คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : Audition ส่งใบสมัครนางเอกฮัน กึมซอง *
Form:: 한금성
(ถามสีเขียว ตอบสีดำนะคะ)
แนะนำตัว
ชื่อผู้สมัคร:: จุง จ้ะ :”)
อายุ:: 14 จะ 15 แล้วว ^^
My ID:: http://my.dek-d.com/B_L-U-E/
คำถามทั่วไป
ชื่อ(พร้อมความหมาย):: ซอง ซึลกิ 상슬기 (ซึลกิ แปลว่า ความรอบรู้ ซึ่งสาวคนนี้ฉลาดไม่เบา)
อายุ(ช่วง 21-25):: 23 ปี
บุคลิก:: เธอดูเป็นผู้หญิงพูดน้อยและเงียบขรึม บางครั้งเธอมักจะทำท่าทางเหมือนหยิ่งๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใครมาก ซึลกิมีรูปร่างดีและใบหน้าสะสวย
นิสัย(มาตรฐาน5บรรทัด เกินได้ค่ะ):: ซึลกิเจ้าหญิงน้ำแข็งแห่งยุค ถ้าให้พูดถึงเรื่องนิสัยเธอล่ะก็ ดูเย็นชาเป็นที่สุด พูดน้อย และไม่แสดงอารมณ์ใดๆทั้งนั้น รอยยิ้มของเธอนั้นแทบจะไม่มีใครเคยเห็นเลยด้วยซ้ำ ไม่ว่าเรื่องนั้นจะฮาแค่ไหน ก็ไม่สามารถทะลายกำแพงรอยยิ้มของเธอได้หรอก ถ่ายรูปทีนะใครๆก็หาว่าเธอทำหน้าเหมือนถ่ายบัตรประชาชนอยู่ตลอดเวลา ซึลกิเป็นคนที่ไม่ชอบมีปากเสียงกับใคร เมื่อมีคนทำให้เธอไม่พอใจเธอจะลุกหนีหรือเดินหนีทันทีโดยไม่โต้ตอบ เธอคนนี้ไม่ได้เป็นคนเก่งกาจอะไรมากนัก แต่ฉลาดใช่เล่น ทุกปัญหาเธอจะคลี่คลายมันได้ในที่สุด ซึลกิเป็นคนจริงใจไม่เสแสร้ง ถึงแม้เธอจะไม่เคยมีความรัก แต่เธอสามารถเข้าใจมันได้อย่างลึกซึ้ง ก็เพราะเธอฉลาดนี่ไงล่ะ ที่สำคัญซึลกิมีความเข้มแข็ง อดทนและมุ่งมันมาก เนื่องจากเธอได้เสียพ่อไปเธอจึงต้องเข้มแข็งและอดทนเพื่อเป็นกำลังใจให้กับตัวเอง ถ้ารู้จักเธอจริงๆล่ะก็ เธอมีนิสัยเหมือนหญิงสาวทั่วไปนั้นเอง อ่อนโยนและมีน้ำใจ
ชอบ:: ทะเล /น้ำตก ,, ธรรมชาติ ,, ปลาทอง ,, ความสงบ ,, เสียงเปียโน
เกลียด(หรือกลัว):: ความสูง ,, ความวุ่นวาย ,, คำโกหก / ผิดสัญญา ,, ฮันกึมซอง
ความสามารถพิเศษ:: เล่นเปียโน
อิมเมจ+ชื่อ(อย่างน้อยสามรูป):: Park Sun-Young
ศึกชิงนาย
1.คุณเกลียดกึมซองเพราะคุณเข้าใจว่าเขาเป็นคนที่ฆ่าพ่อของคุณ คุณจึงหลบหน้าเขาทุกครั้งที่เจอ ดังนั้นคุณคิดว่าเพราะอะไรที่สามารถจะทำให้คุณเกลียดเขาน้อยลง
:: “ความจริง” เท่านั้น... ฉันไม่มีวันเกลียดเขาน้อยลงเลยด้วยซ้ำ เพราะเขาฮันกึมซอง คนที่ฉันคิดไว้เสมอว่าเขาเป็นคนพรากพ่อไปจากฉัน แล้วเรื่องอะไรล่ะที่ฉันจะเกลียดคนที่ฆ่าพ่อฉันน้อยลง มันไม่มีวัน ไม่มีวันเด็ดขาดตราบใดที่ความจริงยังไม่กระจ่าง...
