ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Bleach] OS ❄ All for Hitsugaya Toshiro

    ลำดับตอนที่ #17 : Grimmjow || Happy Tiger Year

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.พ. 65


     


    Happy Tiger Year.

    (2022)

    PG(?) || OS

    Grimmjow x Toshiro



    ____________________________


     

    “ข้ากลับมาแล้ว”

     

    ฮิตสึกายะ โทชิโร่ เดินเข้าห้องทำงานของตนเองด้วยท่าทางเหนื่อยล้าตั้งแต่ต้นปี ทว่าสีหน้าดูพอใจในตนเองมิใช่น้อย

     

    “ยินดีต้อนรับค่าหัวหน้า หายไปไม่เห็นหน้าข้ามปีเลยนะคะเนี่ยยย ไปที่ไหนมาเหรอค้า”

     

    รันงิคุ มัตสึโมโต้ ต้อนรับหัวหน้าด้วยสีหน้าชื่นบานเพราะตั้งแต่หัวหน้าไปเธอก็ก๊งกับเพื่อนฝูงและคนในหน่วยข้ามปีได้อย่างไม่ต้องกังวลใจ 

     

    “ไปหาสัตว์ตัวใหม่มาไว้ในสวนบ้านข้าน่ะสิ ปีนี้ปีอะไรเจ้ารู้ไหมมัตสึโมโต้”

     

    “เหห ได้ยินจากโอริฮิเมะจังมาว่าเป็นปีเสือนะคะ ว่าแต่หัวหน้าสนใจเรื่องอะไรพวกนี้ด้วยเหรอ”

     

    “ตอนแรกก็ไม่ได้สนเท่าไหร่หรอก แต่ระหว่างที่ออกเที่ยวตามหาสัตว์หายากข้าก็จับเสือมาได้พอดีเสียนี่สิ เป็นโชคของข้าเลยทีเดียว”

     

    ตั้งแต่จบสงครามพันปี โซลโวไซตี้ก็เงียบสงบลงไปอีกมากโขจนไม่ต้องมีภารกิจอะไรมากมายให้คอยทำ ส่วนโทชิโร่เองก็ร่างกายกลายเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ความรู้สึกด้อยในลักษณะภายนอกจึงไม่มีอีกให้ต้องฝึกหนักแถมไปไหนมาไหนได้สะดวกขึ้นกว่าเดิมเยอะ

    ด้วยเหตุนี้งานอดิเรกพิเศษของเขาจึงเพิ่มขึ้นมาโดยปริยาย จากวันหนึ่งที่เขาออกจากโซลโซไซตี้ไปเยี่ยมหลุมศพคุณยายและได้พบกับหญิงสาวที่เข้าหาเขาด้วยเหตุผลว่าเขาเป็นรักแรกพบของนาง

     

    ‘ทันทีที่เห็นท่านเดินผ่านก็รู้ว่าท่านคือรักแรกพบของข้า ช่างหล่อเหลากว่าใครที่ข้าเคยพบเจอมา’

     

    โทชิโร่เพิ่งได้ออกนอกเมืองและเจอกับคนที่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครเป็นครั้งแรกหลังจากร่างของตนเติบโตขึ้น เหตุการณ์เช่นนี้จึงเป็นที่น่ากระอักกระอ่วนสำหรับเขาไม่น้อย โทชิโร่พยายามปฎิเสธนางแบบอึกอักพูดไม่ค่อยถูก

     

    ‘รูปลักษณ์เช่นท่านคงมีแม่นางที่ดีกว่าข้าเยอะแยะ ข้าเข้าใจ’ นางหน้างุ้มสีหน้าแง่งอนและพูดต่อเรื่อย 

     

    ‘เช่นนั้นขอให้ข้ามอบนกเลี้ยงในสวนของข้าให้ท่านได้หรือไม่เจ้าคะ อย่างน้อยหากท่าชื่นชอบมันก็จะได้กลับมาหาข้า และเอาพันธุ์นกใหม่ๆในครั้งหน้า’

     

    นางผายมือไปยังซุ้มสวนใหญ่โตของครอบครัวตน นกหลากสีสันมากมายในนั้นสวยแปลกตา หลายชนิดโทชิโร่เองก็ยังไม่เคยเห็นมาก่อน

     

