ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Naruto] Twin ฮาโลวีนป่วน ชิกะมารุ

    ลำดับตอนที่ #2 : จุดจบของร่างแยก

    • อัปเดตล่าสุด 25 เม.ย. 52


    href="file:///C:\DOCUME~1\dfr\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_filelist.xml" />

    />

      />

    ทุกอย่าง ตกอยู่ในความเงียบงัน เธออาจจะนิ่งอึ้งตะลึงงันอยู่อย่างนั้นตลอดไปเลยก็ได้ หากว่าชิกะมารุไม่บีบมือเธอเบาๆ เทมาริอ้าปากเหมือนจะถาม แต่ก็ถูกชายหนุ่มชิงพูดเสียก่อน

     

    ตามไปเถอะ

     

    เท มาริพยักหน้าน้อยๆก่อนจะวิ่งตัดหน้าชิโนะที่ทำท่าจะลุกขึ้น ทำให้หล่อนเซถลาลงมานั่งแทนที่เทมาริ เมื่อเหลือบมาเห็นชิกะมารุด้านข้าง ใบหน้าของเธอก็แดงน้อยๆ

     

    กลับมาหาของดั่งเดิมแล้วตู>_<

     

    ชิ กะมารุไม่ใยดีต่อสายตาทะลวงเสื้อผ้าของชิโนะ แต่ยังมองตามแผ่นหลังที่ไกลห่างออกไปเรื่อยๆ กระทั่งเจ้าของแผ่นหลังนั้นหายลับไปแล้ว เขาก็ยังเฝ้ามองอยู่ ทั้งๆที่พูดเอง แต่เขาไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลยแม้แต่น้อย ไม่ได้รู้สึกอยากให้เทมาริตามหมอนั่นไปเลย เขาถอนหายใจในท้ายที่สุด

     

    ชิ เป็นอย่างนี้ทุกทีสิน่า!!

     

     

     

    ชิกะมารุ!!”

     

    เจ้า ของชื่อสะดุ้งเล็กน้อย เขานั่งคุดคู้อยู่ข้างรถสปอตสีดำ ท่าทางเหมือนเด็กยามเมื่อหลงทาง อับจนหนทางไม่รู้จะไปทางไหน ชิกะมารุมองเขม่งเทมาริอย่างไม่พอใจ ก่อนจะสะบัดหน้ากลับเหมือนไม่ใยดี

     

    เท มาริผงะเล็กน้อย ไม่นึกว่าจะมีบุญได้เห็นชิกะมารุงอล(ได้น่ารัก)แบบนี้ เรื่องแบบนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้เลย จริงๆแล้ว เรื่องแยกร่างก็ไม่น่าเกิดแต่แรกเหมือนกัน -_-;; เธอทรุดตัวนั่งลงบนฟุตบาตรข้างชายหนุ่ม

     

    เป็นอะไร ไม่เหมือนนายเลยนะ          

     

    อ๋อ ก็ใช่นะซี่ ฉันไม่ใช่ชิกะมารุของเธอนี่-0-++

     

    เขาขบกรามแน่นไม่ตอบ

     

    ทำไมต้องโมโหด้วย

     

    เฮอะ เธอน่าจะถามตัวเธอเอง

     

    โอเค ถ้าไม่อยากพูดกับฉันนักละก็

     

    เทมาริลุกพรวดขึ้น ท่าทางของเขาชวนโมโหเหลือเกิน ชิกะมารุไม่เคยเมินเธอเลยสักครั้ง... ชิ แต่เขาก็เป็นหนึ่งส่วนในสองของชิกะมารุที่เธอรู้จัก  หมอนั่น..ลึกๆแล้ว เป็นคนแบบนี้เองหรือ เคยมีความคิดจะเมินเฉยต่อเธอด้วยหรือ?

     

    ชะหนอย กลับร่างเมื่อไหร่ แม่จะตบไม่เลี้ยงเลยคอยดู

     

    เทมาริ

     

    ไม่ทันที่เธอจะได้เดินหายไปด้วยอารมณ์โมโห(?) มือแข็งแกร่งก็ยกขึ้นฉุดเธอไว้เสียก่อน เทมาริตวัดสายตากึ่งดุมาที่ชิกะมารุ ซึ่งบัดนี้ทำหน้าตาเหมือนเด็กน้อย ที่กำลังจะถูกแม่ทิ้งไว้ในป่าที่โดดเดี่ยว(เทมาริ: ว๊ากกก ตูเป็นนางเอกนะเฟ้ย ไม่ใช่แม่มัน)

     

    อะไร นายไม่อยากคุยกับฉันไม่ใช่เหรอ

     

    ชายหนุ่มกัดฟันแน่น ยังไม่ค่อยเข้าใจเหตุการณ์เท่าใดนัก จู่ๆคนที่สมควรโดนง้อกลับต้องพลิกผันตัวเองมาง้อซะงั้น มันดูทะแม่งๆชอบกล+__+

     

    เขาไม่ตอบเธอในทันที แต่ฉุดดึงเธอลงให้นั่งข้างเขาเหมือนเดิม ชิกะมารุเอนตัววางหัวไว้บนไหล่หญิงสาวแทบจะในทันที เทมาริได้แต่มองการกระทำของเขาด้วยใบหน้าแดงก่ำ เขาไม่รู้ตัวเลยหรือยังไงนะว่า ที่นี่มันคือที่จอดรถนะ -_-^

