ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Incubus ฝันอันตราย ภาค The Cursed Eyes (จบ)

    ลำดับตอนที่ #19 : บทที่ 18

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ย. 58


    บทที่  18

     

    วันต่อมา  หลังอาหารเช้า  ทั้งสี่คนก็ต่างแยกย้ายกันออกไปเป็นสองกลุ่มตามที่คุยกันเอาไว้แล้ว

    ทางด้านอาร์โรห์  เขาสั่งให้ลูน่าเดินหลับตาตามเขามาเพื่อฝึกประสาทสัมผัส  แต่จากสภาพที่ให้เดินตามห่างออกมาจากบ้านได้แค่ช่วงหนึ่งก็สะดุดนู่นชนนี่แล้วท่าทางคงต้องฝึกกันอีกยาว...

    กว่าจะมาถึงจุดที่อาร์โรห์ต้องการ  ลูน่าก็ถึงกับน่วมไปหลายจุด...

    “อาร์โรห์...เจ็บไปหมดแล้วอ่ะ”

    “อย่าเพิ่งบ่นน่า  เจ้ายังต้องฝึกแบบนี้ไปอีกซักพักจนกว่าเจ้าจะเดินจนไม่ชนอะไรได้”

    “แบบเจ้าก่อนหน้านี้น่ะเหรอ?”

    “ใช่”

    ลูน่าได้ยินตังนั้นก็อดทำหน้าอูมไม่ได้  เธอมีพื้อนฐานร่างกายที่ดีมากก็จริง  แต่นั่นก็เพราะว่าเธอหมั่นฝึกฝนร่างกายอยู่เสมอจนมีพื้นฐานร่างกายที่ค่อนข้างดี  แต่ในทางกลับกัน  ทักษะด้านอื่นๆของเธอก็แย่เสียจนต่ำเตี้ยเรี่ยดิน...

    “พื้นฐานร่างกายของเจ้าดีมากแล้วลูน่า  เพราะฉะนั้น  ตอนนี้ข้าจะฝึกด้านอื่นๆให้เจ้าเอาไว้ประยุกต์ใช้ด้วย  ไม่อย่างนั้นอาศัยแค่ทักษะการต่อสู้ระยะประชิดของเจ้าก่อนหน้านี้ไม่มีทางที่จะเอาชีวิตรอดได้ตลอดรอดฝั่งแน่” อาร์โรห์อธิบายด้วยน้ำเสียงเนิบๆพลางทิ้งตัวลงนั่งข้างๆลูน่าที่ทำปากยื่นลูบเนื้อลูบตัวที่เจ็บเพราะไปชนหรือกระแทกกับอะไรต่อมิอะไรมาตลอดทางที่มา

    “เอาล่ะ” อาร์โรห์เอ่ยพลางลุกขึ้นยืนแล้วบิดตัวเบาๆ “ข้าจะให้เจ้าพักสักสองสามนาที  พอข้ากลับมาพวกเราจะเริ่มฝึกกันต่อนะ”

    “เดี๋ยวสิ  แค่สองสามนาทีเองเหรอ?”

    “เยอะแล้วน่า” อาร์โรห์พูดยิ้มๆแล้วเดินออกไปกลางทุ่งหญ้า  เงยหน้าขึ้นสูดหายใจเข้าลึกๆขณะปล่อยให้ร่างถูกกระทบด้วยแสงแดดยามเช้าครู่หนึ่ง  จากนั้นเข้าก็ก้มลงหยิบกิ่งไม้ที่ตกอยู่ใกล้ๆขึ้นมา  กวาดนัยน์ตาสีขาวไปรอบๆครู่หนึ่ง  เมื่อสังเกตเป็นสิ่งที่หมายตาไว้  เขาก็ยกมือข้างที่ถือกิ่งไม้เอาไว้ขึ้นมาในระดับสายตาก่อนจะสะบัดมันออกไปสุดแรง!

