คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : การกลับมาของอีทึก
หากใครเดินผ่านไปผ่านมาในสนามบินอินชอลตอนนั้นคงจะนึกเหมือนกับคุณลุงคนขับแท็กซี่ว่ามีอาจารย์ยิ่งสากมาทำสอนอาหารที่สนามบินแห่งนี้..แต่หากใครไม่รู้จักอาจารย์ยิ่งสากคงนึกว่าไอ้บ้าหลุดมาจากโรงพยาบาล
ศรีทานหญ้าเป็นแน่..-_-+
ร่างอวบในชุดเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นสีเหลือง
สวมทับด้วยเสื้อกันเปื้อนพร้อมกับหมวกทำอาหารที่เขียนว่า” ซอสภูเขาเงิน”
“เมื่อไหร่จะมาว่ะ “ คังอินพูดพลางมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะบ่นเพราะนี้มันก็เลยเวลานัดมาครึ่งชั่วโมงแล้ว
คังอินหงุดหงิดนิดหน่อยที่ต้องมาเบียดเสียดกับลุงแก่ๆและป้าแหนมมัดที่ขนาบข้างเขาราวกับเขาเป็นไส้ขนมปัง
“ ถ้าเบียดกับแหม่มสวยๆกูจะไม่บ่นสักคำ”
เหมือนสวรรค์จะสงสารคังอิน ชายหนุ่มเห็นอีทึกเดินดุ่มๆมาแต่ไกล
ร่างเล็กในชุดสีขาวสวมทับด้วยสีโค้ดสีดำยี่ห้อหรู
รองเท้าหนังถูกขัดเป็นมัน ดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า
ถ้าเทียบกับคังอินแล้ว..เขาดูไม่ได้เลย(จริงๆไอ้หมีมันก็ดูไม่ได้ตั้งแต่เฮียเย่จับแต่งชุดนี้แล้วล่ะ- -)
“ เฮ้! ไอ้ทึก” คังอินโบกไม้โบกมือพลางตะโกนเสียงดังราวกับเชียร์กีฬาที่สนามศุภชลาสัย
“ คังอิน” ลีทึกโบกมือหย็อยๆราวกับนางสาวไทย รอบตัวเขามีลำแสงออร่าเปล่งออกมา
“ อีทึก”
“ คังอิน”
“อีทึก”
“คังอิน”
ทั้งสองเรียกชื่อกันและกันน้ำตาไหลพรากหยดเป็นสายด้วยความคิดถึง
“ นึกว่าจะตกเครื่องบินตายไปแล้ว”
“ ฉันก็นึกว่านายจะเกาสังคังจนทำพันธ์ไม่ได้ซะแล้ว”
คนทั้งคู่หัวเราะคิกคัก
“ ทำไมแต่งชุดอย่างนี้มาเนี้ยคังอิน” อีทึกมองคังอินตั้งแต่เท้าจรดหัว
มันจะมาแปลงโฉมเป็นอาจารย์ยิ่งสากรึไงว่ะ - -
“ เก๋ใช่ไหมล่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ” คังอินหัวเราะ
“ เก๋พ่อมึงดิ ยังกะอาจารย์ยิ่งสาก”
“ คุณอีทึกครับจะออกเดินทางได้หรือยังครับ” เสียงหวานขัดจังหวะการคุยอย่างออกสของคนทั้งคู่
“ นี่ ซองมิน บอกว่าให้เรียกฉันว่าคุณหนูปาร์ค เข้าใจไหม?” อีทึกหันไปด่าลูกน้องของตัวเอง
“ลีซองมิน” ลูกกระจ๊อกของอีทึก ทำงานรับใช้อีทึกมาตั้งแต่เด็ก ถูกอีทึกขู่เข็ญ ตบตี ฟาดก้านคอ หนุมารถวายแหวน(เวอร์และ) แต่ก็จงรักภักดีกับอีทึกเสมอ