     

    ตกลงนายจะบอกได้หรือยัง ว่าโกรธฉันเรื่องอะไร

     

    เทมาริถามทำลายความเงียบ และอาการเคอะเขินของเธอเอง

     

    ...ฉันคือชิกะมารุ

     

    อ๋อ ฉันรู้ นี่นายต้องการสื่อถึงอะไรกันแน่ยะ หรือแค่พูดกำกวมให้ฉันงงเล่น-_-^^”

     

    เธอไม่เข้าใจเหรอ

     

    เข้าใจจะมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ละ-0-++

     

    ไม่ ว่าอะไรก็ตามที่หมอนั่นรู้สึก นารา ชิกะมารุที่เธอรู้จักคนนั้น ฉันก็รู้สึกได้ไม่ต่างกัน เพราะฉันอยู่ในตัวหมอนั่นมาตลอด ดังนั้น ความทรงจำของหมอนั่น ก็คือความทรงจำของฉัน อะไรที่เป็นของหมอนั่น ก็เป็นของฉันด้วย รวมทั้งคนของหมอนั่น รวมทั้งเธอ

     

    คนของชิกะมารุงั้นหรือ -////-

     

    เท มาริกระแอมเบาๆ ลดอาการเขินเกินพิกัดของตัวเอง มันช่วยไม่ได้นี่นา เล่นพูดเรื่องแบบนั้น ด้วยใบหน้าหล่อเหลาของชิกะมารุ ด้วยน้ำเสียงทุ่มนุ่มของหมอนั่น >_< เธออาจจะละลายลงตรงนี้เลยก็ได้ ให้ตายเถอะ

     

    นี่นายกำลังจะบอกฉันว่า-

     

    ใช่ ไม่ใช่แค่ฉันที่รู้สึกไปคนเดียว ไอ้เทวดาหน้าโฉดนั่นก็ด้วย อะไรที่ฉันรู้สึก มันก็รู้สึก แล้ว...แล้วเธอจะให้ฉันทนดูเธอกับหมอนั่นจู๋จี๋กันงั้นเหรอ

     

    ฮ่ะ? เอ่อ ไม่ใช่-      

     

    ไม่วันนี้ก็ต้องสักวันนึงละน่า เธอนะ ชอบนารา ชิกะมารุที่ตรงไหน ฉันรู้ดีที่สุด…. เอาละ ลุกขึ้นเถอะ เวลาของเราเหลือน้อยเต็มทน แล้วอีกอย่าง ฉันเริ่มเบื่อที่นี่แล้วสิ

     

    เขาพูดแค่นั้นแล้วลุกขึ้น ส่งยิ้มบางๆมาให้เธอ ก่อนจะดึงมือเธอขึ้นแล้วฉุดเธอเข้าไปในร้านที่แออัดอีกครั้งหนึ่ง

     

    ชอบที่ตรงไหนงั้นหรือ???

     

    หญิง สาวยังไม่เลิกสงสัยกับคำพูดทิ้งท้ายของเขา มันแฝงไปด้วยอารมณ์เกินกว่าที่จะคิดว่าพูดเล่น ไม่น่าเป็นไปได้ แม้จะกลับมาที่โต๊ะแล้ว รับประทานอาหาร(ในขณะเดียวกันก็ฟังยัยชิโนะม่อชิกะมารุไปพราง) แต่ก็ยังอดนึกถึงคำนั้นของเขาไม่ได้ เหลือบมองเจ้าตัวที่ไม่รู้สึกรู้สมยังยิ้มแป้นหน้าบานให้คนนั้นคนนี้ โปรยเสน่ห์ให้สาวทุกคนที่เดินผ่าน แล้วยิ่งนึกโมโห

     

    เอาอะไรมาใส่หัวฉัน แล้วนายก็เริงรื่นยังงั้นเร๊อะ!!? อยากจะตรงเข้าทุบกะบาลสักทีให้สมกับความแค้นเสียจริงเชียว

     

    หลัง จากสะบัด สลัด แถมด้วยถีบส่งชิโนะออกไปจนพ้นได้เป็นที่เรียบร้อย สามหน่อชายหญิงชายก็ขนคนขึ้นรถ ดำเนินการตามแผนที่ล้าช้าไปให้สำเร็จลุล่วงตามบัญชาของหญิงสาว

     

    นาฬิกาชี้บอกเวลา บ่ายสองโมงแล้ว ล้าช้าไปนานจริงๆ นี่ถ้ามันไม่สำเร็จขึ้นมาจริงๆละก็...ไม่หรอกน่าT__T

     

    รถ สปอตสีดำทะมึนหักเลี้ยวเข้าถนนสายใหม่ ซุ้มประตูด้านบนเขียนด้วยป้ายตัวโตว่า สวนสนุก หญิงสาวด้านหน้ากระหยิ่มยิ้มอย่างมีเลศนัย ในขณะที่สองคนด้านหลังได้แต่ผวาอยู่ลึกๆ

     

