คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : File 00 : เปิดตัว Return / ขโมย / ตาย!
Flie 00 : เปิดตัว Return / ขโมย / ตาย!
Chocola Talk :
“โอ๊ย ทำไมรู้สึกใจคอไม่ดียังไงไม่รู้อะ” ฉันหันไปพูดคุยกับเพื่อนๆ ขณะเดินขึ้นบันไดไปชั้นที่เจ็ด
“ช็อกโก้ แกอย่าพูดให้มันเป็นลางได้ไหม” วนิลาแย้งขึ้น “ก็เป็นเพราะแกตื่นเต้นมากเกินไปไง ที่แกจะได้เจอเฮซองหมูน้อยของแกอะ”
“เหรอ? ทำไมมันรู้สึกแย่มากกว่าตื่นเต้นอะ”
“พอเลยๆ พวกแกไม่รู้สึกเมื่อยบ้างหรือไงฮะ เราต้องเดินขึ้นไปตั้งชั้นเจ็ดนะโว้ย ยังมีหน้ามาเดินกันชิลๆอีก” เชอร์เบทพูดขึ้นเพื่อยุติความวุ่นวาย
ฉันหันไปมองเพื่อนอีกสองคนคือไอซิ่งกับซูชิ ที่นั่งหอบแฮกๆปานจะขาดใจตายอยู่ซูชิยบันไดด้วยความล้า สองมือปาดเหงื่อ
“จะรีบกันสักนิดได้ไหมเนี่ย พวกเราเพิ่งถึงกันแค่ชั้นสองเองนะ”
กึก!! ตึง!!
เสียงเปิดประตูตรงทางหนีไฟดังขึ้น เหมือนกำลังมีคนมา! พวกเรารีบหาที่ซ่อนตัวกันทันทีโดยไม่ต้องนัดหมาย
“กรี๊ดด ซ่อนที่ไหนกันดีละ” ซูชิร้องเสียงหลง ทำให้ฉันรีบกระโดดปิดปากทันที ก่อนจะส่งสายตาให้เปิดประตูออกไปหลบในลานจอดรถ แล้วพวกเราก็แอบมองสถานการณ์ทางช่องเล็กๆว่าเป็นอย่างไร
ภายในมีชายอายุมากคนหนึ่งกำลังเดินทำท่าทางลับๆล่อๆหันซ้ายหันขวา เดินขึ้นบันไดอย่างระมัดระวัง เหมือนกลัวอะไรบางอย่าง เห็นแล้วก็อดนึกถึงตัวเองไม่ได้เหมือนกัน เอ๊ะ หรือว่าจะเป็นแฟนคลับเหมือนกัน เมื่อทุกอย่างกลับสู่สภาวะปกติแล้ว พวกเราก็ค่อยๆย่องออกจากลานจอดรถแล้ววิ่งขึ้นไปชั้นเจ็ดอย่างรวดเร็วและระมัดระวัง
หน้าห้อง 555 ห้องVIPที่จะเปิดให้เฉพาะแขกพิเศษได้พัก ราคาคงแพงน่าดู เหล่าตระกูลสมทำตาโตไปตามๆกัน ไอซิ่งรีบหยิบกุญแจออกมาเตรียมไข แต่ทว่า
แอ๊ดดด~~
ก็พบว่าประตูห้องถูกเปิดออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว...
“เฮ้ย ทำไมพวกนั้นไม่ล็อกประตูวะ “ เชอร์เบทพูดปนความสงสัย
“แสดงว่ามีคนอยู่ข้างในเหรอ” ทุกคนหันมาทางฉันทันที “ก็...เดาเอาอะ ฮ่าๆงั้นเราก็คงต้องเคาะประตูก่อน เป็นมารยาท”
ก๊อกๆๆ
ผ่านไปสามนาที...
