ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dark world Box **Close

    ลำดับตอนที่ #2 : God's game สงครามแห่งทวยเทพ #สมัครตัวละคร [เมเรดิกส์ เรเวซต้า]

    • อัปเดตล่าสุด 29 มี.ค. 59



    "ใครหน้าไหนมันจะตายแล้วทำไม สุดท้ายก็ไม่เกี่ยวอะไรกับข้าอยู่ดี"


    บท :: บุตรแห่งฮาเดส

     

    ชื่อ-สกุล :: เมเรดิกซ์ เรเวซต้า [Maledic Reiwezta]

    ชื่อเล่น :: เมเรดิกซ์ [Maledic] 

    อายุ :: 18 ปี

     

    เผ่าพันธุ์ :: มนุษย์

    รูปร่าง-หน้าตา :: รูปร่างสูงโปร่ง มีกล้ามเนื้อ สมส่วนแบบชายหนุ่ม เครื่องหน้าคมคาย ดวงตาคมกริบสีอำพันวาววับ คิ้วเรียวสวยสีเดียวกับเส้นผม โครงหน้าคมแบบบุรุษเส้นผมสีเทาตัดสั้นระต้นคอที่มักจะยุ่งเหยิงตลอดเวลา จมูกโด่งเป็นสัน เข้ากับริมฝีปากบางเฉียบหยักได้รูป  ผิวขาวสะอาดตาจนแทบจะเรียกได้ว่าซีดเผือด สูง 187 ซม. หนัก 61 กก.

    ตำหนิ :: แผลเป็น ลักษณะ #รอยบาดเหมือนรอยดาบฟันที่กลางหลัง พาดจากไหล่ขวาไปจรดเอวด้านซ้าย

     

    นิสัย :: 

               เมเรดิกซ์เป็นพวก รักสันโดษ ชอบอยู่อย่างสงบ และไม่คิดไปยุ่งวุ่นวายกับเรื่องไม่เป็นเรื่องทั้งหลาย เขามักจะมองสิ่งรอบด้านเป็นเรื่องน่าเบื่อ และยุ่งยาก น่ารำคาญ เกลียดเสียงดังเข้าขั้นหนัก เพราะฉะนั้นการอยู่ตัวคนเดียวจึงเปรียบเสมือนนิพพานสำหรับเขา เขาถือคติ 'เรื่องของข้า คนอื่นอย่ายุ่ง เรื่องของคนอื่น ข้าไม่เเตะ' เป็นการหลีกเลี่ยงสิ่งไม่พึงประสงค์ทั้งหลายออกไปจากชีวิตของตน และที่สำคัญคือมนุษย์สัมพันธ์ที่เรียกได้ว่าเข้าขั้นแย่บัดซบ ทำให้คนภายนอกเองก็ไม่ค่อยอยากจะยุ่งกับเขาสักเท่าไหร่เช่นกัน

                 ภายนอกเหมือนจะเย็นชา แต่ความจริงก็แค่เข้าสังคมไม่เก่ง แลขี้รำคาญไปไม่หน่อย(?) เพราะเมเรดิกซ์ไม่ชอบที่ที่คนเยอะๆ และเสียงดังวุ่นวาย เขาจึงมักมีออร่าทะมึนบางอย่างแผ่ออกมาจากตัว เป็นการส่งสัญญาณเตือน และอัปเปหิ(?)แขกไม่ได้รับเชิญทั้งหลาย ให้ออกไปจากรัศมีรอบกายของเขาเสมอมา และด้วยตัวเขาเองก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องเพื่อน เจ้าตัวมักจะบอกว่า 'มีหรือไม่มี ก็ไม่ต่างกัน' เพราะงั้นเขาจึงไม่คิดจะแก้นิสัยที่มีมาแต่เด็กตรงส่วนนั้นเลยแม้แต่น้อย

                 กล่าวถึงเรื่องออร่าทะมึน(?)ของเขาแล้ว อาวุธที่ใช้ในการอัปเปหิจำพวก สัมพันธ์เลิศ เข้าคู่ได้กับทุกเพศ ทุกวัย สำหรับเมเรดิกซ์ยังมีอีกหนึ่งอย่าง นั่นก็คือ ดวงตาคมกริบสีอำพันอันเปี่ยมไปด้วยจิตสังหาร ของเขานั่นเอง ไม่ว่าจะใครหรือตัวอะไรล้วนแต่ยอมศิโรราบเมื่อสบตาคู่นั้น และถอยทัพกลับพร้อมโบกธงขาวไปตามระเบียบถ้วนหน้า

