คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : #Convertฯ -MoonMaru
ขอบคุณที่เลือกใช้บริการนะคะ จะบอกว่าเป็นคนแรก แอบลำเอียง เลยทำให้เยอะเลยอะ 555 เอาล่ะเราจะไม่พูดพร่ำทำเพลง เดินเข้าประตูกันดีกว่า
สีน้ำเงิน คือความรู้สึกนะคะ ส่วนสีเลือดนก คือคำแนะนำนะ
ก่อนอื่น เราขอนอกเรื่องรีเควสสักหน่อย พอดีตอนที่เปิดอ่านเป็นตอนแรก Camillia 12 ค่ะ (ความจริงเราเคยอ่านอยู่สองสามบทก่อนจะดองไว้ล่ะ 555) อยากบอกสิ่งที่สัมผัสได้ในตอนนี้(ทั้ง ๆ ที่เรายังไม่ได้อ่านเรื่องราวก่อนหน้า) กับท่านมูนไว้ ไม่รู้ว่าตรงไม่ตรงอย่างไร เผื่อท่านมูนจะได้เอาไว้พิจารณาว่าเป็นไปตามที่ต้องการแล้ว หรือว่ายัง และจะเสริม เพิ่มเติม หรือขัดเกลาอะไรไหม นะ ^^
ก็คือ ตรงช่วงบน ๆ สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความหนักของอากาศรอบ ๆ ฉากเลยค่ะ ตามคำบรรยายที่ท่านมูนเลือกใช้ เราได้ความรู้สึกร่วมกับตัวละครเลยว่า ผ่านความเจ็บปวดมามาก อดทน และพยายามต่อสู้กับความทุกข์ทรมานจนถึงตอนนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายไม่ว่าจะเป็นการแก้แค้น เพื่อใครบางคน หรือเพื่อชีวิตที่ดีกว่า (หลัก ๆ ตัวละครบอกว่าสิ่งที่ดีกว่าสินะ~)
แล้วตรงนี้ก็ ทำให้เรารู้สึกเอ็นดูชามาลกับโจฮาริขึ้นมา คือ ถูกตัวละครดึงดูดให้รู้สึกเห็นอกเห็นใจและอยากติดตามชีวิตของพวกเขาต่อจากนี้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น และมีจุดจบอย่างไร (รู้สึกว่าโจฮาริเป็นไซโคพาธใช่ไหม แหะ ๆ เดาไว้ เดี๋ยวมาดูกัน 555)
ช่วงบน ๆ นี้โดยรวมแล้วสื่ออารมณ์และเนื้อหาออกมาได้ดีเลยทีเดียวค่ะ มีบางที่เท่านั้นที่ดูห้วน ๆ อยู่สักเล็กน้อย บางที่ที่แอบงงว่าประธานของประโยคคืออะไร แต่ก็มีน้อยมาก ๆ
ส่วนตามรูปด้านล่าง ตรงนี้เรามีความรู้สึกว่า คำเชื่อมประโยคหายไปหรือเปล่านะ หรือไม่ก็ประธานหายไป ทำให้ความต่อเนื่องขาดไปหน่อยนึงค่ะ จากที่ดูน่าจะเป็นประโยคแนวเหตุและผล อาจเป็น “เขาจึง” เพิ่มเติมไหมคะ
ส่วนตรง “ซึ่ง” เรารู้สึกว่าประโยคหลังค่อนข้างขัดแย้งกับประโยคหน้านะ ใช้คำว่าซึ่งเลยอ่านแล้วสะดุดไปสามวิ ต้องวนกลับไปอ่านประโยคหน้าใหม่อะ ว่า ว่าไงนะ 55
