คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : EP.18 #ป่วย
‘น้องปลอดภัยแล้วนะ พี่อยู่ตรงนี้แล้ว’
เสียงเล็ก ๆ ของพี่ชายที่แสนดีในวัยเด็กของฉันผุดเข้ามาในหัว มันซ้อนทับกับเสียงของผู้ชายร่างสูงที่กำลังสวมกอดฉันอยู่ จู่ ๆ น้ำตาเม็ดใสค่อย ๆ ไหลริน ฉันกอดตอบพลางสะอื้นเบา ๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความตื่นกลัวกับเหตุการณ์เฉียดตายเมื่อครู่หรือเพราะอ้อมกอดที่ฉันแสนโหยหานี้กันแน่
“ฮึก… พี่ไรม์…” ฉันกอดเขาแน่นขึ้น ใบหน้าซุกหาความอบอุ่นแม้น้ำทะเลจะหนาวจัดจนร่างกายสั่นเทาก็ตาม วงแขนแกร่งกระชับกอดฉันแน่นขึ้นเช่นกัน
ทว่า…
“เจ้ารอง! น้องฟอง!” เสียงตะโกนเรียกจากที่ไกล ๆ เรียกสติฉันกับพี่ไรม์แทบจะในทันที และคนที่ตั้งสติได้ไวกว่าก็คือพี่ไรม์ เขาแทบจะผลักฉันออกจากตัวเลยด้วยซ้ำ แต่พอเห็นว่านี่เป็นผืนน้ำเขาจึงเปลี่ยนเป็นพยุงฉันแล้วว่ายกลับเข้าฝั่งแทน
เมื่อปลายเท้าฉันสัมผัสถึงพื้น พี่ไรม์ก็ปล่อยมือออกแล้วเดินจ้ำอ้าวขึ้นฝั่งไปโดยไม่หันมามองฉันเลยสักนิด เป็นแรมพ์ที่พุ่งตัวมาหาฉันแล้วช่วยประคองขึ้นจากน้ำ
“เป็นยังไงบ้างฟอง หนาวไหม” แรมพ์ถอดเสื้อคลุมตัวให้ฉันแล้วพามานั่งพักริมฝั่งโดยมีพี่ร๊อคยื่นน้ำอุ่นให้ ฉันรับมาดื่มเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้ตัวเองก่อนจะเหลือบมองร่างสูงที่รับน้ำจากพี่ร๊อคไปดื่มเช่นกัน สีหน้าของเขากลับมาเย็นชา ไร้อารมณ์อีกแล้ว…
หลังจากเกิดเหตุการณ์น่าตกใจขึ้น พวกเราสี่คนกลับมาที่เกาะโดยสวัสดิภาพ ฉันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและทานข้าวทานยาตามที่พี่ร๊อคจัดหาให้แล้วเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ ก่อนสะดุ้งตื่นอีกครั้งกลางดึกเพราะเสียงท้องฟ้าคำราม แสงสว่างแล่นวาบพร้อมลมกระโชกแรงจนบานหน้าต่างสั่นคลอนไปหมด
เปรี้ยง!
“กรี๊ดด!” ฉันลุกขึ้นนั่งกอดเข่าบนเตียง ใบหน้าฟุบบนแขนร่างกายสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว พายุรุนแรงกระแทกกระทั้นตัวบ้านจนน่าหวาดหวั่น น้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ร่างกายสะดุ้งฮือทุกครั้งที่แสงสว่างแล่นวาบพร้อมเสียงฟ้าผ่าดังลั่น
แกร๊ก
ท่ามกลางเสียงฟ้าฝนดังสนั่น ใบหูได้ยินเสียงลูกบิดประตูดังเบา ๆ ฉันรีบเงยหน้ามองทั้งน้ำตา เงาของร่างสูงพาดผ่านเข้ามา ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นใครเพราะภายในห้องมันมืดมาก มีเพียงแสงสว่างจากท้องฟ้าแล่นวาบเป็นระยะ ๆ
ร่างสูงเดินมาหาฉันช้า ๆ และหยุดยืนข้างเตียง ฉันยกมือขึ้นปาดน้ำตาข้างแก้ม ก่อนจะรั้งมือหนาให้นั่งลงบนเตียงแล้วโผเข้ากอดเขาด้วยความหวาดกลัว
ไม่ว่าคนคนนี้จะเป็นใครก็ตาม ฉันไม่สนใจแล้ว ตอนนี้ฉันหวาดกลัวเกินจะอยู่คนเดียวได้ เขาอาจจะเป็นแรมพ์หรือไม่ก็พี่ร๊อคที่อยู่ห้องใกล้กันแล้วได้ยินเสียงร้องของฉันก็เป็นได้
