คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : EP.17 #ลมหายใจ
ยอมรับว่าฉันนิ่งอึ้งไปนานมาก ร่วมนาทีเลยกว่าจะกะพริบตาเรียกสติตัวเองกลับมาแล้วประมวลผลคำบอกเล่าของพี่ไรม์
“มะ หมายความว่า… เราออกไปจากที่นี่ไม่ได้แล้วงั้นเหรอคะ?”
“ใช่ นอกจากต้องเดินลุยน้ำไป แต่ดูจากความลึกของน้ำแล้ว อาจจะต้องว่ายออกไปด้วย”
ดะ เดี๋ยวนะ… ต้องว่ายน้ำออกจากถ้ำงั้นเหรอ? แต่ว่า…
“ฟองว่ายน้ำไม่แข็งนะคะ” ฉันกังวลใจมากเลยตอนนี้ ตอนเด็ก ๆ ฉันเคยเรียนว่ายน้ำอยู่บ้าง แต่เพราะฉันแพ้อากาศเย็น ๆ พ่อจึงไม่ให้ฝืนเรียนต่อ ฉันจึงโตมาโดยว่ายน้ำเป็นแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ กล่าวคือ… ว่ายได้แต่ไม่แข็งนัก แล้วยิ่งให้ว่ายท่ามกลางน้ำทะเลเย็นจัดแบบนี้ด้วยละก็… ฉันตายแน่ ๆ
“งั้นเลือกเอา จะว่ายน้ำออกไปหรือจะนอนค้างที่นี่?”
ฉันเม้มปากแน่นอย่างคิดหนักเมื่อเดินตามหลังพี่ไรม์มาหยุดยืนภายในถ้ำซึ่งมีทางลอดใต้ถ้ำออกไปด้านนอก บริเวณนั้นมีน้ำทะเลเอ่อล้นอยู่ ระดับความลึกของมันน่าจะมิดหัวฉันเลยทีเดียว แต่พี่ไรม์บอกว่าระยะทางมันไม่ไกลเท่าไหร่ กลั้นใจว่ายแล้วดำน้ำลอดใต้ปากถ้ำนี้ไปก็โผล่พ้นอีกฝั่งแล้ว
พูดน่ะมันพูดง่าย… แต่ฉันทำไม่ได้นี่น่ะสิ!
“จะเอายังไง ถ้าไม่ว่ายออกไปก็ต้องนอนที่นี่นะ อากาศหนาวลงเรื่อย ๆ แบบนี้ เธอได้แข็งตายแน่” ทำไมเขาต้องขู่ฉันด้วยล่ะ! นี่มันความผิดเขาไม่ใช่เหรอ? จู่ ๆ ก็ลากฉันเข้ามาในนี้น่ะ!
“ฟอง… ฟองทำไม่ได้… ฟองว่ายออกไปไม่ไหวหรอกค่ะ” ฉันตัดสินใจไม่เสี่ยงดีกว่า เพราะนอกจากมันจะเสี่ยงต่อชีวิตฉันแล้ว มันยังเสี่ยงต่อชีวิตพี่ไรม์ด้วย ฉันไม่อยากให้เขามีอันตรายนะ
“งั้นเธอจะรอน้ำลดจนถึงเช้าเลยหรือไง พี่ใหญ่ก็บอกอยู่ว่าคืนนี้พายุเข้า ฝนจะตกหนัก อยู่ในที่แบบนี้ได้หนาวตายกันพอดี”
นับว่าเป็นประโยคยาว ๆ เพียงไม่กี่ครั้งที่พี่ไรม์พูดกับฉัน สีหน้าและแววตาของเขาไม่ได้เย็นชาอย่างก่อนหน้านี้แล้ว แต่มันเต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลายจนฉันคาดเดาไม่ถูก
“แต่ว่า… ฟองทำไม่ได้หรอกค่ะ ฟองว่ายน้ำไม่แข็งจริง ๆ นะคะ ฟองอาจเป็นภาระให้พี่ก็ได้” จู่ ๆ ฉันก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึงหันไปมองคนสูงกว่าทันที “พี่ไรม์ว่ายออกไปคนเดียวก็ได้นี่คะ ถ้าพี่ไปคนเดียวต้องไปได้แน่ ๆ ไปเลยค่ะ รีบไปสิคะ”
“อย่ามาตลกนะ!” มือหนาปัดมือฉันที่ผลักดันแผ่นหลังเขาให้เดินลงน้ำ สายตาฉุนเฉียวมองปราดมาที่ฉันก่อนมือหนาคว้าจับข้อมือเล็กแล้วกระชากเข้าหาตัว “คิดว่าฉันทิ้งจะเธอไว้ที่นี่คนเดียวหรือไง! อย่ามาโง่หน่อยเลย!”
“…”
“ฉันไม่มีทางทิ้งเธอไว้คนเดียวแน่!”
