ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องสมัครตัวละครต่างๆ

    ลำดับตอนที่ #183 : สมัครเรื่อง KnB ll THE CASTLE

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ค. 61




    แม้ว่าแสงดาวกำลังสว่างสุกใส
    แต่คุณกำลังมองอะไรอยู่นะ

    ฉันคิดว่าคุณกำลังจะหายไปซะอีก
    เมื่อเวลาที่รอคอยได้จบลง
    ตอนนี้ฉันจะปล่อยคุณไป
    ฉันอยากจะเก็บคุณเอาไว้เงียบๆ ในห้องของฉัน คืนนี้
    ในกลางคืน ค่ำคืนนี้ ท่องไปกับท้องฟ้ายามราตรี


    Song : Time for moon night [gfriend]

    ปล.เพลงไม่ได้เกี่ยวอะไร เพียงแค่ชอบเฉยๆค่ะ(?)



    APPLICATION

     


     

    คุณคิดว่าคุณสำคัญถึงขนาดที่ฉันจะต้องทำตามคำสั่งคุณหรอคะ?”

     

    ชื่อ-นามสกุล : คาซุกิ อาเคมิ [Kazuki Akemi]

     

    ชื่อเล่น : อาเคมิ , อามิ [Akemi , Ami]

     

    ความหมาย : อาเคมิ : พระอาทิตย์ตกที่สวยงาม

                คาซุกิ : ความหวังที่สดใส

     

    คู่ครอง : อาคาชิ เซย์จูโร่

     

    ลักษณะทางกายภาพ : อาเคมิเป็นสาวสวยหน้าคม เธอมีเรือนผมสีน้ำตาลเปลือกไม้ยาวเกือบถึงกลางหลัง โดยปกติแล้วแม่นางจะปล่อยผมและถักเปียหนึ่งข้างทางด้านขวา นอกจากนี้เจ้าตัวยังมีดวงตาคมโตสีน้ำตาลเปลือกไม้เช่นเดียวกับเส้นผม ดวงตาที่คมโตนี้ทำให้เธอดูน่าเกรงขาม ดูหยิ่งยโส แต่ในขณะเดียวกันก็ดูน่าหลงใหล อาเคมิมีขนตางอนเข้ากับดวงตาเป็นอย่างดี บวกกับคิ้วโก่งสวยของเธอยิ่งทำให้ดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้นไปอีก จมูกโด่งขึ้นพอดูดี นอกจากนี้อาเคมิยังมีริมฝีปากบางสวยสีอมชมพูดูสุขภาพดีน่าลิ้มลอง(?) อาเคมิมีผิวขาวอมชมพูอย่างสุขภาพดีเนื่องจากเธอดูแลตนเองเป็นอย่างดี แก้มใสมักจะขึ้นสีแดงฝาดด้วยเลือดดูน่ารักน่าชังไปอีกแบบหนึ่ง อาเคมิสูง 163 ซม. และหนัก 48 กก.

     

    ลักษณะทางจิต :

