ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Strange Tales Of Panorama Island

    ลำดับตอนที่ #241 : WE ARE YOUNG ~LEMONADE~

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ย. 66


    WE ARE YOUNG
    Playlist: I Don't Like Mondays. – LEMONADE












    .

    ไม่มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นในชีวิตของอายาโนะ โมโตโกะ นับตั้งแต่เลิกรากับคนรักอย่างมาซาคาโดะ โยชิโนริเมื่อหนึ่งเดือนก่อน เนื่องจากอพาร์ตเมนต์ริมฝั่งทะเลที่เขาแวะเวียนมาค้างด้วยบ่อยจนเกือบจะเรียกว่าเป็นผู้อาศัยร่วมมากกว่าแชร์เฮาส์ที่เขาเช่าอยู่กับเพื่อนในวงดนตรีที่เล่นเป็นงานอดิเรกโดยไม่มาขนข้าวของกลับไปเลยด้วยซ้ำ โมโตโกะจึงไม่สามารถทนใช้ชีวิตอยู่ในห้องที่ทุกตารางนิ้วล้วนเต็มไปด้วยความทรงจำมากมายร่วมกับเขาได้ ถึงแม้ว่าความทรงจำสุดท้ายจะเป็นสีหน้าแสดงความเจ็บปวดกับคำพูดที่เขาตะคอกใส่หน้าเธอว่า

    “ถามจริงๆ เถอะนะโมโตโกะ เธอเคยรักฉันบ้างหรือเปล่า!

    ระหว่างงานเลี้ยงวันเกิดของเพื่อนในวงที่บาร์ใต้ดินสไตล์แปดศูนย์ ซึ่งมีวงดนตรีขึ้นแสดงและฟลอร์เต้นรำให้แขกเหรื่อได้ออกไปโยกย้ายกับบทเพลงแนวดิสโก้ ฟังค์ แจ๊ซฟิวชั่น นอกจากเพื่อนในวงของโยชิโนริแล้วก็ยังมีแฟนสาวของสมาชิกรวมถึงเพื่อนกลุ่มใหญ่ทั้งชายหญิงที่โมโตโกะไม่รู้จักอีกมากมาร่วมด้วย

    มันเริ่มต้นขึ้นจากตอนที่โมโตโกะขอตัวออกไปเข้าห้องน้ำและสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์ ครั้นหันขวับกลับมานั้นเองก็จะได้เห็นหญิงสาวใบหน้าสวยเฉี่ยวและเมื่อกี้ยังเต้นรำอยู่บนฟลอร์...จงใจ...มานั่งทับรอยตอนที่เธอลุกจากไป แล้วหัวร่อต่อกระซิกกับชายหนุ่มอย่างใกล้ชิดตามบทเพลงของคาโดมัตสึ โทชิกิที่ประจวบเหมาะอะไรเช่นนี้ว่า ซีเคร็ต เลิฟเวอร์ ความไม่พอใจแล่นปราดขึ้นมาจนโมโตโกะต้องรีบหยิบแก้วเครื่องดื่มขึ้นมาสาดลงคอไปจนหมดในคราวเดียวเพื่อดับอารมณ์กรุ่นๆ ถึงแค่เล็กน้อยก็ยังดี ก่อนสั่งค็อกเทลรสเดิมอีกแก้วแล้วกลับไปรวมกลุ่ม เปลี่ยนไปจับจองที่นั่งฝั่งตรงกันข้ามแล้วส่งยิ้มให้ทั้งสองคนด้วยท่าทีที่แสดงออกว่าไม่ได้รู้สึกอะไร เหมือนอย่างทุกครั้งคราวที่โมโตโกะเห็นคนรักของตัวเองอยู่กับผู้หญิงคนอื่น เพราะเธอรู้ดีว่าโยชิโนริไม่เคยเป็นคนเริ่ม

    เมื่อเขาไม่เอ่ยปากพูดถึง เธอก็จะทำเป็นเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วมันก็จะผ่านพ้นไปเอง

    แต่โมโตโกะไม่รู้เลยว่าการที่เธอไม่เคยด่าทอหรือแสดงความเสียใจในแบบที่คนรักพึงกระทำ จากประสบการณ์หึงหวงคนรักสมัยไฮสคูลและมหาวิทยาลัยอย่างออกนอกหน้าจนต้องเลิกรากันไปด้วยความเกลียดชังอย่างสุดกู่ จะเป็นสิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจของโยชิโนริมาตลอด

    อาจเป็นเพราะแอลกอฮอล์ที่เธอสังเกตเห็นว่าคืนนี้เขาดื่มมันมากเกินไปหน่อย หรืออาจเป็นเพราะเธอที่พ่นลมหายใจคล้ายการเย้ยเยาะ แม้เขาจะพูดด้วยน้ำเสียงเหยียดหยันว่า “ต่อให้ฉันจูบผู้หญิงคนอื่น เธอก็คงจะยิ้มโง่ๆ แบบนั้นให้ฉันอยู่ดี”

    ในตอนนั้น โมโตโกะไม่เข้าใจโยชิโนริเลยสักนิดว่าทำไมต้องโกรธเธอมากมายถึงขนาดบอกเลิกกันเพราะเรื่องสมมติที่โง่เง่าชะมัดนี้ด้วย เธอได้แต่ยืนนิ่ง อีกครู่หนึ่งจึงเรียกสติกลับคืนมาแล้ววิ่งตามกลับลงไป เพียงเพื่อจะได้พบอดีตคนรักกำลังจูบกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ตรงโถงทางเดินโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแม้จะกำลังสบประสานสายตาอยู่กับเธอ และใช่...ใบหน้าของเธอมีเพียงรอยยิ้มโง่ๆ ขณะจับจ้องมองดูภาพตรงหน้าอย่างที่เขาว่าไว้จริงๆ

     

    เธอไม่ได้ร้องไห้ ไม่ได้พยายามติดต่อเขากลับไปให้ดูเหมือนคนเซ้าซี้ ถึงกิจวัตรแรกหลังตื่นนอนของทุกๆ วันจะเป็นการหยิบมือถือขึ้นมาดูเผื่อว่าจะมีข้อความอะไรบ้าง แต่ก็ไม่ โมโตโกะไม่ได้รู้สึกเหมือนจะขาดใจตาย นอกจากรู้สึกกลวงเปล่าข้างในอกเหมือนมีบางสิ่งที่สำคัญมากขาดหายไป

    ถ้าหากวันนั้น เธอตอบเขาไปว่ารักมากและร้องไห้ออกมาเหมือนอย่างที่กำลังเป็นอยู่ในค่ำคืนที่ได้บังเอิญเห็นแผ่นหลังของเขากับเพื่อนนร่วมวงบนท้องถนน ทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปหรือเปล่า?

    แต่เธอคงไม่มีวันได้รู้

    สุดท้ายโมโตโกะก็ต้องบากหน้ามาขออาศัยอยู่กับเพื่อนซี้อย่างโคโคโรกิ มิเนะ ที่ทำงานเป็นผู้ช่วยช่างภาพและผู้กำกับจนอยู่ไม่ติดเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ อย่างที่โมโตโกะเรียกว่าเช่าทิ้งๆ ขว้างๆ เพราะเงินเหลือเฟือให้เจ้าหล่อนได้ค้อนควัก เพราะเพิ่งจะย้ายออกมาได้ไม่กี่วันเลยยังไม่มีแก่ใจจะหาที่พักใหม่ในตอนนี้ ไหนจะการถูกเอเจนซี่ยกเลิกสัญญาเพราะได้รับเล่นแต่บทตัวประกอบเล็กๆ ในละครที่ก็ไม่ได้สร้างชื่อเสียงให้แม้แต่นักแสดงนำ ถึงอย่างนั้นโมโตโกะก็ไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไร แค่รู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตที่ตื่นมาอาบน้ำ กินข้าว เล่นคอม ดูหนัง ฟังเพลง แล้วก็กลับไปนอน แทบไม่ได้เหยียบย่างออกจากห้องสี่เหลี่ยมไปดูโลกภายนอกด้วยซ้ำ เป็นกิจวัตรไม่ตรงเวลาที่เกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมาทุกวัน กระทั่งวันนี้ที่เธอลืมตาโพลง จับจ้องมองดูเพดานไม้สีน้ำตาลในยามบ่ายแก่ๆ หลังจากตื่นนอนมาได้สักพักใหญ่ๆ ชั่งใจอยู่ระหว่างความคิดที่ว่าควรจะไปดูไลฟ์วันนี้อย่างที่เคยตั้งใจไว้ดีหรือไม่

