คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 :: Lee Donghae
ตอนที่ 1 Lee Donghae
สวัสดีเพื่อนใหม่
วันแรกที่ผมก้าวเข้ามาในบ้านหลังนี้
ผมได้พบกับ ‘เด็กคนนั้น’ เป็นครั้งแรก
เด็กชายผู้มีเส้นผมสีดำสนิทระต้นคอขาว จมูกโด่งรั้น และนัยน์ตาคมสีรัตติกาลดั่งความมืดมิดในมหาสมุทรลึก..ยากที่จะหยั่งถึง
...ผมถูกสะกดด้วยสายตานั้น
~~~~~*~~~~~
เปิดเทอมวันแรก
ถึงแล้วสินะ...วันที่เขารอคอย!
“ฮยอกแจ!” เสียงหวานใสของผู้เป็นเพื่อนเอ่ยเรียกร่างบางด้วยท่าทีร่าเริงจากหน้าประตูห้องเรียน ลี ฮยอกแจที่กำลังจะเก็บกระเป๋าไว้ตรงโต๊ะเรียนดี ๆ จึงหันไปตามเสียงเรียกก่อนจะรู้สึกเหมือนตัวเองแทบทรงตัวไม่อยู่เมื่อถูกเพื่อนรักกระโดดกอดเข้าอย่างจัง
“ฉันคิดถึงนายจังเลย!” ลี ซองมินยิ้มดีใจแล้วกอดเพื่อนรักแน่นจนอีกฝ่ายแทบหายใจไม่ออก
“แอ่ก!” ฮยอกแจร้องเป็นไก่ไส้แตก ซองมินจึงจำเป็นต้องผละออกมาทันที แต่ก็ยังไม่วายที่จะจับมือทั้งสองข้างของอีกฝ่ายยกไปมาอย่างดีใจ
“ฉันรอวันนี้มานานมากเลยนะ! คิดถึงนายจัง!” ซองมินยิ้มร่า
“โหย ปิดเทอมหนึ่งเปิดเทอมสอง มันจะหยุดสักเท่าไหร่กัน โทรก็โทรหาแทบทุกวันจนฉันชักจะเบื่อเสียงกระต่าย ๆ ของนายแล้วเนี่ย” ฮยอกแจแขวะพร้อมเอานิ้วจิ้ม ๆ ตรงหน้าผากของอีกฝ่าย
“ง่ะ ก็คิดถึง จะทำไม ฉันก็เบื่อเสียงไก่ ๆ ของนายเหมือนกันนั่นแหละ!!” พูดแล้วก็เอามือกุมหน้าผากเนียนของตัวเอง คู่กรณีจึงแยกเขี้ยวงุด
“แล้วไงไอกระต่ายปัญญาอ่อน เบื่อแล้วจะโทรมาทำไม!?” ร่างบางเถียงกลับ แน่นอนว่าคนอย่างลี ซองมินต้องไม่ยอมให้อีกฝ่ายว่าตนง่าย ๆ แน่ แต่ติดอยู่ที่ว่าเสียงหวานติดจะแหลมของใครคนหนึ่งกลับเอ่ยขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน
“แล้วฉันล่ะ พวกนายไม่คิดถึงบ้างเลยหรอ” คิม จุนซูทำแก้มพองอย่างงอน ๆ ที่เพื่อนรักทั้งสองไม่ยอมสนใจตน ฮยอกแจกับซองมินจึงพร้อมหน้ากันสักครู่ ก่อนที่ซองมินจะแลบลิ้นปิ้นตาใส่คนชอบงอน
“ไม่คิดถึง แบร่~!”
“ฉันเองก็ไม่คิดถึงปลาโลมางี่เง่าอย่างนายเหมือนกัน” ฮยอกแจพูดแล้วหันหน้าไปทางอื่นอย่างไม่สนใจ จุนซูจึงเริ่มเบะปากเตรียมจะงอแง หากแต่มีเสียงใครหนึ่งขัดขึ้นเสียก่อน
“อาเจ๊แทยอนจอมโหดมาแล้ว เฮ้ย! นั่งที่เร็ว!!”
