ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [IRC project 2.0] Call of duty : GOAT จารชนคนเกรียนแบ๊ะ

    ลำดับตอนที่ #2 : Prologue 2 : Shin

    • อัปเดตล่าสุด 28 เม.ย. 57


    ผมชื่อชิน

    ก่อนหน้านี้ผมเป็นแค่ผู้ใช้มนต์รักษาธรรมดา อาศัยอยู่ในดินแดนที่ชื่อว่าแฟนตาเซีย แต่มีเรื่องราวมากมาย ทำให้ผมต้องมาอยู่ที่นี่ เมืองอีเธอร์ฮิลล์ ที่สงบสุขที่เชิงเขาไออาร์ซี ผมได้รับภารกิจให้อยู่ในฐานะหมอของสถานีอนามัยที่นี่

    ที่นี่สงบสุขมาก ชาวเมืองก็เป็นกันเอง ผิดกับเรื่องราวของชาวเมโทรโปลิสที่ผมได้ยินมา

    ผมยังไม่ได้บอกหรอกหรอ ? ว่าเมืองนี้ไม่ได้อยู่ในฝั่งแฟนตาเซีย แต่อยู่ในฝั่งเมโทรโปลิส ดินแดนที่เป็นศัตรูของเรามาช้านาน

    ผมมาที่นี่ในฐานะจารชน มาเพื่อสืบข้อมูลเกี่ยวกับศัตรูได้ราวครึ่งปีแล้ว ผมไม่ได้ปรารถนาสงครามสักเท่าไหร่นัก ค่อนข้างลำบากที่ผมต้องทำเป็นรักษาผู้คนแบบชาวเมโทรโปลิสที่ต้องใช้เครื่องมือและยาสารพัด แต่จริงๆ ผมก็ทำไปอย่างงั้นแหละ มนต์รักษาของผมเจ๋งกว่าเป็นไหนๆ

    คนไข้รายสุดท้ายของวันนี้มาเมื่อหัวค่ำ เป็นเด็กชายอายุ 4 ขวบที่มาด้วยโรคหลอดลมตีบ รักษาไม่ยาก ใช้แค่ยาพ่นของเมโทรโปลิสอาการก็ดีขึ้นในทันตา ไม่ต้องเปลืองพลังเวทย์เลยแม้แต่น้อย

    ขึ้นวันใหม่แล้ว แต่ตอนนี้ผมก็ยังกำลังนั่งอ่านข้อมูลประจำวันของที่นี่ไปเรื่อยๆ ข่าวยานปริศนาตกที่เทือกเขาไออาร์ซี รีวิวร้านซูชิชื่อดังที่เขตสาม ผมนั่งเลื่อนหน้าจอโฮโลแกรมไปเรื่อยๆ ดูเหมือนวันนี้จะไม่มีอะไรน่าสนใจสักเท่าไหร่

    วันนี้ของผมคงจะจบเพียงเท่านี้

    "ตึง ตึง ตึง ตึง ตึง!"

    เสียงทุบประตูดังขึ้น ดูจากจังหวะและความแรงไม่ต้องบอกก็ต้องรู้ว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน มีใครเป็นอะไรกันนะ ?

    ผมจึงผละมือออกจากหน้าจอ แล้วรีบวิ่งลงบันไดไปชั้นล่างทันที

    "ตึง ตึง ตึง ตึง ตึง!"

    เสียงทุบประตูยังคงเต็มไปด้วยความกังวลใจ ผมไม่รอช้าเดินเข้าไปเปิดประตูในอีกสองสามวินาทีถัดมา ร่างของชายหนุ่มไม่คุ้นหน้าคนหนึ่งก็ปรากฎอยู่นอกประตู ทั้งสองมือของขาอุ้มร่างของเด็กผู้หญิงอายุราว 15-16 คนหนึ่งอยู่ ผมเหลือบตาก้มลงมองเด็กคนนั้น เธอหลับตาไม่ได้สติอยู่ ใบหน้าและแขนขาดูซีดเซียว ราวกับเลือดที่เคยไหลไปเลี้ยงร่างกายไปไม่ถึงส่วนเหล่านั้น

    "คุณหมอครับ น้องผมเป็นโรคหัวใจ คือตอนที่เค้าล้มจากเก้าอี้พวกผมตกใจ" ชายหนุ่มผู้ที่คาดว่าน่าจะเป็นพี่ชายของเธอพูดอย่างร้อนรน

    "รีบเข้ามาเร็ว พาเธอเอาไปที่เตียงตรวจเลย !"