                    ถ้าจะให้กล่าวถึงจุดเด่นของอาเคมิแล้วล่ะก็ คงจะหนีไม่พ้นความหน้านิ่ง ความสง่างาม และความงดงามของเธอ ด้วยความที่เธอเป็นคนที่มีกิริยามารยาทที่ดูดีอย่างคนที่ได้รับการสอนเรื่องมารยาทอย่างเข้มงวดมาตั้งแต่เด็กจนกลายเป็นนิสัยที่ติดตัวไปแล้วนั่นเองเช่นต้องนั่งหลังตรง ต้องหัวเราะเบาๆอย่างผู้ดี(?) อย่าแสดงท่าทางเหมือนเด็กผู้ชาย เป็นต้น อาเคมินั้นออกจะดูหยิ่งโดยธรรมชาติ ด้วยเพราะเจ้าตัวมีใบหน้านิ่งๆไม่ค่อยแสดงออไม่ว่าจะมองเธอกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็จะเป็นเธอทำหน้านิ่งอยู่เสมอๆ และด้วยดวงตาที่ค่อนข้างคมทำให้เหมือนกับว่าเธอมองแบบกินเลือดกินเนื้อ(?)อยู่บ่อยๆ จึงทำให้เธอดูหยิ่งและน่ากลัวมากยิ่งขึ้นไปอีก ยกเว้นเวลาที่เจ้าตัวต้องอยู่ในงานสังคม หรืออยู่กับคนที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องด้วยแม่นางจะยิ้มให้นิดๆพอสวยๆคงความสง่างามเอาไว้ แต่ตัวของอาเคมิเองก็รู้ดีว่ามันก็เป็นเพียงแค่ยิ้มจอมปลอม อาเคมิเป็นคนที่เก็บอารมณ์เก่งสังเกตได้จากการที่เธอมักจะหน้านิ่งอยู่เสมอ หรือไม่ก็ยิ้มแบบปลอมๆออกมาแล้วแต่สถานการณ์ เธอจะเก็บความรู้สึกของตนเองเอาไว้ทำให้ไม่ค่อยมีใครรู้หรรอกค่ะว่าเธอรู้สึก หรือคิดอะไรอยู่ แต่ถึงกระนั้นถ้าสังเกตดีๆแล้วจะเห็นว่าอาเคมิเป็นคนที่แสดงความรู้สึกต่างๆออกมาทางดวงตา ถ้าโกรธดวงตาจะดูดุดันมากขึ้นหลายเท่า ถ้าเศร้านัยน์ตาจะดูเศร้าตามทันที หรือถ้ามีความสุขตาของเธอก็จะดูอ่อนขึ้นในทันทีค่ะ

                          อาเคมิไม่ใช่ผู้หญิงที่มีดีแค่หน้าตาสวยๆ และความสง่างามเพียงแค่นั้น แต่เจ้าตัวยังเป็นคนที่ค่อนข้างฉลาดอีกด้วย ฉลาดในที่นี้หมายถึงฉลาดทั้งด้านความรู้ ความคิด และการวางตัว นอกจากอาเคมิจะได้รับการสอนเรื่องมารยาทมาเป็นอย่างดีแล้ว เรื่องวิชาความรู้นั้นก็ไม่ได้ด้อยไปยิ่งกว่าเลยค่ะ อาเคมิได้รับการสอนในหลายแขนง แต่ที่เธอถนัดและชอบมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ การไขปริศนา และดาราศาสตร์ค่ะ ไม่เพียงเท่านั้นเธอยังมีความรู้ในเรื่องเกี่ยวกับงานบ้านงานเรือนอีกด้วยค่ะ แต่ด้วยความที่ไม่ชอบเลยไม่ตั้งใจเรียนมากนัก(?) พูดง่ายๆคือพอรู้ให้ไม่ให้อายคนอื่นก็เพียงเท่านั้นเองค่ะ ในส่วนของฉลาดด้านการคิดนั้น อาเคมิเป็นคนที่ค่อนข้างจะมีความคิดเป็นผู้หญิงคิดอะไรค่อนข้างจะรอบด้าน และรอบคอบ นอกจากนี้ยังเป็นคนที่คิดแก้ปัญหาได้ดีไม่แพ้ผู้ชายเลยล่ะค่ะ ในส่วนสุดท้ายคือฉลาดในการวางตัว ถึงว่าโดยปกติอาเคมิจะนิ่งๆ และออกจะไม่ชอบเมื่อตัวเองโดนบังคับแต่อาเคมิก็ยังเป็นคนที่รู้ตัวว่าในสถานการณ์นั้นควรจะทำตัวอย่างไร ควรจะพูดปฏิเสธ ควรจะทำสายตาเหวี่ยง(?)ใส่ ควรจะโวยวาย หรือจะยอมยิ้มรับโดยดีถึงแม้ว่าจะไม่อยากทำตามก็ตาม เป็นต้น หรือถ้าในงานสังคมจะให้อาเคมิเดินออกไปแล้วทำหน้านิ่งใส่ก็คงจะไม่ได้ เพราะนอกจากจะถูกมองไปในทางที่ไม่ดีแล้ว ยังถูกนินทา แถมอาจจะโดนที่บ้านด่าอีกด้วย สู้ออกไปยิ้มให้มันจบๆไปดีกว่า ถึงจะฝืนตัวเองไปบ้าง แต่ถ้าแลกกับการที่ไม่ถูกที่บ้านด่ามันก็คุ้ม