“ทำไมไม่มีคนออกมาเปิดประตูเลย” วนิลาทำเสียงฉุนๆหลังจากที่เคาะอยู่นานแต่ก็ไม่มีใครมาเปิด
“ฉันว่าเราเข้าไปข้างในกันเถอะ” ว่าแล้วซูชิก็เปิด ผัวะ!!
ห้องกว้างกับเฟอนิเจอร์ราคาแพง ถูกจัดไว้อย่างหรูหรา แอร์ที่เย็นฉ่ำต่างจากอากาศข้างนอกที่แสนร้อนระอุ ที่นี่ไม่เหมือนโรงแรมสักนิด แต่เหมือนกับคอนโดหรูใจกลางเมือง ตรงข้ามกับสภาพภายในห้องตอนนี้มากทั้งที่ไม่มีใครอยู่ แต่กลับมีร่องรอยประหลาดๆของการรื้อค้น
“ทำไมมันถึงดูซกมกขนาดนี้ละ นี่พวกนั้นทำตัวแบบนี้เองเหรอเนี่ย” ซูชิบ่น
“นี่ ได้ดูสภาพห้องบ้างหรือเปล่าเนี่ย นี่มันเหมือนโดนรื้อค้นชัดๆ”
“นั่นสินะ อากาศในห้องยังเย็นอยู่ด้วย” วนิลาเสริม
“ตอนที่ฉันเช็คข้อมูลมา แอร์ในห้องจะทำงานอัตโนมัติทันทีที่ไขห้อง แล้วหลังจากออกก็จะทำงานทิ้งไว้ห้านาที แอร์ถึงตัด ถ้าพวกเขาเพิ่งออกไปจากห้องนี้ก็ไม่น่าจะเดินเร็วขนาดนั้น อย่างน้อยๆพวกเราก็น่าจะเจอกันระหว่างทางบ้างสิ แถมห้องไม่ล็อกอีก” ไอซิ่งกล่าว ทำให้ดวงตาสี่คู่เบิกโพลงพร้อมกัน
“เป็นถึงเซเลบไม่น่าทำงี้นะ หรือจะเป็นโจร!”
ยังไม่ทันที่เชอร์เบทจะพูดอะไรต่อ ประตูห้องก็ถูกเปิดออกทันที
งานเข้า !! ฮือออ
ชายหกคนที่ไม่ได้ต้อนรับ เปิดประตูเข้ามาก็ยืนตะลึงงึนงัน ระหว่างสภาพห้องและผู้หญิงห้าคน ต่างฝ่ายต่างตกใจ ไม่มีใครพูดอะไรออกมา แล้วฉันก็คิดว่าไม่พูดน่ะดีแล้ว ซิกๆ....
“พวกเธอ!!” พี่แว่นผู้จัดการส่วนตัวของวง Return ตะโกนขึ้นเสียงดังเป็นภาษาเกาหลี เล่นเอาพวกฉันสะดุ้งโหยง ทำตัวไม่ถูกไปเลย
ใช่ ตอนนี้พวกเรายืนประชันโฉมหน้ากับวง Return !! ห้าหนุ่มนักดนตรีสุดหล่อกับผู้จัดการแก่ๆใส่แว่นหนึ่งคน
กรี๊ดดดด>////< กลั้นใจไม่ใส่อีโมคอนไม่ได้แล้วเจ้าค่ะ ตัวจริงหล่อโฮกฮากมาก ฉันยืนอยู่ใกล้เฮซองนักร้องสุดเท่ของฉัน หมูอ้วนของฉัน อ๊ายยยยย กรี๊ดดดด เขินอ่ะ อะ... เอ๊ะ...ไม่ใช่ๆเวลานี้ไม่ใช่เวลามากรี๊ด บรรยากาศตอนนี้มันต้องเครียดสิ เครียด! โอ๊ย~ เครียดจริงวุ้ย (ไม่ทันแล้ว)
“พวกเรามาทำความสะอาดเฉยๆค่ะ โฮะๆ” เชอร์เบทรีบฉวยโอกาสพูดขึ้นแทรกทันที (จริงๆต้องพูดเป็นภาษาเกาหลี แต่นิยายเรื่องนี้ไม่อยากให้ท่านผู้อ่านเหนื่อยเลย ใช้บริการ Happy ใจดีแปลให้) แต่ทำไมต้องมีโฮะๆด้วยอะ
