ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TVXQ FIC Miracle Love Yaoi [YunJae*YooSu]

    ลำดับตอนที่ #2 : chapter 2 [rewrite]

    • อัปเดตล่าสุด 26 ต.ค. 52


     “กรี้ดดดดดดดดดด มีรถชนกัน!!!!” 


    เสียงกรีดร้องมากมายที่เกิดขึ้นตรงนั้น
          ท่ามกลางฝูงชนที่ตกใจอยู่กับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันนั้น
          จุงยุนโฮแหวกผู้คนเข้ามาแล้วมาช่วยดึงแจจุงออกมาจากรถ
          ระหว่างที่เค้ากำลังส่งของอยู่เค้าได้ยินเสียงกระแทกกันอย่างแรงเลยวิ่งมาดู
          
          “หลีกทางหน่อยครับ”  ยุนโฮพูดออกมาอย่างหัวเสียนิดๆ
          เกิดเรื่องอย่างนี้ยังมามุงกันอีก เบื่อจริงเลยพวกเกาหลีมุงเนี่ย
          
          “ช่วยเรียกรถพยาบาลด้วยครับ”  ยุนโฮดึงร่างบางที่เต็มไปด้วยเลือดออกมา
          แต่ก็ต้องตะลึงเล็กน้อยกับใบหน้าสวยหวานนั้น
          
          “เร็วสิครับ ช่วยเรียกรถพยาบาลด้วย”
          
          ไม่นานนัก รถพยาบาลก็มาถึง แล้วร่างบางของแจจุงก็ถูกนำขึ้นเตียงไป
          ส่วนรถอีกคันคนขับบาทเจ็บเล็กน้อย เพราะตัวรถสูงและใหย่กว่าของแจจุงมาก
          
          “จะเข้าไปด้วยกันมั้ยครับ”
          
          “เอ่อ ก็ได้ครับ” ร่างสูงของยุนโฮ ก้มเข้าไปในรถของ โรงบาลทันที
          ประตูรถของโรงพยาบาลก็ถูกปิดลง และเคลื่อนตัวออกไปทันที
          
          เสียงหวอของรถพยาบาลดังก้องไปทั่ว
          +++++++++++++++++++++++++++++++++
          
          “เสียดังอะไรกันนะ” ชางมินที่กำลังตามหาพี่ชายของตัวเองอยู่ในบริเวณนั้นพอดี
          แล้วร่างสูงของชางมินก็เดินเข้าไปในบริเวณที่แจจุงเกิดอุบัติเหตุ
          แต่เพราะว่าสถานที่ถูกเจ้าหน้าที่ล้อมรอบอยู่
          เค้าเองก็เลยไม่อยากจะรู้เรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเค้ามากนัก
          
          ร่างสูงก็เดินไปอย่างไม่ใส่ใจ
          
          “สงสัยจังป่านนี้พี่แจจุงจะไปไหนนะ” ชางมินพูดไปคิดไป
          ความกอบกลุ้มใจโถมเข้ามาหาชางมินอีกครั้ง
          เรื่องต่างๆนาๆเข้ามาประเดประดังใส่เค้า ไหนจะเรื่องของพ่อแม่
          ไหนจะเรื่องของพี่แจจุง ตอนนี้เค้าท้อแท้มาก
          
          “เฮ้อ....อยู่ไหนนะ”
          
          +++++++++++++++++++++
          
          รถพยาบาลแล่นเข้ามาจอดในโรงพยาบาลโซล 
          เตียงของแจจุงถูกเข็นเข้าไปในห้องฉุกเฉินทันที
          
          “เฮ้อ” ยุนโฮถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน
          
          “อ่าว ยุนโฮเหรอ” เสียงทุ้มต่ำเรียกยุนโฮ ร่างสูงหันไปตามเสียงเรียก
          
          “นายเองเหรอ ยูชอน” ร่างสูงของยุนโฮยิ้มออกมาอ่อนๆ
          
          “นายมทำอะไรที่นี่น่ะ” ปาร์คยูชอนถามเพื่อนเค้า
          
          “ฉันมาส่งคนเจ็บน่ะ”
          
          “เค้าเป็นเพื่อนนายเหรอ” ยูชอนพูดแล้วมองเข้าไปในห้องผ่าตัดฉุกเฉิน
          
          “ป่าวหรอก ฉันช่วยเค้ามาต่างหาก”
          