แล้วก็ตรง ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์กำลังประมวลผล ตกไม้หันอากาศไปตัวนึงค่ะ
เอาล่ะกลับเข้าเรื่องของเรากันดีกว่า
Camillia 13 (เนื้อหาต่อจากตอนที่ 12) ความรุนแรงของสิ่งที่ตัวละครพบเจอ (คาดว่าคือนาตาเลีย)
อย่างแรกขอบอกบรรยากาศที่ได้คร่าว ๆ ก่อนนะคะ (ไม่เข้าจุดโฟกัสซะที 555) โอเค ช่วงนี้ เป็นช่วงที่นางเอก (ใช่ไหมคะ 55 ) โดนจับมา แต่ว่าด้วยความคิดของนางและการวางตัวทำให้เรารู้สึกว่าบทนี้ไม่เครียดเท่าไรนัก
ซึ่งทันทีที่อ่านสองประโยคแรก เราสัมผัสได้ถึงผู้แพ้และผู้ชนะ ผลมาจากการแสดงออกของตัวละครที่คนหนึ่งกำลังถูกความคับแค้นกับความสะใจเข้าครอบงำ ส่วนอีกคนก็นิ่งปลงเหมือนไม่สนโลก ไม่สนใจตัวเองแล้วยังไงยังงั้น
อ่านต่อมาก็เกิดอดรู้สึกสมเพชเวทนานาตาเลียมิได้จะว่าสงสารก็ยังไม่น่าสงสารขนาดนั้น การบรรยายท่านมูนทำได้ดีคงที่อยู่กับคามิเลียตลอด นั่นก็จะทำให้เรายังเข้าแถวอยู่ข้างคามิเลียมาตลอดทั้งบทด้วย ฮา ๆ มาถึงด้านล่าง ตรงช่วง “คามิเลียไม่เคยสนใจคนอื่นนอกจากตัวเองจริง ๆ” กำลังอินได้ที่ ถ้าบอกน้ำเสียงนาตาเลียอีกหน่อยนี่เหมือนมีนางยืนอยู่ตรงหน้าเลย
แต่เราขอเดาก่อนว่า คามิเลีย คงเป็นชื่อเรียก หรือนามแฝงที่มีการเวียนกันใช้ หรือเป็นสัญลักษณ์จำเพาะเจาะจงกับคนแบบหนึ่ง (เหมือนโจฮาริ ถ้าอ้างอิงจากที่ชามาลเรียกด้านบน) เพราะเรารู้สึกว่าเวลาเรียกฝ่ายตรงข้ามไม่น่าใช้สรรพนามประมาณนี้ หากผิดพลาดประการใด ขออภัยนะคะ
ส่วนตอนท้ายบทนั้น
รู้สึกชะงักกับการเปลี่ยนสรรพนามที่นาตาเลียใช้เรียกลิลลี่นิดนึงค่ะ
ไม่รู้ว่าท่านมูนเคยใช้แนวนี้มากับบทก่อนหน้าหรือเปล่า แต่พอเปลี่ยนจาก เธอเป็น หล่อน
แล้วเป็นแก ใกล้ ๆ กันเลยมึนนิดหน่อย...อีกอย่างคือนาตาเลียโกรธตั้งแต่พูดคำว่าหล่อน
เราเลยสะดุดตอนที่กลับไปใช้ เธอ อีกรอบก่อนจะมา แก อะ
และรู้สึกว่านางเริ่มโรคจิตขึ้นมาในสองพารากราฟสุดท้าย -x-
เอาล่ะ แล้วเราก็จะมาถึงจุดโฟกัสกันเสียที แต่ช้าก่อน ในเมื่ออยู่ในหน้าเดียวกัน ขออณุญาตเพิ่มเติมก่อนนะคะ
-ตรงลิลลี่นึกปลง น่าจะเป็น ไร้ชีวิตและจิตใจ ไหมคะ ต่อมา
