ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ Yaoi] Because I hate you เกลียดนาย...น้องชายของฉัน

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 :: Lee Donghae

    • อัปเดตล่าสุด 1 เม.ย. 52





    ตอนที่
    1 Lee  Donghae

    สวัสดีเพื่อนใหม่

     

     

     

    วันแรกที่ผมก้าวเข้ามาในบ้านหลังนี้

     

     

    ผมได้พบกับ เด็กคนนั้นเป็นครั้งแรก

     

     

    เด็กชายผู้มีเส้นผมสีดำสนิทระต้นคอขาว  จมูกโด่งรั้น  และนัยน์ตาคมสีรัตติกาลดั่งความมืดมิดในมหาสมุทรลึก..ยากที่จะหยั่งถึง

     

     

    ...ผมถูกสะกดด้วยสายตานั้น

     

     

    …~~~~~*~~~~~…

     

     

    เปิดเทอมวันแรก

     

     

    ถึงแล้วสินะ...วันที่เขารอคอย!

     

     

    ฮยอกแจ!”  เสียงหวานใสของผู้เป็นเพื่อนเอ่ยเรียกร่างบางด้วยท่าทีร่าเริงจากหน้าประตูห้องเรียน  ลี ฮยอกแจที่กำลังจะเก็บกระเป๋าไว้ตรงโต๊ะเรียนดี ๆ จึงหันไปตามเสียงเรียกก่อนจะรู้สึกเหมือนตัวเองแทบทรงตัวไม่อยู่เมื่อถูกเพื่อนรักกระโดดกอดเข้าอย่างจัง

     

     

    ฉันคิดถึงนายจังเลย!” ลี  ซองมินยิ้มดีใจแล้วกอดเพื่อนรักแน่นจนอีกฝ่ายแทบหายใจไม่ออก

     

     

    แอ่ก!” ฮยอกแจร้องเป็นไก่ไส้แตก  ซองมินจึงจำเป็นต้องผละออกมาทันที  แต่ก็ยังไม่วายที่จะจับมือทั้งสองข้างของอีกฝ่ายยกไปมาอย่างดีใจ

     

     

    ฉันรอวันนี้มานานมากเลยนะ!  คิดถึงนายจัง!” ซองมินยิ้มร่า

     

     

    โหย  ปิดเทอมหนึ่งเปิดเทอมสอง  มันจะหยุดสักเท่าไหร่กัน  โทรก็โทรหาแทบทุกวันจนฉันชักจะเบื่อเสียงกระต่าย ๆ ของนายแล้วเนี่ย ฮยอกแจแขวะพร้อมเอานิ้วจิ้ม ๆ ตรงหน้าผากของอีกฝ่าย

     

     

    ง่ะ  ก็คิดถึง  จะทำไม  ฉันก็เบื่อเสียงไก่ ๆ ของนายเหมือนกันนั่นแหละ!!” พูดแล้วก็เอามือกุมหน้าผากเนียนของตัวเอง  คู่กรณีจึงแยกเขี้ยวงุด

     

     

    แล้วไงไอกระต่ายปัญญาอ่อน  เบื่อแล้วจะโทรมาทำไม!?” ร่างบางเถียงกลับ  แน่นอนว่าคนอย่างลี  ซองมินต้องไม่ยอมให้อีกฝ่ายว่าตนง่าย ๆ แน่  แต่ติดอยู่ที่ว่าเสียงหวานติดจะแหลมของใครคนหนึ่งกลับเอ่ยขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน

     

     

    แล้วฉันล่ะ  พวกนายไม่คิดถึงบ้างเลยหรอ คิม  จุนซูทำแก้มพองอย่างงอน ๆ ที่เพื่อนรักทั้งสองไม่ยอมสนใจตน  ฮยอกแจกับซองมินจึงพร้อมหน้ากันสักครู่  ก่อนที่ซองมินจะแลบลิ้นปิ้นตาใส่คนชอบงอน

     

     

    ไม่คิดถึง  แบร่~!”

     

     

    ฉันเองก็ไม่คิดถึงปลาโลมางี่เง่าอย่างนายเหมือนกัน ฮยอกแจพูดแล้วหันหน้าไปทางอื่นอย่างไม่สนใจ  จุนซูจึงเริ่มเบะปากเตรียมจะงอแง  หากแต่มีเสียงใครหนึ่งขัดขึ้นเสียก่อน

     

     

    อาเจ๊แทยอนจอมโหดมาแล้ว  เฮ้ย!  นั่งที่เร็ว!!”