    ‘ได้โปรดรับนกตัวนี้จากข้าไปด้วยเถอะเจ้าค่ะ’

     

    นกที่ล่ามอยู่บนข้อมือนางขนาดค่อนข้างใหญ่กว่าตัวอื่นทว่าดูสวยงามไม่แพ้ตัวอื่น หางที่ยาวเป็นพู่สองแฉกกับขนสีขาวเงิน ยามางปีกสีเหลือบห้าน้ำเงินกระทบแสงแดดเป็นสีสวยสดทำให้รู้สึกสง่างามน่าดึงดูดเหลือเกิน

     

    นางคะยั้นคะยออยู่พักใหญ่ แถมบอกว่ามันช่างฉลาดรู้แลเชื่องกว่าตัวไหนๆ ในที่สุดแล้วโทชิโร่ที่ไม่รู้จะปฎิเสธนางอย่างไรก็ได้แต่อึกอัก ทั้งนกตัวนั้นยังจ้องเขาไม่มีท่าทีกลับหรือหนี สุดท้ายแล้วเชือกผูกของเจ้านกนั่นก็ติดมือกับโทชิโร่จากไปเยี่ยมหลุมศพคุณย่าจวบจนถึงขากลับถึงหน่วยตนเอง

     

    หลังจากวันนั้นมา ในบ้านของโทชิโร่ซึ่งอยู่ในเขตหน่วยที่สิบนั้นก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆโดยไม่มีรู้ตัว ณ บัดนี้ก็กลายเป็นสวนสัตว์ขนาดย่อมอันเป็นที่รู้กันทั่วทั้งหน่วย และสัตว์ก็แปลกขึ้นทุกครั้งที่เอามาด้วยเช่นกัน

     

    “กว่าจะทำให้มันเชื่องและเอาเข้าสวนได้ข้าเหนื่อยพอควรเลยนะ”

     

    “หาา หัวหน้าเอาเสือตัวนั้นเข้าไปอยู่รวมกันกับสัตว์ตัวอื่นเนี่ยนะคะ”

     

    “เปล่า ข้ากั้นที่เอาไว้แล้วด้วยวิถีมารน่ะ มันออกมาไม่ได้หรอก”

     

    มัตสึโมโต้ขมวดคิ้วแน่นกับคำพูดนั้น โทชิโร่จึงเสริมเข้าไปอีกต่อ

     

    “แล้วก็มีชูเท็ตสึเฝ้าไว้ด้วย เจ้าไม่ต้องห่วงแล้วทำงานของตัวเองไปเถอะ”

     

    “โถ อันนั้นก็รู้แล้วล่ะค่ะ”

     

    สิ่งที่น่าเป็นห่วงในตอนนี้ไม่ใช่ว่ามันจะออกมามั้ย แต่น่าสงสารสัตว์ตัวอื่นในสวนกับคนเฝ้ามากกว่าน่ะสิ! มัตสึโมโต้คิดในใจแต่ก็คร้านที่จะพูดอะไรต่อจึงนั่งแกล้งทำตัวเหมือนกำลังทำงานไปอย่างเงียบๆ

     

    เจ้าเสือนั่นดูเงียบสงบกว่าที่คิดไว้เยอะเมื่อผ่านไปสองสามวัน จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ข่าวคราวอะไร ส่วนเจ้าของอย่างโทชิโร่ก็ไม่ได้กลับไปดูมันเนื่องจากงานที่ท่วมหัวหลังจากหยุดช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา

     

    “สวนของข้าเป็นอย่างไรบ้างชูเท็ตสึ”

     

    “เรียบร้อยดีครับหัวหน้า มีแค่เจ้านกฟ้าตัวใหญ่เท่านั้นที่ดูจะไม่พอใจเท่าไหร่”

     

    “อ้อ งั้นก็ดีไป ไว้ข้าทำเอกสารกองนี้เสร็จจะกลับไปดู”

     

    “ครับหัวหน้า” ชูเท็ตสึพูดเหมือนกับว่าทุกอย่างโอเคทว่าสีหน้าดูเหงื่อตกอยู่ไม่น้อย เขามองซ้ายมองขวาอยู่เล็กน้อยก่อนที่จะก้มไปกระซิบข้างหูหัวหน้าตน

     

    “แต่ผมว่ามันดูเหมือนกิลเลียนในรูปลักษณ์เสือนะครับหัวหน้าไปเอามาจากไหนเนี่ย ระวังหน่อยก็ดีนะครับ”

     

    “ข้าไปจับจากฮูเอโกมุนโด้มา แล้วก็มันไม่ใช่กิลเลียนหรอกนะ แต่เป็นแอดจูคาส”

     

    “หัวหน้า!!!”