2.มีอยู่วันหนึ่ง คุณบังเอิญไปรู้ความลับบางอย่างเกี่ยวกับพ่อของคุณที่ตายไปแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องความเลวทรามของพ่อคุณและคุณก็ได้รู้ว่าความจริงแล้วกึมซองไม่ได้ฆ่าพ่อของคุณ คุณจึงรีบไปขอโทษกึมซอง ให้คุณบรรยายเป็นบทพูดตั้งแต่รู้ความลับจนกระทั่งคุณไปขอโทษกึมซอง(15+)
:: “ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!” เสียงเคาะประตูดังขึ้น ในขณะที่ฉันกำลังหวีผมอยู่
“ซึลกิ! นี่แม่เองนะ” เสียงของผู้เป็นมารดาพูดขึ้น พร้อมแง้มประตูเล็กน้อย
“ว่าไงคะแม่? มีอะไรรึเปล่า” ฉันเดินมาหาแม่ที่ประตูห้องนอนของฉันเอง
“แม่มีเรื่องจะบอกกับลูกน่ะ ลงไปข้างล่างหน่อยนะ” มีเรื่องจะบอก? แม่จะบอกอะไรฉันนะ...แต่ดูท่าทางของแม่เหมือนมันจะเป็นเรื่องสำคัญมากเลยทีเดียว
ฉันเดินตามแม่ลงไปข้างล่างเพื่อฟังเรื่องสำคัญที่แม่จะบอกฉัน และเมื่อลงมาก็พบเอกสารต่างๆที่วางกระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะรับแขก ขณะที่ฉันกำลังเดินมาเพื่อจะหยิบเอกสารเหล่านั้นดู แม่ก็เดินเข้ามาจับมือฉัน พร้อมกับดึงให้นั่งลง สีหน้าของแม่ดูเงียบขรึมมาก ซึ่งมันก็คงไม่ต่างจากหน้าฉันตอนนี้อย่างแน่นอน
“ซึลกิ ฟังแม่นะ” ฉันหันมามองหน้าผู้เป็นแม่ก่อนที่จะพยักหน้า
“พ่อของลูก ไม่ได้ถูกกึมซองฆ่าหรอกนะ” ฉันตกใจกับประโยคนี้มาก เพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน
“แม่รู้ได้ยังไง? นายนั่นคือฆาตรกร” ฉันไม่เชื่อ !