     

     

    สิ้นคำเตือน  นักเรียนทุกห้องในห้องก็รีบพากันนั่งเงียบเรียบร้อยทันที  เพราะเกรงกลัวในบารมีของอาเจ๊แทยอนอาจาร์ยประจำวิชาภาษาเกาหลีหรือผู้ที่พ่วงตำแหน่งครูประจำชั้น

     

     

    หืม…?” หญิงสาวเดินเข้ามาด้วยในห้องด้วยท่าทีมึนงงเล็กน้อยกับอากัปกิริยาของนักเรียน

     

     

    เป็นเด็กดีกันจัง  นั่งเงียบเชียว  สงสัยเพราะวันนี้เปิดเทอมวันแรกสินะจ้ะ  น่ารักกันทุกคนเลยครูดีใจจริง  แทยอนพูดพร้อมรอยยิ้มปราบปลื้มน้ำตาซึม  นึกทึกทักไปเองว่าเปิดเทอมสองใหม่แล้วนักเรียนคงจะกลับตัวกลับใจเป็นเด็กดี  แต่คุณเธอจะรู้มั้ยนะ..ว่าแท้จริงแล้วมันไม่ใช่เลยสักนิด!  ห้องสามอย่างพวกเขาถือว่าเป็นห้องที่ดื้อที่สุดในชั้นเรียน  แต่สุดท้ายก็ยอมกำราบให้กับคุณครูยังสาวอย่างแทยอน

     

     

    ไม่ใช่ว่าหญิงสาวใจดีหรืออย่างไร...

     

     

    แต่เป็นเพราะหน้าตาน่ารัก ๆ ใสซื่อแบบนั้นแหละที่โหดตัวดีเลย!

     

     

    เอาล่ะ  เทอมนี้มีนักเรียนเข้าใหม่ด้วยนะจ้ะ แทยอนพูด  เสียงของนักเรียนภายในห้องจึงเริ่มที่จะพูดคุยกันทันที  นักเรียนใหม่เข้ากลางเทอมแน่นอนว่าต้องน่าสนใจมากแน่ ๆ

     

     

    ดงเฮ...เข้ามาเลยจ้ะ สิ้นคำ  ร่างบางของเด็กหนุ่มคนหนึ่งก็เดินก้าวเข้ามาในห้องเรียนทันที  ดวงตากลมโตที่ประกอบอยู่บนดวงหน้าได้รูปขาวเนียนกวาดมองไปทั่วห้องเรียน  ก่อนที่ริมฝีปากบางเอิบอิ่มจะคลี่ยิ้มบาง

     

     

    สวัสดีครับ  ผมลี  ดงเฮครับฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ ร่างบางพูดเสียงหวานใสแล้วโค้งตัวลงทักทายพร้อมแย้มยิ้มจนเห็นเขี้ยวชวนดูน่ารัก 

     

     

    ฉึก!  ฉึก!  ฉึก!!

     

     

    เท่านั้นแหละ  กามเทพก็แผลงศรปักอกคนในห้องเรียนเข้าอย่างจัง..

     

     

    แม่เจ้าโว้ยยย!  คนอะไรไม่รู้น่ารักเป็นบ้าเลย!!!!

     

     

    งั้น  เดี๋ยวดงเฮนั่งตรง..”

     

     

    ผมนั่งตรงนั้นก็ได้ครับ  ใกล้ ๆ เด็กผู้ชายผมสีน้ำตาลแดงคนนั้น ดงเฮพูดขัดอาจารย์แทยอนแล้วชี้ไปทางโต๊ะว่างใกล้ ๆ ฮยอกแจก่อนที่จะได้พูดจบ  รู้ทั้งรู้ว่าเป็นการขัดเป็นมารยาทที่ไม่ดี  แต่หญิงสาวกลับพยักหน้าน้อย ๆ อย่างคนไม่คิดอะไร  ในขณะที่นักเรียนคนอื่น ๆ กลับมองตามดงเฮตาละห้อย  เพราะอยากให้ร่างบางมานั่งใกล้ ๆ ตัวเอง

     

     

    สวัสดีดงเฮพูดทักทายเพื่อนข้าง ๆ โต๊ะเมื่อเดินมาถึงที่นั่งของตน  ร่างบางจึงยิ้มน้อย ๆ เป็นการตอบรับ

