คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : Chapter 15 ในที่สุดทุกอย่างก็........
Rescued
Chapter 15 ในที่สุดทุกอย่างก็........
เฮอร์ไมโอนี่มองไปที่แฮร์รี่อย่างขอบคุณ ”ใช่ แฮร์รี่ฉันรักเขา”เธอพูดเสียงดังก่อนจะลุกขึ้นจากม้านั่งเธอจัดเสื้อผ้าและผมเผ้าของเธอให้ดูดีเธอรู้สึกประหม่าเมื่อเธอต้องการให้ตัวเธอดูดี เพื่อเจอกับเด็กหนุ่มผมบลอนส์คนนั้นอีกครั้ง
”แล้วเจอกัน”เธอบอกพร้อมกับก้มลงไปกอดแฮร์รี่พร้อมกับจูบแก้มเขาเพื่อขอบคุณกับการพูดคุยกับเขาและทำให้เธอรู้ใจตัวเธอเอง
“ฉันจะต้องไปหาคนๆนั้น ฉันจะต้องคุยกับเขา”เธอพูดเสียงอ่อนโยนก่อนที่เธอจะเดินตรงไปยังสวนด้านใน สถานที่ ที่เธอรู้ว่าเขากำลังหวดลูกบลัดเจอร์ไปรอบๆท้องฟ้าบนไม้กวาดของเขา
ทางด้านเดรโก ในขณะที่เขาตีลูกบลัดเจอร์ด้วยไม้ของเขานั้นเขาเริ่มรู้สึกได้ถึงความตึงเครียดจางหายไปบ้างเล้กน้อย แต่เขาก็ยังคงเก็บเอาไบหน้าที่แสดงออกถึงความตกตะลึงของเธอและคำพูดของเธอเก็บไปคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเมื่อลูกบลัดเจอร์พุ่งมาที่เขาและเขาแก้แค้นโดยการตีมันแรงกว่าเดิมเขาคำรามลั่นเมื่อข้อมือของเขาหวดมัน มันโง่มากที่เขาทำแบบนั้น? แต่เขาต้องการระบายอารมณ์ ที่เจ็บปวดของเขาให้ไปกับการหวดลูกบลัดเจอร์นั้น เดรโกรับรู้ว่าเธอจะไม่กลับมาอีกแล้ว และเขาเองก็รับรู้ด้วยเช่นกันว่าเธอเองคงจะเจ็บปวดไม่ต่างกับเขานัก
สายฝนตกลงมาอย่างหนัก และเธอยืนอยู่ตรงนั้นแหงนคอมองดูเขาเดรโกคิดว่าเธอเหมือนกับคนที่บาดเจ็บหนัก เมื่อเขาเหลือบสายตามองดูเธอ เดรโกถอนหายใจอย่างแรงและก้มลงมองดูเธอ
หัวใจของเฮอร์ไมโอนี่ถูกตีกระหน่ำ เดรโกอยู่บนนั้น เขายังคงไม่ยอมลงมาจากไม้กวาด แต่เขาก็ยังคงมองดูเธอเฉยๆ
“เดรโก ฉันขอโทษ”เธอป้องปากตะโกนขึ้นไปหาเขา
“ฉันรู้ว่าเธอไม่เคยรักฉัน”เขาตะโกนลงมาแบบเดียวกันกับเธอ”ไปซะ ออกไปจากที่นี่ เกรนเจอร์ ฉันต้องการที่จะลืมมัน”
เฮอร์ไมโอนี่ผงะถอยหลังและมันทำให้เดรโกรู้สึกว่าตัวเองผิด
“ไม่ ฉันไม่ได้หมายถึง อะไรที่ฉันพูดไปแบบนั้น เดรโก ฟังฉันก่อนได้โปรด”เธอขอร้องเขา เขาคิดชั่วครู่ก่อนพยักหน้าเหมือนไม่เต็มใจและลงจากไม้กวาดเดินตรงมาหาเธอ
“ฉันไม่ได้หมายถึงในสิ่งที่ฉันพูด เดรโก เมื่อคุณบอกฉัน ใช่ ฉันตกใจ ฉันไม่คาดคิดว่ามันจะเป็นฉัน”เธอตะโกนออกไปแข่งกับสายฝนที่เทกระหน่ำ
“ไม่ต้องพูดอีกแล้วฉันเข้าใจดี”เดรโกพูดพร้อมกับเบือนหน้าไปทางอื่น
“ฟังฉันพูดให้จบก่อน” เธอตวาดเขา เดรโกยกแขนของเขาขึ้นเหมือนจะบอกให้เธอรับรู้ว่าเขายอมแพ้
“ฉันอยากจะพูดว่ามันโง่มาก”เดรโกขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ แต่เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้าของเธออย่างรวดเร็วและรีบอธิบาย ”เปล่าเดรโก ฉันไม่ได้ว่าความรักของคุณ แต่ฉันหมายถึงตัวของฉันเอง”
เขามองมาที่เธอเหมือนไม่ค่อยจะเข้าใจนัก แต่เขาก็ยังพยายามที่จะพูดปลอบใจเธอ
