ลำดับตอนที่ #16
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : HitsuRukia || 氷 + 雪
「氷+雪」
(น้ำแข็ง + หิมะ)
PG-13 || One shot
Hitsugaya Toshiro x Kuchiki Rukia
❄
บ้านเรือนและตึกที่ยังใช้ระบบเดิมอยู่จึงทำให้เหล่ายมทูตใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ตามบ้านของแต่ละคนก็เริ่มก่อเตาไฟไว้ใช้ สำหรับสำนักงานของเหล่ายมทูตก็เริ่มมีฮีตเตอร์ซึ่งเดิมทีถูกนำเข้ามาจากโลกมนุษย์และนำไปศึกษาต่อให้สามารถสร้างมันขึ้นมาได้ในโซลโซไซตี้หน้าหนาวในโซลโซไซตี้นั้นหนาวขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกันกับโลกมนุษย์ที่นับปีผ่านไปฤดูหนาวก็ยิ่งหนาวมากขึ้น
ทว่าก็มีหน่วยพิทักษ์หนึ่งที่ยังไม่ได้ใช้งบซื้อฮีตเตอร์ไว้ในสำนักงานเลยแม้แต่ตัวเดียว แถมหัวหน้าหน่วยผู้นั้นก็ยังคงแต่งตัวเช่นเดิมไม่เคยเปลี่ยนและไม่มีท่าทีหนาวอะไร
"หัวหน้าคุจิกิไม่คิดจะซื้อฮีตเตอร์สักตัวเลยเหรอ ข้าจะแข็งตายอยู่แล้ว!"
"ไม่หนาวเกินเจ้าทนหรอก ถือเป็นการฝึก"
อาบาราอิ เร็นจิ ถามเรื่องนี้เป็นรอบที่ร้อยแล้วในหน้าหนาวนี้ แต่ไม่ว่าอย่างไรหน่วยพิทักษ์ที่หกของเขาก็ไม่เคยมีฮีตเตอร์เพิ่มเข้ามาสักตัว นับวันยิ่งหนาวขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าหัวหน้าคุจิกิ เบียคุยะ ของเขาทำไมถึงมีภูมิต้านทานต่อความหนาวได้มากขนาดนี้
"ให้ตายสินับวันยิ่งหนาว หัวหน้าไปฝึกยังไงให้ไม่สะทกสะท้านกับความหนาวได้มากขนาดนี้ อย่างน้อยก็ใจดีบอกข้าหน่อยได้ไหม"
"หึ-"
คุจิกิ เบียคุยะ ไม่ได้ตอบอะไรนอกจากพ่นลมหายใจออกมาครั้งหนึ่งคล้ายจะถอนหายใจปลงตก ท่าทางแบบนั้นก็ยิ่งทำให้เร็นจิไม่เข้าใจและสงสัยเข้าไปใหญ่ เกิดอาการอยากรู้อยากเห็นคะยั้นคะยอไม่หยุด
"หัวหน้าต้องบอกข้าหน่อยเถอะ ถ้าข้าแข็งตายไปแล้วใครจะช่วยหัวหน้าทำงาน"
จนในที่สุดเบียคุยะก็ยอมหันมาตอบประโยคหนึ่ง...ประโยคที่ไม่ได้ทำให้เร็นจิเข้าใจอะไรมากขึ้นเลยแม้แต่นิด
"เจ้าลองไปอยู่บ้านข้าสักวันไหมล่ะ"
"หา หัวหน้าพูดว่าอะไรนะ ขออีกทีได้ไหม?"
คุจิกิ เบียคุยะ ถอนหายใจดังผิดปกติ ในใจก็เผลอคิดไปถึงโต๊ะอาหารเย็นอันน่าอึดอัดในบ้านของตนที่แม้แต่ผู้นำตระกูลคุจิกิอย่างเขาก็ไม่อยากร่วม...วันนี้เข้าไปตลาดหาทานเองเสียจะดีกว่า
.
.
.