ในกรอบสีน้ำเงินคือตอบรับกับพารากราฟบนถูกต้องไหมคะ (ที่ชี้) รู้สึกว่ามันห่างกันมากไปหน่อยอะ ทำให้อารมณ์ขาดช่วง ไปจมกับคามิเลียก่อน แล้วพอนาตาเลียบอกว่าสามหาว เราเลย ฮะ อะไรสามหาว? ทำให้ต้องกลับไปอ่านข้างบนใหม่อะค่ะ อีกอย่างหนึ่งคือ เราคิดว่ากรอบน้ำเงิน กับพารากราฟข้างล่างค่อนข้างคนละอารมณ์พอสมควร หากมีอะไรมาคั่นกลางก็ไม่น่ามีปัญหาดังนั้น อาจแก้ได้โดยการย้ายที่กรอบน้ำเงิน แล้วเพิ่มประโยคหรือคำเชื่อม อาจจะสมูตมากขึ้น นะ
ส่วนอันนี้แถมนิดนึงนะคะ
ตรงนี้เราเดาว่า คามิเลียเป็นคนพูดทั้งประโยคที่ชี้ และประโยคก่อนหน้าเลย ซึ่งรูปแบบการพิมพ์ให้อ่านง่ายคือ ไม่ต้องปิด ” ในประโยคบน แต่เปิด “” ได้เลยที่ประโยคล่างค่ะ เพราะตรงนี้เราก็กลับไปย้อนหาเหมือนกันว่า เอ ใครพูดหว่า
ตัวอย่าง
เธอหันมาแล้วพูดกับเขาว่า "กด่าหสว่ดากสหวเสกหว่องหนร่าส ยาว ๆ ต่อไปสองสามบรรทัดยาวต่อไป พูดต่อไปไม่ต้องจบ พูด ๆ ๆ่าดไำรี อาสวหยฟเีกหร่เาสหก่ดาสกหว
"ยังพูดต่อไปพูด ๆ ๆ จนจบ" เธอยิ้ม
Focus Point ความรุนแรงที่ตัวละครพบเจอ มาล้าววว จุดหลัก
เปิดมาถึง Camillia 13 ตอนนี้รู้สึกสงสารขึ้นมาบ้างแล้วค่ะ แต่ยังไม่มากเท่าไร มาดูกันว่าเพราะอะไร
สิ่งที่ได้จากที่นาตาเลียพูด
-ต้องเป็นนอมินีให้น้องชาย ผู้ซึ่งเห็นพี่สาวเป็นแค่ของกินเพิ่มพลังเวท (=[]=)
-ถูกเหยียบย่ำทำลายความคาดหวังว่าพี่น้องน่าจะพึ่งพากันและกัน
-อยู่ในสังคมที่ขี้ขลาดและเห็นแก่ตัว
-ถูกครอบครัวดูถูก ไม่ได้รับความรัก แบ่งชนชั้น และหลอกใช้
-ต้องรับรู้ความทรมาน และโดนทรมานต่อหน้าสิ่งที่เรียกว่าครอบครัว โดยไม่มีใครปกป้อง และ ไม่ต้องการที่จะปกป้อง (ถือเป็นจุดที่ทำให้เด็กใจสลายได้เลยนะเนี่ย)
เหตุการณ์ทั้งหมดนับว่าท่านมูนเซ็ตติ้งมาได้ดีเลยค่ะ ซึ่งพอคิดดูว่าต้องเก็บงำตัวตนเอาไว้ (ไม่รู้นานเท่าไร) กว่าจะได้ออกลายอย่างประสาทเสียตอนที่ทำกับลิลลี่ นาตาเลียคงอัดอั้นตันใจน่าดู และนับว่าเป็นคนที่ควบคุมตัวเองได้ดีมาก ๆ ด้วย ดูจากสิ่งที่เจอมาแล้วถ้าเป็นเราคงแหลกสลายกลายเป็นบ้าหรือไม่ก็ฆ่าล้างเผาบ้านตัวเองเรียบร้อย
แต่ถ้าไม่ได้วิเคราะห์ดูจริง ๆ จัง ๆ แล้วอ่านผ่านไปเฉย ๆ ล่ะก็ ช่วงนี้ที่เราอ่าน เรารู้สึกว่ามันผ่านไปอย่างรวดเร็วจนอารมณ์ร่วมลดลงไปด้วยอะ ความจริงแล้วเนื่องจากเป็นการเล่าเรื่องก็สมควรจะผ่านไปเร็ว ไม่ได้มีข้อบกพร่องอันใด แต่เรารู้สึกว่าท่านมูนอาจจะพยายามสรุปเรื่องมากไปหน่อยนึงนะ