    จะไปไหนเหรอเทมาริ

     

    ตามมาเถอะน่า

     

    ชิ กะมารุในชุดเสื้อครีมพ่นลมหายใจเสียงดัง ยัยนั่นคงมีแผนการอะไรอีกแน่ๆ แต่ไม่รู้ว่ามันจะเข้าท่าหรือเปล่า ดีไม่ดีงานนี้พวกเขาอาจได้เจ็บตัวฟรีด้วยซ้ำ -_-+

     

    ทั้งสามคนเบียดเสียดผู้คนเข้าไปอย่างยากลำบาก ก่อนที่เทมาริจะหยุดอยู่หน้าบ้านผีสิง สองคนด้านหลังมองหน้ากันเป็นทำนองว่า

     

    ความคิดพิเลนอีกแล้วสิ

     

    เห็นด้วยอย่างแรง

     

    ด้าน หน้ามีโครงกระดูกจำลองกำลังมองมาที่พวกเขา ทั้งๆที่ไม่มีลูกกะตาแท้ๆ แต่เหมือนว่ามันสามารถมองทะลุร่างพวกเขาได้อย่างงั้นแหละ เหตุแห่งความสยองมันเริ่มตั้งแต่ตรงนั้นเอง

     

    เทมาริเอาจริงเหรอ?-_-;;;”

     

    แน่นอน

     

    ฉันว่าอย่าดีกว่า คือแบบว่า ฉันไม่ค่อยถูกกับเรื่องพวกนี้เท่าไหร่^_^;”

     

    โอ้ว์ นั่นแหละที่ต้องการเลย

     

    “TT__TT แกช่วยพูดอะไรหน่อยสิ

     

    ผีไม่มีจริง มันเกิดจากความกลัวภายในจิตใจภายใต้การครอบงำของคำว่าไม่รู้ บวกกับความมืดทำให้ผีมีตัวตนขึ้นมา

     

    ฉันหมายถึง ให้แกพูดอะไรที่ฉันรู้เรื่อง นี่แกพูดบ้าไรวะ!!!”

     

    คน ถูกโวยได้แต่เกาหัวจนปัญญาจะอธิบาย ในเมื่อระดับไอคิวมันต่างกันลิบลับ จะพูดยังไงก็คงไม่เข้าใจอยู่ดี แต่ว่า สุดท้ายไม่ว่าผีจะมีจริงหรือไม่ก็ตาม แต่งานนี้มีกลัวแน่>__<

     

    เมื่อ ผ่านพ้นประตูเข้ามา ความสว่างของเวลากลางวันก็หายไป เทมาริเหลียวกับมามองขอบประตูที่เธอเพิ่งเดินเข้ามาด้วยความรู้สึกแปลกๆ ทั้งๆที่แดดจ้าขนาดนั้น แต่กลับไม่สามารถเล็ดลอดเข้ามาได้เชียวหรือ และอาจเพราะแสงแดดที่หายไปทำให้บรรยากาศรอบกายเย็นขึ้นทันควัน เธอรู้สึกถึงลมบางๆที่เบารดที่ต้นคอ ขนของเธอลุกซู่

     

    ไม่เอาน่า ผีของเล่น ผีกิ๊กก๊อกเอง อย่ากลัวๆ

     

    แต่เพื่อป้องกันไว้ก่อน เธอจึงเอื้อมมือไปจับมือชายหนุ่มทั้งสองด้านข้าง(>_<) พอรู้สึกว่ามีชิกะมารุอยู่ข้างกาย ความรู้สึกหวาดกลัวก็หายไปหมด

     

    กลัวทำไม เรามีองครักษ์ตั้งสองคนแน่ะ ^O^/

     

    เทมาริ เงียบไปเลยอ่ะ

     

    ชิกะมารุสะกิดที่ไหล่ น้ำเสียงเขาสั่นๆชอบกล คงเริ่มกลัวแล้วละสิ ดีละๆ

     

    นายเองก็ควรเงียบเหมือนกันนะฉันว่า อีกเสียงดังมาจากด้านหลังเหมือนกัน

     

    หุบปากเถอะน่า แกนะอยู่เงียบๆไปเลย

     

    เฮอะ ที่นายชวนเทมาริคุยนี่กลัวใช่ไหมละ

     

    มะ ไม่ใช่โว้ย

     

    อ๋อเหรอ งั้นก็หยุดเบียดฉันสักทีสิ

     

    เปล่านะ!! เพราะที่มันแคบต่างหากละ-0-

     

    ข้อแก้ตัวเยอะเหลือเกิน

     

    น่ารำคาญ!!”

     

    ฟัง สองคนนั้นเถียงกันจากด้านหลังแล้วเธอก็อดขำไม่ได้ เพราะความมืดจึงทำให้เทมาริมองอะไรไม่เห็น ดังนั้นเธอจึงจินตนาการภาพชิกะมารุสองคนเดินแนบเนื้อกันที่ด้านหลังแทน

     

    คิกๆ กลัวกันเข้าไปเถอะ ส่วนฉันจะขอปลอดภัยอยู่ตรงกลางชิกะมารุนี่แหละ ตรงกลางเหรอ...!!!!