    ลูน่ามองภาพนั้นด้วยสีหน้ามึนงง  ไม่เข้าใจว่าอาร์โรห์กำลังทำอะไรกันแน่จนกระทั่งอีกฝ่ายเดินหายเข้าไปในป่าที่อยู่ตรงหน้าและเดินกลับออกมาพร้อมกับไก่ป่าตัวหนึ่งในมือ

    “เจ้าฝึกเสร็จเมื่อไหร่ข้าจะปิ้งไก่ให้เจ้ากิน” อาร์โรห์เอ่ยพลางขยับไก่ในมือไปมาเบาๆด้วยรอยยิ้มเล็กๆ

    ลูน่าอ้าปากค้าง  เบิกตากว้างมองไก่ในมืออาร์โรห์ด้วยววตาพราวระยับ  ถ้าไม่ติดว่าไม่สมควรบางทีน้ำลายเธอคงไหลย้อยลงมาด้วยแล้ว

    ก็ใครให้อาร์โรห์เอาอาหารโปรดมาล่อเล่า!!!?

    “ก็ได้!! งั้นมาฝึกกันเดี๋ยวนี้เลย!!!

    “เดี๋ยวสิ เจ้ายังพักไม่ถึงสามนาทีเลยนะ” อาร์โรห์เอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ  แต่เหมือนว่าลูน่าจะถูกของชอบบังตา  เธอจึงได้ดีดตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว  แทบจะกระโดดเข้ามาหาอาร์โรห์เลยด้วยซ้ำ

    “ไม่ต้องแล้วๆ มาเริ่มฝึกกันเถอะ!!

    “เอาอย่างนั้นก็ได้” พูดจบอาร์โรห์ก็จัดการโยนไก่ในมือที่แน่นิ่งขึ้นไปติดอยู่บนกิ่งไม้ด้านบน “ถ้าเจ้าผ่านข้าขึ้นไปเอามันลงมาได้เมื่อไหร่  เจ้าก็ได้กินเมื่อนั้นแหละ  และข้าสัญญาว่าจะไม่แย่งเจ้าเลยสักคำ  ตกลงไหม??”

    ลูน่าเงยหน้าขึ้นไปมองไก่ที่ติดอยู่กับกิ่งไม้เหนือศีรษะครู่หนึ่ง  จากนั้นจึงหันกลับมาพยักหน้าแรงๆให้อาร์โรห์

    “งั้นเจ้าก็เข้ามาเลย” อาร์โรห์เอ่ยยิ้มๆด้วยท่าทีสบายๆ  ลูน่าที่ได้ยินดังนั้นจึงเริ่มตั้งท่า  และเพียงไม่นานลูน่าก็กระโจนเข้ามาหาอาร์โรห์หวังจะชนะให้ได้โดยเร็วที่สุด

    อาร์โรห์เห็นดังนั้นก็เลิกคิ้วขึ้น  แต่เขาก็จัดการปัดหมัดของลูน่าที่หมายจะพุ่งเข้ามาเสยใบหน้าของตนเองออกไปแล้วเบี่ยงตัวหลบหมัดอีกข้างที่พุ่งตามเข้ามาติดๆ

    เมื่อลูน่าพบว่าการโจมตีติดๆกันสองครั้งของตนไม่ได้ผลจึงผละห่างออกไปตั้งหลักแล้วพุ่งเข้ามาอีกครั้ง  คราวนี้เธอโจมตีด้วยหมัดที่พุ่งเข้าหาช่วงลำตัวของอาร์โรห์  ซึ่งอาร์โรห์ก็ไม่ได้ประมาท  เข้าคอยระวังจุดสำคัญของร่างกายอย่างหน้าอก  ท้องและใบหน้าเอาไว้อยู่แล้วจึงยกมือขึ้นกันได้ทัน  แต่ลูน่าก็ยกเข่าเข้าใส่หมายจะกระแทกเข้าที่ช่องท้องของอาร์โรห์ให้จุกเล่น

    แต่เสียใจ  ความเร็วของลูน่ายังช้ากว่าอาร์โรห์อยู่อีกขั้นหนึ่ง

    อาร์โรห์ออกแรงถีบตัวออกจากบริเวณที่จะถูกโจมตีแล้วยกขาขึ้นเตะเข้าที่สีข้างของลูน่าจนเด็กสาวชาวมนุษย์เสียหลักถลาไปด้านข้างล้มลงกับพื้น

    “อูย...” ลูน่าครางเบาๆพลางถูจุดที่โดนเตะป้อยๆขณะที่กำลังขยับลุกขึ้นนั่ง  พลิกตัวกลับมาหาอาร์โรห์ที่กำลังยืนยิ้มขำแล้วแยกเขี้ยวใส่ “หัวเราะอะไรเล่า!!!?”