สิ้นคำเตือน นักเรียนทุกห้องในห้องก็รีบพากันนั่งเงียบเรียบร้อยทันที เพราะเกรงกลัวในบารมีของอาเจ๊แทยอน
อาจาร์ยประจำวิชาภาษาเกาหลีหรือผู้ที่พ่วงตำแหน่งครูประจำชั้น
“หืม
?” หญิงสาวเดินเข้ามาด้วยในห้องด้วยท่าทีมึนงงเล็กน้อยกับอากัปกิริยาของนักเรียน
“เป็นเด็กดีกันจัง นั่งเงียบเชียว สงสัยเพราะวันนี้เปิดเทอมวันแรกสินะจ้ะ น่ารักกันทุกคนเลย
ครูดีใจจริง ๆ” แทยอนพูดพร้อมรอยยิ้มปราบปลื้มน้ำตาซึม นึกทึกทักไปเองว่าเปิดเทอมสองใหม่แล้วนักเรียนคงจะกลับตัวกลับใจเป็นเด็กดี แต่คุณเธอจะรู้มั้ยนะ..ว่าแท้จริงแล้วมันไม่ใช่เลยสักนิด! ห้องสามอย่างพวกเขาถือว่าเป็นห้องที่ดื้อที่สุดในชั้นเรียน แต่สุดท้ายก็ยอมกำราบให้กับคุณครูยังสาวอย่างแทยอน
ไม่ใช่ว่าหญิงสาวใจดีหรืออย่างไร...
แต่เป็นเพราะหน้าตาน่ารัก ๆ ใสซื่อแบบนั้นแหละที่โหดตัวดีเลย!
“เอาล่ะ เทอมนี้มีนักเรียนเข้าใหม่ด้วยนะจ้ะ” แทยอนพูด เสียงของนักเรียนภายในห้องจึงเริ่มที่จะพูดคุยกันทันที นักเรียนใหม่เข้ากลางเทอม
แน่นอนว่าต้องน่าสนใจมากแน่ ๆ
“ดงเฮ...เข้ามาเลยจ้ะ” สิ้นคำ ร่างบางของเด็กหนุ่มคนหนึ่งก็เดินก้าวเข้ามาในห้องเรียนทันที ดวงตากลมโตที่ประกอบอยู่บนดวงหน้าได้รูปขาวเนียนกวาดมองไปทั่วห้องเรียน ก่อนที่ริมฝีปากบางเอิบอิ่มจะคลี่ยิ้มบาง
“สวัสดีครับ ผมลี ดงเฮครับ
ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ” ร่างบางพูดเสียงหวานใสแล้วโค้งตัวลงทักทายพร้อมแย้มยิ้มจนเห็นเขี้ยวชวนดูน่ารัก
ฉึก! ฉึก! ฉึก!!
เท่านั้นแหละ กามเทพก็แผลงศรปักอกคนในห้องเรียนเข้าอย่างจัง..
แม่เจ้าโว้ยยย! คนอะไรไม่รู้น่ารักเป็นบ้าเลย!!!!
“งั้น เดี๋ยวดงเฮนั่งตรง..”