     

    กรี๊สสสสสสสสสส!!!”

     

    เฮ่ย เทมาริเป็นอะไร

     

    เดี๋ยวก่อนเทมาริ เธอจะวิ่งไปไหน!!”

     

    ตามไปซี่!!”

     

    เอ่อน่า

     

    ว๊ากกกกก นี่แกหยุดทำไมฟ่ะ

     

    ไม่ ไม่ใช่ ฉันอยู่หลังแก

     

    เฮ่ย งั้นนี่...

     

    0.0!!”

     

    “O.o!!”

     

    ชิ..กะ..มา..รุ

     

    ผี!!!!!!!!!”

     

    สองหน่อตกใจแทบสิ้นสติ เมื่อจู่ๆร่างในเงามืดก็หันหน้ากลับมา ใบหน้าซีกซ้ายเปื้อนเลือด มันแสยะยิ้มให้เขาอย่างผูกมิตร

     

    ไม่เอาแล้วเว้ยยยยยยย!!”

     

    ดะ เดี๋ยวก่อน ผีเป็นแค่สิ่งทีเราสร้างขึ้น-”

     

    หุบปากแล้ววิ่งเถอะชิกะปัญญาทึบ!!!”

     

    คนเสื้อแดงไม่ว่าเปล่า ยังอุตส่าห์ใจดีวิ่งกลับมาลากแฝดตัวเองออกไปด้วย -_-;; พวกเขาวิ่งกันสุดชีวิตออกมาโผล่ที่ทางออก เทมาริยืนหอบหายใจแฮ่กๆอยู่ด้านนอก ดูเหมือนว่าเธอเพิ่งจะออกมาก่อนพวกเขาได้ไม่นานนัก

     

    นะ น่ากลัวชะมัด ทำได้เหมือนจริงๆ

     

    ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่ถูกกับเรื่องพวกนี้T^To”

     

    ผีเป็นสิ่งที่เราจินตนาการขึ้น-O-“

     

    เอ่อนี่พวกเธอ พวกเธอนั่นแหละ

     

    จู่ๆเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น ลุงแก่ๆในชุดภารโรงขมวดคิ้วมองพวกเขาทั้งสามอย่างสงสัย

     

    มาทำอะไรที่นี่นะ หือ

     

    คะ? ก็มาเล่นบ้านผีสิงนะสิคะ

     

    เล่นอะไรนะ

     

    ลุงคนนี้หูหนวกหรือเปล่านะ-_-++

     

    บ้านผีสิงคะ-0-”

     

    เข้า ใจผิดอะไรหรือเปล่า บ้านผีสิงเขาไม่เปิดให้เล่นมาหลายเดือนแล้วนะหนู ได้ยินว่าเพราะคนที่มาใช้บริการเกิดช็อกหัวใจวายตายขึ้นกลางคันนั้นแหละ เขาเลยสั่งปิด

     

    สั่งปิด..คนตาย..

     

    เฮ่ย!!! เทมาริ!!!”

     

    ทั้งสองคนกระโดดเข้าไปประคองหญิงสาวแทบจะเวลาเดียวกัน เทมารินอนนิ่งหมดสติอยู่ในอ้อมแขนของพวกเขา..

     

     

     

    พระ อาทิตย์คล้อยลงต่ำ แสงสีส้มอ่อนทอประกายอยู่เหนือขอบฟ้ากว้างแล้วตอนนี้ เทมาริค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ เธอขยี้ตาเล็กน้อยเพราะไม่สามารถปรับสายตาให้รับแสงสีส้มได้ภายในทันที

     

    ตื่นแล้วเหรอ

     

    ชิ กะมารุละสายตาจากทิวทัศน์ด้านนอกมามองเธอ เสื้อสีครีมอ่อนของเขาต้องแสงสีส้มดูส่วนเหลือเกิน เทมาริยันตัวลุกขึ้นนั่งจากฝั่งตรงข้ามของเขา

     

    เราอยู่ที่ไหนกันนะ

     

    บนชิงชาสวรรค์

     

    เธอเหลียวมองไปรอบๆ ก็เป็นอย่างที่เขาว่าจริงๆ ด้านล่างเห็นคนมากมายดูละลานตาพิกล สงสัยจังว่าอีกคนหายไปไหน

     

    แล้วเขาละ

     

    ชิกะมารุอยู่ด้านล่าง เราผลัดกันขึ้นเพื่อดูแลเธอนะ ป่านนี้หมอนั่นคงกำลังขอเบอร์สาวที่เดินผ่านละมั้งนะ

     

    ยังงั้นเหรอ

     

    อื้ม

     

    ความ เงียบเข้าครอบงำพวกเขา ชิกะมารุไม่ได้ทำท่าจะพูดอะไรอีกในขณะที่หันกลับไปสนใจทิวทัศน์ด้านนอก ที่ปลายขอบฟ้า.. เธอรู้สึกแปลกเล็กน้อยที่ต้องมาอยู่กับเขา เขาเหมือนชิกะมารุมาก เหมือนแต่ก็ต่าง เย็นยะเยือก แต่ก็ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นท่ามกลางความเยือกเย็นของเขาได้เช่นกัน

     

    เขา มองเมฆที่ต้องแสงสุดท้ายของพระอาทิตย์เป็นแน่ คงจะชอบเมฆ เธอคิด บางทีนิสัยที่ละมั้งที่เขาถ่ายทอดให้เรียวชิกะมารุ ถือว่าเธอได้เห็นแม่พิมพ์เชียวนะเนี่ย ในเรื่องความหล่อด้วยรึเปล่านะ>__<

     

    นี่ชิกะมารุ

     

    หือ?”

