ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SHinee JONGKEY INNOCENT XX รักร้ายคุณชายตัวเเสบ18+ part I

    ลำดับตอนที่ #15 : CHAPTER 12 INNOCENT ( ผู้ชายสองคนกับหัวใจหนึ่งดวง )

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ย. 54


    CHAPTER   12   INNOCENT    ( ผู้ชายสองคนกับหัวใจหนึ่งดวง  )

     

    ฉันเอื้อมไปจับมือคุณจงฮยอน โผล่เข้ากอดเขาไว้หลวมๆ  คำพูดเธอเมื่อสักครู่  อาจฟังดูผิว

    เผินไม่มีอะไร  แต่ลึกๆแล้วมันช่างเป็นคำพูดที่แสนจะร้ายกาจยิ่งนัก        

     

     

    แปลกนะที่ผมเข้าข้างคุณ 

     

     

     “…..”    

     

     

     

    ไม่เป็นไร   ไม่เป็นไรนะฮะเจ้านาย       ฉันผละตัวออกห่าง    ยิ้มให้ใบหน้าเศร้าหมอง

    ของเขา 

     

     

     

      ถ้าไม่ได้เห็นรอยยิ้มน่ารักๆ นี่  ฉันคงจะบ้าตายแน่ๆ  ขอบคุณนะ..ขอบคุณมากๆ      

    เขาเอ่ยทั้งๆที่น้ำตาคลอเบ้า  ฉันพูดอะไรไม่ออกก่อนจะยิ้มและเช็ดน้ำตาให้กับเขา       

     

     

       หลังจากอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน    ฉันจึงนั่งแหงนมองท้องฟ้าสวยงามในยามค่ำคืน ที่ไม่แพ้

    กับภาพวาดสีน้ำมันที่ประดับไว้อยู่ในห้องนอนห้องนี้มาตั้งแต่หัวค่ำ     คิดๆอยู่ว่า จะเริ่มหาพินัย

    กรรมนั่นที่ไหนก่อนดี       

     

     

    ก๊อกๆ   ก๊อกๆ…”    

     

       ดึกดื่นปานนี้แล้วยังจะเรียกใช้กันอีกหรือ ..   ฉันหันหน้าไปทางประตูอย่างหัวเสีย  ลุกจากที่

    นอนเดินไปเปิดประตูทันที    

     

     

      หวัดดีฮึก~ ”    คุณจงฮยอนยืนโบกไม้โบกมือให้ฉันอยู่หน้าห้อง  มืออีกข้างพยุงขอบ

    ประตู   ทำท่าว่าจะล้มลงเสียเเละดวงตาคู่สวยแทบจะปิดลงมาอยู่รอมร่อ 

     

     

      นี่คุณดื่มอีกแล้วเหรอ     ฉันเอามือปิดจมูก กลิ่นไวน์ซึ่งผสมกับกลิ่นกายของเขา ทำเอาฉัน

    เกือบคลื่นไส้ไปพร้อมๆกัน  เมื่อฉันจัดการปิดประตูพยุงเขาเข้ามานั่งข้างในห้อง   คุณจงฮยอน

    ก็ยังพูดไม่หยุดปาก

     

     

    รู้มั้ยว่าฮึก   คนเราต้องร้องไห้เสียใจ..กี่ครั้ง…”

     

     

     

    ฉันไม่รู้หรอก ...นี่! ฉันคิดว่าคุณจะนอนแล้วซะอีก  คุณนี่ใช้ไม่ได้เลยนะคุณจงฮยอน 

     

     

     

     ฉันเเค่ดื่มไปสองสามเเก้วเองไม่ถึงกับเมาหรอก  "

     

     

    "  รอก่อนนะฉันจะไปชงชาน้ำผึ้งมาให้  "    พูดจบ   ฉันก็รีบลงไปชงชาน้ำผื้งมาให้เขาทันที  

    พอกลับขึ้นมาฉันก็เห็นเขานั่งบนปลายเตียง    สายตาทอดมองที่ไหนสักเเห่ง เเล้วเลื่อนหยุดอยู่

    ตรงกรอบรูปภาพบนหัวนอนของฉัน

     

     

