คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : EP [15] ความสัมพันธ์ที่ก้าวกระโดด✓
EP [15] ความสัมพันธ์ที่ก้าวกระโดด
..
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จคิวก็พาไอวี่นั่งรถกอล์ฟไปยังโซนหน้าโรงแรม
ระหว่างทางไอวี่ก็ดูบรรยากาศรอบๆ ด้านไปด้วย
ไอวี่รู้ว่าตระกูลของเธอมีอิทธิพลด้านสังคมธุรกิจเป็นอย่างมาก
เธอไม่เคยสนใจเรื่องของธุรกิจของตระกูลสักเท่าไร แต่ที่เธอพอรู้ก็มีแต่ธุรกิจที่เธอถือครองอยู่เท่านั้น
อย่าคิดว่าเธอสนใจเรื่องพวกนี้เพราะเธอรู้โดยบังเอิญจากทิมตอนถามถึงคิวก็เท่านั้น
“เป็นอะไร?”
“หือ?”
“คิดเรื่องที่จะต้องพูด?”
“...”
ไอวี่ไม่ได้ตอบแต่เผยสีหน้าแปลกประหลาดออกมา
“เธอไม่ได้ไปพรีเซนต์เพื่อขอความเห็นจากใคร
แต่เธอไปเพื่อพูดให้พวกเขาทำตามที่เธอต้องการ จำเอาไว้ว่าเธอคือประธานและเป็นเจ้าของโรงแรม
จะทำอะไรพวกเขาต้องฟังอยู่แล้ว ฉะนั้นเลิกกังวลซะ”
“นายให้กำลังใจฉันเหรอ”
ไอวี่เบิกตากว้างเผยสีหน้าดีอกดีใจอย่างไม่ปิดบัง
ความจริงเธอแค่นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไม่ได้กังวลอย่างที่อีกฝ่ายคิด อาจเพราะคำพูดที่เขาพูดก่อนหน้านี้เธอก็มั่นใจว่าตัวเองจะต้องทำได้แน่นอนอยู่แล้ว
และนี่คิวยังมาให้กำลังใจกันแบบนี้อีก จะให้เธอไปบุกป่าฝ่าดงก็คงจะทำได้ดีอ่ะ
“ถึงแล้ว”
คิวไม่ได้ตอบสิ่งที่ไอวี่ถามเพราะเป็นจังหวะที่รถกอล์ฟพามาถึงบริเวณหน้าโรงแรมพอดี
บริเวณหน้าโรงแรมมีพนักงานยืนต้อนรับคิวและไอวี่จำนวนหนึ่ง
สาเหตุเพราะทิมแจ้งเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่าทั้งสองคนจะมา และเป็นเพราะเมื่อวานทั้งสองมาถึงดึกจนเกินไปทำให้ทุกคนให้การต้อนรับไม่ทันจึงเลื่อนมาเป็นต้อนรับตอนเช้าแทน
“เฮ้
นายยังไม่ตอบฉันเลยนะคิว”
“...”
คิวพาไอวี่เดินลงมาด้านล่างรอให้หญิงสาวเดินมาเทียบข้าง
“คิวตอบกันก่อนสิ”
“อืม
ถ้าเป็นอย่างที่เธอพูดเธอแล้วมันจะทำไม?”
“ก็
ก็ไม่ทำไมนิ” ก็แค่ดีใจจนหัวใจจะวายก็เท่านั้นล่ะ!
“หึ”
คิวไม่ได้พูดอะไรแต่สีหน้าที่แสดงออกนั้นทำเอาไอวี่หน้าร้อน
“ไปเถอะ
ทุกคนรออยู่”
ไอวี่ยกมือขึ้นกอดแขนคิว
เพราะเป็นปรกติที่เธอจะทำแบบนี้เมื่อออกงานสังคมหรืออยู่ต่อหน้าคนอื่น
“ยินดีต้อนรับครับ”
เมื่อเข้ามาด้านในชายคนหนึ่งที่ไอวี่คิดว่าน่าจะเป็นผู้จัดการหรือคนที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาพนักงานกล่าวต้อนรับ
คิวพาเธอเดินไปยังด้านหน้าสุดก่อนจะดันหลังเธอออกมา แล้วเป็นทิมที่กล่าวเปิดตัวเธอ
“นี่คือคุณไอวี่ลูกสาวคุณไอยสิงห์เป็นเจ้าของโรงแรมสาขาพัทยา”
หลังจากทิมกล่าวจบทุกคนต่างปรบมือและพูดกล่าวต้อนรับ
ไอวี่ที่ไม่ค่อยได้ออกงานสังคมหรือทำให้เป็นจุดเด่นก็ทำตัวไม่ถูกอยู่บ้าง
แต่เพราะมือแกร่งที่คอยแตะตรงด้านหลังของเธอเป็นของมือคิวเธอจึงยิ้มและทำตัวอย่างเป็นธรรมชาติได้
หลังจากแนะนำตัวและกล่าวต้อนรับเสร็จก็ไม่ได้เสียเวลากับตรงนี้มากนัก
คิวบอกว่าก่อนจะประชุมจะต้องเข้าไปจัดการงานบางส่วนและยังต้องพบกับบริษัทก่อสร้างที่จะต้องมาเสนองานให้อีก
“นายจะให้ฉันเลือกรูปแบบพื้นที่ที่จะขายเองเหรอ?”