“พวกเธอมาทำความสะอาดหรือมาพังห้องกันแน่เนี่ย!” เฮซองพูดขึ้นก่อนจะวิ่งตรงไปยังห้องนอน และเหตุก็เกิดขึ้น
“บ้าจริง ฉันว่าแล้วมันต้องเป็นแบบนี้” พูดจบก็วิ่งทำหน้าตาแตกตื่นกระหืดกระหอบมาแล้วโวยวาย “ไอโฟนฉันหาย แสดงว่าต้องมีคนขโมยไปแน่ๆ” ว่าแล้วก็ส่งสายตามาทางฉัน
“ฮะ! เรื่องจริงเหรอเนี่ย ฉันว่าแล้วเชียว” ฉันพูดขึ้น ทำให้ทุกคนวิ่งพรึบไปที่ห้องของตัวเองบ้าง รื้อข้าวรื้อของกันจ้าละหวั่น แต่ก็พบกับการผิดหวังกลับมา เพราะสิ่งของมีค่าของแต่ละคนได้หายไปแล้ว เฮซองเป็นไอโฟน จงจุนเป็นไอแพด จองมินคือบีบี ซุนวูเป็นบ๊อกเซอร์ และหัวหน้าวงสุดหล่อกิ้งก่าหาย
เอิ่ม... คือสองอันหลังโจรมันอยากจะขโมยไปประมูลเรอะ ห๊า? ขโมยไปทำอะไร๊~ มันฝั่งเพชรเหรอ โอ๊ยเครียดกำลังสอง
“พวกเธอเป็นแก๊งขโมยของใช่ไหม ฮะ?!” เฮซองใช้เสียงข่มขู่ ยกนิ้วมาชี้หน้า
“จะบ้าหรือไง! พวกฉันเป็นแม่บ้านต่างหาก แม่บ้านน่ะเข้าใจไหม” ฉันเถียง
“โกหก! ถ้าอย่างนั้นขอดูบัตรหน่อยสิ”
“ได้! ฮะ... เอ่อ...” บัตรอะไรวะ ฮือ ไม่รู้จัก “คือแบบว่างี้นะเฮซอง...ความจริงมัน..””
“ฉันว่าเราแจ้งตำรวจเลยดีกว่า” ผู้จัดการพูดขึ้น พร้อมเตรียมกดเบอร์ทันที “เอ๊ะ...เบอร์ของไทยนี่คืออะไรนะ.. *133 หรือ
โทรสั่งพิซซ่าให้ไปกินในคุกด้วยเลยสิ แล้วจะแจ้งความสองอย่างหลังด้วยเปล่า T^T ฮือ โดนจับเพราะ บ๊อกเซอร์กับกิ้งก่า เศร้า~
“อย่านะ!” ซูชิ ไอซิ่ง เชอร์เบท รีบจับแขนของผู้จัดการไว้ทันที วนิลาหยิบโทรศัพท์ออกจากมือ ฉันเริ่มอธิบายความจริง
“คือความจริงแล้ว...พวกเราเป็นแค่แฟนคลับวง Return พอพวกเรารู้ว่ามาเมืองไทย พวกเราก็เลยอยากเจอ แต่มันยากมากถ้าจะได้เจอพวกคุณแบบใกล้ๆ ฉันเลยวางแผนว่าจะปลอมตัวเป็นแม่บ้านแล้วก็มาดักรอเจอพวกคุณหน้าห้องเนี่ยแหละ... แต่พอมาถึงประตูมันก็เปิดเอาไว้อยู่แล้ว นี่แหละความจริง!!” ฉันเน้นหนักตรงความจริง เล็กน้อย