                       และด้วยความที่โตมาโดยการที่มั่นใจในตัวเองเข้าไว้ เพราะความมั่นใจในตนเองนั้นจะทำให้ดูสง่างาม และน่านับถือมากขึ้น แต่อาเคมิก็เคยคิดว่าถึงตัวเองจะไม่ได้ถูกสอนมาให้มีความมั่นใจในตนเอง ตัวเองก็คงจะมีความมั่นใจในตนเองมากอยู่ดี เพราะตัวเธอเองนั้นมีความมั่นใจในตนเองค่อนข้างสูง ประมาณว่าถ้าให้ออกไปอยู่ต่อหน้าคนจำนวนมากเธอก็จะไม่รู้สึกอะไร หรือแม้แต่เผลอไปทำอะไรเปิ่นๆต่อหน้าคนอื่นเธอก็ไม่ใช่พวกที่จะสูญเสียความมั่นใจในตนเองไปง่ายๆ หรือต่อให้สูญเสียความมั่นใจ ความมั่นใจก็สามารถกลับมาได้อย่างรวดเร็ว หรือในเรื่องของความคิดเองอาเคมิเองก็เป็นคนที่มั่นใจเช่นเดียวกัน เธอจะไม่มีการมานั่งคิดว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับความคิดของเธอ หรือคนอื่นจะมองว่าเธอคิดอะไรแปลกๆ อาเคมิเป็นคนที่ค่อนข้างจะไม่ตามใคร จะทำตามที่ตนเองพอใจ โดยไม่สนใจคนอื่นว่าเขาจะว่าอย่างไร ดังนั้นจึงไม่แปลกที่อาเคมิจะไม่ชอบการถูกบังคับให้ทำหรือคิดในสิ่งต่างๆที่ตนเองไม่ได้อยากจะทำ อาเคมิจะแสดงออกถึงการต่อต้านโดยการพูดออกไปตรงๆเลยค่ะว่า ไม่ทำ และจะพยายามยืนยันจนถึงที่สุดว่าจะไม่ทำตาม แต่ถ้าเป็นกับครอบครัวแล้วโดยส่วนใหญ่ก็จะลงท้ายด้วยการยอมทำตามทุกที เพราะเธอไม่อยากจะทะเลาะด้วยและมองว่าพวกเขาบังคับเธอเพราะผลประโยชน์ของครอบครัวทั้งนั้น ถึงจะฝืนตนเองแต่ก็ดีกว่ามานั่งทะเลาะกับคนในบ้าน และทนกับบรรยากาศมาคุในบ้าน

                       นอกจากอาเคมิจะหน้านิ่งแล้ว ในส่วนของลักษณะนิสัยเองเธอก็เป็นคนที่นิ่งๆเช่นเดียวกัน ตัวของอาเคมิเองเป็นคนที่สามารถอยู่นิ่งๆได้ถึงแม้ว่าจะไม่มีอะไรให้ทำก็ตาม เธอจะนั่งคิดนู้นนี้นั้นไปเรื่อยๆ หรือในสถานการณ์ที่มีคนมาโกรธใส่เธอ โวยวายใส่เธอ อาเคมิก็จะทำเพียงแค่มองหน้าคนๆนั้นนิ่งๆและปล่อยให้เขาพูดในสิ่งที่เขาอยากพูดต่อไป และอาจจะมีการตบท้ายด้วยคำว่า อะไรนะ พอดีเมื่อกี๊เราไม่ได้ฟังน่ะ พร้อมกับยิ้มให้เบาๆหนึ่งที แล้วตีหน้าซื่อว่าตัวเองไม่ได้ยินจริงๆกลับไป นอกจากอาเคมิจะเป็นคนที่นิ่งๆแล้วเจ้าตัวยังเป็นคนที่มีความใจเย็นมาก ถ้าสมมติว่านัดไว้แล้วมาเลตเธอก็จะนั่งรอโดยที่จะไม่โวยวายอะไร เพียงแค่ถามเหตุผลที่มาสายเท่านั้นเอง ด้วยความที่ใจเย็นนี้ทำให้อาเคมิกลับกลายเป็นคนที่ดูเฉื่อยช้าในสายตาของคนอื่น แต่ในความเฉื่อยช้านั้นเธอจะนั่งคิดไปด้วย และเตรียมการไปด้วยทำให้งานของเธอออกมาดีไม่แพ้คนอื่นเลยทีเดียวค่ะ จะเรียกว่าเธอเป็นคนที่รอบคอบ และต้องมีแผนการในการทำสิ่งต่างๆก็ได้ค่ะ เช่นถ้าโดนสั่งให้ทำงาน อาเคมิจะไม่ทำเลยในทันที เจ้าตัวจะต้องมานั่งวางแผนกับตัวเองก่อนว่าจะทำอะไรก่อนหลัง แต่ละอย่างต้องทำให้เสร็จภายในวันที่เท่าไหร่ ต้องใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง เมื่อวางแผนเสร็จแล้วจึงจะเริ่มทำงานได้

