ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {TAOKACHAFICTION}SYMPTON BOY ป่วยϟเต๋าคชา

    ลำดับตอนที่ #2 : sympton l chapter 1

    • อัปเดตล่าสุด 3 ธ.ค. 54




    Title : Sympton

    Paring : TaoKacha

    Rate : PG13

     

    Chapter  1



              “คุณหนูคะ คุณเต๋ามาแล้วค่ะ”  ป้าแม่บ้านท่าทางใจดีพูด ก่อนที่จะถือวิสาสะเปิดประตูห้องนอนของคชาแล้วผายมือเชิญให้คุณหมอหนุ่มเข้าไปข้างใน...


              ห้องนอนทรงสี่เหลี่ยมขนาดพอเหมาะไม่ใหญ่มากนัก ผนังวอลเปเปอร์และเพดานห้องถูกทาด้วยสีพีชแต่งแต้มสีสันด้วยสกรีนลายลูกกวาดที่มองแล้วให้ความรู้สึกอบอุ่นช่างขัดกับบุคลิกของเจ้าของห้องเสียเหลือเกิน



              “เช้านี้อากาศดีจังเลยนะครับ”  เดินไปหยุดอยู่ที่ระเบียงห้องนอกหน้าต่างใกล้ๆกับร่างของคนตัวเล็ก 
    คชาปรายตามองคนที่มาใหม่เล็กน้อยด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแล้วจึงหันกลับไปในทิศทางเดิม
     เสี้ยววินาทีที่ดวงตากลมคู่สวยนั่นหันมามองที่เขา เศรษฐพงศ์รู้สึกได้ถึงความเศร้าในแววตานั่น  รู้สึกได้ถึงความรู้สึกที่คนตัวเล็กกำลังแบกรับไว้

     

              “คิดอะไรอยู่..บอกได้มั้ย ?” 


              “...เปล่า ค...คชาไม่ได้คิดอะไรเสียงหวานที่ติดห้าวเล็กน้อยเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา


              “ ไม่ต้องกลัวนะคชา พี่จะมาช่ายให้อาการของเราที่เป็นอยู่ตอนนี้ดีขึ้น ทุกคนอยากให้คชากลับไปเป็นคุณหนูที่สดใสคนเดิมนะครับรู้มั้ยมือหนาถูกวางลงบนบ่าแคบของคนข้างๆ สัมผัสที่มีแต่ความรู้สึกเป็นห่วงมากมายถูกส่งผ่านไปยังร่างเล็ก

            

              อยาก..อยากจะช่วยแบกเบาความรู้สึกต่างๆนานาของคนๆคนนี้

            อยาก..อยากจะเป็นคนแบกรับความรู้สึกที่ไม่ดีทั้งหมดนี่ไว้แทน...

     


              “อ. .ขอบคุณ...แต่คชาไม่ได้เป็นไรเมื่อรู้ตัวว่าให้คุณหมอหน้าหล่อถูกตัวนานเกินไป มือเล็กจึงจัดการจับมือหนาที่วางอยู่บนบ่าของตนออกก่อนที่จะเขยิบกายให้ออกห่างจากคนข้างๆ ร่างสูงส่ายหน้าอย่างหน่ายๆ รู่น่ะรู้ว่าชอบอยู่คนเดียว


              แต่ก็ไม่คิดว่าจะเย็นชาเฉยเมยใส่กันได้มากถึงเพียงนี้

             อย่าเพิ่งท้อเต๋า...นี่แค่เพิ่งแค่เริ่มต้นเองนะ สู้ครับผม!

     


          คชา ไปเดินเล่นกันว่าแล้วก็ตรงปรี่เข้าไปจับที่มือเล็กนั่น ดวงหน้าหวานหันมองเศรษฐพงศ์ด้วยสีหน้าที่ไม่เข้าใจ

     

              “ดะ...เดิ๋ยวสิ..คชาร้องท้วงเหมือนว่าจะเอ่ยขัด เต๋าจึงเลิกคิ้วรอฟังว่าคนไข้ของตนต้องการที่จะพูดอะไร แต่ตัวคชาเองกลับขมวดคิ้วแล้วเม้มปากแน้น ชายหนุ่มจึงได้แต่ยิ้มให้บางๆ มือหนาถูกยกขึ้นมาขยี้ผมคนตรงหน้าอย่างเอ็นดูแล้วจึงเดินนำคชาออกมาจากห้องทั้งๆที่ยังกุมมือเล็กนั่นไว้...

              ตัวคชาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงยอมให้คนตรงหน้าสัมผัสได้อย่างง่ายดายขนาดนี้ รู้แค่ว่าสัมผัสของชายหนุ่มและแววตาที่แสนอ่อนโยนคู่นั้น ทำให้คชา...



            รู้สึกหวั่นไหวมากมายเหลือเกิน...



     

     

     

     


              แสงแดดอ่อนๆที่ทอสาดเข้ามาผ่านหน้าต่างบานใหญ่ในยามเช้าทำให้คนที่ซุกอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาเริ่มรู้สึกตัว เปลือกตาบางค่อยๆเปิดขึ้นอย่างเชื่องช้ากระพริบตาสักสองสามครั้งก่อนที่แขนเรียวจะดันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง  ใบหน้าหวานหันมองซ้ายมองขวาพร้อมๆกับที่ตากลมเหลือบไปเห็นกระดาษโพสต์อิทแผ่นสีเขียวที่แปะอยู่ตรงโคมไฟตั้งโต๊ะที่วางอยู่บนหัวนอน  มือบางเอื้อมมือไปหยิบก่อนที่จะกวาดสายตาอ่านข้อความในกระดาษ...

     

     

    ------------------------------------------------

    ‘ กว่าลูกจะตื่นเครื่องก็คงออกแล้ว

    แม่ไปดูงานที่อังกฤษ อีกสัก 2-3 อาทิตย์ถึงจะกลับ

                                     รักลูก ’

    -------------------------------------------------

     

     

              “เฮ้ออ...”  ถอนหายใจเบาๆแล้วจึงแปะมันลงที่เดิมอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก ทั้งๆที่จริงแล้วก็แอบน้อยใจอยู่ข้างในลึกๆ

     

              ดูงาน? ดูงานอีกแล้ว ลูกทั้งคนอยู่ตรงนี้...แม่เคยมองเห็นผมบ้างรึเปล่า?

              อยากให้อาการผมหายแต่ก็ไม่เคยดูแล ไม่เคยเอาใจใส่

              ไม่เคยให้ความอบอุ่นแบบที่พ่อมีให้กับผม

              แม่...ไม่เหมือนพ่อเลยสักนิด...

     

     

     

     

     

     

     

              “ อ่านอะไรอยู่...นั่งด้วยได้มั้ย? ” คุณหมอเศรษฐพงศ์หย่อนบั้นท้ายลงบนโซฟาตัวใหญ่สีครีมในห้องนั่งเล่นโดยไม่รอฟังคำอนุญาตจากเจ้าของบ้านที่นั่งอยู่ข้างๆ  คนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่เหงนหน้ามองเต๋าเล็กน้อยก่อนที่จะก้มหน้าลงมาอ่านหนังสือที่อยู่ในมือตามเดิม

     

              “ แม่ไม่อยู่เหรอครับ?”


              “ อืม ”  ครางเบาๆในลำคอแล้วยื่นกระดาษโพสต์อิทที่คนเป็นแม่เขียนไว้ให้กับร่างสูง


              “ สองอาทิตย์เหงาน่าดูเลยคชา ให้พี่มาอยู่เป็นเพื่อนมั้ย?” เสียงทุ้มถามพร้อมกับหันหน้าไปสบตากับคนตัวเล็ก รอยยิ้มบางๆที่กรุ้มกริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้าขาว

     

              รอยยิ้มที่ทำเอาคชาใจเต้นรัวไม่เป็นสั่ม

     

              “ หืม...ว่าไงครับ?” จ้องหน้าร่างบางแล้วถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจังเพื่อต้องการคำตอบ


              “...............” มือบางวางหนังสือที่อ่านอยู่ลงกับโต๊ะขณะที่ดวงตากลมโตก็จ้องมองใบหน้าหล่อของคนข้างๆด้วยเช่นกัน แก้มเนียนใสทั้งสองข้างเริ่มขึ้นสีเป็นสีชมพูระเรื่อ ใบหน้าสวยรุดหน้าต่ำลงเล็กน้อยอย่างอายๆ ก็เล่นจ้องด้วยสายตาที่สื่อความหมายแบบนี้จะไม่ให้คชาเขินได้อย่างไรกัน

     

     

              เห็นเป็นคนหน้าเดียวแบบนี้แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นคนไร้ความรู้สึกเสียเมื่อไหร่

              คชาก็คน...หวั่นไหวเป็นเขินเป็นเหมือนกันนะ!