    " ทั้งพ่อเเม่เเละพี่ชายเธอ  ช่างเป็นครอบครัวที่อบอุ่นจังเลยนะว่ามั้ย  "   เขาเอ่ย พลางเดินไปหยิบ

    กรอบรูปไม้มาดูใกล้  เเล้วยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน   ก้าวเท้าลงจากเตียง คว้าแก้วชาน้ำผึ้งไปดื่ม

    หมุนตัวกลับไปนั่งที่เดิม

     

     

    " เด็กผู้หญิงคนนี้เเหละที่ฉันนึกถึงเสมอ    ยัยแม่มดน้อยที่ชอบตามฉันเหมือนเงา  ไม่ว่าฉันจะดุด่า

    ไล่เธอยังไง   ยัยแม่มดน้อยของฉันก็ไม่ร้องไห้สักกะเเอะ  "   ฉันทรุดตัวลงไปนั่งข้างๆ   น้ำตาเจ้า

    กรรมไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว  นั่นเป็นเพราะ 

     

     

    ฉันอยากที่จะ   อยู่ข้างๆคุณไม่รู้เหรอ ..

     

     

    " เธอรู้มั้ยว่า เราน่ะควรร้องไห้ครั้งแรกตอนเกิดครั้งที่สองแฟนทิ้ง  ครั้งที่สามพ่อตายและครั้ง

    สุดท้ายแม่ที่ให้กำเนิด   รวมทั้งหมดก็คือสี่ครั้ง       

     

     

    คนที่แสนจะเย็นชาและชอบบงการคนอื่น  สำหรับคุณแล้วทั้งหมดมันกี่ครั้งกันล่ะ  ฮือ  

     

     

     

    มันมากกว่านั้น   มากกว่าที่เธอคงคาดไม่ถึงแน่ ”

     

     

     

    “ เล่าให้ฉันฟังนะ  ได้โปรดเล่าให้ฉันฟัง ”

     

     

     

      หลังจากที่แม่เลิกกับพ่อไม่นาน  แม่ฉันก็ตายอย่างโดดเดี่ยว    ฉันจึงกลายเป็นไอ้เด็กขอทาน

    ข้างถนน อยู่อย่างอดๆอยากๆ  โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าฉันอยู่ที่ไหน   ต้องถูกไอ้พวกบ้าซ้อมไม่รู้ตั้งกี่

    ครั้ง   สภาพเนื้อตัวมีแต่รอยแผลเป็นสกปรกๆที่ใครๆเขาก็รังเกียจ  7 ปี  เธอคิดว่าฉันจะต้อง

    ร้องไห้อย่างน้อยกี่ครั้งล่ะ    ฉันส่ายหน้าเป็นคำตอบ  ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน สรุปที่เขาหายไปก็

    เป็นเพราะเหตุนี้งั้นเหรอ ช่วงระยะเวลา  7 ปีที่เหลืออันน่าเศร้า 

     

     

    “ ใครที่เป็นคนพาคุณกลับมา คุณตาหรือว่าพ่อของคุณ ” 

     

     

     

    " คนที่พาฉันกลับมาก็คือยายของเธอไง  พอฉัน14 พ่อก็รู้ว่าฉันอยู่กับยายเธอ  ท่านจึงรีบมารับฉัน

    กลับ  ชีวิตฉันมันน่าสมเพศมาตั้งเเต่ไหนเเต่ไรเเล้ว   เเค่เห็นรอยยิ้มของเธอ  ฉันก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจ

    อย่างบอกไม่ถูก   ถ้าเธอยิ้มให้กับคนอื่นหรือว่าเชวมินโฮ  บางทีฉันอาจจะทวงสัญญาของฉันอีก

    ก็ได้ "

     

     

    " คุณนี่มันจริงๆเลยนะ .."     เขายิ้มหวานในขณะที่ฉันเอื้อมมือกำลังจะผลักหัวไหล่     ภายใต้ดวง

    ตากลมโตสีน้ำตาลขลับคู่นั่นก่อกวนจิตใจฉันไปชั่วขณะ   ฉันเถิบตัวเองออกห่างจากเขาเล็กน้อย 

    คุณจงฮยอนรั้งท้ายทอยดึงฉันเข้าไปใกล้ ๆ   โน้มตัวลงมามือข้างหนึ่งกดหัวไหล่ไม่ให้ฉันขยับ 