                     ถึงแม้ว่าอาเคมิจะถูกสอนมาให้มีกิริยามารยาทอย่างผู้ดี แต่โดยปกติแล้วเจ้าตัวกลับเป็นคนที่ค่อนข้างจะพูดจาตรงไปตรงมา ยกเว้นแค่ตอนออกงานสังคมที่ไม่สามารถพูดในสิ่งที่คิด แต่ถ้ากับคนที่เธอเหม็นขี้หน้าอยู่แล้ว ต่อให้อยู่ต่อหน้าคนเยอะๆเธอก็จะพูดจาตรงไปตรงมาอยู่ดีค่ะ อาเคมิมองว่าการพูดอ้อมค้อมนั้นทั้งเสียเวลา ทั้งทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อนได้ง่าย การพูดออกไปตรงๆจึงเป็นทางที่ดีที่สุดสำหรับแม่นาง เธอเป็นคนประเภทที่บอกออกไปเลยว่าฉันไม่ชอบอันนี้นะ ฉันคิดว่าอันนี้มันไม่โอเค ฉันไม่ชอบนิสัยแบบนี้ของเธอ หรือถ้ามีอะไรให้ติก็จะติออกไปตรงๆเลยค่ะ แต่ถึงกระนั้นอาเคมิก็ยังเป็นพวกที่คิดก่อนพูดอยู่ดี ว่าอะไรสมควรที่จะพูด อะไรที่ไม่ควรจะพูด ในบางสถานการณ์อาเคมิก็ไว้หน้าอีกฝ่ายหนึ่งด้วยการพูดแบบสองต่อสองเพื่อไม่ให้เขาอายใคร อาจจะพูดด้วยประโยคที่ฟังแล้วเบากว่าสิ่งที่เธอคิดอยู่ หรืออาจจะใช้วิธีการพูดอ้อมๆถึงแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยชอบก็เถอะ แต่ถ้าเพื่อไม่ทำให้คนอื่นสูญเสียความมั่นใจในตนเองเธอก็ยอมที่จะพูดค่ะ เช่นถ้าหากเธอเห็นคนแต่งกายไม่เหมาะกับตัวเอง เธออาจจะคิดว่าคนๆนี้เด๋อ(?)เสียจริงๆ แต่กลับพูดออกมาว่า ชุดนี้ก็สวยนะ แต่ลองดูชุดอื่นดูสิ เธออาจจะสวยมากกว่านี้ก็ได้

                     ถึงแม้ว่าอาเคมิจะดูเป็นผู้หญิงที่ดูหยิ่ง ดูนิ่งๆ ออกจะเย็นชา แต่ใครจะรู้ว่าจริงๆแล้วเธอเป็นคนที่ค่อนข้างจะอ่อนโยนคนหนึ่งเลยละค่ะ ความแข็งนอกอ่อนในของแม่นางนี้มีอยู่ในตัวของเธออยู่ตลอด แต่เธอต้องแสดงออกถึงความเด็ดขาด และความเข้มแข็งอยู่เสมอ อาเคมิจะแสดงออกถึงความอ่อนโยนมากขึ้นเมื่ออยู่กับเด็กและคนที่เธอรัก เธอจะยิ้มมากขึ้น น้ำเสียงที่พูดจะอ่อนลง แถมยังดูน่ารัก(?)มากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว เอาจริงๆแล้วอาเคมิเป็นคนที่ค่อนข้างจะคิดถึงผู้อื่นก่อนตัวเองอยู่เสมอ เป็นห่วงผู้อื่นเสมอ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้แสดงออกมาตรงๆก็ตาม สังเกตได้จากการที่เธอจะไม่พูดทำร้ายจิตใจคนอื่นยกเว้นเสียแต่ว่าเธอจะเหม็นขี้หน้า ถ้ามีอะไรให้ช่วยเธอก็จะพยายามช่วยให้ได้มากที่สุด ติดแค่ความรักษามาดของเธอนี่แหล่ะค่ะที่อาจจะทำให้ดูน่าหมั่นไส้ไปบ้าง เช่นถ้าจะช่วยเนี่ยตอนแรกจะพูดเหมือนไม่ช่วยก่อน แต่สุดท้ายก็ช่วยอยู่ดีโดยอาจจะพูดว่า ที่ช่วยเพราะสงสารหรอกนะ หรือถ้าเกิดเห็นว่าคนอื่นหกล้มเธอก็อาจจะยื่นมือออกไปให้จับ แต่หน้านี่ก็จะนิ่งๆนะคะ หลังจากที่ช่วยเสร็จก็จะเดินจากไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

