คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : การเรียนบทที่ 3 วิชาศาสตราวุธ
ผมเดินเล่นรอบๆที่พักตัวเองเป็นการผ่อนคลาย พลางถอดแว่นแล้วนวดขมับตัวเองเบาๆ เหม่อมองทุ่งหญ้าที่เป็นฟาร์มที่ไกลลิบ ในใจคงคิดถึงแต่เนื้อย่างจานโต เป็ดปักกิ่ง และซาลาเปาหมูสับ... ท่าทางผมจะหิวข้าวแล้วล่ะมั้ง... ผมเบนความสนใจเรื่องของกินเพื่อเตรียมการสอนแทน มองเหล่าอาวุธที่เรียงไว้เพื่อการสอน หนังสือที่ยืมมาจากห้องสมุด พู่กันไม่เหมาะกับการเขียนรายงานเลยจริงๆ ผมพยายามฝึกใช้ปากกาขนนกหลายต่อหลายครั้ง แต่ผลมันออกมาแย่กว่าที่จินตนาการไว้อีก ไอครั้นจะเขียนรายงานเป็นภาษาตะวันตกด้วยพู่กันก็กะไรอยู่.... ดังนั้นต้องหัดไว้ แม้ว่าท่านผู้ใหญ่จะอ่านภาษาบ้านเกิดผมออกก็ตาม... แต่ก็ไม่ควรทำให้เขาลำบาก...
“สวัสดีค่ะอาจารย์” ยูมิจังเรียกทักทายจากรั้วข้างนอก มือไม้เธอเต็มไปด้วยหนังสือและอุปกรณ์การเรียน
“สวัสดีครับ ยูมิจัง ถึงเวลาเรียนแล้วเหรอครับ?” ผมเอียงคอน้อยๆ ถ้าจำไม่ผิดเหลือเวลาอีกสามสิบนาทีนี่นา...
“เปล่าค่ะ แค่เอาหนังสือกับปากกาขนนกหมึกขวดใหม่ มาให้อาจารย์หยางเท่านั้นค่ะ” เธอยกของในมือทั้งหมดให้กับผม
“อ...ขอบคุณครับ งั้นเชิญเข้ามาพักข้างในก่อนนะครับ”
ผมผายมือเชื้อเชิญเธอเข้ามาในเคหา เธอทำหน้าบอกบุญไม่รับเมื่อเห็นสภาพห้องของหนุ่มโสดเข้า
“รก... ดีนะคะ” ผมผงกหน้ารับคำชมแบบเขินอาย
“อ่า ตรงนี้ยังว่างครับ” ผมยกกองหนังสือออกจากโซฟาเดี่ยวเพื่อเป็นที่ว่างให้เธอนั่ง เธอพยายามเดินเข้าไปนั่งโดยเดินหลบกองหนังสือและผลิตภัณฑ์บำรุงอาวุธมากมาย ที่กระจัดกระจายตามพื้น บ่อยครั้งที่ผมพยายามเก็บห้อง แต่ก็ไม่เคยมีครั้งใดสำเร็จเลย แถมแมวจรจัดก็ใช้ห้องนี้เป็นฐานที่อยู่ของพวกมันอีกต่างหาก ... ถ้าหนักกว่านี้อีกหน่อย ห้องผมคงมีนกมาทำรัง
“อาจารย์หยางคะ หนูพยายามไม่ละลาบละล้วงเรื่องของคุณนะคะ หนูขอถามอะไรสักหน่อยได้ไหม”
ยูมิจังพูด
“อ่า ได้ครับ ถ้าผมตอบได้จะตอบครับ”
ผมตอบยิ้มๆ
“อาจารย์อาบน้ำรึยังค่ะ?”
คำถามของหญิงสาวงามตรงหน้าทำเอาผมซีดและนิ่งไปหลาย วิ... จะตอบยังไงดีล่ะเหวย....อาบแล้วนะ น่าจะอาบแล้ว เมื่อเช้ามั้ง... ไม่สิเมื่อวานต่างหาก ก็ที่นี้หนาวนี่นา... ใครจะไปอยากอาบกัน...
“อาจารย์คะ?” ยูมิทำเสียงเข้มแล้วส่งสายตาดุๆมาที่ผม ทำเอาผมขนลุกกลัวจะเจอเหตุการณ์แบบในแชท
“อ้อ ไม่ต้องห่วงครับ อีกเดี๋ยวผมไปอาบน้ำก่อนนะครับ ถ้าอยากฆ่าเวลาก็ทานของกินในตู้เย็นก่อนได้นะครับ”
ผมรีบจรลีจากยูมิจังอย่างไว ถึงจะบอกให้หาอะไรทานเล่นในตู้เย็นก็เถอะ... แต่ของกินในตู้เย็นของผมมันมีที่ไหนกันเล่า...