    “ก็มันตลกนี่...” อาร์โรห์เอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะจนต้องยกมือขึ้นมาปิดปากหัวเราะเบาๆ

    ลูน่าทำแก้มป่องก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วปักมือที่เลอะดินเล็กน้อย  นัยน์ตาสีมรกตของเธอเหลือบมองอาร์โรห์เล็กน้อย  ยังคงเห็นอีกฝ่ายหัวเราะเบาๆจึงคิดจะฉวยโอกาสนี้เอาไว้

    ลูน่าถีบเท้าพุ่งเข้าหาอาร์โรห์ด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นกว่าตอนแรกอย่างไม่ทราบสาเหตุ  อาร์โรห์ที่เห็นดังนั้นกลับเบิกตากว้างขึ้นแวบหนึ่ง  แต่พริบตาต่อมารอยยิ้มก็กลับมาปรากฏบนใบหน้าของเขาอีกครั้งจนลูน่าไม่ได้สังเกตเห็นและพุ่งเข้าใส่อาร์โรห์โดยไม่รู้ตัวเลยว่าความเร็วของตนเพิ่มขึ้นแม้จะเล็กน้อยก็ตาม

    อย่างน้อยที่เขาฝึกให้ลูน่าไปก่อนหน้านี้ก็ไม่เสียเปล่า

    อาร์โรห์เบี่ยงตัวหลบร่างของลูน่าที่พุ่งเข้าใส่  แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงคือลูน่าที่ถีบตัวตามเขามาได้อย่างน่าประหลาดใจ

    อย่างที่คิด  ลูน่ามีพื้นฐานและพรสวรรค์ในด้านนี้จริงๆ...

    อาร์โรห์ที่เห็นว่าตนเบี่ยงหลบไปก็เท่านั้นถีบตัวกระโดดขึ้นข้ามไปทางฝั่งตรงข้ามกับที่ตอนแรกตนยืนอยู่  จากนั้นก็พุ่งฝ่ามือเข้าใส่ลูน่าที่กลับเบี่ยงหลบไปได้อย่างหวุดหวิด!

    “ประสาทสัมผัสเจ้าไวขึ้นแล้วนี่  คงเพราะแรงกระแทกเมื่อกี้หรือเปล่าเจ้าถึงได้ดีขึ้นขนาดนี้?” อาร์โรห์เอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะแต่กลับได้สีหน้าฉงนกลับมาจากลูน่าเสียแทน

    “ข้าแค่ได้ยินเสียงลมเองนะ?”

    “ก็นั่นล่ะ” ว่าจบอาร์โรห์ก็ชักฝ่ามือกลับ “อย่างน้อยเราก็เสมอกัน”

    “หือ?” ลูน่าทำหน้ามึนงงก่อนจะกลับมายืนให้มั่นอีกครั้ง “ข้าว่าข้าไม่ได้ทำอะไรเลยนะ...”

    “อย่าบอกนะว่าเมื่อกี้เจ้าใช้สัญชาตญาณ?”

    “ข้าสารภาพว่าเมื่อกี้ข้าไม่ได้ใช้สมองเหมือนกับตอนแรกเลย  ปฏิกิริยาตอบสนองเองล้วนๆ”

    “...”

    คำตอบนั้นเรียกแววตาสนเทห์จากร่างสีขาวได้อย่างชะงัด

    หมายความว่าอย่างไรที่การใช้สัญชาตญาณจะดีกว่าการใช้สมองประกอบ?  อย่างน้อยก็ควรใช้สมองในการรับรู้และสัมผัสรวมทั้งคาดเดาการกระทำต่อไป  แต่นี่ลูน่าพูดเหมือนว่าไม่ได้ใช้อะไรเลย  นั่นหมายความว่าอย่างไร??