“ลูกฟังแม่...ความจริงแล้ว ก่อนที่พ่อของลูกจะตาย ทางบริษัทของพ่อเสียผลประโยชน์ทางด้านธุระกิจมากจนแทบจะล้มละลายเลยก็ว่าได้...แต่พ่อของลูกไม่ยอมให้บริษัทพังจึงไปขอร่วมกลุ่มกับบริษัทอื่นๆเพื่อปลอกลอกเงินทุนของบริษัทนั้นมาประทังบริษัทตัวเอง จนกระทั่งวันนึงพ่อถูกลอบฆ่าโดยบริษัทที่เสียประโยชน์
ดังนั้นกึมซองเขาไม่เกี่ยวเลยนะลูก เขาแค่รู้จักกับมือสังหารเท่านั้น” สิ่งที่แม่อธิบายมันทำให้ฉันชาไปทั้งตัว เมื่อรู้ว่าคนเป็นพ่อของฉันทำเรื่องเลวร้ายถึงขนาดนี้ แล้วทำไมทำไมกึมซองถึงต้องยอมรับผิดแทนคนที่ฆ่าพ่อฉันด้วยล่ะ ...หากว่าแม่ฉันไม่บอกเรื่องนี้กับฉัน ชาตินี้ฉันคงต้องตราหน้ากึมซองว่าเป็นคนฆ่าพ่อฉันไปตลอดงั้นสิ...ฉันทำไม่ดีกับเขาไว้ตลอด ถึงเวลาที่ฉันต้องไปขอโทษเขาสินะ
ณ.หน้าบ้านกึมซอง
“ติ้งต่อง~...!” ฉันรวบรวมความกล้าครั้งยิ่งใหญ่ในการกดออดบ้านผู้ชายที่ฉันเคยเกลียดที่สุด
“มาหาใครจ๊ะ?” หญิงสูงวัยคนหนึ่งเดินมาหาฉันที่กำลังยืนรออยู่หน้าบ้าน
“กึมซองอยู่มั้ยคะ !” ฉันชะเง้อหน้าไปมาเพื่อมองหากึมซอง แต่ทำไมฉันถึงไม่เห็นวี่แววเขาเลยล่ะ - -‘ งานนี้จะเสียเที่ยวรึเปล่าเนี่ย
“อ๋อ ! เพื่อนกึมซองหรอจ๊ะ...รู้สึกว่ากึมซองจะไปวิ่งอยู่แถวๆนี้นะ” วิ่งงั้นหรอ?
“ขอบคุณค่ะ ๆ” ฉันโค้งตัวให้หญิงตรงหน้า ก่อนที่จะเดินตามหาเขาในหมู่บ้านซึ่งมันก็ไม่ใช่เล็กๆนะ แล้วฉันจะหาเจอมั้ยล่ะเนี่ย? =O=; แถวๆนี้ของป้าแกคือแถวไหนล่ะคะ ! ... แต่เหมือนโชคจะเข้าข้างฉันนะ ชายหนุ่มที่วิ่งอยู่ตรงหน้าฉันต้องใช่เขาแน่ๆ ...
“กึมซอง !กึมซอง!” ฉันวิ่งตามเขาไป พร้อมตะโกนเรียกชื่อ ทำให้เขาหยุด และหันมามองหน้าฉันอย่างประหลาดใจ ก็ปกติฉันไม่เคยเข้าหาเขาก่อนเลยซักครั้ง และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันเข้าหาเขา แถมยังต้องมาขอโทษเขาอีก = =” เสียฟอร์มชะมัด
“มีอะไรหรอ? ซึลกิ” เจ้าของใบหน้าที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ เอ่ยถามฉัน ซึ่งฉันก็ไม่รู้จะตอบยังไงดีเนี่ย...
“นายว่างมั้ย” ฉันพูดด้วยนำเสียงเรียบๆ
“ว่างสิ เธอมีอะไรล่ะ?” สีหน้าของเขาดูอยากรู้ในเรื่องที่ฉันจะพูดมากๆเลย...แต่ฉันนี่สิที่ไม่อยากจะบอก
“ฉันมีเรื่องจะคุยกับนายนิดหน่อยน่ะ” เขาส่งยิ้มให้กับฉัน ก่อนที่เขาจะเอ่ยชวนให้ฉันไปนั่งคุยที่บ้านของเขา เฮ้อ! ทำไมอิซึลกิคนนี้ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วยล่ะเนี่ย
“ฉันขอคุยที่สวนตรงนู้นได้มั้ย?” ฉันพูดพร้อมกับชี้นิ้วไปทางสวนดอกไม้เล็กๆตรงหน้า
“ได้สิ ^^” และเขาก็ส่งยิ้มให้ฉันเป็นครั้งที่สอง ซึ่งมันทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ...เหมือนไม่อยากจะสบตาเขาเลย
“ฉัน...ขอโทษ” ขณะที่เรากำลังเดินไปที่สวน ฉันก็รวบรวมความกล้าอีกครั้ง ที่จะบอกขอโทษเขาไป ด้วยเสียงเรียบๆ
“อะไรนะ?” แต่...เขาเองก็ทำท่าเหมือนไม่ได้ยิน (หรือจงใจแกล้งฉันกันแน่ =^=)
“ฉัน ขอโทษ” ฉันกล่าวคำขอโทษอีกครั้งแต่...