นาตาเลียจึงดูเล่าเรื่องเหมือนสอบพูดอยู่บางช่วง ฮา ๆ
อยากให้ท่านมูนเขียนสิ่งที่วางไว้แล้วเพิ่มขึ้น
โชว์มันออกมามากกว่านี้อุตส่าห์คิดไว้ทั้งที เช่นเพิ่มเติมให้เห็นชัด ๆ
ว่านาตาเลียฝังใจหรือโกรธแค้นอะไรเป็นพิเศษ อาจใส่คำบรรยายเพิ่ม ประชดเพิ่ม
แดกดันเพิ่ม หรือเพิ่มคำบรรยายสีหน้า ท่าทาง อาจจะทำให้อินและเข้าถึงตัวละครมากขึ้นนะ
ขอยกตัวอย่างอันนี้ก่อนแล้วกันค่ะ
สีฟ้าคือตรงที่เรามีอารมณ์ร่วมด้วยว่าน้องชาย (แม่XXXXX) แล้วก็รู้สึกเดือดดาลไปพร้อมนาตาเลีย ตระกูลนี้มันบ้าก็ด้วย สัมผัสได้ว่ามันคือความรู้สึกของนาตาเลียที่ออกมาจากใจ แต่ตรงสีแดงคือเราแอบสะดุดอยู่เหมือนอารมณ์เปลี่ยนไปหน่อยอะ ฉันจึงคิดว่าเหมือนมันหายโกรธแล้วเลย ถ้าจะประชดอีกหน่อย แนว ๆ ก็เพราะมันเป็นยังงี้ฉันเลยต้องหาทางรอดจากบ้านบ้า ๆ ก่อนที่พวกมันจะได้มีโอกาสฆ่าฉันไงล่ะ หรืออย่างอื่น บลา ๆ ที่มันดูรุนแรงเท่าข้างบนอะ เพราะว่าข้างล่างเห็นเหนื่อยหอบด้วย ก็น่าจะยังไม่ซอฟท์ลงนะ /นี่ไปเปลี่ยนนิยายเขาด้วยเว้ย
ส่วนพารากราฟก่อนหน้าก็อยากให้ใช้แนวทางคล้าย ๆ กันนะคะ
ตรงนี้งงนิดหน่อยค่ะ จริง ๆ ก็เข้าใจแหละ เหมือนประโยคจะมีความขัดแย้งกันแต่มันก็ไปในทางเดียวกันด้วยนะ คือ บอกว่าน้องชายต้องเจริญ1 แต่สนับสนุนพี่สาวให้เป็นผู้นำ2 แต่เป็นแค่ฉากหน้า3 สรุปว่า 1 กับ 3 เหมือนจะไปด้วยกันได้ พอเติมคำเชื่อมว่า “แค่” ทำให้ 2 กับ 3 เป็นประโยคเดียวกัน คำว่า “แต่” หน้า ประโยคที่ 2 เลยทำให้ 2+3 ควรจขัดแย้งกับ 1แต่จริง ๆ แล้วในนั้นมี 3 ที่ไปกับ 1 ได้อยู่ ทำให้เราสะดุดอะ (หรือเราคิดมากไป?555)
ส่วนตรงนี้ เธอตะคอก แต่เราคาดว่าน่าจะเป็นคำขยายของพารากราฟก่อนหน้าหรือเปล่าคะ เพราะว่าดูแดกดัน และมีเครื่องหมายตกใจ ส่วนตรง “ถึงฉันจะพิสูจน์...” เป็นต้นไป คล้าย ๆ กับตัดพ้อ ทำให้มันไม่ต่อเนื่องเท่าไรนัก ลองดูนะคะ
เย้ จบภารกิจแรกแล้ว (เราอ่านทั้งบทแล้วล่ะ) หวังว่าน่าจะได้ประโยชน์กับท่านมูนสักทางนะคะ TUT แต่ในวันนี้จะขอหยุดการวิจารณ์เอาไว้ ณ ที่ตรงนี้
แล้วจะกลับมาพร้อมโจทย์ข้อถัดไปในภายภาคหน้านะคะ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Shamal 03 ความรุนแรงของสิ่งที่ตัวละครพบเจอ
