ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คุณชายสายเถื่อน (E-Book)

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่๑ การเจอกันที่ไม่น่าประทับใจ

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.ย. 60


    หนุ่มหล่อคนหนึ่งกำลังเติมพริกน้ำปลาใส่ชามก๋วยเตี๋ยวหลายช้อนจนหญิงชราตาเหลือก

    “ชายทัพ! เยอะไปแล้วลูก!”

    คำแก้ว หญิงสูงวัยประมาณเจ็ดสิบกว่าปีเบิกตากว้างมองหลานชายคนเดียวด้วยความตกใจ ก็จะไม่ตกใจได้ยังไง ทยาทัพเล่นกินแต่ของไม่มีประโยชน์ ไม่ว่าจะของรสจัด มันเค็ม น้ำอัดลม ขนมนมเนย แล้วยังไม่ได้กินแบบคนปกติที่วันละชิ้นสองชิ้น แต่เขาเล่นกินเหมือนผลาญแบบนี้

    “ผมจะกินน่า คุณย่าจะมาห้ามผม”

    “ย่าก็ไม่ได้ห้าม แต่นี่มันเยอะไป”

    “เงินทองเราก็มี ให้ผมเหมาน้ำอัดลมวันละตัน เรายังมีใช้ยันถึงลูกหลานเหลนโหลน”

    “มันไม่ใช่เรื่องเงิน มันเป็นเรื่องสุขภาพ”

    “ผมก็ยังแข็งแรง ยังหล่ออยู่นะครับคุณย่า ไม่ได้เป็นพวกผอมขี้โรค อ้วนลงพุงสักหน่อย” 

    ทยาทัพไม่ได้โกหกแต่อย่างใด เขาเป็นผู้ชายที่ได้ชื่อว่าหล่อลาก หน้าตาแบบหลุดออกมาจากซีรี่ส์เกาหลี ผิวขาวใส สูงโปร่ง มัดกล้ามไม่มากไม่น้อยจนเกินไป หน้าเรียวโกนหนวดเกลี้ยงเกลา ดวงตาเรียวรีมีเสน่ห์ ผมสีน้ำตาลเข้มจัดเป็นทรงยุ่งๆ แต่กลับดูน่ามอง ยิ่งปากสีแดงระเรื่อนั้นใครเห็นก็ว่าน่าจูบ

    “ชาย...”

    คำแก้วเอ็ดอย่างอ่อนใจ สักพักโทรศัพท์ก็เข้ามา

    กริ๊งงงงง

    “ฮัลโหล พี่พีท” เสียงทุ้มทักทายปลายสาย ขจรเดช เพื่อนที่รู้จักกันคงโทรศัพท์มาชวนไปเที่ยวที่ไหนสักแห่ง เพราะขจรเดชได้ชื่อว่าเสือตัวพ่อ ทั้งหล่อทั้งคารมดี ไปที่ไหนสาวก็มาติดกันตรึม ต่างจากเขาที่แม้จะหล่อเหมือนกันแต่สาวก็เข้าใกล้ได้แค่ไม่กี่นาที เขาก็ไล่ตะเพิดจนหนีไปหมด

    “ว่างไหมวะไอ้ทัพ?

    “ว่างๆ”

    “ว่าจะชวนแกไปผับเดบิโต้ ได้ข่าวว่าสาวที่นั่นเด็ดว่ะ”

    “ไปดิวะ”

    “ถ้าไปฉันจองเลยนะ”

    “เออ จองเลย หวังว่าพี่จะมีสาวสวยมานั่งข้างๆ นะพี่ อย่าให้ผิดหวัง อ่อ แล้วอย่าลืมล่ะ ไอ้พวกที่เอาแต่อ่อย เอะอะเปิดนม เอะอะเปิดตูด ผมไม่เอานะ น่ารำคาญ จะกินทั้งทีต้องมีชั้นเชิงหน่อย พวกที่บีบน้ำตาดราม่าหมาที่บ้านตายนี่เอาไปไกลๆ” ทยาทัพสั่งรัวเป็นชุด ขจรเดชหัวเราะ