“ผมนั่งตรงนั้นก็ได้ครับ ใกล้ ๆ เด็กผู้ชายผมสีน้ำตาลแดงคนนั้น” ดงเฮพูดขัดอาจารย์แทยอนแล้วชี้ไปทางโต๊ะว่างใกล้ ๆ ฮยอกแจก่อนที่จะได้พูดจบ รู้ทั้งรู้ว่าเป็นการขัดเป็นมารยาทที่ไม่ดี แต่หญิงสาวกลับพยักหน้าน้อย ๆ อย่างคนไม่คิดอะไร ในขณะที่นักเรียนคนอื่น ๆ กลับมองตามดงเฮตาละห้อย เพราะอยากให้ร่างบางมานั่งใกล้ ๆ ตัวเอง
“สวัสดี” ดงเฮพูดทักทายเพื่อนข้าง ๆ โต๊ะเมื่อเดินมาถึงที่นั่งของตน ร่างบางจึงยิ้มน้อย ๆ เป็นการตอบรับ
“สวัสดี ฉันลี ฮยอกแจ ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
“ยินดีเช่นกัน”
ดงเฮยิ้มหวานให้เป็นสัญญาณประมาณว่าดีใจที่ได้พบเพื่อนใหม่ ฮยอกแจจึงยิ้มแบบเดียวกันอย่างใสซื่อ
...หากแต่ว่าแท้จริงแล้ว ดวงตากลมโตของอีกฝ่ายกลับไม่คิดเช่นนั้น
มันกลับสะท้อนถึงจุดมุ่งหมายบางอย่าง ยากยิ่งที่คนใสซื่ออย่างร่างบางจะรู้ทัน
ฉันดีใจที่ได้รู้จักนายมากเลยล่ะ
ลี ฮยอกแจ
“โจว คยูฮยอน นี่เธอจะไปไหนน่ะ” แทยอนทักขึ้นเมื่อจู่ ๆ เจ้าของชื่อก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินตรงไปยังประตูหน้าห้องเรียน ร่างสูงหันกลับมายังหญิงสาวก่อนจะมองไปมาเรื่อยเปื่อยอย่างคนเบื่อหน่าย ทำให้เผลอไปสบตาเข้ากับใครคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“อะ..” ซองมินสะดุ้งน้อย ๆ เมื่อจู่ ๆ ก็ถูกสบตาด้วยซะอย่างนั้น ดวงตาคมกริบราวกับหมาป่าที่พร้อมจะเชือดกระต่ายน้อยทุกเมื่อทำให้ซองมินต้องรีบหลบสายตาคู่นั้นทันที
เพียงแค่สบตา
ก็รู้สึกเหมือนใจเต้นอย่างประหลาด
อันตราย
แต่น่าดึงดูด
“หึ...” ร่างสูงยกยิ้มราวกับได้ของเล่นถูกใจ
“คยูฮยอน...ถ้าไม่มีธุระจำเป็นอะไรก็กลับไปนั่งที” คุณครูยังสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่เริ่มดังขึ้น ร่างสูงจึงหันหน้ากลับมาก่อนจะทำเป็นหาวอย่างไม่แยแส
“ผมง่วง...ขอตัวไปนอน...”
ฉึก!!
เสียงของปากกาลูกลื่นที่ถูกปามาเฉียดใบหน้าร่างสูงไปไม่กี่มิลลิเมตรแล้วปักบนกำแพงเข้าอย่างจัง เรียกหยาดเหงื่อจากนักเรียนให้ห้องเรียนทุกคนได้อย่างไม่ยาก ยกเว้นคยูฮยอนที่ยังคงยืนเฉย ดงเฮที่ยังคงยิ้มร่า และฮยอกแจผู้ใสซื่อ
ที่พวกเขากลัวอาจารย์แทยอนนักหนาก็เพราะแบบนี้แหละ
เวลาอาจารย์ท่านโกรธท่านจะลืมตัวและทำอะไรลงไปโดยไม่รู้ตัวเสมอ
เอาเข้าแล้วไง
นั่นมันกำแพงคอนกรีตนะเจ๊!!
“กลับ มา นั่ง - ที่!” หญิงสาวเน้นแต่ละคำอย่างชัดเจน พร้อมถืออุปกรณ์เครื่องเขียนอีกจำนวนหนึ่งเอาไว้ในมือ สายตาที่เคยใจดีกลับกลายเป็นสายตาน่ากลัวทำให้หลาย ๆ ต้องกลืนน้ำลายลงอย่างยากเย็น
ฉึก! ฉึก! ฉึก!!