ไม่รู้ทำไม… ทั้งที่ฉันควรจะตื่นกลัวกับสถานการณ์ตอนนี้ แต่หัวใจมันกลับอุ่นวาบไปหมด เพียงเพราะคำพูดที่เต็มไปด้วยอารมณ์กับสีหน้าจริงจังของพี่ไรม์ที่ดูเป็นห่วงเป็นใยฉันเหลือเกิน จู่ ๆ ก็มีความคิดหนึ่งแล่นขึ้นมาว่า…
ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟ… ถ้าได้อยู่ข้าง ๆ เขาฉันก็ยอม
ฉันขยับยิ้มเบาบางท่ามกลางความมืดสลัวที่เริ่มโรยตัวลง สายตาเลื่อนมองน้ำทะเลสีใสที่ฝั่งตรงข้ามสะท้อนแสงเรืองรองร่ำไร ฉันจะยอมเสี่ยงเพื่อพี่ไรม์… ถ้ามีเขาอยู่ข้าง ๆ ฉันจะต้องว่ายผ่านถ้ำนี้ไปได้แน่ ๆ
“ถ้างั้น… เรากลับกันเถอะค่ะ”
“…” พี่ไรม์หันมองฉัน แววตาเขาดูอึ้ง ๆ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นนิ่งลึกตามเดิม เขาเม้มปากอย่างครุ่นคิดก่อนจะพยักหน้ารับ มือหนายื่นออกมา ฉันหลุบตามองมือข้างนั้นด้วยหัวใจเต้นระรัว ใบหน้าครึ่งเสี้ยวที่กำลังเหม่อมองไปทางปากถ้ำแม้จะนิ่งเรียบแต่ก็ไร้ความเย็นชาอย่างที่เคยเป็น “จับมือฉันไว้ อย่าได้ปล่อยเชียวล่ะ”
ฉันขยับยิ้มเต็มแก้ม มันเป็นรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุขครั้งแรกหลังจากที่เราแต่งงานกัน มือบางวางมือลงบนมือเขา เราค่อย ๆ ประสานนิ้วจับกุมกัน ความอบอุ่นแล่นวาบจากฝ่ามือส่งตรงมาที่หัวใจ
“ไม่มีทางปล่อยแน่นอนค่ะ”
ถึงจะพูดแบบนั้น… แต่มันไม่ง่ายเลยค่ะ!
ตอนแรกเราสองคนเพียงแค่เดินลุยน้ำที่เริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งต้องดำน้ำว่าย แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะอุณหภูมิน้ำมันเย็นจัดมาก ฉันที่เป็นโรคแพ้ความหนาวเย็นก็แทบจะขาดใจตายใต้น้ำ ต้องดำผุดดำว่ายเหนือน้ำอยู่ตลอด จนถึงปากทางออกที่จำเป็นต้องดำน้ำลงลึกเพื่อลอดผ่านช่องปากถ้ำออกไป พี่ไรม์บอกให้ฉันสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ แล้วดำลงไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งฉันทำตาม…
แต่ว่า… ฉันดันสำลักอากาศตอนที่เราลอดผ่านปากถ้ำออกมาได้สำเร็จ ฉันเบิกตากว้างในตอนที่อากาศเฮือกสุดท้ายพ่นออกมาจนหมด อีกแค่นิดเดียวก็จะลอยตัวขึ้นเหนือน้ำแล้วแท้ ๆ แต่ฉันกลับหายใจไม่ออก มันอึดอัดเจียนจะขาดใจตาย พี่ไรม์หันมาเห็นสภาพทุรนทุรายของฉัน เขาเบิกตากว้าง สีหน้าตื่นตระหนกรีบกระตุกข้อมือฉันให้ลอยเข้าหาตัวเขา
วินาทีนั้นฉันหลับตาลงอย่างทำใจยอมรับกับความตาย ทว่า… สัมผัสอ่อนนุ่มแสนอบอุ่นทาบทับลงบนริมฝีปากช่วยเรียกสติของฉันคืนมาอีกครั้ง ฉันลืมตาขึ้นมองสบกับดวงตาสีสนิมที่กำลังสั่นไหวรุนแรง ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความกังวล ขณะค่อย ๆ ถ่ายเทอากาศเข้ามาในโพรงปากของฉันช้า ๆ เมื่อเห็นว่าฉันได้รับออกซิเจนจนมีสติพอแล้ว ริมฝีปากอบอุ่นค่อยผละออกไปก่อนตวัดวงแขนแกร่งรอบเอวฉันแล้วพาว่ายขึ้นเหนือน้ำในทันที
“แค่ก! แค่ก ๆ ๆ!!” ฉันสำลักน้ำออกมาทันทีที่ร่างของเราสองคนโผล่พ้นน้ำ และก็ต้องนิ่งค้างเมื่อร่างกายถูกคนตัวสูงคว้ากอดแนบแน่น สัมผัสใกล้ชิดของเราทำให้ฉันได้ยินเสียงหัวใจแกร่งเต้นรัวแรง ก่อนหัวใจฉันจะกลายเป็นฝ่ายเต้นรัวเร็วบ้างกับคำกระซิบแผ่วเบาข้างใบหู
“ปลอดภัยแล้ว… น้องปลอดภัยแล้วนะฟอง”
ความคิดเห็น