ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รังเก็บของของจิ้งจอก

    ลำดับตอนที่ #16 : Prakan's side story

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.พ. 59


    ค่ายมวย ส.เอกศาสตรา

            ค่ายมวยแห่งนี้เป็นตึกสามชั้น ชั้นแรกเปิดเป็นค่ายมวย ส่วนชั้นสองและชั้นสามเปิดเป็นที่พักของเจ้าของค่ายและครอบครัว วันนี้ค่ายนี้ก็ยังคงคึกคักดังเช่นทุกวัน เหล่านักมวยตั้งแต่รุ่นเด็กชายไปจนถึงชายวัยกลางคนต่าง ขะมักเขม้นกันอย่างเต็มที่ ใช่ว่าจะมีแต่เพศชาย เพศหญิงก็มีมาฝึกซ้อมเช่นกันเพียงแต่จำนวนไม่มากเท่า แต่จุดเด่นในวันนี้คือบนเวทีมวยที่มีชายหนุ่มร่างโปร่งนัยน์ตาคมดุ ย้อมผมสีทอง และเจาะหางคิ้ว เจาะหู เจาะคาง และเจาะจมูกแลดูเฮ้วและนักเลงเต็มขั้นกับชายหนุ่มที่สูงกว่าชายหน้านักเลงเพียงเล็กน้อย ผู้มีใบหน้าอ่อนโยน ผมสีน้ำตาล เรียกได้ว่าให้ความรู้สึกต่างจากชายคนแรกโดยสิ้นเชิง

    เข้ามาเลย ปาร์ค’ ”ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลแย้มยิ้มท้าทาย อย่าออมมือนะน้องชายดูเหมือนประโยคนี้ทำเอาคนฟังขมวดคิ้วมุ่น และเมื่อขมวดคิ้ว ชายหน้านักเลงก็ดูเหมือนจะพุ่งมาเสยคางคนอื่นได้ทุกเมื่อ

    พี่หมอ นิค ท้าปาร์คเองนะสรรพนามมุ้งมิ้งที่น้อยคนจะได้ยินถูกเอ่ยออกมา ถ้าปาร์คทำพี่หมอร้องไห้ ปาร์คไม่ขอโทษจริงๆด้วยปราการ เอกศาสตรา เชิดหน้าขึ้นด้วยท่าทางที่คิดว่าแมนเต็มที่ เล่นเอาคนที่เป็นพี่ชายอย่าง  กฤตภาส เอกศาสตรา กลั้นยิ้มไว้แทบไม่อยู่ แต่เมื่อเสียงระฆังบอกยกดังขึ้น บรรยากาศก็เคร่งเครียดขึ้นมาทันที ทำเอาคนทั้งค่ายมวยต้องคอยลุ้นไปด้วย

    ฟึ่บปาร์คเป็นคนเปิดฉากด้วยท่า ขุนยักษ์พานาง ก่อน ชายหนุ่มปล่อยหมัดซ้ายตรงไปยังเป้าหมาย ส่วนหมัดขวาก็คุมเสมอคาง แต่นิคแค่เบนตัวหนีเบาๆ หมัดก็พลาดเป้า ทำเอาคนต่อยพลาดเบากัดฟันกรอดอย่างหงุดหงิด ฟึ่บ นิคเป็นฝ่ายโต้ด้วย บาทาลูบพักตร์  คุมเชิงโดยหมัดซ้ายนำ พร้อมทั้งก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้า หมัดขวาตรียมจะชกหน้าฝ่าย ปาร์คจิ๊ปากแบบขัดใจแต่ก็ใช้ท่า ไกรสรข้ามห้วย แก้ลำท่าของอีกฝ่าย โดยก้าวเท้าซ้ายกระโดดหลบปลายเท้าขวาของอีกคนที่ตรงมา โน้มตัวไปทางซ้าย ยืนบนเท้าซ้าย พร้อมกับรีบสอดเท้าขวา ถีบขาหลังอีกฝ่ายบริเวณหัวเข่า….