    “แกนี่เรื่องมากเหมือนเดิมเลยนะไอ้ทัพ ฉันเห็นฉันพาสาวมากี่คน แกก็ไม่เคยหิ้วกลับบ้านสักคน เดือดร้อนฉันนะเนี่ย ที่ต้องหิ้วทีละหลายๆ คน”

    “พี่ก็รู้ว่าผมมีสาวที่ชอบอยู่แล้ว กับคนอื่นผมก็ดูเป็นอาหารตาเท่านั้นแหละ”

    ชายหนุ่มพูดตรงๆ เขาก็ไม่ได้มองว่าเขาผิดตรงไหน เขาแค่แอบชอบสาวสวยข้างบ้าน จะผู้หญิงคนไหนก็จืดเป็นน้ำเปล่าไปหมดถ้าเทียบกับลิลัว แต่เพราะเธอยังไม่ตอบรับรักเขาทำให้เขาก็มีสิทธิ์ที่จะมองๆ สาวคนอื่นบ้าง แต่ก็ไม่ได้คิดที่จะจริงจังหรือไปมีอะไรกับผู้หญิงพวกนั้น ถึงอย่างไรก็ตาม เขาตั้งใจไว้แล้วว่าถ้าเธอคบกับเขาเมื่อไร ชายหนุ่มจะเลิกนิสัยมองผู้หญิงให้หมด ต่อให้มาแก้ผ้าต่อหน้าก็จะเมินเสีย

    “ฉันขอให้แกจีบลิลัวสำเร็จแล้วกัน”

    ขจรเดชหัวเราะ เอาเข้าจริงเพื่อนเขาหล่อจะตาย มาตกม้าตายตรงที่นิสัยร้ายกาจอย่างรุนแรง ถ้าสุภาพ ใจเย็น เป็นมนุษย์ปกติกว่านี้ ขี้คร้านป่านนี้จะลูกสามแล้วมั้ง

    “ขอบคุณมากพี่ ผมไปแต่งตัวก่อนแล้ว”

    “เจอกันว่ะ”

    พอขจรเดชวางสายไป ทยาทัพก็ลุกขึ้นเต็มความสูง หยิบเสื้อผ้าออกมาเปลี่ยน คำแก้วรั้งอย่างเป็นห่วงหลาน ไอ้เรื่องเงินทองไม่ใช่ปัญหาสำหรับตระกูลอัครศิริประเสริฐ แต่เป็นปัญหาสุขภาพระยะยาวที่เกิดจากการกินของไม่ถูกหลักโภชนา ทำให้อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้

    “จะไปผับอีกแล้วเหรอ?”

    “ครับ คุณย่า”

    “กินแต่เหล้า เดี๋ยวก็ตายหรอก”

    “ไม่ต้องห่วงนะครับคุณย่า ผมจะไม่ดื่มเยอะ”

    คำแก้วอ่อนใจ เธอไม่น่าตามใจหลานชายคนเดียวขนาดนี้เลย

    ......................................................................................................................................................

    ผับเดบิโต้

    ยามค่ำคืน สถานบันเทิงอย่างเดบิโต้กำลังเมามันด้วยเพลงฮิตติดหู ทั้งหญิงชายลุกขึ้นมาเต้นโยกย้ายกันสนุกสนาน ขจรเดชนั่งอยู่ท่ามกลางสาวสวยสามคนที่คอยพะเน้าพะนออยู่ไม่ขาด ในมือถือแก้ววิสกี้ ดื่มรอเพื่อนแล้วโยกตัวเบาๆ ไปตามจังหวะ เขามองไปก็เห็นชายหนุ่มใส่เสื้อคอกลมสีเข้มกับกางเกงยีน

    “เห้ย ไอ้ทัพ”

    “ไงพี่?”