     

    นายเคยได้ยินตำนานรึเปล่า

     

    อะไร ตำนานช่างทำชิงชาสวรรค์เหรอไง

     

    - -* ไม่ใช่ยะ ตำนานคู่รักต่างหาก

     

    เฮอะ ความเชื่อของผู้หญิงเหรอ

     

    มันเป็นเรื่องจริง!”

     

    คงงั้นมั้ง

     

    เขาว่ากันว่า ถ้าคู่รักคู่ไหนได้จูบกันตอนพระอาทิตย์ตก ที่บนสุดของชิงชาสวรรค์ คู่นั้นจะรักกันยั่งยืนนะ

     

    อืม ตอนนี้เราก็ค้างอยู่บนสุดซะด้วยสิ ทำไงดีน้า~”

     

    ทำไงเหรอยะ ฉันก็จะถีบนายลงไป แล้วฉุดผู้ชายสักคนขึ้นมาจูบละมั้ง!!! ชิกะมารุหันมามองเธอ เขายิ้มด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แบบคนรู้ทัน

     

    จะจูบฉันก็ไม่ต้องหาข้ออ้างหรอก

     

    มะ ไม่ใช่สักหน่อย-///- ตำนานมันมีจริงๆนะ

     

    ช่วยเงียบก่อนได้ไหม

     

    เออ อืม

     

    ใบ หน้าของเขายื่นเข้ามาใกล้เธอเรื่อยๆ ก่อนที่จะประทับริมฝีปากของเขาเหนือความนุ่มของริมฝีปากของเธอ เนินนานและหอมหวาน ชั่วครู่ที่เธอรู้สึกเหมือนวิญญาณได้หลุดออกจากร่างไป จนกระทั่งเสียงชิงชาขยับดังขึ้น เรียกสติเธอกลับคืนมา พร้อมๆกันนั้น ชิกะมารุก็ถอนริมฝีปากของเขาไป

     

    รักกันยั่งยืน ฉันก็ชอบคำๆนี้เหมือนกันนะ

     

     

     

    ด้านล่าง

     

    ชิ กะมารุยืนอยู่ด้านล่างในมือถือไอติมโคนสองโคน เผื่อให้หมอนั่นด้วย.. เขาถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้หญิงหลายคน มีบางรายเดินเข้ามาหาขอเบอร์ด้วยซ้ำ เขาได้แต่ยิ้มและปฏิเสธไปทั้งอย่างนั้น เทมาริคงไม่ชอบใจแน่ ถ้าเกิดว่าวันต่อมามีสาวโทรเข้าเบอร์เขา เขาเผยยิ้มเมื่อนึกถึงใบหน้าโมโหของหญิงสาว

     

    รีบๆลงมาสักทีสิ คิดถึงเทมาริจะแย่

     

    เขา เงยหน้าขึ้นมอง สายตาสอดส่องหาแฝดผู้มีใบหน้าเหมือนกับเขาเอง ผ่านคู่รักผมแดงไป เป็นไอ้อ้วนหมูตอน ถัดหมอนั่นไปเป็นคู่รักที่กำลังจูบกัน แหมๆ สวีทไม่อายฟ้าอายดินจริงๆ

     

    เดี๋ยวก่อน ถัดไอ้อ้วนหมูตอนก็ต้องเป็นเทมาริกับหมอนั่นสิ!!

     

    ชั่ว วินาทีนั้น หัวใจของเขาได้ถูกทำลายยับเยิน ชิกะมารุมองแฝดคนละขั้วจูบเทมาริด้วยสายตารวดร้าว เจ็บปวดเกินบรรยาย ไอติมร่วงไปแล้ว เขาได้ยินเสียงคนข้างๆบ่น แต่มันไม่เข้าหูเขาสักนิดเดียว

     

    ความ ร้อนแทบเผาไหม้อยู่ที่ดวงตาทั้งสองข้าง ก่อนที่น้ำตาอุ่นๆจะไหลลงอาบแก้ม ในขณะที่ยังคงมองสองคนด้านบนอยู่อย่างนั้น เห็นชิกะมารุกลับมานั่งตัวตรงเหมือนเดิมแล้ว เห็นเทมาริยิ้มหน้าแดงให้หมอนั่น หัวใจเขาถูกย่ำยีไม่เหลือซาก...