ยามเย็นหลังเลิกงาน หัวหน้าฮิสึกายะ โทชิโร่ก็มุ่งหน้ากลับไปยังที่พักของเขา
"ยินดีต้อนรับกลับเจ้าค่ะ ท่านฮิตสึกายะ"
"อืม"
หญิงสาวในชุดยูกาตะเรียบร้อยมิดชิดโค้งคำนับให้เขาอย่างอ่อนน้อม บ้านที่เขากลับมาบัดนี้ไม่ใช่ห้องเช่าเหมือนเดิมอีกต่อไปตั้งแต่ที่ได้เข้าพิธีหมั้นหมายกับคนในตระกูลคุจิกิ คนรับใช้ในบ้านต่างรู้ทั่วกันดีว่ามาใหม่ผู้นี้คือนายของเขาไม่ต่างกัน
ฝีเท้าของฮิตสึกายะ โทชิโร่ น้ันเบาหวิวลงตั้งแต่ยอมมาอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลคุจิกิ แม้จะไม่เบากว่าฝีเท้าของคนในตระกูลคุจิกิไปได้ แต่แน่นอนว่าดูภูมิฐานกว่าเดิมอยู่มาก
"ยินดีต้อนรับกลับโทชิโร่ วันนี้ข้ากลับจากหน่วยมาเร็ว ทำอาหารไว้เรียบร้อยแล้วล่ะ"
คุจิกิลูเคียเดินออกมาต้อนรับเขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มพร้อมกับตะหลิวในมือ ทั้งที่เขายังไม่ได้เข้าไปถึงห้องครัวซะด้วยซ้ำ
"เจ้าทำทั้งหมดนั่นไหวหรือ ให้แม่ครัวทำไม่ดีกว่ารึ"
"ไม่ๆ แบบนี้น่ะดีแล้ว ข้าเรียนรู้การทำอาหารมาเยอะเลยนะ ถ้าข้าทำเรื่องขอยอมให้เปลี่ยนนามสกุลได้สำเร็จแล้วได้ย้ายไปอยู่ด้วยกัน วันนั้นข้าก็จะได้ทำอาหารได้ไง"
"ข้าว่าพี่ชายของเจ้าคงไม่ยอมให้เจ้าออกจากบ้านหรอก ข้ามาอยู่นี่แหละดีแล้ว"
โทชิโร่สนทนากับคู่หมั้นของตนด้วยความเป็นห่วง คุจิกิ ลูเคีย เป็นคนของหนึ่งในตระกูลใหญ่ แถมยังเลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าหน่วยแล้วจึงไม่มีอะไรที่จะต้องหน้าอับอายสำหรับการหมั้นที่ตกลงกันว่า ฮิตสึกายะ โทชิโร่ จะย้ายมาอยู่ด้วยกันกับบ้านคุจิกิ
บวกกับความหัวรั้นของหัวหน้าตระกูลคุจิกิแล้ว ทุกคนก็รู้ดีว่าต่อให้แต่งงานกันแล้วคุจิกิ ลูเคียก็คงหนีไปลงหลักปักฐานที่ไหนอื่นไม่ได้
"ข้ารู้ว่าถึงเจ้าจะยอม มันก็ยังทำให้เจ้ารู้สึกเสียศักดิ์ศรีอยู่ดี...ขอโทษนะโทชิโร่"
"ไม่เห็นมีอะไรที่เจ้าต้องขอโทษเลย"
ฮิตสึกายะ โทชิโร่ ไม่ว่าจะอยู่ในร่างไหนก็ยังคงเป็นคนพูดน้อยไม่มีเปลี่ยน เพราะปลอบใจไม่ค่อยเป็นจึงทำให้ลูเคียมีสีหน้ากังวลไม่หายแม้กระทั่งในเวลาอาหาร
เสียงช้อนส้อมกระทบรวบเก็บบนจาน ลูเคียวันนี้ทานน้อยบ่งบอกได้ถึงความกังวล โทชิโร่เห็นดังนั้นจึงพยายามจะพูดอะไรสักอย่างออกมาให้ได้ก่อนเธอจะเดินออกจากห้องอาหารไป
"ลูเคีย"
"หืม มีอะไรรึเปล่า"
"ข้าไม่ได้ยอมให้ตัวเองรู้สึกเสียศักดิ์ศรีสักหน่อย.."
"ข้ารู้"
ลูเคียพยักหน้าเข้าใจ แต่ก็ยังทำท่าจะเดินออกจากห้องอาหารไปอยู่ดี โทชิโร่ที่ทำอะไรไม่ถูกแต่ในใจรู้ดีว่าไม่ควรปล่อยให้เป็นเช่นนี้จึงคว้ามือเธอไว้
หมับ
"เจ้ามีอะไรจะพูดอีกหรือ"
"อะ เอ่อ"
"ข้ายังมีงานต้องอนุมัติจากหน่วยอีกมาก ถ้าเจ้าไม่รีบ-"
"ข้าทำเพราะข้ารักเจ้าต่างหากลูเคีย!"
