คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Garden of roses :: Begin
___บทนำ___
เมื่อยามดวงอาทิตย์ขึ้นสู่ขอบฟ้า ที่แปรเปลี่ยนจากรัตติกาล จากสีฟ้าเข้มเป็นสีฟ้าอ่อน แสงสีขาวจากจาก
ดวงตาสีมรกตมองภาพ เบื้องหน้าและคลียิ้มอย่างไร้เดียงสาตามประสา สาวน้อยที่ไม่เคยพบสิ่งแปลกประหลาด น่าตื่นตาตื่นใจมาก่อนนี้เป็นครั้งแรก ที่เธอได้พบกับดอกกุหลาบที่มีสีแดงคล้ำคล้ายกับเลือด เธอไม่เคยพบในตำราเล่มไหนๆ หรือว่ามีใครกล่าวกับเธอมาก่อนว่ามีดอกกุหลาบสีนี้อยู่บนโลกด้วย พลันดวงตากลมโตแววประกายหลังจากฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นไม่น้อยเธอจึงตัดสินใจจะเด็ด ดอกกุหลาบที่กำลังชูดอกอูมโตของมัน ยิ่งเธอจ้องมองมันเพื่อหวังจะเด็ดเท่าไหร่ คล้ายกับว่าเธอกำลังถูกเย้ายวนอย่างยากจะหลุดพ้นไปได้
เมื่อครั้นนิ้วป้อมๆสัมผัสเพียงเล็กน้อย บริเวณลำต้นสีเขียว สาวน้อยสะดุ้งเฮือก ผงะถอยพร้อมกับความรู้สึกเจ็บแปลบ ยามโดนหนามสีเขียวอันเล็กทิ่มที่บริเวณปลายนิ้วมือเลือดนั้นค่อยๆไหลซิบๆออกมาจากปลายนิ้วมือเล็กๆเธอตัดสินใจอมนิ้วนั้นเข้าไปปาก เพื่อหวังว่าเลือดนั้นจะสามารถหยุดไหลได้ กลิ่นสนิมของคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วบริเวณริมฝีปาก เธอดึงนิ้วนั้นออกมาพร้อมกลับพบว่าทั่วทั้งนิ้วมือและปลายริมฝีปากของเธอถูกอาบไปด้วยเลือด ใบหน้าเด็กน้อยไร้เดียงสาเริ่มบิดเบี้ยวพร้อมกับใบหน้าที่เปื้อนน้ำตา
“เฮเลน!!! ” เด็กหญิงตัวน้อยวัยแปดปีแผดเสียงลั่นดวงตานั้นชุ่มไปด้วยน้ำตา
ผู้ เป็นพี่สาวสะดุ้งตื่นขึ้นหลังจากหลับบริเวณต้นแอปเปิล เธอรีบรุจไปยังต้นเสียงที่เอ่ยเรียกชื่อของเธอภาพตรงหน้าทำให้เธอต้องเข้าประคองน้อง สาวที่กำลังร้องไห้พร้อมกับเลือดที่อาบชโลมนิ้ว
“เลเรีย น้องไปทำอะไรมาทำไมถึงได้เป็นอย่างนี้” เธอเอ่ยด้วยน้ำ เสียงรีบร้อนและใบหน้าที่กระวนกระวายเป็นอย่างมากหากแค่เด็กสาวไม่ตอบเธอชี้ ไปยังดอกกุหลาบที่บัดนี้ยังคงชูดอกของมันอยู่อย่างคล้ายกับว่าไม่รู้เรื่องอะไรที่เกิดขึ้น
“พี่ไม่เคยเห็นกุหลาบสีแดงมาก่อนทั้ง สวนของเรามีแต่ดอกกุหลาบสีขาว” เธอพูดพร้อมทั้งมองดูทั้งฝ่ามือของผู้เป็นน้องสาวที่บัดนี้อาบชโลมไปด้วยเลือด
...วันนั้นวันที่องค์หญิงเลเรีย แห่ง เรวาเลีย ได้โดนกุหลาบที่อาบยาพิษ ทิ่มเพียงแค่บริเวณปลายนิ้วมือ