เสียง นาฬิกาดังก้อง เหล่านักเรียนเริ่มทยอยเข้ามาในชั้นเรื่อยๆจนเต็ม และแน่นอนทุกคนนั่งพื้น ดูเหมือนบางคนฉลาดหาทางสบายเอาเบาะรองนั่งมาบ้าง เอาสัตว์อสูรมาเป็นที่นั่งแทนบ้าง ใช้เวทย์มนต์รูปแบบต่างๆ ใช้เป็นที่นั่ง เหมือนว่าทั้งห้องจะไม่มีใครนั่งพื้นนอกจากผมแล้วล่ะมั้ง... นี่สินะกรรมตามสนอง รู้งี้... จัดเก้าอี้ให้ทุกคนก็ดีหรอก
ผมในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงขายาวสีดำ และเนคไทสีแดงเลือดหมูที่ไม่ได้ผูกเพราะผูกไม่เป็นแขวนไว้ที่คอหอบอาวุธและตำรามาเต็มไม้เต็มมือ
ผม นั่งขัดสมาธิบนแท่นที่อยู่สูงจากพื้นนิดหน่อย พลางมองไปที่นักเรียน และเริ่มการสอนอย่างจริงจัง สายตาผมคงไม่พ้นไปต้องชายเรือนผมสีเงินชุดขาวในชุดเครื่องแบบสีขาวขลิบทองดู สง่า ... สายตาของเขาจับจ้องมาที่ผม.. ลืมไปว่าผมแต่งตัวไม่เรียบร้อยสินะ ขออภัยด้วยครับเดี๋ยวผมจะไปหัดผูกเนคไทใหม่
“ ‘จารย์ เดี๋ยวผมผูกเนคไทให้นะคร้าบ”วาเลนกล่าวแล้วปรี่มามัดเนคไทให้ผมเป็นรูปโบว์อันโต
นี่มันไม่น่าใช่นะ....
แต่เด็กนักศึกษาส่วนใหญ่ชอบใจกับการกระทำของวาเลนผมคงไม่อาจจะขัดศรัทธาหรอก..
“ขอเริ่มบทเรียนต่อไปครับ... หลายคนคงจำหัวข้อนี้ได้
๑.จำแนกตามรูปลักษณ์ภายนอก
๑.๑ ประเภทใบมีด / มีคม เช่น หอก ดาบ พร้า เป็นต้น
๑.๒ ประเภทไร้คม เช่น ลูกตุ้ม โล่ สนับมือ คทา ไม้เท้า เป็นต้น
๑.๓ ประเภทบรรจุกระสุน เช่น ปืน ธนู เป็นต้น
๑.๔ ประเภทผสม/ดัดแปลง (ซึ่งเป็นประอาวุธยุกต์ใหม่โดยการเอาอาวุธทั้ง ๓ ชนิดข้างต้นมารวมกัน) เช่นเคียวโซ่ ที่มีลูกตุ้มถ่วงน้ำหนัก เป็นต้น
ผมอยากให้ทุกคนรู้จักการใช้งาน แม้ว่าบางคนใช้มือเปล่า แต่รู้ไว้ใช้เป็นก็ไม่เสียหายใช่ไหมครับ?”
ผมยิ้มให้ทุกคน แล้วนำอาวุธมาเรียงที่พื้นโดยเอาผ้าปูรองเอาไว้เพื่อเป็นการถนอมอาวุธอีกทางหนึ่ง
“ผมจะอธิบายภาคทฤษฎีในด้านคุณสมบัติและการใช้นะครับ เริ่มจากประเภทย่อยที่ ๑.๑ประเภทใบมีด / มีคม”
ผมหยิบมีดสั้น และ ดาบ ขึ้นมาชู
“อาวุธประเภท ๑.๑ นั้น มีคุณสมบัติในการทำให้เกิดบาดแผลภายนอก ซึ่งเหมาะกับการใช้แทง ฟัน ผ่า เป็นต้น ไม่เหมาะกับการปะทะกับโล่หรืออาวุธที่มีค่าความแข็งกว่าอาวุธมีคมนั้นๆ ซึ่งอาจทำให้บิ่นหรือทื่อ หรือ ไร้ซึ่งความคม เราสามารถทำให้มันคมได้โดยการฝนมีด ถ้ายังไม่ชำนาญขอให้ช่างผู้มีความชำนาญจัดการลับคมให้เสียจะดีกว่า”
“๑.๒ ประเภทไร้คม มีหลากหลายการใช้งาน พวกที่ไม่ต้องถ่ายเทพลังเวทย์เพื่อพลังงานขับเคลื่อนก็เหมาะกับการอัด กระแทก เพื่อให้ศัตรูเกิดอาการช้ำ กล้ามเนื้อฉีกขาด และโครงร่างภายในเสียหาย แต่ชนิดที่จำเป็นต้องใช้พลังเวทย์ขับเคลื่อนนั้น เหมาะกับการร่ายและโจมตีระยะไกล แต่อาวุธไร้คมที่ต้องใช้พลังเวทย์นั้นค่าความแข็งนั้นน้อยยิ่งกว่าพวกที่ไม่ ใช่พลังเวทย์ นอกจากพวกคุณจะสั่งทำให้อาวุธของท่าน ใช้แร่ชนิดแข็งๆ จริงๆ มาหลอม”