    โมโตโกะรู้อยู่แล้วว่าไม่มีทางได้เจอคนรักเก่าที่นั่น เพราะตั๋วที่เขาซื้อมาเป็นคู่ถูกเธอขยำทิ้งในห้องพักเก่าไปแล้วด้วยความเสียใจ หาใช่คับแค้น แต่เธอก็ไม่แน่ใจว่ามีอารมณ์อยากไปสนุก ถึงความสนุกคือสิ่งที่เธอควรหามาเติมเต็มใส่ชีวิตที่ซึมกะทือเหมือนกับผีตายซากอย่างที่มิเนะว่าไว้ก็ตาม

    หลังใคร่ครวญอยู่พักใหญ่ๆ ในที่สุดโมโตโกะก็พรูลมหายใจออกมา หันไปคว้ามือถือที่หัวเตียงขึ้นมาดูเวลาอีกครั้ง สี่ชั่วโมงพอถมถืดไปที่เธอจะจัดการตัวเอง แวะร้านสะดวกซื้อหาอะไรกินง่ายๆ แล้วจับรถไฟใต้ดินไปยังสถานที่จัดงานซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่นักให้ทันเวลาปิดประตู

     

     

    โมโตโกะเผลอสะดุ้งในตอนที่บ่าของเธอถูกแตะ พร้อมกับประโยคเริงร่าที่ว่า “ใช่อายาโนะจริงๆ ด้วย!” ระหว่างกำลังยืนเลือกของหวานรองท้องอยู่ที่หน้าเชลฟ์ในร้านสะดวกซื้อ ก่อนแปรเปลี่ยนไปเป็นความประหลาดใจเมื่อได้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยของคนรู้จัก

    “โมโตดากะ?”

    เธอมองหน้าเพื่อนร่วมห้องสมัยไฮสคูลที่คงใช้คำว่าสนิทสนมไม่ได้ แต่ก็มีอยู่หลายครั้งที่ได้รับความใจดีจากเขาผ่านคำทักทายทั่วไป หรือเวลาถามไถ่เรื่องบทเรียนที่ไม่เข้าใจ ครั้นพอเข้ามหาวิทยาลัยก็ต่างแยกย้ายกันไปคนละคณะ คนละเส้นทาง ที่ดูอย่างไรสาขาวิชาภาษาอังกฤษและดนตรีก็ไม่น่าจะมาบรรจบกันได้ในแคมปัสที่กว้างใหญ่เสียจนทำให้คนหลงทิศอย่างเธอหลงทางได้อยู่เรื่อย โมโตโกะเคยเห็นอดีตเพื่อนร่วมห้องรายนี้จากที่ไกลๆ แค่ไม่กี่ครั้ง และทุกครั้งเขาจะถูกรายล้อมไปด้วยเพื่อนฝูงกลุ่มใหญ่เหมือนกับสมัยไฮสคูลไม่มีผิดเพี้ยน ดังนั้นการได้เห็นเขาเดินอยู่คนเดียวแบบนี้จึงดูเป็นเรื่องที่ชวนทึ่งสำหรับเธอไม่น้อย

    “เปลี่ยนไปตั้งเยอะ เกือบจำไม่ได้แน่ะ”

    โมโตโกะตอบกลับด้วยเสียงหัวเราะ ก่อนหยิบเค้กบลูเบอร์รี่กับสไปรท์เดินไปจ่ายเงินตามคัตสึกิที่ถือแซนด์วิชกับโค้กไปด้วยกัน เพราะที่นั่งถูกจับจองไปหมดแล้วเลยต้องระเห็จออกมาด้านนอกแทน ขณะที่เธอเพียงพิงบั้นท้ายกับขอบรั้วหนา เขากลับทิ้งตัวนั่งลงไปเลยด้วยท่าทางเบาสบาย

    “ได้นัดใครไว้หรือเปล่า?”

    เธอสั่นหัว ย้อนถามกลับไปด้วยประโยคเดียวกัน

    “ฉันนัดกับเรย์อะไว้ที่คลับเอดจ์...”

    ไม่รอให้อีกฝ่ายได้พูดจนจบ เธอก็จะหันไปทำตาโต โพล่งขึ้นทั้งที่ยังไม่ทันได้ตักเค้กเข้าปากเลยด้วยซ้ำ “ไม่จริงน่า! ฉันก็จะไปที่นั่นเหมือนกัน!

    “เอ๊ะ? อายาโนะเนี่ยนะจะไปดูคอนเสิร์ตคนเดียว?”

