ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    THE ANSWER IS …YOU คำตอบของผมคือ…คุณ (Kangteuk)

    ลำดับตอนที่ #2 : การกลับมาของอีทึก

    • อัปเดตล่าสุด 30 ก.ค. 52


    หากใครเดินผ่านไปผ่านมาในสนามบินอินชอลตอนนั้นคงจะนึกเหมือนกับคุณลุงคนขับแท็กซี่ว่ามีอาจารย์ยิ่งสากมาทำสอนอาหารที่สนามบินแห่งนี้..แต่หากใครไม่รู้จักอาจารย์ยิ่งสากคงนึกว่าไอ้บ้าหลุดมาจากโรงพยาบาล

    ศรีทานหญ้าเป็นแน่..-_-+

    ร่างอวบในชุดเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นสีเหลือง

    สวมทับด้วยเสื้อกันเปื้อนพร้อมกับหมวกทำอาหารที่เขียนว่า ซอสภูเขาเงิน

    เมื่อไหร่จะมาว่ะ คังอินพูดพลางมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะบ่นเพราะนี้มันก็เลยเวลานัดมาครึ่งชั่วโมงแล้ว

    คังอินหงุดหงิดนิดหน่อยที่ต้องมาเบียดเสียดกับลุงแก่ๆและป้าแหนมมัดที่ขนาบข้างเขาราวกับเขาเป็นไส้ขนมปัง

    ถ้าเบียดกับแหม่มสวยๆกูจะไม่บ่นสักคำ  

    เหมือนสวรรค์จะสงสารคังอิน ชายหนุ่มเห็นอีทึกเดินดุ่มๆมาแต่ไกล

    ร่างเล็กในชุดสีขาวสวมทับด้วยสีโค้ดสีดำยี่ห้อหรู

    รองเท้าหนังถูกขัดเป็นมัน ดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า

    ถ้าเทียบกับคังอินแล้ว..เขาดูไม่ได้เลย(จริงๆไอ้หมีมันก็ดูไม่ได้ตั้งแต่เฮียเย่จับแต่งชุดนี้แล้วล่ะ-  -)

    เฮ้! ไอ้ทึก คังอินโบกไม้โบกมือพลางตะโกนเสียงดังราวกับเชียร์กีฬาที่สนามศุภชลาสัย

    คังอิน ลีทึกโบกมือหย็อยๆราวกับนางสาวไทย รอบตัวเขามีลำแสงออร่าเปล่งออกมา

    อีทึก

    คังอิน

    อีทึก

    คังอิน

    ทั้งสองเรียกชื่อกันและกันน้ำตาไหลพรากหยดเป็นสายด้วยความคิดถึง

    นึกว่าจะตกเครื่องบินตายไปแล้ว

    ฉันก็นึกว่านายจะเกาสังคังจนทำพันธ์ไม่ได้ซะแล้ว

    คนทั้งคู่หัวเราะคิกคัก

    ทำไมแต่งชุดอย่างนี้มาเนี้ยคังอิน อีทึกมองคังอินตั้งแต่เท้าจรดหัว

    มันจะมาแปลงโฉมเป็นอาจารย์ยิ่งสากรึไงว่ะ -  -

    เก๋ใช่ไหมล่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ คังอินหัวเราะ

    เก๋พ่อมึงดิ ยังกะอาจารย์ยิ่งสาก

    คุณอีทึกครับจะออกเดินทางได้หรือยังครับ เสียงหวานขัดจังหวะการคุยอย่างออกสของคนทั้งคู่

    นี่ ซองมิน บอกว่าให้เรียกฉันว่าคุณหนูปาร์ค เข้าใจไหม?” อีทึกหันไปด่าลูกน้องของตัวเอง

    ลีซองมิน ลูกกระจ๊อกของอีทึก ทำงานรับใช้อีทึกมาตั้งแต่เด็ก ถูกอีทึกขู่เข็ญ ตบตี ฟาดก้านคอ หนุมารถวายแหวน(เวอร์และ) แต่ก็จงรักภักดีกับอีทึกเสมอ