                 เมเรดิกซ์นั้นมักจะยึดติดอยู่กับความคิดที่ว่า 'วันพรุ่งนี้ ข้าอาจจะตายก็เป็นได้' เขาจึงมักจะอยู่ในโลกส่วนตัวของตัวเอง ใช้เวลาส่วนมากไปกับความสุขอันน้อยนิดบนโลกที่แสนสกปรกในสายตาของเขา ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่ในวันข้างหน้า หากเขาต้องตายขึ้นมาจริงๆ เขาก็คงไม่รู้สึกเสียดายแต่อย่างใด

                 อีกหนึ่งคือเรื่อง ความขวานผ่าซากแบบธรรมชาติขั้นเลวร้าย ของเขา เมเรดิกซ์ไม่ได้เรียนเรื่องการเข้าสังคม หรืออยู่ร่วมกับคนอื่น นั่นทำให้เขามักจะพูดจา ตรงๆ แบบไม่อ้อมค้อม เสมอๆ เขามักจะพูดในสิ่งที่คิด และทำในสิ่งที่พูด เมเรดิกซ์นั้นชอบหลุดคำพูดเรื่องเกี่ยวกับ ความตาย ออกไปเสมอ เพราะเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่ถือเป็นสัจธรรมของโลก ไม่ว่าจะทำยังไง สุดท้ายแล้ว สิ่งมีชีวิตทั้งหลายก็ต้องตายจากโลกใบนี้ไปอยู่ดี

                  การอยู่ตัวคนเดียวนั้น ทำให้เมเรดิกซ์มีลิมิต ความว่องไว คล่องแคล่ว อยู่ในระดับต่ำ เขาเป็นพวกไม่ชอบทำตามใคร และมักจะลอยไปลอยมาได้ทั้งวี่ทั้งวัน เพราะชีวิตก่อนหน้านี้ไม่เคยต้องตามใจใคร และก็ไม่มีใครกล้ามาให้ตามใจเสียด้วย นั่นเลยทำให้เขาติดนิสัย ทำอะไรก็เชื่องช้าไปเสียหมด แบบเข้าเส้นเข้ากระดูกดำ แต่ถึงอย่างนั้นในเวลาคับขัน หรือที่จำเป็นจริงๆ เมเรดิกซ์ก็สามารถฝืนใจ(?)ตนให้เคลื่อนไหว และทำภารกิจตรงหน้าให้สำเร็จลงได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน


    ประวัติ :: 

                       เมเรดิกซ์ไม่มี พ่อแม่ ครอบครัว พี่น้อง หรือแม้แต่เพื่อนๆ เขาเกิดและโตในสภาพแวดล้อมที่เรียกได้ว่า โสมม และ สกปรก ที่สุดในโลก ชีวิตของเด็กน้อยอย่างเขาผ่านอะไรไปหลายอย่างเกินกว่าที่ใครจะคิดได้ ดวงตาสองคู่นี้ก็เห็นคนตายมากมายราวกับผักปลาทุกวัน การจะเอาชีวิตให้รอดในโลกแบบนั้นมาได้จนถึงทุกวันนี้ เขาก็ว่ามันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว

                        ด้วยสภาพแวดล้อมแบบนั้น มันทำให้เมเรดิกซ์กลายเป็นพวกปิดกั้นตัวเองจากโลกภายนอกด้วยเช่นกัน เขาไม่เคยเชื่อใจใคร และไม่คิดว่ามนุษย์หน้าไหนจะเชื่อใจได้อีก เพราะสภาพแวดล้อมที่เคยโอบล้อมตัวเขาในยามเด็กนั้น มันทั้งดำมืดและสกปรก เป็นศูนย์รวมจิตใจด้านมืดของมนุษย์โดยแท้จริงเลยล่ะ

