ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] Strawberry Lee Donghae [EunHae, WonKyu]

    ลำดับตอนที่ #16 : chapter 15 อย่ามาคาดหวังว่าคนๆ นั้นจะเป็นฉันเลย

    • อัปเดตล่าสุด 15 พ.ค. 54


     

    Chapter 15

     

                “นายแบบคนใหม่อีกแล้วเหรอ?”

     

                เสียงเพื่อนๆ ของจองซูเอ่ยทักขึ้นเมื่อฮีชอลเดินเข้าไปในห้องคาราโอเกะแห่งหนึ่ง ดวงตาคู่สวยตวัดมองอย่างไม่พอใจนัก ทำให้ทั้งห้องพร้อมใจกันปิดปากเงียบในทันที

     

                “คนใหม่อะไรกัน ทำอย่างกับฉันควงหลายคนอย่างนั้นแหละ” จองซูรีบแก้ตัว ในขณะที่ฮีชอลรินเหล้าให้ตัวเองอย่างเงียบๆ

     

                “อย่ามาพูดดีเลยน่าปาร์ค จองซู” ชายคนนั้นยังไม่หยุดพูด

     

                “เงียบไปเลย!

     

                “แล้วนายแบบที่ชื่อฮีชอลล่ะ ไหนบอกว่าจะพามาแนะนำให้พวกเรารู้จัก นายเบื่อเขาแล้วแล้วเหรอ?”

     

                “ฉันนี่แหละคิม ฮีชอล!

     

                เสียงแข็งกร้าวของฮีชอลเอ่ยแนะนำตัวอย่างไม่มีมารยาทเท่าใดนัก เล่นเอาทั้งห้องคาราโอเกะเงียบกว่าเดิมเสียอีก แม้แต่จองซูที่พยายามจะปฏิเสธเพื่อนในตอนแรกก็นิ่งอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก

     

                “พวกนี้แค่แซวๆ เล่นน่ะ” เสียงทุ้มหันมาบอกกับคนสวยข้างกาย แต่ฮีชอลกลับทำท่าทีสนอกสนใจมากขึ้น เขายกมือขึ้นเท้าคางตัวเอง ก่อนจะยื่นหน้าไปเอ่ยถามเพื่อนๆ ของจองซู

     

                “แล้วจองซูพูดเกี่ยวกับฉันว่ายังไงเหรอ เล่าให้ฟังบ้างสิ”

     

                “เอ่อ...” เพื่อนของจองซูมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ในขณะที่ฮีชอลยิ้มอย่างเหนือกว่า

     

                “อย่าพูดเชียวนะ” จองซูบอกเสียงแข็ง

     

                “พูดมาเถอะน่า ไม่เห็นจะน่าอายตรงไหนเลย”

     

                ฮีชอลหันมายิ้มหวานให้กับจองซู นี่อาจเป็นครั้งแรกที่จองซูมองว่าฮีชอลน่ารักมากกว่าสวย เขากลอกตาไปมา ก่อนจะรีบยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม แล้วคว้าไมค์มาร้องเพลงเพื่อกลบเกลื่อนความอับอายของตัวเอง

     

                “ถึงจองซูจะดูหยิ่งๆ แต่หมอนั่นชอบคุณมากเลยนะ”

     

                ชายคนหนึ่งรีบมากระซิบข้างหูฮีชอลในขณะที่จองซูกำลังเผลอ ฮีชอลกำลังจะยิ้มกว้าง ทว่าเสียงโทรศัพท์กลับดังขึ้นจนเขารีบเปลี่ยนความสนใจ ดวงตากลมโตฉายแววเศร้าและเหนื่อยใจเมื่อรู้ว่าคนที่โทรมาคือซีวอน เขามองไปยังแผ่นหลังของจองซูแล้วกดตัดสายทิ้งทันที

     

                “มีอะไรเหรอ?” จองซูถามหลังจากที่ร้องเพลงเสร็จแล้ว

     

                “ซีวอนโทรมาน่ะ”

     

