คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ★ SENSITIVE I
★ SENSITIVE I
chackmate story and present
update 24.02.11 06:20 pm
Thank to theme ; Qreaz. 10
แสงแดดยามสายส่องผ่านกระจกหน้ารถเข้ามา ร่างบางพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิดก่อนจะหันไปคว้าถุงมาชเมลโล่รสส้มถุงใหญ่ที่วางอยู่เบาะหลัง แล้วฉีกปากถุงอย่างสวยงามแล้วเริ่มขยำมาชเมลโล่ในถุงก่อนจะจัดการยัดเข้าปากตัวเอง
“พี่เวสต์ มาชเมลโล่มั๊ยคะ?” เนปจูนยื่นถุงมาชเมลโล่ไปตรงหน้าคนขับ ก่อนที่ชายหนุ่มจะส่ายหน้าปฏิเสธเบาๆ ก่อนจะเริ่มเคาะนิ้วตามจังหวะเพลงในรสรอสัญญาณไปเขียว การจราจรในกรุงเทพฯ ตอนสายนี่ติดขัดได้อีกจริงๆ
“จะเก้าโมงแล้ว สายแน่เลยค่ะพี่เวสต์” เนปจูนยังคงยัดมาชเมลโล่เข้าปากอย่างต่อเนื่อง กลิ่นส้มสังเคราะห์ตลบอบอวลไปทั่วรถ 'เวสตา'หรือ'พี่เวสต์'ของเนปจูนเหม่อมองออกไปนอนรถ จนกระทั่งสัญญาณไฟเขียวแสดงขึ้นเนปจูนจึงได้สะกิดพี่ชายฝาแฝดให้ออกรถไป
“เนปสายแล้ว เปิดเทอมวันแรกด้วย พี่เวสต์ขึ้นทางด่วนซิ่งเลยค่ะ”
“ค่ะ เดี๋ยวพี่จะซิ่งให้เร็วเลย” เวสตาอมยิ้มขณะที่มองน้องสาวฝาแฝดชี้มือไปข้างหน้าเหมือนกับจะแข่งความเร็วให้รถ ก่อนจะเอือมมือไปขยี้หัวน้องสาวอย่างหมั่นเขี้ยว ผิดเองนะเนปจูนที่มาทำตัวน่ารักใส่พี่
“พี่เวสต์ค่ะ TT หัวเนปยุ่งหมดแล้ว พี่เวสต์ซิ่งไปเลย เนปเช็คเสื้อผ้าเดี๋ยว” ไม่ว่าเปล่า เนปจูนก้มลงมองเครื่องแบบนักเรียนโรงเรียนนานาชาจิเซนต์เซซาเรียที่หลายคนอยากใส่ เสื้อเชิ้ตคอปกจีบเอวสีขาว เสื้อกั๊กสีเทาที่ปักรูปสิงโตคำรามไว้ที่ปกข้างซ้าย กระโปรงจีบรอบสีเทา กับโบว์สีเทา ป้ายชื่อสีดำที่มีตัวอักษรภาษาอังกฤษเขียนด้วยหมึกสีขาวเป็นชื่อของเธอติดที่อกด้านขวา เครื่องแบบนักเรียนที่ดูดีมีระดับ เมื่อเธอเองมั่นใจว่า เครื่องแต่งกายของตนโอเคดีแล้ว เนปจูนจึงหันไปดูแลเครื่องแบบนักเรียนของพี่ชายบ้าง เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว เนปจูนรูดเนกไทสีเขียวเข้มตัดกับด้ายสีทองที่ปักเป็นรูปดาบพิงโล่สัญลักษณ์ประจำโรงเรียนเซนต์นาเซียนัสอยู่ปลายเนกไทให้เข้าที ก่อนจะดึงเสื้อสูทสีดำที่พาดอยู่บนเบาะคนขับมาปัดฝุ่นก่อนจะพาดกลับไว้ที่เดิม แล้วดึงเอาเสื้อสูทสีเทาของตนที่วางอยู่บนตักขึ้นสวม