    แก๊งๆๆๆๆๆเสียงระฆังสั่นรัวทำให้การต่อสู้ชะงักลง สองพี่น้องสะดุ้งเฮือกเมื่อพบว่าผู้ที่สั่นระฆังเมื่อครู่ไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่เป็นแม่ของพวกเขาที่ยืนทำหน้าบึ้งตึงอยู่ ส่วนคนที่ยืนกอดอกอยู่ข้างแม่คือน้องสาวตัวแสบของพวกเขาทั้งสองนั่นเอง… “นิค! ปาร์ค! แม่บอกกี่ครั้งแล้วใช่มั๊ย ว่าอย่าชกกันเองน่ะ! หา!” กรัณฑา เอกศาสตรา  คุณหมอวัยสี่สิบกว่าที่ยังสาวท้าวเอวถลึงตามองลูกชายตัวดีทั้งสอง

    โธ่ แค่กระชับมิตรเองครับแม่ ก็แค่เสาร์อาทิตย์ที่นิคจะได้กลับบ้าน เดี๋ยวต้องไปอยู่หออีกแล้วนิคค้านมารดาเสียงอ่อน พลางยิ้มแว่นกรอบแดงจากกระเป๋าของตนที่วางไว้ข้างเวทีมวย นานๆที จะได้เจอกัน เขาก็พูดคุยแบบลูกผู้ช—โอ๊ย! แม่ นิคเจ็บนะคุณหมอหนุ่มวัยยี่สิบห้าเบ้ปากเมื่อมะเหงกของแม่แลนดิ้งกลางหัว

    หมัดเราเองก็ไม่ใช่เบาๆนะนิค ถึงแม้เราจะควบคุมแรงได้ก็เถอะผู้เป็นแม่กล่าวเสียงอ่อนลง เราไม่ต้องไปทำตาขวางใส่น้องเลยนะ ปาร์ค มานี่..มารับบทลงโทษซะดีๆหันไปเอ็ดหนุ่มวัยยี่สิบสี่ที่กำลังทำตาขวางใส่น้องสาววัยยี่สิบอย่าง กรินฐา เอกศาสตรา

    แม่ ก็ยัย ปิ่น มันทำหน้ากวนตีนปาร์คคนหน้าดุฟ้องคนเป็นแม่ราวกับเด็กๆ โอ๊ย ทำไมเขกตั้งสองทีอ่ะแม่กุมหัวแล้วร้องโอดโอยเพราะโดนมะเหงกแบบดับเบิ้ลคิล(?)

    พูดไม่เพราะต่อหน้าแม่ไงล่ะน้องสาวคนเล็กอย่างปิ่นลอยหน้าลอยตาตอบแทนแม่ เนอะ แม่ นันเนอะซึ่งมารดาเพียงแต่ยิ้มเอ็นดูให้บุตรสาวเท่านั้น

    ปิ่น เดี๋ยวไปช่วยแม่จัดโต๊ะในครัวกันผู้เป็นแม่เอ่ยชักชวนลูกสาวคนเล็ก ปล่อยหนุ่มๆเขาคุยดีๆกันไป

    เมื่อสองแม่ลูกลับสายตาไปแล้ว สองพี่น้องเดินไปหาที่สงบๆปลอดจากสายตาจากคนในค่ายมวยเพื่อรำลึกความหลังให้คุ้มกับที่ไม่เจอกันนาน หลังค่ายมวยมีศาลาเล็กๆ เมื่อนิคทรุดตัวนั่งลงแล้ว ปาร์คไม่รอช้ารีบนอนหนุนตักผู้เป็นพี่อย่างออดอ้อน

    พี่นิคปาร์คโคตรคิดถึงพี่เลยคนอ่อนกว่าเอ่ยเสียงเล็กเสียงน้อยอย่างต้องการจะอ้อนคนแก่กว่า ดวงตาคมดุกระพริบปริบๆมองดวงตาอ่อนโยนของนิค เห็นหน้าพี่แล้วคิดถึงวันเก่าๆ เนอะ..”