    ...วันนี้เขาคงมีเรื่องที่ต้องกลับไปถามคาร์ลเสียแล้ว...

    “หากเป็นแบบนั้นจริงเจ้าคงต้องใช้สัญชาตญาณตลอดเวลาแล้วล่ะ” อาร์โรห์ทำเป็นเอ่ยทีเล่นทีจริง  แม้ว่าในใจจะยังนึกถึงเรื่องนี้อย่างเป็นกังวลก็ตาม

    ตกเย็น  อาร์โรห์ยังคงใช้วิธีเดียวกับตอนขามาในการฝึกลูน่า  แม้ผลของการฝึกนี้จะยังคงไม่ต่างจากครั้งแรกเท่าไรนักก็ตาม

    “วันนี้ลูน่าเป็นยังไงบ้าง?” คาร์ลเอ่ยถามเมื่ออยู่กับอาร์โรห์ตามลำพัง   ส่วนสองพี่น้องรีการ์ดก็ขึ้นไปพักผ่อนที่ห้องเรียบร้อย

    “ก็ดีขึ้นบ้าง...” อาร์โรห์เอ่ยเสียงเบา  สมองยังคงคิดถึงเรื่องที่วันนี้พบเจออีกหลายต่อหลายครั้งจนต้องคิดหนัก

    “เจ้าดูมีเรื่องกลุ้มนะ” คาร์ลเอ่ย  เป็นเหตุให้อาร์โรห์ถอนหายใจออกมา

    “นี่คาร์ล”

    “หืม?”

    “เคยเจอคนที่ใช้สัญชาตญาณเอาชนะคนอื่นโดยที่การเคลื่อนไหวเหมือนกับวางแผนมาอย่างดีแล้วหรือเปล่า?” ใช่  ลูน่าที่ใช้สัญชาตญาณราวกับกลายเป็นคนละคน  ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหว  การมองเห็น  ประสาทสัมผัส  เมื่อเธอใช้สัญชาตญาณเธอกลับทำได้ดีจนอาร์โรห์ไม่รู้จะสอนอะไรเธอต่อไปดี

    “คนที่ใช้สัญชาตญาณ? มันก็มีอยู่หรอก  ว่าแต่เจ้าถามทำไม??”

    “คนแบบไหนกันนะ...” เหมือนว่าคำถามที่ถูกถามกลับมาจะถูกมองข้ามเมื่ออาร์โรห์กลับไปจมลงสู่ความคิดของตนเองต่อ  ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่อาจเข้าใจได้จริงๆ  เหมือนเรื่องนี้จะยากเกินไปสำหรับเขา  หรือเขาควรไปถามเดล?

    “เจ้าเป็นอะไรกันแน่น่ะอาร์โรห์  ท่าทางเจ้าดูเครียดมากจริงนะเนี่ย”

    “ข้ากำลังกลุ้มเรื่องลูน่า  ข้าไม่รู้จะสอนนางยังไงดี...” เอ่ยจบอาร์โรห์ก็ชะงักไป “เมื่อกี้เจ้าบอกว่ามีคนจำพวกที่ข้าพูดอยู่ด้วยเหรอ?”

    “แน่นอนสิ” คาร์ลเอ่ยพลางพยักหน้า “ก็พวกที่ครอบครองนัยน์ตาต้องสาปแห่งการกลืนกินไง ดวงตาต้องสาปของชาฮาล  ข้าว่ามันน่าสนใจมากเลยล่ะ  นอกจากจะกลืนกินสิ่งอื่นที่ต้องการ  มันยังสามากรกลืนกินความรู้ให้เจ้าของเอามาใช้ได้ด้วย  น่ากลัวดีไหมล่ะ?”

    “แต่ลูน่าไม่มีนี่นา...” อาร์โรห์กลับมากุมหัวคิดหนักต่อ

    สรุปยังไงกันแน่นะ  ลูน่าไม่มีดวงตาต้องสาป  แต่กลับใช้พลังของดวงตาต้องสาปได้งั้นหรือ?  เรื่องแบบนั้นจะเกิดขึ้นได้จริงๆงั้นเหรอ??