“ ครับๆคุณหนูป๊าด”
“ ปาร์คไม่ใช่ป๊าด”
“ ปาก”
“ โถ่เว้ย ไอ้..” อีทึกหันไปตบหัวซองมินอย่างเมามันส์
“ อีทึกนั้นใครน่ะ” คังอินสะกิดถามเพราะกลัวซองมินจะหัวหลุดออกจากบ่า
“ อ๋อ ! ไอ้เวรเนี้ยน่ะหรอ” อีทึกสะบัดหน้าไปทางซองมิน
“ เออ”
“ ลูกกระจ๊อกฉันเอง มันชื่อซองมิน เอ้า ซองมิน ไหว้คังอินหน่อยสิ คังอินเนี้ยเพื่อนฉัน” อีทึกหันไปตบหัวซองมินอีกรอบที่ตอนนี้กำลังตาลอยอยู่กับบู๊ทขนมหวานละลานตาไปหมด
“ - - ! สวัสดีครับคุณคังอิน” ซองมินหันไปไหว้ป้าแก่ๆที่เดินผ่านมา
“ ทางนี้ว้อย “ อีทึกกระชากคอซองมินให้หันกลับมาทางคังอินที่ยืนอยู่
“ สวัสดีครับ” ซองมินทักทาย
“ หวัด..หวัดดี” คังอินรับไหว้
โห! นี่มันคนใช้ไอ้ทึกจริงๆหรอครับเนี้ย
ผมว่ามันน่าจะสลับหน้าที่กันมากกว่านะ =[]=
ดูซองมินสิ..ผิวพรรณขาวผ่อง เรียบเนียนละเอียด
ผมสีน้ำตาลดูท่าทางอ่อนนุ่ม
ริมฝีปากบางสีชมพู
แก้มเป็นสีชมพูระเรื่อดูมีเลือดฝาด
ถ้าไม่ติดว่า..ปัญญานิ่มไปหน่อย
ป่านนี้ผมว่าอีทึกนั่นแหละคงเป็นคนที่เดินตามให้ซองมินขยี้หัวเล่น
“ นี่คังอินฉันหิวแล้ว ไปหาอะไรกินกันดีกว่านะ” อีทึกพูดพลางลูบท้องตัวเองเบาๆ
“ ก็ได้” คังอินพยัคหน้ารับทั้งทีในใจอยากกลับไปเปลี่ยนชุดเต็มทน เพราะตอนนี้เขาเริ่มอายสายตาประชาชีที่มองเขาราวกับเป็นอาจารย์ยิ่งสาก
“ ซองมินเดินตามมาเร็วๆสิ” อีทึกเร่งซองมินที่กำลังเช็ดน้ำลายที่มุมปากเนื่องจากกลิ่นหอมหวานของร้านเบเกอรรี่นั้นช่างยั่วยวนเหลือเกิน
“ โห โครตสุดยอดเลยว่ะ” คังอินแอบกระซิบกับตัวเองเบาๆเมื่อเดินเข้ามาภายในร้านอาหารฝรั่งทุกคนในร้านนั้นเนี้ยบราวกับถอดออกมาจากราชวงศ์ผู้ดี คังอินเริ่มอายเมื่อเห็นผู้คนในร้านมองเขาและขำไปด้วย
อีทึกนั่งลงก่อนจะเชิญให้คังอินนั่งและไล่ซองมินไปให้พ้นหูพ้นตา
“ จะสั่งอะไรก็สั่งเลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ “ อีทึกยิ้มก่อนจะหันไปสั่งอาหารกับบริกร
“ - - นี่มันอะไรว่ะ” คังอินบ่นพึมพำกับคำภาษาอังกฤษในเมนูที่เขาอ่านไม่ออก
ชายหนุ่มพยายามนั่งมั่วอยู่นานจนบริกรกระแอ่มขึ้นมา
“
= = จะกระแอ่มหาแม่มันไงว่ะ” คังอินบ่นเบาๆก่อนจะตัดสินใจเลือกเมนูอาหาร