เขาโผล่งออกไปแล้ว..
ลูเคียหันขวับกลับมาทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้น เช่นเดียวกับโทชิโร่ที่ตะลึงงันรีบชักมือกลับโดยอัตโนมัติ
แต่ลูเคียก็หันกลับมาคว้าไว้ได้ทัน
"เมื่อกี้ว่าอะไรนะ เจ้าพูดอีกทีได้ไหม"
"เมื่อกี้ข้าไม่ได้พูด-- ไม่สิ ข้าหมายความว่าอย่างนั้นแหละ เจ้าก็ได้ยินอยู่แล้วนี่"
"ใช่ เป็นครั้งแรกที่ได้ยินคำนั้นจากปากโทชิโร่เลยล่ะ"
ลูเคียเปลี่ยนขยับมือทั้งสองมากุมมืออีกฝ่ายไว้แน่น พลางพูดด้วยความปลื้มปิติ
"ข้าก็รักท่านมากนะ ฮิตสึกายะ โทชิโร่"
ตั้งแต่ตกลงหมั้นหมายกันมา ลูเคียไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากปากของโทชิโร่เลย เธอคิดไปเองว่าคงเป็นเพราะเธอมีกำหนดต้องแต่งงานหมั้นหมายในช่วงอายุนี้ตามกฎของตระกูล ท่านพี่ของเธอต้องไปแอบข่มขู่หัวหน้าฮิตสึกายะ โทชิโร่ ให้มาหมั้นกับเธอแน่ๆ เพราะรู้ดีว่าเธอแอบประทับใจเขาอยู่ลึกๆ
เมื่อเหตุการณ์ผ่านไปได้ด้วยดีแล้ว ทั้งคู่ก็กลับมายังห้องนอนที่เป็นห้องเดียวกันในฐานะคู่หมั้น ทว่านอนเตียงแยก เตียงทั้งสองหลังก็ถูกดันให้มาติดกัน ถือเป็นความก้าวหน้าของความสัมพันธ์ไปอีกระดับหนึ่งของพวกเขา
"ในตอนนั้นข้าประทับใจท่านและท่านพี่เองก็รู้ ตอนที่หมั้นก็อดนึกไม่ได้ว่าท่านพี่ติดสินบนอะไรกับท่านซะอีก"
"จะเป็นไปได้ยังไง ไม่มีทางซะหรอก"
โทชิโร่ตกใจมากที่ได้ยินเรื่องราวเหล่านี้จากลูเคีย ความจริงแล้วเขานึกว่าคุจิกิ เบียคุยะ เหม็นหน้าเขาที่แย่งน้องสาวไปซะด้วยซ้ำ ไม่เคยยอมมาทานข้าวบนโต๊ะเดียวกันในตอนเย็นเลยแม้แต่วันเดียว
"แล้วเรื่องที่พี่ชายเจ้าไม่กลับบ้าน.."
"นั่นเป็นเพราะท่านพี่อึดอัดต่างหาก"
ลูเคียหัวเราะเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าโทชิโร่กังวลในเรื่องนั้น และบอกเขาอีกด้วยว่าอย่าได้กังวลเรื่องนี้อีก
"งั้นคราวหน้าก็บอกให้พี่ชายเจ้ามาทานอาหารเย็นที่บ้านได้แล้ว"
"โทชิโร่จะทำตัวดีๆ แล้วสินะ"
ลูเคียกอดอกพูดด้วยท่าทางจริงจัง แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เธอทำในเวลาที่กำลังพูดเล่นอยู่เพราะริมฝีปากนั้นยิ้มกระตุก พร้อมหลุดยิ้มได้ทุกเมื่อ
"ยังไงนี่ก็คฤหาสน์คุจิกิ จะให้หัวหน้าตระกูลออกไปร่อนเร่ได้อย่างไร"
"งั้นข้าจะลองถามท่านพี่ใหม่ละกัน"
"ข้าจะพยายามไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด.."