                “คุณก็รับสิ”

     

                “ฉันยังไม่พร้อมจะคุยกับเขาตอนนี้”

     

                ฮีชอลปล่อยให้ซีวอนโทรมาอีกหลายครั้ง เกือบครึ่งชั่วโมงที่โทรศัพท์มือถือมีสายเรียกเข้าตลอด หลังจากนั้นก็เงียบหายไปจนฮีชอลคิดว่าซีวอนคงหมดความอดทนแล้ว ทว่าประตูห้องคาราโอเกะถูกผลักออกอย่างแรงจนคนทั้งห้องหันไปมองกันหมด

     

                “ซะ...ซีวอน”

     

                ฮีชอลเรียกชื่อคนรักอย่างตะกุกตะกัก ซีวอนขบกรามแน่น ก่อนจะย่างสามขุมมากระชากตัวคนรักออกไป ทว่าจองซูกลับมายืนขวางทางเอาไว้

     

                “ไม่ใช่เรื่องของคุณ อย่ายุ่ง!” ซีวอนจ้องหน้าจองซูอย่างเกลียดชัง ก่อนจะพาร่างโปร่งออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว

     

                “ปล่อยพี่นะซีวอน!

     

                “...”

     

                “พี่บอกให้ปล่อย!” ฮีชอลโวยวายลั่นจนกระทั่งออกมาหน้าห้อง ซีวอนเหวี่ยงเขาไปติดกำแพง และใช้แขนข้างหนึ่งกั้นไว้ไม่ให้คนสวยหนีไปไหนได้

     

                “ผมไม่คิดว่าพี่ฮีชอลจะทำตัวแบบนี้” เขาพูดด้วยน้ำเสียงผิดหวัง

     

                “พี่ก็ไม่คิดว่านายจะใฝ่ต่ำเอาเด็กรับใช้ในบ้านตัวเองเหมือนกัน”

     

                “พี่ฮีชอล!

     

                “ทำไม...ฉันพูดผิดเหรอ?” ฮีชอลเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่เกรงกลัว ซีวอนได้แต่กำหมัดแน่นด้วยความโกรธ ร่างสูงไม่เคยคิดเลยว่าเขาเป็นคนผิด เพราะสำหรับซีวอนแล้ว ต่อให้เขาไปมีใครต่อใครอีกมากมาย แต่คนที่เขารักก็มีเพียงคิม ฮีชอลเท่านั้น

     

                ซึ่งฮีชอลคิดว่าการกระทำของซีวอนมันเห็นแก่ตัวมาก

     

                “รู้ไหมว่าผมเป็นห่วงมากแค่ไหน ผมตามหาพี่จนทั่ว” ซีวอนพยายามจะเปลี่ยนเรื่อง

     

                “นายก็แค่ใช้เครื่องนำทางจากเบอร์โทรศัพท์ของฉัน”

     

                ฮีชอลรู้สึกว่ามันน่าขันเหลือเกินที่ซีวอนเอาแต่ใจแบบนี้ ถ้าเทียบกันแล้ว เขารู้สึกว่าจองซูดูเป็นผู้ใหญ่และมีเหตุผลมากกว่าเด็กนักศึกษาปีหนึ่งที่เข้ามาจีบเขาเพราะต้องการเป็นที่สนใจของคนทั้งมหาวิทยาลัย

     

                “พี่ฮีชอลชอบมันเหรอ?” ซีวอนชี้เข้าไปด้านในห้อง เขาหมายถึงดีไซเนอร์และเจ้าของห้องเสื้อชื่อดังที่จูบฮีชอลในวันนั้น ซีวอนจำหน้าจองซูได้แม่นยำ

     

                “จะทำไม?”

     

                “ผมถาม พี่ก็ตอบสิ”

     

                “มันก็เหตุผลเดียวกับที่นายไปยุ่งกับเด็กนั่นน่ะแหละ”

     

                คำพูดดูถูกของฮีชอลทำให้ซีวอนหมดความอดทน เขากดฮีชอลให้แนบไปกับผนังห้อง ก่อนจะซุกไซร้ไปทั่วทั้งซอกคอสวย ฮีชอลทั้งผลักทั้งดันคนรักออกห่าง ทว่าเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้เขาไม่มีเรี่ยวแรงเลย จนกระทั่ง...