     

     

    สวัสดี  ฉันลี  ฮยอกแจ  ยินดีที่ได้รู้จักนะ

     

     

    ยินดีเช่นกัน

     

     

    ดงเฮยิ้มหวานให้เป็นสัญญาณประมาณว่าดีใจที่ได้พบเพื่อนใหม่  ฮยอกแจจึงยิ้มแบบเดียวกันอย่างใสซื่อ

     

     

    ...หากแต่ว่าแท้จริงแล้ว  ดวงตากลมโตของอีกฝ่ายกลับไม่คิดเช่นนั้นมันกลับสะท้อนถึงจุดมุ่งหมายบางอย่าง  ยากยิ่งที่คนใสซื่ออย่างร่างบางจะรู้ทัน

     

     

    ฉันดีใจที่ได้รู้จักนายมากเลยล่ะลี  ฮยอกแจ

     

     

    โจว  คยูฮยอน  นี่เธอจะไปไหนน่ะ แทยอนทักขึ้นเมื่อจู่ ๆ เจ้าของชื่อก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินตรงไปยังประตูหน้าห้องเรียน  ร่างสูงหันกลับมายังหญิงสาวก่อนจะมองไปมาเรื่อยเปื่อยอย่างคนเบื่อหน่าย  ทำให้เผลอไปสบตาเข้ากับใครคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ

     

     

    อะ.. ซองมินสะดุ้งน้อย ๆ เมื่อจู่ ๆ ก็ถูกสบตาด้วยซะอย่างนั้น  ดวงตาคมกริบราวกับหมาป่าที่พร้อมจะเชือดกระต่ายน้อยทุกเมื่อทำให้ซองมินต้องรีบหลบสายตาคู่นั้นทันที

     

     

    เพียงแค่สบตาก็รู้สึกเหมือนใจเต้นอย่างประหลาด

     

     

    อันตรายแต่น่าดึงดูด

     

     

    หึ... ร่างสูงยกยิ้มราวกับได้ของเล่นถูกใจ

     

     

    คยูฮยอน...ถ้าไม่มีธุระจำเป็นอะไรก็กลับไปนั่งที คุณครูยังสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่เริ่มดังขึ้น  ร่างสูงจึงหันหน้ากลับมาก่อนจะทำเป็นหาวอย่างไม่แยแส

     

     

    ผมง่วง...ขอตัวไปนอน...

     

     

    ฉึก!!

     

     

    เสียงของปากกาลูกลื่นที่ถูกปามาเฉียดใบหน้าร่างสูงไปไม่กี่มิลลิเมตรแล้วปักบนกำแพงเข้าอย่างจัง  เรียกหยาดเหงื่อจากนักเรียนให้ห้องเรียนทุกคนได้อย่างไม่ยาก  ยกเว้นคยูฮยอนที่ยังคงยืนเฉย  ดงเฮที่ยังคงยิ้มร่า  และฮยอกแจผู้ใสซื่อ

     

     

    ที่พวกเขากลัวอาจารย์แทยอนนักหนาก็เพราะแบบนี้แหละเวลาอาจารย์ท่านโกรธท่านจะลืมตัวและทำอะไรลงไปโดยไม่รู้ตัวเสมอ

     

     

    เอาเข้าแล้วไง

     

     

    นั่นมันกำแพงคอนกรีตนะเจ๊!!

     

     

    กลับ มา นั่ง - ที่!” หญิงสาวเน้นแต่ละคำอย่างชัดเจน  พร้อมถืออุปกรณ์เครื่องเขียนอีกจำนวนหนึ่งเอาไว้ในมือ  สายตาที่เคยใจดีกลับกลายเป็นสายตาน่ากลัวทำให้หลาย ๆ ต้องกลืนน้ำลายลงอย่างยากเย็น

     

     

    ฉึก! ฉึก! ฉึก!!