“อะไรนะ? ฉันฟังไม่รู้เรื่อง” นายกึมซองยืนหูมาใกล้ๆปากฉัน เพื่อฟังคำนั้นชัดๆ ซึ่งฉันรู้แล้วว่านายแกล้งฉันแน่ๆ ฮึยยย! อยากได้ยินนักใช่มั้ยยยย !!
“ฉันน-ขออ-โทษษษษ!!!!” ฉันตะโกนสุดเสียงใส่หูนายนั่น ทำให้เขาเด้งตัวออกห่างฉัน เพราะท่าทางเสียงฉันมันจะดังมาก ทำเอาคนระแวกนั้นหันมามองเป็นตาเดียว
“ขอโทษ...เรื่องอะไรล่ะ?” คำถามที่งุนงงมาจากปากของเขา
“ก็เรื่องพ่อฉันไง ... ฉันรู้แล้วว่านายอ่ะไม่ได้ฆ่า” เฮ้อ~ ในที่สุดสิ่งที่ฉันเก็บไว้ก็หลุดออกมาซะที
“อ๋อ! ฮ่าๆๆ ไม่เป็นไรหรอก” เฮ้ยย! ตานี่บ้ารึเปล่า โดนกล่าวหาว่าเป็นฆาตรกรยังจะมาหัวเราะอีก
“ขอบคุณมากนะ!” ขอบคุณ?
“นายขอบคุณฉันเรื่องอะไร” อยู่ดีๆก็มาขอบคุณฉัน ท่าจะบ้านะนายนี่
“ฉันไม่ได้ขอบคุณเธอซักหน่อย...” อ่าววว O.o หน้าแตกเลย ทำไมวันนี้อีซิลกิถึงมีแต่เรื่องหน้าเสียตลอด
“ฉันขอบคุณท้องฟ้า...ที่ทำให้เธอไม่เกลียดฉันแล้ว ^^” >//<~ บ้า! ..... ถึงฉันจะพูดน้อยแต่ก็เขินเป็นนะเว้ย
“นายเป็นบ้ารึเปล่า?” ฉันต้องหุบยิ้มไปอีกนานเท่าไหร่นะ มันทรมาน = =’
“ฉันบ้าเพราะเธอนั่นแหละ” O-O !!?
“^^
ไปโรงบาลเลยไป” ยิ้มแรกในรอบปี เขาทำให้ฉันยิ้มได้แล้วหรอ?
3.คุณรู้มาตลอดว่ากึมซองทำอาชีพอะไร แต่คุณไม่อยากให้เขาทำงานนี้ต่อไปอีก คุณจะบอกเขาอย่างไรให้เลิกอาชีพนี้
:: “ปี๊นน! ปี๊นน!” ใครเนี่ย มาบีบแตรเสียงดัง น่ารำคาญ!
“ปี๊นนน!” โอ้ยยย! หนวกหู = =’ จะบีบแตรทำบ้าอะไรเนี่ย
“นี่คุณ หนวกหูชาวบ้านเขา มาบีบแตรอะไรแถวนี้” ฉันเดินออกไปหน้าบ้านเพื่อสั่งสอนเจ้าของรถหรูที่จอดอยู่
“ขอโทษครับคุณผู้หญิง” แต่คนที่โผล่ออกมาจากรถไม่ใช่ใครที่ไหน...ก็นายกึมซองนั่นเอง ว่าแต่เขามาทำอะไร?