มาต่อล้าว~ โอเค และเช่นเคย จะขอเริ่มต้นด้วยบรรยากาศที่เราได้เมื่อเข้าไปสัมผัสกับบทนี้ก่อนนะคะ
เปิดมาเราก็ได้ยินเสียงของชามาลอย่างเนิบ ๆ รู้สึกว่าชามาลเป็นคนจริงจัง ช่วงกลาง ๆ และหลัง ๆ ก็รู้สึกสงสารอยู่บ้าง แล้วก็ได้กลิ่นอายแห่งความเหนื่อยล้าอย่างไรชอบกล แต่ที่ชัดเจนกับตัวเองเลยก็คือว่า เอนกิ น่ารังเกียจจัง (5555) บทนี้ก็อีกเช่นเคย ท่านมูนเขียนสื่อสารกับคนอ่านได้ดีพอสมควร อ่านลื่นไม่สะดุดมากนัก แต่สำหรับเรามีหลายจุดที่รูปประโยคยังงง ๆ อยู่ และคิดว่าถ้าปรับแต่งอีกนิดหน่อยต้องดีงามมากแน่ ๆ
คราวนี้ เรามาเข้าประเด็นอย่างรวดเร็วเลยดีกว่า เรื่องความรุนแรงของสิ่งที่ตัวละครพบเจอ ซึ่งหลังจากอ่านเราก็ได้ความมาว่า
-อยู่ดี ๆ โดนอัดไปหนึ่งกำปั้นเอาซะช้ำถึงข้างใน ไร้เหตุผลสิ้นดีเลยจริง ๆ
-น้องสาวก็โดนเล่นงานไปก่อนหน้านั้นอีก
-แต่พอพูดถึงที่บ้านแบบนั้นก็ทำให้พออ่านแล้วรู้สึกว่าชามาลต้องมีภูมิคุ้มกันกับสิ่งที่เอนกิทำแน่ ๆ เลย
-นอกนั้นก็เรื่องที่สมควรจะเกิดต่ออย่าง การตามจองเวรจองกรรมของเอนกิก็มีบอกในบทนี้ด้วย
โดยสรุปแล้ว เราคิดว่าความรุนแรงประมาณนี้ก็แสดงให้เห็นจุดศูนย์รวมของอำนาจในโรงเรียนและความดาร์กได้ดี ไม่ได้รุนแรงมากจนเกินเยียวยา แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่สมควรจะเป็น ก็เลยถือว่าอยู่ในระดับกลาง ๆ เหมือนบอกคนอ่านว่าหลังจากนี้ต้องมีปมและความสนุกสนาน (เหรอ?) ต่ออีกแน่นอน ค่ะ
งั้นมาดูกันหน่อยว่า อะไรที่เราเองอ่านแล้วรู้สึกมึน ๆ บ้าง จะแนะนำไว้ให้พิจารณานะคะ เราจะลงรูปก่อนแล้วจะตามมาด้วยข้อความที่แนะนำ หรือความรู้สึกที่คิดว่าควรจะได้ หรือเราดันได้อย่างอื่นไป... (ฮา)
ตามเส้นแดงเราอ่านแล้วได้ความว่า "ผมคงไม่จำชื่อเขา ยกเว้นว่าเขาได้ทำกับผมมากเพียงใด" อะ เหมือนกับ มันดูเป็นเงื่อนไขมากกว่าเป็นเหตุเป็นผลอะ แล้วก็ให้กลิ่นอาย positive ยังไงชอบกล แต่จริง ๆ ท่านมูนน่าจะหมายความว่า "ผมคงไม่จำชื่อเขา ถ้าไม่ใช่เพราะเขาได้กระทำ" ใช่ไหมคะ
ต่อมารู้สึกว่าเหมือนประโยคยังไม่เต็มเลย เข้าหาให้อารมณ์ เข้าหาผู้ใหญ่ หันหน้าหา ขยับหา เลยคิดว่ากับ "ความเร็วผิดมนุษย์" มันไม่ค่อยเข้ากันเท่าไรอะ อาจใส่ พุ่ง วิ่ง แวบ หรืออะไรเพิ่มเติมดีไหมคะ
