าคู่กรณีต่อแต่คู่กรณีหายไปแล้ว
หลังจากที่คุณชายนภัทรเดินเข้าลิฟต์มาไม่นานลิฟต์ก็มาถึงชั้นที่เขาต้องการ ชั้นของผู้บริหารระดับสูง ภายในชั้นถูกตกแต่งอย่างสวยหรูบ่งบอกถึงความร่ำรวยของเจ้าของ หลังจากที่คุณชายนภัทรเดินออกจากลิฟต์ได้ไม่นาน ก็ถึงห้องของประธานบริษัท อินทร์ใจ กรุ๊ป
“มาแล้วหรอเจ้ากัน....” เสียงเข้มของชายวัย 40 เจ้าของบริษัท อินทร์ใจ กรุ๊ป ที่กำลังก้มหน้าก้มตาเซนเอกสารที่อยู่บนโต๊ะ ทักคุณชายนภัทรที่เปิดประตูเข้ามาโดยไม่ได้เงยหน้ามอง
“พ่อมีอะไรถึงเรียก...กัน...มาที่นี่” คุณชายนภัทรถามผู้เป็นพ่อด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะไม่ค่อยชอบที่นี่ซักเท่าไร
“ที่ฉันเรียกแกมาที่นี่...เพราะอยากให้เจอใครคนนึง” ผู้เป็นพ่อละจากการเซนเอกสาร เงยมามองหน้าลูกชาย
“ใคร...แล้วเขาอยู่ไหน...กันเห็นมีพ่อนั่งอยู่คนเดียวในห้องเนี่ย” คุณชายนภัทรหันไปดูรอบๆห้องแต่ก็ไม่พบใคร เห็นแต่ผู้เป็นพ่อนั่งอยู่คนเดียวในห้อง
“เดี๋ยวเขาก็มา...นั่งรอไปก่อน”
กริ๊ง..กริ๊ง...
~ท่านประธานค่ะคุณเรืองเดชมาแล้วค่ะ~
“เชิญเขาเข้ามา”
“ลุกขึ้นแล้วเดินไปเชิญลุงเดชมา” ผู้เป็นพ่อสั่งลูกชายที่กำลังนั่งทำหน้าสังกะตายอยู่ที่โซฟาให้ไปตอนรับคนที่กำลังเข้ามา
“ห่า...ลุงเดชมาหรอครับ” เมื่อคุณชายนภัทรได้ยินชื่อลุงเดชก็ลุกพรวดพราดไปที่ประตูทันที
“ลุงเดช......กันคิดถึงลุงเดชจังเลย” เมื่อประตูเปิดออกก็ปรากฏชายวัย 40 กว่าเดินเข้ามา ลุคคุณชายจอมขี้เก๊กหายไปไหนไม่รู้ เหลือเพียงแต่เด็กน้อยที่โผล่เข้าไปกอดคนตรงหน้า ด้วยความที่ลุงเดชเป็นเพื่อนสนิทของพ่อและเป็นคนที่คุณชายนภัทรรักมากคนนึง
“โอ๊ย...เบาๆๆเจ้ากัน...เราไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ..ดูซิเนี่ยโตเป็นหนุ่มหล่อไปแล้วเนี่ย” ด้วยความที่จากกันไปเกิบ 10 ปีทำให้คุณชายนภัทรเผลอกอดแน่นไปหน่อย
“ลุงเดชนะลุงเดช......หายไปตั้งนานไม่ยอมติดต่อมาหากันกับพ่อบ้างเลย”
“โทดที..ลุงมีฟาร์มต้องดูแลก็เลยไม่มีเวลามาเยี่ยม” หลังจากที่กอดจนหายคิดถึงคุณชายนภัทรก็พาลุงเดชเดินเข้าไปหาพ่อในห้อง
“ไงไอ้เดช....ไม่ยอมติดต่อกับมาเลยน่ะ” เมื่อเห็นว่าเพื่อนเดินเข้าห้องมาพร้อมกับลูกชาย นพลก็ลุกไปหาและพากันไปนั่งที่โซฟา
“โทดที....งานมันยุ่งเลยไม่มีเวลาลงมาเยี่ยม”
“พ่อนะพ่อ...ไม่ยอมบอกกันเลยนะ”
“ถ้าฉันบอกแก...ฉันก็อดเห็นคนเก๊กแตกดิว่ะ”
“555555555555555555555” นพลและเรืองเดชต่างหัวเราะชอบใจเมื่อแกล้งคุชายนภัทรได้สำเร็จ
“อยู่กับฉันนี่ทำครึม...แต่พ่อลุงเดชมาเข้าหน่อยเปลี่ยนเป็นคนละคนเลยนะ” นพลพูดเชิงน้อยใจ
“โถ่....อย่าน้อยใจดิ...ก็ที่กันต้องเก๊กเนี่ยเพราะกันเป็นลูกเจ้าของบริษัทระดับต้นๆของโลกเชี่ยวนะ....ทำอะไรดูไม่ดีก็เสียชื่อหมดซิ” คุณชายนภัทรแก้ตัวเสียยืดยาว ทำให้ผู้ใหญ่ทักคู่อดที่จะขำไม่ได้
“ยอมรับแล้วซิว่าเก๊กนะ” ลุงเดชยังไม่วายที่จะกัดคุณชายนภัทรต่อ
“5555555555555555555555555”
จะมีใครรู้บางว่าภาพครอบครัวที่ดูเคร่งเครียดเป็นภาพที่พวกเขาสร้างขึ้น แต่ที่จริงแล้วกับตรงกันข้าม ภาพเหล่านี้คงไม่มีใครเห็นบ่อยนัก
“ลุงเดช แล้วพี่รุจ กับ.......” คุณชายนภัทรกำลังจะถามถึงเพื่อนในวัยเด็กของเขาทั้ง 2 คนซึ่งเป็นลูกของลุงเดช แต่ยังไม่ทันได้เอยถึงอีกคนลุงเดชก็พูดขึ้นมาก่อน
“พวกเขาไม่ได้มาด้วยหรอก เจ้ารุจมันเรียนจบแล้วลุงเลยให้มันดูแลฟาร์มแทนลุง ส่วนอีกคนก็ลงมาอยู่กรุงเทพตั้ง 4 ปีแล้ว”
“ลงมาอยู่กรุงเทพแล้ว แต่ทำไมไม่มาหากันบ้างเลยอ่ะ ริทนะริท” คุณชายนภัทรได้แต่บ่นงุบงิบอยู่คนเดียว
“อยากเจอเขาละซิ” พ่อของกันพูดดักคอเหมือนรู้ใจลูก ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
“ไม่ต้องห่วงหรอกกัน.....เดียวก็ได้เจอกันแล้ว” ลุงเดชพูดพรางหันไปมองหน้านพล
“หมายความว่าไงครับ...เดียวก็ได้เจอกัน” คุณชายนภัทรถามอย่างสงสัย แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไรกลับมา มีเพียงคำว่า
“เดียวแกก็รู้เองละ เมื่อถึงเวลา”
"มันเป็นเซอร์ไพร์"
-------------------------โปรดติดตามตอนไป-------------------------
หลังจากที่ไรเตอร์หายหน้าหายตาไปนาน ก็เอามาลงให้ 1 ตอน ยาวๆๆ
ส่วนใครที่รออ่านเรื่องคาแรคเตอร์ผู้พิทักษ์อยู่รออีกหน่อยกำลังจะลงให้อ่านนะค่ะ
ตอนต่อไปมาลุ้นกันว่าจะเจอเซอร์ไพร์อะไร
ความคิดเห็น