ปากกาดินสออีกจำนวนหนึ่งอีกปาออกไปทันทีที่ร่างสูงยังคงยืนเฉย หากโดนเข้าไปคงแย่ไปอีกหลายวัน
ใช่ แต่นั่นต้องไม่เกิดกับโจว คยูฮยอนคนนี้แน่นอน จังหวะที่ปากกาถูกปาออกไปคยูฮยอนเดินออกมาจากห้องแล้วปิดประตูอย่างรวดเร็วทันที ทำให้ปากกาดินสอถูกปักอยู่กับประตูแทน ๆ ที่จะไปปักอยู่บนหัวของใครคนหนึ่งที่กำลังกำลังเดินไปมาอยู่หน้าห้อง
“เอาอีกแล้ว
คยูฮยอนคนนั้นทำให้อาเจ๊แท ๆ โกรธอีกละ หมอนี่ชอบโดดเรียนประจำ แต่ทำไมมันกลับเรียนโคตรเก่งเลยว่ะ” ผู้เห็นเหตุการณ์กระซิบกับเพื่อนข้าง ๆ
“แถมหลบปากกาพิฆาตนั้นได้อีกต่างหาก ร้ายใช่เล่นเลยว่ะ”
“โหย แกยังไม่รู้อะไร ได้ข่าวว่าคยูฮยอนเป็นหัวโจกแถว ๆ นี้ด้วยนะเว้ย ใครทำให้โกรธเข้าจริง ๆ ต้องเข้าโรง’บาลไปหลายรายแล้ว”
“จริงอะ!?”
“กระซิบกระซาบอะไรกันห๊า!!” แทยอนโหมดแปลงร่างร้องลั่นพร้อมทุบโต๊ะเรียนดังปัง ทำให้เหล่านักเรียนที่กำลังกระซิบกันอย่างออกรสต้องรีบนั่งเงียบทันที
ก็บอกแล้วไง
ว่าอาเจ๊แทยอนน่ะน่ากลัวที่สุด!
........
“บ๊ายบาย” ฮยอกแจพูดพร้อมโบกไม้โบกมือลาผู้เป็นเพื่อนอย่างจุนซูที่มีรุ่นพี่อย่างปาร์ค ยูชอนไปส่งถึงบ้าน ก่อนจะหันกลับมายังเพื่อนอีกสองคนที่กำลังรอกลับบ้านอยู่หน้าอาคารเรียนเช่นเดียวกับตน
“ว่าแต่นายล่ะ
ดงเฮ นายจะกลับบ้านยังไง” ฮยอกแจถามร่างเล็ก ดงเฮถือเป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดีคนหนึ่งเลยทีเดียวเพราะเพียงแค่วันเดียวก็สามารถสนิทกับเขา ซองมิน จุนซูและเพื่อน ๆ คนอื่นได้ดี
“ก็
คงจะมีคนมารับน่ะ” ร่างเล็กตอบ
“เหมือนฉันเลย ฉันก็มีคนมารับ มีคนมารับมาส่งบ่อย ๆ มันก็สะดวกก็จริง แต่บางทีฉันก็อยากจะกลับเองบ้างนะ น่าตื่นเต้นดี” ฮยอกแจเสนอความคิดเห็น ซองมินจึงส่ายหน้าน้อย ๆ
“ตื่นเต้นบ้าอะไรล่ะคุณหนูฮยอกแจ เหนื่อยจะตายชัก มา-กลับเองทุกวันเองโดยรถประจำทางแบบฉันแล้วจะรู้สึก” ซองมินแย้ง ร่างบางจึงทำหน้ามุ่ย
“ว่าแต่
วันนี้พี่ชายของนายจะบินกลับมาจากอเมริกาไม่ใช่หรอ ดีใจมั้ยล่ะหืม?” ผู้เป็นเพื่อนถามต่อด้วยน้ำเสียงทะเล้นติดจะแซวพร้อมกระทุ้งท้องแบนราบของร่างบางเบา ๆ ฮยอกแจจึงส่งสายตาดุไปให้ผู้เป็นเพื่อนเล็กน้อยก่อนที่จะพยักหน้ารับด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ
“ดีใจสิ”
ร่างบางตอบพร้อมรอยยิ้มเบาบาง
..ผมคิดถึงพี่จัง...