“นี่นาย! มาทำอะไร?”
“ปะ...ปะ...ปะ...ขึ้นรถ” เขาเดินเขามาอุ้มฉันขึ้นไปบนรถสปอร์ตเปิดประทุนคันหรู...ว่าแต่เขาจะพาฉันไปไหนเนี่ย
“นาย! จะพาฉันไปไหน? ฉันจะลง” มือของฉันจับประตูเอาไว้ ยังไม่ทันที่จะเปิด เขาก็พุ่งรถคันนี้ออกไปทันที
“ได้ข่าวว่าเธอชอบทะเล...ฉันก็จะพาเธอไปทะเลไง” เขารู้ได้ไง
“ฉันชอบ แต่ไม่ได้อยากไปตอนนี้”
“ฉันรู้ว่าเธออยากนะ...ไม่ได้ไปมาตั้ง 3 ปีแล้วไม่ใช่หรอ”
“...” ฉันนั่งเงียบ เพราะมันคือความจริง
“ไปเถอะนะซึลกิ! ฉันไม่ทำให้เธอผิดหวังแน่ๆ” อันที่จริงฉันเองก็อยากไปนะ... เฮ้อ~ ยอมเขาซักครั้งแล้วกัน เพราะเรื่องนี้มันอยากจริงๆอ่ะ
“ฉันขอแวะปั๊มเติมน้ำมันแล้วก็ซื้อเครื่องดื่มกับขนมหน่อยนะ” กึมซองหันมาบอกฉันก่อนจะเลี้ยวรถเข้ามาในปั๊ม
“อืม” ฉันพยักหน้า
เวลาผ่านไป 3 นาทีเศษๆ ฉันมองเห็นเขาเดินอยู่ในมินิช็อป ฉันว่าดูไปดูมาเขาก็ดูเป็นสุภาพบุรุษเหมือนกันนะ ^^
ครืดด ~ ครืดด~
โทรศัพท์ของกึมซองสั่นอยู่ในช่องเสียบโทรศัพท์เป็นระยะ ซึ่งฉันเองก็ไม่ชอบได้ยินเสียงโทรศัพท์ด้วยสิ มันน่ารำคาญ ... แต่ฉันเองก็ไม่อยากจะรับเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา แค่หยิบมาดูก็พอมั้ง(ไม่ค่อยอ่ะ!)
“ข้อความ!” ฉันพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนที่จะจิ้มข้อความอ่าน ด้วยความอยากรู้(อยากเห็น)
“กึมซอง! ตอนนี้นายอยู่ไหน? นายใหญ่ตามหานายให้ทั่ว เพื่อคุยถึงเรื่องสังหารรายต่อไป.....”ฉันอ่านยังไม่ทันสิ้นข้อความ เขาก็เดินใกล้เข้ามาทำให้ฉันต้องรีบกดปิดและเก็บใส่ที่เดิมอย่างว่องไว
“อ่ะ ! น้ำ” เขายืนน้ำให้ฉันก่อนที่จะเหยียบคันเร่งเพื่อไปสู่ทะเลล ~
“นายเลิกได้มั้ย?” ฉันถามกึมซอง ขณะที่เรากำลังขับผ่านทุ่งหญ้าเขียวขจี
“เลิกอะไรหรอ” ดูเหมือนคำถามฉันจะยังไม่กระจ่างพอ
“เลิกอาชีพนี้น่ะ!”
“เอี๊ยดด~” เสียงเบรกรถดังขึ้น หลังสิ้นคำพูดของฉัน...
“ทำไม?” เขาถามขึ้น แต่ดูเสียงเขาจะไม่อารมณ์ดีเหมือนก่อน
“ฉัน..... คืออ....” สถานการณ์ที่เงียบสงบ มีเพียงเสียงลมกับเสียงนกร้องเท่านั้น ทุกอย่างมันดูอึมขรึมไปหมดเลย
“คืออะไร?” เขายังคงทำเสียงเข้มใส่ฉันเหมือนเดิม
“ฉันเป็นห่วงนาย”
“....”