เธอมาทราบเอาที่หลังว่าพิษได้แทรกซึมไปทั่วมือของเธอแล้วตัวนำคือเลือดของเธอที่จะแผลงฤทธิ์เมื่อออกมาจากนอกร่างกาย เพราะเหตุนั้นเองจึงทำให้เธอต้องเสียมือข้างซ้ายไปเพราะมันมีแผลพุพองที่น่ารังเกียจ และ มีลักษณะหลังจากทำการล้างพิษแต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากมือนั้นคล้ายกับมือของคนตาย มีสีขาวซีดเซียวและตึงติดกระดูกคล้ายกับว่ามีเพียงหนังตึงๆถูกตรึงไว้ด้วยกระดูกเพียงแค่นั้น
เลเรียนั้นไม่ตัดมือ ออกเธอไม่สามารถยอมรับตัวเองที่จะต้องมาเป็นคนพิการตลอดชีวิตได้แม้มือข้างนั้นหลังจากผ่านการล้างพิษก็แทบจะใช้งานอะไรไม่ได้เลยก็ตาม แต่กลับสวมถุงมือไว้เพื่อไม่ให้ใครได้รับรู้ความจริงว่า มือนั้นไม่เหมือนคนอื่นๆ นับตั้งแต่วันนั้นเลเรียจึงถูกมองว่าเป็นตัวต้องสาป ในสายตาของบิดาของตน
และกักขังตัวเองในพระราชวังหลวงตลอดเวลาความเกลียดชังต่อพี่สาวเริ่มยิ่งทวีคูณมากขึ้น แต่ผู้ที่รู้เรื่องราวของมือข้างที่มีปัญหานั้นต่างก็ลงความเห็นเป็นอย่างเดียวกันว่า พิษในดอกกุหลาบนั้นคือคำสาปของบรรพบุรุษ ที่สาปต่อองค์หญิงองค์แรกที่เกิดมามีเส้นผมสีส้มและดวงตาสีมรกต ผู้ที่ตำนานเคยกล่าวไว้ว่าจะเป็นผู้สนับสนุนซานตานที่จะล้างโลกใบนี้
แต่เธอกลับไม่นึกเช่นนั้นเธอมองเพียงแค่ว่าในเมื่อจะใครซะอีกเล่า ที่ปลูกดอกกุหลาบนั้นพี่สาวคงคิดจะแกล้งเธอเป็นแน่
ร่าง ของเด็กสาวตัวเล็กนั้นนั่งนิ่งบนแท่นบรรทมนัยน์ตานั้นแดงก่ำหลังจากร้องไห้ มาหลายคืน
สายตาองไปยังประตูที่ เคาะอยู่จากนั้นเสียงเคาะจึงเงียบหายไป
“เลเรีย พี่จะไม่ยอมให้เจ้าต้องทุกข์ทรมานไปตลอดกาล คนเดียวพี่เป็นห่วงเจ้านะ”
เด็กสาวไม่ตอบเธอเมื่อมั่นใจแล้วว่าคน คนนั้นจะไม่อยู่หน้าห้องเด็กสาวเปิดประตูออก และพบกับดอกกุหลาบขาวบนพื้นใบ หน้านั้นบิดเบี้ยวด้วยความโกรธปลายเท้าบดขยี้กุหลาบบนพื้นอย่างรังเกียจ
“น่าขยะแขยงที่สุดทำไมถึงทำกับข้าอย่างนี้กัน”
เด็กสาวว่าพลางทรุดร่างลงกับพื้นเธอหยิบสร้อยคอที่สวมอยู่ขึ้นพิจารณา อัญมณีสีม่วงเม็ดเล็กที่ห้อยไว้ส่องแสงเรืองรองยามกระทบกับแสงของเปลวเทียน หยาดน้ำตาใสๆไหลรินอาบใบหน้าของเด็กสาวที่กำลังทรุดนั่งอยู่น้ำตานั้นท่วมใบหน้าอาบไหลรินไม่หยุด เธอมองมือข้างที่สวมถุงมือไว้อย่างนึดสมเพชตัวเองความเจ็บปวดที่ได้รับช่างมากมายเสียเหลือเกิน เธอรู้ดีว่าไม่อาจจะโกรธผู้เป็นพี่ไปนานแต่ว่า เธอก็จะรู้สึกขยะแขยงและรังเกียจในดอกกุหลาบไปตลอดชั่วชีวิตจะต้องสูญสิ้น
ความคิดเห็น