ทุกคนอ้าปากค้างกับแผนสุดพิลึกพิลั่นที่ไม่คิดว่าจะมีใครกล้าทำเรื่องเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางขนาดนี้ เฮซองทำหน้าเหยเก ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบนานพอสมควร จนหัวหน้าวงถอนใจเฮือก แล้วพูดทำลายบรรยากาศอันน่าอึดอัด เป็นคำพูดที่เหมาะกับเขาจริงๆ
“ฉันว่านะ...พวกเขาคงไม่ได้เป็นขโมยหรอก มีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น อีกอย่างถ้าเขาเอาไปจริง คงไม่มายืนคุยกับเราแบบนี้หรอก เฮ้อ~แต่กิ้งก่าตัวนั้นสุดที่รักของฉันซะด้วย” เทโฮบ่นพึมพำกับประโยคหลัง
“ถ้านายว่าอย่างนั้นละก็...เอาเถอะ ดูแล้วยัยนี่หน้าตาโง่ๆ คงเป็นขโมยไม่ได้หรอก”
โอ้วววแรง! แรงมาก! คำว่าโง่ มันมากระแทกอยู่บนใบหน้าของฉันพอดีเด๊ะ เป๊ะๆ ไอ้บ้าเอ๊ย นี่เขานิสัยแย่อย่างนี้เองเหรอ... ไม่หรอก หมูน้อยของฉันคงจะอารมณ์ไม่ดีที่ของหายเท่านั้นแหละ ฮ่าๆ
“อ๋อ ฉันนึกออกแล้ว 191 ใช่ไหม” จู่ๆผู้จัดการก็ตะโกนเบอร์สถานีตำรวจขึ้นมา เล่นเอาบทสนทนาขาดตอน
“พวกฉันไม่ใช่ขโมยนะ” ซูชิท้วงขึ้นบ้าง
“ใช่ เลิกโทรเดี๋ยวนี้เลยนะ” ไอซิ่งเสริม มือคว้าโทรศัพท์ไว้ในมือ
แล้วทันใดนั้นเองฉันก็ฉุกคิดถึงชายแปลกหน้า ที่ทำท่าทางลับๆล่อๆ คนนั้นเหมือนเขากำลังหลบหรือระแวง.... บางทีเขาอาจเป็นขโมยตัวจริงก็ได้
ฉันหันไปสะกิดไหล่เชอร์เบทที่ยืนอยู่ด้านข้าง พร้อมเล่าสิ่งที่ฉันคิดให้ฟัง เชอร์เบทฟังจบก็ชักสีหน้าทันที ก่อนจะเรียกประชุมรวมพลในบรรยากาศมาคุเช่นนี้ และผลของการประชุมคือทุกคนก็มีความสงสัยเช่นเดียวกัน พวกขโมยมันคงรู้ว่าเป็นชาวต่างชาติจึงคิดจะขโมยของอย่างง่ายดาย
“น่าเสียดายบ๊อกเซอร์ตัวนั้นจัง มีแฟนคลับให้มาท่าทางแพงซะด้วย” ซุนวูก็พูดลอยๆขึ้น
รู้สึกผิดนะโว้ยย!! ตอกย้ำกันจริงๆ...แม้จะไม่ได้เป็นคนทำก็เหอะ
เฮ้อ~
“พวกฉันไม่ใช่ขโมยอยู่ดีนั้นแหละ....” เชอร์เบทยืนยัน นั่งยัน นอนยัน
“แต่พวกเธอก็เข้าข่ายผู้ต้องสงสัย อ๋อ ลักลอบเข้ามาด้วย” ลุงผู้จัดการกล่าว
“โธ่เว้ย! หยุดนะ” จุดเดือดของวนิลาประทุขึ้น สีหน้าจริงจังกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เมื่อเห็นทุกคนหยุดเถียงกันก็พูดต่อ “พวกเรารู้ตัวหัวขโมยแล้ว! และพวกเราขออาสาตามจับตัวคนร้ายเอง!”