ส่วนอันนี้ "โดย" ก็ไม่มีปัญหาค่ะ แต่ถ้าลองเปลี่ยนเป็นขัดแย้ง เช่น ทั้งที ฯลฯ อาจจะให้อารมณ์รุนแรงกว่าไหมหว่า
เอนกิแทนตัวเองว่าผมที่เดียวแล้วข้างล่างเป็นฉันหมดเลย หมายถึงว่า ทักทายครั้งแรก ใช้ผมก่อนหรือเปล่าอะ ถ้าไม่ใช่อยากให้ใช้ให้เหมือนกันหมดเลยน่ะค่ะ
ต่อไป ในกรอบสีฟ้า เรารู้สึกว่าน่าจะเข้าท่ามากกว่าถ้าย้ายไปไว้ข้างบน ซึ่งต่อเนื่องกับช่วงที่น้องสาวถูกพูดถึงอะ เพราะว่าถ้าอธิบายต่อเนื่องโดยฉับพลันแล้วจะได้ความรู้สึกตกใจมากกว่านะ จากนั้นชามาลค่อยบ่นต่อ อาจจะต้องแก้คำเชื่อมพารากราฟหรือข้อความอีกนิด ๆ หน่อย ๆ ลองดูนะคะ
ตรงนี้ยังไม่เห็นชามาลแสดงท่าทางอะไรเลย เลยรู้สึกสะดุดนิดหน่อยว่าให้เก็บอารมณ์ไหนอะ
ส่วนเส้นเขียวนี้ คำว่า "จึง" น่าจะเชื่อมเหตุผลของบางสิ่งแต่ตรงนี้ดูท่าทางแล้วไม่น่าจะใช่เหตุผลเลยหรือเปล่าคะ ตัดออกไปเฉย ๆ ก็น่าจะโอเคนะคะ
ตรงนี้เรียกว่าไม่ได้ผิดอันใด แต่เราอ่านแล้วแอบรู้สึกเหมือนประธานหายไป อย่างเช่น อาการ บาดแผล หรืออะไรประมาณนี้น่ะค่ะ ทำให้ต้องหยุดคิดไปแวบหนึ่งว่า ครั้งนี้คืออะไรหนอ 555
เอ หาเรื่องใส่ตัวกับน้อง ลองสลับเป็นประธานอยู่รวมกันข้างหน้าให้หมดจะเข้าใจง่ายกว่าไหมอะ ผมกับน้องได้หาเรื่องใส่ตัว อะไรประมาณนี้ -x-
จริง ๆ แล้วอาจจะไม่ต้องมีคำว่า ได้ ก็ได้นะคะ อ่านแล้วเรารู้สึกเหมือน ต้องมีคนอนุญาตให้ชามาลกลับบ้านมากกว่าอะ 555 แบบ ได้รับ ในที่สุดก็ได้แล้ว อะไรแบบนี้ แต่ตรงนี้ไม่น่าจะใช้ ได้ แบบนั้นแฮะ
เย่ เสร็จอีกหนึ่งรีเควส อาจจะดูจู้จี้จุกจิกไปหน่อย จริง ๆ ก็แน่นอนว่าความรู้สึกของคนอ่านแต่ละคนไม่เหมือนกัน อันไหนที่ไม่ได้มีปัญหาร้ายแรงก็ไม่ต้องสนใจก็ได้นะคะ ฮา ๆ แล้วเราก็ทำไปอู้ไปเลยช้าหน่อย แฮะ ๆ เป็นคนสมาธิสั้นอะ 5555 เอาล่ะคิดว่าน่าจะถึงสามพันตัวอักษรนะ จะได้ได้แจ้งเตือน อิอิ เจอกันครั้งหน้านะคะ คิดว่าคงจะสั้นลงเรื่อย ๆ ค่ะ กลัวแนะนำซ้ำซากแล้วจะน่าเบื่อซะก่อน ~
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Camillia 01 ความสะเทือนอารมณ์