    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    เท มาริมองผ่านกระจกสะท้อนไปที่เบาะหลัง เห็นใบหน้าครึ่งซีกของชิกะมารุที่เคยเริงรื่นมองออกไปนอกหน้าต่าง เธอไม่เข้าใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา หลังจากที่ลงมาจากชิงชาสวรรค์และพบเขาอยู่ด้านล่างมันกินเวลามานานหลาย ชั่วโมงแล้ว เขาดูแปลกไป... ไม่ว่าเธอจะพาไปตะลุยที่ไหน เขาก็ดูจะไม่รู้สึกรู้สมอะไรทั้งนั้น เหมือนว่าจิตวิญญาณได้หลุดออกไปจากร่างแล้วยังงั้นแหละ -_-++

     

    เป็นอะไรไปนะ

     

    เอาละ ลงนี่แหละ

     

    ที่นี่ที่ไหนนะเทมาริ

     

    ลานสเกต

     

    หือ?”

     

    พวก เราขนพลขึ้นบกกันอย่างรวดเร็ว หลังจากเปลี่ยนรองเท้าเรียบร้อยแล้ว เราก็เข้าไปในลานสเกต ถึงจะบอกว่าชวนมาเองก็เถอะ แต่แท้จริงแล้วเธอเล่นเป็นซะที่ไหนกัน -_-lll

     

    ตุ๊บ!

     

    โอ้ย

     

    หญิงสาวล้มลงก้นกระแทกพื้นอย่างแรง น้ำตาเธอซึมเล็กน้อย เจ็บก้นซะไม่มี ทำไมฉันเลือกที่นี่นะ!!! ชิกะมารุทั้งสองคนวิ่งเข้ามาดูฉัน แต่เพราะคนเสื้อคลีมอยู่ไกลกว่า ชิกะมารุท่าทางเซื่องซึมจึงมาถึงก่อน

     

    เป็นอะไรมากไหมเทมาริ

     

    มะ ไม่เป็นไรหรอก

     

    เล่นไม่เป็นทำไมไม่บอก

     

    แหมก็นะ ถ้านายรู้ก็หัวเราะฟันร่วงกันพอดี

     

    หน้าอย่างฉันนะเหรอจะหัวเราะเธอ

     

    ก็ฉันกลัวนี่นา ถ้าโดนนายหัวเราะเยาะฉันต้องตายแน่ๆ

     

    หึ ใช่ฉันแน่เหรอ

     

    ฮ่ะ? ว่าไงนะ

     

    เปล่า มานี่สิ ฉันจะสอนเล่น

     

    อื้ม

     

    เธอ ทำท่าทางเก้งๆก้างๆ หลายต่อหลายครั้งที่เสียหลักเซถลาเข้าสู่อ้อมแขนแข็งแรงของคนตรงหน้า กลิ่นหอมจางๆลอยแตะจมูก เป็นกลิ่นที่เย้ายวนและมีเสน่ห์ เหมือนกับผู้ชายคนนี้

     

    ชิกะมารุส่งยิ้มขี้เล่นมาให้เธอเมื่อเธอล้มตัวลงบนพื้นอีกครั้ง หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นส่ำทีเดียว เขาดูน่ารักจนยากจะห้ามใจ>__<

     

    มีสมาธิหน่อยเทมาริ

     

    โอ้ย นายก็อย่ามาอยู่ใกล้ฉันสิ

     

    เอ้า ผิดที่ฉันอีก

     

    เพราะนายนั่นแหละ ฉันถึงไม่มีสมาธิ

     

    อะไร ก็อย่ามัวแต่มองฉันสิ

     

    ก็นายน่ามอง

     

    ฉันหล่อละสิ

     

    “-___-;;;”

     

    ถึงเขาจะพูดเข้าข้างตัวเองซะขนาดนั้น แต่เธอก็ไม่ยักปฏิเสธ เพราะในใจนั้นยอมรับทุกคำพูดของเขา ก็ชิกะมารุหล่อจริงๆนี่นา...-0-

     

    ชาย หนุ่มอีกคนเฝ้ามองสองคนที่ห่างออกไปด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา เทมาริกับเจ้าซาตานนั่น เฮอะ จะว่าเหนือความคาดการณ์ของเขารึก็ไม่ แต่พอต้องทนมองภาพเหล่านั้นจริงๆ เขากลับไม่ชอบใจเอามากๆ ก็คงเหมือนตอนที่หมอนั่นมองเขากับเทมาริสินะ ชิ บนชิงช้าสวรรค์หมอนั่นก็คงเห็น เป็นเหตุผลให้ตอนนี้ทำหน้าอมทุกข์แบบนั้น

     

    แว๊บนึงชิกะมารุหันกลับมา สบสายตาเข้ากับเขาพอดี

     

    แกเจ็บใช่ไหมละ เจ็บเหมือนฉันไหม

     

    ไม่มากไปกว่านี้หรอก

     

     

     

    ตอน นี้เวลา 5 ทุ่ม 10 นาทีแล้ว ความรู้สึกของเธอตีรันฟันแทงกันอย่างบ้าคลั่งทีเดียว ใจนึงเธอก็กำลังดีใจที่ชิกะมารุยี่ห้อซาตานกลับมาร่าเริงเหมือนเดิม อีกใจก็กำลังทุกข์ร้อนกับเวลาที่ใกล้เข้ามา ชิกะมารุสังเกตเห็นท่าทางร้อนอกร้อนใจของเธอ

     

    ไม่เป็นไรหรอกน่า มันต้องสำเร็จอยู่แล้ว

     

    ไม่รู้สิ ฉันชักกลัวขึ้นมาแล้ว

     