“ น้องๆพี่เอาอันนี้แหละ” คังอินชี้ไปที่คำภาษาอังกฤษบนเมนูที่เขาไม่รู้ความหมายแม้แต่น้อย
“
” บริกรทำหน้างงราวกับโดนฮยอกแจเอาเหงือกตบหน้า(=__=ไรเตอร์จะโดนรุมตีนไหมเนี้ย)
“ เอ้าน้อง!พี่จะเอาอันนี้อ่ะ ทำไม..ไม่มีรึไง” คังอินเริ่มโวย
“ ..มะ..ไม่มีครับ”
“ ได้ไงว่ะเฮ้ย!ร้านก็ออกจะหรูของที่พี่สั่งจะไม่มีได้ไง”
คังอินได้ทีก็โวยพนังงานทันที
“ พอเถอะ สั่งอย่างอื่นก็ได้” อีทึกลุกขึ้นปราม
“ ไม่..ก็จะกินอันนี้” คังอินหันไปตวาดทำให้อีทึกนั่งลง
“ ประทานโทษครับ..ท่าน..คือที่ท่านสั่งน่ะ..มันไม่มีในรายการอาหารหรอกครับ เพราะนั่นมันชื่อโรงพิมพ์ครับ “ บริกรอธิบาย
“
”
“ เอ่อ..งั้นพี่สั่งแบบเพื่อนพี่อีกที่แล้วกัน” คังอินเริ่มสงบปากสงบคำเมื่อเห็นว่าคนในร้านจ้องมองเขาและคำคิกคัก
“ ไอ้พวกไร้มารยาท” คังอินสถบด่าก่อนจะนั่งลง
“ -___-‘’’ ทำอะไรลงไปรู้ไหมน่ะ” อีทึกเอามือตบหน้าผากตัวเอง
“ รู้..ก็แค่เล่นกับเด็กมันน่ะ..คิดมาก” คังอินหัวเราะกลบเกลื่อน
“ แหะๆ คำตายล่ะ..>< โอ้ย คนอื่นเขาจะมองฉันยังไงเนี้ย”
“ เอาน่า..ไม่ต้องอายหรอก” คังอินตบหลังอีทึก
“ ..เฮ้อ” อีทึกถอนหายใจ
“อาหารที่สั่งได้แล้วครับ” บริการพูดพร้อมกับวางอาหารลงบนโต๊ะ
เสต็กเนื้อแกะที่ถูกย่างด้วยความสุกปานกลางส่งกลิ่นหอมฉุยทำให้คังอินถึงกับน้ำลายสอ
“ นั่นผ้าน่ะ..เอาไว้กันเปื้อน” อีทึกชี้มือไปที่ผ้าสีเลือดหมูที่ถูกพับไว้อย่างดีบนโต๊ะ
“ อื้อๆ” คังอินพยัคหน้าก่อนจะหยิบผ้ามายัดเข้าไปลงในคอเสื้อแต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อเห็นอีทึกเอาผ้านั่นมากางและวางบนตัก
“ คังอิน..นายทำอะไรน่ะ โถ่เอ้ย! - - “ อีทึกแทบอยากจะแยกโต๊ะกับคังอิน
“ ขอโทษๆ มันเป็นมุก”
“ มุกนายนี่หลายรอบเหลือเกินนะ” อีทึกถอนหายใจ
คังอินดึงผ้าออกจากคอเสื้อก่อนจะเอามากางวางไว้ที่ตักเหมือนกับอีทึก
“ แผล็บ” คังอินแลบลิ้นเลียที่มุมปากอย่างโหยหา..ปกติเขาเคยกินแต่หมี่เกี๊ยวร้านเฮียชินดงไม่เคยได้สัมผัสอาหารดีๆอย่างเสต็กเนื้อแกะมาก่อน
คังอินค่อยๆบรรจงหั่นชิ้นเนื้อก่อนจะตักมันเข้าปาก
“ อื้มม” หลับตาพริ้มด้วยความอิ่มเอม เสต็กเนื้อแกะนี่มันช่างอร่อยล้ำเหลือเกิน
ไม่นานนักบริกรคนเดิมก็ถือไวท์แดงมารินใส่แก้วให้ทั้งคังอินและอีทึก