ผ่านไปสิบนาทีเฟอรารี่สีดำจอดสนิทอยู่ที่หน้าโรงเรียนนานาชาติเซซาเรีย เนปจูนก้าวลงจากรถแล้วโบกมือลาพี่ชายที่กำลังกลับรถเพื่อเลี้ยวเข้าประตูโรงเรียนเซนต์นาเซียนัสที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน เนปจูยืนมองส่งรถพี่ชายจนลับตาก่อนที่จะเดินเข้าโรงเรียนอย่างเป็นปกติ
Napturn talk'
เสียงเรียกเข้าดังขึ้นทันทีที่ฉันก้าวเข้ามาในรั้วโรงเรียน ไอโฟนสีขาวสะอาดโชว์เบอร์ของยัยซีนัส ก่อนที่ฉันจะกดรับสายอย่างว่องไว แล้วเดินต่ออย่างเชื่องช้า ผ่านสวนย่อมที่ถูกจัดไว้อย่างดี น่าแปลก สายป่านนี้แล้วยังมีคนเดินเพ่นพ่านแถวหน้าประตูโรงเรียน
“ว่าไงซี”
“[แกอยู่ส่วนไหนของโลก! มาโรงเรียนรึยัง !!]” ฉันดันไอโฟนออกจากหู รอจนเสียงแว้ดๆ ของยัยซีเงียบไปนั่นแหละถึงได้เอาไอโฟนมาแนบหูอีก โดนทุกวัน - -; ถ้าวันไหน'ยัยซี'หรือ'ซีนัส'ไม่โทรมาแว้ดๆ ใส่ฉันตอนเช้าวันนั้นหิมะคงตกเมืองไทยเป็นแน่แท้
“จะมีวันไหนมั๊ยที่แกจะไม่แว้ดๆ ใส่ฉันฮะซี? ฉันอยู่แถวๆ สนามฟุตบอล ใกล้ถึงตึกหนึ่งแล้ว” ฉันเร่งฝีเท้าขึ้น ก่อนจะเปลี่ยนเป็นวิ่งเหยาะๆ ไม่ถึงสองนาที ฉันก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าตึกหนึ่ง ซึ่งเป็นตึกเรียนใหม่สำหรับเด็กเกรดสิบสอง เปิดเทอมใหม่ ตึกเรียนใหม่ ห้องเรียนใหม่ แต่ปีนี้ฉันอยู่ห้องไหนหว่า ?
“ซีนัส แกไปดูห้องเรียนให้ฉันรึยัง ?” ฉันแหงนหน้าขึ้นมองตึกสูงห้าชั้น แสงอาทิตย์แยงตาทำให้ฉันต้องหรี่ตาลงก่อนจะมองขึ้นไปอีกครั้ง แต่คราวนี้ฉันกลับมองเห็นร่างสูงที่ยืนอยู่บนดาดฟ้าของตึก ผมสีทองสว่างกระทบกับแดดทำให้ฉันไม่สามารถโฟกัสสายตาเพื่อดูใบหน้าของชายหนุ่มลึกลับที่กล้าบ้าบิ่นคนนี้ได้
“ดูแล้ว เราอยู่ห้องบีเหมือนเดิม ฉันล่ะเบื่อจริงๆ อยู่ห้องบีมาสามปีซ้อนแล้วนะย่ะ อ่อ! ห้องเรียนใหม่อยู่ชั้น 3 นะแกฉันจองโต๊ะไว้ให้แกแล้ว รีบขึ้นมาล่ะ”
ฉันละสายตาจากพ่อหนุ่มหัวทองคนนั้น ก่อนจะกระชับสายกระเป๋าและเอาเสื้อสูทสีเทามาพาดบ่าเดินขึ้นบันไดไปเพื่อขึ้นไปยังชั้นสาม
“อื้อๆ ฉันรู้แล้ว แค่นี้แหละ”
ฉันสัมผัสหน้าจอไอโฟนเพื่อตัดสายสนทนา ฉันใช้เวลาไม่กี่นาทีก็เดินมาถึงหน้าห้องที่มีป้ายแขวนไว้แบบในชั้นเรียนโรงเรียนมัธยมในประเทศญี่ปุ่น
