ลำดับตอนที่ #18
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : [คั่น] When 2 January, 2013
Character - Russia , America , France , England , China , Italy , Germany , Japan , Austria , Hungary , Liechtenstein , Switzerland , Poland , Ukraine , Belarus , Estonia , Latvia , Lithuania , Finland , Sweden , Norway , Egypt , Greece , Turkey , Spain , Romano , Hong kong , Vietnam , Thailand , Canada , Prussia , Seychelles , New Zealand , Mongolia , All
Rate - PG ดราม่าเล็กน้อย
ปล.ไม่มีคนตายครับดีใจด้วย...
ปล2.แต่ก็มีต่อยกันตามประสาผมแต่ง(+แคส)
_________________________________________
ในการประชุมสัมพันธมิตร ทุกอย่างก็ยังคงเหมือนเดิม...
"พวกนายต้องซัพพอร์ตฉัน!!!" เสียงเจ้าตัวดีคู่อริผมดังขึ้น ใครเลือกเขาเป็นหัวหน้ากัน?
"เงียบไปเลยเจ้าบ้า!!!" คู่อริของอเมริกาหมายเลขสอง คงแค้นกันเพราะอเมริกาประกาศอิสรภาพจากเขาล่ะมั้ง?
"พวกนายนี้...ไม่สง่างามเลยนะ" คู่แค้นผมสมัยนโปเลียน คนที่ยกทัพไปตีทั้งยุโรปแต่สุดท้ายก็แพ้ผมกับคนอื่นๆ
"พวกลื้อช่วยใจเย็นกันหน่อยได้ไหมน่อ!!!" คนที่ผมต้องการตัวมากที่สุด หัวการค้ายิ่งกว่าอังกฤษเสียอีก
น่าเบื่อ...
การประชุมทุกครั้งมักจะเป็นแบบนี้ และจบลงที่ไม่ได้อะไรเลย
ไม่เคยเป็นการเป็นงานเลย...ผมล่ะเบื่อที่สุด...
ผมลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องเงียบๆ ยังไงเสีย มันก็คงจบลงแบบเดิม ผมไม่อยู่ก็คงไม่เป็นไร
"วันนี้นายดูไม่ร่าเริงเลยนะ" เสียงจากข้างหลังดังขึ้นจนผมต้องหันไปมอง
"แค่รู้สึกเบื่อๆนิดหน่อยน่ะครับ" ผมหันไปยิ้มให้
ผมก็ไม่เข้าใจว่ามีอะไรให้ยิ้ม แต่ผมติดนิสัยยิ้มไปพูดไปมาตั้งนานแล้วล่ะ
ข้อดีคือ ไม่มีใครเดาผมออกว่าผมกำลังคิดอะไร อารมณ์ตอนนั้นเป็นยังไง
แต่ข้อเสีย ทำให้ไม่มีใครเข้าใจตัวผมเลย
ชายชาวฝรั่งเศสเดินเข้ามาไกล้ๆผม
"ตานายไม่ยิ้มเลยนะ"
"........."
ผมเคยได้ยินอยู่ว่าตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ แต่พึ่งจะเคยเห็นคนที่สังเกตุมันนี้แหละ
ไม่ใช่ว่าผมรำคาญหรือไม่ชอบที่มีคนมาใส่ใจนะ ผมออกจะชอบมากด้วยซ้ำ
แต่อีกใจก็คิดว่า ที่เขาทำดีกับผม เพราะเขาต้องการใช้ประโยชน์จากผมเท่านั้น...
"คุณต้องการอะไร?" ผมถามออกไปตรงๆ
"เปล่า ฉันแค่สังเกตุว่านายดูแปลกไป... เฮ้ย!!!"
เขายังพูดไม่ทันจบ ผมก็หยิบมีดที่พกติดตัวแล้วพุ่งใส่เขา
"อยากได้อะไรจากผมล่ะ? ทรัพยากร? การค้า? เงิน? กองทัพ? หรือดินแดนผม?" ไม่ปล่อยให้ตั้งตัวทันผมก็พุ่งเข้าไปหวังจะแทงที่ท้องของอีกฝ่าย
"ใจเย็น!!! ฉันไม่ได้อยากได้อะไรจากนายทั้งนั้นแหละ!!!" เขายังคงหลบพริ้วต่อไป ให้ตายเถอะ...
"โกหก!!!" ผมตะโกนลั่น คงเพราะแบบนั้นล่ะมั้งอเมริกาถึงได้ยินแล้ววิ่งออกมา
"หยุดนะ!!!" เขาใช้สันมือฟาดท้ายทอยผมจนผมเซ
"ใส่แรงน้อยไปนะครับ..." ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ผมก็มึนเต็มที่แล้วล่ะ
ผมพุ่งเข้าหาอเมริกา ถ้าสู้กันเขาจะเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวที่สุด ผมต้องจัดการเขาก่อน
"หลับไปซักพักเถอะนะ" คู่อริผมใช้สันมือฟาดท้ายทอยผมอีกรอบแบบแรงกว่าเดิม
เขาเป็นคนที่แรงเยอะที่สุด ถ้าเขาใช้แรงของเขาจริงๆ ผมคงคอหักตายไปแล้วล่ะ
สติของผมเริ่มหาย ฝรั่งเศสเข้ามารับผมไว้ ก่อนที่ผมจะสลบ ผมพอได้ยินเขาพูดกันนิดหน่อย
"เขาเป็นอะไรขึ้นมา? อยู่ดีๆก็พุ่งเข้ามาแบบนั้น ฉันตกใจหมด"
"คงนึกถึงเรื่องในอดีตล่ะมั้ง....."