    “ลูน่า? แล้วไปเกี่ยวอะไรกับลูน่าล่ะ??” คาร์ลขมวดคิ้วนึกฉงน

    “วันนี้ระหว่างข้าสอนลูน่า  ทำให้ข้าเห็นว่าเวาลานางต่อสู้...หมายถึง...ระหว่างใช้สัญชาตญาณนางกลับทำได้ดีมากจนข้าไม่มีอะไรจะสอนนาง  แต่พอให้นางคิดว่าจะทำยังไงนางกลับคิดไม่ออก  เหมือนมือใหม่ที่พอมีฝีมือแต่ไร้ประสบการณ์...”

    คราวนี้ถึงคราวคาร์ลเลิกคิ้วขึ้นด้วยความฉงนงงงวยบ้าง

    เรื่องแบบนี้ไม่เห็นจะเคยได้ยินจากที่ไหนเลยจริงๆ  คนที่ไม่มีดวงตาต้องสาปแต่กลับเป็นแบบนี้...เขาคิดว่าจะไม่มีทางมีบนโลกเสียอีก...

    “เอาเถอะ  เรื่องของลูน่าเอาไว้ทีหลังก็ได้  ว่าแต่เจ้าเถอะ  สอนเดลไปถึงไหนแล้ว?”

    คำถามนั้นเรียกคาร์ลเผยยิ้ม

    “ดวงตาต้องสาบคงเริ่มทำงานละมั้ง  อยู่ๆหมอนั่นก็เกิดเรียนได้ไวขึ้นมาซะอย่างนั้น  ทำให้ดูครั้งเดียวก็เป็นแล้ว  ตอนนี้เลยได้เวทไปหลายบท”

    อาร์โรห์พยักหน้ารับด้วยสีหน้าล้าๆ  วันนี้คงเหนื่อยมากจริงๆ  ทั้งๆที่คิดว่าอาการดีขึ้นแล้ว  แต่เหมือนร่างกายเขาจะยังไม่สามารถทำงานหนักๆได้เหมือนเมื่อก่อนหน้านี้  คงต้องอีกพักใหญ่ๆให้อาการดีขึ้นกว่านี้ละมั้ง...

    “เจ้าคงเหนื่อยมาก  ไปนอนพักเถอะ  พรุ่งนี้จะได้มีแรงไปสอนลูน่าแล้วมาคิดเรื่องนี้กันอีกทีหลัง”

    “อืม...” อาร์โรห์รับคำ  ดวงตาปรือปรอยลงอย่างไม่รู้ตัว  คาร์ลที่เห็นดังนั้นส่ายศีรษะเบาๆแล้วจึงพยุงร่างของอาร์โรห์ให้นอนลงบนโซฟา

    เพียงแค่ร่างสัมผัสกับเบาะอ่อนนุ่มของโซฟาไม่นาน  อาร์โรห์ก็จมลงสู่นิทราไปในที่สุด

    คาร์ลเห็นดังนั้นยิ้มขำ  ยกมือขึ้นลูบศีรษะของอาร์โรห์เบาๆทีหนึ่งแล้วจึงหันกลับมาพิงหลังลงกับโซฟาก่อนจะหลับตาลง  สมองคิดประมวลผลถึงเรื่องที่เมื่อครู่เพิ่งจะคุยปรึกษากับอาร์โรห์  ทบทวนถึงตำราหนังสือเท่าที่เคยผ่านตามาเกี่ยวกับเรื่องของนัยน์ตาต้องสาบจนเผลอหลับไปในที่สุด

    เช้าวันใหม่มาเยือนโดยที่สองพี่น้องรีการ์ดตื่นขึ้นมาและลงมาถึงข้างล่างก่อน  พอเห็นสภาพอาจารย์จำเป็นของพวกเขาทั้งสองคนอยู่ในสภาพหลับสนิทคาโซฟาก็ได้แต่หันหน้ามามองกันทีหนึ่งแล้วต่างคนต่างก็ยักไหล่อย่างขำๆแล้วพากันเดินเข้าไปในครัว