    “น้องๆ ครับ นี่คุณทัพ เพื่อนพี่เอง” ขจรเดชแนะนำสาวให้รู้จักทยาทัพ เขาก็มองเธอนิ่งๆ พิจารณาดูแล้วก็สวยอยู่หรอก แต่สู้ลิลัวของเขาไม่ได้สักนิด

    “สวัสดีค่ะคุณทัพ มานั่งกับนกสิคะ”

    “ดื่มหน่อยนะคะ เดี๋ยวหยีเทให้”

    “คุณทัพหล่อมากเลยนะคะ หนิงชอบ”

    ทยาทัพยิ้มๆ อย่างภูมิใจ เขาหล่ออยู่แล้ว ไม่แปลกที่สาวๆ จะให้ความสนใจ เขากับขจรเดชเป็นเหมือนเพื่อนซี้ที่ถึงไหนถึงกัน เมื่อก่อนมีภูวดลอยู่ในแก๊งด้วย แต่พอภูวดลรู้จักดาราสาวอย่างณีรนุชก็เบนความสนใจไปที่เธอจนไม่ค่อยมาเที่ยวด้วยบ่อย ปล่อยให้เขาทั้งสองสนุกกันต่อประสาหนุ่มโสด

    แก้วเหล้าถูกยกขึ้นดื่ม พอดื่มไปสักพักเขาก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ

    ความเมาทำให้เขาเดินเซไปชนหญิงสาวคนหนึ่งจนถาดอาหารที่ถือมาหกหมด

    “ว๊าย!”

    “นี่เธอ ทำอะไรของเธอเนี่ย?”

    “ขอโทษค่ะๆ”

    “ขอโทษแล้วมันหายไหม ชุดตัวนี้ราคาเป็นพันๆ เธอทำงานตั้งหลายวันยังไม่มีปัญญาซื้อเลย” ทยาทัพมองหน้าหญิงสาวอย่างสำรวจ เธอสูงประมาณร้อยหกสิบ ตัวเล็ก ผิวขาว ตากลมโต จมูกไม่โด่งมาก ริมฝีปากจิ้มลิ้มสีชมพูอ่อน ผมยาวถึงกลางหลังถักเป็นเปียสองข้างเหมือนเด็ก

    “โชไม่ได้ตั้งใจค่ะ เดี๋ยวเช็ดให้นะคะ”

    “ไม่ต้อง เธอชื่ออะไร? ฉันจะไปฟ้องผู้จัดการ!”

    “อย่านะคะ โชไม่ได้ตั้งใจจริงๆ โชขอโทษ”

    “โช? โชติกา?” ชายหนุ่มอ่านป้ายชื่อที่ติดอยู่ที่หน้าอก ยิ่งมองยิ่งเห็นว่าใบหน้าเกลี้ยงเกลาที่แทบไม่ได้แตะต้องเครื่องสำอางไปกว่าแป้งฝุ่นและลิปมันสีอ่อนนั้นดูเด็กมากเพียงใด “เธออายุเท่าไรเนี่ย? อย่าบอกนะว่าแค่มัธยมปลายแล้วมั่วเข้ามาทำงานในผับ?”

    “ยี่สิบสี่แล้วค่ะ”

    ฟังดูเหลือเชื่อที่ผู้หญิงคนนี้จะอายุยี่สิบสี่ เธอดูเผินๆ เหมือนเด็กมัธยมด้วยซ้ำ

    “หึ โตป่านนี้แล้วยังทำงานไม่ได้เรื่อง ไม่สวยแล้วยังซุ่มซ่ามอีก แบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน แค่เช็ดให้คิดว่าเรื่องมันจะจบเหรอ ไร้ความรับผิดชอบ สะเพร่า ฉันจะเรียกผู้จัดการเดี๋ยวนี้” ทยาทัพโวยวายเสียงดังจนทุกคนหันมา โชติกาอับอายจนตัวลีบ นึกไม่ถึงว่าแค่อุบัติเหตุเดินชนกันแล้วทำอาหารหกใส่เสื้อจะต้องโดนอาละวาดโวยวายให้ขายหน้า น้ำตาคลอด้วยความหวาดกลัว เธอมองซ้ายมองขวาขอความช่วยเหลือ

    และขจรเดชก็เดินมา

     “มีเรื่องอะไรกัน?”