     

                พลั่ก!

     

                “อย่ามาทำตัวต่ำๆ ที่นี่!” จองซูผลักซีวอนออกไปติดกำแพงอีกด้าน ก่อนจะประคองฮีชอลออกจากร้านคาราโอเกะให้เร็วที่สุด ฮีชอลไม่ลังเลเลยสักนิดที่จะไปกับจองซู

     

                มันไม่ใช่ความรู้สึกที่ต้องการประชด

     

                แต่ฮีชอลกำลังคิดว่า...หัวใจของเขาเริ่มเปลี่ยนไปแล้ว

     

     

     

                ก่อนถึงวันทัศนะศึกษาสองวัน

     

                ทงเฮนำเงินที่ได้จากการวาดภาพที่ชายหาดคืนนั้นใส่กระเป๋าสตางค์มาที่มหาวิทยาลัย เขาตั้งใจมาเช้ากว่าปกติเพื่อไม่ให้เป็นที่สนใจของเพื่อนๆ

     

                “ฉันเอาเงินค่าทัศนะศึกษามาจ่ายน่ะ”

     

                ทงเฮบอกกับเพื่อนที่เป็นตัวแทนในการเก็บเงินของสายชั้น ทว่าเพื่อนคนนั้นกลับขำพรืดออกมา

     

                “หืม...เอาเงินมาจ่าย?”

     

                “อื้อ ห้าแสนวอนที่ต้องไปทัศนะศึกษาไง” ทงเฮชูเงินขึ้นให้เพื่อนตรงหน้าเห็น ทว่าอีกฝ่ายกลับโบกไม้โบกมือปฏิเสธ เขาหัวเราะเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ จนทงเฮเริ่มหัวเสีย

     

                “นายจะบ้าหรือไงทงเฮ เงินตั้งห้าแสนวอน นายก็โอนเงินเข้าบัญชีเราสิ”

     

                “โอนเงิน? ฉันต้องโอนเงินมาเหรอ?” ทงเฮเอียงคอถาม

     

                “ก็ใช่น่ะสิ ไม่มีใครพกเงินสดถึงห้าแสนวอนหรอกนะ นั่นไง...เลขที่บัญชี”

     

                นิ้วเรียวชี้ไปที่กระดาษเอสี่สีขาวที่แปะไว้หน้าห้อง ทงเฮหน้าแดงก่ำไปจนถึงใบหู ก่อนจะรีบเก็บเงินของตัวเองไว้ด้วยความอับอาย เขาไม่รู้มาก่อนเลยว่ามหาวิทยาลัยของคนรวยจะมีการจัดการที่แปลกๆ เช่นนี้ ร่างบางยืนนิ่งอยู่สักพัก ก่อนจะค่อยๆ หันหลังเดินออกไปดูเลขที่บัญชีหน้าห้อง หากแต่เสียงของเพื่อนคนนั้นกลับดังขึ้นเสียก่อน

     

                “ทงเฮ”

     

                “หืม?”

     

                “นายโอนเงินมาแล้วไม่ใช่เหรอ เมื่อวานฉันยังได้รับ SMS จากธนาคารอยู่เลย” เขาบอกพร้อมกับพยายามควานหาโทรศัพท์มือถือมาให้ทงเฮดู

     

                “ฉันเนี่ยเหรอที่โอนเงินมาแล้ว”

     

                “ไม่เชื่อก็มาดูสิ” พูดจบก็หันหน้าจอโทรศัพท์มาให้ทงเฮดู จำนวนเงินห้าแสนวอนพร้อมกับชื่อของเขาถูกส่งเข้ามาแล้ว ทงเฮได้แต่ขมวดคิ้วจนแทบจะผูกกันเป็นโบ ก่อนจะนึกถึงฮยอกแจขึ้นมา เพราะฮยอกแจเป็นคนเดียวที่รู้ว่าเขาไม่มีเงินจ่ายค่าไปทัศนะศึกษา