‘B12’
ประตูห้องเรียนถูกเปิดทิ้งไว้ ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าเสียงในห้องดังแค่ไหน เพราะวันนี้เป็นวันเปิดเทมอวันแรก จึงไม่แปลกที่ทุกคนจะเอาประสบการณ์ช่วงปิดเทอมมาแชร์หรือเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง จะว่าไปเมมเบอร์ในห้องก็ยังคงหน้าเดิมๆ ยัยอลิซจอมเฉื่อยที่กำลังนั่งอ่านหนังสือนิยายรักวัยรุ่นที่ไร้สาระ นายมิกกี้ที่กำลังโม้สรรพคุณของรถตัวเองให้พวกผู้ชายฟัง ยัยแตงกวาที่กำลังนั่งนินทาชาวบ้านอยู่กับยัยเชอร์รี่และยัยเลม่อน และยัยซีนัสที่กำลังเถียงกับนายต้นปาล์ม ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย
ฉันยืนมองยัยซีนัสกับนายต้นปาล์มทะเลาะกันอย่างเอาเป็นเอาตาย สงสารที่นั่งข้างๆ ยัยซีนัสคงจะเป็นของฉัน ไม่รอช้าฉันก้าวฉับๆ ผ่านเพื่อนๆ ที่กำลังทำกิจกรรมต่างๆ ไปยังโต๊ะของตัวเอง ฉันพาดเสื้อสูทสีเท้าไว้บนโต๊ะก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้พลาสติกแล้วพิงหลังลงกับพนักทันที
“มาแล้วเหรอเนปจูน นี่ เพื่อนเธอมาต่อยกับตบฉันนะ! ดูดิ เลือดกำเดาไหลเลย TT’” ต้นปาล์ม เพื่อนร่วมห้องตลอดสามปียื่นหน้ามาใกล้ฉันก่อนจะชี้ให้ดูจมูกที่มีทิชชู่ชุ่มเลือดยัดอยู่ที่รูจมูกทั้งสองข้าง กับรอยนิ้วมือห้านิ้วที่ประทับอยู่บนแก้ม ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคงจะแกล้งยัยซีนัสจนโดนตบกลับไป - -
“หนอยย ได้ทีฟ้องเลยนะย่ะ! แล้วใครใช้ให้นายมาจับหน้าอกฉันไม่ทราบย่ะ! โดนต่อยแค่นี้ยังน้อยไป” ซีนัสทิ้งตัวลงบนเก้าอีกข้างฉันแล้วกอดอกหายใจฟึดฟัด โตกันจนป่านนี้ยังเล่นกันเป็นเด็กอยู่ได้
“ก็บอกแล้วว่าไม่ได้ตั้งใจ! ก็ไอ้กี้มันผลักมานี่หว่า! ถ้าฉันไม่เกาะเธอหัวฉันก็พาดพื้นอะดิ”
ต้นปาล์มชี้มือไปทางนายมิกกี้ที่กำลังคุยกับเพื่อนผู้ชายคนอื่นๆ อยู่มุมห้อง ก่อนที่บุคคลที่สามผู้ถูกกล่าวถึงจะหันมาปฏิเสธทันควัน ไวเชียวนะแก - -;
“ฉันเปล่านะซี ฉันแค่สะดุดขาตัวเอง มือเลยเผลอไปผลักไอ้ปาล์มมันแค่นั้นเอง แกก็อย่าโทษฉันดิว่ะไอ้ปาล์ม” มิกกี้เดินอ้อมหลังห้องมานั่งลงที่นั่งข้างหน้าฉัน หรือข้างๆ ต้นปาล์มนั่นเอง ดู๊ดู ดูมันสิ แถได้อีก - -'