                       อย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่าอาเคมิเป็นคนที่มีใบหน้าที่นิ่งเฉย ไม่ค่อยจะแสดงความรู้สึกของตนเองออกมาทางใบหน้ามากสักเท่าไหร่นัก แต่ถึงกระนั้นก็ยังสามารถรับรู้ถึงความรู้สึกของเธอได้ผ่านทางแววตาที่ไม่เคยจะโกหกผู้อื่น และตัวของอาเคมิเอง แต่ถึงดวงตาของเธอจะแสดงความรู้สึกออกมาแล้วก็ตามแม่นางก็ยังจะปากแข็งเกี่ยวกับความรู้สึกของตนเองอยู่ดี ถ้าถามว่าโกรธหรอก็จะตอบว่าไม่ได้โกรธแค่หงุดหงิด หรือถ้าถามว่าเสียใจหรอเธอก็จะตอบว่าไม่ได้เสียใจ ทั้งๆที่ดวงตาของเธอแสดงออกมาหมดแล้วว่าเธออยากจะร้องไห้ออกมาแค่ไหน หรือแม้แต่ในเรื่องของความรักแม่นางก็ยังจะปากแข็งเหมือนกันค่ะ ถ้าถามว่ารักไหมเจ้าตัวก็จะบอกว่าไม่ได้รัก ทั้งๆที่ดวงตานี่สื่อถึงความชอบไปหมดแล้ว แต่ถ้าเธอมีคนรักแล้วคนรักถามเธอว่ารักไหม เธอก็จะทำเพียงแค่พูดประมาณว่ารู้อยู่แล้วจะถามทำไม พร้อมกับหน้าที่แดงขึ้นเล็กน้อย ทำให้เธอดูน่าเอ็นดูมากขึ้นเชียวล่ะค่ะ

                       อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วว่าอาเคมิเป็นคนที่จะไม่แสดงอารมณ์และความรู้สึกของตนเองออกมา แต่อาเคมิเองก็เคยมีการระเบิดความรู้สึกของตนเองออกมาเช่นเดียวกันค่ะ ซึ่งนั้นก็นับครั้งได้เพราะโดยปกติแล้วเธอจะสามารถควบคุมตนเองได้ค่ะ เวลาที่ระเบิดความรู้สึกจะค่อนข้างน่ากลัว เพราะเหมือนว่าความรู้สึกและความในใจของเธอจะถูกพูดออกมาทั้งหมด ถึงแม้ว่าโดยปกติเธอจะเป็นคนที่คิดก่อนพูดเสมอ แต่ในตอนที่ระเบิดความรู้สึกออกมาจะกลายเป็นว่าไม่คิดก่อนพูดไปเลยล่ะค่ะ เธอจะพูดถึงความรู้สึก และความคิดของเธอที่คนอื่นอาจจะไปรู้มาก่อนว่าเธอคิดแบนั้นถ้าเธอเสียใจมากๆเธอก็อาจจะพูดถึงความผิดหวัง และความเศร้าของเธอออกมาทั้งหมดพร้อมกับร้องไห้อย่างหนักไปด้วย หรือถ้าหากโกรธมากจนระเบิดออกมาเธอก็จะพูดด้วยน้ำเสียงที่ออกจะเกรี้ยวกราด(?)กว่าเดิมมาก ถ้าเรื่องไหนที่สามารถทำให้เธอระเบิดความรู้สึกออกมาได้นั่นแสดงว่าเรื่องนั้นหนักหนาเกินกว่าที่ตัวเธอเองจะแบกรับความรู้สึกของเธอเอาไว้ได้ค่ะ