“มันเป็นสิ่งที่เธอจะต้องตัดสินใจอยู่แล้ว
ถ้าชอบอันไหนก็เอาอันนั้น และถ้ามีอะไรที่เธออยากแก้ก็บอกพวกเขาไป”
ไอวี่รู้สึกหนักอึ้งที่บ่า
เพราะตั้งแต่มาที่นี่คิวก็เริ่มที่จะให้เธอเข้ามามีส่วนร่วมในกิจการโรงแรมที่เธอเป็นเจ้าของ
เพราะจากการที่เขาให้เข้าร่วมประชุมหรือร่วมตัดสินใจ ดูเหมือนว่าคิวกำลัง..
“นายกำลังสอนให้ฉันบริหารงานอยู่เหรอ?”
“...”
“แต่มันเร็วเกินไป”
“ไม่เร็วหรอกช้าไปด้วยซ้ำ”
“ฉันยังไม่พร้อม”
“ถ้าไม่เริ่มลองตั้งแต่ตอนนี้แล้วเมื่อไรเธอจะพร้อม?”
คิวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ผู้บริหารถามขึ้น
สายตาดุดันมองหญิงสาวที่กระสับกระส่ายทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ดีขึ้นมากแล้ว
“อย่าให้ต้องย้ำว่าเธอคือเจ้าของที่นี่
ทุกคำพูดของเธอเป็นคำขาดไม่ว่าใครก็ต้องฟังเธอ”
“นายด้วยรึเปล่า?”
“ยกเว้นฉันที่จะฟังก็ต่อเมื่อคำพูดของเธอมีเหตุผลพอ”
เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงทิมก็เข้ามาตามไอวี่และคิวไปที่ห้องที่จัดเตียมไว้ให้กับบริษัทก่อสร้างได้เข้ามานำเสนองาน
คิวเดินนำไอวี่ออกมาจากห้องประธานแล้วเข้าไปในห้องประชุมเล็กที่มีคนจากบริษัทก่อสร้างมารอก่อนแล้ว
หลังจากคิวกับไอวี่นั่งลงทิมก็เป็นผู้แนะนำทั้งสองให้ทุกคนรู้จัก
จากนั้นก็เป็นขั้นตอนของการแนะนำตัวฝั่งบริษัทก่อสร้างและเริ่มเสนอข้อมูลที่ได้เตรียมมา
ไอวี่นั่งอ่านเอกสารและดูรูปแบบที่แต่ละบริษัทเตรียมไว้ให้
ตาเธออ่านแต่หูเธอก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้างเพราะเธอกำลังสนใจกับภาพสามมิติที่แต่ละบริษัทเสนอมาก่อนจะหยุดอยู่ตรงแฟ้มข้อมูลหนึ่งอยู่นาน
ไอวี่รู้สึกชอบรูปแบบของบริษัทนี้ที่นำเสนอออกมา
มันให้ความรู้สึกที่อบอุ่นและน่าคิดถึงชอบกล..
“คุณหนูครับ”
“หือ?”
ไอวี่ผละสายตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงทิม เธอหันมองคิวที่นั่งอยู่ด้านข้างก่อนจะมองไปรอบๆ
ห้องก็พบว่าทุกคนหายกันไปหมดแล้ว
“อะไร?
แล้วทุกคนหายไปไหนกันหมด”
“คุณคิวให้กลับไปก่อนครับเดี๋ยวจะให้คำตอบในวันพรุ่งนี้แทน”
“ทำอย่างนั้นได้ด้วยเหรอ?
พวกเขาจะไม่โกรธหรือไม่พอใจรึไง?”
“พวกเขารอได้
ตกลงเธอตัดสินใจได้รึยัง”
“ตัดสินใจอะไร
นายให้ฉันเลือกเหรอ?”
“ใช่”
“...”
ไอวี่ตกใจสติเกือบหลุด
รู้นะว่าเขาย้ำว่าเธอเป็นเจ้าของโรงแรมแห่งนี้จะตัดสินใจอะไรก็ได้ แต่เธอก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดี
ถ้าเลือกแล้วมันไม่ดีล่ะ?