    “ผู้หญิงคนนี้ทำข้าวหกใส่เสื้อฉัน”

    “แต่เขาก็ไม่ตั้งใจ แกจะไปเอาอะไรจากเขา ผู้หญิงตัวนิดเดียว ดุไปแค่นี้เขาก็จะร้องไห้อยู่แล้ว แกต้องฆ่าเขาให้ตายเลยไหม?” ขจรเดชพูดเตือนสติ ไม่เห็นด้วยที่น้องรักจะมาโวยวายอะไรกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง โชติกาเม้มปากตัวสั่น อับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

    “ต้องจัดการ จะหักเงินเดือนหรือไม่ก็ไล่ออก”

    “แกจะบ้าเหรอไอ้ทัพ เรื่องแค่นี้มันไม่ได้สำคัญอะไรเลย”

    “สำคัญสิ! ในเมื่อเสื้อตัวนี้เป็นของขวัญชิ้นแรกที่ลิลัวซื้อให้ฉัน!”

    “ลิลัวแล้วไง?”

    “แกก็รู้ว่าฉันชอบลิลัว เสื้อที่เขาซื้อให้ ฉันถนอมจะตาย”

    “ต่อให้ลิลัวจะซื้อให้ ต่อให้มันจะสำคัญ แต่แกก็ไม่มีสิทธิ์ทำอะไรแบบนี้ ในผับมันก็มืด มีแต่คนเมา แกก็ยังเมา จะเดินไปชนกันแล้วทำของหกมันเป็นเรื่องธรรมดา แกจะไปโทษเขา ไปบังคับขู่เข็ญอะไรแบบนี้มันไม่ถูกต้อง กลับกันเถอะ แกไม่รู้เรื่องแล้ว แกเมา ดีไม่ดีแกอาจจะเมาแล้วไปชนเขาเองก็ได้ ใครจะไปรู้”

    หนุ่มลูกครึ่งอย่างขจรเดชเตือนแล้วลากเพื่อนที่กำลังโวยวายออกจากร้าน โดยไม่วายส่งสายตาขอโทษมาทางโชติกา เขายัดเงินไว้ให้ด้วยความสงสาร

    พอสองหนุ่มจากไป คนทั้งร้านก็ยังมองเธออยู่ หญิงสาวปาดน้ำตาแล้ววิ่งเข้าหลังร้านไปร้องไห้ ชีวิตของเธอมันก็เศร้าพออยู่แล้ว พ่อป่วย ธุรกิจติดหนี้ล้มละลาย แล้วการทำงานวันนี้ยังต้องมาเจอผู้ชายใจดำ ที่แค่พลาดมาเดินชนกันต้องมาประจานเธอให้อับอายต่อหน้าคนเยอะแยะ

    “อย่าได้เจอกันอีกเลย คนอันธพาล”

    โชติกานั่งร้องไห้ ไม่อยากจะเจอเขาอีกแล้ว

    พระเอกเรื่องนี้นิสัยไม่ดีนะคะ ทนความอยากตบ อยากกระทืบไว้ก่อน เป็นกำลังใจให้หนูโชเก็บแรงอาฆาตไว้ซัดกลับ นิยายอ่านสบายๆ ไม่เครียด ไม่มีข่มขืน ไม่มีแย่งผัว ไม่มีสาดน้ำกรด ไม่มีตัวร้ายเป็นบ้า คุณชายทัพอาจจะเถื่อนและเอาแต่ใจ แต่ไม่ใช่คนเลวค่ะ จะต่อกรกันแสบๆ คันๆ มีให้จิ้นบ้างเป็นระยะนะคะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×