คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #241 : WE ARE YOUNG ~LEMONADE~
ไม่มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นในชีวิตของอายาโนะ โมโตโกะ นับตั้งแต่เลิกรากับคนรักอย่างมาซาคาโดะ โยชิโนริเมื่อหนึ่งเดือนก่อน เนื่องจากอพาร์ตเมนต์ริมฝั่งทะเลที่เขาแวะเวียนมาค้างด้วยบ่อยจนเกือบจะเรียกว่าเป็นผู้อาศัยร่วมมากกว่าแชร์เฮาส์ที่เขาเช่าอยู่กับเพื่อนในวงดนตรีที่เล่นเป็นงานอดิเรกโดยไม่มาขนข้าวของกลับไปเลยด้วยซ้ำ โมโตโกะจึงไม่สามารถทนใช้ชีวิตอยู่ในห้องที่ทุกตารางนิ้วล้วนเต็มไปด้วยความทรงจำมากมายร่วมกับเขาได้ ถึงแม้ว่าความทรงจำสุดท้ายจะเป็นสีหน้าแสดงความเจ็บปวดกับคำพูดที่เขาตะคอกใส่หน้าเธอว่า
“ถามจริงๆ เถอะนะโมโตโกะ เธอเคยรักฉันบ้างหรือเปล่า!”
ระหว่างงานเลี้ยงวันเกิดของเพื่อนในวงที่บาร์ใต้ดินสไตล์แปดศูนย์ ซึ่งมีวงดนตรีขึ้นแสดงและฟลอร์เต้นรำให้แขกเหรื่อได้ออกไปโยกย้ายกับบทเพลงแนวดิสโก้ ฟังค์ แจ๊ซฟิวชั่น นอกจากเพื่อนในวงของโยชิโนริแล้วก็ยังมีแฟนสาวของสมาชิกรวมถึงเพื่อนกลุ่มใหญ่ทั้งชายหญิงที่โมโตโกะไม่รู้จักอีกมากมาร่วมด้วย
มันเริ่มต้นขึ้นจากตอนที่โมโตโกะขอตัวออกไปเข้าห้องน้ำและสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์ ครั้นหันขวับกลับมานั้นเองก็จะได้เห็นหญิงสาวใบหน้าสวยเฉี่ยวและเมื่อกี้ยังเต้นรำอยู่บนฟลอร์...จงใจ...มานั่งทับรอยตอนที่เธอลุกจากไป แล้วหัวร่อต่อกระซิกกับชายหนุ่มอย่างใกล้ชิดตามบทเพลงของคาโดมัตสึ โทชิกิที่ประจวบเหมาะอะไรเช่นนี้ว่า ‘ซีเคร็ต เลิฟเวอร์’ ความไม่พอใจแล่นปราดขึ้นมาจนโมโตโกะต้องรีบหยิบแก้วเครื่องดื่มขึ้นมาสาดลงคอไปจนหมดในคราวเดียวเพื่อดับอารมณ์กรุ่นๆ ถึงแค่เล็กน้อยก็ยังดี ก่อนสั่งค็อกเทลรสเดิมอีกแก้วแล้วกลับไปรวมกลุ่ม เปลี่ยนไปจับจองที่นั่งฝั่งตรงกันข้ามแล้วส่งยิ้มให้ทั้งสองคนด้วยท่าทีที่แสดงออกว่าไม่ได้รู้สึกอะไร เหมือนอย่างทุกครั้งคราวที่โมโตโกะเห็นคนรักของตัวเองอยู่กับผู้หญิงคนอื่น เพราะเธอรู้ดีว่าโยชิโนริไม่เคยเป็นคนเริ่ม
เมื่อเขาไม่เอ่ยปากพูดถึง เธอก็จะทำเป็นเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วมันก็จะผ่านพ้นไปเอง
แต่โมโตโกะไม่รู้เลยว่าการที่เธอไม่เคยด่าทอหรือแสดงความเสียใจในแบบที่คนรักพึงกระทำ จากประสบการณ์หึงหวงคนรักสมัยไฮสคูลและมหาวิทยาลัยอย่างออกนอกหน้าจนต้องเลิกรากันไปด้วยความเกลียดชังอย่างสุดกู่ จะเป็นสิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจของโยชิโนริมาตลอด
อาจเป็นเพราะแอลกอฮอล์ที่เธอสังเกตเห็นว่าคืนนี้เขาดื่มมันมากเกินไปหน่อย หรืออาจเป็นเพราะเธอที่พ่นลมหายใจคล้ายการเย้ยเยาะ แม้เขาจะพูดด้วยน้ำเสียงเหยียดหยันว่า “ต่อให้ฉันจูบผู้หญิงคนอื่น เธอก็คงจะยิ้มโง่ๆ แบบนั้นให้ฉันอยู่ดี”
ในตอนนั้น โมโตโกะไม่เข้าใจโยชิโนริเลยสักนิดว่าทำไมต้องโกรธเธอมากมายถึงขนาดบอกเลิกกันเพราะเรื่องสมมติที่โง่เง่าชะมัดนี้ด้วย เธอได้แต่ยืนนิ่ง อีกครู่หนึ่งจึงเรียกสติกลับคืนมาแล้ววิ่งตามกลับลงไป เพียงเพื่อจะได้พบอดีตคนรักกำลังจูบกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ตรงโถงทางเดินโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแม้จะกำลังสบประสานสายตาอยู่กับเธอ และใช่...ใบหน้าของเธอมีเพียงรอยยิ้มโง่ๆ ขณะจับจ้องมองดูภาพตรงหน้าอย่างที่เขาว่าไว้จริงๆ