เวลาผ่านไปพักใหญ่ที่ฉันสวมกอดร่างสูงเพียงฝ่ายเดียว เขาแทบไม่สัมผัสตัวฉันเลย จนกระทั่งรู้สึกได้ถึงฝ่ามือหนาที่ค่อย ๆ ลูบลงบนศีรษะฉันแผ่วเบา ความอ่อนโยนบวกกับอาการเวียนหัวทำให้ฉันเคลิ้มหลับไปในที่สุด
ฉันตื่นเช้ามาด้วยอาการหนักอึ้งร่างกายไปหมด ผิวเนื้อร้อนผ่าวบ่งบอกว่าตัวเองกำลังถูกพิษไข้เล่นงาน ฉันค่อย ๆ ขยับตัวลุกขึ้นนั่งพลันสายตาเหลือบเห็นกะละมังใบเล็กวางอยู่ข้างหัวเตียง คิ้วสวยขมวดเล็กน้อยยามมองถ้วยข้าวต้มควันลอยกรุ่นกับยาและแก้วน้ำข้างกัน
แกร๊ก
“ตื่นแล้วเหรอ” ฉันหันมองร่างสูงที่เดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าห่วงใย แรมพ์นั่งลงข้างเตียงก่อนจัดแจงให้ฉันลุกขึ้นนั่งดี ๆ “เธอไข้ขึ้นสูงมากเลยนะ พวกเราเป็นห่วงแทบแย่แน่ะ นี่คิดว่าถ้าอีกครึ่งชั่วโมงไม่ตื่นจะอุ้มขึ้นเรือพาไปโรงพยาบาลแล้วนะ”
“ขอโทษที่ทำให้ทุกคนเป็นห่วงนะ” น้ำเสียงแหบแห้งของฉันดังแผ่ว ๆ แรมพ์ส่งแก้วน้ำให้จิบ ก่อนยกถ้วยข้าวต้มมาถือแล้วเริ่มเป่ามันเบา ๆ
“ทานข้าวแล้วทานยานะฟอง เดี๋ยวเราป้อน” เขาจ่อช้อนมาที่ริมฝีปากฉัน มันทำให้ฉันมองเขาด้วยความเกรงใจสุด ๆ
“เอ่อ… ฟองทานเองก็ได้นะแรมพ์”
“อย่าดื้อ เราจะป้อน”
เพราะทนต่อสายตากดดันไม่ไหว ฉันจึงยอมอ้าปากรับข้าวต้มที่แรมพ์ป้อนในที่สุด หลังจากทานไปไม่กี่คำฉันก็ส่ายหน้าหนี แรมพ์จึงหยิบน้ำและยาส่งให้ การกระทำของเขาทำให้ฉันหวนนึกถึงเรื่องเมื่อคืน แสดงว่าคนที่ฉันกอดจนหลับไปเมื่อคืนก็คือแรมพ์สินะ
“ขอบคุณนะแรมพ์ ทั้งเมื่อคืนแล้วก็ตอนนี้ด้วย ขอบคุณที่ดูแลฟองนะ” ฉันขยับยิ้มบางเบา แวบหนึ่งที่ดวงตาคมสั่นไหวก่อนมันจะจางหายไป แรมพ์กุมมือฉันเบา ๆ ไม่รู้ทำไมฉันถึงรู้สึกไม่คุ้นเคยกับสัมผัสเขาเลย มันรู้สึก… แตกต่างจากเมื่อคืน…
เพราะฉันเกิดป่วยกะทันหันทำให้ทริปฮันนีมูนล่มไม่เป็นท่า พวกเราพักบนเกาะอีกหนึ่งคืนเพื่อรอให้ไข้ของฉันลดลงจนสามารถเดินทางกลับได้ และในวันถัดมาตอนที่อยู่บนเรือ ฉันสังเกตเห็นว่าพี่ไรม์มีท่าทางอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด สีหน้าเขาเหมือนคนกำลังป่วย แม้ยังคงความเย็นชาก็ตาม
“เป็นยังไงบ้างฟอง อาการดีขึ้นบ้างไหม” ฉันละสายตากลับมาหาพี่ร๊อคที่นั่งลงด้านข้างกัน มือหนาทาบลงบนหน้าผากฉันเบา ๆ ก่อนขยับยิ้มโล่งใจที่เห็นว่าไข้ฉันลดลงแล้ว
“ดีขึ้นมากแล้วค่ะ แต่ว่า…” ฉันเว้นช่วงพลางเลื่อนสายตามองไปทางพี่ไรม์อีกครั้ง “เขา… ดูอาการไม่ค่อยดีเลยนะคะ เป็นอะไรหรือเปล่านะ…”
“หืม? อ้อ… เจ้ารองน่ะเหรอ” พี่ร๊อคมองตามสายตาฉันก่อนจะพูดงึมงำในลำคอจนฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง “ก็สมควรละนะ เล่นอดหลับอดนอนดูแลทั้งคืนเลยนี่”
“เอ๊ะ… ว่าไงนะคะ?” คิ้วสวยขมวดมุ่น มองพี่ชายคนโตของบ้านกิตติโสภณ ซึ่งเขาทำเพียงขยับยิ้มบางตอบกลับมาแล้วเสสายตาไปทางร่างสูงของน้องชายคนกลางแทน
“ไม่มีอะไร แค่หมั่นไส้เสือซึนน่ะ”
ความคิดเห็น