     

                ร่างบางรีบเดินออกไปหน้าห้องเพื่อดักรอฮยอกแจทันที

     

     

     

                “ฮยอกแจ” ทงเฮเอ่ยเรียกร่างสูงโปร่งที่กำลังจะเดินเข้าห้อง

     

                “จ่ายเงินยัง” ฮยอกแจถามขึ้นราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

                “นายทำแบบนี้ทำไม ต้องการให้ฉันขายหน้าเหรอ?” ทงเฮเอ่ยถามทั้งน้ำตา ก่อนจะปาเงินค่าทัศนะศึกษาใส่อกคนตรงหน้า ฮยอกแจได้แต่ก้มลงไปเก็บเงินนั้นอย่างเชื่องช้า แล้วยัดใส่มือของร่างบางเอาไว้

     

                “เงินมันหาไม่ได้ง่ายๆ นะ อย่ามาโยนเล่นแบบนี้สิ”

     

                “มันเรื่องของฉัน!

     

                “งั้นก็ตามใจ” ฮยอกแจถอนหายใจ ก่อนจะเดินผ่านทงเฮเข้าไปในห้อง หากแต่ทงเฮรีบเดินมายืนขวางทางเอาไว้

     

                “นายจ่ายเงินให้ฉันทำไม?”

     

                “จ่ายเงินค่าอะไร ฉันไม่เข้าใจ” ฮยอกแจส่ายหน้าอย่างมึนงง

     

                “จ่ายเงินค่าทัศนะศึกษาไงล่ะ ถ้าไม่ใช่นายแล้วจะเป็นใคร ตอนเปิดเทอมก็เป็นนายด้วยใช่ไหมที่จ่ายค่ากิจกรรมนักศึกษาให้ฉัน ฉันไม่ต้องการเงินของนาย ไม่ต้องการ!

     

                ทงเฮทุบหน้าอกแกร่งของฮยอกแจด้วยความโมโห แทนที่ฮยอกแจจะรวบมือนั้นไว้เพื่อปกป้องตัวเอง เขากลับยืนนิ่งให้ร่างเล็กระบายความโกรธให้เต็มที่ รอจนทงเฮเหนื่อยแล้วค่อยๆ เอ่ยขึ้นอย่างเชื่องช้า

     

                “อย่าสำคัญตัวเอง”

     

                “ห๊ะ! ว่าไงนะ?”

     

                “ฉันบอกว่าอย่าสำคัญตัวเอง ฉันจะเอาเงินของตัวเองไปให้คนอื่นทำไมกัน ถึงฉันจะรวย...แต่ฉันก็รู้ค่าของเงินนะ” ยิ่งฮยอกแจพูด ทงเฮก็ยิ่งตัวสั่นไปด้วยความโกรธ

     

                “ยังไงก็จะไม่ยอมรับใช่ไหม?” ร่างบางถามอย่างหมดความอดทน

     

                “ฉันไม่ได้ทำ ลองไปถามแฟนนายดูสิ อาจจะเป็นคิบอมก็ได้ที่ช่วยเหลือนายมาโดยตลอด”

     

                “...”

     

                “อย่ามาคาดหวังว่าคนๆ นั้นจะเป็นฉันเลย”

     

                ทงเฮรู้สึกเหมือนมีตะปูนับพันตัวมาตรึงไว้ที่เท้าของเขาจนไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้ ฮยอกแจเดินผ่านเขาเข้าไปในห้องเรียนอย่างไร้เยื่อใย ไม่เหลือภาพความขี้เล่นที่เกิดขึ้นตอนที่อยู่ชายหาดนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว

     

                คิบอมเดินเข้ามาถึงห้องเรียนทันทีมองใบหน้าทงเฮที่มีแต่น้ำตาเอ่อคลอเต็มสองข้าง เขาเดินเข้ามาใกล้ๆ คนตัวเล็ก ก่อนจะเอ่ยถามขึ้น