    “ที่จริง...ตอนแรกก็ไม่ใช่คนเดียวหรอก” แม้จะตอบด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติ แต่ทีท่าของหญิงสาวซึ่งกลับไปก้มหน้าก้มตาจ้วงเค้กจนถึงก้นกระป๋องอย่างขะมักเขม้นก็มากพอให้เพื่อนร่วมห้อง คนที่คอยมองดูความเป็นไปตลอดสามปีของเธอ เข้าใจ

    “งั้นวันนี้เราไปสนุกกันให้เต็มที่เลยดีกว่า ทั้งอายาโนะ ฉัน แล้วก็เรย์อะ” เรียกรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าที่แต้มแต่งมาอย่างดีของโมโตโกะ “คืนนี้ คืนนี้ คืนนี้ เอาล่ะ...”

    “เราจะไม่มีวันลืมเลือนค่ำคืนหน้าร้อนนี้”

    พวกเขาประสานเสียงร้องเพลงเช่นเดียวกับเสียงหัวเราะสดใสที่หวนกลับคืนมาอีกครั้ง เพราะตราบที่ได้อยู่กับโมโตดากะ คัตสึกิ โมโตโกะก็รู้ว่าค่ำคืนนี้มันจะต้องยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน

     

    来年再来年もその先も

    ปีหน้า ปีถัดไป หรือปีต่อๆ ไป

    きっと君は綺麗さ

    ฉันแน่ใจว่าเธอจะยังคงงดงาม

    いつかまた出逢える時は

    จนกว่าจะถึงช่วงเวลาที่เราได้พบกันอีกครั้ง

    この夏のようなKissを二人でしよう

    เราสองคนมาจูบกันเหมือนหน้าร้อนนี้กันเถอะ












    2023年02月11日
    _______________
     เริ่มจากโลกรู้ (ไม่รู้ก็ไม่เป็นไร) ว่ากูรัก idlms. มาก รักมาเจ็ดปี ไม่ตอแหล ไม่จกตา หลักฐานที่กูกดไลค์เพลงตั้งแต่เมื่อเจ็ดปีก่อนยังอยู่ในทวิต เพราะสมัยนั้นกูฟังอินดี้เจร็อคอะไรแนวนี้จริง หลังจากนั้นกูก็ได้รู้ว่าพี่อิวาโมโตะกับเซย์ยะก็ชอบวงเดียวกับกู มิตสึก็ให้วงนี้มาทำเพลงโซโล่ (โมโตดากะเคยรีเควสต์เพลงนี้ในราจิราด้วยมึงกูสิไค่ไห้) กูเลยนึกภาพในหัวมาตลอดว่าค่ายนี้คนที่ชอบวงนี้ก็คือ...รุ่นกูนี่แหละ วีอาร์โอลด์หรือเปล่า ทีนี้พอมึงมาชอบโมโตดากะกูก็บังเอิญไปเจอแมกฯนึงที่คุยกับเซเว่นเม็นเรื่องเพลง ละกูก็ช็อกตาตั้ง! เพราะโมโตดากะบอกว่าฟังวงนี้ตอนอายุสิบเจ็ด! บอกว่าเป็นวงที่ทำให้หันมาฟังวงแบนด์! ติดเพลงวีอาร์ยังและชอบเพลงทูไนท์ที่สุด! (อย่าด่ากูว่าตอแหลแต่สมัยนั้นกูบ้าทูไนท์มาก วัวตายความล้ม ท่อนสุดท้ายที่สองคนนี้ร้องด้วยกันก็มาจากเพลงทูไนท์ตั้งแต่แรก!) แล้วทีนี้เค้าก็ให้แนะนำสปริงเพลย์ลิสต์ ซึ่งในนั้นมีเพลงเลมอนเนด! แต่อะไรไม่รู้กูแปลไม่ออก อ่านออกแค่ถึงเป็นใบไม้ผลิก็อยากฟัง (เพราะเพลงมันซัมเมอร์ซัมใจไงวะ) แล้วก็มีว่าฟังระหว่างขับรถอะไรสักอย่าง ซึ่งสำหรับกูคือเซอร์ไพรส์มากที่มีเด็กจอห์นนีส์รุ่น...น้อง...ฟังวงนี้แล้วชอบมาก แถมเป็นเมนมึงด้วย! / จากนั้นก็คุ้ยเจอฟิคอันนี้ที่ว้าวซ่า จำได้เลยว่าเพราะอยากใช้เพลงเลมอนเนดที่กูรักมาก รักที่สุด ละในไฟล์กูตั้งชื่อชั่วคราวว่าอะไรรู้ไหม วีอาร์ยัง! อีเหี้ย กูช็อกหนึ่งเพราะเป็นเพลงที่โมโตดากะพูดถึง! ก่อนช็อกสองเพราะเพลงไทรบีก็ชื่อวีอาร์ยัง! แม่เจ้าโว้ยยยย แม่หมอยูจุง ปีนี้ก็จะเซนส์แรงเกินปุยมุ้ยกันตั้งแต่ต้นปีเลยหรือนี่!