“แน่ใจนะว่าจะให้ฉันเลือกจริงๆ”
คิวไม่ได้ตอบอะไรแต่สายตาตอบทุกอย่างแทนว่าให้ไอวี่เลือก
ไอวี่ลองอ่านข้อมูลของแต่ละบริษัทแล้ว
ทุกบริษัทล้วนแล้วมีประสบการณ์และมีสไตล์โดดเด่นคนละแบบ มีแปลนพื้นที่ มีภาพดีไซน์
3 มิติ มีการวางแผนงบประมาณ ประเมินราคาอุปกรณ์ และมีแผนงานที่แต่ละบริษัทแนบมา
ไอวี่เปิดดูเอกสารครบทุกแฟ้มแล้ว
เธอถูกใจบริษัทหนึ่งที่สร้างห้องพักริมสระน้ำติดชายหาดเดินอีกแค่นิดเดียวก็ถึงพื้นที่ทะเลและยังเสนอแนวคิดให้มีพื้นที่สีเขียวกลางสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ด้วย
พื้นที่สีเขียวตรงนั้นจะให้ความรู้สึกว่าเราอยู่บนเกาะและรอบด้านเป็นน้ำ
ด้านข้างก็มีส่วนที่เป็นบาร์กลางสระน้ำขนาดใหญ่คอยให้บริการลูกค้าที่ต้องการเครื่องดื่มไว้จิบตอนเล่นน้ำได้
ไม่ใช่ที่แค่พูดไปเพราะเธอก็ถูกใจส่วนของบ้านพักด้วยเช่นกัน
บ้านพักแยกเป็นหลังเล็กหลังใหญ่ตามจำนวนคนเข้าพัก มีการจัดรูปแบบสไตล์ห้องพักแตกต่างกัน
พื้นที่ด้านหน้าทางซ้ายจะเป็นบ้านพักและบังกะโลแบบติดทะเล
(See View) ทางด้านขวาจะเป็นพวกเต้นและกระโจมอินเดียแดงติดแอร์
ถัดมาพื้นที่ตรงกลางก็จะเป็นบ้านพักส่วนตัวซึ่งพื้นที่ตรงนี้มองออกมาจะเห็นวิวสระว่ายน้ำ
(Pool View)
ส่วนพื้นที่ด้านหลังจะเป็นบ้านพักส่วนตัวเช่นกันแต่จะเป็นวิวสวน
(Garden View) ซึ่งสวนนี้จะจัดเป็นสวนดอกไม้และซุ้มให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพกันได้
“ฉันชอบแนวคิดของบริษัทนี้
แต่ก็มีบางจุดที่ต้องปรับปรุงเพราะต้องคิดถึงความปลอดภัยของผู้เข้าพัก”
ไอวี่ยื่นแฟ้มให้คิว
และเมื่ออีกฝ่ายรับไปอ่านคร่าวๆ ก็พยักหน้าให้ทิมนำไปจัดการต่อ
“นายคิดว่าไง”
ไอวี่ประหม่าก็เลยถามความเห็นของคิว
“เลือกได้ดี”
ไอวี่ยิ้มค้าง
เธอไม่คิดว่าความเห็นและการเลือกของเธอจะทำให้ได้เห็นสีหน้าภูมิใจของพี่ระเบียบหน้านิ่ง
“นายครับผมให้คนจัดอาหารกลางวันให้แล้วครับ”
คิวพยักหน้ารับเมืองสิงห์ก่อนจะลุกขึ้นรอไอวี่เก็บของและเดินออกไปด้วยกัน
ระหว่างทางไปห้องอาหารของโรงแรมคิวและไอวี่เป็นที่วางสายตาของพนักงานทุกคนและมองทั้งสองด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
มีหลายคนที่สงสัยในความสัมพันธ์ของคิวและไอวี่ ทั้งอยากรู้อยากเห็น อิจฉา ชื่นชม
หรือแม้แต่โอดครวญเสียดายว่าคิวจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหญิงสาวแสนสวย
ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนกระสิบกระสาบกันเสียงเบาไม่มีทางที่ทั้งสองคนจะได้ยิน