    อินคิวบัสทั้งสองตื่นขึ้นมาเพราะกลิ่นหอมของอาหารที่ลอยมาแตะจมูก  พอลืมตาขึ้นมา  สิ่งแรกที่เห็นคือจานอาหารที่ถูกเรียงไว้บนโต๊ะอาหารสี่ที่และสองพี่น้องรีการ์ดที่มองมายิ้มๆ

    คาร์ลมองด้วยสีหน้างงๆ  ทว่าอาร์โรห์กลับสังเกตเห็นความหมายที่แฝงมากับรอยยิ้มนั้น

    ล้อพวกเขาเห็นๆ...

    อาร์โรห์และคาร์ลจัดการตัวเองด้วยเวลาไม่นานนัก  แล้วจึงกลับมานั่งร่วมโต๊ะกับพวกเดลและลูน่า  และเป็นตอนนั้นเองที่มื้อเช้าเริมขึ้นอย่างเงียบๆ

    “พวกเจ้าคงเหนื่อยมาก” อยู่ๆเสียงของเดลก็ดังขัดความเงียบที่กลายเป็นเรื่องปกติบนโต๊ะอาหารของพวกเขาไปแล้วขึ้นจนอาร์โรห์และคาร์ลต้องชะงักมือที่กำลังส่งอาหารเข้าปาก  ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองเขาเป็นตาเดียว

    “ทำไมถึงคิดอย่างนั้น?” อาร์โรห์อดถามไม่ได้  เขาเอียงคอน้อยๆอย่างนึดสงสัย  ชวนน่าเอ็นดู  แต่ก็ไม่มีใครคิดจะบอกเจ้าตัว  ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติน่ะดีแล้ว

    เดลที่ได้ยินคำถามและท่าทีนั้นหันไปหัวเราะกับลูน่า  ก่อนที่จะเป็นเด็กสาวเจ้าของนัยน์ตาสีมรกตที่ยื่นมือมาจิ้มจมูกอาร์โรห์เบาๆ

    “ก็พวกเจ้าเล่นหลับสนิทขนาดนั้น  จะให้พวกข้าคิดว่าอะไรได้ล่ะจริงไหม?” เสียงกลั้วหัวเราะของลูน่าส่งให้อาร์โรห์ต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน  ขณะที่คาร์ลอดพยักหน้ายอมรับความจริงไม่ได้

    ก็มันเรื่องจริง  จะให้เขาเถียงหรือไง?

    อาร์โรห์ทำท่าจะอ้าปากปฏิเสธ  แต่เมื่อเหลือบตามองคนอื่นๆแล้วว่าแม้แต่คาร์ลเองก็ยังยอมรับจึงได้แต่เก็บคำพูดปฏิเสธลงคอไป  เปลี่ยนคำพูดใหม่อย่างจำใจ

    “เหนื่อยก็ได้  ข้ายอมรับ” อาร์โรห์คลายปมระหว่างคิ้วออก  ขณะที่ลูน่าละนิ้วออกจากจมูกเล็กของอาร์โรห์กลับไปนั่งที่ดังเดิม “แต่ข้าบอกเลยว่านั่นเพราะพวกเราไม่มีเวลาแล้ว  ต้องรีบทำให้พวกเจ้าดูแลตัวเองให้ได้มากกว่านี้  ไม่อย่างนั้นพวกเจ้าอาจเป็นอันตรายได้...”

    “เรื่องนั้นพวกข้าก็ไม่ได้บอกว่าจะไม่ฝึกนี่” เดลเอ่ยแทรกคำพูดของอาร์โรห์  เรียกสายตาของทุกคนให้มาจับที่เขาเป็นตาเดียว

    เด็กหนุ่มเจ้าของนัยน์ตาต้องสาปเผยยิ้ม “ก็แค่ว่าจะให้พวกเจ้าได้พักบ้างก็ยังดี”

    “เป็นไปไม่ได้หรอก...”