          “หึ ยังใจดีอยุ่เหมือนเดิมเลยนะ” ยูชอนพูด
          นึกถึงเหตุการณ์ตอนที่ยุนโฮช่วยน้องชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของเค้าไว้
          
          “บ้าน่า”
          
          “แล้วนายมาทำอะไรที่นี่”  ยุนโฮถามร่างสูงตรงหน้า
          
          “นี่มันเป็นโรงบาลของฉันฉันก็ต้องอยู่นี่น่ะสิ” ยูชอนตอบออกมาอย่างกวนๆ
          
          “เอาดีๆสิ”
          
          “ฉันต้องมาช่วยผ่าตัดเคสนี่นั่นแหละ ฉันลืมไปเลย ต้องไปแล้วล่ะ”
          
          “อ้อ นายนี่จริงๆเลย ยังอุส่าเป็นหมอได้นะ” ยุนโฮพูดออกมา
          
          “เฮ้ย เดี๋ยวเจอดี” ยูชอนพูดแล้วเดินเข้าห้องฉุกเฉินไป
          
          ร่างสูงมองตามเพื่อนต่างฐานะของตัวเองไป เพื่อนที่ไม่น่าจะเป็นเพื่อนกันได้
          เพราะความต่างมันมีมากเกินไป
          
          ปาร์ค ยูชอน เป็นลูกของนักธุรกิจ ฐานะร่ำรวย แต่เค้าเป็นแค่ลูกของครอบครัวจนๆ
          ที่มีแค่แม่เท่านั้น เค้าต้องทำงานหาเลี้ยงแม่ของเค้า  แต่ว่าวันหนึ่ง 
             รยูจุนซู  เกิดโดนพวกอันตพาลกลั่นแกล้ง เค้ามาเจอเลยช่วยไว้ได้ทัน ตั้งแต่นั้นมา
          เค้าก็เลยได้เป็นเพื่อนกับยูชอน และก็เป็นเพื่อนต่างฐานะ
          และนี่ก็เป็นโรงพยาบาลที่พ่อขอองยูชอนมอบให้ยูชอนดูแลแทน
          
          “ เรียบร้อยแล้ว” หลังจากที่คิดถึงเรื่องเก่าๆ ร่างสูงมองดูนาฬิกา  ผ่านไป 2
          ชม.แล้วเหรอเนี่ย เร็วจัง
          
          “งั้นเหรอ เป็นไงบ้างอะ ยูชอน” ร่างสูงถามคุณหมอยูชอน
          
          “ไปเป็นไรแล้วล่ะ แต่ว่าฉันต้องขอดูอาการสักพักนะ”
          ยูชอนพูดแล้วเดินเข้าไปในห้องคนไข้ที่แจจุงอยู่ ยุนโฮเองก็ตามเข้าไปติดๆ
          
          “แล้วนี่อะไรเหรอ”
          ยุนโฮถามยูชอนเมื่อเห็นว่ามีสายกระโยงกระยางเต็มตัวแจจุงไปหมดน่ะ
          
          
          “ไม่มีอะไรหรอก เพราะว่าฉันยังต้องดูอาหารของคนไข้อีกทีน่ะ เผื่อจะมีอาการแทรกซ้อน ฉันไม่แน่ใจว่าจะมีอะไรกระทบกระเทือนมั้ย เพราะ ดูเหมือนว่า จะมีเลือดบางส่วนที่อาจจะหลงเหลืออยู่ แต่มันก็ไม่อ่ะนะ ต้องรอดูอีกที"
           
          “อืม”
          
          “แล้วนี่นายรู้มั้ยว่านี่ใคร” ยูชอนถามอีก
          
          “ไม่อ่ะ”
          
          “งั้นเหรอ สวยดีนะ”
          
          “นายจะบ้าเหรอ นี่เหรอ หมอ หมอที่ไหนจะหื่นได้ขนาดนี้”
          ยุนโฮพูดแล้วเดินเข้าไปหาร่างบางที่นอนไม่ได้สติอยู่
          
          “5555+ นายนี่แปลกจัง ฉันก็แค่ชมว่าเค้าสวยดีน่ะ นายหวงรึไง”
          ยูชอนยังแหล่ไม่เลิก
          