    มั่นใจหน่อย

     

    พยายามอยู่

     

    แล้วเทมาริจะไปไหนต่อ

     

    ไม่รู้

     

    เพราะ แรงกดดันที่แผ่ซ่านออกมาจากนาฬิกาหรืออย่างไร ที่ทำให้สมองเธอไม่ทำงาน และเมื่อได้คำแนะนำจากชิกะมารุให้กลับบ้าน เธอก็ยอมกลับโดยง่าย ยิ่งใกล้ถึงบ้านมากเท่าไหร่ เธอยิ่งรู้สึกเหมือนสิ้นหวังมากเท่านั้น

     

    แล้วไงต่อ

     

    ดาดฟ้า

     

    ขึ้นไปทำไม

     

    ฆ่าตัวตายไงละ^__^”

     

    ฮ่ะ?”

     

     เราตามชิกะมารุขึ้นมาทั้งๆที่ยังงุนงงกับคำตอบแบบกำกวมของเขาก็ตามที ในขณะที่ยังคิดอะไรไม่ออก อะไรที่พอทำได้ก็ทำไปก่อน จริงไหม

     

    สาย ลมหนาวโชยอ่อนในยามดึกที่เงียบสงัด แว่วเสียงการจราจรที่ด้านล่างบ้างเป็นครั้งคราว แม้จะเป็นอย่างนั้น แต่ก็ไม่สามารถช่วยลดทอนความตึงเครียดในใจเธอไปได้เลย

     

    แล้วไงต่อละ

     

    ก็บอกแล้วไง ว่าเราจะฆ่าตัวตายกัน

     

    “-__- นายอย่าล้อเล่นสิ

     

    เอาจริง

     

    จริง?”

     

    อื้ม จริง

     

    เทมาริจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีนิลของเขา ดุจดั่งจะค้นหาความจริงในแววตานั้น ก่อนจะพบว่า ไม่มีร่องรอยการล้อเล่นอยุ่เลย..

     

    กลับ

     

    เฮ่ย เดี๋ยวก่อนสิเทมาริ!”

     

    นายจะบ้าเร๊อะ ใครจะไปฆ่าตัวตายยะ กลับเถอะ

     

    ฉันว่า... ทำตามที่เขาพูดเถอะ

     

    เอ๊ะ นายก็ด้วยเหรอชิกะมารุ

     

    อื้ม อย่าทำให้ฉันผิดหวังซะละ

     

    เฮอะ แกไม่ได้ผิดหวังแน่

     

    ชิกะมารุสองคนสบตากันสักพัก เธอไม่รู้หรอกว่าเขากำลังคิดจะทำอะไรกัน แต่บางที การที่เขาสองคนคิดจะทำอะไรเหมือนๆกัน หรือบางทีสนับสนุนกันเองแบบนี้ ก็เป็นเรื่องเกินคาด ถือเป็นฤทธิ์ดีมีหวังเหมือนกันนะ

     

    ปฎิบัติการฆ่าตัวตาย โวะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

     

    โป้ก!!

     

    อย่ามัวแต่ล้อเล่นอยู่ นี่ก็ปาไปห้าทุ่มครึ่งแล้วนะยะ

     

    แหม เทมาริออกจะเครียดเกินไปหน่อยนะเรื่องนี้

     

    เอ๊ะ มันก็ต้องซีเรียสอยู่แล้-

     

    ขึ้นมายืนตรงนี้สิ แกด้วย

     

    จู่ๆ เขาก็พูดสวนขึ้นเหมือนไม่ต้องการจะรับฟังเหตุผลของเธอ ชิกะมารุที่ยืนอยู่บนขอบดาดฟ้าชี้ให้มายืนถัดจากตน เทมาริก้าวออกมาอย่างกล้าๆกลัวๆ ถึงแม้ว่าเพียงสองชั้นถัดลงไปจะมีระเบียงยาวยื่นออกมา ถึงตกลงไปก็ไม่ถึงกับตาย แต่ก็อดกลัวไม่ได้จริงๆ ชิกะมารุยื่นข้างเธอทั้งสองคน

     

    บรรยากาศดีใช่เล่นนี่หว่า

     

    เห็นความฉลาดของฉันรึยัง

     

    เหมือนจะเห็นแล้วนิดหน่อย

     

    หึ แกนี่มัน..

     

    ทำไม เขาสองคนถึงได้คุยกันอย่างสบายอารมณ์อย่างนี้นะ ในขณะที่เวลากระชันชิดเข้ามาเรื่อยๆ ใยมีเพียงเธอที่ร้อนอกร้อนใจอยู่คนเดียว เขาไม่รู้เลยรึไงว่าเวลาแบบนี้หน้าสิ่วหน้าขวานแค่ไหน เธอเหลือบมองนาฬิกาอีกครั้ง เหมือนที่ทำมาทั้งวัน ตอนนี้ 5 ทุ่ม 48 แล้วนะ

     

    เวลาจะหมดแล้ว ฉันว่าเราควรจะคิดทำอะไรสักอย่าง-

     

    ผ่อนคลายเถอะเทมาริ

     

    อะไรนะ

     

    อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด

     