     จำได้ก็ดี ไม่ได้ก็ช่างมันว่าฟิคเรื่องนี้ที่จริงเคยมีสองคู่ว่ะ แต่คู่แรกกูเอาพล็อตยิบย่อยมาจากฟิคอินดี้ที่เคยแต่งตรงนั้นตรงนี้ที่ซ้ำมาก ช้ำไม่ไหวแล้ว ขี้เกียจเกลาใหม่ แล้วพออ่านอีกทีก็ไม่ได้ชอบอะไรมากเลยตัดมาเหลือแค่คู่นี้ที่กูรักของกู อ่านกี่ทีก็รัก ได้พล็อตมาจากเอ็มวีเพลงคอลมีของวงนี้แหละ ที่พระเอกหน้าคล้ายคนที่กูชอบสมัยมหาลัย สวัสดี (ลิงค์) ถ้ากูแต่งต่อนะยังไงก็ได้เจอแฟนเก่า แต่ไม่มีวันนั้นแล้วเพราะขนาดแค่จะขยายพล็อตของพระนางกูยังไม่ทำเลย คนอย่างกูแปลงอย่างเดียวเต้าอั้น ไม่มีแต่งเพิ่มเด้อสู / สารภาพนะ จริงๆ กูเคยเกลาเรื่องนี้ตั้งแต่สมัยรู้ว่าเซย์ยะฟังวงนี้ให้อีกพาร์ทที่ไลฟ์เฮาส์ แล้วคู่นี้จะเป็นโคจิเคน แฟนเก่าก็ไทเซย์ ฮ่าๆๆ แต่ไม่เปิงใจสักทีมั้งเลยทิ้งไว้ตรงนั้น จนมาเจอโมโตดากะที่ปลุกผีขึ้นมาใหม่ ละก็เปิงกับพล็อตจริง น่ารักจริงโว้ยย เรื่องของการแปลงฟิคก็เหมือนกับหัวใจ บางทีก็ต้องรอเวลาที่ใช่ ถ้ามึงไม่ชอบโมโตดากะในวันนั้น ฟิคนี้ก็คงไม่ได้กลับมาลืมตาอ้าปากในวันนี้
     ครั้นจะเลือกเพื่อนในวงมาเป็นแฟนเก่าก็...เกรงใจมึง เลยเลือกสมาชิกของวงดนตรีอีกวงในค่ายมารับเชิญแทนงับ พี่โยซิสแตมป์งับ / ยังจำได้อยู่เลยว่าตอนนั้นที่เลือกให้เป็นบาร์สไตล์แปดศูนย์เพราะดูเรื่อง The Earthquake Bird ซึ่งในเรื่องมันเป็นยุคนั้นอยู่แล้ว ปี 89 แต่กูชอบบรรยากาศสมัยนั้นเลยหยิบมา แต่ตอนนี้ก็จำไม่ได้แล้วว่าเป็นไงนะ 55555 / พล็อตอะไรยังไงก็จำไม่ได้แล้ว แต่โมโตดากะชอบโมโตโกะมาตั้งแต่ตอนเรียน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้สานต่อกัน ที่จริงมีซีนหนึ่งในหัวคือได้ไปทะเลด้วยกัน มีจูบแรกที่นั่นแหละ เป็นรสเลมอนเนดเลยนะ แต่ทะเลทิพย์ว่ะ บ่าได้ไปแล้ว มีแค่ทะเลไฟในใจมึง แต่ก็ถือว่าคอมพลีตไปอีกเรื่องที่ได้ใช้เพลงที่รักมากๆ มาประกอบสักที แถมเป็นคนที่ชอบวงนี้เพลงนี้ด้วย ปลื้มใจว่ะมึง T_T ขอบคุณที่มึงมาเมนพี่เค้านะ รักกันไปนานๆ นะ ฝากดูแลเซเว่นเม็นกับควิซคลับในวันที่กูไม่อยู่แล้วด้วย
     ปล. อ้ายเหี้ยมึง คนนี้เองเหรอวะที่เคยเล่นเรื่องอิมาโดกิกับอุมิ...

    SNAP
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×