ผมตื่นขึ้นมาบนโซฟาไกล้ๆห้องประชุม
แสงที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่างเริ่มเป็นสีส้มอ่อนๆ บอกเวลาว่านี้ก็เย็นมากแล้ว
ผมค่อยๆลุกขึ้นนั่ง หัวผมยังมึนไม่หายจากการที่โดนอเมริกาฟาดท้ายทอยไปสองครั้งติด
"ตื่นแล้วหรอ?" ผมหันไปมอง คนทักลงมานั่งข้างๆผม
"แล้วคุณคิดว่ายังไงล่ะครับ..." ผมพูดนิ่งๆ รอยยิ้มหายไปจากหน้า ผมยิ้มไม่ออกจริงๆนะ...
"นายเป็นอะไรไป? อยู่ดีๆก็พุ่งใส่ฉันแบบนั้น แถมยังมองฉันแบบนี้อีก" เขาถาม ผมมองหน้าเขานิ่งๆ
ความจริง...คนรัสเซียเขาไม่ยิ้มกันหรอกนะครับ เขาว่าถ้าคนยุโรปยิ้มสี่ครั้ง คนรัสเซียจะยิ้มแค่ครั้งเดียว แถมถ้าใครยิ้มโดยไม่มีเหตุผลจะโดนลากเขาโรงพยาบาลเอา
"คุณต้องการอะไรจากผมกันแน่? ดินแดนแบบคุณมองโกล? แทรกแซงแบบอเมริกา? หรืออะไรล่ะ?"
"ฉันไม่ต้องการอะไรจากนายทั้งนั้นแหละอีวาน" เขาลูบหัวผมเบาๆ
รู้ไหม? ทำไมผมถึงไม่อยากให้ใครลูบหัวผม
เพราะมันทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย มันทำให้ผมรู้สึกไว้ใจคนที่ลูบได้อย่างง่ายดาย
มันอาจทำให้ผมหลุดความลับ ความคิดของผมออกไป ซึ่งผมไม่ต้องการให้ใครรู้
แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกโดดเดี่ยวและหนาวเหน็บมาตั้งแต่เด็ก...
อันที่จริง แค่แตะหัวผม ผมก็นั่งนิ่งๆทำอะไรไม่ถูกแล้วล่ะนะ
"อย่ามาลูบหัวผม..." ผมพูดเบาๆ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรเขาอยู่ดี
"ทำไมนายถึงทำแบบนี้ล่ะอีวาน...?" เขาถามด้วยเสียงอ่อนโยน มือยังลูบหัวผมไปเรื่อยๆ
ผมเอนไปพิงเขาก่อนจะพูดเรื่องในอดีตออกมา
"เมื่อก่อน...ทุกคนพยายามทำดีกับผม พยายามทำให้ผมเชื่อใจพวกเขา แต่ว่า...สุดท้าย...พวกเขาก็ทรยศผม หักหลังผม เขาบอกว่าผมไม่มีประโยชน์สำหรับพวกเขา เขาต้องการแค่ผลประโยชน์จากผมเท่านั้นเลยทำดีต่างๆนาๆกับผม ไม่มีใคร...เป็นเพื่อนผมจริงๆหรอก...ไม่มีใครที่ผมจะเชื่อใจได้จริงๆหรอก..."
น้ำตาของผมค่อยๆไหล เขามองผมแล้วปาดน้ำตาให้
"ตอนนี้ไม่ใช่แบบนั้นแล้ว นายลืมเรื่องพวกนี้ไปเถอะนะ" เขาโอบกอดผม
ผมรู้สึกอบอุ่นมาก...อบอุ่นจริงๆ ตั้งแต่เด็กผมก็อยู่กับคุณมองโกลมาโดยตลอด ไม่ค่อยถูกใครกอด ผมหนาว...หนาวจากข้างใน ผมรู้ตัวดีว่าไม่มีใครเวทนาผม มีแต่จ้องจะทำร้ายกันเท่านั้น
พอมีคนกอด มันทำให้ผมรู้สึก...อบอุ่นมากๆ...
"ผมขอโทษ........" ผมกอดเขาก่อนจะปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา เป็นเวลานานขนาดไหนแล้วนะที่ผมไม่ได้ร้องไห้หนักขนาดนี้
เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ลูบหัวผมไปมาเท่านั้น
บางที...ชีวิตผมอาจจะมีใครที่เป็นเพื่อนจริงๆของผมก็ได้ เพียงแต่ผมระแวงมากไปจนมองไม่เห็นเขาเท่านั้นเอง
ผมค่อยๆหลับตาลง อาจเป็นเพราะเหนื่อยและยังอยากให้เขากอดไปเรื่อยๆก็ได้ ผมเลยหลับไปโดยไม่รู้ตัว
ผมฝัน...