    “อย่าเพิ่งปฏิเสธสิอาร์โรห์” คาร์ลส่งสายตาปรามเบาๆทั้งๆที่ใบหน้าปรากฏรอยยิ้ม  รู้ดีว่าเดลกับลูน่ายังมีความคิดดีๆอยู่  แค่ว่ายังพูดไม่จบเท่านั้นเอง

    อาร์โรห์เลื่อนสายตามามองคาร์ล  จากนั้นก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วสงบปากนั่งฟังเดลพูดต่อ

    เดลที่เหมือนได้รับสัญญาณว่าพูดต่อได้พยักหน้าเบาๆแล้วจึงเอ่ยต่อ

    “ไหนๆก็ไหนๆ  วันนี้พวกเราก็ไปฝึกด้วยกันทั้งสี่คน  จะได้คอยช่วยกันดูช่วยกันสอน  บางทีข้าอาจจะช่วยสอนลูน่าด้วยก็ได้นะ”

    “น่าสนใจนะ” คาร์ลเป็นคนที่แสดงความคิดเห็นขึ้นมา  อันที่จริงแล้วเขาเองก็อยากเห็น สัญชาตญาณของลูน่าเหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร  การที่เขาจะเห็นด้วยกับเรื่องนี้ก็อาจจะไม่แปลกนัก  ขณะที่อาร์โรห์ขมวดคิ้วด้วยความไม่เห็นด้วย

    ...แต่ก็ไม่รู้จะเถียงกันยังไงดี...

    ...สุดท้ายแล้ววันนี้ทั้งสี่คนเลยรวมกลุ่มกันออกไปฝึกตามที่เดลเสนอ

    การฝึกซ้อมดูจะเข้าที่เข้าทางและราบรื่นได้อย่างไม่น่าเชื่อตลอดเวลาช่วงเช้า  ทั้งเดลและลูน่าดูจะพัฒนาได้เร็วผิดกับเวลาที่สอนตัวต่อตัว  ไปๆมาๆอาร์โรห์เลยยกให้เป็นหน้าที่ของเดลในการสอนลูน่าไป  ส่วนตัวเขาก็มานั่งพักใต้ต้นไม้รับลมเย็นสบายที่พัดผ่านมาเบาๆ

    คาร์ลเองพอคนที่เขาต้องสอนไปสอนลูน่าก็ว่างจนสุดท้ายก็เดินเข้ามานั่งกับอาร์โรห์  คอยมองสองพี่น้องที่ดูจะสนุกสนานกับการฝึกกันเอง

    แต่ยิ่งดูคาร์ลก็ยิ่งแปลกใจ

    การต่อสู้ของลูน่าตลอดการเดินทางคือการใช้สมองวางแผนเสมอ  แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจเทียบได้กับเวลาที่ลูน่าต่อสู้ด้วยจิตสำนึกโดยไม่ได้คิดกลยุทธ์เอาไว้อย่างที่อาร์โรห์เคยบอก  มันมีลักษณะคล้ายกับดวงตาต้องสาบของเดธฮีลที่จะคัดลอกอักขระเวทเข้าสู่สมองของเจ้าของ  แล้วกลั่นกรองออกมาเป็นเวทบทเดียวกันที่มีอานุภาพรุนแรงกว่า

    ทว่าของลูน่าคือการคัดลอกกระบวนท่าของคนอื่น...

    ยิ่งไปกว่านั้นคือเธอใช้มันออกมาโดยไม่รู้ตัว...

    คาร์ลจับคางพลางครุ่นคิดขณะที่ดวงตาสีเงินของเขามองตามการเคลื่อนไหวของลูน่าไปด้วย

    “เป็นยังไง?” อาร์โรห์เอ่ยถามพลางเอียงคอน้อยๆมามองคาร์ล “เป็นแบบที่ข้าบอกไหม?”

    คาร์ลหันมาพยักหน้าให้อาร์โรห์เบาๆ “เป็นแบบที่เจ้าบอก  น่าสงสัยมากจริงๆ”

    อาร์โรห์ที่ได้ยินดังนั้นพยักหน้าทีหนึ่งก่อนจะถอนหายใจแล้วล้มตัวลงนอนจนคาร์ลที่อยู่ข้างๆต้องหันมามอง  ส่วนอาร์โรห์ก็เหลือบดวงตาที่เริ่มปรือน้อยๆมาทางร่างของอินคิวบัสหนุ่มก่อนจะเผยยิ้มที่หาได้ยาก...