     

     

    ปากกาดินสออีกจำนวนหนึ่งอีกปาออกไปทันทีที่ร่างสูงยังคงยืนเฉย  หากโดนเข้าไปคงแย่ไปอีกหลายวันใช่  แต่นั่นต้องไม่เกิดกับโจว คยูฮยอนคนนี้แน่นอน  จังหวะที่ปากกาถูกปาออกไปคยูฮยอนเดินออกมาจากห้องแล้วปิดประตูอย่างรวดเร็วทันที  ทำให้ปากกาดินสอถูกปักอยู่กับประตูแทน ๆ ที่จะไปปักอยู่บนหัวของใครคนหนึ่งที่กำลังกำลังเดินไปมาอยู่หน้าห้อง

     

     

    เอาอีกแล้วคยูฮยอนคนนั้นทำให้อาเจ๊แท ๆ โกรธอีกละ  หมอนี่ชอบโดดเรียนประจำ  แต่ทำไมมันกลับเรียนโคตรเก่งเลยว่ะ ผู้เห็นเหตุการณ์กระซิบกับเพื่อนข้าง ๆ

     

     

    แถมหลบปากกาพิฆาตนั้นได้อีกต่างหาก  ร้ายใช่เล่นเลยว่ะ

     

     

    โหย  แกยังไม่รู้อะไร  ได้ข่าวว่าคยูฮยอนเป็นหัวโจกแถว ๆ นี้ด้วยนะเว้ย  ใครทำให้โกรธเข้าจริง ๆ ต้องเข้าโรงบาลไปหลายรายแล้ว

     

     

    จริงอะ!?”

     

     

    กระซิบกระซาบอะไรกันห๊า!!” แทยอนโหมดแปลงร่างร้องลั่นพร้อมทุบโต๊ะเรียนดังปัง  ทำให้เหล่านักเรียนที่กำลังกระซิบกันอย่างออกรสต้องรีบนั่งเงียบทันที

     

     

    ก็บอกแล้วไงว่าอาเจ๊แทยอนน่ะน่ากลัวที่สุด!

     

     

    ........

     

     

    บ๊ายบาย ฮยอกแจพูดพร้อมโบกไม้โบกมือลาผู้เป็นเพื่อนอย่างจุนซูที่มีรุ่นพี่อย่างปาร์ค  ยูชอนไปส่งถึงบ้าน  ก่อนจะหันกลับมายังเพื่อนอีกสองคนที่กำลังรอกลับบ้านอยู่หน้าอาคารเรียนเช่นเดียวกับตน

     

     

    ว่าแต่นายล่ะดงเฮ  นายจะกลับบ้านยังไง ฮยอกแจถามร่างเล็ก  ดงเฮถือเป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดีคนหนึ่งเลยทีเดียวเพราะเพียงแค่วันเดียวก็สามารถสนิทกับเขา  ซองมิน  จุนซูและเพื่อน ๆ คนอื่นได้ดี

     

     

    ก็คงจะมีคนมารับน่ะ ร่างเล็กตอบ

     

     

    เหมือนฉันเลย ฉันก็มีคนมารับ  มีคนมารับมาส่งบ่อย ๆ มันก็สะดวกก็จริง  แต่บางทีฉันก็อยากจะกลับเองบ้างนะ  น่าตื่นเต้นดี ฮยอกแจเสนอความคิดเห็น  ซองมินจึงส่ายหน้าน้อย ๆ

     

     

    ตื่นเต้นบ้าอะไรล่ะคุณหนูฮยอกแจ  เหนื่อยจะตายชัก  มา-กลับเองทุกวันเองโดยรถประจำทางแบบฉันแล้วจะรู้สึก ซองมินแย้ง  ร่างบางจึงทำหน้ามุ่ย

     

     

    ว่าแต่วันนี้พี่ชายของนายจะบินกลับมาจากอเมริกาไม่ใช่หรอ  ดีใจมั้ยล่ะหืม?” ผู้เป็นเพื่อนถามต่อด้วยน้ำเสียงทะเล้นติดจะแซวพร้อมกระทุ้งท้องแบนราบของร่างบางเบา ๆ   ฮยอกแจจึงส่งสายตาดุไปให้ผู้เป็นเพื่อนเล็กน้อยก่อนที่จะพยักหน้ารับด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ

     

     

    ดีใจสิ

     

     

    ร่างบางตอบพร้อมรอยยิ้มเบาบาง

     

     

    ..ผมคิดถึงพี่จัง...