โทชิโร่พยายามอย่างมากในการเป็นคนใหม่สำหรับการเป็นคู่หมั้นกับลูเคีย และลูเคียก็ดีใจเป็นอย่างมากที่ได้เห็นความพยายามนั้นพร้อมกับคำสารภาพรักในวันเดียวกัน
"โทชิโร่นี่ดีที่สุดเลย"
"อืม"
โทชิโร่รับกอดของลูเคียโดยดี เขาพยายามที่จะเป็นคนใหม่และก็ไม่ลืมที่จะสื่อสารความรู้สึกของตนเองให้มากขึ้น
"ข้าก็รักเจ้าเช่นกัน"
สำหรับคู่หมั้นที่เริ่มแรกไม่ได้มาจากความสนิทสนม แต่ก็พัฒนามาได้จนถึงตอนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเล่นที่ใครจะดูแค่จากภายนอกได้ พวกเขาเป็นดั่งน้ำแข็งและหิมะที่หลอมรวมเข้าด้วยกัน ได้ค้นพบว่าทั้งสองสิ่งคือสิ่งเดียวกันมาตั้งแต่แรก
หากเปรียบให้ชัด ยมทูตหญิงผู้ห้าวหาญไม่มีความอ่อนหวานสักเท่าไหร่กับยมทูตชายอัจฉริยะผู้มีนิสัยเย็นชา ทั้งสองคนนี้ก็เมื่อปรับตัวเข้าหากันแล้วก็เข้ากันได้ดีและมีแรงดึงดูดมหาศาล
เช่นเดียวกันกับจูบแรกที่มีแรงดึงดูดทำให้มันเกิดขึ้น ณ เวลานี้
"อื้ม-"
ผิวสัมผัสอันอ่อนนุ่มที่อลกลมหายใจชิดติดกันไม่ห่างทำให้รู้สึกดีจนได้ยินเสียงเครือหลุดรอดออกมา พวกเขาทั้งสองต่างอยู่ในภวังค์จนกระทั่งลูเคียนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ แยกริมฝีปากออกมาเกิดเสียงดังจุ๊บ
"วะ เวลานี้ ท่านพี่ต้องกลับมาแล้วแน่"
"เจ้ากลัวว่าหัวหน้าคุจิกิจะได้ยินงั้นรึ"
ลูเคียพยักหน้าด้วยความกังวล แม้หน้าจะแดงและมีห้วงอารมณ์ติดอยู่ แต่ไม่มีทางที่ท่านพี่จะไม่ได้ยินอะไรจากฝั่งพวกเขาเมื่อกลับมาถึงบ้านแล้ว
"แม้พวกเราจะหมั้นหมายกันมานานแล้ว แต่อย่างไรข้าไม่อยากจะให้ท่านพี่รู้เรื่องแบบนี้ไปด้วย"
"งั้นข้าขอถามเจ้าคำถามหนึ่ง"
"คำถามอะไร"
"เจ้ารู้สึกเหมือนกับข้าตอนนี้ไหมลูเคีย"
ทั้งสองคนต่างแลกสายตาอยู่พักหนึ่ง แต่นั่นก็เป็นการค้นหาคำตอบที่ชัดเจนมากพอแล้วสำหรับเขาท้ังคู่
"อืม"
ลูเคียตอบสั้นๆ พยักหน้าพลางก้มหน้างุด น่าเสียดายที่นั่นทำให้เธอไม่ได้เห็นรอยยิ้มบนริมฝีปากของฮิตสึกายะ โทชิโร่ เธอได้ยินเพียงแค่เสียงเรียกดาบฟันวิญญาณของเขาเท่านั้น
"เฮียวรินมารุ"
"ขอรับนายท่าน"
"คืนนี้ข้ามอบหมายให้เจ้าเฝ้าพื้นที่ ทำให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครเข้าใกล้บริเวณห้องนี้ได้หรือไม่"
"หากเป็นคำสั่งนายท่าน ย่อมได้"
ลูเคียอ้าปากค้างกับเหตุการณ์ตรงหน้า คิดไม่ถึงว่าโทชิโร่จะทำขนาดนี้ เอาดาบฟันวิญญาณของตนมาใช้งานเรื่องแบบนี้...มันจะดีรึ
"ข้าไม่แน่ใจว่านี่จะเป็นความคิดที่ดี"
"แค่ครั้งเดียวน่ะ"
"..."