     

    “เจ้าไม่ต้องกังวลหรอก ข้าทำให้มันเชื่องแล้วแถมมันก็ฉลาดกว่าสัตว์ทั่วไป ไม่เห็นรึว่ามันไม่ก่อเรื่องอะไรเลย”

     

    ชูเท็ตสึเหงื่อตกยิ่งกว่าเดิม คิดในใจว่าอยู่อย่างสงบไม่ได้หรืออย่างไร ตั้งแต่จบสงครามมากมายไปชีวิตของหัวหน้าคงไม่ตื่นเต้นมากพอจนต้องไปเที่ยวฮูเอโกมุนโด้แล้วเอามันมาเลี้ยงไว้ในโซลโซไซตี้ขนาดนี้

     

    “เจ้าก็อย่าไปบอกทุกคนล่ะ เดี๋ยวจะแตกตื่นเอาเปล่าๆ”

     

    “ตะ แต่ว่า..”

     

    “แต่บอกแค่คนที่มีลำดับสูงกว่าเจ้าก็พอได้อยู่ เผื่อตอนข้าไม่อยู่เกิดอะไรขึ้นมาจะได้มีคนช่วยได้ทัน”
     

    “..ครับหัวหน้า”

     

    ชูเท็ตสึแทบจะน้ำตาไหลเป็นสายถ้าไม่กลั้นไว้เพราะว่ามีคนอยู่ในหน่วยเต็มไปหมด ในใจได้แต่คิดว่าแม้แต่ฮอลโลว์ก็ไม่เคยย่างกรายเข้าทำลายหน่วยของพวกเขาได้สักครั้ง แต่คราวนี้หัวหน้ากลับเอาสัตว์ที่เป็นถึงขั้นเมนอสเข้ามาเลี้ยง! ชีวิตของพวกเขาจบเห่แน่แล้ว!!

    “ข้าจะต้องรีบไปเตือนคนอื่นให้ได้” 

     

    หลังจากนั้นไม่นาน ข่าวนี้ก็ว่อนไปทั่วยมทูตลำดับสูงในโซลโซไซตี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะชูเท็ตสึที่เอาข่าวไปบอกคนในหน่วยตนเอง แต่มากไปกว่านั้นก็เป็นเพราะรองหัวหน้าหน่วยกับเพื่อนฝูงของเธอเสียด้วย

     

    “อิคาคุ โมโมะจังดูนี่สิ”

     

    ไม่ทันไรสวนส่วนตัวของหัวหน้าก็มีเพื่อนฝูงถูกพาแวะเวียนมาเต็มไปหมด เริ่มด้วยทุกคนที่มีสีหน้าตกใจกับสัตว์ตัวใหม่ของโทชิโร่ไปจนถึงคนที่ทำหน้าเครียดเพราะเริ่มรู้สึกกังวลเมื่อเห็นว่าต่อให้ควบคุมได้ยังไงก็ยังคงเป็นฮอลโลว์ประเภทที่ฉลาด แต่พอพยายามทดสอบยังไงเจ้าเสือนี่ก็ไม่สะทกสะท้านอะไร เอาแต่นอนทั้งวันจนน่าประหลาดใจ

     

    “หัวหน้าแน่ใจนะคะว่ามันไม่ป่วย”

     

    “แอดจูคาสจะป่วยได้ด้วยรึมัตสึโมโต้”

     

    “ก็ไม่รู้สิน้า แต่ตั้งแต่พาคนมากมายมาดูนอกจากที่หัวหน้าจะดูไม่พอใจนิดหน่อยก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย ต่อให้มีคนพยายามยั่วโมโหมันมันก็ยังนอนนิ่ง”

     

    “งั้นก็ดีแล้วมิใช่รึ”

     

    “..เอ หรือว่ามันซึมเศร้าคิดถึงบ้านกันน้า”

     

    มัตสึโมโต้พึมพำกับตัวเอง ระหว่างนั้นโทชิโร่ก็ยังทำงานมือเป็นระวิงราวกับไม่สนใจ

     