    แล้ว ริมฝีปากเขาจึงประกบลงบนริมฝีปากฉัน           

     

     

       อืมม..  ฮะ   ร่างกายฉันแทบตอบสนองเขาในทันที   คุณจงฮยอนจัดการปลดกระดุมฉันทีละเม็ด  

    ขณะริมฝีปากจูบฉันอย่างนุ่มนวล   เขาจัดการถอดชุดนอนฉันออกเสียเกือบหมด  เหลือเพียงเสื้อชั้นใน

    ลูกไม้และชั้นในผืนเล็กจิ๋ว 

     

     

     พรุ่งนี้ฉันมีเรียนนะ ”  ฉันจับมือเขาไว้ซึ่งสอดเข้ามาในชั้นในของฉัน  พอรู้ว่าตารางเรียนเริ่มเก้าโมงเช้า   

    คุณจงฮยอนถึงกับหยุดชะงัก หรี่ตาลงพลางถอนหายใจด้วยความขุ่นเคือง      

     

     

     

      ฉันรู้แล้วน่า  ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเถอะ ”   ร่างกายเปล่าเปลือยช่วงท่อนบนของเขา  เล่นเอาฉันรู้สึกชา

    วาบไปทั้งตัว    ฉันมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้นได้ไม่นาน   หัวใจเต้นระรัวและไม่กล้าสบตา  ไม่นานใจ

    ฉันแทบจะหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม   กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด      

     

     

    ไม่นะ อ๊ะ อือ  ฮะ ..อ๊าา.. ”   ฉันหลับตาลงบิดกายไปมาเพราะสัมผัสอันแสนจะร้อนเร่าของเขา  ยามที่

    ข้อนิ้วกดลึกขยับเข้าออกช้าๆ   

     

     

     

      คุณไปรู้เรื่องพวกนี้จากไหนกัน  อือร้ายนักนะ~ 

     

     

     

    “ ชอบล่ะสิฮือ   รู้สึกดีมั้ย…. ฉันน่ะรู้สึกดีกับเธอที่สุดเลยนะ ” 

     

     

     

    “ หมาย..ความว่าไง ”

     

     

     

    “ ฉันเคยนอนกับผู้หญิงยี่สิบครั้ง แต่ไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้มาก่อนเลย ”   ฉันแอบโกรธเขานิดๆ  ยี่สิบครั้งO_O

    งั้นก็ยี่สิบคนน่ะสิ 

     

     

     

    “ ฉันจะฆะอือ~   ฉันจะด่าว่าเขา  ทว่าลมหายใจอุ่นๆเป่ารดบริเวณซอกคอ ทำให้สติฉันค่อยๆลอยไป

    ไกลทุกที   ไม่นานริมฝีปากขบไล้ต่ำลงมายังเนินอก  มืออีกข้างบีบคลึงความอวบอิ่ม ก่อนเลื่อนไปปลดตะขอ

    จนเสื้อชั้นในหลุดติดมือ  

     

     

     

    คุณจงฮยอน ~  อ๊า.. อืออ๊ะๆ ”  ยามนี้ร่างกายฉันบิดเกร็ง ภายใต้แรงปรารถนาที่ฉันไม่อาจปฎิเสธ

     ลมหายใจวาดผ่านลงมายังท้องน้อย  ไม่ทันไรเขาก็ระรัวปลายลิ้น ดูดดึงความหวานไปจากตัวฉัน  

    มันกำลังปลุกทุกส่วนให้เต่งตึงพร้อมกับข้อนิ้วทั้งสองเข้ามาอยู่ในตัวฉัน   ขยับขึ้นๆลงๆเป็นจังหวะ

    ด้วยความเร็วที่เพิ่มเป็นสองเท่า 

      

     

    “ อ๊ะ..อือ อ๊ะ  อาา   สุดยอดไปเลย~  เสียงลมหายใจถี่กระชั้น สลับกับเสียงคำรามภายในลำคอ

    ของเขา   


     

     

    “ อ๊ะ อ๊ะ  อ๊ะ  ฉันปรือตาเงยหน้ามองเขาอย่างยากลำบาก  ใบหน้าแดงกร่ำ  มือไม้สั่นหาที่จับเอาไว้ไม่ได้   