    นั่นสินะนิคตอบเพียงเท่านั้น แต่มือเรียวก็ลูบกลุ่มผมนุ่มสีทองสว่างของคนนอนตักไปเรื่อยๆจากวันนั้น..ผ่านมานานแล้วนะ..”คุณหมอหนุ่มมองออกไปไกล จากนั้นสองพี่น้องก็ปล่อยให้ความเงียบเข้าครอบคลุมพร้อมจมสู่ห้วงอดีตที่ตนต่างนึกถึง..

    สิบปีที่แล้ว..โรงเรียนอุดมนิสิต

         ในห้องน้ำชายชั้นสองที่ร้างผู้คนเพราะเย็นย่ำมากแล้ว เด็กชายวัยสิบสี่ร่างเล็กนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นรอบกายเขามีเด็กชายตัวโตกว่าสี่ห้าคนล้อมไว้

    ฮึก..ปล่อยปาร์คไปเถอะ ปาร์คอยากกลับบ้านเด็กชายตัวน้อยสะอื้นฮักๆ หวังว่าจะมีใครซักคนมาช่วยเขาออกไปจากคนน่ากลัวพวกนี้ซักที ปาร์คไม่ใช่ผู้หญิง ปาร์คทำแบบนั้นไม่ได้หรอก..ฮึก ปาร์คเป็นผู้ชาย

    ผู้ชายบ้าอะไรหน้าตายังกะผู้หญิง เป็นตุ๊ดสิไม่ว่าเด็กชายร่างใหญ่ที่ดูจะเป็นหัวโจกเอ่ยด้วยน้ำเสียงดูแคลน เป็นตุ๊ดก็ทำแบบที่ผู้หญิงทำได้ เฮ้ย! กดมันไว้!”หันไปพยักเพยิดกับลูกน้องอีกสองคน ซึ่งกุลีกุจอมาผลักเด็กชายร่างเล็กนอนราบไปกับพื้นทันที พร้อมกับกดร่างไว้ไม่เห็นกระดุกกระดิก

    ฮือออ ปล่อยนะ พี่นิคช่วยปาร์คด้วยร้องอย่างขวัญเสียเมื่อกระดุมนักเรียนของตนถูกปลดทีละเม็ด พี่นิค ปาร์คกลัว พี่นิค!!”เร่งระดับเสียงจนสุดเมื่อนักเรียนชายร่างใหญ่ทาบทับลงมา

    หุบปาก! นี่มึ.งนึกว่าพี่มึ.งจะมาช่วยได้ทันหรือไง..”นักเรียนหัวโจกตะคอก ยอมซะด---ปั่ก!”ร่างใหญ่โงเงนและฟุ่บลงเพราะถูกใช้สันมือสับลงที่ท้ายทอย ต่อด้วยจัดการสองคนที่กดร่างปาร์คกับพื้นจนสลบเหมือด  ร่างที่ปรากฏคือเด็กหนุ่มวัยสิบห้าผู้ใส่แว่นกรอบแดง ผู้ล้มเด็กชายทั้งหมดสี่ห้าคนด้วยตัวคนเดียว และดูเหมือนจะมีคนนึงแขนหักด้วย!

    ไม่เป็นไรนะ..พี่มาแล้วนะปาร์ค ปาร์คปลอดภัยแล้วนิคโผเข้ากอดร่างของน้องชายที่สั่นระริก ถ้าเขาไม่เอะใจถามเพื่อนร่วมห้องของคนตัวเล็กดู เขาคงไม่รู้ว่าน้องชายถูกลากมาที่ห้องน้ำนี้ และปาร์คคงโดนพวกนั้นทำอะไรระยำๆไปแล้ว..เด็กชายวัยสิบห้ากัดฟันกรอด อดนึกโทษตัวเองไม่ได้ ปาร์คต้องเข้มแข็งนะ..”