     

     

               อ..อา คือ...ให้พี่เต๋ามา..เอ่อ...ให้มาอยู่เป็นเพื่อนก็ได้ประโยคสุดท้ายพูดไวจนลิ้นแทบจะพันกันแล้วเบือนหน้าหนีทันที อยากจะกรีดร้องให้ได้เสียจริงๆ ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมตัวเองต้องยอมทำตามคำขอของคนที่เพิ่งจะเคยเห็นหน้ากันแค่ไม่กี่วันคนนี้ด้วย

     

     

              เศรษฐพงศ์อมยิ้มเล็กน้อยกับท่าทีที่ดูเป็นเด็กของคชา

              คชาจะรู้มั้ยนะ...ว่าไอ้ท่าที่เค้าทำตอนเวลาตัวเองเขินน่ะมันน่ารักมากขนาดไหน

            บางทีอาการของคนไข้ตัวเล็กคนนี้อาจจะหายเร็วกว่าเวลาที่ผมคาดไว้ก็ได้นะ

            ...คุณว่ามั้ยล่ะครับ ?

     

     

              เย็นวันนี้เต๋าเลือกที่จะชวนร่างเล็กให้ออกมาทานข้าวข้างนอกบ้านด้วยกัน อยากให้คชาได้เปลี่ยนบรรยากาศและรู้สึกผ่อนคลายลงบ้าง  ที่สำคัญตัวเขาเองก็จะได้มีโอกาสทำความคุ้นเคยกับคนตัวเล็กให้ได้มากขึ้นด้วย


              บรรยากาศภายในร้านอาหารสไตล์อิตาเลี่ยนฝรั่งเศสที่ตั้งอยู่ย่านใจกลางเมืองกรุงเทพช่างดูครึกครื้น แน่นอนเพราะวันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ไม่แปลกเลยที่ร้านอาหารหรูชื่อดังแห่งนี้จะมีผู้ครอบครัวพากันมานั่งทานอาหารกันอย่างพลุกพล่าน นี่ถ้าไม่ได้โทรมาจองไว้ก่อนโต๊ะคงจะเต็มไปแล้ว

     

              พนักงานของทางร้านจัดการพาพวกเขาทั้งสองไปยังที่นั่งว่างแล้ววางเมนูอาหารลงบนโต๊ะ       คชาสั่งซีซ่าร์สลัดกับสปาเก็ตตีราดซอสเห็ดธรรมดาๆส่วนตัวเต๋าเองสั่งเฟรนซ์โทสต์และซุปกุ้งลอปสเตอร์ 
    เมื่อพนักงานรับออเดอร์เสร็จก็เดินออกไป
      คชาเอาแต่ก้มหน้านิ่งรู้สึกเกร็งๆทำตัวไม่ค่อยถูกเมื่อต้องอยู่กันสองต่อสองกับร่างสูงในที่สาธารณะชนแบบนี้

     

              “ นี่พามาทานร้านโปรดพี่เลยนะเนี่ย เมื่อเห็นร่างเล็กเอาแต่นั่งขมวดคิ้วก้มหน้าก้มตา เต๋าจึงเริ่มเปิดประเด็นชวนคุย


              “ อือ...มาบ่อยเหรอฮะ?”


              “ ครับ เสร็จงานจากโรงบาลก็มานั่งเล่นประจำเลยตอบกลับสีหน้ายิ้มแย้ม


              “ แล้วเมื่อก่อนมานั่งคนเดียวหรือว่ามากับใครฮะ?”


              “ คิดยังไงถึงได้ถามแบบนี้เนี่ย แล้วถ้าบอกว่ามากับผู้หญิง...คชาจะหึงพี่มั้ย? ” แกล้งหยอกเสียงกระเส่าให้คชาเขินเล่น


              “ อะ..ก ก็..ก็แค่ถามดู  คชาไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย


              “ ก็ยังไม่ได้บอกว่าคชาคิดอะไรสักหน่อยนี่


              “ อื้ออ...พี่เต๋าถ้าแกล้งอีกจะไม่คุยด้วยแล้วนะ!” ทำหน้ามุ่ยแล้วสะบัดหน้าหนีทันที คนตัวเล็กทำเสียงฮึดฮัดอย่างฉุนๆพร้อมกับแขนเรียวที่ถูกยกขึ้นมากอดกันไว้ที่หน้าอกไหนจะใบหน้าหวานที่กำลังเหยเกอยู่นั้นอีก ถึงแม้ว่ามันจะดูตลกแปลกๆแต่ก็ยังดูน่าเอ็นดูอยู่ดีเพราะถ้าเป็นคชาแล้วไม่ว่าจะทำหน้าแบบไหนยังไงก็น่ารัก

     

     

              คนอะไรขี้งอนจริงๆ

              แต่ถ้างอนแล้วน่ารักแบบนี้ งอนบ่อยๆก็ได้ครับ

              ผมอยากง้อ...