“ ขอบคุณมากไอ้น้อง” คังอินพูดอย่างอารมณ์ดี
จะอะไรซะอีก..ก็ทีนี้อาหารก็อร่อย บรรยากาศก็ดีมีเพลงคลาสสิกบรรเลงคลอเบาๆไม่เหมือนร้านเฮียชินดงที่วันๆเปิดแต่เพลง”มันต้องถอน”ของปอยฝ้ายทั้งวัน
..มันช่างอิ่มเอมใจ..ผู้ดี๊..ผู้ดี
คังอินยกไวท์ขึ้นมากระดกซึ่งต่างกับอีทึกที่ค่อยๆจิบไวท์
“ คังอิน ไวท์น่ะเขาค่อยๆจิบน่ะ ต้องอมไว้ในปากเพื่อให้รสและอุณภูมิดีขึ้นก่อนจะกลืนลงไป ไม่ใช่กระดกแบบนั่น” อีทึกพูดก่อนจะวางแก้วไวท์ลงบนโต๊ะ
“ ไม่เห็นจะเป็นไรเลย” ด้วยความที่เป็นคนคออ่อนคังอินจึงพูดไปอย่างนั้นก่อนจะหันไปกลับมือเรียกบริกรอีกรอบ
“ บ๋อยๆ เอามะขามเปียกมาแกล้มหน่อยสิโว้ย” คังอินที่ตอนนี้สติไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัวพูดอย่างอ้อแอ้ทั้งๆที่เพิ่งกินไปแก้วเดียว
“ โว้ย ! ไอ้สังคังหุบปากไปเลยนะเว้ยที่นี้ร้านอาหารฝรั่งนะไม่ใช่ร้านลาบอุดรของแก” อีทึกรีบโวยวายเพื่อสงบปากสงบคำเพื่อนรักก่อนจะหันไปยิ้มให้กับบริกรเป็นเชิงว่า’อย่าไปถือสา’
“ เฮ้ย!ไอ้จองซูเอ็งจะห้ามข้าหาป้าเอ็งหรอหา..ข้าจะสั่งอะไรมันก็เรื่องของข้า” คังอินชี้หน้าอีทึกอย่างไม่เกรงใจด้วยความเมา
“ เรื่องของเอ็งแต่กูจ่ายตังค์นี่โว้ย - - ^ “ อีทึกพูดอย่างเหลืออด
“ เช็คบิล” อีทึกยกมือขึ้นมาก่อนที่บริกรจะวิ่งแจ้นมาหา
มือบางนับธนบัตรหลายใบก่อนจะยื่นส่งให้บริกรเกินราคาตามบิล
“ เอ่อ..ทั้งหมดนี่ทิปนะจ๊ะ” อีทึกหัวเราะแห้งๆ
“ ครับ” บริกรนั่นตอบอย่างสุภาพที่สุดเพราะนั่นหมายถึงเงินค่าเหนื่อยที่แสนจะคุ้มค่านั่นเอง
“ เฮ้ย! - -จะรีบไปหนายอ่ะ ยางกินไม่หมดเลย” คังอินเสียงยางคาน
“ โอ้ย ฉันล่ะจะประสาทกิน คนอะไรว่ะ ไวท์แก้วเดียวยังเมา คออ่อนขนาด..” อีทึกบ่นขณะที่กำลังงัดคังอินออกมาจากเก้าอี้
“ เฮ้ย บ๋อยๆ อย่าลืมห่อให้พี่ด้วยน้า” คังอินหันมาสมทบตบท้ายก่อนจะโดนอีทึกดึงออกจากร้านอาหารไป
“ =______= โถ่เว้ย!ฉันไม่น่ามาที่นี้จริงๆเล้ย ไอ้เพื่อนเวร จะพึ่งก็พึ่งไม่ได้ แถมยังทำให้ฉันขายขี้หน้าอี๊ก~!”
_____________~
ไรเตอร์หายไปนานเกินไปไหมเอ่ย?..หวังว่าคงไม่นานเกินรอนะจ๊ะ
เฮ้อ..เห็นคอมเม้นส์แล้วชื่นใจ(แม้เกือบครึ่งเพื่อนจะมาเม้นส์ให้ก็ตาม)
แต่ก็ดีใจมากๆเลย ^^ ขอบคุณคนอ่านทุกๆคนนะจ๊ะ ขอบคุณ ขอบคุณมากเล้ย
ความคิดเห็น