    ฮึก ปาร์คจะเข้มแข็ง..”เด็กชายวัยสิบสี่ซุกหน้ากับไหล่พี่ชาย ปาร์คจะเข้มแข็งเหมือนพี่นิค..”

    สองปีต่อมา

        “เฮ้ย! กระทืบแม่.!”เสียงทุ้มห้าวตะโกนประกาศศักดา ปาร์คกลายเป็นเด็กหนุ่มวัยสิบหกและเริ่มเป็นเด็กเกเร ย้อมสีผม เจาะหู ลิ้น จมูก คิ้ว แบบแบดบอยทำกัน ลองสูบบุหรี่และกินเหล้า ไต่เต้าจากลูกกระจ็อกของแก๊งเล็กๆ มาตั้งแก๊งนักเลงของตัวเอง และเขาก็ติดอันดับท็อปเทนคนในอุดมนิสิตที่เข้าห้องปกครองบ่อยที่สุด อย่าออมแรง จัดไปเว้ย!”หัวหน้าแก๊งหนุ่มกระโจนเข้าวงไปตะลุมบอนกับคู่อริหลังจากยืนห้าวเป็นกำลังใจให้เหล่าลูกน้องแล้ว..

    ห้องปกครอง

           “มาสาย สิบครั้ง ก่อเรื่องทะเลาะวิวาท ยี่สิบแปดครั้ง แหกกฎการห้ามย้อมสีผม การแต่งกาย และการเจาะตามร่างกาย พร้อมด้วยการหนีคาบเรียนอีกครูวัยกลางคนไล่อ่านทีละข้อมีอะไรจะแก้ตัวมั๊ยนายปราการ?”

    ได้เกรดสี่จุดศูนย์ศูนย์ทุกเทอม นำชมรมมวยไทยคว้าแชมป์มวยไทยเยาวชนสี่สมัย  สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียน ปราการยักคิ้วกวนๆ ลุงไม่เห็นจะพูดเรื่องนี้เลย ปาร์คทำเรื่องดีๆตั้งเยอะครูหัวหน้าฝ่ายปกครองผู้มีศักดิ์เป็นลุงส่ายหน้าอย่างระอา

    นั่นมันก็จริงอยู่..”คนอาวุโสกว่ายอมรับอย่างเสียไม่ได้ แต่คนอื่นจะมองปาร์คไม่ดีนะรู้ตัวมั๊ย? ถึงแม้ปาร์คจะได้รับการอนุโลมเล็กๆน้อยๆ แต่ปาร์คก็ต้องอยู่ในกฏระเบียบบ้างนะเอ่ยตักเตือนด้วยความหวังดีและสรรพนามที่เป็นกันเอง

    คนอื่นจะคิดว่าปาร์คเลวยังไงก็ช่างหัวแม่.คนตาดุต้องรีบสงบคำผรุสวาทเมื่อเห็นสายตาของผู้เป็นลุง ปาร์คจะทำตามอย่างที่ลุงว่าก็ได้ครับ..ปาร์คเป็นเด็กดีว่าง่ายแถมหล่อด้วย..”ไหวไหล่อย่างยอตัวเอง

    ห้าปีถัดมา

         ปราการตอนนี้เป็นหนุ่มมหาลัยวัยยี่สิบเอ็ดแล้ว แต่เนื่องจากการโดนรุมทำร้ายจนเขาต้องเข้าห้องไอซียูเป็นสัปดาห์ ทำให้เขาเห็นพ่อและแม่ร้องไห้เป็นครั้งแรก เห็นพี่ชายอย่างนิคโกรธจัดจนจะตามไปเล่นงานพวกที่ทำร้ายเขา เห็นน้องสาวที่เคยสดใสอย่างปิ่นซึมเศร้าและฝันร้ายว่าเขาจะตาย ปาร์คเลยคิดว่า..เขาควรจะพอ เพราะแม่ได้ขอร้องไว้ด้วยแหละนะ..ชายหนุ่มอัดควันบุหรี่เข้าปอดเฮือกสุดท้าย ก่อนทิ้งลงพื้นและใช้ส้นรองเท้าขยี้ก้นกรอง