“แหม
คุณหนูฮยอกแจของป้าแต่งตัวซะน่ารักเชียว ท่าทางจะคิดถึงคุณชายมากเลยสินะคะ” ป้าโซอาผู้เห็นฮยอกแจมาแต่อ้อนแต่อ่อนทักร่างบางที่กำลังเดินลงมาจากบันไดชั้นบนด้วยรอยยิ้มเอ็นดู
“ง่า ผมก็แต่งตัวธรรมดานี่ครับ” ฮยอกแจตอบพลางมองการแต่งตัวของตัวเอง หลังจากที่เขากลับมาจากโรงเรียนเขาก็อาบน้ำเปลี่ยนเป็นเสื้อเชิ้ตสีเหลืองมีฮู้ดกับกางเกงเดฟยีนส์ธรรมดา ๆ เท่านั้นเอง
“หนูฮยอกแจของป้าเปลี่ยนเป็นชุดไหนก็น่ารักหมดแหละค่ะ อะ
เสียงรถนี่นา คุณชายคงจะมาแล้วล่ะค่ะ” หญิงชราพูดพร้อมเดินออกไปยืนต้อนรับตรงบันไดหินอ่อนหน้าบ้านทันที ฮยอกแจยืนตั้งสติอยู่สักครู่เพราะความตื่นเต้น แล้วเดินออกไปต้อนรับ ‘พี่ชาย’ เช่นเดียวกับป้าโซอา
รถลีมูซีนสีดำคันงามสง่าจอดเทียบท่าตรงบันไดหินอ่อนได้อย่างนิ่มนวล ร่างของพ่อบ้านคนหนึ่งจึงรีบไปเปิดประตูรถให้กับผู้เป็นนาย ทันทีที่ประตูรถคันงามเปิดออก ขาเรียวก็ก้าวลงมาจากรถ ก่อนที่จะปรากฏให้เห็นชายร่างสูงคนหนึ่งที่แสนคุ้นเคย
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับ/ค่ะคุณชายฮันคยอง”
เสียงของบรรดาพ่อบ้านแม่บ้านหลายสิบคนที่ยืนเรียงแถวกันพูดขึ้นพร้อมโค้งคำนับลงให้ร่างสูงกันอย่างพร้อมเพรียง ชายหนุ่มพยักหน้ารับน้อย ๆ ก่อนที่สายตาคมกริบสีรัตติกาลจะกวาดมองสำรวจไปทั่วบริเวณ
“กลับไปทำงานกันได้แล้ว”
ทันที่เสียงทุ้มสั่งประกาศิต ทุกคนจึงแยกย้ายกันไปทำงานทันที เหลือแต่เพียงฮยอกแจที่ลังเลเล็กน้อยกับการจะเดินไปหา ‘พี่ชาย’
“คุณฮันคยองครับ นี่คือกำหนดการของวันพรุ่งนี้
”
“เอาไว้ก่อน เพิ่งกลับมานายเองก็คงจะเหนื่อยมาก ไปพักผ่อนก่อนเถอะคิบอม” ฮันคยองพูดพร้อมยกมือห้ามให้หยุด ชายหนุ่มผู้เป็นทั้งบอดกี้การ์ดและเลขาส่วนตัวจึงโค้งตัวลงเพื่อขอบคุณแล้วแยกย้ายไปเพื่อทำธุระของตนเอง
ตอนนี้...จึงเหลือเพียงแค่ฮยอกแจและฮันคยองที่ยังคงยืนอยู่
“...” หากแต่ฮยอกแจกลับเลือกที่ก้มหน้านิ่งอย่างคนทำอะไรไม่ถูก
เขาอยากทักทาย อยากเดินเข้าไปใกล้ อยากถาม อยากพูดคุย แต่เขากลัว..