“แกนั่นแหละแกล้งฉัน แกดูหน้าฉันสิ รอยนิ้วมาครบเลย TT’ ซีนัสขอทิชชู่หน่อยดิ” ต้นปาล์มยื่นหน้าไปทางมิกกี้โชว์รอยนิ้วมือแดงทั้งห้านิ้ว ก่อนจะดึงทิชชู่ที่ชุ่มเลือดโยนทิ้งแล้วขอทิชชู่แผ่นใหม่จากซีนัส ขนาดพึ่งตีกันมาแท้ๆ
“ฉันว่านายไปห้องพยาบาลเหอะ ใกล้แค่นี้เอง” ฉันนั่งตัวตรงก่อนจะไล่ให้ต้นปาล์มไปห้องพยาบาล ปกติหมอนี่ระริกระรี้จะตายเวลาได้ไปห้องพยาบาล ตอนเกรด 11 ถึงกับหาเรื่องตีกับยัยซีนัสให้ตัวเองเจ็บตัว เพื่อไปห้องพยาบาลทุกวัน
“ไม่เอาอ่ะ ฉันไม่ชอบกลิ่นยา มันฉุน” ต้นปาล์มหันกลับไปด้านหน้าห้องแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ก่อนจะแหงนหน้าขึ้นเพื่อยัดทิชชู่ที่ม้วนเป็นแท่งยาวๆ เข้าไปในรูจมูก
“งั้นนายก็เอาทิชชู่ไว้ยัดจมูกนายเองก็แล้วกัน” ยัยซีนัสโยนห่อกระดาษทิชชู่ห่อละห้าบาทที่มีขายตาเซเว่นอีเลเว่นทั่วไปใส่หัวต้นปาล์ม พร้อมๆ กับอาจารย์แมรี่คนสวยที่เดินเข้ามาในห้องและกล่าวทักทายนักเรียนในห้อง นี่อาจารย์แมรรี่มาประจำชั้นห้องบีอีกแล้ว = =; ฉันอยู่ห้องที่อาจารย์แมรี่ประจำชั้นอยู่สามปีซ้อน! ให้ตายเถอะ
“อาจารย์แมรี่อีกแล้ว โด่ ไรว่ะ - -; เจ๊แกก็สวยอยู่หรอกแต่เห็นอยู่ทุกวันๆ มันก็น่าเบื่อ” มิกกี้บ่นพึมพำก่อนจะย่นจมูกใส่อาจารย์แมรี่ ต้นปาล์มตบหัวเพื่อนเบาๆ แล้วหันไปสนใจอาจารย์แมรี่ต่อ
“ทุกคน วันนี้ครูมีสมาชิกใหม่ของห้องเรามาให้รู้จักกันนะจ๊ะ เคนจิยะ เข้ามาได้จ๊ะ”
อาจารย์แมรี่หันไปบอกบุคคลปริศนาที่คงรออยู่หน้าห้อง เสียงซุบซิบดังมาจากทั่วทุกสารทิศ แม้กระทั่งจกข้างๆ ตัวฉันเหมือนกัน - -;
“เนปจูน ฉันว่าเด็กใหม่ต้องเป็นผู้ชายแน่เลยแก สงสัยจะเป็นคนญี่ปุ่นชื่อเคนจิยะซะด้วย ว๊ายๆ > < ” ยัยซีนัสออกอาการระริกระรี้ ฉันได้แต่พยักหน้า เออ ออไปตามเรื่องเท่านั้น ต้นปาล์มกับมิกกี้จิ๊จ๊ะอย่างขัดใจ ปฏิกิริยาตอบสนองของทุกคนแตกต่างกันออกไป โดนส่วนใหญ่แล้ว รู้สึกว่พวกผู้หญิงจะหูผึ่งทันทีที่ได้ยินชื่อที่บ่งบอกความเป็นญี่ปุ่น และความเป็นชายของเจ้าของชื่อ ต่างกับพวกผู้ชายที่มีท่าทีผิดหวังและขัดใจอย่างเห็นได้ชัด
“ทำไมไม่เป็นผู้หญิงว่ะ แถมเป็นญี่ปุ่นอีกต่างหาก เบื่อ! ไม่มีสาวให้ม่อเล้ยยย ~” มิกกี้ขยี้หัวตัวเองแล้วยืดตัวนั่งตรงบนเก้าอี้ เห็นมั๊ยล่ะค่ะ ปฏิกิริยาตอบสนองมันต่างกันแค่ไหน - -;