     

                “เป็นอะไรไปทงเฮ”

     

                “คิบอม...” ทงเฮช้อนตาขึ้นมองเพื่อน ก่อนจะเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา

     

                “มีอะไรเหรอ นายร้องไห้ทำไม”

     

                “นายจ่ายเงินค่ากิจกรรมนักศึกษาให้ฉันเหรอ ค่าทัศนะศึกษาก็เป็นนายด้วยใช่ไหม”

     

                ทงเฮเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงขอบคุณและรู้สึกผิด คิบอมที่ทำหน้าตกใจเล็กน้อยในตอนแรกค่อยๆ พยักหน้าอย่างยอมรับ ทงเฮจึงหยิบเงินในกระเป๋าอีกจำนวนหนึ่งรวมกับห้าแสนวอนที่ถือไว้ในตอนแรกส่งคืนให้กับร่างสูง

     

                “ฉันเอาเงินทั้งหมดมาคืนให้นาย” ทงเฮบอกพร้อมกับพยายามจะยัดเงินให้คิบอม หากแต่คิบอมกลับชักมือหนี

     

                “ฉันไม่เอาคืนหรอก”

     

                “คิบอม...อย่าทำให้ฉันรู้สึกแย่ไปมากกว่านี้เลย รับเงินคืนไปเถอะ”

     

                “ฉันให้เงินนาย ไม่ได้ให้ยืม”

     

                “คิม คิบอม!

     

                ทงเฮส่งเสียงดังขึ้นเมื่อคิบอมไม่ฟังเขา ทว่าคิบอมกลับส่ายหน้าช้าๆ และจูงมือร่างบางเข้าไปนั่งด้านใน ทงเฮจึงไม่กล้าพูดอะไรอีก มือหนาเกลี่ยน้ำตาออกจากใบหน้าหวานอย่างแผ่วเบาในขณะที่ฮยอกแจก็ปรายตามองอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าคิบอมจทำอะไรหรือพูดอะไรกับทงเฮ

     

                “เก็บเงินที่นายมีไว้ใช้เถอะ” คิบอมเอ่ยขึ้น

     

                “แต่ว่า...”

     

                “สำหรับฉันเศษเงินพวกนั้นแทบจะเอาไปใช้อะไรไม่ได้เลย แต่สำหรับนาย...มันมีค่ามากเลยนะ นายเก็บไว้ใช้เถอะทงเฮ”

     

                คิบอมกำมือเรียวที่ถือเงินไว้แน่น ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะไม่รับเงินคืนจากทงเฮโดยเด็ดขาด ทงเฮถอนหายใจก่อนจะเก็บเงินไว้กับตัวเองตามเดิม

     

                ฮยอกแจได้แต่แอบมองด้วยความอิจฉา เพราะปฏิกิริยาของทงเฮที่มีต่อเขาและคิบอมช่างแตกต่างกันมากเหลือเกิน

     

                ในขณะที่ทงเฮโกรธเพราะคิดว่าเขาเป็นคนจ่ายเงินให้

     

                ทงเฮกลับไม่ได้ต่อว่าคิม คิบอมเลยแม้แต่คำเดียว

     

     

     

     

     

     

    Talk with Lee Seen

                ความลับของปาร์ค จองซูถูกเปิดเผยแล้ว  Gaem Over << มันน่าจะอ่านว่าเกียมโอเวอร์มากกว่า

    ส่วนคู่อึนเฮก็...ลุ่มๆ ดอนๆ มีคิบอมมาแทรกอีก โอ๊ย!!

    ใครแต่งเนี่ย ใจร้ายที่สุด คนอ่านอึดอัดนะโว้ยยยย

    ยังไงก็ช่วยติดตามตอนต่อไปด้วยนะค้า...

     

    ตอนต่อไปพบกันคนที่ชั่วร้ายที่สุดในเรื่อง

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×