ว่าผมเสียทุกคนไป ว่าทุกคนตายไป เหลือแต่ผมคนเดียว...
และผมมักจะฝันแบบนี้บ่อยครั้ง แต่ผมก็ไม่ชินกับมันเสียที...
ทำไมกันนะ? ทั้งๆที่ผมยอมรับว่าไม่มีใครอยู่กับผมไปตลอดแล้วแท้ๆ?
"เจ้าบ้าวอดก้า!!!" เสียงตะโกนดังขึ้นทำเอาผมสะดุ้งตื่น
ผมลุกขึ้นมามองคนสองคนที่นั่งมองผม ดูเหมือนพวกเขาจะดูตกใจอะไรซักอย่าง
"นายฝันอะไร...บอกพวกฉันหน่อยได้ไหม?" ชายอีกคนถามผมก่อนจะยื่นมือมาเช็ดน้ำตาออกให้ผมช้าๆ
นี้ผม...ร้องไห้?
"ผม...ฝันว่าทุกคนตายหมด...ไม่มีใครเหลือเลย..."
"ก็แค่ฝันน่า! คิดมาก ฮ่าๆๆ" คู่อริหัวเราะแล้วตบบ่าผม
"นั้นสิ ตอนนี้พวกฉันก็สบายดีกันทุกคน เจ้าอังกฤษยังไปอบสโคนอยู่เลย"
"นายว่าอะไรนะ?"
"อังกฤษอบสโคน"
"แย่แล้ว!!!" อเมริกาตะโกนแล้ววิ่งไปดูในครัว ท่าทางกำลังจะไปห้ามคนอบสโคนล่ะมั้ง
อีกคนที่เหลืออยู่พยุงผมให้ลุกขึ้น
"นายไปล้างหน้าหน่อยดีกว่านะ"
ก็นั้นสินะ หน้าผมตอนนี้คงโทรมน่าดู คนอื่นคงตกใจแน่ๆ
ผมเดินไปล้างหน้า ถึงจะมีกระจกบานใหญ่ตั้งอยู่ แต่ผมก็ไม่คิดจะส่องมันเพื่อดูหน้าตัวเอง
ไม่ใช่ว่าผมกลัวกระจกแต่อย่างใด แต่มันทำให้ผมนึกถึงอดีตก็เท่านั้น
"ล้างหน้านานจังนะนายน่ะ" คนๆเดิมเดินเข้ามาหาผม
"เสร็จแล้วล่ะครับ..." ผมหันไปยิ้มให้
"ฉันพึ่งสังเกตุนะ ว่านายไม่ชอบส่องกระจก"
"มันทำให้ผมนึกถึงอดีตน่ะครับ ผมเลยไม่ค่อยชอบ..."
เข้าเดินเข้ามาหาผมแล้วจับหน้าผมเงยขึ้นทำให้ผมเห็นเงาตัวเองชัดเจน
"ท...ทำอะไรน่ะครับ!"
"ฉันแค่อยากให้นายเห็นหน้าตาตัวเองก็เท่านั้น"
"แต่ผมไม่ชอบนี้นา!"
"นายรู้ไหม...ว่าหน้าตานายตอนนี้น่ะเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเยอะเลยนะ ทั้งท่าทาง บุคลิก นิสัย แววตา ไม่มีอะไรเหมือนแต่ก่อนเลย นายรู้ไหม? เมื่อก่อนแววตานายมุ่งมั่นมาก มายเสียจนบางทีฉันก็กลัว ดูตอนนี้สิ นายดูอ่อนโยนขึ้นเยอะเลยนะ"
ผมมองเงาตัวเองในกระจก จริงด้วย...ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงเอาดาบแทงคนข้างๆไปแล้ว ตอนนี้ผมกลับไม่ทำอะไรเขาเลย
"พวกนายทำอะไรกันน่ะ?" คนที่สามโผล่มาจากไหนผมก็ไม่อาจทราบได้ รู้แค่ว่า ขัดชะมัด...
"เปล่านี้ พวกนายเตรียมโต๊ะกันเสร็จแล้วหรอ?"
"เสร็จตั้งนานแล้ว รอพวกนายสองคนนั้นแหละ ช้าจริงๆ"
โต๊ะ...โต๊ะอะไร...?
"ป่านนี้ตาลุงคงบ่นแล้วมั้ง รีบไปกันเถอะน่า" อเมริกาเข้ามาดึงผมกับคนข้างๆไปที่โถงใหญ่
"เดี๋ยวสิครับ! นี้มันเรื่องอะไรกัน!" ผมโวยวาย อยู่ดีๆก็ลากไปแบบนั้นผมก็ตกใจนะ
"ถึงแล้วนายก็รู้เองล่ะน่า..." คู่อริพูดโดยไม่หันมามองซักนิด
อย่างน้อยก็ปล่อยให้ผมเดินเองเถอะ!!!
ผมเดินมาถึงประตูห้องโถง ฝรั่งเศสเข้ามาปิดตาผม
"อะไรกันน่ะครับ! นี้มันเรื่องอะไรกันเนี้ย!" ผมจับข้อมืออีกฝ่าย
"เดี๋ยวนายก็รู้เองแหละ" อเมริกาพูด ผมได้ยินเหมือนเสียงเปิดประตูก่อนที่ฝรั่งเศสจะดันผมเข้าไปช้าๆ
ผมได้ยินเสียงกระซิบกันเล็กน้อยก่อนที่ฝรั่งเศสจะเปิดตาผม
"Happy Birthday and Happy New Year!!!"