    ชายหนุ่มคนนั้นก็พาเด็กสาวไปไว้บนเตียง ส่วนผมรีบเดินไปตระเตรียมอุปกรณ์เพื่อตรวจร่างกาย หูฟัง เครื่องวัดความดัน

    "เป็นมานานเท่าไหร่แล้ว เธอมียาประจำอะไรอยู่หรือเปล่า ?!" ผมรีบถามเขาขณะที่รีบเดินกลับไปยังเตียงตรวจ

    "ประมาณห้านาทีก่อนครับ ! มียากระตุ้นหัวใจอยู่ครับ นี่ครับหมอ"

    เขารีบหยิบกระปุกยาขึ้นมาจากกระเป๋าและยื่นมาให้ผมอย่างร้อนรน ผมหยิบขึ้นมาพิจารณา นี่เป็นยากระตุ้นหัวใจชนิดหนึ่งที่ใช้กันในผู้ป่วยห้องหัวใจบนสั่นพริ้ว (Atrial Fibrillation) เอาล่ะ ผมได้รายละเอียดคร่าวๆ แล้ว

    ผมรีบเดินไปที่เตียงตรวจ ถอดเสื้อและทาบหูฟังไปที่บริเวณกระดูกหน้าอกข้างซ้ายของเธอพร้อมกับใช้มืออีกข้างจับชีพจร

    แขนของเธอเย็นมาก ทั้งโสตประสาทและนิ้วของผมก็ไม่ได้สัมผัสของชีพจรเลยแม้แต่น้อย ไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงหายใจ

    ผมตระหนักได้ว่าที่นี่มีอุปกรณ์และยาไม่พอที่จะช่วยเธอได้แน่ๆ และผมเองก็ไม่ได้มีความรู้ทางการแพทย์ของที่นี่มาก

    ไม่มีทางเลือก ผมจำเป็นต้องใช้มนต์กระตุ้นหัวใจเธอ แต่ผมไม่สามารถเผยตัวตนให้กับชาวเมืองรู้ได้เหมือนกัน

    "คุณรีบโทรเรียกหน่วยพยาบาลมาที่นี่ด่วน ส่วนผมพยายามจะช่วยเธอเท่าที่ทำได้ในตอนนี้ อาจจำเป็นต้องปั๊มหัวใจ !" ผมชี้ไปที่โทรศัพท์ด้านนอกที่อยู่ห่างจากเตียง และจัดแจงปิดม่านเพื่อซ่อนสิ่งที่ผมกำลังจะทำ

    ผมได้ยินเสียงของชายหนุ่มคนนั้นพยายามต่อโทรศัพท์ ผมจึงหลับตาลง จากนั้นจึงยื่นมือไปยังร่างของสาวน้อยที่ไร้ชีพจรที่อยู่เบื้องหน้า

    "แคทีโคลามีนัส อิฟริเนฟฟรีนาร์ ควอดไพรไบเพนทัส !"

    ผมร่ายมนต์อย่างเบาที่สุด มีแสงวาบออกมาจากบริเวณหน้าอกซ้ายของเธอ เป็นสัญญาณว่ามนต์ทำงานแล้ว ผมจึงพยายามหาสัญญาณว่าหัวใจของเธอกลับมาทำงานอีกครั้ง ผมจึงคลำชีพจรของเธออีกครั้ง แต่ก็ไม่พบชีพจร ผมเช็คดูม่านตาเธอ ไม่มีการตอบสนอง

    ผมค่อนข้างแปลกใจ เพราะมนต์นี้มักจะทำให้หัวใจกลับมาเต้นได้ตามปกติอยู่แล้ว ผมจึงหลับตาเพื่อครุ่นคิดถึงสิ่งที่เรียนมาอีกครั้ง และสัญชาติญาณสายลับผมเริ่มสัมผัสได้ถึงอะไรแปลกๆ

    ผมไม่คุ้นหน้าสองคนนี้มาก่อน ถ้าเธอเป็นโรคหัวใจอยู่ในเมืองนี้ผมน่าจะรู้สิ ถ้าเป็นคนเดินทางจะมาเมืองชายแดนทำไมดึกๆ ดื่นๆ ?

    ตอนที่เด็กคนนี้มาถึง ชายหนุ่มที่เหมือนเป็นพี่ชายอุ้มเธออยู่ทั้งสองมือ แล้วเขาใช้มือไหนเคาะกันล่ะ เขาคงไม่เอาเธอวางกับพื้นเพื่อเคาะหรอกนะ ตะโกนเอาก็ได้นี่นา ?

    ตอนที่ผมรับขวดยามาจากเขา สัมผัสของมันเหมือนกับว่ามียาอยู่เต็มกระปุก เหมือนกับไม่ได้ถูกใช้มาก่อน

    ผมเหลือบไปมองที่เธออีกครั้ง ผมสังเกตเห็นข้างลำตัวของเธอมีสีม่วงระเรื่ออยู่

    หรือว่า----------------- !!!

    ผมสัมผัสได้ถึงของแหลมที่แทงเข้าสู่คอด้านขวาของผม ของเหลวที่แดงฉานทะลักออกมา

    และชีวิตของผมก็จบลงในวันนี้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×