อาจารย์แมรี่หันมามองแล้วใช้สายตาดุ ทุกคนกลับมาอยู่ในความสงบอีกครั้ง ร่างสูงข้ามผ่านประตูธรณี ผมซอยสั้นสีทองสว่าง ตายิ้มคมสวยที่ดูมีเสน่ห์ จมูกโด่งรับกับริมฝีปากบางอิ่มที่หยักยิ้มอย่างเป็นมิตร โครงหน้าเรียวคมออกแนวเจ้าชายอาหรับ นัยน์ตาที่ดูซุกซนและเป็นมิตร รอยยิ้มที่สดใสทำให้ฉันละสายตาไปจากเขาไม่ได้ เพียงชั่ววินาทีที่เขาหันมาสบตา ทำเอาหัวใจของฉันบีบรัดสูบฉีบเลือดไม่เป็นจังหวะ จนกระทั่งอาจารย์แมรี่เคาะโต๊ะครูที่อยู่หน้าห้องนั่นแหละ ฉันถึงได้ดึงสายตาให้กลับไปสนใจที่อาจารย์แมรี่ได้เหมือนเดิม
“สาวๆ จ๊ะเลิกจ้องเคนจิยะเค้าได้แล้ว ดูสิเคนจิยะหน้าแดงหมดแล้ว > < เคนจิยะแนะนำตัวหน่อยเร็ว” อาจารย์แมรี่ใช้สองมือกุมแก้มตัวเองเอาไว้ก่อนจะจ้องเคนจิยะที่กำลังแนะนำตัวแล้วยิ้มอย่างเขินอายอยู่คนเดียว เอิ่ม... อาจารย์ค่ะ อาจารย์บอกให้พวกหนูเลิกจ้อง แล้วอาจารย์จ้องหน้าเขาแทนเนี้ยนะ ? = =’
“ครับ สวัสดีครับ ทากายามะ เคนจิยะ เรียกเคนจิยะ หรือเคนจิก็ได้ เป็นลูกครึ่งไทย – ญี่ปุ่น พึ่งย้ายกลับมาอยู่เมืองไทย ฝากตัวด้วยครับ”
เคนจิยะโค้งตัวเก้าสิบองศาอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะยืดตัวตรงและยิ้มอย่างเป็นมิตรให้ทุกคน แต่รู้สึกว่าจะมาคนกลุ่มนึง ไม่สิๆ คนคนนึงไม่พอใจกับการมาของนายเคนจิยะคนนี้....
“โด่ คิดว่ายิ้มแล้วหล่อรึไงว่ะ เชอะ! ไม่หล่อ หุ่นไม่ดีแบบนั่นให้มันรู้ไป”
....มิกกี้นั่นเอง L
“เนปจูน เคนจิยะหล่ออ่ะแก > < หน้าตาก็ดี หุ่นก็เพอเฟก เค้ายิ้มให้ฉันด้วยแก๊ !! โอยจะเป็นลม” ยัยซีนัสดูท่าจะเป็นเอามาก ตั้งแต่ที่นายเคนจิยะเดินเข้ามายิ้มให้ใจฉันสั่นเล่น ยัยนี่ก็เอาแต่ฟาดแขนฉันแก้เขิน จะบอกมันไปดีมั๊ยว่าฉันเจ็บ ‘(
“ไอ้ซี ฉันเจ็บนะ แขนคนนะไม่ใช่ท่อนไม้ ที่ตีเท่าไหร่ก็ไม่เจ็บน่ะ” ฉันลูบแขนตัวเองป้อยๆ แล้วหน้าบูดใส่ยัยซีนัส นายต้นปาล์มเองก็เริ่มทำหน้าเบื่อๆ ใส่มิกกี้ที่ก่นด่าเคนจิยะไม่รู้จักจบสิ้น และถ้ายัยซีนัสยังคงเป็นแบบนี้อยู่ต่อไปล่ะก็ ฉันเองก็จะแอนตี้ไอ้หน้าหล่อหัวทองสว่างนี่เหมือนกัน....
...เดี๋ยวนะ ผมสีทองสว่างงั้นเหรอ ?