เสียงทุกคนตะโกน ผมมองไปรอบๆ
เดี๋ยวสิ...นี้มันประชุมสัมพันธมิตร แล้วนั้นล่ะ? อิตาลี เยอรมัน ญี่ปุ่นมาได้ไง? นั้นอีก คุณฮังการี ออสเตรีย ปรัสเซีย สวิส ลิกเตน เซเชลล์ พี่ยูเครน เบลาลุส เอสโทรเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย โปแลนด์ ทุกคน... มาที่นี้ได้ยังไง?
"ถึงจะช้าไปหน่อยจนเลยมาวันที่สองมกราแล้วก็เถอะ แต่พวกฉันก็ตั้งใจจัดงานนี้มากเลยนะ" ฝรั่งเศสพูดขึ้น
"รู้ไหมว่าฉันเขียนบัตรเชิญมือหงิกเลยนะกว่าจะส่งให้ทุกคน โลกนี้คนเยอะจริงๆ" อเมริกาบ่น
"ฉันก็ช่วยนายเขียนแหละน่าเจ้าบ้า!" อังกฤษแทรก สงใสจะได้ทะเลาะกันแหงมๆ
"อั๊วก็เขียนให้ฝั่งเอเชียนะน่อ!" จีนแทรกขึ้นบ้าง
"คุณอีวาน ลองทานนี้ดูหน่อยไหมจ๊ะ" ไทยซังยกถ้วยอาหารออกมา "นี้เรียกว่าต้มยำกุ้ง ของขึ้นชื่อของบ้านผมเลยล่ะน้า"
"นี้ๆๆ พาสต้าก็อร่อยนะ!"
"นี้เป็นเบียร์ชั้นดีเลยนะเฟ้ย! ถ้ากินแล้วนายจะติดใจ!"
"นี้เซอร์สตอร์มมิง...ปลากระป๋องบ้านฉัน..."
"สุซังเอาอะไรออกมาน่ะคร้าบ!!!"
"โทรลฉันอยากเป็นเพื่อนกับขุนพลฤดูหนาว..."
"จุดประทัดได้ไหมน่อ?"
"ทุกคนจงร่าเริง ฟุโซโซโซโซโซ"
"มะเขือเทศนี้ฉันเก็บเองเลยนะเว้ย!"
"เสื้อขนแกะจากนิวซีแลนด์คร้าบ"
"ไหไหม...?"
"แมวตัวนี้...น่ารักจัง..."
"เจ้าบ้ากรีซ ฉันมาก่อนนะเฟ้ย!"
"แพนเค้กราดเมเปิลไซรัปมาแล้วคร้าบ..."
"โตขึ้นเยอะเลยนะ เมื่อก่อนตอนที่อยู่กับฉันยังตัวเล็กน่ารักอยู่เลย"
ระหว่างที่ผมกำลังมึนๆ ฝรั่งเศสก็เข้ามาแตะไหล่ผม
"เห็นไหม เพื่อนนายมีออกจะเยอะแยะไปนะ"
จริงด้วย...ทุกคนเป็นเพื่อนผมนี้นะ...
"สุขสันต์วันเกิดนะอีวาน แก่อีกปีแล้วนะนาย" อังกฤษเดินเข้ามา
"ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ ลุงแก่กว่าเขาอีกไม่ใช่เรอะ?"
"บ้าๆๆๆๆ!!!"
"ใจเย็นๆน่อ!"
ผมยิ้ม ทุกคนยังเฮฮากันเหมือนเดิม
"โลกที่นายอยู่น่ะ มีอะไรสวยงามกว่านี้เยอะเลยนะ" ฝรั่งเศสลูบหัวผม
นั้นสินะ...โลกนี้ช่างสวยงาม...
ขอให้มันเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ และตลอดไป...
__________________________________________
ส่งท้าย
"สโคนมาแล้ว!" อังกฤษวางสโคนลงบนโต๊ะ มันยังคงแผ่รัศมีทะมึนออกมารอบๆเหมือนเดิม
"นี้เซอร์สตอร์มมิง..." สวีเดนวางปลากระป๋องลงบนโต๊ะบ้าง กลิ่นใช้ได้เลยทีเดียว
"เค้ก109ปีนี่อร่อยนะ!" อเมริกาวางเค้กที่ไม่รู้ไปค้นมาจากไหน
"คาสุ มาซูของเค้าก็อร่อยน้า" อิตาลีวางชีสนมแกะที่มีรูพรุนเต็มไปหมด
"เหล้าดองงูกันซักหน่อยไหม?" เวียดนามวางขวดเหล้าที่มีงูเห่าอยู่ข้างใน
"มากินเอสคาร์โกกันมามะ" ฝรั่งเศสวางจานหอยทากอบเนยบ้าง
"แซลมอนดองอร่อยที่สุดครับ!" เดี๋ยวได้เป็นโรคไตหรอกญี่ปุ่น
"หยุดเลยนะพวกนาย!!!อาหารแปลกๆพวกนั้นมันอะไรกัน!!!" เยอรมันโผล่พรวดเข้ามา
นี้มัน...ประกวดอาหารพิดารรึไงกันครับเนี้ย...?