เธอไม่ได้ร้องไห้ ไม่ได้พยายามติดต่อเขากลับไปให้ดูเหมือนคนเซ้าซี้ ถึงกิจวัตรแรกหลังตื่นนอนของทุกๆ วันจะเป็นการหยิบมือถือขึ้นมาดูเผื่อว่าจะมีข้อความอะไรบ้าง แต่ก็ไม่ โมโตโกะไม่ได้รู้สึกเหมือนจะขาดใจตาย นอกจากรู้สึกกลวงเปล่าข้างในอกเหมือนมีบางสิ่งที่สำคัญมากขาดหายไป
ถ้าหากวันนั้น เธอตอบเขาไปว่ารักมากและร้องไห้ออกมาเหมือนอย่างที่กำลังเป็นอยู่ในค่ำคืนที่ได้บังเอิญเห็นแผ่นหลังของเขากับเพื่อนนร่วมวงบนท้องถนน ทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปหรือเปล่า?
แต่เธอคงไม่มีวันได้รู้
สุดท้ายโมโตโกะก็ต้องบากหน้ามาขออาศัยอยู่กับเพื่อนซี้อย่างโคโคโรกิ มิเนะ ที่ทำงานเป็นผู้ช่วยช่างภาพและผู้กำกับจนอยู่ไม่ติดเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ อย่างที่โมโตโกะเรียกว่าเช่าทิ้งๆ ขว้างๆ เพราะเงินเหลือเฟือให้เจ้าหล่อนได้ค้อนควัก เพราะเพิ่งจะย้ายออกมาได้ไม่กี่วันเลยยังไม่มีแก่ใจจะหาที่พักใหม่ในตอนนี้ ไหนจะการถูกเอเจนซี่ยกเลิกสัญญาเพราะได้รับเล่นแต่บทตัวประกอบเล็กๆ ในละครที่ก็ไม่ได้สร้างชื่อเสียงให้แม้แต่นักแสดงนำ ถึงอย่างนั้นโมโตโกะก็ไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไร แค่รู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตที่ตื่นมาอาบน้ำ กินข้าว เล่นคอม ดูหนัง ฟังเพลง แล้วก็กลับไปนอน แทบไม่ได้เหยียบย่างออกจากห้องสี่เหลี่ยมไปดูโลกภายนอกด้วยซ้ำ เป็นกิจวัตรไม่ตรงเวลาที่เกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมาทุกวัน กระทั่งวันนี้ที่เธอลืมตาโพลง จับจ้องมองดูเพดานไม้สีน้ำตาลในยามบ่ายแก่ๆ หลังจากตื่นนอนมาได้สักพักใหญ่ๆ ชั่งใจอยู่ระหว่างความคิดที่ว่าควรจะไปดูไลฟ์วันนี้อย่างที่เคยตั้งใจไว้ดีหรือไม่
โมโตโกะรู้อยู่แล้วว่าไม่มีทางได้เจอคนรักเก่าที่นั่น เพราะตั๋วที่เขาซื้อมาเป็นคู่ถูกเธอขยำทิ้งในห้องพักเก่าไปแล้วด้วยความเสียใจ หาใช่คับแค้น แต่เธอก็ไม่แน่ใจว่ามีอารมณ์อยากไปสนุก ถึงความสนุกคือสิ่งที่เธอควรหามาเติมเต็มใส่ชีวิตที่ซึมกะทือเหมือนกับผีตายซากอย่างที่มิเนะว่าไว้ก็ตาม
หลังใคร่ครวญอยู่พักใหญ่ๆ ในที่สุดโมโตโกะก็พรูลมหายใจออกมา หันไปคว้ามือถือที่หัวเตียงขึ้นมาดูเวลาอีกครั้ง สี่ชั่วโมงพอถมถืดไปที่เธอจะจัดการตัวเอง แวะร้านสะดวกซื้อหาอะไรกินง่ายๆ แล้วจับรถไฟใต้ดินไปยังสถานที่จัดงานซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่นักให้ทันเวลาปิดประตู
∞
โมโตโกะเผลอสะดุ้งในตอนที่บ่าของเธอถูกแตะ พร้อมกับประโยคเริงร่าที่ว่า “ใช่อายาโนะจริงๆ ด้วย!” ระหว่างกำลังยืนเลือกของหวานรองท้องอยู่ที่หน้าเชลฟ์ในร้านสะดวกซื้อ ก่อนแปรเปลี่ยนไปเป็นความประหลาดใจเมื่อได้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยของคนรู้จัก
“โมโตดากะ?”