    ...แม้จะเป็นเพียงยิ้มเพราะง่วงก็เถอะ...

    “ขอโทษนะ  สงสัยคงต้องขอนอนพักสักหน่อย...”

    “ไม่เป็นไร  เจ้านอนเถอะเดี๋ยวข้า...” คาร์ลยังไม่ทันเอ่ยจบดี  รู้ตัวอีกทีอาร์โรห์ก็ขดตัวเข้ามาหาเขาแล้วหลับสนิทไปเสียแล้ว...

    “อืม...” เสียงครางเบาๆก่อนที่จะขยับร่างเล็กน้อยพาให้คาร์ลส่งเสียงหัวเราะเบาๆก่อนจะยื่นมือออกไปลูบเส้นผมที่ยังคงเป็นสีเงินยวงของอาร์โรห์

    ถึงอย่างไรอาร์โรห์ก็ยังคงดูเป็นเด็กน้อยที่ยังคงอ่อนประสบการณ์  สิ่งที่เคยประสบมาก่อนหน้านี้คงจะเป็นอะไรที่หนักหนาสาหัสสำหรับอาร์โรห์มาก  และบางทีอาจมีเพียงไม่กี่คนที่อยู่ในช่วงรุ่นราวคราวเดียวกับอาร์โรห์แล้วประสบชะตาชีวิเช่นนี้...

    คิดแล้วก็ชวนให้รู้สึกเห็นใจอาร์โรห์จริงๆ แต่ตัวคาร์ลเองก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าคอยอยู่ข้างๆอาร์โรห์ และช่วยเหลืออีกฝ่ายใจเวลาที่อีกฝ่ายต้องการเท่านั้น


    ___________________________________________________________________________________________________________

    ถือโอกาสตอนป่วยมานั่งแต่งแล้วอัพค่า

    ไรท์เป็นหวัดดีเลย์ล่ะ เหอๆๆ

    คนอื่นที่บ้านเขาเป็นหวัดกันตั้งแต่สองเดือนที่แล้ว จนหายกันทั้งบ้านแล้วไรท์เพิ่งมาเป็น

    แถมดันมาเป็นหนักที่สุดในรอบหลายปีเลย แย่จัง

    แกทแพทผ่านไปแล้ว แต่เก้าสามัญกำลังจะมา...//นอนตาย

    เฮ้อ ชีวิตม.หก ฟฟฟ


    สำหรับตอนนี้ถือว่าอาร์โรห์ได้พักแล้ล่ะเนอะ รู้สึกแต่งแล้วตอนนี้อาร์โรห์แลดูน่ารัก ฟฟฟ

    แต่งเสร็จกลับมานั่งอ่านแล้วก็อมยิ้มเลยค่ะ

    ส่วนคาร์ลก็สมเป็นพวกบ้าน้องชา------ //สัญญาณขาดหายกระทันหัน

    ตอนนี้เหมือนครอบครัวสุขสันต์ค่ะ และหวังว่ารีดทุกท่านจะยังไม่เบื่อสำหรับโมเม้นครอบครัวสุขสันต์แบบนี้

    ถ้าเป็นไปได้ ตอนต่อไปก็คงจะกลับมาเดินทางอีกครั้งแล้วค่ะ...

    ...ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดนะ ฟฟฟฟ

    อันที่จริงจบภาคแล้วไรท์กะจะลงตอนพิเศษที่แอบไปซุ่มแต่งด้วยโมเม้นรักน้องชายเกินเหตุของคาร์ลด้วยล่ะค่ะ ฟฟฟ

    แต่สำหรับตอนพิเศษไรท์จะไม่สำปวยหรอก ฟฟฟ

    รอไปลุ้นเอา (และบางทีรีดอาจรอจนเลิกลุ้นกันไปเล-------)

    บอกเลยว่าคนไม่เลื่อนลงมาอ่านตรงนี้อาจจะพลาดครั้งใหญ่เลยล่ะค่ะ (?) ฟฟฟ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×