          “บ้าเหรอ ฉันป่าวนะ” ยุนโฮพูดออกมาอย่างฉุนๆ
          “555+แกล้งนายนี่น่าสนุกจัง”
          
          “แล้วนี่เรื่องค่าใช้จ่ายน่ะ ฉันจะหามาคืนนะ”
          
          “หา !!! นายเป็นเพื่อนฉันนะ ไม่ต้องหรอกฉันไม่รับอยู่แล้ว” ยูชอนพูดอีก
          เรื่องอะไรจะรับเงินของยุนโฮกัน
          
          “จะบ้าเหรอไง”
          
          “แล้วนี่ ญาตินายรึไง” ยูชอนชี้นิ้วไปที่ร่างบางของแจจุง
          
          “มันก็ป่าวหรอก แต่ว่า.....”
          
          “ไม่ต้องแต่หรอก ฉันยินดีช่วยนาย นายเก็บเงินของนายไว้ให้แม่นายเถอะ”
          
          “ขอบใจนะ”  ยุนโฮพูดออกมา
          
          “อือ งั้นฉันขอตัวก่อนนะ เดี๋ยวต้องไปดูคนไข้ต่ออีกน่ะ”
          
          “อือ”  ร่างสูงตอบรับแล้วยิ้มน้อยๆให้กับยูชอน
          
          ความคิดต่างๆเข้ามาอยู่ในหัวของยูชอน
          เค้ารู้สึกว่าใจเต้นแรงเวลาที่มองร่างบาง เค้ารู้สึกว่ามือสั่นไปหมด
          ตอนที่กำลังผ่าตัด เค้ากำลังตกหลุมรักงั้นเหรอ
          เค้ากำลังรักร่างบางที่เป็นใครไม่รู้......เค้ากำลังรักแจจุง.....
          
          ……..ไม่แปลกหรอกที่ยุนโฮกับยูชอนจะไม่รู้จักคิมแจจุง
          ผู้ได้รับฉายาว่าเป็นไอดอลบอยที่สวยที่สุดในเกาหลี
          เพราะว่ายุนโฮม่เคนสนใจกับเรื่องนี้เลย วันๆเอาแต่ทำงาน ส่วนยูชอนเองก็
          เพิ่งกลับมาจากเมืองอเมริกา เลยไม่รู้เรื่องของแจจุง
          เรื่องเลยวุ่นกันไปใหญ่.......
          
          +++++++++++++++++++++++++++++++
          
          “นี่นายเมื่อไหร่จะตื่นสักทีนะ”
          ยุนโฮพูดแล้วดอกกุหลาบสีขาววางไว้บนโต๊ะเยี่ยมที่มี
          ดอกกุหลาบสีขาวอีกสามสี่ดอกที่บัดนี้กลับเหี่ยวแห้งตามกาลเวลา 
          เค้ารู้สึกว่ามดอกกุหลาบสีขาวมันเหมือนกับแจจุง
          
          “นายจะนอนไปถึงเมื่อไหร่นะ”
          
          ร่างบางหลับไป สี่วันแล้ว สี่วันที่เค้าและยูชอนผลัดกันมาเยี่ยม
          
          “เฮ้อ” ร่างสูงมองหน้าของร่างบางอย่างพิจารณา
          .....มองจากมุมไหนก็สวยจริงๆ สวยเหมือนนางฟ้า
          ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอกับคนที่สวยได้ขนาดนี้ แปลกจัง
          อยากให้ร่างบางตื่นขึ้นมาเร็วๆ
          
          “นี่นายเป็นใครกันนะ ไม่มีใครรู้จักนายเลย ไม่มีอะไรติดตัวนายมา
          มีแต่ชุดโรงพยาบาล
          
          “เฮ้อ ฉันรู้สึกแปลกๆนะ นี่ฉันเป็นอะไรไป ทำไมมองหน้านายแล้วต้องใจเต้นด้วย”
          ยุนโฮเอามือของตัวเองเข้าทาบกับหน้าอกด้านซ้ายของตัวเอง
          ....ตึก ตึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ.....
          มันเต้นแรงมาก
          
          “นี่ ตื่นขึ้นมาได้แล้ว อาการนายเริ่มหน้าเป็นห่วงแล้วนะ”
          