คิวกับไอวี่ทานอาหารกลางวันในห้องอาหารแบบส่วนตัวของโรงแรม
ไอวี่แปลกใจที่บนโต๊ะมีอาหารเพียงสองอย่างเท่านั้น นั่นก็คือต้มยำทะเลกับผัดผักใส่หมูและข้าวสวยของคิวหนึ่งจานส่วนของเธอนั้นเป็นข้าวผัดใส่กุ้งเยอะๆ
เหมือนที่ชอบ
ไอวี่รู้สึกใจเต้นระส่ำ
เธอไม่รู้หรอกว่าทิมจัดการเองหรือใครสั่งของชอบของเธอมาโดยเฉพาะกันแน่ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ดีใจมากอยู่ดีที่ได้นั่งกินอาหารกับคิวสองต่อสอง
หลังจากที่ไอวี่กินข้าวกับคิวเสร็จแล้วก็ไปยังส่วนออฟฟิศเพื่อรอประชุมภายในตอนบ่ายโมงตรง
คิวนั่งจัดการเอกสารอยู่ตรงโต๊ะตัวใหญ่ ส่วนไอวี่นั่งเลื่อนโทรศัพท์ท่องโซเชียลพูดคุยกับกลุ่มเพื่อนแทน
เพื่อนในกลุ่มบอกไอวี่ว่าตอนนี้เธอกำลังเป็นกระแสในเพจ
‘ตามติดหนุ่มหล่อสาวสวยคิงส์ตัน’ เป็นอย่างมาก
อาจเป็นเพราะรูปภาพแอบถ่ายตอนเต้นและรูปคู่ระหว่างเธอกับรุ่นพี่ที่จำชื่อไม่ได้ถูกเผยแพร่ออกไป
“เป็นอะไร”
ไอวี่เงยหน้าขึ้นมองก็เห็นคิวหยุดทำงานแล้วนั่งจ้องเธอแทน
“คุยกับเพื่อนน่ะ
นายทำงานเสร็จแล้วเหรอ”
“ยัง
แต่คิดว่าจะพักเอาไว้ก่อนเพราะมันไม่ได้สำคัญมากนัก”
“ฉันนวดให้เอามั๊ย”
ไอวี่พูดสิ่งที่อยากทำมานานแต่ไม่มีโอกาส
เธอแค่เสนอไปอย่างนั้นล่ะเพราะรู้ว่าคิวไม่ชอบให้ถูกตัวนอกเหนือจากเวลาอยู่ต่อหน้าพนักงานหรือคู่หมั้นของเธอ
แต่พอเห็นสายตาเรียบนิ่งไม่พูดอะไรกลับมาเธอก็ตีไปว่าเขาไม่อนุญาตก็แล้วกัน
“อ่า
ช่างเถอะ”
“อืม”
ไอวี่ยิ้มค้างเพราะไม่คิดว่าจะถูกตัดบทแค่คำว่า
‘อืม’ เพียงแค่คำเดียว
ทว่าเธอกลับต้องใจเต้นแรงกับคำที่อีกฝ่ายพูดเพิ่มขึ้นมา
“ให้เธอนวดให้ก็ดีเหมือนกัน..”
ไอวี่ตัวแข็งไปแล้ว
ภายในหัวเธอมึนงงไปหมดเพราะไม่คิดว่าคิวจะให้เธอจับเนื้อต้องตัวได้ เธอแทบจะขยี้ตาตบหน้าทึ้งหัวตัวเองเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป
แต่สายตาที่มองมาเชิงเร่งนั่นทำให้เธอได้สติลุกขึ้นไปใกล้ๆ
คิวหมุนเก้าอี้มาด้านข้างซึ่งเป็นทางที่เธอยืนอยู่ ไอวี่ยืนนิ่งอยู่กับที่เพียงแค่สิบวินาทีแล้วค่อยเดินไปด้านหลังเพื่อนวดบริเวณไหล่ให้คิว
ไอวี่ลงมือนวดบริเวณไหล่แกร่งที่แข็งตึง
ความจริงเธอไม่ได้มีความรู้ในเรื่องนี้มากนักแต่ก็เคยให้พวกโรซ่ากับลูซี่นวดให้ก็เลยคิดว่าหากนวดแบบนั้นก็คงจะไปได้
ไอวี่ไม่มีความมั่นใจว่าจะทำให้คิวสบายได้จึงไม่ได้ลงน้ำหนักมากนักแต่คิวก็ไม่ได้บ่นหรือพูดอะไรออกมาไอวี่จึงทำต่อไปอย่างตั้งใจ
นวดตรงไหล่ย้ายไปตรงต้นคอและไปแถวบริเวณขมับทั้งสองด้าน
“ดีขึ้นมั๊ย?”
