ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เฮอร์ไมโอนี่+เดรโก=รักที่พูดไม่ได้

    ลำดับตอนที่ #2 : เฮอร์ไมโอนี่+เดรโก=รักที่พูดไม่ได้ บทที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 28 มิ.ย. 47


    บทที่ 2 ทะเลาะกัน(ไม่มีวันจบสิ้น)



    “ไงเกรนเจอร์” มัลฟอยพูดกับเฮอร์ไมโอนี่เมื่อรอนออกไปแล้ว

    เธอไม่ตอบแต่ยังคงมองออกไปนอกหน้าต่าง

    “เธอจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ”

    เธอก็ยังคงไม่ตอบอยู่ดี

    “เธอน่าจะขอโทษฉันหน่อยนะ”

    “ขอโทษเรื่องอะไร ฉันไปทำอะไรนายมิทราบ” เฮอร์ไมโอนี่สวนกลับทันที

    “ความจำดีนะเธอ” มัลฟอยพูดประชด “ก็ที่เธอว่าฉันเป็นคุณหนูอะไรนั่นไง”

    “อ๋อ...ไอ้คุณหนูไร้สมองพ่อรวยใช่มะ” เธอเน้นคำ “ไม่จำเป็นต้องขอโทษซักหน่อย”

    “ว่าไงนะ”

    “ยังมาถามอีก ฉันพูดความจริงมันผิดตรงไหน”

    มัลฟอยเริ่มโมโห เขาลุกขึ้นยืนชี้หน้าด่าเฮอร์ไมโอนี่ “ยัยเด็กสลัม ยัยเลือดเน่าสีโคลน!!!”

    เฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้นบ้าง “แก..ไอ้หัวเป็ด”

    “ยัยหงอนไก่”

    “ไอ้ถั่วเน่า!

    “ทำไมเธอถึงต้องหาเรื่องทะเลาะกับฉันอยู่เรื่อยเลย หา?” มัลฟอยพูดแล้วจับไหล่ทั้งสองข้างของเธอ

    เฮอร์ไมโอนี่บิดตัวเพื่อให้มือของมัลฟอยหลุด

    “ก็เพราะแกมัน..ว้าย!!”

    จู่ๆรถไฟก็โคลงเคลงกว่าที่เคยเป็น ทำให้เฮอร์ไมโอนี่หงายหลังลงไปนั่งบนเบาะตามมาติดๆด้วยมัลฟอย เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงทันทีเพราะมัลฟอยล้มลงมาทับตัวเธอ และหน้าของเขาก็อยู่ห่างจากหน้าของเธอไม่กี่นิ้ว เฮอร์ไมโอนี่ได้สติจึงผลักเขาออกไป มัลฟอยที่หน้าแดงไม่แพ้เธอจึงกลับไปนั่งที่ของตัวเองแล้วเอามือเท้าคางไว้อย่างเดิม แต่สายตาเขาไม่ได้มองออกไปข้างนอก

    “มองอะไร” เฮอร์ไมโอนี่ถามเมื่อเห็นมัลฟอยจ้องหน้าเธออยู่

    “ทำไมต้องหน้าแดงด้วยล่ะ” เขาถามยิ้มๆ

    “ใครหน้าแดงที่ไหนกัน” เฮอร์ไมโอนี่ปฏิเสธทั้งๆที่หน้ายังแดงอย่างเห็นได้ชัด “นายนั่นแหละที่หน้าแดงอย่างกับจะระเบิดอยู่แล้ว”

    “เกรนเจอร์ เมื่อกี้ฉันมองเธอใกล้ๆแล้วเธอน่ารักดีนะ” มัลฟอยพูด

    “นายตาถั่วลันเตาแน่นอน!!!”

    “เอ้า...ก็ยอมฟะ” เขาพูดแล้วหัวเราะหึๆอย่างเจ้าเล่ห์

    เวลาผ่านไปสิบห้านาทีเต็มๆที่มัลฟอยเอาแต่จ้องหน้าเฮอร์ไมโอนี่ ส่วนเธอก็ได้แต่เบือนหน้าหนีอย่างหงุดหงิด แต่มีสักสองสามครั้งที่เธอหันไปสบตาเขาแล้วก็หลบสายตา

    “นี่มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่พูดเมื่อเงียบไปนาน “นายช่วยออกไปข้างนอกได้มะ”

    “ออกไปทำไม”