                        เพราะในสมัยเด็กๆ เมเรดิกซ์เคยเห็นคนตายมามาก เขาเห็นความตายมามากมายหลากหลายรูปแบบ ทั้งที่ถูกกระทำโดยคนอื่น และกระทำด้วยตัวเอง ความตายที่เกิดจากความผิดบาปของมนุษย์คนนั้นเอง หรือแม้แต่ความตายของผู้บริสุทธิ์ที่ไม่ได้ทำอะไรผิดก็ตาม เมเรดิกซ์เห็นมันมาตลอด เขาจึงได้รู้ความจริงที่ว่า 'หากคนเราถึงเวลาจะตาย ต่อให้พวกเขาพยายามแทบเป็นแทบตายแค่ไหน พวกเขาก็ไม่เปลี่ยนโชคชะตานั้นได้อยู่ดี'

                        ไม่มีใครรู้ว่าเด็กอย่างเขาอยู่ในโลกบ้าๆ แบบนั้นมาได้ยังไง10กว่าปี แต่ไม่ได้มีแค่เมเรดิกซ์หรอกที่เป็นเด็กน้อยผู้น่าสงสาร ที่ต้องอาศัยในโลกเช่นนั้นแค่คนเดียว ถึงโลกมันจะโหดร้าย มันก็ไม่ได้เลวร้ายไปเสียหมด สุดท้ายนี้ เขายังมีคนร่วมชะตากรรมเดียวกันกับตน แม้ว่ามันจะน้อยจนแทบนับนิ้วได้ก็ตาม เมเรดิกซ์สามารถมีชีวิตรอดได้ด้วยการ่วมมือกับคนพวกนั้นในบางครั้ง ด้วยการทำงานใช้แรงงาน และลักขโมยบ้างเล็กๆน้อยๆในบางกรณี ก่อนจะรับค่าตอบแทนที่เขาควรจะได้รับมา แต่เอาตามความจริง คนพวกนั้นไม่เชื่อใจเขาหรอก และเมเรดิกซ์ก็ไม่เชื่อใจพวกเขาเช่นกัน แต่หากไม่ทำเช่นนี้ เมเรดิกซ์ก็คิดว่าเขาคงตายเป็นซากเปื่อยในกองขยะไปนานมากแล้ว

                        แต่หากถามถึงช่วงเวลาก่อนที่เขาจะจำความได้..เขาก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าตนเองรอดมาได้ยังไง แต่เมเรดิกซ์เชื่อว่านั่นคือ คำสาปของพระผู้เป็นเจ้า ที่ปล่อยให้เขารอดชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้ได้ล่ะนะ

                        เมเรดิกซ์อยู่ในโลกด้านมืดนั้นมานานจนกระทั่งเขาอายุครบ15ปี ในวันเกิดอายุ15ปีนั้น เขาได้เห็นแสงสว่าง และโลกอีกด้านที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน มันทำให้เมเรดิกซ์เคยลองคิดที่จะเข้าสังคมดูสักครั้งหนึ่งในชีวิต แต่สุดท้ายเขาก็ได้รู้ว่า 'มนุษย์ก็ยังเป็นมนุษย์อยู่วันยันค่ำ' แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้แสดงด้านมืดของตนเองออกมา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขา ไม่มี มันอยู่ในตัว และนั่นทำให้เมเรดิกซ์เลิกคิดที่จะเข้าสังคมโดยถาวร..แต่ในอนาคตนั้นจะเป็นเช่นไร นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

     

    พลัง :: เขามีพลังเวทย์ที่อยู่ในระดับสูงมาก โดยวิชาส่วนมากของเขาคือ เวทย์ต้องสาป เวทย์ทำลายล้างระดับสูงที่ใช้ได้ยาก แต่ได้ผลชะงัดในหลายๆ ความหมาย ที่แน่นอนคือตายเรียบ และเละไม่เหลือซาก / เวทย์โบราณที่เมเรดิกซ์ได้มาโดยบังเอิญในวัยเด็ก มันเป็นเวทย์ที่เขาสามารถใช้บั่นทอนชีวิตของสิ่งมีชีวิตได้ แต่มันใช้ยากและกินพลังเวทย์มหาศาล ที่สำคัญคือ ยิ่งใช้มาก ก็ยิ่งเป็นอันตรายต่อผู้ใช้มากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นเมเรดิกซ์จึงแทบไม่ได้แตะมันเลยสักนิดเดียว แต่เหตุผลหลักก็คือ เวลาใช้ในแต่ละครั้ง มันทำเขาหมดแรงข้าวต้มไปทั้งวันได้สบายๆ เลยน่ะสิ