    ถึงจะไม่ใช่ครั้งแรกก็เถอะ  แต่ทุกๆครั้งมันมักจะเจ็บแบบนี้อยู่เสมอเลย   ช่างเป็นสัมผัสที่แสนจะเนินนาน

    และเร่าร้อนดีจริงๆเลย  -.,-

     

     

    “ อือ.. ฉันไม่ไหวแล้วนะ  อ๊ะ..อ้าาา.. อื้อ~ อืมมม     เขาประกบริมฝีปากฉัน  เพื่อกลบเสียงครวญ

    ครางของเราทั้งคู่ แต่สิ่งที่อยู่ภายในนั้นจากบทรัก  เมื่อเขาแรงจังหวะให้เร็วขึ้น   มันร้อนระอุดั่งเปลว

    เพลิงปรารถนาที่ฉันจะกระอักเพราะสัมผัสเขาเสียให้ได้   สัมผัสที่ฉันหลงใหลมากที่สุด  หากเขายืด

    เวลาออกไป  ฉันคงต้องกักตัวเขาเอาไว้  โดยไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่ายๆเด็ดขาด    

     

     

     

     

        เช้าวันรุ่งขึ้นสภาพของฉันไม่ต่างจากผีดิบ เดินกะเผลกตามหลังจุงกูเข้าห้องเรียนมา   เพราะความละโมบของ

    คุณจงฮยอนฉันจึงมีสภาพทุเรศตาเช่นนี้    จุงกูเหลือบมองฉันเล็กน้อย วางชีทรายวิชายื่นให้ฉันบนโต๊ะ 

     

    “ เฮ้เพื่อน….วันนี้หน้าใสนะไปทำอะไรมา ” 

     

     

     

    “ ไม่ได้ทำอะไรสักน้อยชีทนี่แกถ่ายให้ฉันใช่มั้ย เท่าไรอะ ”   ฉันเปลี่ยนเรื่อง  หยิบเหรียญสองร้อย

    วอนให้ทันที 

     

     

     

      เอ่อ พอดีเลย ”    จุงกูหยิบเหรียญใส่กระเป๋า หันหน้าไปทางกระดานไวท์บอร์ด   จุงกูนี่ยอดเยี่ยมสุดๆ

    ไปเลย  ไม่ขี้สงสัยเหมือนใครบางคน  เอาละคราวนี้ฉันจะเรียนได้อย่างสบายใจสักที  ^ ^

     

     

    “ คีย์บอมฉันจะไปเล่นดนตรีแถวฮงแดนะ   นายสนใจจะไปด้วยมั้ย ”   

     

     

     

     ฮงแดเหรอฉันไปไม่ได้อะ..

     

     

      จุงกู เร็วๆ หน่อยสิ ”    เสียงนั้นดังมาจากข้างหลังจุงกุ  เป็นเสียงของผู้หญิง  เธอคนนั้นมีใบหน้า

    ที่งดงาม  ดวงตากลมโตราวกับหยกชั้นดี  แฟนเหรอ    

     

     

     

    “ นั่นพี่สาวฉันน่ะ   เธอสวยระเบิดไปเลยใช่มะ  เธอชื่อยุนอา   ไว้ฉันจะแนะนำเธอ   เจอกันพรุ่งนี้นะ 

    พี่สาวรอผมด้วย       จุงกูวิ่งไปหาเธออย่างไม่รอช้า  เธอคนนั้นหรี่ตามองฉันสลับกับจุงกูแปลกๆ 

    ญาติห่างๆเหรอฉันว่าไม่ใช่นะ

     

     

    “ จุนฉันอยากนายช่วยสืบเรื่องนี้โดยด่วน  ก่อนที่ท่านผู้อาวุโสจะขายหุ้นในบริษัททั้งหมดออกไป 

    นายได้เรื่องเมื่อไร   โทรบอกฉันแล้วกัน ”    เลิกเรียนฉันก็รีบมาหาเขาที่นี่ทันที   พนักงานซึ่งเคย

    ทำงานอยู่ทางด้านนอกหายไปเกือบครึ่งหลังจากที่บริษัทเกิดวิกฤต   

     

     