เสียงของเธอเงียบไปพักใหญ่ ก่อนที่จะถูกเปล่งออกมาอีกครั้ง
ไม่ใช่คำอนุญาติหรือว่าคำห้ามปราม ทว่ากลับเป็นสิ่งเดียวกันกับที่โทชิโร่ทำ
"โซเดโนะ ชิรายูกิ"
"เจ้าคะนายท่าน"
"ช่วยอยู่เป็นเพื่อนเฮียวรินมารุทีได้ไหม ช่วยเขาเฝ้าให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครเข้าใกล้ห้องที่ข้าอยู่นี่ตลอดคืน"
"ได้แน่นอนเจ้าค่ะ"
ทันทีที่ดาบฟันวิญญาณระดับหัวหน้าหน่วยหายไปทำภารกิจ ไอเย็นจับขั้วหัวใจก็พรั่งพรูไปทั่วบริเวณ แม้กระทั่งห้องนอนของพวกเขาก็รู้สึกได้ถึงไอเย็นจากข้างนอกได้จนคนลุกขนชัน
แต่เรื่องอะไรเล่าที่ผู้เป็นนายหิมะและน้ำแข็งจะหวาดกลัวความหนาวเย็น เพราะนั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาลงทุนเรียกมา ทำให้พวกเขาใช้เวลาหลอมรวมแลกความอบอุ่นซึ่งกันและกันอย่างไร้ความกังวลใดๆ
.
.
.
คุจิกิ เบียคุยะ กลับถึงคฤหาสน์ของตนในเวลาดึกเช่นเคยที่ผ่านมาตั้งแต่โทชิโร่ย้ายเข้ามาอยู่กับลูเคียหลังหมั้นหมาย
โดยปกติแล้วที่ตระกูลของเขายามดึกในฤดูหนาวจะมีเพียงลมเย็นพัดอ่อนๆ และกลิ่นดอกซากุระลอยทั่ว ทว่าวันนี้กลับไม่ใช่อย่างนั้น
"นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน"
เบียคุยะมองออกไปยังคฤหาสน์ของตนที่เกือบครึ่งหลังเป็นแสงประกายสีฟ้าอ่อน...มันกลายเป็นน้ำแข็งไปเกือบครึ่งหลัง ไม่มีกลิ่นดอกซากุระแต่มีเพียงความเย็นแสบจมูก ลมพัดอ่อนยามดึกกลับกกลายเป็นลมหนาวกรรโชกแรง หนาวยิ่งกว่าบนเขาข้างนอกเขตลูคอนเสียอีก
แม้ไม่ได้มีกลิ่นอายอันตรายใดๆ ออกมาจากบ้านที่ถูกแช่แข็งนั่น แต่เบียคุยะก็ยังรู้สึกปวดหัวเครียดและหงุดหงิดมากจนแทบจะพุ่งเข้าไปชักดาบใส่ตัวการที่ทำให้บ้านของเขากลายไปน้ำแข็งไปครึ่งหลัง
เคร้ง!
"เจ้านายของเจ้าคิดทำสิ่งใด เฮียวรินมารุ"
เสียงดาบปะทะกับสายตาอันเย็นเยียบที่แลกเปลี่ยนกันอยู่พักใหญ่ทำให้แรงดันวิญญาณเพิ่มขึ้นทวีคูณ มันแผ่กระจายออกไปจนถึงอีกฝั่งของคฤหาสน์จนทำให้โซเดโนะ ชิรายูกิรีบเข้ามาขวางหน้าอย่างรวดเร็ว
"ขออภัยเจ้าค่ะ ท่านหัวหน้าตระกูลคุจิกิโปรดให้อภัยพวกข้าด้วย"
หล่อนไม่หลบเลี่ยง คุกเข่าขอความเห็นใจด้วยท่าทางสง่างาม
"นี่เป็นภารกิจเพียงคืนเดียว และมันไม่ได้ทำให้คฤหาสน์ของเจ้าเสียหาย"
"แล้วพวกเจ้าทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกัน"
"..."