    อาวุธ :: 

                  ธนูเวทย์สายมนต์ดำ [ของดีไม่ได้อยู่ที่ตัวธนู แต่มันอยู่ที่ลูกธนู(?) มีทั้งหลากไซส์ หลากชนิด หลากความสามารถ ทั้งแบบที่ยิงแล้วเพิ่มจำนวนได้ หรือแบบที่เพิ่มขนาดได้ก็มี โดยที่เมเรดิกซ์ชอบใช้ประจำคือ แบบลูกธนูที่ทำให้เกิดแสง กับอันที่ทำให้เกิดควัน สำหรับสร้างช่องทางหนี หรือหากเขารำคาญมากๆ เขาก็จะเอาลูกธนูที่มีความสามารถกักเก็บพลังเวทย์ มาใช้รวมกับเวทย์ทำลายล้างของเขา ดอกเดียว ก็ทำเอาตูมตาม บึ้มกันไปเป็นแทบๆ]


     

    ของที่พกติดตัว :: สร้อยข้อมือหนังปริศนา(?) #เมเรดิกซ์ได้มันมาตอนอายุ16ปี จากการไปซื้อมาส่งๆตามร้านขายของข้างทาง เขาเห็นว่ามันสวยดีจึงซื้อมาเส้นนึง แต่หลังจากนั้น เมเรดิกซ์ก็พบว่า คนใจกล้าที่มีแอบแวบๆเข้ามาหาเมเรดิกซ์ ซึ่งเห็นได้ในบางครั้งบางคราว(แต่ก็น่ารำคาญ) พากันไม่กล้ายุ่ง ไม่แตะเขาอีกเลยแม้แต่นิดเดียว เขาจึงสวมมันติดตัวตลอดเวลา และยกตำแหน่งให้มันเป็น สร้อยข้อมือคู่ใจ ไปโดยปรติยาย [ความจริงคือ เป็นสร้อยข้อมือที่ลงคำสาปเอาไว้ แต่เพราะเวลาผ่านไปนานมากเเล้ว จึงมีฤทธิ์แค่แผ่รังสี(?)ออกมาให้รู้ว่านี่คือคำสาปนะเออ แต่สุดท้ายก็เป็นแค่เครื่องประดับอยู่ดีนั่นแหละ]



    ลักษณะการพูด :: พูดจากขวานผ่าซากและตรงไปตรงมาจนน่าตบสักฉาด ไม่แบ่งแยกทั้งชายและหญิง ถ้าละลาบล้วงหรือพูดมากเกินกว่ากำหนด(?) ก็มีสิทธิ์โดนด่าได้ทุกเมื่อ แต่ถ้าเป็นปกติก็มักจะถามคำตอบคำ จะพูดยาวๆเฉพาะในเรื่องที่สนใจ หรือเวลาด่าเท่านั้น และที่สำคัญคือชอบพูดตัดบทได้อย่างไร้เยื่อใยเป็นที่สุด

    ผู้เคราะห์ร้าย : ไปกินข้าวกันไห----

    เมเรดิกซ์ : ไม่

    ผู้เคราะห์ร้าย : เมื่อวานนายก็ไม่ได้ไปนะ วันนี้ยอมสักวันเถอะน่----

    เมเรดิกซ์ : ก็บอกว่าไม่ ฟังไม่รู้เรื่องรึไง 

    ผู้เคราะห์ร้าย : ........... //ขอโทษครับ


    ชอบ :: 

                    พาเฟ่ต์ช็อคโกแลต(?) #เวลาเห็นมักจะทำตาเป็นประกาย และพยายาหาทางแย่งชิง(?)มาให้แบบสุดกำลัง[ป.ล. เหตุเพราะเป็นอาหารชนิดแรกที่กินแล้วถูกใจ ตอนที่ได้มาในโลกแบบปกตินั่นเอง] 