    “ เย็นนี้ ไปหาอะไรกินกันมั้ย ”    ฉันพูดไปได้ไม่เท่าไร  เสียงโทรศัพท์จึงดังขึ้นอยู่ในกระเป๋ากางเกง 

    ฉันกะจะไม่รับสุดท้ายก็ตัดสินใจลุกออกมารับโทรศัพท์   เลี้ยวเข้าไปยังบันไดหนีไฟทางซ้ายมือ   

     

     

    “ ฮัลโหล ”

     

     

     

    ตอนนี้ฉันอยู่ฮันกุก  เลิกเรียนหรือยัง ฉันเดินเข้ามาแล้วเนี่ย นายอยู่ไหนล่ะ 

     

     

     

    “ คุณคงจะไปรับผมที่นั่นสินะ  ขอโทษนะฮะ พอดีว่าตอนนี้ผมอยู่ที่ ซองวอน ” 

     

     

     

    นายไปทำอะไรที่นั่น  ฉันเข้าใจแล้ว    ออกมาข้างนอกสักแปปหนึ่งได้มั้ย ” 

     

     

     

      ทำไมฮะ ”  

     

     

     

      มาเจอฉันที่สตาร์บัคส์แถวกังนัมนะ ตู้ด  ตู้ด ตู้ด  แล้วเขาก็วางสายไปเรียบร้อย  ฉันทำอะไรไม่ถูก

    มือข้างหนึ่งกำโทรศัพท์ อีกมือกัดนิ้วโป้ง   ไม่รู้ว่าเขามีธุระอะไรกับฉันนะ   ชักจะทำตัวประหลาดๆ  

    แต่ยังไงก็ไม่มีความจำเป็นที่ฉันจะต้องออกไปหาเขานี่นา….    

     

     

    “ ขอฉันทำงานเสร็จก่อนนะ  แล้วค่อยไปหาอะไรกิน ”  คุณจงฮยอนลุกขึ้น   ตั้งหน้าตั้งตาจัดเอกสารบนโต๊ะให้เป็นระเบียบ    อีกไม่กีนาทีข้างหน้านี่แล้วนะ    งั้นส่งข้อความไปบอกแล้วกัน    ฉันคว้าโทรศัพท์พิมพ์ข้อความฉับ ๆ   ขอโทษนะฮะงานผมยุ่งจริงๆ  ต้องขอโทษด้วย   ทีนี้จัดการส่งมันซะ  ^_^

     

     

      ส่งข้อความหาใคร   พี่เธอเหรอ    

     

     

     

    “ ไม่ใช่นะ!    

     

     

     

    “ แล้วถ้าไม่ใช่จะเป็นอะไรไปได้ล่ะ ”   ยังอุตสาห์เห็นอีก     =_=

     

     

     

      ฉันไม่อยากเถียงกับคุณแล้วนะ  รีบๆทำงานให้เสร็จเถอะ  รู้มั้ยว่าท้องไส้ฉันดังโครกครากจะแย่อยู่แล้ว ” 

     

     

     

      รู้แล้วน่า!     เขายิ้มสดใสทั้งๆที่ในใจเขาย่ำแย่ยิ่งกว่าฉัน   ไม่ถึงสิบนาที เขาก็พาฉันออกมาหาข้าวเย็นกิน

    หม้อรามฮยอนร้อนๆส่งกลิ่นหอมอบอวลอยู่ตรงหน้าฉันและเขา   หลายวันมานี้ช่างผ่านไปเร็วมาก   อีกหนึ่งอาทิตย์กับอีกสองวันก็จะถึงวันเกิดฉันแล้ว   ฉันจะไม่บอกเรื่องวันเกิดของฉันกับเขา   เพราะสถานการณ์ตอนนี้  ล้วนแล้วแต่น่าอึดอัดใจทั้งสิ้น 

     

     

    “ เจ้านายฮะ  คุณจะไปเยี่ยมคุณตาของคุณเมื่อไหร่ ” 

     

     

     

      ไม่รู้สิ  ก็คงจะเร็วๆนี้แหละ  

     

     

     

    “ ผมพอจะช่วยคุณได้บ้างมั้ย    

     

     