“อืม”
ไอวี่หัวใจพองฟูเพราะคำตอบรับที่คิวพูดออกมามันดูผ่อนคลาย
แสดงว่าเธอนั้นนวดได้ดีและอีกฝ่ายก็พอใจมากด้วย
ไอวี่นวดให้คิวอีกพักหนึ่งก่อนจะหยุดเพราะทิมเข้ามาตามไปเข้าประชุมช่วงบ่าย
แรกเริ่มทิมแนะนำให้ทุกคนในห้องประชุมให้รู้จักกับเจ้าของที่แท้จริงของโรงแรม
ทุกคนไม่ได้มีทีท่าตื่นตกใจเพราะอาจจะเห็นเธอก่อนหน้านี้แล้วก็เป็นได้ หลังจากนั้นก็เป็นประเด็นที่ทุกคนจะต้องพูดในส่วนของตัวเองหรือก็คือรายงานในส่วนของตนกับคิวเสร็จก็ถึงคราวของไอวี่ที่จะต้องพูดบ้าง
การพูดแนวคิดตัวเองให้ทุกคนฟังไม่ได้มีอะไรให้ไอวี่กังวลอย่างที่คิด
ไม่รู้ว่าเพราะเธอมีกำลังใจเต็มเปี่ยมหรือเพราะเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ในห้องทำงานกันแน่ที่ทำให้เธอพูดเกี่ยวกับแนวคิดที่อยากจะปรับปรุงโรงแรมให้ดีขึ้นด้วยความลื่นไหล
และพอเธอพูดจบทุกคนก็ไม่ได้แย้งอะไร ไม่รู้ว่าเห็นด้วยหรือไม่อยากมีปากเสียงกับคนตำแหน่งสูงอย่างเธอกันแน่แต่ไอวี่เห็นว่าทุกคนตั้งใจฟังและจดในส่วนที่อยู่ในส่วนที่ตนเองต้องรับผิดชอบ
หลังจากจบการประชุมไอวี่กับคิวก็กลับบ้านพัก
VIP ตลอดทางไอวี่ยิ้มภูมิใจในตัวเอง เธออารมณ์ดีเสียจนคนที่นั่งข้างๆ
ยังรู้สึกได้ ไอวี่มองคิวที่มองเธอด้วยสายตาที่รำคาญนิดๆ
“ฉันเก่งมั๊ย”
“อืม”
ไม่รู้ว่าคิวตอบรับส่งๆ หรือเขาบอกว่าเธอเก่งกันแน่แต่เธอก็ขอคิดในแง่ดีเอาไว้ก่อนว่าคิวชมเธอแล้วกัน
“ถ้าไม่ใช่เพราะนายฉันต้องทำไม่ได้แน่
ขอบคุณนะคิว”
“...”
คิวพยักหน้าเพียงครั้งเดียวแล้วก็หันไปมองวิวข้างทางแทน
ผ่านไปห้านาทีก็ถึงบ้านพัก
คิวบอกไอวี่ให้แยกย้ายกันไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่เพราะคิวจะพาไอวี่ออกไปข้างนอกอีกครั้ง
(ต่อ)
ไอวี่อาบน้ำเสร็จได้สักพักแล้วแต่ยังไม่ได้แต่งตัวเพราะยังเลือกชุดไม่ได้
อาจเพราะเธอไม่รู้ว่าคิวจะพาไปไหนก็เลยคิดลำบาก นี่ถ้าริต้าบอดี้การ์ดคู่ใจมากับเธอด้วยก็คงดีเพราะริต้ามักจะเป็นคนแนะนำในสิ่งที่เธอไม่มั่นใจ
คอยพูดบอกว่าสไตล์ไหนที่คิวชอบ
ไอวี่ถามทิมเรื่องบอดี้การ์ดส่วนตัวของเธอว่าทำไมไม่มาด้วย
ทิมบอกว่าโรเซ่กับลูซี่นั้นจัดการเรื่องเครื่องแต่งกายของเธอในวันครบรอบบริษัทใหญ่
ส่วนริต้านั้นคิวให้ไปจัดการเรื่องเรียนของเธอ
“อันนี้น่าจะได้อยู่นะ”
ไอวี่มองชุดเดรสแขนยาวสีครีมทอง
ด้านบนเป็นผ้าชีฟองสีครีมจีบคอบัว ปลายแขนระบายพลิ้วน่ารัก ตรงกลางตัวเป็นชุดสีทองเย็บติดกันกับเนื้อผ้าด้านหลัง
ความยาวชุดพอเหมาะพอดีอยู่ที่กลางต้นขา คิวไม่น่าจะมองแรงและไม่น่าจะว่าเธอว่าแต่งตัวโป๊เกินไป
ผ่านไปอีก
20 นาที ไอวี่ก็แต่งตัวแต่งหน้าเสร็จ พอเดินลงมาด้านล่างก็เห็นว่าเป็นทิม
(อีกแล้ว) ที่นั่งรออยู่
“ทิมคิวอยู่ไหน?”