Rate - PG ดราม่าเล็กน้อย
ปล.ไม่มีคนตายครับดีใจด้วย...
ปล2.แต่ก็มีต่อยกันตามประสาผมแต่ง(+แคส)
_________________________________________
ในการประชุมสัมพันธมิตร ทุกอย่างก็ยังคงเหมือนเดิม...
"พวกนายต้องซัพพอร์ตฉัน!!!" เสียงเจ้าตัวดีคู่อริผมดังขึ้น ใครเลือกเขาเป็นหัวหน้ากัน?
"เงียบไปเลยเจ้าบ้า!!!" คู่อริของอเมริกาหมายเลขสอง คงแค้นกันเพราะอเมริกาประกาศอิสรภาพจากเขาล่ะมั้ง?
"พวกนายนี้...ไม่สง่างามเลยนะ" คู่แค้นผมสมัยนโปเลียน คนที่ยกทัพไปตีทั้งยุโรปแต่สุดท้ายก็แพ้ผมกับคนอื่นๆ
"พวกลื้อช่วยใจเย็นกันหน่อยได้ไหมน่อ!!!" คนที่ผมต้องการตัวมากที่สุด หัวการค้ายิ่งกว่าอังกฤษเสียอีก
น่าเบื่อ...
การประชุมทุกครั้งมักจะเป็นแบบนี้ และจบลงที่ไม่ได้อะไรเลย
ไม่เคยเป็นการเป็นงานเลย...ผมล่ะเบื่อที่สุด...
ผมลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องเงียบๆ ยังไงเสีย มันก็คงจบลงแบบเดิม ผมไม่อยู่ก็คงไม่เป็นไร
"วันนี้นายดูไม่ร่าเริงเลยนะ" เสียงจากข้างหลังดังขึ้นจนผมต้องหันไปมอง
"แค่รู้สึกเบื่อๆนิดหน่อยน่ะครับ" ผมหันไปยิ้มให้
ผมก็ไม่เข้าใจว่ามีอะไรให้ยิ้ม แต่ผมติดนิสัยยิ้มไปพูดไปมาตั้งนานแล้วล่ะ
ข้อดีคือ ไม่มีใครเดาผมออกว่าผมกำลังคิดอะไร อารมณ์ตอนนั้นเป็นยังไง
แต่ข้อเสีย ทำให้ไม่มีใครเข้าใจตัวผมเลย
ชายชาวฝรั่งเศสเดินเข้ามาไกล้ๆผม
"ตานายไม่ยิ้มเลยนะ"
"........."
ผมเคยได้ยินอยู่ว่าตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ แต่พึ่งจะเคยเห็นคนที่สังเกตุมันนี้แหละ
ไม่ใช่ว่าผมรำคาญหรือไม่ชอบที่มีคนมาใส่ใจนะ ผมออกจะชอบมากด้วยซ้ำ
แต่อีกใจก็คิดว่า ที่เขาทำดีกับผม เพราะเขาต้องการใช้ประโยชน์จากผมเท่านั้น...
"คุณต้องการอะไร?" ผมถามออกไปตรงๆ
"เปล่า ฉันแค่สังเกตุว่านายดูแปลกไป... เฮ้ย!!!"
เขายังพูดไม่ทันจบ ผมก็หยิบมีดที่พกติดตัวแล้วพุ่งใส่เขา
"อยากได้อะไรจากผมล่ะ? ทรัพยากร? การค้า? เงิน? กองทัพ? หรือดินแดนผม?" ไม่ปล่อยให้ตั้งตัวทันผมก็พุ่งเข้าไปหวังจะแทงที่ท้องของอีกฝ่าย
"ใจเย็น!!! ฉันไม่ได้อยากได้อะไรจากนายทั้งนั้นแหละ!!!" เขายังคงหลบพริ้วต่อไป ให้ตายเถอะ...
"โกหก!!!" ผมตะโกนลั่น คงเพราะแบบนั้นล่ะมั้งอเมริกาถึงได้ยินแล้ววิ่งออกมา
"หยุดนะ!!!" เขาใช้สันมือฟาดท้ายทอยผมจนผมเซ
"ใส่แรงน้อยไปนะครับ..." ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ผมก็มึนเต็มที่แล้วล่ะ
ผมพุ่งเข้าหาอเมริกา ถ้าสู้กันเขาจะเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวที่สุด ผมต้องจัดการเขาก่อน
"หลับไปซักพักเถอะนะ" คู่อริผมใช้สันมือฟาดท้ายทอยผมอีกรอบแบบแรงกว่าเดิม
เขาเป็นคนที่แรงเยอะที่สุด ถ้าเขาใช้แรงของเขาจริงๆ ผมคงคอหักตายไปแล้วล่ะ
สติของผมเริ่มหาย ฝรั่งเศสเข้ามารับผมไว้ ก่อนที่ผมจะสลบ ผมพอได้ยินเขาพูดกันนิดหน่อย
"เขาเป็นอะไรขึ้นมา? อยู่ดีๆก็พุ่งเข้ามาแบบนั้น ฉันตกใจหมด"
"คงนึกถึงเรื่องในอดีตล่ะมั้ง....."