          ตกเย็น ร่างสูงของยุนโฮกำลังนั่งอยู่ข้างตียงของร่างบาง
          แต่ว่าฟุบหลับอยู่ข้างๆ
          
          “อืมมม...ม”
          ร่างบางที่เพิ่งรู้สึกตัว ขยับนิ้วบางเบาๆ
          
          “หือ...นายรู้สึกตัวแล้วเหรอ” ยุนโฮพูดออกมาอย่างดีใจ รีบลุกขึ้นมาดูร่างบาง
          
          “นายเป็นยังไงบ้าง” ยุนโฮถามแล้วพยุงร่างบางขึ้นมานั่ง
          “นะ...น้ำ...ขอน้ำหน่อย”
          
          “น้ำเหรอ ได้ได้ เดี๋ยวนะ”
          ยุนโฮเดินไปเอาน้ำมาแล้วจัดการพยุงร่างบางขึ้นมานั่ง
          
          ร่างบางของแจจุงพยายามลุกขึ้นมานั่ง แต่ว่าเมื่อร่างบางลืมตาขึ้นมา
          เผยให้เห็นดวงตากลมโตที่สุกใส แต่มันดูแปลกๆ
          
          “ที่นี่....ที่ไหนเหรอ....ทำไมมันมืดจัง เป็นตอนกลางคืนเหรอ
          แล้วทำ….ไมไม่เปิดไฟล่ะ”
          
          เสียงหวานๆของร่างบางที่ถามมาทำเอายุนโฮงง ที่นี่ก็ออกจะสว่าง แสงไฟก็มากอยู่
          แล้วทำไมคนตรงหน้าถึงยังบอกว่ามืดอีก
          
          “แล้ว....ฉันเป็น....ใครเหรอ”  ร่างบางถามออกมาอีก
          
          “หา!!!! นายเป็นใคร นายยังไม่รู้เหรอ” ยุนโฮตกใจยิ่งหว่าเดิม
          
          
          “ฉันเป็นใคร!!! ฉันเป็นใคร!!! ที่นี่ที่ไหน ทำไมมองอะไรไม่เห็นเลย!!!
          แล้วทำไม....โอ๊ยยย!!! ปวด..อ๊า...หัวชั้น..โอยยย ปวดด!!!” 
          แจจุงเอามือกุมหัวมือเรียวเริ่มควานหาปัดไปมา เริ่มทำลายข้าวของที่ตนจับถูก
          ความรู้สึกหลายอย่างแล่นเข้ามาในหัว
          
          ร่างบางของแจจุงเริ่มอาละวาด ยุนโฮทำอะไรไม่ถูกรีบวิ่งไปตามยูชอนมาทันที
          เสียงโหวกเหวกโวยวายยังคงดังตามหลังมาตลอด

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

     “ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วล่ะ ฉันให้ยานอนหลับไปแล้ว ที่
          คนไข้มีอาการคลุ่มคลั่งเพราะว่า
          ปวดหัวซึ่งเกิดจากการที่มีเลือดคั่งอยู่ในสมอง และไปกดทับประสาท
          ทำให้เกิดเป็นอาการความจำเสื่อม แต่ว่าที่คนไข้มองไม่เห็นอาจ
          เป็นเพราะว่ามีเลือดไปกดทับประสาทตา
          หรือไม่ก็เป็นเพราะว่าเศษกระจกกระเด็นเข้าตา ทำให้กระจกตามีปัญหา
          เด๋วฉันจะเช็คอีกทีนะ ตอนนี้ไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว”
          
          ยูชอนบอกอาการของแจจุงให้กับยุนโฮรู้
          ก่อนที่จะมองร่างบางอีกครั้งแล้วเดินออกไปจากห้อง ไป
          
          “เฮ้อ เป็นหนักเลยนะเนี่ย แสดงว่าตอนนี้นายก็จะมองไม่เป็น ช่วยตัวเองไม่ได้
          แล้วก็ความจำเสื่อมงั้นเหรอ ไม่อยากจะเชื่อว่ายังมีเรื่องแบบนี้อยู่งั้นเหรอ
          55” ยุนโฮพูดกับร่างบางที่นอนไม่ได้สติอยู่
          
          +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
          
          “ป่านนี้พี่แจจุงจะเป็นยังไงบ้างนะ เป็นห่วงจัง”
          
          ชางมินที่อยู่ในบ้านของตัวเองอยู่ พูดขึ้นมา
          
          “หลาน อา!!!! อามาแล้ว เป็นยังไงบ้าง!!!” ชางมินหันหน้ามาตามเสียงแรก
          และเค้าก็เห็นคนที่เค้า ไม่อยากจะเห็นที่สุด
          
          .......ทำไมเพิ่งมาเอาป่านนี้.....มาแสดงความยินดีหรือจะมายึดบ้านนี้งั้นเหรอ

          
          “ครับ?”
          