    “ อย่าเลยมันเสี่ยงมาก  ให้เจ้าจองชินจัดการเถอะ   เจ้านั่นรอบคอบกว่านายเยอะเลย  ถ้านายอยากช่วยฉันจริงๆล่ะก็    เขาหยุดพูดโน้มริมฝีปากเข้าใกล้ใบหู   แล้วกระซิบคำๆนั้น ช่วยทำให้ฉันมีความสุขตอนนอนบนเตียง..กับเธอก็พอ    ว่าไงนะ! ฉันถึงกลับมานั่งหลังตรงในท่าเดิม   ถลึงตามองเขาด้วยความขุ่นเคือง 

     

     

      ไปตายซะ ”   เขาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ใบหน้าเผยเห็นลักยิ้มน้อยๆ ขณะคีบเส้นบะหมี่จากหม้อใส่ในถ้วย ช่วงเวลาแห่งความสุขมันช่างผ่านไปเเล้วจริงๆ  มันจะเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างเราหรือเปล่า   ฉันได้แต่กลัวว่าวันนั้นจะมาถึงในไม่ช้า     

     

     

     ฉันจะจัดงานแต่งงานให้แกกับหนูซอฮยอน   

     

     

     

    “ เอ่อคุณลุงคะ   พี่คะฉันไม่ได้      

     

     

     

    “ ยังไงผมก็ไม่มีทางแต่งงานกับซอฮยอน 

     

      

     

    “ แกกล้าพูดแบบนี้ได้ยังไงกัน   

     

     

     

     “ เพราะผมไม่ได้รักเธอ   

     

     

     

     เวลานี้แกจะปล่อยให้บริษัทต้องปิดกิจการไปเฉยๆโดยไม่ที่ไม่ทำอะไรเลยอย่างงั้นใช่มั้ย    แกยังสติดีอยู่หรือเปล่า   ฉันทำเพื่อแกนะจงฮยอน   ฉันต้องทิ้งงานที่นั่นมาที่นี่ก็เพราะแก  

     

     

    “ ทำเพื่อผมเหรอ   ผมคิดว่าคุณทำเพื่อตัวคุณเองซะอีก  หย่ากับเธอซะ  ถ้าคุณหย่า ผมจะยอมทำทุกอย่างและ….ยอมเรียกคุณว่าพ่อ ”   ฉันยืนแข็งทื่ออยู่ทางด้านนอก    หัวใจของฉันถูกแช่แข็งไปเพราะคำพูดของเขา   ถ้าท่านประธานปาร์คหย่า คุณจงฮยอนก็ต้องแต่งงานกับเธอจริงๆสินะ  ทางเดียวที่จะช่วยให้บริษัทกลับคืนสู่สภาวะปกติ 

    หลังจากนั้นฉันไม่ๆได้ยินเสียงอะไรอีกนอกจากความเงียบสงบ และเสียงลมหายใจของคนทั้งสามคน 

     

     

    วันที่   22   กันยายน  2009

     

     

      ช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสี  ทำให้อากาศในตอนกลางวันค่อยดีขึ้นมาหน่อย   ฉันซึ่งเปิดหน้าต่างทุกบาน ตรงทางเชื่อมระหว่างตึกทั้งสอง  สายลมเย็นๆจึงปะทะเข้ามายังใบหน้าของฉัน   ระหว่างนั้นฉันก็บังเอิญสบสายตาคนๆนั้นเข้า

     

      คุณมินโฮ...     เขาส่งยิ้มบางๆมาให้  ฉันจึงส่งยิ้มตอบกลับและเบนสายตาไปทางอื่น  จัดการฉีดน้ำยาลงบนกระจก ใช้กระดาษเช็ดมันให้สะอาด   ผ่านไปแค่ไม่กี่นาทีเขาก็ไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว 

     

     

      คิมคีย์บอม     เสียงคุ้นๆดังมาทางซ้ายมือ    คุณมินโฮยืนห่างจากฉันพอสมควร  บริเวณลำคอนั้นพบว่าลูกกระเดือกขยับขึ้นลง ระหว่างเลื่อนสายตาออกไปข้างนอก   ก่อนจะหันกลับมามองฉันเงียบๆ  

     

     

    “ คุณมินโฮ    คุณมีอะไรให้ผมรับใช้มั้ยฮะ     

     

     

     

    ไม่มีอะไรมากหรอก  ตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้างล่ะ       เขาถามสั้นๆ แลดูไม่ค่อยใส่ใจเท่าไร  

     

     

     

    “ นายอยู่กับเขาตลอดไม่ใช่เหรอ ”      

     

     

     

    “ ก็ยังไม่ดีเท่าไรนักหรอกฮะ   วันนั้น ผมต้องขอโทษด้วยนะฮะ   

     

     

     

    “ ไม่เป็นไรฉันเข้าใจ    ต่อไปไม่ต้องดูแลบาโรแล้วก็ได้นะ.. 