“คุณคิวรอคุณหนูอยู่ที่ท่าเรือครับ”
“ท่าเรือ? ไปทำอะไรที่นั่น”
ไอวี่คิด 108 เหตุผลที่คิวรอเธอที่นั่น
มีหลายอย่างที่ผุดขึ้นมาแต่เธอหยิบแค่ความเป็นไปได้ที่เข้าข้างตัวเองเอาไว้
หรือจะเป็นดินเนอร์บนเรือชมพระอาทิตย์ตกยามเย็น?
อึ๋ย..
ไอวี่ลูบแขนตัวเองพรางทำหน้าหลอน คิวไม่มีทางทำแบบนั้นหรอก คนอย่างเขาเนี่ยนะจะทำ..
ทำจริงด้วย!
ไอวี่มองเหล่าพนักงานโรงแรมที่กำลังยกอาหารขึ้นเรือ..
ไอวี่ตื่นตระหนกเมื่อสบตากับคิวที่ยืนคุยกับเมืองสิงห์อยู่ตรงท่าเรือยอร์ชส่วนตัวของโรงแรม
ดูเหมือนว่าคิวจะมองเห็นเธอแล้วแต่เขาก็แค่สบตาเพียงครู่เดียวแล้วหันกลับไปคุยกับเมืองสิงห์ต่อ
ไอวี่ระส่ำระส่ายทำอะไรไม่ถูกเอาแต่เดินตามหลังทิมไปยังที่คนหน้าดุยืนอยู่ตรงนั้น
ให้ตายสิ! ใจเต้นแรงเป็นบ้า!
“พวกผมจะจัดการให้ครับนาย”
ไอวี่ดึงสติกลับมาก็ตอนที่ทิมและเมืองสิงห์โค้งให้คิวและเธอก่อนจะเดินออกไป
ไอวี่งุนงงเพราะตรงนี้เหลือเพียงแค่เธอกับคิวเท่านั้น พวกพนักงานที่ยกอาหารและของมาไว้บนเรือก็กลับออกไปแล้วเหมือนกัน
“ทิมไม่ได้บอกเหรอว่าให้ใส่ชุดสบายๆ
มา”
“หะ? อ้อบอกสิ”
เป็นความจริงที่ทิมบอกให้ใส่ชุดที่คิดว่าสบายๆ
ไม่ต้องเป็นพิธีการอะไรทั้งสิ้น แต่เธอเองที่ต้องการแต่งตัวสวยๆ ต่อหน้าคิวทุกสถานการณ์ก็เลยหาชุดที่ว่าไม่มากไปไม่น้อยไป
“ทำไมเหรอ
นี่ฉันก็ว่าน้อยและสบายแล้วนะ”
“ส้นสูง?”
คิวเลิกคิ้วขึ้น คล้ายกับว่าจะถามว่าเอาจริงเหรอจะใส่ส้นสูงขึ้นเรือจริงๆ น่ะหรือ
“ก็ฉันไม่รู้นี่ว่านายจะพาขึ้นเรือ”
ไอวี่พูดเสียงเบา
เธอพยายามจับอารมณ์ของคนตัวสูงว่าอยู่ในสภาวะไหน แต่นอกจากจะไม่โกรธเธอแล้วยังยกโทรศัพท์ขึ้นกด
จากนั้นไม่นานทิมก็โผล่มาพร้อมกับรองเท้าแตะแบรนด์เนมคู่หนึ่ง
ไอวี่เปลี่ยนรองเท้าก่อนจะเอาคู่เดิมให้ทิมไป
ส่วนเธอนั้นก็เดินตามคิวขึ้นเรือไป ระหว่างขึ้นเรือคิวยื่นมือออกมาให้เธอเกาะเพื่อที่จะสะดวกต่อการก้าวขึ้น
เพราะถ้าเธอสะดุดหัวคว่ำก็คงจะลำบากเขาอีก
ไอวี่มองมือของตนเองที่ถูกคิวจับกุมเอาไว้
เธอบอกได้เลยว่าตอนนี้หน้าเธอร้อนพอๆ กับดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าเลยทีเดียว
ไอวี่อยากจะตบหน้าตัวเองซ้ำๆ
เพื่อเช็กดูว่าเธอกำลังฝันอยู่รึเปล่า เพราะวันนี้ทั้งวันคิวทำอะไรที่เกินความคาดหมายของเธอไปมาก
ทั้งสายตาเชื่อมั่น คำให้กำลังใจ ไหนจะจำอาหารที่เธอชอบได้ และตอนนี้อีก
เขาทำให้เธอรู้สึกว่ากำลังฝันไปที่คิวพาเธอออกไปดินเนอร์ดูพระอาทิตย์ตก
เรือแล่นออกมาได้สักพักแล้ว
คนขับก็ไม่ใช่ใครก็เป็นคิวเองนั่นล่ะ ไอวี่อยากจะรู้จริงๆ ว่ามีอะไรบ้างที่คิวทำไม่ได้
นี่ถ้าเขาบอกว่าขับเครื่องบินได้เธอก็จะเชื่อเขาจริงๆ แล้วนะ
เรือยอร์ชแล่นออกมาจากชายฝั่งได้เกือบสามสิบนาทีก็ค่อยๆ
ผ่อนแรงลงก่อนจะหยุดนิ่ง คิวเดินออกมาจากห้องควบคุมแล้วเดินมาที่โต๊ะที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ซึ่งไอวี่เองก็นั่งอยู่ตรงนี้เช่นกันยังไม่ได้ออกไปเดินเล่นด้านนอกเรือเพราะกลัวตกน้ำ
“ฉันสั่งเอาไว้แล้วไม่มีอาหารที่เธอแพ้”
“อ้อ..”