4.กึมซองสารภาพรักกับคุณและสัญญาว่าจะปกป้องคุณตลอดไป ให้คุณบรรยายการสารภาพรักในฝันตามแบบฉบับของคุณ
:: “ซึลกิ” เสียงของกึมซอตะโกนเรียกฉันมาจากอีกฝั่งนึงของถนน
“มีอะไร” เราทั้งสองตะโกนคุยกันข้ามฝาก ท่ามกลางเสียงรถที่วิ่งสวนไปสวนมานั้นดังจนกลบเสียงของเราสองคนเลย
“เธอว่ามันนี่สวยมั้ย?” ฉันขยับแว่นกันแดดเพื่อมองไปยังสิ่งที่เขาชี้ให้ดู...และมันก็คือโคมไฟเปลือกหอยที่สวยมากๆเลยล่ะ
“ก็ดี!” ฉันตะโกนกลับไป แต่ทำไมเขาไม่ข้ามมาหาฉัน หรือฉันข้ามไปหาเขาล่ะ เอ้ออ...ตะโกนคุยกันอยู่ได้
“ไม่ต้องข้ามมา!” เขาตะโกนบอกฉัน ขณะที่เท้าของฉันจะแตะสู่พื้นถนน...และมันทำให้ฉันเกือบถูกมอเตอร์ไซเฉียว =O=; เรื่องซวยเกิดได้ทุกวันเชียว ... อ่อ! ลืมบอก ตอนนี้ฉันยังอยู่ทะเลอยู่เลย ซึ่งถนนหน้าชายหาดค่อนข้างแคบทำให้เราตะโกนคุยกันได้
“กลับโรงแรมกัน” เดี๋ยว!! ทุกคนโปรดหยุดความคิด ฉันกับเขามาพักอยู่โรงแรมเดียวกันก็จริง แต่อยู่กันคนละห้องนะ
“ฉันหิว” ตอนนี้ท้องฉันมันเริ่มร้องออกมาแล้ว T^T”
“ฮ่าๆๆ! บอกแล้วให้กินข้าวกลางวันไม่เชื่อฉัน” กึมซองยีหัวฉันเบาๆ ซึ่งเขาเป็นคนแรกที่กล้ายีหัวฉัน~ บังอาจนักกก
“ปึ๊กก” ฝ่ามืออรหันของฉันกระทบลงที่แขนข้างซ้ายของเขาอย่างแรง
“โอ้ยยย! ตีผมทำไมคร้าบบ” ยังมีหน้ามาถาม
“ก็นายมายีหัวฉันทำไมล่ะ!”
“ก็เธอมัน...” เขาพูดได้เพียงครึ่งประโยคเท่านั้นก่อนที่จะเข้าสู่สภาวะเงียบ ทำให้ฉัน งง เล็กน้อย แต่ก็ช่างมันเถอะ
บรรยากาศริมทะเล ฉันว่ามันให้ความรู้สึกเหมือนฉันกำลังขึ้นสวรรค์เลยล่ะ เฮ้อ~ คิดถึงทะเลจัง แต่ตอนนี้ฉันว่าฉันควรมองหาร้านขายอาหารนะ เพราะฉันเริ่มรู้สึกปวดท้องแล้วล่ะ
“ซึลกิ! ไปกินนู้นกัน” เขาสะกิดตัวฉันเบาๆ ก่อนที่จะชี้ไปยังร้านอาหารเล็กๆข้างโรงแรม
“นายเลี้ยงนะ...โอเค” หลังสิ้นประโยคนี้ฉันก็รีบวิ่งไปที่ร้านทันที เพราะน้ำย่อยของฉันมันคงอยากจะทำงานแล้วล่ะ ส่วนเขาก็วิ่งตามติดฉันมา
“มากี่ท่านคะ?” พนักงานหญิงหน้าร้านถามขึ้น