    ทว่าเช้าต่อมาโต๊ะทำงานใหญ่ก็ไม่มีคนนั่งอยู่อีกต่อไป มีเพียงกระดาษแผ่นเล็กแปะจ่าหน้าไว้ว่า ‘ฝากงานด้วยนะ ข้าจะกลับมาโดยเร็ว’ ให้มัตสึโมโต้ได้แต่ครวญครางโอดโอยไม่น่าเลยกับงานที่เหลือบนโต๊ะเป็นกอง

     

    “แกเป็นอะไรฮึ ข้าเห็นก็ดูปกติดีนี่ ทำไมไม่กินอะไรไม่ตื่นออกมาเดินบ้าง”

     

    เพราะเป็นฮอลโลว์ชนิดหนึ่ง การที่จะไปหาสาเหตุรักษาในโรงพยาบาลสัตว์ทั่วไปจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ โทชิโร่จึงได้แต่มาเช็คด้วยตนเอง 

     

    “กรร” 

     

    มันลืมตาปรือของมันขึ้นมา เดินเพียงไม่กี่ก้าวก็ล้มลงตรงหน้าขาของโทชิโร่ เสียงที่ออกจากลำคอของมันเหมือนเสียงที่บ่งบอกถึงความอ่อนแรงมากกว่าที่จะเป็นเสียงของการขู่เอาอณาเขต และทันทีที่โทชิโร่ย่อเพื่อเข้าไปดูมันใกล้ๆ มันก็ออกแรงใช้สองขาหน้าตะครุบโอบรอบเอวของโทชิโร่ภายในทันที

     

    “เป็นอะไรของแกน่ะ แอดจูคาสหมดแรงได้ด้วยรึ”

     

    แก๊ง แก๊ง

     

    “เฮ้ย นั่นมันดาบฟันวิญญาณของข้า-“

     

    โทชิโร่ชะงักกึกถอยหลังกลับโดยอัตโนมัติกลัวว่าเจ้าเสือตัวนี้จะกลายเป็นฮอลโลว์ที่คุมไม่อยู่เสียแล้ว ทว่าทันทีที่ขยับเจ้าอุ้งเท้าทั้งสองก็หล่นแหมะกลับไปอยู่บนพื้นเหมือนเดิมราวกับคนหมดเรี่ยวแรงของจริง ซ้ำยังส่งเสียงร้องหงิงน่าเห็นใจจนอดรู้สึกสงสารไม่ได้

     

    “เอาล่ะ ข้าคงทำอะไรไม่ได้ถ้าเจ้าหมดแรงจริงๆ อาจจะเป็นเพราะบรรยากาศที่นี่ไม่เหมาะกับเจ้าเช่นในฮูเอโกมุนโด้ก็ได้”

     

    โทชิโร่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ รวบเสือตัวใหญ่ขึ้นมาพร้อมทุลักทุเลเดินออกไป

     

    “ข้าคงต้องพาเจ้ากลับถิ่นเดิม”

     

    ระหว่างทางพากลับนั้นไม่ใช่ง่ายเพราะมันไม่ได้เดินตามมาแต่เขากลับต้องพยุงมันกลับไป ตัวก็ใหญ่พากลับก็ยากแต่เอนสีข้างพิงเขาให้คอยพาลากไปตลอดทางจนเหนื่อยเอาเรื่องจนในใจของโทชิโร่ก็มีแวบขึ้นมาบางครั้งว่าถ้าฆ่าตรงนี้ก็อาจจะไม่มีปัญหาอะไรเพราะอย่างไรก็คือแอดจูแคส ไม่ใช่เสือสัตว์โลกทั่วไปจริงๆ

     

    “ฆ่าเจ้าตรงนี้เลยก็คงจะใจดำไปสินะ ข้าเป็นคนจับเจ้าออกมาแท้ๆ”

     

    “หงิงง”

     

    จนถึงปัจจุบันนี้เจ้าเสือนี่ก็หมดแรงจนแทบจะกลายเป็นหมาใหญ่แล้ว ยิ่งเห็นร้องหงิงแบบนี้แล้วก็นึกภาพตัวเองบั่นคอสิ่งมีชีวิตนี้อย่างใจดำไม่ออก ได้แต่เดินทางจนกลับมาถึงฮูเอโกมุนโด้จนได้

     

    “เอาล่ะ ทีนี้แกก็-- เฮ้ย! จะรีบไปไหนน่ะเจ้า”

     

    “โฮกกก”

     

    ทันทีที่ถึงมิติฮูเอโกมุนโด้ มันก็วิ่งเตลิดคำรามเสียงดังหายไปไม่ยอมรอให้โทชิโร่ได้บอกลา เอาจริงๆ ก็ไม่แปลกเพราะมันได้กลับที่อยู่ของมันเองแล้ว

     

    ทว่าเขาก็เสียใจนิดหน่อย..