อย่าบอกนะว่า นายเคนจิยะคนนี้คือพ่อหนุ่มหัวทองผู้กล้าบ้าบิ่นเมื่อเช้า ! เจอคนวิปริตเข้าให้แล้วไงฉัน - -;;
“เอาล่ะ เคนจิยะจ๊ะ เธอไปนั่งที่โต๊ะว่างข้างหลังเนปจูนกับซีนัสเลยนะจ๊ะ เอาล่ะ....” เหมือนกับเวลาหยุดเดินไปชั่วขณะ ปฏิกิริยารีเฟคแอคชั่นทำให้ฉันหันไปมองอาจารย์แมรี่ ก่อนที่จะเบนสายตามองไปที่เคนจิยะ ถ้าตอนนี้ตาฉันไม่ฟาดหรือฉันไม่ได้เพ้อไปเอง หมอนั่นก็กำลังจ้องหน้าฉันอยู่ ก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆ ก่อนจะเดินเลยผ่านไปนั่งลงที่โต๊ะว่างข้างหลังฉัน กลิ่นน้ำหอมที่อ่อนละมุนลอยเตะจมูก เหมือนสติจะล่องลอยไปกับดวงตาคู่สวยที่จ้องฉันเหมือนกับค้นหาอะไรบางอย่าง นายกำลังมองหาอะไร ? นายต้องการอะไรจากตัวฉัน...
“เนป”
“..........”
แววตาที่ซุกซนแต่ดูลึกลับน่าค้นหานั่นมันอะไรกัน แววตาแบบนั่น เหมือนกับผู้ชายคนนั้นเลย เหมือนกันจริงๆ
“ไอ้เนป”
“..........”
แววตาที่อ่านไม่ออก ถึงภายนอกแล้วจะดูซุกวน แต่เหมือนในใจจะมีอะไรซ่อนอยู่ หมอนั่นซ่อนอะไรเอาไว้นะ...
“ไอ้เนปจูน!”
“โอ๊ย! แกหยิกฉันทำไมเนี้ย L” ฉันลูบแขนตัวเองป้อยๆ ยัยซีนัสหยิกแขนฉันเต็มรัก ฉันเอนตัวหลบมะเหงกที่ยัยซีนัสทำท่าจะมอบให้ แต่สุดท้ายก็ไม่พ้น
“ป๊อก !”
“ฉันเรียกแกจนปากจะฉีกถึงหูแล้ว” ยัยซีเอนตัวมากระซิบด้วยเสียงลอดไรฟัน “นายเคนจิยะมองเธออยู่ เค้าคงอยากจะเป็นเพื่อนกับแก หันไปคุยกับเค้าหน่อย เร็วสิๆ”
ฉันหันไปมองเคนจิยะตามที่ยัยซีนัสบอก หมอนั่นกำลังมองฉันจริงๆ ด้วย ฉันหันไปมองยัยซีนัสด้วยสายตาชั่งใจ ก่อนจะโดนตอกกลับด้วยสายตาที่ฉันไม่อยากจะบรรยาย (กลัวเพื่อนเสียภาพพจน์)
“หวัดดี ^o^/”
“=[]=/ หวัดดี”
รอยยิ้มที่แสนน่ารักกับแววตาซุกซนสดใสเป็นประกาย ....
~ ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก ~
.....บอกฉันที ว่าเสียงบ้าๆ ที่ฉันกำลังได้ยินอย่ตอนนี้ ไม่ใช่เสียงหัวใจของฉัน
คุยกันซักนิด <3
อันยองง งงงง รีดเดอร์ที่รักของปาล์ม > <
มาแล้ววว กับ พาสแรก ของ snesitive ! ขอบอกว่าตอนที่ปาล์มแต่งพาสนี้
ปาล์มแต่งไปเขินไป >////< นั่งเขินอิมเมจเคนจิ อุ่นของแม่หล่อมว๊ากก ! อัยย่ะ !!
เปิดตัวไม่ค่อยจะน่าสนใจเท่าไหร่เลย - -; เฮ้ออออ ~ เดี๋ยวนี้ปาล์มคงเป็นโรคแต่งนิยายไม่ออกซะแล้ว '(
แต่งเสร็จแล้วกลับไปอ่าน รู้สึกว่าตัวเองยังสื่ออารมณ์ของตัวละครออกไปได้ไม่ดีนัก เลยต้องใช้อิโมติคอนช่วย
อันที่จริง ปาล์มไม่อยากจะใช้อิโมติคอนเลย แต่เพื่อกลบจุดด้อยที่แก้เท่าไหร่ก็ไม่หาย ปาล์มจำเป็นต้องใช้ '(
สนุกหรือไม่สนุกยังไง ช่วยติติงกันด้วยนะค่ะ
ความคิดเห็น