ต้องกราบขออภัยจริง ๆ เลยค่ะ ชีวิตวุ่นวาย + พอไม่วุ่นวายก็ไม่มีอารมณ์ทำอะไร เลยทิ้งเอาไว้ครึ่งปีเลยสิเนี่ย! จริง ๆ เราอ่านคอนเวิร์ดอยู่น้า แต่ไม่ได้อ่านละเอียดพอจะกล้าเอามาวิจารณ์ได้ T^T ตอนนี้กลับมาอ่านอีกรอบค่ะ ตามรีเควส 555+ ยอดวิวที่เพิ่มมาก็เราเอง~ T T
โอเค เข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ บทนี้เราจะติ๊ต่างว่าเป็นคนที่เพิ่งเปิดมาอ่านครั้งแรกไม่เคยอ่านมาก่อน (จะเชื่อใจตัวเองได้ไหมนะ -x-) พออ่านช่วงแรก แล้วไหลลื่นเหมือนฟังเรื่องเล่าดีค่ะ ชื่อนครก็เข้ากับบรรยากาศเรื่อง ให้กลิ่นอายขุ่นมัวชอบกล รู้สึกเหมือนเรื่องกำลังจะเนินในยุคที่มีเทคโนโลยีแบบไซไฟอะไรประมาณนี้ค่ะ (นึกถึงเรื่องเบลดรันเนอร์ง่ะ ไม่รู้ท่านมูนได้ดูไหม) ต่อมาก็รู้จักครอบครัวของคามิลเลีย เห็นคอนฟลิคตรงความรักของคุณพ่อคุณแม่ แล้วก็หลายคีย์เวิร์ดในบทนี้ก็คล้ายกับปริศนาชวนให้อยากรู้ว่าทำไมปีศาจรักมนุษย์ไม่ได้ ทำไมคุณพ่อถึงจะเสียความเป็นมนุษย์ไป แล้วอะไรทำให้เขาเสีย และจากนั้นชีวิตขิงคามิลเลียในฐาน ลิลลี่ บอทิสจะเป็นอย่างไร~
ส่วนเรื่องความสะเทือนอารมณ์ เราคิดว่า บทนี้นักอ่านน่าจะยังไม่สะเทือนเท่าไรนะคะ แต่ไม่ใช่เพราะท่านมูนเขียนไม่ดี เราคิดว่าน่าจะเป็นเพราะ คนอ่านยังไม่รู้จักเด็ก ๆ ของท่านมูนเท่าไรนักมากกว่า ^^’ ดังนั้นบทแรก ๆ แบบ ๆ นี้ เราคิดว่า ยังไม่ต้องโฟกัสเรื่องสะเทือนอารมณ์ก็ได้ค่ะ อาจจะโฟกัสเรื่องการให้ข้อมูลกับนักอ่านให้เขารู้จักเด็ก ๆ ของท่านมูน ซึ่งเราก็คิดว่าท่านมูนทำได้ดีแล้ว >< ยังมีตอนท้าย ๆ ที่แอบรู้สึกรวบรัดและเร็วกว่าช่วง ๆ บน ๆ ไปหน่อย บวกกับ ไปกับคุณพ่อ 7 วันแอบรู้สึกว่ามันเร็วมากเลยแฮะ ที่หนูคามิลเลียจะรู้สึกผูกพันเร็วมากขนาดนั้น (ในความคิดเราเองคิดว่าเป็นไปได้นะที่จะผูกพัน แต่อยากให้ท่านมูนบรรยายเพิ่มเติมนิดหน่อยน่าจะดีค่ะ เกี่ยวกับว่าแบบ ผ่านเหตุการณ์อะไรมาพิเศษหน่อยถึงได้ผูกพันหรือ คุณพ่อมีอะไรพิเศษที่ทำให้หนูคามิลฯ สนิทสนมได้รวดเร็ว เพราะเราแอบรู้สึกย้อนแย้งตรงที่พออ่านแล้วกลับคิดว่าคามิลฯ ไม่ผูกพันกับคุณแม่แฮะ)