    ครับๆคุณหนูป๊าด

    ปาร์คไม่ใช่ป๊าด

    ปาก

    โถ่เว้ย ไอ้..” อีทึกหันไปตบหัวซองมินอย่างเมามันส์

    อีทึกนั้นใครน่ะ คังอินสะกิดถามเพราะกลัวซองมินจะหัวหลุดออกจากบ่า

    อ๋อ ! ไอ้เวรเนี้ยน่ะหรอ อีทึกสะบัดหน้าไปทางซองมิน

    เออ

    ลูกกระจ๊อกฉันเอง มันชื่อซองมิน เอ้า ซองมิน ไหว้คังอินหน่อยสิ คังอินเนี้ยเพื่อนฉันอีทึกหันไปตบหัวซองมินอีกรอบที่ตอนนี้กำลังตาลอยอยู่กับบู๊ทขนมหวานละลานตาไปหมด

     -  - ! สวัสดีครับคุณคังอิน ซองมินหันไปไหว้ป้าแก่ๆที่เดินผ่านมา

    ทางนี้ว้อย   อีทึกกระชากคอซองมินให้หันกลับมาทางคังอินที่ยืนอยู่

    สวัสดีครับ ซองมินทักทาย

    หวัด..หวัดดี คังอินรับไหว้

    โห! นี่มันคนใช้ไอ้ทึกจริงๆหรอครับเนี้ย

    ผมว่ามันน่าจะสลับหน้าที่กันมากกว่านะ =[]=

    ดูซองมินสิ..ผิวพรรณขาวผ่อง เรียบเนียนละเอียด

    ผมสีน้ำตาลดูท่าทางอ่อนนุ่ม

    ริมฝีปากบางสีชมพู

    แก้มเป็นสีชมพูระเรื่อดูมีเลือดฝาด

    ถ้าไม่ติดว่า..ปัญญานิ่มไปหน่อย

    ป่านนี้ผมว่าอีทึกนั่นแหละคงเป็นคนที่เดินตามให้ซองมินขยี้หัวเล่น

    นี่คังอินฉันหิวแล้ว ไปหาอะไรกินกันดีกว่านะ อีทึกพูดพลางลูบท้องตัวเองเบาๆ

    ก็ได้ คังอินพยัคหน้ารับทั้งทีในใจอยากกลับไปเปลี่ยนชุดเต็มทน เพราะตอนนี้เขาเริ่มอายสายตาประชาชีที่มองเขาราวกับเป็นอาจารย์ยิ่งสาก

    ซองมินเดินตามมาเร็วๆสิ อีทึกเร่งซองมินที่กำลังเช็ดน้ำลายที่มุมปากเนื่องจากกลิ่นหอมหวานของร้านเบเกอรรี่นั้นช่างยั่วยวนเหลือเกิน

    โห โครตสุดยอดเลยว่ะ คังอินแอบกระซิบกับตัวเองเบาๆเมื่อเดินเข้ามาภายในร้านอาหารฝรั่งทุกคนในร้านนั้นเนี้ยบราวกับถอดออกมาจากราชวงศ์ผู้ดี คังอินเริ่มอายเมื่อเห็นผู้คนในร้านมองเขาและขำไปด้วย

    อีทึกนั่งลงก่อนจะเชิญให้คังอินนั่งและไล่ซองมินไปให้พ้นหูพ้นตา

    จะสั่งอะไรก็สั่งเลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ อีทึกยิ้มก่อนจะหันไปสั่งอาหารกับบริกร

    -  - นี่มันอะไรว่ะ คังอินบ่นพึมพำกับคำภาษาอังกฤษในเมนูที่เขาอ่านไม่ออก

    ชายหนุ่มพยายามนั่งมั่วอยู่นานจนบริกรกระแอ่มขึ้นมา

    …=  = จะกระแอ่มหาแม่มันไงว่ะ คังอินบ่นเบาๆก่อนจะตัดสินใจเลือกเมนูอาหาร

    น้องๆพี่เอาอันนี้แหละ คังอินชี้ไปที่คำภาษาอังกฤษบนเมนูที่เขาไม่รู้ความหมายแม้แต่น้อย