                       อาเคมินั้นเป็นคนประเภทที่ไว้ใจคนยาก แต่ถ้าไว้ใจแล้วก็จะให้ทั้งใจ เวลาที่อาเคมิได้รู้จักคนใหม่ๆเพิ่มเติม อาเคมิจะยังไม่ไว้วางใจก่อนค่ะ เธอจะไม่พูดเรื่องส่วนตัวให้ฟัง แต่ถ้ายิ่งสนิทเธอก็จะยิ่งเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟังมากขึ้นมากขึ้นตามลำดับ การที่จะทำให้อาเคมิไว้วางใจเพิ่มขึ้นนั้นเพียงแค่แสดงออกอย่างจริงใจก็พอค่ะ เพราะเธอมองออกว่าการะกระทำไหนที่จริงใจกับเธอ หรือการกระทำไหนที่ไม่น่าไว้วางใจ และถึงแม้ว่าความไว้วางใจจะเพิ่มขึ้น แต่เธอก็ยังเพื่อใจไว้กันเธอคาดเดาผิดด้วยค่ะ ดังนั้นคนที่สนิทกับเธอมากๆจนสามารถไว้วางใจได้มีอยู่เพียงแค่ไม่กี่คน จะมีคนหรือสองคนเท่านั้นแหล่ะค่ะที่จะรู้เรื่องของเธอเยอะมาก และเป็นเพื่อนที่ดีต่ออาเคมิมากที่สุด เมื่ออาเคมิไว้วางใจใครไปมากๆแล้วเธอก็จะยิ่งทุ่มสุดตัวให้กับคนๆนั้น ด้วยความที่กว่าจะไว้ใจใครก็ค่อนข้างยาก แถมเธอยังระมัดระวังตนเองเป็นอย่างดีไม่ให้วางใจใครง่ายๆ ดังนั้นเมื่อถูกคนที่ไว้ใจมากๆหักหลัง เธอจะเจ็บปวดมาก และจะตัดขาดความสัมพันธ์กับคนๆนั้นทันที ราวกับว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อนค่ะ แต่ถ้าจะต้องร่วมงานกัน อาเคมิก็คูล(?)พอที่จะทำงานด้วยค่ะ เธอจะไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาปนจนไม่ได้ทำงานเป็นอันขาด

                              

     

    ชอบ : ประวัติศาสตร์ (เพราะรู้สึกสนุกเหมือนฟังเรื่องเล่าเรื่องหนึ่ง จะชอบนั่งอ่านเวลาว่างๆ)

                ไขปริศนาต่างๆ (เพราะรู้สึกสนุก เมื่อเห็นก็อดไม่ได้ที่จะไขปริศนา)

                ดูดาว (เพราะสวย และรู้สึกสงบที่ได้มอง เธอจะออกไปดูดาวทุกครั้งที่มีโอกาส)

                อยู่คนเดียว (เพราะรู้สึกสงบ และชอบที่จะได้อยู่กับตนเอง)

                อิสรเสรี (เพราะได้ทำตามใจตนเองในสิ่งที่ตนเองได้ทำ ถ้ามีอิสระจะร่าเริงเป็นพิเศษ)

                อากาศเย็น (เพราะรู้สึกไม่อบอ้าว สบายตัว เวลาถึงฤดูหนาวจะร่าเริงเป็นพิเศษ)

                หมา (เพราะน่ารัก ทำให้เธอมีความสุข ถ้าเห็นก็อดที่จะเข้าไปเล่นด้วยไม่ได้)

                น้ำหอมกลิ่นดอกไม้ (เพราะหอมและทำให้เธอรู้สึกสบายใจ จะต้องฉีดทุกเช้า)

                เด็ก (เพราะน่ารักและสดใส สามารถทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้)

     

    ไม่ชอบ : การถูกบังคับ (เพราะไม่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้ เมื่อถูกบังคับจะต่อต้านทันที)

                 ของที่มีรสขม (เพราะไม่อร่อย ._. เวลาเจอของขมๆจะเขี่ยทิ้งทันที)