“2ค่ะ” พนักงานหญิงได้พาฉันกับกึมซองไปเลือกที่นั่ง ซึ่งฉันเองก็ได้หมายที่นั่งนี้ไว้แล้ว เพราะมันเห็นวิวทะเลชัดมากๆ อีกทั้งยังได้กลิ่นคาวของน้ำทะเล ผสมกับลมทะเลเย็นชื่นใจ ยิ่งคิดฉันยิ่งมีความสุขจริงๆ
“เธอ! สั่งอาหารได้แล้ว คิดอะไรอยู่” ชายตรงหน้าปลุกฉันให้ตื่นจากภวังค์ ก่อนที่เราจะลงมือสั่งอาหาร
“เธอชอบที่นี่มั้ย?” กึมซองถามฉัน
“ก็ดี” ฉันตอบด้วยน้ำเสียงเฉยชาใส่เขา
“เธอชอบฉันมั้ย?” คำถามนี้มันเหมือนมากระแทกที่ใจฉันอย่างจัง ทำไมเมื่อได้ยินคำถามนี้แล้ว ใจฉันต้องสั่นด้วยล่ะ
“...” ฉันได้แต่เงียบ เพราะความรู้สึกของฉันตอนนี้มันคืออะไรกัน
“หน้าเธอแดงนะ” รอยยิ้มของเขาทำให้เลือดฉันสูบฉีดไปทั่วร่างกาย ตอนนี้ฉันกำลังเขินอยู่หรอ
“ฉันเปล่าสักหน่อย” ฉันเอามือทั้งสองข้างขึ้นมาจับแก้มตัวเอง
“ซึลกิ!” กึมซองเรียกชื่อฉันขึ้น
“มีอะไรอีก?”
“ฉัน...” เขาพูดเรียกตัวเองคาเอาไว้ โดยไม่พูดอะไรต่อ มันทำให้ฉันอยากรู้มากๆเลยนะ
“ฉัน?”
“ฉัน...รักเธอ”
“O//O” ฉันตกใจกับประโยคของเขาสุดขีด มันทำให้ฉันรู้สึกใจเต้นแรงผิดปกติ แถมยังรู้สึกว่าทั้งตัวมันชา และดูเหมือนหน้าฉันต้องแดงมากแน่ๆ >//< ทำไงดีล่ะ
“จริงๆนะ!” เขาย้ำคำตอบอีกครั้ง...แต่ถ้าเขายิ่งพูด มันยิ่งทำให้ฉันแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว อาการณ์แบบนี้ฉันไม่เคยเป็นมาก่อน หรือเพราะคนที่สารภาพรักไม่ใช่เขา? ฉันถึงไม่เคยเป็น
“เธอคบกันฉันได้มั้ย?” แล้วคำถามต่อมาก็ทำให้ฉันแทบอึ้ง...แค่นี้ฉันก็จะแย่อยู่แล้วนะกึมซอง
“คือ...” ฉันถึงกับพูดอะไรไม่ออก
“แต่ถ้าไม่ได้...ก็ไม่เป็นไร” เมื่อเห็นสีหน้าฉันอย่างนั้น เขาจึงถอดตัวว่าไม่เป็นไร...ก่อนที่เขาจะบอกว่า
“ผมจะรอ...” ซึ่งประโยคนั้นมันทำให้ฉัน ต้องโต้กลับทันที
“นายจะรออะไร ?”
“หมายความว่า?”
“ก็หมายความว่า นายไม่ต้องรอแล้วไง...ฉลาดหน่อยสิ” ฉันพูดพรางขำ เพราะนั้นคือการที่ฉันตกลงคบกับเขา ด้วยคำพูดที่อ้อมสุด ๆ ฮ่าๆๆ ก็คนมันเขินนี่
...........................................................
โชคดีนะค้า
ความคิดเห็น