กลัวว่าคนตรงหน้าที่เคยห่างกันกว่าสิบปีจะเปลี่ยนไป
“พี่ไม่อยู่ที่นี่นาน มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างรึเปล่า ฮยอกแจ” เสียงทุ้มเอ่ยถามร่างบางเพื่อทำลายความเงียบ คนถูกถามจึงสะดุ้งสุดตัวทันที
“อะ...อา ก็มีอะไรเปลี่ยนนิดหน่อยฮะ ตอนนี้สวนหย่อมทำเพิ่มแล้ว ส่วนตัวบ้านก็ปรับปรุง
”
“ไม่ใช่ พี่หมายความว่าเราน่ะสบายดีรึเปล่า” เสียงทุ้มพูดกลั้วหัวเราะ ร่างบางจึงอ้ำอึ้งก่อนจะรีบส่ายหน้ารัวแล้วก้มหน้าลงอย่างเขินอาย ร่างสูงมองอากัปกิริยาของคนตัวเล็กอย่างเอ็นดูอยู่สักครู่ ก่อนที่ริมฝีปากหนาจะปริปากเอ่ย
“พาพี่ทัวร์บ้านหน่อยสิฮยอกแจ”
“อะ
เอ๋?” ร่างบางทวนคำอย่างไม่แน่ใจ ร่างสูงจึงพยักหน้าน้อย ๆ
“พาพี่ทัวร์บ้านหน่อย ไม่ต้องเกร็งหรอก ทำตัวตามสบายเถอะ” เสียงทุ้มพูด ฮยอกแจจึงพยักหน้ารับก่อนจะยิ้มร่าด้วยความดีใจ
ดีใจที่พี่ชายของเขายังคงไม่เปลี่ยนแปลง
พี่ชายแสนอบอุ่นคนนั้น
“งั้นตามผมมาเลยฮะ” ไกด์จำเป็นพูดแล้วเดินนำร่างสูงไปทันที ฮันคยองจึงเดินตามร่างบางด้วยสีหน้านิ่งเฉยตามแบบฉบับของเจ้าตัว หากแต่นัยน์ตาสีรัตติกาลนั้นกลับมองตรงไปที่คนตัวเล็กอย่างอ่อนโยน
ฮยอกแจรู้ดี
พี่ชายคนนี้ชอบที่จะทำหน้าตาน่ากลัวไปวัน ๆ
แต่แท้จริงแล้ว สายตาคู่นี้ต่างหาก
ที่อ่อนโยนยิ่งกว่าใคร
“ตรงนี้ไงฮะ สวนหย่อมที่ปรับปรุงใหม่ มีดอกไม้ที่พี่ฮันบอกว่าชอบด้วยนะ ถัดจากสวนหย่อมก็มีสระน้ำล่ะ ไว้เลี้ยงปลา และก็มีศาลาเล็ก ๆ ด้วยฮะ เอาไว้พักผ่อน ผมรู้นะว่าพี่ฮันคงเรียนจากที่อเมริกาหนัก กลับมาที่นี่ก็ต้องมาช่วยงานคุณพ่อแถมยังต้องเรียนต่อปริญญาโทอีก ว่าง ๆ มานั่งเล่นชมวิวตรงนี้ก็ได้นะฮะ ที่พักผ่อนชั้นดีเลย ส่วนตรงนั้น..” เสียงหวานใสบรรยายไปเรื่อยด้วยสีหน้าร่าเริงพลางชี้สถานที่ตรงนู้นตรงนี้ประกอบให้พี่ชายได้เห็น ร่างสูงจึงยิ้มเบาบางอย่างเอ็นดูในคนตัวเล็ก
ฮยอกแจมักจะรู้ดีว่าฮันคยองชอบหรือไม่ชอบอะไร เช่นเดียวกันกับฮันคยองที่มักจะรู้ว่าฮยอกแจชอบหรือไม่ชอบอะไร
อาจจะเป็นเพราะพวกเขาทั้งสองถูกเชื่อมโยงกันด้วยสายสัมพันธ์อันเบาบางที่เรียกว่า
‘พี่ชายกับน้องชาย’
แต่อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน
ดังนั้น
หากวันใดที่สายสัมพันธ์นั้นขาดสะบั้นลง
วันนั้น
ก็ยากยิ่งที่จะหยั่งรู้
*****
สวัสดีเจ้าค่ะ... เราชื่อ "แฟร์" นะ อายุหกขวบ...บวกแปดจ้ะ ฮ่าฮ่าฮ่า
บอกได้เน้อว่าเนื้อเรื่องสนุกหรือไม่สนุก
ลงเรื่องนี้...เป็นเรื่องแรกที่แฟร์ค่อนข้างจะตั้งใจ
ฝากไว้ในอ้อมกอดด้วยน๊าาา >O< (กอดเลยเรอะ 55+)
ความคิดเห็น