    “ฉันจะเปลี่ยนเสื้อผ้าย่ะ”

    “แค่เนี้ย?? อายอารายว้า... เปลี่ยนๆไปเหอะน่าฉันไม่ถือหรอก”

    “มัลฟอย!!!” เธอจ้องหน้าเขาอย่างดุดัน

    “ก็ได้ๆ แค่ล้อเล่นยังมาทำจริงจัง” มัลฟอยบ่นแล้วเดินออกไป

    “ห้ามแอบดูเด็ดขาด!” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วปิดประตูดังปัง

    “ใครจะไปอยากดูวะ ราบเรียบอย่างกับไม้กระดานอย่างนั้น” มัลฟอยพึมพำ แต่เฮอร์ไมโอนี่ได้ยิน เธอเปิดประตูออกมาแล้วตบหน้าเขาไปฉาดใหญ่ แล้วกระแทกประตูปิดอีกที

    “อูย...เจ็บโว้ย!!” เขาตะโกนใส่ประตูเพื่อหวังให้เฮอร์ไมโอนี่ได้ยินแล้วยืนพิงประตูระหว่างที่เธอกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า มัลฟอยคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ทั้งเรื่องของเฮอร์ไมโอนี่ เรื่องรอนและแฮร์รี่ศัตรูของเขา แต่จู่ๆเขาก็นึกขึ้นมาได้เรื่องที่เห็นรอนกันเฮอร์ไมโอนี่จับมือกัน มัลฟอยรีบเปิดประตูอย่างรวดเร็วเพื่อถามเธอเรื่องนี้ แต่เขาลืมไปสนิทว่าเธอกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่

    “เกรนเจอร์ ฉันขอ....เหวอ!!!” เขาเห็นเฮอร์ไมโอนี่กำลังใส่เสื้อนักเรียนอยู่ เธอหันมามองเขาอย่างตกใจแล้วหน้าแดง มัลฟอยก็เช่นกัน

    “ไอ้บ้ามัลฟอย!!!!” เฮอร์ไมโอนี่ตะโกนลั่นแล้วถีบไปที่ท้องของมัลฟอยอย่างแรงจนเขาหงายหลังไปแล้วปิดประตู เสียงมัลฟอยล้มผสมกับเสียงตะโกนของเฮอร์ไมโอนี่เป็นที่สนใจของพรีเฟ็คบ้านเรเวนคลอกับฮัฟเฟิลพัฟมาก จนพวกนั้นชะเง้อคอออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น

    “มองอะไร!” เขาตะคอกใส่ พวกพรีเฟ็คบ้านอื่นเห็นว่าไม่มีอะไรน่าสนใจแล้วจึงเข้าไปในตู้ของตัวเองอย่างเดิม มัลฟอยจุกจนลุกไม่ไหว หน้าตาเหยเกด้วยความเจ็บปวด เฮอร์ไมโอนี่ซึ่งเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วเดินออกมาเพื่อเรียกให้เขาไปเปลี่ยนชุดบ้าง

    “นายเป็นอะไร” เฮอร์ไมโอนี่กระชากเสียง เธอยังโมโหที่เขาเปิดประตูเข้าไปตอนเธอเปลี่ยนเสื้อผ้า

    “ก็เธอน่ะแหละยัยงี่เง่า ถีบฉันซะจุกเลย อูย...”

    “จริงเหรอ” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างตกใจ เธอลืมความโกรธหมดสิ้นเมื่อเห็นสีหน้าที่เจ็บปวดของเขา “นายลุกไหวมั้ย”

    “โอ๊ย...สบายมากเลยล่ะ” มัลฟอยพูดประชด

    เฮอร์ไมโอนี่นั่งคุกเข่าข้างๆเขา “เอาแขนพาดไหล่ฉันสิ” เธอพูดอย่างเป็นห่วง

    “ไม่อ่ะ เดี๋ยวเธอหาว่าฉันแต๊ะอั๋งอีก”

    “ยังจะมาคิดเรื่องแบบนี้อยู่เหรอ ฉันจะช่วยนายนะยะ” เธอพูดไม่มีสุ้มเสียงของความเป็นห่วงเหลืออยู่เลย “เอาแขนมาพาดไหล่ฉันซะดีๆ รึจะลุกขึ้นเอง”