     


              “ พี่ก็แค่อยากให้คชาพูดบ้าง ไม่อยากให้เงียบ ...ยิ้มบ่อยๆนะครับลอบขำเบาๆไม่ให้คชาได้ยินก่อนที่จะเอื้อมมือไปจับที่คางมนให้หันมามองหน้ากัน
    แล้วพูดต่อ ยิ้มแบบนี้...มือหนาทั้งสองข้างเลื่อนขึ้นไปจับที่พวงแก้มใสแล้วออกแรงดึงเบาๆให้คนหน้าเดียวฉีกยิ้ม คนที่ถูกแต๊ะอั๋งเบิกตาโพรงด้วยความตกใจ ใบหน้าจากที่ตอนแรกแค่ร้อนผ่าวเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงจัดราวกับลูกมะเขือเทศ หัวใจดวงน้อยๆเต้นแรงจนแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว!


              “ ยิ้มแล้ว...น่ารัก” ละมือออกจากดวงหน้าหวานอย่างช้าๆ บรรยากาศบนโต๊ะอากาศเกิดความเงียบปุกคลุมอีกครั้ง จนเมื่อพนักงานนำอาหารที่ทั้งคู่สั่งไว้มาเสิร์ฟลงบนโต๊ะ คชาจึงใช้โอกาสนี้ทานอาหารของตนอย่างเงียบๆ ไม่กล้าสบตาคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามนี่เลยจริงๆ ไม่รู้ทำไมคนๆนี้ถึงมีอิทธิพลต่อหัวใจของเขาได้มากขนาดนี้ ทั้งๆที่เคยผ่านการรักษามาหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใคร...


              เศรษฐพงษ์ค่อยๆละเลียดทานอาหารในจานของตนแต่สายตาก็ยังคงจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าหวานนั่นอย่างไม่วางตา ยิ่งมอง ยิ่งน่าค้นหา ยิ่งอยากสัมผัส...

     

     

              นี่ผม...กำลังคิดอะไรกับคนไข้ของตัวเองอยู่จริงๆอย่างงั้นเหรอ ?

              ให้ตายสิพระเจ้า! โปรดบอกทีว่าผมควรจะทำยังไง ?

              ผมกลัว...กลัวเหลือเกินว่าจะห้ามใจตัวเองไว้ไม่อยู่

              กลัว...กลัวเหลือเกินว่าผมจะหลงรักคชา

     

     

              พี่เต๋า...พี่จะทำผมรู้สึกหวั่นไหวไปถึงไหนกัน ?

              ทั้งๆที่เพิ่งรู้จักกันเพียงวันเดียวแท้ๆ...

              ทำไมพี่ถึงมีอิทธิพลต่อหัวใจของผมมากขนาดนี้

              ใครก็ได้บอกที...บอกทีว่าผมกำลังเป็นบ้าอะไร ?

     

     

     

     

     

    -----------------------------------------------------------------------------

    HEYATALK!

    เอาฟิคมาลงครบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วเด้อ

    ขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องรอนาน (พูดเหมือนว่าจะมีคนรอ 5555)

    รู้สึกว่าตอนนี้สั้นมากกกก!

    อยากแต่งให้มันเป็นดราม่าแต่ไหงกลายเป็นแบบนี้ได้ก็ไม่รู้ (- -)

    ขอขอบคุณทุกคำคอมเม้นต์ติชมน้า ขอบคุณมากๆ :D

    ส่วนใครที่เคยเข้ามาอ่านอย่างเดียวเม้นต์ตอนนี้ก็ยังไม่สายเกินไปนะ 5555

    หรือถ้าไม่เม้นต์ก็โหวตอันนี้ให้เพลงหน่อย

     

    เม้นต์แล้วก็กดได้เหมือนกันเด้อ ขอบคุณทุกคนมากๆจ้า  




                  โหวต                       แอดเป็นแฟนคลับ

     โหวตให้หน่อยน้า :3       กดสิ!    

      
    31TK54
    10PY54
    01THK54
     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×