แล้ว ๆ ก็อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เรายังไม่ค่อยรู้สึกว่ามันสะเทือนอารมณ์เท่าไรนักก็คือ มุมกล้องของตอนโฟกัสอยู่ที่คามิลเลียซึ่งตอนนั้นยังเป็นปีศาจไร้ความรู้สึกอยู่ ประโยคของนางค่อนข้างออกแนวเฉยเมยกึ่ง ๆ ประชดประชัน ก็เลยไม่ค่อยสะเทือนเท่าไรอะ อย่างไรก็ตาม เราคิดว่าท่านมูนให้ข้อมูลประมาณนี้ก็กำลังดีกับบทแรกนะคะ ยังไม่น่าจะต้องคิดมากเรื่องความอิน
บทนี้เราขออนุญาตไม่ตัดจุดที่เรารู้สึกแปลก ๆ มานะคะ (ง่วงมากเลยT^T) แต่อยากแนะนำนิดหน่อยในฐานะนักอ่านตาเหลือง ๆ เอ้ยตาดำ ๆ หนึ่งคน ตรงบทพูดของคุณแม่ดูมีเอกลักษณ์มากเลยค่ะ 55+ บางทีตอนอ่านจึงเกิดอาการ คุณแม่พูดอะไรนะ หลายรอบเลย นอกนั้นอยากแนะนำเรื่องใช้คำซ้ำนิดหน่อยค่ะ ในย่อหน้าหนึ่งเจอคำเดียวกันใกล้ ๆ กันอยากให้ลองเปลี่ยนดูค่ะ ส่วนตอนล่าง ๆ แถว ๆ กระดิ่ง เขียนดี ชอบมากเลย >< <3
เอาล่ะบทต่อไป!!
Camillia 01 ความสะเทือนอารมณ์
แฮร่ อ่านถึงบทนี้พอดี ๆ คามิลเลียได้เจอคุณพ่อแล้วอย่างเจ็บปวด T T รู้สึกใจหวิว ๆ ตอนอ่านเลยค่ะ สงสารหนูคามิลเลีย และได้อารมณ์กังขาเกรกว่าคิดอะไรอยู่กันแน่ มีปริศนาเยอะแยะ
เราคิดว่าท่านมูนทำบทสนทนาได้ใช้ได้เลย แต่อยากให้เพิ่มนิดหน่อยเรื่องสภาพแวดล้อมอาจจะดีก็ได้(มั้ง)อะ ตอนอ่านรู้สึกได้เลยว่าคามิลเลียต้องการอยู่กับคุณพ่อมากแค่ไหน (แต่เราแอบสงสัยว่าอยู่ต่อหน้าฝูงชนหรืออยู่ตรงไหนของอาคาร ทำไมถึงตะโกนใส่กันได้โดยไม่มีใครสนใจ ไม่เป็นอะไรจริง ๆ เหรอ 555+) รู้สึกสงสารคามิลเลียจริง ๆ เลยค่ะ
ส่วนช่วงล่าง ๆ ตอนคามิลฯบอกว่าแค่เสี้ยวของทรัพย์สินทั้งหมดนี่เราแอบทำตาโตเหมือนกัน ขอบ้างได้ไหม ขอสักเสี้ยวเอ้ย 555
โดยสรุป ๆ แล้วเราแอบงงนิดหน่อยว่าโอนตังให้แล้วคามิเลียจะได้พลังอะไรมาเหรอ T^T เราอ่านแล้วยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องของพลังในโลกของท่านมูนมากนัก อาจจะต้องรออ่านต่อไป~ ตรงนี้ก็เป็นจุดสะกิดอารมณ์นักอ่านนิดหน่อยค่ะ จะรู้สึกแบบ เอ๊ะ อะไรหว่า ประมาณนั้น แล้วตาชามาลนี่ก็ทำอะไรตามใจเสียจริง 555+
ต่อมาเรื่องภาษา ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็มีคล้ายบทที่แล้วค่ะ แบบบางทีเจอ “แล้ว” ติดกันสองที่บ้าง หรือคำอื่นนิดหน่อย ไม่ใช่ปัญหามากนักแค่ช่วยเพิ่มความสละสลวย ฮา ๆ
วันนี้แค่นี้ก่อนนะคะ T^T อากาศดีเราจะกลับมา!! 5555+
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็น