ผมตื่นขึ้นมาบนโซฟาไกล้ๆห้องประชุม
แสงที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่างเริ่มเป็นสีส้มอ่อนๆ บอกเวลาว่านี้ก็เย็นมากแล้ว
ผมค่อยๆลุกขึ้นนั่ง หัวผมยังมึนไม่หายจากการที่โดนอเมริกาฟาดท้ายทอยไปสองครั้งติด
"ตื่นแล้วหรอ?" ผมหันไปมอง คนทักลงมานั่งข้างๆผม
"แล้วคุณคิดว่ายังไงล่ะครับ..." ผมพูดนิ่งๆ รอยยิ้มหายไปจากหน้า ผมยิ้มไม่ออกจริงๆนะ...
"นายเป็นอะไรไป? อยู่ดีๆก็พุ่งใส่ฉันแบบนั้น แถมยังมองฉันแบบนี้อีก" เขาถาม ผมมองหน้าเขานิ่งๆ
ความจริง...คนรัสเซียเขาไม่ยิ้มกันหรอกนะครับ เขาว่าถ้าคนยุโรปยิ้มสี่ครั้ง คนรัสเซียจะยิ้มแค่ครั้งเดียว แถมถ้าใครยิ้มโดยไม่มีเหตุผลจะโดนลากเขาโรงพยาบาลเอา
"คุณต้องการอะไรจากผมกันแน่? ดินแดนแบบคุณมองโกล? แทรกแซงแบบอเมริกา? หรืออะไรล่ะ?"
"ฉันไม่ต้องการอะไรจากนายทั้งนั้นแหละอีวาน" เขาลูบหัวผมเบาๆ
รู้ไหม? ทำไมผมถึงไม่อยากให้ใครลูบหัวผม
เพราะมันทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย มันทำให้ผมรู้สึกไว้ใจคนที่ลูบได้อย่างง่ายดาย
มันอาจทำให้ผมหลุดความลับ ความคิดของผมออกไป ซึ่งผมไม่ต้องการให้ใครรู้
แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกโดดเดี่ยวและหนาวเหน็บมาตั้งแต่เด็ก...
อันที่จริง แค่แตะหัวผม ผมก็นั่งนิ่งๆทำอะไรไม่ถูกแล้วล่ะนะ
"อย่ามาลูบหัวผม..." ผมพูดเบาๆ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรเขาอยู่ดี
"ทำไมนายถึงทำแบบนี้ล่ะอีวาน...?" เขาถามด้วยเสียงอ่อนโยน มือยังลูบหัวผมไปเรื่อยๆ
ผมเอนไปพิงเขาก่อนจะพูดเรื่องในอดีตออกมา
"เมื่อก่อน...ทุกคนพยายามทำดีกับผม พยายามทำให้ผมเชื่อใจพวกเขา แต่ว่า...สุดท้าย...พวกเขาก็ทรยศผม หักหลังผม เขาบอกว่าผมไม่มีประโยชน์สำหรับพวกเขา เขาต้องการแค่ผลประโยชน์จากผมเท่านั้นเลยทำดีต่างๆนาๆกับผม ไม่มีใคร...เป็นเพื่อนผมจริงๆหรอก...ไม่มีใครที่ผมจะเชื่อใจได้จริงๆหรอก..."
น้ำตาของผมค่อยๆไหล เขามองผมแล้วปาดน้ำตาให้
"ตอนนี้ไม่ใช่แบบนั้นแล้ว นายลืมเรื่องพวกนี้ไปเถอะนะ" เขาโอบกอดผม
ผมรู้สึกอบอุ่นมาก...อบอุ่นจริงๆ ตั้งแต่เด็กผมก็อยู่กับคุณมองโกลมาโดยตลอด ไม่ค่อยถูกใครกอด ผมหนาว...หนาวจากข้างใน ผมรู้ตัวดีว่าไม่มีใครเวทนาผม มีแต่จ้องจะทำร้ายกันเท่านั้น
พอมีคนกอด มันทำให้ผมรู้สึก...อบอุ่นมากๆ...
"ผมขอโทษ........" ผมกอดเขาก่อนจะปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา เป็นเวลานานขนาดไหนแล้วนะที่ผมไม่ได้ร้องไห้หนักขนาดนี้
เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ลูบหัวผมไปมาเท่านั้น
บางที...ชีวิตผมอาจจะมีใครที่เป็นเพื่อนจริงๆของผมก็ได้ เพียงแต่ผมระแวงมากไปจนมองไม่เห็นเขาเท่านั้นเอง
ผมค่อยๆหลับตาลง อาจเป็นเพราะเหนื่อยและยังอยากให้เขากอดไปเรื่อยๆก็ได้ ผมเลยหลับไปโดยไม่รู้ตัว
ผมฝัน...
ว่าผมเสียทุกคนไป ว่าทุกคนตายไป เหลือแต่ผมคนเดียว...
และผมมักจะฝันแบบนี้บ่อยครั้ง แต่ผมก็ไม่ชินกับมันเสียที...