     

     

     

     

      ทำไมฮะ   มีอะไรเหรอ ” 

     

     

     

    “ ฉันจะให้นายดูแลรับใช้ฉันช่วงเสาร์อาทิตย์   เช็ดกระจกเสร็จก็รีบๆลงไปข้างล่างนะฉันจะรอ     เขาหันหลังกลับทันที  ชั่วขณะนั้น ฉันกลับรู้สึกแปลกๆว่า  แววตาคู่นั้นราวกับจะบอกอะไรฉันสักอย่าง แต่เขาก็ไม่สามารถ

    พูดมันออกมาได้   เขามีอะไรปิดบังฉันอยู่งั้นเหรอ….      

     

     

      ร้านรวงนับร้อยตั้งวางขายของเต็มสองฝั่งข้างทาง  พื้นที่ตรงกลางคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่มาจับจ่ายซื้อของ   บ้างก็มาเที่ยวชมความงามภายในถนนอินซาดงแห่งนี้   

     

     

      วันเสาร์เนี่ยคนเยอะจริงๆเลยนะ    

     

       

       

    “ นั่นสินะ ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวทั้งนั้นเลย  คุณมินโฮอย่าเดินเร็วสิฮะผมตามไม่ทันนะ ”  ฉันกลัวว่าจะหลงจึงเกาะชายเสื้อเขาไว้    เขาหันกลับมาจูงมือฉันฝ่าผู้คนไปพร้อมๆกัน   และฉันกับเขาก็ได้มีโอกาสดื่มด้วยกันอีกครั้ง            

     

     

    “ เราไม่ได้มาดื่มด้วยกัน  อย่างนี้นานแล้วนะ ” 

     

     

     

      อืมม     

     

     

     

    “ ถ้าเรายังเป็นเพื่อน  สัญญาได้มั้ยว่านายจะเชื่อใจฉัน   แค่เชื่อใจฉันก็พอ  และฉันสัญญาว่าฉันจะปกป้องนายให้ถึงที่สุด..     

     

     

     

    “ สัญญาอะไร  คุณนี่พูดเป็นการตูน์ไปได้     

     

     

    “ เปล่านะฉันรู้สึกอิจฉาคิมจงฮยอนมากแค่ไหนนายรู้มั้ย    ฉันอยากจะแยกนายกับเขาออกจากกัน   ทว่าฉันก็ทำไม่ได้    ฝ่ามืออุ่นๆเอื้อมมือวางทาบทับบนใบหน้า   หัวใจฉันกลับพลอยรู้สึกอบอุ่นไปด้วย    

     

     

      ผมมันแค่คนรับใช้  ไม่มีค่าพอที่คุณจะต้องทำแบบนั้น   แทมินจะรู้สึกยังไงถ้า ”

     

     

     

       ฉันรู้   เราถึงคบกันไม่ได้ยังไงล่ะ   ความรู้สึกดีๆที่ควรจะมอบให้ในฐานะคนรักไม่ใช่เพื่อน    ให้ฉันได้ปกป้องนายเถอะนะ  อย่างน้อยก็ในฐานะเพื่อน     ถ้าเขายังแสดงความรู้สึกโดยที่ไม่ข้อกังขาใดๆ ทั้งสิ้น  คุณจงฮยอนและเขาต่างก็เป็นคนที่ฉันให้ความไว้วางใจมากที่สุด     ฉันไม่กล้าบอกคุณมินโฮว่าฉันไม่ใช่ผู้ชาย  เพราะงั้นฉันจึงรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก    เมื่อถึงตอนนั้นเขาจะต้องเกลียดฉันเอามากๆ   เขาจะต้องเสียใจไปกับความลับของฉัน….

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×