                    กระรอก หรือ แมว #เวลาเห็นมักจะเดินเข้าไปหา แล้วเล่นเดียว หรือไม่ก็แบกอาหารไปให้กิน แต่เพราะออร่ามันทำพิษ แค่หันไปมอง กระรอกแมวก็พากันเผ่นแน่บไม่มีเหลือซะแล้ว 


    เกลียด :: 

                     พวกน่ารำคาญ #ด่ายับแถมอาจมีลูกถีบแถมสักเปรี้ยง ถ้าพูดภาษามนุษย์แล้วยังฟังไม่รู้เรื่อง 

                     พวกไม่รู้ร้อนรู้หนาว #หาทางพยายามหลีกหนีถอยห่างสุดชีวิต เพราะอาวุธทั้งสอง(ออร่า/สายตา)ทำอันตรายพวกชนิดนี้ไม่ได้ เป็นเหตุให้ไม่สามารถกันออกจากอาณาเขตของตนได้ และหากไม่สามารถหลีกหนีได้ เขาก็มักจะตัวแข็งค้างราวกับโดนสาปเวลาโดนแตะต้องตัว และไม่กล้าพูดหรือขยับโดยผลีผลาม เพราะแพ้ทางคนจำพวกนี้โดยเฉพาะ


    แพ้ :: 

                      กุ้ง #กินเข้าไปแล้วจะเกิดอาการสำลักอย่างรุนแรง และเกิดอาการหายใจติดขัด ตามตัวมีผื่นขึ้น ต้องรีบรักษาโดยเร่งด่วน ไม่อย่างนั้นก็มีสิทธิ์ลาโลกได้ง่ายๆ เช่นกัน

     

    เพิ่มเติม :: แผลเป็นที่กลางหลังของเมเรดิกซ์นั้น ได้มาตอนที่เขาหนีจากการไล่ล่าของพวกผู้คุม ในโลกมืดตอนที่เขาไปฉกของมากิน ตอนที่เขาหิวมากๆ จนโดนฟันเข้าที่กลางหลัง และรอดมาได้อย่างปฏิหารย์ในภายหลัง / เมเรดิกซ์ ภาษาฝรั่งเศสแปลว่า คำสาป ซึ่งชื่อนี้ได้มาจากที่มีคนด่าเขาสมัยเด็ก เมเรดิกซ์ตอนแรกเองก็ไม่มีชื่อ เลยยึดเป็นชื่อของตัวเองเลย

     

    Talk with Writer

                สวัสดีค่า ชีเกียค่ะ! คุณผู้ปกครอง ชื่ออะไรเหรอคะ?

    - รันรันเจ้าค่า

                อื้อๆยินดีที่ได้รู้จักค่ะเอ ว่าแต่คิดยังไงถึงมาสมัครล่ะคะเนี่ย...?

    - ตอนแรกบังเอิญเจอนั่นแหละค่----//// แต่พออ่านแล้วชอบพลอตเรื่องมากเลย บวกกับคิดตัวละครเเนวๆนี้เอาไว้ แต่ไม่อยากแต่งเรื่องใหม่(?) เลยพาลูกชายมาฝากตัวด้วยน่ะค่ะ

                เรื่องนี้ลูกๆของท่านอาจจะกลายตัวร้ายในภายหลังได้เลยนะคะ รับได้มั้ย?

    - นิสัยโดยรวมก็ออกแนวร้ายๆอยู่แล้ว ถ้าจะได้รับบทตัวร้ายมานอนกอด รันว่าไม่น่าแปลกนะคะ----//โดนถีบ

                แล้วก็อาจจะตายได้เหมือนกันนะ

    - โอ้ววว เรื่องตายไม่ซีเรียสค่ะ เราคิดว่ามันเป็นสีสันอย่างนึง นิยายเรื่องนึง ตัวละครจะอยู่ยาวตลอดรอดฝั่งทั้งหมดก็แปลกๆ ตายบ้างเป็นสีสันให้สนุกขึ้นแหละค่า

                ก็ยังไงก็ช่วยเตือนเวลาไรต์เขียนผิด เขียนตกด้วยเน้อ แป้นแข็งมากก

    - รับทราบค่า #ถึงแม้ว่าทางนี้จะพิมพ์ผิดบ่อยเช่นกันก็ตามแต่---

                เอาล่ะ แล้วมาลุ้นกันว่าคุณจะได้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนี้รึเปล่า

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×