    นี่นายหมายความว่านายถอดใจแล้วงั้นเหรอ

     

    เปล่า ไม่ใช่-

     

    แล้วอะไร

     

    ใจเย็นๆน่าเทมาริ นี่อาจเป็นแผนสุดท้ายที่เรากำลังหาอยู่ก็ได้

     

    ยืนเฉยๆเนี่ยนะ

     

    อื้ม ใช่ เธอนะเครียดมาทั้งวันเลยรู้ไหม

     

    ตัวฉันนะไม่สำคัญหรอก พวกนายต่างหากละที่สำคัญ ฉันจะเป็นยังไงก็ชั่ง

     

    ชิกะมารุมองหน้ากันก่อนจะหันมายิ้มให้ฉัน

     

    อย่าโง่ไปหน่อยเลยเทมาริ

     

    เธอนะ สำคัญสำหรับพวกเรานะ

     

    ถ้าเธอเครียด เราก็พลอยเครียดไปด้วย

     

    นี่นายโยนความผิดมาให้ฉันงั้นเหรอ

     

    ไม่ใช่ เราหมายความว่า เรารักเธอมากแค่ไหน

     

    จริงๆนะ เธอพลาดไปจริงๆเรื่องนี้

     

    อะไรของพวกนาย

     

    หญิง สาวถามด้วยท่าทางงงงัน มองรอยยิ้มกว้างที่เหมือนกันเด๊ะแล้วยิ่งงงไปใหญ่ ดูเหมือนการพูดเย้าแหย่เธอให้ปวดหัวจะเป็นความสุขของพวกเขา เทมาริได้แต่เกาหัวแกรกๆ เสียงนาฬิกาบอกเวลา 5 ทุ่ม 59 แล้ว

     

    ฉันบอกเธอว่า จะรวมร่างกลับเป็นหนึ่งเดียวได้ ก็ต่อเมื่อเราสองคนรู้สึกเหมือนกันใช่ไหม

     

    อื้ม

     

    ฉันบอกเธอว่า ความรู้สึกพื้นฐานใช่ไหม

     

    ใช่ แล้ว?”

     

    รักไง เธอไม่จำเป็นต้องวิ่งวนรอบเมืองด้วยซ้ำ ในเมื่อต้นตอความรู้สึกทั้งหมดของพวกเราอยู่ตรงนี้แล้ว ก็เธอไง

     

    ฮ่ะ?”

     

     “นายหมายความ..

     

    ใช่ มันขึ้นอยู่กับเธอ

     

    ตายแล้ว แล้วนี่ฉันควรทำไงดีละเนี่ย

     

    เธอกุมขมับแน่น ท่ามกลางเสียงหัวเราะของคนเสื้อแดง ทำไมมาบอกเวลากระชั้นชิดแบบนี้นะ แบบนี้ฉันจะคิดอะไรออกได้ยังไง

     

    ใจเย็นๆเทมาริ

     

    โอ้ยยยย นี่ฉันควรทำยังไงดีเนี่ย หยุดหัวเราะนะชิกะมารุ!!!”

     

    ฮ่าๆๆ

     

    ตั้งสติหน่อย เธอเครียดมากไปแล้วนะ

     

    10

     

    อะไร ฉันนะเหรอเครียด สมควรไหมละ ถ้ารู้ก็น่าจะบอกให้เร็วกว่านี้เซ่!!”

     

    9

     

    ฮ่าๆๆ

     

    8

     

    กรี๊สสส จะไม่ทันแล้ว!!”

     

    7

     

    พูดออกมาสิ Keyword นะ!”

     

    6

     

    ฮ่ะ? นายหมายความว่ายังไง!?”

     

    5

     

    เร็วเทมาริ!”

     

    4

     

    อะไร!!??”

     

    3

     

    ความรู้สึกของเธอไง!”

     

    2

     

    ฮ่ะ!?”

     

    1

     

    เดี๋ยวนี้!!!!”

     

    0

     

    ฉันรักนายชิกะมารุ

     

    ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด....

     

    เสียงนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืนตรง แสงสีเงินวาบส่องสว่างทั่วทั้งบริเวณ ชิกะมารุค่อยๆลอยตัวขึ้นช้าๆ หญิงสาวอ้าปากค้าง

     

    นี่มันอะไรกัน...

     

    ชายหนุ่มทั้งสองคนต่างยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนในขณะที่ร่างของพวกเขาลอยสูงขึ้นเลื่อยๆ

     

    ฉันรักเธอ/ฉันรักเธอ......เทมาริ

     

    ปัง!

     

    เกิด เสียงดังสนั่นพร้อมๆกันนั้นแสงสีเงินก็เจิดจ้ามากกว่าเดิมจนเธอต้องหลับตาลง เมื่อเปิดเปลือกตาขึ้น สิ่งที่เธอเห็นอยู่เบื้องหน้าก็คือ ชายหนุ่มผมสีดำ ใบหน้าที่คุ้นเคย คิ้วขมวดยุ่งอยู่ตลอดเวลา

     

    ชิกะมารุเผยยิ้มอย่างเชื่องช้าส่งมาให้เธอ

     

    ฉันกลับมาแล้ว

     

     




    K a e
    K a
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×