     

     

    ……

     

     

    แหมคุณหนูฮยอกแจของป้าแต่งตัวซะน่ารักเชียว  ท่าทางจะคิดถึงคุณชายมากเลยสินะคะ ป้าโซอาผู้เห็นฮยอกแจมาแต่อ้อนแต่อ่อนทักร่างบางที่กำลังเดินลงมาจากบันไดชั้นบนด้วยรอยยิ้มเอ็นดู

     

     

    ง่า  ผมก็แต่งตัวธรรมดานี่ครับ ฮยอกแจตอบพลางมองการแต่งตัวของตัวเอง  หลังจากที่เขากลับมาจากโรงเรียนเขาก็อาบน้ำเปลี่ยนเป็นเสื้อเชิ้ตสีเหลืองมีฮู้ดกับกางเกงเดฟยีนส์ธรรมดา ๆ เท่านั้นเอง

     

     

    หนูฮยอกแจของป้าเปลี่ยนเป็นชุดไหนก็น่ารักหมดแหละค่ะ อะเสียงรถนี่นา  คุณชายคงจะมาแล้วล่ะค่ะ หญิงชราพูดพร้อมเดินออกไปยืนต้อนรับตรงบันไดหินอ่อนหน้าบ้านทันที  ฮยอกแจยืนตั้งสติอยู่สักครู่เพราะความตื่นเต้น  แล้วเดินออกไปต้อนรับพี่ชายเช่นเดียวกับป้าโซอา

     

     

    รถลีมูซีนสีดำคันงามสง่าจอดเทียบท่าตรงบันไดหินอ่อนได้อย่างนิ่มนวล  ร่างของพ่อบ้านคนหนึ่งจึงรีบไปเปิดประตูรถให้กับผู้เป็นนาย  ทันทีที่ประตูรถคันงามเปิดออก  ขาเรียวก็ก้าวลงมาจากรถ  ก่อนที่จะปรากฏให้เห็นชายร่างสูงคนหนึ่งที่แสนคุ้นเคย

     

     

    ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับ/ค่ะคุณชายฮันคยอง

     

     

    เสียงของบรรดาพ่อบ้านแม่บ้านหลายสิบคนที่ยืนเรียงแถวกันพูดขึ้นพร้อมโค้งคำนับลงให้ร่างสูงกันอย่างพร้อมเพรียง  ชายหนุ่มพยักหน้ารับน้อย ๆ ก่อนที่สายตาคมกริบสีรัตติกาลจะกวาดมองสำรวจไปทั่วบริเวณ

     

     

    กลับไปทำงานกันได้แล้ว

     

     

    ทันที่เสียงทุ้มสั่งประกาศิต  ทุกคนจึงแยกย้ายกันไปทำงานทันที  เหลือแต่เพียงฮยอกแจที่ลังเลเล็กน้อยกับการจะเดินไปหา พี่ชาย 

     

     

    คุณฮันคยองครับ  นี่คือกำหนดการของวันพรุ่งนี้…”

     

     

    เอาไว้ก่อน  เพิ่งกลับมานายเองก็คงจะเหนื่อยมาก  ไปพักผ่อนก่อนเถอะคิบอม ฮันคยองพูดพร้อมยกมือห้ามให้หยุด  ชายหนุ่มผู้เป็นทั้งบอดกี้การ์ดและเลขาส่วนตัวจึงโค้งตัวลงเพื่อขอบคุณแล้วแยกย้ายไปเพื่อทำธุระของตนเอง

     

     

    ตอนนี้...จึงเหลือเพียงแค่ฮยอกแจและฮันคยองที่ยังคงยืนอยู่

     

     

    ... หากแต่ฮยอกแจกลับเลือกที่ก้มหน้านิ่งอย่างคนทำอะไรไม่ถูก

     

     

    เขาอยากทักทาย  อยากเดินเข้าไปใกล้  อยากถาม  อยากพูดคุย  แต่เขากลัว..

     

     

    กลัวว่าคนตรงหน้าที่เคยห่างกันกว่าสิบปีจะเปลี่ยนไป

     

     

    พี่ไม่อยู่ที่นี่นาน  มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างรึเปล่า  ฮยอกแจ เสียงทุ้มเอ่ยถามร่างบางเพื่อทำลายความเงียบ  คนถูกถามจึงสะดุ้งสุดตัวทันที

     

     

    อะ...อา ก็มีอะไรเปลี่ยนนิดหน่อยฮะ  ตอนนี้สวนหย่อมทำเพิ่มแล้ว  ส่วนตัวบ้านก็ปรับปรุง…”

     

     