          “เป็นยังไงบ้าง อารู้เรื่องพ่อของเธอแล้วนะ แต่ว่าติดงานที่บริษัทน่ะ
          เลยมาไม่ได้”
          คิมซังกวานพูดขึ้นมา แต่อย่างว่าแหล่ะ อ้ปากออกมาก็เห็นลิ้นไก่แล้ว
          
          “งั้นเหรอครับ งั้นคุณน้ามาทำไมล่ะครับ”
          
          “ก็จะมาพูดเรื่องพ่อแม่ของหลานนั่นแหละ”
          
          “เรื่องนั้น มีอะไรงั้นเหรอครับ ผมไม่ค่อว่าคุณอาจะช่วยอะไรผมได้หรอกฮะ”
          ชางมินพูดเสียงเรียบ
          
          “เอ่อ..”  ...หนอยเจ้าเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ไม่น่าพลาดเลย
          แกน่าจะตายตามพ่อกับแม่ของแกไปด้วยนะ ไม่งั้น
          แกก็คงจะไม่มีโอกาสมาเถียงฉอดอย่างนี้ล่ะ เอ๊ะทำไมเหลือคนเดียว
          
          “แล้วแจจุงล่ะ” หรือว่าจะอยู่กับพ่อแม่มัน
          
          “พี่แจจุง.....พี่แจจุง....เอ่อ...ไปเที่ยวครับ”
          
          ............บ้าจริง คิมชางมิน นายนี่มันโง่จริงเลย
          มีเรื่องอย่างนี้พี่แจจุงมีอารมณ์ไปเที่ยวได้ยังไง
          
          “หา! งั้นเหรอ ไปเที่ยว อืม” มีพิรุธนะ
    เด็กยังไงก็ยังเด็กอยู่วันยังค่ำล่ะน้า
          
          “ครับ ไปเปลี่ยนบรรยากาศ” เฮ้อ ดีนะที่มันไม่สงสัย
          
          “แล้วนี่นายจะทำยังไงเรื่องพ่อแม่ ฉันว่าบางทีพวกท่านอาจจะไม่...ระ..”
          
          “หยุดพูดนะ!!! พวกท่านต้องรอดแน่
          ไม่มีทางตกเป็นเหยื่อของพวกสารเลวที่บางแผนบ้าๆนี่หรอก!!!”  
          
          “เอ่อ ใจเย็นก่อนนะ ชางมินถ้างั้นฉันก็จะช่วยนายอีกแรง” ซังกวานพูด
          
          “ไม่จำเป็น ลาล่ะนะฮะ ส่งแขก!!!”
          คำสุดท้ายชางมินกระแทกเสียงเรียกพ่อบ้านให้มาส่งแขก
          ถึงจะหัวเสียที่โดนชางมินทำอย่างนั้นแต่ว่าก็ต้องออกมา
          
          ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
          
          “เป็นยังไงบ้างไอยู” 
    ยุนโฮถามยูชอนที่เข้ามาตรวจอาการของร่างบางในวันรุ่งขึ้น
          
          “อืม อาการทั่วไปก็โอเคนะ ต้องรอฟื้นขึ้นมาอีกทีน่ะ คราวนี้ฉันจะได้เข็คดูว่าที่คนไข้มองไม่เห็น เพราะเพราะสาเหตุอะไร” 
          ยูชอนพูดออกมาแล้วมองหน้าร่างบาง
          
          “แล้วนี่นายจะเอายังไงต่อ” ยูชอนถามยุนโฮ ตาก็ยังคงจ้องที่ร่างบาง
          
          “ก็คงจะต้องรอจนกว่าเค้าจะตื่นล่ะมั้ง
          เพราะว่าเค้าเองก็ตาบอดแล้วก็ยังติดต่อญาติไม่ได้เลยนี่”
          