    มัลฟอยรู้ตัวว่าคงลุกเองไม่ไหวแน่ (ก็แรงถีบของเฮอร์ไมโอนี่มันธรรมดาซะที่ไหนล่ะ) จึงเอาแขนเขาไปพาดไหล่เธอแต่โดยดี แล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็ช่วยพยุงเขาลุกขึ้น ตอนนี้หน้าเขาอยู่ใกล้กับหน้าเธอมาก มัลฟอยจ้องหน้าเธออยู่นาน เมื่อเฮอร์ไมโอนี่รู้ตัวจึงรีบปล่อยมัลฟอยลงบนเบาะของเขาทันที

    “เจ็บนะ! ปล่อยให้มันนิ่มๆได้รึเปล่าเธอน่ะ” มัลฟอยบ่นแล้วทำหน้าเจ็บปวดรวดร้าวอย่างเสแสร้ง

    “นายรีบๆเปลี่ยนชุดได้แล้ว อีกสิบนาทีเราก็ต้องไปตรวจเวรแล้วล่ะ” เธอพูดแล้วหันหลังไปทางประตู แต่มัลฟอยจับข้อมือเธอไว้ก่อน เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงทันที

    “เกรนเจอร์ เธอเป็นแฟนกับวีสลีย์รึเปล่า” มัลฟอยถามแล้วจ้องตาเธอ เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าดวงตาสีซีดนั้นดูอบอุ่นมากกว่าที่จะเย็นชาเช่นเคย

    “ฉันจะเป็นแฟนกับใครแล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วสะบัดข้อมือเพื่อให้มัลฟอยปล่อยเธอ แต่เขากลับจับข้อมือเธอแน่นเข้าไปอีก

    “เธอยังไม่ตอบคำถามฉันนะ” เขาซักต่อ

    “ฉันไม่ได้เป็นแฟนกับเขา!”

    “แต่ฉันเห็นเธอกับมันจับมือกันนี่” มัลฟอยพูด ถ้าหูของเฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้หลอกเธอล่ะก็ เธอรู้สึกว่าเสียงของมัลฟอยดูเศร้าๆยังไงก็ไม่รู้

    “บ้าเหรอ! เราแค่เพื่อนกันย่ะ”

    “เธอรักมันรึเปล่า เกรนเจอร์” มัลฟอยยังถามไม่เลิก

    “มะ...ไม่รู้ ฉันไม่พูดแล้ว” เฮอร์ไมโอนี่แกะมือของมัลฟอยออก “นายรีบๆเปลี่ยนชุดเหอะ ฉันจะรออยู่ข้างนอกนะ” เธอเดินสะบัดออกไปข้างนอกแล้วปิดประตูดังปัง



    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



    ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่รอมัลฟอยเปลี่ยนชุดอยู่นั้น รอนก็วิ่งตึงตังมาหาเธอ เขาเซนิดหน่อยเพราะความโคลงเคลงของรถไฟ รอนยืนหอบอยู่ข้างๆเธอก่อนที่จะพูดว่า “ฮะ...เฮอ..ไม...โอนี่ มัลฟอย...ทำอะ..ไรเธอ รึป่าว”

    “ตาบ้านั่นเหรอจะกล้าทำอะไรฉัน” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วยิ้มให้รอน นี่เขาเป็นห่วงเธอมากขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย เธอไม่ได้พูดความจริงหรอก เพราะเธอรู้ว่าถ้าเธอบอกว่ามัลฟอยเปิดประตูตอนที่เธอเปลี่ยนชุดล่ะก็ รอนต้องไม่อยู่เฉยแน่ๆ “แล้วซูซานล่ะ เขาตรวจเวรกับเธอไม่ใช่เหรอ”

    พูดไม่ทันขาดคำ ซูซาน โบนส์เดินตึงตังมาอย่างรวดเร็ว มือกุมหน้าผากไว้

    “นี่นายเป็นบ้ารึไงวีสลีย์!!!” เธอแผดเสียง “พอหมดเวลาปุ๊บก็วิ่งมาปั๊บ ฉันก็คิดว่าเกิดเรื่องอะไรซะอีก นายวิ่งมาได้ยังไงถามจริงๆเหอะโคลงเคลงออกอย่างนี้น่ะ แล้วดูสิ ฉันวิ่งตามนายมาจนหกล้มเลย” เธอเอามือออกแล้วชี้ไปที่หน้าผาก เฮอร์ไมโอนี่เห็นว่ามันโนเป็นลูกมะนาว “นายนะ..โว้ย!!เจ็บชะมัดเลย”