     

    “เจ้าเสือ เจ้าเสือ ไหนแกว่าหมดแรง แต่มาถึงปุ๊บก็วิ่งหายไปไหนแล้วเนี่ย”

     

    โทชิโร่ยังอยากจะบอกลามันอยู่ ความเสียดายที่จะได้บอกลาสัตว์เลี้ยงของตนยิ่งเพิ่มพูนเมื่อกว่าจะจับมาได้ก็ใช้เวลาตั้งนาน แถมใช้เวลาตั้งนานกว่าจะเชื่อง

     

    สุดท้ายแล้วหมดปัญญาจะตามหาจึงได้แต่นั่งบนเขาหาดทรายสีเทาดูบรรยากาศมืดหม่นของมิตินี้อีกสักพักใหญ่ทำใจนิดหน่อยก่อนสุดท้ายจะยอมลุกออกไป 

     

    “ได้เวลากลับไปทำงานแล้วสินะ ฮูเอโกมุนโด้สงบเช่นนี้ยังไงก็ไม่ค่อยชินเลยแฮะ”

     

    “ใครบอกเจ้าว่าที่นี่สงบสุขงั้นรึ”

     

    ครืนนน ตูม!

     

    “ใครน่ะ!”

     

    “โอ๊ยๆ เจ็บๆๆ ข้าแค่หยอกเล่นนิดเดียวเอง”

     

    ท่ามกลางทรายสีเทาที่ฟุ้งกระจายเต็มบริเวณโทชิโร่ก็เห็นร่างผู้มาใหม่เลือนลางอยู่ตรงหน้านั่น ดวงตาสีฟ้านั่นมีประกายเข้มจ้องตรงมาที่เขาด้วยท่าทีน้อยใจ ทว่าใครกันจะมาอยู่ตรงนี้กันล่ะ

     

    “อ้าว จำข้าไม่ได้รึ”

     

    ผมยาวสยายสีฟ้าที่เป็นเอกลักษณ์เด่นกับรูกลวงตรงกลางทำให้โทชิโร่ตั้งการ์ดทันทีด้วยสีหน้าตึงเครียด...ที่นี่ยังมีเอสปาด้าเหลือรังควาญอยู่ด้วยรึนี่ เข้าหาเขาต้องการจะเปิดศึกหรืออย่างไรกัน

     

    เจ้าร่างตรงหน้าเดินเข้ามาใกล้ด้วยรอยยิ้มแสยะไม่น่าดูแต่มีท่าทีขำขันทันทีที่พูดกับโทชิโร่

     

    “กว่าเจ้าจะส่งข้ากลับมาถึงที่นี่ข้าก็หมดแรงจะแย่เกือบไม่ไหว เรื่องอะไรข้าจะกลับมาสู้กับเจ้าล่ะข้า เฮ้อ แค่เห็นเจ้าจำข้าไม่ได้แบบนี้ก็หมดแรงแล้ว”

     

    “ข้าไปเจอเจ้าตอนไหนหา-“

     

    “กรร”

     

    ไม่ทันขาดคำร่างตรงหน้าก็พุ่งเข้าหาด้วยความเร็วสูง จากสองขาก็กลายเป็นสี่ขาพุ่งเข้าชนโทชิโร่ล้มไปอย่างจัง

     

    “เฮ้ย เจ้าเสือ!?”