    …” บริกรทำหน้างงราวกับโดนฮยอกแจเอาเหงือกตบหน้า(=__=ไรเตอร์จะโดนรุมตีนไหมเนี้ย)

    เอ้าน้อง!พี่จะเอาอันนี้อ่ะ ทำไม..ไม่มีรึไง คังอินเริ่มโวย

    ..มะ..ไม่มีครับ

    ได้ไงว่ะเฮ้ย!ร้านก็ออกจะหรูของที่พี่สั่งจะไม่มีได้ไง

    คังอินได้ทีก็โวยพนังงานทันที

    พอเถอะ สั่งอย่างอื่นก็ได้ อีทึกลุกขึ้นปราม

    ไม่..ก็จะกินอันนี้ คังอินหันไปตวาดทำให้อีทึกนั่งลง

    ประทานโทษครับ..ท่าน..คือที่ท่านสั่งน่ะ..มันไม่มีในรายการอาหารหรอกครับ เพราะนั่นมันชื่อโรงพิมพ์ครับ บริกรอธิบาย

    “…”

    เอ่อ..งั้นพี่สั่งแบบเพื่อนพี่อีกที่แล้วกัน คังอินเริ่มสงบปากสงบคำเมื่อเห็นว่าคนในร้านจ้องมองเขาและคำคิกคัก

    ไอ้พวกไร้มารยาท คังอินสถบด่าก่อนจะนั่งลง

    -___-‘’’ ทำอะไรลงไปรู้ไหมน่ะ อีทึกเอามือตบหน้าผากตัวเอง

    รู้..ก็แค่เล่นกับเด็กมันน่ะ..คิดมาก คังอินหัวเราะกลบเกลื่อน

    แหะๆ คำตายล่ะ..>< โอ้ย คนอื่นเขาจะมองฉันยังไงเนี้ย

    เอาน่า..ไม่ต้องอายหรอก คังอินตบหลังอีทึก

    ..เฮ้อ อีทึกถอนหายใจ

    อาหารที่สั่งได้แล้วครับ บริการพูดพร้อมกับวางอาหารลงบนโต๊ะ

    เสต็กเนื้อแกะที่ถูกย่างด้วยความสุกปานกลางส่งกลิ่นหอมฉุยทำให้คังอินถึงกับน้ำลายสอ

    นั่นผ้าน่ะ..เอาไว้กันเปื้อน อีทึกชี้มือไปที่ผ้าสีเลือดหมูที่ถูกพับไว้อย่างดีบนโต๊ะ

    อื้อๆ คังอินพยัคหน้าก่อนจะหยิบผ้ามายัดเข้าไปลงในคอเสื้อแต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อเห็นอีทึกเอาผ้านั่นมากางและวางบนตัก

    คังอิน..นายทำอะไรน่ะ โถ่เอ้ย! -  - “ อีทึกแทบอยากจะแยกโต๊ะกับคังอิน

    ขอโทษๆ มันเป็นมุก

    มุกนายนี่หลายรอบเหลือเกินนะ อีทึกถอนหายใจ

    คังอินดึงผ้าออกจากคอเสื้อก่อนจะเอามากางวางไว้ที่ตักเหมือนกับอีทึก

    แผล็บ คังอินแลบลิ้นเลียที่มุมปากอย่างโหยหา..ปกติเขาเคยกินแต่หมี่เกี๊ยวร้านเฮียชินดงไม่เคยได้สัมผัสอาหารดีๆอย่างเสต็กเนื้อแกะมาก่อน

    คังอินค่อยๆบรรจงหั่นชิ้นเนื้อก่อนจะตักมันเข้าปาก

    อื้มม หลับตาพริ้มด้วยความอิ่มเอม เสต็กเนื้อแกะนี่มันช่างอร่อยล้ำเหลือเกิน

    ไม่นานนักบริกรคนเดิมก็ถือไวท์แดงมารินใส่แก้วให้ทั้งคังอินและอีทึก

    ขอบคุณมากไอ้น้อง คังอินพูดอย่างอารมณ์ดี

    จะอะไรซะอีก..ก็ทีนี้อาหารก็อร่อย บรรยากาศก็ดีมีเพลงคลาสสิกบรรเลงคลอเบาๆไม่เหมือนร้านเฮียชินดงที่วันๆเปิดแต่เพลงมันต้องถอนของปอยฝ้ายทั้งวัน