                 ที่ๆมีฝุ่นเยอะ (เพราะจะจาม จึงมักจะหลีกเลี่ยงไม่เข้าไปที่ที่มีฝุ่นเยอะ)

                 อากาศร้อน (เพราะทำให้ไม่สบายตัว เมื่อถึงฤดูร้อนทีไรก็จะฉุนเฉียวง่ายขึ้นทุกที)

                 ที่ที่คนเยอะ (เพราะทั้งอึดอัด ทั้งเสียงดัง จะพยายามหลีกเลี่ยงไม่ไปในที่ที่คนเยอะ)

     

    กลัว : การถูกคนที่ไว้ใจหักหลัง (เพราะไว้ใจคนยาก และเมื่อไว้ใจใครแล้วจะทุ่มเทให้หมด เมื่อถูกหักหลังจะเสียใจมาก และจะตัดความสัมพันธ์กับคนๆนั้นทันที

              แมงมุม (เพราะมีขาหยุบหยับ(?) เมื่อเห็นจะแสดงออกถึงความกลัวอย่างเห็นได้ชัดอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนคือไม่กล้ามอง และตัวสั่น)

     

    ภูมิหลัง : อาเคมิเป็นลูกสาวคนเล็กของตระกูลคาซุกิซึ่งเป็นตระกูลขุนนางเก่า ซึ่งตอนนี้ทางบ้านกำลังทำธุรกิจเกี่ยวกับการค้าอยู่ อาเคมิมีพี่ชายอยู่หนึ่งคนซึ่งปัจจุบันกำลังทำงานอยู่ที่บริษัทของตระกูล

                  ตั้งแต่เธอจำความได้ เธอก็จำได้ว่าที่บ้านมักจะชอบบังคับให้เธอทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการอยู่เสมอไม่ว่าจะให้เธอเรียนอย่างหนัก หรือเรียนงานบ้านงานเรือนที่เธอไม่ชอบ แต่ถึงกระนั้นเธอก็อดทนที่จะทำมันอยู่ดี นอกจากนี้ทางบ้านยังเริ่มบังคับเธอในเรื่องเล็กๆน้อยๆเช่นการคบเพื่อนที่เธอต้องคบกับเพื่อนที่อยู่ในระดับเดียวกันเท่านั้นเป็นต้น ไม่ใช่แค่เธอเท่านั้นที่ถูกบังคับ แต่พี่ชายของเธอเองก็ถูกบังคับเช่นกัน ความจริงแล้วเขาอยากเป็นนักแต่งเพลงแต่ก็ต้องทิ้งความฝันของตัวเองมานั่งเก้าอี้คณะกรรมการของบริษัททั้งๆที่ตัวเองก็ไม่ได้ชอบเลย แต่ยังโชคดีที่คนรักของเขาเป็นคนที่มีฐานะเช่นเดียวกัน ทางบ้านจึงไม่ได้ว่าที่เขาจะมีความรัก

                   ถึงแม้ว่าอาเคมิจะถูกบังคับให้ทำในสิ่งต่างๆโดยที่เธอไม่เต็มใจ แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เธอเองก็รู้สึกดีที่ทำตามที่ครอบครัวบังคับ ในวันงานเลี้ยงของบริษัทตอนที่เธออายุได้หกปี เธอได้ถูกแนะนำให้รู้จักกับลูกชายของตระกูลอาคาชิที่เป็นอีกหนึ่งตระกูลใหญ่ เธอรู้ในทันทีว่าที่ถูกแนะนำให้รู้จักกันก็เพื่อที่ในอนาคตจะได้ทำธุรกิจได้ง่ายขึ้น แต่อาคาชิกลับเป็นคนที่ฉลาด และใจดีคนหนึ่ง แถมยังตามใจเธอแบบที่ไม่ค่อยจะมีใครทำ ทำให้เธอรู้สึกชื่นชม และชอบที่จะอยู่กับเขา ทั้งสองได้มีโอกาสเจอกันอยู่บ่อยๆจนทำให้สนิทกันมาก และทำให้อาเคมิปลื้มเขามากยิ่งขึ้นไปอีก แต่วันหนึ่งเขาก็ได้หายไปแบบไม่บอกไม่กล่าว ทำให้เธอเสียใจมาก และรู้สึกว่าความไว้ใจที่ให้ไปได้ถูกทำลายไปแล้ว ทำให้เธอทำใจได้ และเลิกที่จะชอบเขา แถมยังโกรธเขาและทำตัวเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