ไอวี่ตอบรับได้แค่นี้จริงๆ เพราะสายตาและสมองเอาแต่จดจ้องอยู่กับคนตัวสูง
การแต่งตัวของเขาไม่ว่าจะสไตล์ไหนก็เข้าไปเสียหมด
นี่ขนาดเขาใส่เสื้อฮาวายกางเกงสามส่วนและรองเท้าแตะคีบยังดูเหล่อเลย
“เป็นอะไรไป”
“แค่ไม่อยากเชื่อว่าจะมีวันนี้ด้วย”
“?”
“ฉันเคยคิดว่าจะมีวันแบบนี้กับนายนะแต่พอมันเป็นจริงแล้วแบบไม่อยากจะเชื่อเท่าไร”
ไอวี่เผยรอยยิ้ม
“นึกว่าฝันอยู่ซะอีกแต่มันเป็นเรื่องจริงยืนยันได้จากที่ฉันหยิกตัวเองจนแขนแดง”
“เอาแขนมาดู”
คิวขมวดคิ้วเป็นปมก่อนจะจับแขนของไอวี่ไปดู
“เธอโง่รึไง”
คิวลูบผิวขาวเรียบเนียนเบาๆ
“หยิกแค่ครั้งเดียวก็น่าจะรู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง”
“ก็อยากเช็กหลายๆ
ที แต่ช่างเถอะมันไม่เจ็บเลยสักนิด”
คิวปล่อยแขนไอวี่ก่อนจะส่ายหน้าระอา
“เริ่มกินกันเถอะ”
ไอวี่เริ่มทานอาหารแต่ในใจก็มีความสงสัยเต็มไปหมด
เธอกินไปมองหน้าคิวไป อยากจะถามบางอย่างแต่ก็ไม่กล้า
ประจวบเหมาะกับที่สายตาเข้มดุมองเธอให้ตั้งใจกินข้าวเธอจึงเลิกล้มความคิดไป
“อีกไม่กี่วันก็จะถึงงานวันครบรอบการจัดตั้งบริษัทใหญ่ทำตัวให้ว่างเอาไว้ด้วย”
“ฉันไม่ไป”
ไอวี่พูดเสียงเด็ดขาด ตอนแรกเธอคิดว่าจะแกล้งมีธุระแล้วไม่ไปงานแต่เหมือนคิวจะรู้ทันก็เลยพูดดักเอาไว้ก่อน
“ฉันไม่ไปงานเฮงซวยนั่นแน่นอนและนายก็ห้ามไปด้วย”
“เธอจะไปหรือไม่ไปแต่ฉันก็ต้องไปอยู่ดี”
คิวพูดด้วยท่าทีเรียบนิ่ง ดวงตานั้นไม่แปรเปลี่ยนจากเดิมเลยสักนิด
“เธอไม่ไปฉันก็ต้องไปเป็นตัวแทนของเธออยู่ดี”
“ไม่เอา! ขืนปล่อยนายไปงานคนเดียวก็โดนงาบไปน่ะสิ หมาแมวยิ่งเยอะๆ อยู่”
งานที่ถูกจัดขึ้นในนามตระกูลหงส์ฤดีเกียร์ติกุลมักจะมีคนใหญ่คนโตนักธุรกิจระดับสูงมาร่วมงานเสียส่วนใหญ่
คนพวกนี้มักจะติดต่อเชื้อเชิญคิวอย่างลับๆ เพื่อให้ไปทำงานด้วย
อันนั้นเธอไม่ค่อยหนักใจเพราะรู้ว่าคิวเป็นพวกรู้จักบุญคุณคงจะไม่ยอมไปแน่นอนแต่งานแบบนี้มักจะมีคุณหนูคุณนายที่หมายปองคิวอยู่ด้วยน่ะสิ
“ถ้าฉันไม่ไปนายก็ห้ามไปเด็ดขาด!”