แกเมากาแฟเหรอ!
Vanila Talk :
ปากพาจนของแท้เลยฉัน ตอนนี้เป็นเพราะฉันฮืออ~ ทำให้ทุกคนต้องตกกระไดพลอยโจนไปด้วย เพราะอารมณ์ชั่ววูบแท้ๆ แงๆ เจ็บใจจังเลย ยิ่งทุกคนทำท่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นยิ่งรู้สึกแย่ เพื่อนๆฉันจะชดใช้ให้ทุกอย่าง
โครม!
ปึกๆๆ
พูดไม่ทันขาดคำฉันก็ตกบันไดก้นกระแทกพื้นอย่างแรง กรี๊ดดก้นช้ำ
“เฮ้ยวนิลา!” เพื่อนๆรีบวิ่งมาดูฉันด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นอะไรหรอก...กรี๊ดด ไอ้ไอซ์บ้า! แกจะกดก้นฉันทำไม”
“อ้าว ก็แกบอกไม่เจ็บไงละ”
ว่าแล้วทุกคนก็มะรุมมะตุ้มฉัน จับแขนจับขาต่างๆนาๆ ราวกับจะแก้แค้นคืนก็ไม่ปานจนในที่สุดฉันก็รู้สึกดีขึ้น (ถึงจะเจ็บก็ต้องแกล้งไม่เจ็บ ฮืออ)
“ฮ่าๆ แล้วเราจะไปหาไอ้โจรนั้นที่ไหนละ ข้อมูลอะไรก็ไม่มีสักอย่าง” เชอร์เบทกล่าวเปิดประเด็น
“ชู่ว นั่นๆ” ฉันชี้นิ้วไปทางบันไดชั้นล่างก็เห็นมือจับที่ราวบันได
ทุกคนคงรู้ว่าต้องทำอะไรในสถานการณ์อย่างนี้ ต่างฝ่ายต่างเงียบแล้วค่อยๆย่องลงบันไดตามไปโดยไม่ให้เขารู้ตัว จนในที่สุดก็ได้จังหวะพอมันก้าวลงถึงชั้นล่างของทางหนีไฟ พวกเราก็กระโดดจับตัวมันทันที
พรึบ!!
ช็อกโกล่ารีบวิ่งไปจับแขนของหัวขโมยไว้!
“หนอยแน่! ฉันไม่ปล่อยให้แกหนีไปได้หรอกไอ้หัวขโมย” เชอร์เบทเข้าขัดขา ช็อกโกล่าฉุดแขน ทำให้หัวขโมยเสียหลักล้มหน้าทิ่ม กระเป๋าใบโตที่หอบหิ้วไว้ครั้งแรก ตอนนี้ลอยไปตกอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ซูชิไม่รอช้ารีบวิ่งไปหยิบกระเป๋าไว้ทันที ไอซิ่งกระโดดทับขโมยกะไม่ให้มันลุกขึ้นมาได้ ฉันรีบวิ่งไปช่วยซูชิรื้อหาของ ภายในกระเป๋าใบใหญ่นั้นมีทั้งไอโฟน ไอแพด และหลายๆอย่าง รวมไปถึงบ็อกเซอร์ฝังเพชรของซุนวู
กรี๊ดด บ็อกเซอร์ฝั่งเพชรด้วยอะ ไฮโซมาก
ขณะที่พวกเราคิดว่าทุกอย่างจะจบไปได้ด้วยดีนั้น มันก็เกิดเรื่องขึ้น เมื่อกิ้งก่าทองคำ สีเขียวอมเหลืองนวลของลีดเดอร์ คานออกจากกระเป๋ามุ่งหน้าไปหา ไอซิ่ง ช็อกโกล่า และเชอร์เบท
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!! X20”
ช็อกโกล่ากระโดดหนีเป็นคนแรกด้วยความรวดเร็ว เชอร์เบทวิ่งตามช็อกโกล่าไปติดๆเหลือเพียงแค่ไอซิ่งที่ทำใจสู้ไม่กลัวกิ้งก่า
“ฉึก!”