    พวกมึง กูมีอะไรจะบอกปราการกวาดสายตามองลูกน้องทุกคน ถึงแม้แก๊งของเราจะสลายไป แต่ไม่ใช่ทางพวกมึงจะจบสิ้นลง พวกมึงยังมีอนาคต ยังมีหวัง ไอ้ต้นอยากเป็นวิดวะ ส่วนไอ้เก่งอยากเป็นเชฟ และอีกหลายๆคนที่มีอาชีพที่ฝันไว้..กูก็เช่นกัน ถึงเวลาที่พวกมึงจะเดินไปตามเส้นทางอื่นแล้วว่ะประโยคนี้เรียกน้ำตาของลูกผู้ชายในแก๊งได้อย่างดี รวมถึงหัวหน้าแก๊งที่หันหลังให้ทุกคนเพื่อป้องกันไม่ให้ใครเห็นน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม สำหรับแก๊งนี้มันมากกว่านักเลง..มันเหมือนครอบครัว

    ปัจจุบัน..

         “ฮั่นแหน่ มาแอบสวีทหวานกันอยู่นี่เองเสียงสดใสร่าเริงดึงทั้งคู่ออกมาจากห้วงอดีต กับข้าวเตรียมเสร็จแล้วจ้า! ”ปิ่นกล่าวแล้วตบท้ายด้วยรอยยิ้มกว้าง ถ้าใครมาเห็นสาวร่างเล็ก ใบหน้าประดับดูรอยยิ้มร่าเริงตลอดเวลาคงไม่เชื่อแน่ว่าเธอเคยเป็นแชมป์มวยหญิงเยาวชนเจ็ดปีซ้อน..

    สวีทบ้าอะไรเล่าปาร์คผุดลุกขึ้นยืนทันที ใบหน้านักเลงยามแดงระเรื่อเพราะความเขินดูน่ารักน่าแกล้งไม่เบา แค่มาคิดถึงความหลัง..เนอะพี่นิคเนอะไม่วายจะหันไปทำตาขวางใส่นิคให้ช่วยตนพูดแก้ตัวบ้าง

    ก็อย่างที่ปาร์คพูดนั่นแหละยัยตัวแสบนิคอมยิ้มขำกริยาของน้องชาย อ้าว พ่อ สวัสดีครับ เอ่ยทักทายชายกลางคนร่างกำยำเหมือนคนออกกำลังกายทั่วไปที่เดินเข้ามา ป้อมยุทธ์ เอกศาสตรา รับไหว้ลูกชายคนโต

    แม่พวกแกให้มาตามอีกแรง เพราะถ้าให้ยัยลูกหมาตัวเปี๊ยกมาตามคงคุยกันเพลินแน่ป้อมยุทธ์กล่าวพลางส่ายหน้า ไปได้แล้วไป๊ ไอ้ลูกหมาพวกนี้นี่ จะได้กินข้าวแบบพร้อมหน้าพร้อมตาหน่อย..เอ้า ยังยืนอยู่อีก เดี๋ยวหลังแหวนเลยง้างมือขู่ลูกๆทั้งสามที่ยังไม่ขยับ เมื่อสิ้นคำขู่ทั้งสามก็รีบวิ่งปรู๊ดเข้าบ้านไปทันที ป้อมยุทธ์ลดมือลงและอมยิ้มมองตามแผ่นหลังลูกๆทั้งสามไปและครอบครัวเอกศาสตราก็ยังเต็มไปด้วยความอบอุ่นเหมือนทุกวัน

                                                        

                     น้องปาร์ค (14 ขวบ)                                                                                         พี่ปาร์ค( 24 ขวบ(?))

                                                                     


         น้องนิค(15 ขวบ)                                                                                                                           พี่นิค (25 ขวบ(?))


     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×