    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



    “เฮอร์ไมโอนี่ ถ้ามันทำอะไรเธอเข้า รีบร้องให้ฉันช่วยเลยนะ” รอนกระซิบที่ข้างหูของเฮอร์ไมโอนี่เมื่อได้เวลาตรวจเวรของเธอกับมัลฟอยแล้ว

    “วีสลีย์!!!!นายมานี่เดี๋ยวนี้เลยนะ ฉันยังด่านายไม่จบที่ทำให้หัวของฉันเป็นแบบนี้” ซูซานตะโกนออกมาจากด้านใน

    “รู้แล้วโว้ย!!” รอนตะโกนกลับไปแล้วยิ้มให้เฮอร์ไมโอนี่หนึ่งทีก่อนจะเดินกลับไปข้างใน เฮอร์ไมโอนี่ได้ยินเสียงซูซานแผดเสียงทันที

    “จะไปรบรึไงเธอน่ะ” มัลฟอยถามขณะที่กำลังเดินไปตรวจเวร

    “หมายความว่าไง”

    “ก็เห็นออกมาให้กำลังใจกันจัง ฉันจะบอกให้รู้นะว่าเราแค่ไปตรวจเวรเฉยๆ ไม่ได้ไปกอบกู้ชาติ”

    “เรื่องของฉัน!!!” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างหงุดหงิด

    ทั้งสองคนเดินตรวจไปเรื่อยๆจนถึงช่วงต่อของรถไฟตู้หนึ่งกับอีกตู้หนึ่ง ระหว่างที่กำลังจะข้ามไปที่รถไฟอีกตู้หนึ่งนั้นเฮอร์ไมโอนี่เกิดทรงตัวไม่อยู่เพราะความโคลงเคลง เธอล้มหน้าคะมำลงไปแต่ดีที่มัลฟอยคว้าเอวเธอไว้ทัน

    “ขอบใจที่ช่วย” เธอพูดห้วนๆ “ปล่อยฉันได้แล้ว”

    “ทำไมล่ะ” มัลฟอยถามยิ้มๆ

    “ยังจะมาถามอีก ปล่อยช้าน....” เฮอร์ไมโอนี่ตะโกน

    “ก็ได้จ้ะ” เขาพูดแล้วปล่อยเอวเธอ

    “นายมาพูดจ๊ะจ๋ากับฉันทำไม”

    “อยากพูด”

    “ชึ่ย!! ประสาท” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำ



    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



    “เกรนเจอร์” มัลฟอยพูดขณะที่พวกเขากำลังเดินกลับไปที่ตู้พรีเฟ็คหลังจากเดินตรวจรถไฟทั้งขบวนแล้ว

    “อะไร”

    “ฉันขอถอนคำพูด”

    “คำพูดอะไรของนาย” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างสงสัย

    “ตอนที่ฉันเปิดประตูเข้าไปตอนที่เธอเปลี่ยนชุดน่ะ เธอหุ่นดีเกินคาดแฮะ ไม่ได้ราบเรียบอย่างที่คิดเลย” มัลฟอยหัวเราะหึๆ

    “อยากโดนถีบอีกใช่มะ” เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงด้วยความโกรธ(และอายด้วย)

    “เปล้า!!!”

    “งั้นหยุดพูดเรื่องนี้ได้แล้ว” เธอสั่ง

    “นี่เกรนเจอร์” มัลฟอยยังไม่หยุดพูด “เธอจะว่าอะไรไหมถ้าฉันจะ..”

    “จะอะไร” เฮอร์ไมโอนี่สวนขึ้นมาทันที

    “จะทำอย่างนี้ไง” มัลฟอยพูดแล้วก้มลงมาหอมแก้มเธอเบาๆและรวดเร็ว แล้วเขาก็เดินลิ่วๆไปยังตู้ของพรีเฟ็ค ปล่อยให้เฮอร์ไมโอนี่ยืนหน้าแดงอยู่คนเดียว

    “เขาจูบฉัน” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำ “เขาจูบฉัน..”

    เฮอร์ไมโอนี่ยืนตะลึงอยู่ซักพักแล้วก็ได้สติ

    “ไอ้บ้ามัลฟอย!!!!” เธอตะโกนลั่น “มาให้ฉันถีบซะดีๆ ไอ้คนฉวยโอกาส”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×