     

    แผล่บ

     

    เจ้าเสือตัวเดิมนอนอยู่บนลำตัวโทชิโร่เลรยหน้าอีกฝ่ายจนเปียกชุ่มวิสัยสัตว์เดรัจฉานอย่างไม่เกรงใจ ดวงตาสีฟ้าเข้มลึกกว่าเก่าบ่งบอกว่ามันได้รับพลังของตนเองกลับมาอย่างเต็มที่แล้วจ้องโทชิโร่แถมเอียงคอคล้ายเป็นเชิงถามว่าตกลงจำได้ยังอีกด้วย

     

    โทชิโร่ที่พยายามตะล่อมมันเองตั้งนานแถมไม่อยากให้มันไปในตอนแรกก็สุดท้ายต้องใจอ่อนเลิกระแวง หันไปจับแผงคอเจ้าตัวขึ้นมาพูดด้วย

     

    “ขอโทษก็ได้ ข้าจำได้แล้วแต่ไม่คิดว่าเจ้าจะเป็นถึงเอสปาด้า ตกลงมีชื่ออะไรและจุดประสงค์อะไร ไหนบอกข้ามาซิ”

     

    “ข้าชื่อกริมจอว์” 

     

    เจ้าเสือมันกลับร่างกลายเป็นร่างเอสปาด้าของตนอีกครั้ง ทว่ายิ้มไปตอบคำถามไปราวกับยังเป็นสัตว์เลี้ยงแสนเชื่องของเจ้านายเช่นเดิม

     

    “กริมจอว์ แจ๊คเกอร์แจ๊ค ไม่ได้เป็นเอสปาด้าอีกแล้วส่วนจุดประสงค์ก็คือกลับมาหาเจ้านายยังไงล่ะ เจ้าเป็นคนเก็บข้ามาเลี้ยงนี่”

     

    “ข้าจะเลี้ยงเอสปาด้าได้อย่างไร เจ้ามันบ้าไปแล้ว”

     

    “ได้สิ ข้าไม่ได้เป็นเอสปาด้าสักหน่อย เจ้าน่ะมั่วแล้วแค่ได้รับพลังมาเกินนิดหน่อยเท่านั้นเอง อีกอย่างเจ้าเคยเห็นข้าในศึกไหนด้วยรึถึงพูดเช่นนั้น”

     

    โทชิโร่ครุ่นคิด ไม่รู้เพราะนานไปแล้วหรือเป็นเพราะพวกเขาไม่ได้ประมือกันตรงๆ ในยามศึกไอเซ็น โทชิโร่จึงไม่มีความทรงจำของสิ่งมีชีวิตตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย ได้แต่คล้อยตามไปเลยตามเลยเพราะในใจลึกๆแล้วก็สนใจไม่น้อยกับร่างครึ่งสัตว์ที่มีหูสีฟ้าแหลมขนนุ่มกับหางยาวนั่นที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของเจ้าเสือเป็นอย่างดี

     

    “โอเค แต่อย่างไรเจ้าก็ตามข้ามาไม่ได้แล้ว..”

     

    ระหว่างพูดไปโทชิโร่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าทำหน้าเสียดายอยู่จนฝ่ายตรงข้ามมองออกทะลุปรุโปร่ง กริมจอว์ยิ้มเจ้าเล่ห์ออดอ้อนไปต่อ

     

    “ไหนๆรู้ชื่อสัตว์เลี้ยงแล้วเรียกข้าอีกสักครั้งก่อนไปหน่อยสิ อย่างน้อยก็จะได้จำได้ว่ามีข้าอยู่เป็นหนึ่งในสัตว์ของเจ้าที่ฮูเอโกมุนโด้”

     

    “แต่ยังไงเจ้าก็ไม่ใช่-“

     

    “เรียกสิ กริมจอว์ของข้า เรียกข้าสิ”

     

    มันทำเป็นปั้นเสียงเศร้าในขณะที่แปลงร่างกลับเป็นเจ้าเสือเรียกร้องความเห็นใจถูไถคางเจ้านายอย่างเอาใจ แน่นอนว่าคลั่งรักสัตว์อย่างโทชิโร่ก็หลงกลเข้าเต็มเปา

     

    “อืม เจ้ากริมจอว์ของข้า”

     

    ยิ่งถูกเรียกมันก็ยิ่งไถหัวเข้าหา โทชิโร่เห็นดังนั้นก็เรียกอีกครั้งด้วยความตั้งใจที่จะตัดใจและกลับไปยังโซลโซไซตี้เสียที

     

    “กริมจอว์ข้าต้องไปเสียแล้วล่ะ เจ้าควรต้องอยู่ที่ของเจ้าและข้าจะพยายามตัดใจ” โทชิโร่ชะงักพลางบ่นกับตนเองเบาๆ “หรือจะหาเสือตัวใหม่ดีนะ”

     

    หงับ

     

    “โอ๊ย!”