ผมวางไม้เท้ากับสนับมือลงบนผ้า
“๑.๓ ประเภทบรรจุกระสุน แน่นอนชื่อชนิดก็บ่งบอก อาวุธชนิดนี้ต้องมีคู่ ธนูคู่กับลูกเกาทัณฑ์ ปืนคู่กับเม็ดตะกั่ว ปืนใหญ่คู่กับกระสุนบรรจุดินปืน ครับ เรื่องอย่างนี้คงทราบดี แต่อาวุธประเภทนี้ มีบางชิ้นที่ไม่จำเป็นต้องบรรจุกระสุน เพราะการบรรจุกระสุนนั้น อาจจะใช้พลังปราณหรือพลังเวทย์เป็นกระสุนแทน ซึ่งหลากหลายตามชนิดแล้วรูปแบบที่แปลกใหม่ของอาวุธนั้นๆ เช่น อาวุธของท่านผู้อำนวยการ เป็นแบบพิเศษ บรรจุได้ทั้งกระสุนตะกั่วและกระสุนพลังเวทย์”
ผม สาธิตการใช้ ปืน บรรจุ กระสุน ยิงไปที่เป้าที่ตั้งไว้อีกตรงข้ามฝั่งของนักศึกษา แล้วเปลี่ยนปืนเป็นปืนบรรจุพลังปราณแล้วยิงไปที่เป้า เดิม จากรูเล็กๆของตะกั่วกลายเป็นรูที่ขยายใหญ่ขึ้นเพราะกระสุนพลังปราณ
“๑.๔ ประเภทผสม/ดัดแปลง เช่นเคียวโซ่ ลูกตุ้มเหล็ก แส้ใบมีด อาวุธชนิดนี้สามารถสร้างความเสียหายที่หลากหลาย แต่ไม่ต้องคิดอะไรมากเพราะมันเป็นแค่การเอาอาวุธสามชนิดข้างต้นมารวมกัน เฉยๆ”
“อาวุธทุกรูปแบบมีข้อดีข้อเสีย ต่างกันไป แต่ความชำนาญนั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ด้วย บางครั้งอาวุธดี แต่ผู้ใช้ไม่ชำนาญก็เสียเปรียบ ผมขอจบการเรียนเพียงเท่านี้ครับ ครั้งหน้าเราจะพูดถึงอาวุธประเภทที่สองกัน ผมขออนุญาตสั่งการบ้านเล็กน้อย ในอาวุธ แบบที่ ๑ นักศึกษาชอบอาวุธชนิดไหนมากที่สุดและเพราะอะไร 再见 ลาก่อนครับ”
แบบฟอร์มการบ้าน
รูป
ชื่อ
อาวุธแบบที่ ๑ ข้าพเจ้าชอบ ชนิดที่ ๑.๑ หรือ ๑.๒ หรือ ๑.๓ (ให้เลือกเอามาอย่างเดียว)
เพราะ......
ทุกคนลุกขึ้นแล้วแยกย้ายกันจากห้องเรียน เหลือเพียงผมกับท่านผู้ใหญ่
“อาจารย์หยางครั้งนี้จริงจังกับการสอนดีนะครับ” ผู้อำนวยการพูดยิ้มๆ ผมเองก็กล่าวขอบคุณแล้วเก็บข้าวของทั้งๆท่านั่ง
“อาจารย์หยางครับ เก็บเสร็จแล้วตามผมมาได้ไหมครับ เผื่อว่าบางที เราน่าจะไปจิบชายามบ่ายด้วยกัน หรือมาคุยกันบ้างเป็นการแลกเปลี่ยนนะครับ”
เมื่อท่านผู้ใหญ่พูดจบก็เดินนำออกไป ทิ้งให้ผมจัดเก็บของ
เวลาผ่านไปหลายสิบนาที.....
“คุณหยางครับ ? ทำไมไม่ตามผมมาล่ะครับ” ท่านผู้อำนวยการหัวเสียเล็กๆแล้วปรี่มาทางผม ผมได้แต่เงียบแล้วกล่าวอขอโทษไป... พร้อมส่งแววตาสำนึกผิด
“ขออภัยจริงๆครับท่าน.... ที่ผมตามท่านผู้ใหญ่ไปไม่ได้เพราะผม......”
ท่านผู้อำนวยการเอียงหูเข้ามาฟังใกล้ๆผม ตัวผมเองก็ทำหน้าสำนึกผิดเต็มที่แล้วก้มหน้าลงพูดด้วยเสียงหรี่เบา
“เอ่อ... ท่านผู้ใหญ่ครับ ... ผมตามท่านไปไม่ได้ เพราะผมนั่งขัดสมาธิบนพื้นแล้วเหน็บชากินขาครับ ขอภัยด้วย”
ความคิดเห็น