                         ในบ่ายวันหนึ่งเธอได้ถูกคุณพ่อเรียกให้ไปพบและสั่งให้ไปเป็นควีนของคฤหาสน์ อาเคมิยืนกรานว่าจะไม่ไป แต่ทางบ้านก็ยังจะบังคับให้เธอทำตาม เธอจึงต้องยอมที่จะทำตามอย่างไม่มีข้อแม้ ในใจก็ได้แต่คิดเพียงแค่ว่าจะมีวันที่เธอได้ออกจากกรอบที่คนอื่นเป็นคนตั้งขึ้นมาบ้างไหม?  

     

    การแต่งกาย : โดยปกติแล้วจะใส่ชุดเดรสหรือกระโปรงสีที่ไม่ฉูดฉาด ดูเรียบร้อย เรียบหรู และน่าเอ็นดูไปในขณะเดียวกัน เช่นสีดำ สีน้ำเงิน หรือสีขาว กับร้องเท้าคัทชูสีเข้าชุด

          ตัวอย่างการแต่งกาย [1] [2] [3] [4] [5]

     

    ลักษณะการพูดโต้ตอบ : เป็นคนที่มีเสียงค่อนข้างหวาน แต่ติดที่มักจะพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ เรียบๆ มักจะแทนคนอื่นด้วยคำว่าคุณ แต่ถ้าเป็นคนที่สนิทก็จะเรียกด้วยชื่อเฉยๆ อาจจะมีการเรียกว่าพี่ถ้าหากว่าคนที่สนิทด้วยนั้นอายุมากกว่า และมักจะแทนตนเองด้วยคำว่าฉัน หรือถ้าเป็นกับคนที่อายุมากกว่าอาจจะแทนตัวเองว่าหนูค่ะ

                 “อืม ฉันก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเลยนี่” เวลาที่อารมณ์ดี จะยอมคนอื่นง่ายกว่าเดิม จากที่ปกติจะต้องพูดเตือนอะไรสักอย่าง กลับกลายเป็นว่าปล่อยไปเฉยๆ

                 “ฉันไม่ได้เสียใจ คุณคิดว่าคุณสำคัญขนาดที่ฉันจะเสียใจเพราะคุณหรอ” เวลาที่โดนหักหลัง จะพูดด้วยความเกรี้ยวกราด และน้ำเสียงจะแข็งมากขึ้นหลายเท่า

                “ฮืม? อยากเล่นกับพี่หรอคะ?” เวลาที่อยู่กับเด็กจะอ่อนโยนขึ้นหลายเท่าตัว ทั้งใบหน้าและน้ำเสียง

                “หนูไม่สามารถทำตามที่คุณสั่งไปได้ตลอดหรอกค่ะ สักวันหนึ่งหนูจะมีชีวิตเป็นของตัวเองบ้าง” เวลาที่ถูกทางบ้านบังคับ

     

    ความสามารถพิเศษ : ดูดาว , เล่นหมากรุก , ไวโอลิน

     

    เพิ่มเติม : - ความฝันในวัยเด็กคือการได้เป็นเจ้าสาว(?) แต่ความฝันในตอนนี้คือการเป็นอิสระ

                   -พี่ชายชื่อคาซุกิ อายาโตะ

     

    TALK WITH WRITER

     

    เซย์ไฮนะคะ! ผู้ปกครองชื่ออะไรเอ่ย?

     

     : เพิลค่ะ XD

     

    อยากรู้ว่าทำไมถึงสมัครเรื่องนี้ค่ะ!

     

     : น่าสนใจดีค่ะ

     

    แล้วทำไมอยากสมัครบทนี้ล่ะ อยากรู้ๆ

     

     : หลงอาคาชิมากเลยค่ะ !

     

    ถ้าไม่ติดจะเป็นตัวประกอบหรือรับกลับคะ?

     

     : ขอรับกลับก็แล้วกันนะคะ

     

    ถ้าติดจะทำยังไงเอ่ย?

     

     : จะติดตาม และรอไรต์ที่ท่าเรือ(?)ทุกวันเลยค่ะ

     

    ถ้าไม่ติดจะเผาบ้านเราไหม---

     

     : ไม่เผาหรอกค่ะ XD

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×