เฮียวรินมารุและโซเด โนะชิรายูกิ ปิดปากสนิท ดูท่าแล้วเหมือนไม่กล้าพูดเสียมากกว่า แต่หัวหน้าตระกูลจะปล่อยให้คฤหาสน์ของตนเป็นแบบนี้ก็ไม่ได้จึงทำท่าจะชักดาบของตนขึ้นอีกครั้ง
โซเดโนะ ชิรายูกิ มีสีหน้าแตกตื่น รีบดึงให้เฮียวรินมารุนั่งคุกเข่าข้างหล่อนทันทีพลางพูด
"นี่เป็นคำขอจากเจ้านายของข้าและเฮียวรินมารุ ไม่ได้อยากจะต่อกรกับท่านแต่อย่างใด ขอให้ท่านละเว้นสักครั้งเถิดเจ้าค่ะ"
เบียคุยะยังคงมีสีหน้าแคลงใจ โซเดโนะชิรายูกิผู้รู้ดีเกี่ยวกับชายผู้นี้ไม่ต่างไปจากลูเคียจึงกระทุ้งศอกให้เฮียวรินมารุพูดอะไรบ้าง
"ข้าแค่เฝ้าตามคำสั่งนายข้า ไม่ให้ใครรบกวนเวลาของสองคนจนกว่าจะเช้า"
เฮียวรินมารุพูดน้อยคำไม่ต่างจากเจ้านาย ทว่าบางทีก็ดูเหมือนจะไม่ทันเรื่องทันราวของเหล่ายมทูตสักเท่าไหร่ เรื่องที่ถูกสื่อสารออกไปแทบจะตรงตัวจึงทำให้เบียคุยะเริ่มจะคาดเดาได้ทันที
"ช่างเถอะ ข้า ข้า..เฮ้อ"
เสียงถอนหายใจดังลั่นพลางยกมือนวดหว่างคิ้วของตนต่อหน้าผู้อื่นเป็นสิ่งที่เบียคุยะไม่เคยทำมาก่อน แต่ครั้งนี้มันก็เกิดขึ้นแล้ว ไม่รู้ว่าจะโล่งใจที่ไม่มีเรื่องไม่ดีอันใดหรือโกรธที่ตนเองรู้เรื่องส่วนตัวของน้องสาวมากจนเกินไปดี
แต่เขาก็เป็นคนยืนกรานให้ลูเคียอยู่ที่นี่ไม่ไปอยู่ที่อื่น แม้จะต้องเอาฮิตสึกายะ โทชิโร่ มาอยู่อาศัยด้วยเองนี่นา
"อย่าทำให้คนรับใช้ของข้าเดือดร้อน ตระกูลคุจิกิต้องกลับไปเป็นเหมือนเดิมตอนเช้า"
เบียคุยะรีบพูดรีบไป เขาเดินก้าวพริบตาหายลับไปจากบ้านของตนเองอีกครั้ง ดูท่าว่าหัวหน้าตระกูลคุจิกิคงมีปัญหากับการที่กลับเข้าคฤหาสน์ของตนเองไม่ได้ไปอีกครั้งในคืนนี้ และเขาก็ต้องเผชิญความหนาวในฤดูหนาวข้ามคืนอีกครั้ง
เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแล้วหลายครั้งจนเบียคุยะทนทานต่อความหนาวจนไม่รู้สึกทรมาณ ทว่าเขาก็อดหงุดหงิดไม่ได้ในฐานหัวหน้าตระกูลเจ้าของบ้าน
...และขณะที่ก้าวไกลออกไป ในหัวก็มีความคิดว่าจะแลกที่อยู่กับเร็นจิ รองหัวหน้าหน่วยของตนชั่วคราวอย่างจริงจัง
❄
1/7/21
มาแล้วค่าาา เราเขียนดึกตลอดเลย กว่าจะได้อัพก็กลายเป็นเช้าวันต่อมาซะแล้ว
สำหรับตอนนี้จะเป็นช่วงหลังจบบลีชแล้วลูเคียได้เป็นหัวหน้าหน่วย นิสัยทุกคนก็เลยจะถูกปรับให้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง
เดี๋ยวนี้ต้องวางเดดไลน์ให้ตัวเองเพราะเริ่มเขียนแล้วก็เขียนไม่จบทุกที และยังไงก็ตามขอบคุณคนที่รอคอยอ่านกันนะคะ
นอกจากนี้ก็เพิ่งเห็นว่ามีใครรีเควสไว้...อันนั้นหมยถึง โทชิโร่ มัตสึโมโต้ใช่ไหมนะ? ถ้าว่างคิดพล็อตออกก็จะมาอัพนะคะ ไม่การันตีว่าได้เมื่อไหร่แต่ก็สามารถติดตามรอไว้ได้เลยยย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น