ทำไมกันนะ? ทั้งๆที่ผมยอมรับว่าไม่มีใครอยู่กับผมไปตลอดแล้วแท้ๆ?
"เจ้าบ้าวอดก้า!!!" เสียงตะโกนดังขึ้นทำเอาผมสะดุ้งตื่น
ผมลุกขึ้นมามองคนสองคนที่นั่งมองผม ดูเหมือนพวกเขาจะดูตกใจอะไรซักอย่าง
"นายฝันอะไร...บอกพวกฉันหน่อยได้ไหม?" ชายอีกคนถามผมก่อนจะยื่นมือมาเช็ดน้ำตาออกให้ผมช้าๆ
นี้ผม...ร้องไห้?
"ผม...ฝันว่าทุกคนตายหมด...ไม่มีใครเหลือเลย..."
"ก็แค่ฝันน่า! คิดมาก ฮ่าๆๆ" คู่อริหัวเราะแล้วตบบ่าผม
"นั้นสิ ตอนนี้พวกฉันก็สบายดีกันทุกคน เจ้าอังกฤษยังไปอบสโคนอยู่เลย"
"นายว่าอะไรนะ?"
"อังกฤษอบสโคน"
"แย่แล้ว!!!" อเมริกาตะโกนแล้ววิ่งไปดูในครัว ท่าทางกำลังจะไปห้ามคนอบสโคนล่ะมั้ง
อีกคนที่เหลืออยู่พยุงผมให้ลุกขึ้น
"นายไปล้างหน้าหน่อยดีกว่านะ"
ก็นั้นสินะ หน้าผมตอนนี้คงโทรมน่าดู คนอื่นคงตกใจแน่ๆ
ผมเดินไปล้างหน้า ถึงจะมีกระจกบานใหญ่ตั้งอยู่ แต่ผมก็ไม่คิดจะส่องมันเพื่อดูหน้าตัวเอง
ไม่ใช่ว่าผมกลัวกระจกแต่อย่างใด แต่มันทำให้ผมนึกถึงอดีตก็เท่านั้น
"ล้างหน้านานจังนะนายน่ะ" คนๆเดิมเดินเข้ามาหาผม
"เสร็จแล้วล่ะครับ..." ผมหันไปยิ้มให้
"ฉันพึ่งสังเกตุนะ ว่านายไม่ชอบส่องกระจก"
"มันทำให้ผมนึกถึงอดีตน่ะครับ ผมเลยไม่ค่อยชอบ..."
เข้าเดินเข้ามาหาผมแล้วจับหน้าผมเงยขึ้นทำให้ผมเห็นเงาตัวเองชัดเจน
"ท...ทำอะไรน่ะครับ!"
"ฉันแค่อยากให้นายเห็นหน้าตาตัวเองก็เท่านั้น"
"แต่ผมไม่ชอบนี้นา!"
"นายรู้ไหม...ว่าหน้าตานายตอนนี้น่ะเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเยอะเลยนะ ทั้งท่าทาง บุคลิก นิสัย แววตา ไม่มีอะไรเหมือนแต่ก่อนเลย นายรู้ไหม? เมื่อก่อนแววตานายมุ่งมั่นมาก มายเสียจนบางทีฉันก็กลัว ดูตอนนี้สิ นายดูอ่อนโยนขึ้นเยอะเลยนะ"
ผมมองเงาตัวเองในกระจก จริงด้วย...ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงเอาดาบแทงคนข้างๆไปแล้ว ตอนนี้ผมกลับไม่ทำอะไรเขาเลย
"พวกนายทำอะไรกันน่ะ?" คนที่สามโผล่มาจากไหนผมก็ไม่อาจทราบได้ รู้แค่ว่า ขัดชะมัด...
"เปล่านี้ พวกนายเตรียมโต๊ะกันเสร็จแล้วหรอ?"
"เสร็จตั้งนานแล้ว รอพวกนายสองคนนั้นแหละ ช้าจริงๆ"
โต๊ะ...โต๊ะอะไร...?
"ป่านนี้ตาลุงคงบ่นแล้วมั้ง รีบไปกันเถอะน่า" อเมริกาเข้ามาดึงผมกับคนข้างๆไปที่โถงใหญ่
"เดี๋ยวสิครับ! นี้มันเรื่องอะไรกัน!" ผมโวยวาย อยู่ดีๆก็ลากไปแบบนั้นผมก็ตกใจนะ
"ถึงแล้วนายก็รู้เองล่ะน่า..." คู่อริพูดโดยไม่หันมามองซักนิด
อย่างน้อยก็ปล่อยให้ผมเดินเองเถอะ!!!
ผมเดินมาถึงประตูห้องโถง ฝรั่งเศสเข้ามาปิดตาผม
"อะไรกันน่ะครับ! นี้มันเรื่องอะไรกันเนี้ย!" ผมจับข้อมืออีกฝ่าย
"เดี๋ยวนายก็รู้เองแหละ" อเมริกาพูด ผมได้ยินเหมือนเสียงเปิดประตูก่อนที่ฝรั่งเศสจะดันผมเข้าไปช้าๆ
ผมได้ยินเสียงกระซิบกันเล็กน้อยก่อนที่ฝรั่งเศสจะเปิดตาผม
"Happy Birthday and Happy New Year!!!"