     

    “ไม่ได้เด็ดขาด ในเมื่อข้าเป็นของเจ้าแล้ว เจ้าก็เป็นของข้าเช่นกัน”

     

    เพราะกริมจอว์กลับร่างอย่างรวดเร็วแผลถูกงับบนคางของโทชิโร่จึงไม่ใช่แผลลึกแต่เป็นรอยถลอกแดงแทน เจ้าเสือที่บัดนี้อยู่ในร่างคนในแล้วไม่คิดจะปล่อยเจ้านายคนใหม่ของตนเองอีกต่อไป ทันทีที่โทชิโร่ถอยมันก็รีบรวบอีกฝ่ายไว้ทันที

     

    “เจ้านายอย่าเพิ่งกลับไปทำงานเลย ที่โซลโซไซตี้เจ้านายทำแต่งานไม่มาหาข้าเลย อุตส่าห์ยอมให้จับไปแล้วกลับไม่อยู่กับข้าเลย”

     

    มันบ่นกระปอดกระแปดไปเรื่องทำเป็นหูทวนลมกับเสียงโวยวายค้านของเจ้านายว่าต้องกลับไปทำงาน

     

    “ไหนว่าโซลโซไซตี้สงบสุขดีไง อยู่กับข้าสักหน่อยไม่ได้หรือ อากาศที่นี่ทำให้ข้ามีแรงขึ้นเยอะ แปลงร่างขึ้นมาคุยกับเจ้าได้ด้วย”

     

    “แต่งานจะถมเอา--“

     

    “เอาน่า ถ้าหากต้องกลับข้าจะกลับกับเจ้าเอง ข้าจะแปลงร่างเป็นเสือแนบเนียนยิ่งกว่าเดิมจนไม่มีใครมองออกเลยล่ะ”

     

    โทชิโร่หมดแรงที่จะค้าน กำลังจะตอบตกลงว่าถ้าอย่างนั้นก็ทำตัวให้ดีและกลับโซลโซไซตี้ด้วยกัน แต่เจ้าเสือกลับดื้อด้านกว่าที่คิด ตัวของเขาถูกรวบขึ้น โดนสัตว์เลี้ยงงับไปอีกคำพร้อมคำพูดตอบกลับมาที่ไม่เป็นที่น่าพอใจเอาเสียเลย

     

    “แต่ว่าอยู่ฉลองปีเสือกับเสือของเจ้าอย่างข้าให้หนำใจก่อนเถอะโทชิโร่”

     

    รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่พาดอยู่บนใบหน้านั่นทำให้โทชิโร่เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว...เขาพลาดท่าเสียแล้วล่ะ

     


     

    ______________________




     

    Happy Chinese new year Laaa :)

    ขอบคุณทุกๆคนที่ยังไม่ถอนแฟบไปกันที่ไหนนะคะ  

    เราตื่นเต้นมากที่จะได้เห็นเมะบลีชปีนี้T_T ทุกคนอยู่กับเราม้ายย

    รอเห็นลูกชายโตไม่ไหวแล้ว ส่วนระหว่างรอก็กลับมาลับมือใหม

    ถ้าแต่งแล้วทำให้คนอ่านงงขอโทษด้วยนะคะ  แต่งสดแบบไม่ตรวจทานเลย55

    คู่แปลกมากแต่แค่อยากทำให้เกี่ยวกับปีเสือให้ได้น่ะค่ะ กริมจอว์เลยเป็นผู้ถูกเลือก//แนบภาพ


    ตอนนี้เราติดโควิดข้ามปีใหม่จีนแงงง แต่ก็ทำให้มีเวลามานั่งแต่งนิยายใหม่อีกครั้ง

    แม้ปีที่ผ่านมาอาจจะไม่ดีเท่าไหร่แต่ขอให้ทุกคนมีปีที่ดีขึ้นนะคะ//บอกตัวเองด้วย

    ถ้าใครคิดเห็นยังไงหรือแค่ให้กำลังใจก็เม้นบอกหน่อยนะคะ อยากอ่านคอมเม้นทุกคนเสมอเลย<3


     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×