เธอมองหน้าเพื่อนร่วมห้องสมัยไฮสคูลที่คงใช้คำว่าสนิทสนมไม่ได้ แต่ก็มีอยู่หลายครั้งที่ได้รับความใจดีจากเขาผ่านคำทักทายทั่วไป หรือเวลาถามไถ่เรื่องบทเรียนที่ไม่เข้าใจ ครั้นพอเข้ามหาวิทยาลัยก็ต่างแยกย้ายกันไปคนละคณะ คนละเส้นทาง ที่ดูอย่างไรสาขาวิชาภาษาอังกฤษและดนตรีก็ไม่น่าจะมาบรรจบกันได้ในแคมปัสที่กว้างใหญ่เสียจนทำให้คนหลงทิศอย่างเธอหลงทางได้อยู่เรื่อย โมโตโกะเคยเห็นอดีตเพื่อนร่วมห้องรายนี้จากที่ไกลๆ แค่ไม่กี่ครั้ง และทุกครั้งเขาจะถูกรายล้อมไปด้วยเพื่อนฝูงกลุ่มใหญ่เหมือนกับสมัยไฮสคูลไม่มีผิดเพี้ยน ดังนั้นการได้เห็นเขาเดินอยู่คนเดียวแบบนี้จึงดูเป็นเรื่องที่ชวนทึ่งสำหรับเธอไม่น้อย
“เปลี่ยนไปตั้งเยอะ เกือบจำไม่ได้แน่ะ”
โมโตโกะตอบกลับด้วยเสียงหัวเราะ ก่อนหยิบเค้กบลูเบอร์รี่กับสไปรท์เดินไปจ่ายเงินตามคัตสึกิที่ถือแซนด์วิชกับโค้กไปด้วยกัน เพราะที่นั่งถูกจับจองไปหมดแล้วเลยต้องระเห็จออกมาด้านนอกแทน ขณะที่เธอเพียงพิงบั้นท้ายกับขอบรั้วหนา เขากลับทิ้งตัวนั่งลงไปเลยด้วยท่าทางเบาสบาย
“ได้นัดใครไว้หรือเปล่า?”
เธอสั่นหัว ย้อนถามกลับไปด้วยประโยคเดียวกัน
“ฉันนัดกับเรย์อะไว้ที่คลับเอดจ์...”
ไม่รอให้อีกฝ่ายได้พูดจนจบ เธอก็จะหันไปทำตาโต โพล่งขึ้นทั้งที่ยังไม่ทันได้ตักเค้กเข้าปากเลยด้วยซ้ำ “ไม่จริงน่า! ฉันก็จะไปที่นั่นเหมือนกัน!”
“เอ๊ะ? อายาโนะเนี่ยนะจะไปดูคอนเสิร์ตคนเดียว?”
“ที่จริง...ตอนแรกก็ไม่ใช่คนเดียวหรอก” แม้จะตอบด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติ แต่ทีท่าของหญิงสาวซึ่งกลับไปก้มหน้าก้มตาจ้วงเค้กจนถึงก้นกระป๋องอย่างขะมักเขม้นก็มากพอให้เพื่อนร่วมห้อง — คนที่คอยมองดูความเป็นไปตลอดสามปีของเธอ — เข้าใจ
“งั้นวันนี้เราไปสนุกกันให้เต็มที่เลยดีกว่า ทั้งอายาโนะ ฉัน แล้วก็เรย์อะ” เรียกรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าที่แต้มแต่งมาอย่างดีของโมโตโกะ “คืนนี้ คืนนี้ คืนนี้ เอาล่ะ...”
“เราจะไม่มีวันลืมเลือนค่ำคืนหน้าร้อนนี้”
พวกเขาประสานเสียงร้องเพลงเช่นเดียวกับเสียงหัวเราะสดใสที่หวนกลับคืนมาอีกครั้ง เพราะตราบที่ได้อยู่กับโมโตดากะ คัตสึกิ โมโตโกะก็รู้ว่าค่ำคืนนี้มันจะต้องยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน
来年再来年もその先も
ปีหน้า ปีถัดไป หรือปีต่อๆ ไป
きっと君は綺麗さ
ฉันแน่ใจว่าเธอจะยังคงงดงาม
いつかまた出逢える時は
จนกว่าจะถึงช่วงเวลาที่เราได้พบกันอีกครั้ง
この夏のようなKissを二人でしよう
เราสองคนมาจูบกันเหมือนหน้าร้อนนี้กันเถอะ
_______________
ความคิดเห็น