          “อืม” ยูชอนเพ่งพินิจมองหน้าร่างบาง สวยมาก ยิ่งมองก็ยิ่งชอบ
          
          “ยูชอนนายว่าเค้ามีโอกาสที่จะหายมั้ยวะ” ยุนโฮถามออกมาอีก
          
          “ถ้ากระจกตาไม่เสียก็มีโอกาส”  ยูชอนตอบออกมา
          
          เพราะว่าแจจุงไม่ยอมลืมตาให้ตรวจดีๆเลยยังไม่รุ้อาการที่แน่ชัด
          
          “งั้นเหรอ ถ้ากระจกตาเสียก็ต้องรอผู้บริจากใช่มะ” 
          
          “อืม”
          
          “......”
          
          “นี่ฉันไปก่อนนะ เด๋ยวต้องไปรับจุนซุน่ะ เห็นว่าวันนี้จะมา”
          
          “อืม”
          
          “ถ้าฟื้นแล้วก็เรียกละกัน”
          
          “ได้”
          
          +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
          
          “พี่ยูชอน!!!!!! มาช้าจังเลย”
          จุนซูพูดแล้วทำแก้มป่องเมื่อเห็นว่าคนที่สัญญาว่าจะมารับ...มาสาย....
          
          “ขอโทษๆๆๆพอดีว่าติดคนไข้อยู่น่ะ” สวยด้วยนะ...
          
          “ก็ได้ไปเร็ว ไปกินข้าวกันเถอะ” จุนซูพูดแล้วเดินเข้ามาควงแขนยูชอน
          
          “เอางั้นเหรอ วันนี้ ยุนโฮก็มานะ”
          ยูชอนพูดเพราะว่าถ้าเค้าไปเกิดแจจุงฟื้นขึ้นมาจะทำยังไง ใครจะดู
          
          “เหรอ ยุนโฮก็มาเหรอ ดีจัง งั้นไปชวนไปกินข้าวด้วยกันเถอะ !!!”
          จุนซูพูดออกมาอย่างร่าเริง
          
          “คง...ไม่สะดวกอ่ะจุนซู พี่ว่าเราไปกินกันสองคนเถอะ” ยูชอนพูด
          จะให้ยุนโฮทิ้งแจจุงมาได้ยังไง
          
          “งั้นเหรอฮะ งั้นก็ด้ายย งั้นเราไปกินข้าวร้าน yion กันนะ อยากไป”
          จุนซุพูดแล้วทำท่าจะลากยูชอนไป
          
          “เด๋วจุนซู พี่ว่าเราไปกินข้าวที่โรงอาหารเถอะเด๋วพี่ต้องดูคนไข้ต่อนะ
          กลัวไม่ทัน ไว้วันหลังนะ”  ยูชอนพูด
          
          “งั้นเหรอ ฮะ เสียดาย งั้นไปกินที่โรงอาหารเถอะ”
          จุนซูพูดแล้วเดินเขย่งขาสลับกับดันอย่างอารมณ์ดี
          
          “หึ” ยูชอนอดยิ้มกับภาพตรงหน้าไม่ได้ จุนซูน่ารักและอ่อนโยน
          ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
          
          ภายในห้องสีขาว ร่างบางที่นอนอยู่บนเตียง ค่อยๆลืมตาจึ้นมาทีล้ะน้อย
          ความเจ็บปวดที่ดวงตาและร่างกายปรี่เข้ามา ร่างบางจะขยับตัวแต่ว่า
          กลับขยับได้เพียงนิ้วเท่านั้น รู้สึกไม่มีแรง
          เมื่อรู้สึกถึงการขยับของร่างบาง
          ยุนโฮที่นอนฟุบอยู่ข้างๆก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ฃ
          
          “ฟื้นแล้วเหรอ”  เมื่อเห็นว่าร่างบางค่อยๆลืมตาขึ้นมา ยุนโฮก็ยิ้มออกมา
          
          “เดี๋ยวนายรอตรงนี้นะ อย่าเพิ่งไปไหนนะ รอตรงนี้ก่อน ทำให้ให้สบายนะ”
          ยุนโฮพูดแล้ววิ่งไปตามที่ยูชอนที่ห้อง
          