    ..มันช่างอิ่มเอมใจ..ผู้ดี๊..ผู้ดี

    คังอินยกไวท์ขึ้นมากระดกซึ่งต่างกับอีทึกที่ค่อยๆจิบไวท์

    คังอิน ไวท์น่ะเขาค่อยๆจิบน่ะ ต้องอมไว้ในปากเพื่อให้รสและอุณภูมิดีขึ้นก่อนจะกลืนลงไป ไม่ใช่กระดกแบบนั่น อีทึกพูดก่อนจะวางแก้วไวท์ลงบนโต๊ะ

    ไม่เห็นจะเป็นไรเลย ด้วยความที่เป็นคนคออ่อนคังอินจึงพูดไปอย่างนั้นก่อนจะหันไปกลับมือเรียกบริกรอีกรอบ

    บ๋อยๆ เอามะขามเปียกมาแกล้มหน่อยสิโว้ย คังอินที่ตอนนี้สติไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัวพูดอย่างอ้อแอ้ทั้งๆที่เพิ่งกินไปแก้วเดียว

    โว้ย ! ไอ้สังคังหุบปากไปเลยนะเว้ยที่นี้ร้านอาหารฝรั่งนะไม่ใช่ร้านลาบอุดรของแก อีทึกรีบโวยวายเพื่อสงบปากสงบคำเพื่อนรักก่อนจะหันไปยิ้มให้กับบริกรเป็นเชิงว่าอย่าไปถือสา

    เฮ้ย!ไอ้จองซูเอ็งจะห้ามข้าหาป้าเอ็งหรอหา..ข้าจะสั่งอะไรมันก็เรื่องของข้า  คังอินชี้หน้าอีทึกอย่างไม่เกรงใจด้วยความเมา

    เรื่องของเอ็งแต่กูจ่ายตังค์นี่โว้ย - - ^ อีทึกพูดอย่างเหลืออด

    เช็คบิล อีทึกยกมือขึ้นมาก่อนที่บริกรจะวิ่งแจ้นมาหา

    มือบางนับธนบัตรหลายใบก่อนจะยื่นส่งให้บริกรเกินราคาตามบิล

    เอ่อ..ทั้งหมดนี่ทิปนะจ๊ะ อีทึกหัวเราะแห้งๆ

    ครับ บริกรนั่นตอบอย่างสุภาพที่สุดเพราะนั่นหมายถึงเงินค่าเหนื่อยที่แสนจะคุ้มค่านั่นเอง

    เฮ้ย! -  -จะรีบไปหนายอ่ะ ยางกินไม่หมดเลย คังอินเสียงยางคาน

    โอ้ย ฉันล่ะจะประสาทกิน คนอะไรว่ะ ไวท์แก้วเดียวยังเมา คออ่อนขนาด..” อีทึกบ่นขณะที่กำลังงัดคังอินออกมาจากเก้าอี้

    เฮ้ย บ๋อยๆ อย่าลืมห่อให้พี่ด้วยน้า คังอินหันมาสมทบตบท้ายก่อนจะโดนอีทึกดึงออกจากร้านอาหารไป

    =______= โถ่เว้ย!ฉันไม่น่ามาที่นี้จริงๆเล้ย ไอ้เพื่อนเวร จะพึ่งก็พึ่งไม่ได้ แถมยังทำให้ฉันขายขี้หน้าอี๊ก~!”

     

    _____________~

     

    ไรเตอร์หายไปนานเกินไปไหมเอ่ย?..หวังว่าคงไม่นานเกินรอนะจ๊ะ

    เฮ้อ..เห็นคอมเม้นส์แล้วชื่นใจ(แม้เกือบครึ่งเพื่อนจะมาเม้นส์ให้ก็ตาม)

    แต่ก็ดีใจมากๆเลย ^^ ขอบคุณคนอ่านทุกๆคนนะจ๊ะ ขอบคุณ ขอบคุณมากเล้ย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×