    ไม่ใช่  พี่หมายความว่าเราน่ะสบายดีรึเปล่า เสียงทุ้มพูดกลั้วหัวเราะ  ร่างบางจึงอ้ำอึ้งก่อนจะรีบส่ายหน้ารัวแล้วก้มหน้าลงอย่างเขินอาย  ร่างสูงมองอากัปกิริยาของคนตัวเล็กอย่างเอ็นดูอยู่สักครู่  ก่อนที่ริมฝีปากหนาจะปริปากเอ่ย

     

     

    พาพี่ทัวร์บ้านหน่อยสิฮยอกแจ

     

     

    อะเอ๋?” ร่างบางทวนคำอย่างไม่แน่ใจ  ร่างสูงจึงพยักหน้าน้อย ๆ

     

     

    พาพี่ทัวร์บ้านหน่อย  ไม่ต้องเกร็งหรอก  ทำตัวตามสบายเถอะ เสียงทุ้มพูด  ฮยอกแจจึงพยักหน้ารับก่อนจะยิ้มร่าด้วยความดีใจ

     

     

    ดีใจที่พี่ชายของเขายังคงไม่เปลี่ยนแปลง

     

     

    พี่ชายแสนอบอุ่นคนนั้น

     

     

    งั้นตามผมมาเลยฮะ ไกด์จำเป็นพูดแล้วเดินนำร่างสูงไปทันที  ฮันคยองจึงเดินตามร่างบางด้วยสีหน้านิ่งเฉยตามแบบฉบับของเจ้าตัว  หากแต่นัยน์ตาสีรัตติกาลนั้นกลับมองตรงไปที่คนตัวเล็กอย่างอ่อนโยน

     

     

    ฮยอกแจรู้ดีพี่ชายคนนี้ชอบที่จะทำหน้าตาน่ากลัวไปวัน ๆ

     

     

    แต่แท้จริงแล้ว  สายตาคู่นี้ต่างหากที่อ่อนโยนยิ่งกว่าใคร

     

     

    ตรงนี้ไงฮะ  สวนหย่อมที่ปรับปรุงใหม่  มีดอกไม้ที่พี่ฮันบอกว่าชอบด้วยนะ  ถัดจากสวนหย่อมก็มีสระน้ำล่ะ  ไว้เลี้ยงปลา  และก็มีศาลาเล็ก ๆ ด้วยฮะ  เอาไว้พักผ่อน  ผมรู้นะว่าพี่ฮันคงเรียนจากที่อเมริกาหนัก  กลับมาที่นี่ก็ต้องมาช่วยงานคุณพ่อแถมยังต้องเรียนต่อปริญญาโทอีก  ว่าง ๆ มานั่งเล่นชมวิวตรงนี้ก็ได้นะฮะ  ที่พักผ่อนชั้นดีเลย ส่วนตรงนั้น..” เสียงหวานใสบรรยายไปเรื่อยด้วยสีหน้าร่าเริงพลางชี้สถานที่ตรงนู้นตรงนี้ประกอบให้พี่ชายได้เห็น  ร่างสูงจึงยิ้มเบาบางอย่างเอ็นดูในคนตัวเล็ก

     

     

    ฮยอกแจมักจะรู้ดีว่าฮันคยองชอบหรือไม่ชอบอะไร  เช่นเดียวกันกับฮันคยองที่มักจะรู้ว่าฮยอกแจชอบหรือไม่ชอบอะไร 

     

     

    อาจจะเป็นเพราะพวกเขาทั้งสองถูกเชื่อมโยงกันด้วยสายสัมพันธ์อันเบาบางที่เรียกว่า

     

     

    พี่ชายกับน้องชาย

     

     

    แต่อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน

     

     

    ดังนั้น

     

     

    หากวันใดที่สายสัมพันธ์นั้นขาดสะบั้นลง

     

     

    วันนั้นก็ยากยิ่งที่จะหยั่งรู้

     





    *****


    สวัสดีเจ้าค่ะ... เราชื่อ "แฟร์" นะ  อายุหกขวบ...บวกแปดจ้ะ  ฮ่าฮ่าฮ่า
    บอกได้เน้อว่าเนื้อเรื่องสนุกหรือไม่สนุก

    ลงเรื่องนี้...เป็นเรื่องแรกที่แฟร์ค่อนข้างจะตั้งใจ
    ฝากไว้ในอ้อมกอดด้วยน๊าาา  >O<  (กอดเลยเรอะ 55+)

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×