“งั้นก็ตกลงตามนี้ ฉันไปเธอไป หลังกลับจากพัทยาจะให้โรเซ่เอาชุดที่สั่งตัดไปให้ลอง”
ไอวี่นิ่งค้างประมวลผลคำพูดคิวอยู่พักหนึ่ง..
นี่คิวกำลังมัดมือชกเธอเหรอ?
“ถ้านายอยากให้ฉันไปโดยไม่สร้างปัญหาอะไรนายต้องยอมรับข้อตกลงของฉันสามข้อ”
“..ว่ามา”
ดูเหมือนคิวจะลังเลแต่ก็ยอมรับฟังเธอ
“ข้อที่หนึ่ง
ฉันต้องการใส่ชุดคู่กับนายไปงาน”
“...”
“ข้อที่สอง
ในงานนายต้องอยู่กับฉันตลอดเวลา”
“...”
“ข้อที่สาม
ห้ามแจกคอนแทคกับคนอื่น”
ไอวี่พูดจบก็มองหน้าคิวอย่างจริงจัง
ตอนนี้เธอกับเขาย้ายมานั่งด้านนอกเรือที่จัดเอาไว้ให้ดื่มไวน์นั่งชมพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน
แสงไฟสีส้มอ่อนที่ส่องกระทบใบหน้าหล่อเหลาแต่ชอบโคฟเวอร์เป็นต้นไม้เดินได้มองเธอกลับมา
“ตกลง”
“ดีล” ไอวี่ยิ้มระรื่น
“ว่าแต่ฉันขอถามอะไรนายหน่อยได้รึเปล่า”
คิวไม่พูดแต่พยักหน้าให้ก่อนจะยกเตกิล่าขึ้นดื่มเพื่อรอฟัง
“วันนี้ทำไมนายดีกับฉันนัก
นายเหมือนไม่ใช่คิวที่ฉันรู้จักเลยยิ่งมาทำอะไรแบบนี้ด้วยแล้วฉันว่ามันแปลกๆ ดินเนอร์ดูพระอาทิตย์ตกไม่เข้ากับคนแบบนายเลย”
“แล้วไม่ดี?”
“ก็..ก็ดีอยู่หรอกแต่มันก็อดคิดไม่ได้
นายไม่เคยสนใจฉันเลยนี่แล้วนายกลับมาทำแบบนี้แบบปุบปับก็เลยคิดว่าแปลก”
“เธอมีความสุขรึเปล่าล่ะ”
ไอวี่พยักหน้าหัวสั่น
“งั้นก็เลิกฟุ้งซ่าน”
“อ่า..อืม”
ไอวี่เผยรอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มแบบที่ชีวิตนี้ไม่เคยยิ้มมาก่อน รอยยิ้มแบบอิ่มเอิบในใจความสุขล้นปรี่จนแสดงออกมาทางใบหน้า
ไอวี่กำลังสงสัยว่า
ถ้ามันเป็นแบบนี้ทุกๆ วันความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับคิวจะก้าวหน้าไปถึงขั้นไหนกันนะ
“คิว
ฉันอยากรู้ว่า...”
ปังปัง! ปังปัง!
กรี๊ด! / ชิส์!
จังหวะที่ไอวี่ตั้งใจจะถามบางอย่างกับคิวเสียงปืนก็ดังขึ้นเสียก่อน
เธอร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตกใจประจวบเหมาะกับที่ร่างกายเธอถูกคิวคว้าเข้าไปกอดจากนั้นเขาก็หยิบปืนขึ้นมาแล้วยิงตอบโต้
สักพักคิวก็พาเธอหลบห่ากระสุนเข้ามาหลบด้านในเรือแล้วกำลังจะออกไปด้านนอก
“นายจะไปไหน
รออยู่นี่กับฉันเถอะ โทรให้คนมาช่วย..”
ไอวี่สติแตก เพราะถ้าอยู่บนพื้นดินเธอจะไม่กังวลเลยแต่นี่เธอกับคิวอยู่กันบนเรือกลางทะเลที่รอบด้านไม่มีทางหลบหนี แต่สิ่งที่เธอได้กลับมาจากเขาคือสายตาที่มองเธอแบบว่า..
ถามจริง?
ตอนนี้ใครจะช่วยเธอได้นอกจากเขา?
100%
เรฟชุด
เครดิตจากในเน็ตค่ะ TT
เอ๊ะ หวานแล้วเหรอ ยังหรอกตอนหน้าโน่นน
______________
หากเจอคำผิดคำตกหล่น
คำซ้ำคำขาดขออภัยค่ะ
''
""
กดโหวต กดหัวใจ คอมเม้นต์ให้กำลังใจกันบ้างนะคะ
ความคิดเห็น