          “อ่าว ไม่อยู่เหรอ” ร่างสูงวิ่งกลับมาที่ห้องของแจจุงอีกครั้ง
          
          “นายรู้สึกเป็นยังไงบ้าง” ยุนโฮถามแจจุง แล้วเอาเก้าอี้มานั่งข้างๆ
          
          “ฉัน....เจ็บ” ร่างบางเปล่งเสียออกมา
          
          “เจ็บเหรอ”  ยุนโฮอึ้งไปกับเสียงหวานถึงแม้จะเบาแต่เค้าก็ได้ยิน
          
          นายทำฉันใจเต้นนะ....
          
          “อือ...แล้ว...ทำไม..ฉันมอง..ไม่เห็นอะไรเลยล่ะ” แจจุงถามออกมาอีก
          เค้าเองก็สงสัยว่าทำไมเค้าถึงมองไม่เห็นอะไรเลย
          
          “เอ่อ เพราะว่า
          ....เพราะ...เพราะอะไรฉันก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกันเด๋วรอถามหมอก่อนะ” 
          ยุนโฮเองก็พูดตะกุกตะกัก
          
          “หมอ? แล้วนายเป็นใครเหรอ” 
          ร่างบางเองถึงจะงงก็เถอะแต่ว่าก็รู้ได้ว่าตัวเองได้รับการช่วยเหลือจากชายตรงหน้านี่แน่
          
          “ฉันชื่อ จุงยุนโฮ”
          
          “ฉันเป็นอะไรไป”
          
          “นายอุบัติเหตุน่ะ รถคว่ำ” ยุนโฮพูดออกมา
          
          “แล้วนายชื่ออะไรนายพอจะจำได้มั้ย” ยุนโฮถามอีก
          
          “ฉันชื่อ.....ชื่อ....ฉันชื่ออะไร.....ฉันชื่ออะไร!!!ฉัน....ฉันไม่รู้!!!ไม่รู้...นายบอกฉันทีสิ
          ฉันเป็นใคร.....มาจากไหน...ฉันเป็นใคร!!!!โอ๊ยยย....อ๊ะ....โอ๊ยย!!!”
          
          “ใจเย็นก่อนนะ ใจเย็นก่อน!! หมอ!!หมอ!!!”
          ยุนโฮตะโกนเรียกส่วนตัวเองก็รีบเข้าไปล็อคร่างบางไว้
          สายระโยงรยางค์ต่างๆหลุดออกเกือบหมด แจจุงดิ้นจนสายน้ำเกลือหลุดออก
          แรงกระชากทำให้เลือดไหลออกมา
          
          “ใจเย็นสิ!”
          ยูชอนที่เพิ่งกินข้าวเสร็จก็เดินมาได้ยินเสียงเอ๊ะอะโวยวายเลยรีบวิ่งมาไม่สนใจจุนซู
          
          “เด๋วสิพี่ยูชอน”
          
          “ไอยุนแกช่วยฉันจับเค้าไว้แน่นนะ ต้องให้ยานอนหลับอีกแล้วเหรอ”
          ยูชอนพูดแล้วฉีดยานอนหลับให้ร่างบางที่ดิ้นอยู่
          เอ่ยถามตลอดว่าตัวเองเป็นใครแล้วก็ปวดหัว
          
          “น่าสงสารจริงๆ ถ้าเค้าต้องคิดถึงความทรงจำที่หายไป เค้าจะปวดหัวอย่างแรง
          และที่สำคัญเค้ามองไม่เห็นจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพราะงั้น
          นายอย่าเพิ่งถามอะไรเค้านะ ให้เค้าพักสัหน่อย คนป่วยมักจะขี้หงิดหงิดน่ะ”
          ยูชอนพูดออกมา ใบหน้าคมของยุนโฮเคร่งเครียดมาก เค้าสงสารร่างบางจับใจ
          เหมือนเด็กน้อยคนหนึ่งกำลังหลงทาง
          
          ...ฉันจะดูแลนายเองนะ!!....เค้าตัดสินใจแล้ว!!!
          
          “นายไม่ต้องห่วง ฉันจะดูแลเค้าเอง” ยุนโฮรับคำด้วยสายตาแน่วแน่

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×