เสียงทุกคนตะโกน ผมมองไปรอบๆ
เดี๋ยวสิ...นี้มันประชุมสัมพันธมิตร แล้วนั้นล่ะ? อิตาลี เยอรมัน ญี่ปุ่นมาได้ไง? นั้นอีก คุณฮังการี ออสเตรีย ปรัสเซีย สวิส ลิกเตน เซเชลล์ พี่ยูเครน เบลาลุส เอสโทรเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย โปแลนด์ ทุกคน... มาที่นี้ได้ยังไง?
"ถึงจะช้าไปหน่อยจนเลยมาวันที่สองมกราแล้วก็เถอะ แต่พวกฉันก็ตั้งใจจัดงานนี้มากเลยนะ" ฝรั่งเศสพูดขึ้น
"รู้ไหมว่าฉันเขียนบัตรเชิญมือหงิกเลยนะกว่าจะส่งให้ทุกคน โลกนี้คนเยอะจริงๆ" อเมริกาบ่น
"ฉันก็ช่วยนายเขียนแหละน่าเจ้าบ้า!" อังกฤษแทรก สงใสจะได้ทะเลาะกันแหงมๆ
"อั๊วก็เขียนให้ฝั่งเอเชียนะน่อ!" จีนแทรกขึ้นบ้าง
"คุณอีวาน ลองทานนี้ดูหน่อยไหมจ๊ะ" ไทยซังยกถ้วยอาหารออกมา "นี้เรียกว่าต้มยำกุ้ง ของขึ้นชื่อของบ้านผมเลยล่ะน้า"
"นี้ๆๆ พาสต้าก็อร่อยนะ!"
"นี้เป็นเบียร์ชั้นดีเลยนะเฟ้ย! ถ้ากินแล้วนายจะติดใจ!"
"นี้เซอร์สตอร์มมิง...ปลากระป๋องบ้านฉัน..."
"สุซังเอาอะไรออกมาน่ะคร้าบ!!!"
"โทรลฉันอยากเป็นเพื่อนกับขุนพลฤดูหนาว..."
"จุดประทัดได้ไหมน่อ?"
"ทุกคนจงร่าเริง ฟุโซโซโซโซโซ"
"มะเขือเทศนี้ฉันเก็บเองเลยนะเว้ย!"
"เสื้อขนแกะจากนิวซีแลนด์คร้าบ"
"ไหไหม...?"
"แมวตัวนี้...น่ารักจัง..."
"เจ้าบ้ากรีซ ฉันมาก่อนนะเฟ้ย!"
"แพนเค้กราดเมเปิลไซรัปมาแล้วคร้าบ..."
"โตขึ้นเยอะเลยนะ เมื่อก่อนตอนที่อยู่กับฉันยังตัวเล็กน่ารักอยู่เลย"
ระหว่างที่ผมกำลังมึนๆ ฝรั่งเศสก็เข้ามาแตะไหล่ผม
"เห็นไหม เพื่อนนายมีออกจะเยอะแยะไปนะ"
จริงด้วย...ทุกคนเป็นเพื่อนผมนี้นะ...
"สุขสันต์วันเกิดนะอีวาน แก่อีกปีแล้วนะนาย" อังกฤษเดินเข้ามา
"ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ ลุงแก่กว่าเขาอีกไม่ใช่เรอะ?"
"บ้าๆๆๆๆ!!!"
"ใจเย็นๆน่อ!"
ผมยิ้ม ทุกคนยังเฮฮากันเหมือนเดิม
"โลกที่นายอยู่น่ะ มีอะไรสวยงามกว่านี้เยอะเลยนะ" ฝรั่งเศสลูบหัวผม
นั้นสินะ...โลกนี้ช่างสวยงาม...
ขอให้มันเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ และตลอดไป...
__________________________________________
ส่งท้าย
"สโคนมาแล้ว!" อังกฤษวางสโคนลงบนโต๊ะ มันยังคงแผ่รัศมีทะมึนออกมารอบๆเหมือนเดิม
"นี้เซอร์สตอร์มมิง..." สวีเดนวางปลากระป๋องลงบนโต๊ะบ้าง กลิ่นใช้ได้เลยทีเดียว
"เค้ก109ปีนี่อร่อยนะ!" อเมริกาวางเค้กที่ไม่รู้ไปค้นมาจากไหน
"คาสุ มาซูของเค้าก็อร่อยน้า" อิตาลีวางชีสนมแกะที่มีรูพรุนเต็มไปหมด
"เหล้าดองงูกันซักหน่อยไหม?" เวียดนามวางขวดเหล้าที่มีงูเห่าอยู่ข้างใน
"มากินเอสคาร์โกกันมามะ" ฝรั่งเศสวางจานหอยทากอบเนยบ้าง
"แซลมอนดองอร่อยที่สุดครับ!" เดี๋ยวได้เป็นโรคไตหรอกญี่ปุ่น
"หยุดเลยนะพวกนาย!!!อาหารแปลกๆพวกนั้นมันอะไรกัน!!!" เยอรมันโผล่พรวดเข้ามา
นี้มัน...ประกวดอาหารพิดารรึไงกันครับเนี้ย...?
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น