นี่ไม่ใช่โฆษณารสดีแต่อย่างใด แต่มันเป็นเสียงมีดปักลงอะไรสักอย่าง รวดเร็ว แม่นยำ เมื่อเห็นภาพเบื้องหน้าหัวใจฉันก็หล่นวูบลงไปเลยทีเดียว เลือดสีแดงข้นสดๆ ไหลออกมาจากต้นแขนของผู้เคราะห์ร้ายคนนั้นทันที
ไอซิ่ง!
ช็อกโกล่าและเชอร์เบทรีบวิ่งไปพยุงไอซิ่งขึ้นมา
“ฮือๆๆๆๆๆ เจ็บที่สุดเลยกรี๊ดด...แสบๆๆ จะเป็นลม อ๊ากกกกกกก!” ไอซิ่งร้องลั่นโหยหวน ไม่เป็นภาษา ราวกับเครื่องรัว ก่อนจะสลบไป
“ไอซ์อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะ! ถ้าแกตายแล้วพวกฉันจะไปบอกพ่อแม่แกยังไง ตื่นมานะ!!” ซูชิรีบวิ่งไปดูพร้อมกับร้องไห้
“ไอ้โจรชั่ว!! วันนี้แกไม่ตายดีแน่ๆ” เชอร์เบทลุกขึ้นพร้อมชี้หน้าว่า ไม่รอช้าก็กระโจนใส่โจรอย่างบ้าคลั่ง
“เฮ้ยไอ้เด็กบ้าพวกนี้นิ!” โจรใจบาปผลักเชอร์เบทกระเด็นอย่างแรง จนหัวกระแทกกับผนัง แล้วพุ่งเป้าหมายมาทางฉัน “รีบๆส่งกระเป๋ามาซะ! ไม่งั้นเพื่อนแกตาย!” ไม่พูดเปล่า รีบคว้ามือช็อกโกล่ามาเป็นตัวประกัน
ฉันจะทำยังไงดี....
ขณะเดียวกันซูชิดึงแขนช็อกโกล่ามาทันที แต่เจ้าโจรไม่ยอมปล่อยเลยเป็นการยื้อแย้งกัน จังหวะนั้นเองช็อกโกล่ารีบกัดเข้าที่ข้อมือของโจร แล้วหันหลังคว้ามือซูชิวิ่งหนี แต่ยังไม่ทันจะวิ่งก็ถูกมีดปักอยู่ที่ขา!
ดวงตาช็อกโกล่าเบิกกว้างก่อนจะค่อยๆล้มลงแล้วร้องอย่างเจ็บปวด ซูชิใช้จังหวะที่โจรไม่มีอาวุธเตะเข้าที่ก้านคอ โจรชั่วโยกหัวหลบทัน ซูชิถอยกลับหวังจะเตะก้านคอใหม่ แต่เพราะขาที่สั้นเกินจึงได้แค่บ่า ถึงอย่างนั้นซูชิก็พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสโดยเตะที่หัวไหลจนมันเซถลา พวกเรารีบวิ่งไปพยุงร่างคนเจ็บ ก่อนที่จะถูกยิงที่ไหล่
ฉันรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นทันที ส่วนซูชิ...กำลังจะโดนยิง! กรี๊ดดดไม่นะ แต่ทันใดนั้นเองเชอร์เบทก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ขวางกระสุนไว้แทนซูชิ ทำให้ถูกยิงที่หน้าอกข้างขวา ก่อนที่ทุกอย่างจะดับไป ภาพเบื้องหน้ามันจางลงช้าๆ ฉันไม่สามารถที่จะเกร็งเปลือกตาไม่ให้ปิดได้อีกต่อไป...
ความคิดเห็น