”ฉันรู้ ว่าเธอดีกับฉันเสมอมา เฮอร์ไมโอนี่”เขาพูดอย่างสุภาพกับเธอ แต่เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้าของเธอ
“ไม่เดรโก ฉันไม่ได้ดีกับคุณตามมารยาทเท่านั้นนะ”
เดรโกขมวดคิ้ว”เธอหมายความว่ายังไง”เขาถามอย่างระแวง
“ฉันกำลังจะพูดว่า ฉันไม่ได้ดีกับคุณตามมารยาท แต่ฉันดีกับคุณเพราะฉันรักคุณ เดรโก “เธอกล่าวอย่างชัดเจนน้ำเสียงเธอดูหนักแน่น
เดรโกได้แต่มองดูเธออย่างตกตะลึงและอ้าปากค้าง
“เดรโก” เธอใช้มือของเธอปัดไปมาข้างหน้าเขาเพื่อเรียกสติของเขาให้กลับคืนมาและมันทำให้เธอได้เห็นความประหม่าเกิดขึ้นบนใบหน้าของเขา
“ฉ...ฉ...ฉัน...ว้าว”เขาพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่พร้อมกับมีรอยยิ้มเต็มใบหน้า”ฉันพูดอะไรไม่ออกเลย”เขาเข้าใกล้เธอและดึงใบหน้าของเธอเข้ามาหาเขาและจูบเธออย่างลึกซึ้ง ตาของเธอเบิกกวางด้วยความตกใจและต่อมาก็เอ่อล้นด้วยความสุข มือของเขาคว้าเอวของเธอ และบดเบียดริมฝีปากของเขาอย่างลุ่มหลงพวกเขาดึงตัวออกมาเพื่อหายใจและยิ้มให้กันและกันก่อนจะโน้มศรีษะของพวกเขาเข้ามาใกล้กันอีกครั้งพวกเขาไม่ได้ให้ความสนใจกับสายฝนที่เทลงมาเปียกร่างของพวกเขาแต่อย่างใดในตอนนี้พวกเขาคิดถึงเพียงริมฝีปากนุ่มละมุนของอีกฝ่ายหนึ่งเท่านั้น...อ้า นี่แหละความรัก
โดยที่พวกเขาไม่รู้ตัวเลยว่า มีกลุ่มเพื่อนสนิทจากสลิธลีนและกริฟฟินดอร์ยืนมองพวกเขาอยู่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม จินนี่หันไปมองแพนซี่และยิ้มให้ในขณะที่เบลสและแฮร์รี่สบตากันด้วยมิตรภาพ พวกเขาทั้งสี่คนละสายตากันและกันและหันกลับไปมองสายฝนที่เทกระหน่ำส่งผ่านร่างของทั้งคู่กลางสนามนั้น พวกเขาทั้งสี่คนยิ้มและรับรู้ว่า นั่นจะต้องมีเรื่องสนุกเกิดขึ้นในไม่ช้านี้แน่
@@@@@@@@@@@@@
"พวกเธอว่าอะไรนะ"นาร์ซีสซาร์ร้องขึ้นด้วยความตกใจในขณะที่บุตรชายของเธอยืนอยู่ต่อหน้าเธอและจับมือกับเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์
มันเกือบปีมาแล้วตั้งแต่คืนที่เขาและเธอรู้ใจตัวเอง ในความเป็นจริงพวกเขารู้สึกถึงกันและกันมาก่อนหน้านั้นแล้วด้วยซ้ำ แต่การปิดกั้นตนเองมันทำให้พวกเขาทรมาน และความเป็นจริงก็เปิดเผยตัวมันเองในที่สุด
"พวกเธอหมั้นกันแล้ว"นาร์ซีสซาร์พูดเสียงแหลมเล็กอย่างขัดใจ
เดรโกไม่ได้รู้สึกสะดุ้งหรือแม้แต่ตกใจแต่อย่างใด เพราะเขาได้เตรียมตัวเตรียมใจรับสภาพสิ่งที่จะเกิดขึ้นก่อนหน้านั้นแล้ว เขาได้บอกเรื่องนี้กับเฮอร์ไมโอนี่ว่าถึงเวลาที่พวกเขาสมควรจะเปิดเผยความรักของพวกเขาต่อหน้าสาธารณะชนได้แล้ว และเฮอร์ไมโอนี่ก็เห็นด้วยพวกเขาไม่ต้องการจะคบหากันอย่างลับๆอีกต่อไป
อันที่จริงความลับที่พวกเขาคบกันอยู่มีบางคนเท่านั้นที่ไม่รู้ นอกจากนางนาร์ซีสซาร์แล้วเพื่อนสนิทของเฮอร์ไมโอนี่ก็คงจะมีแต่รอนที่ยังไม่ทราบเรื่องสาเหตุเพราะความใจร้อนของรอนนั่นเอง แต่มันกลับเป็นความประหลาดใจและปนความยินดีให้กับพวกเขาทั้งคู่เมื่อรอนรู้ความจริงในวินาทีสุดท้าย รอนกลับตื่นเต้นดีใจไปกับพวกเขารวมทั้งแสดงความยินดีต่อพวกเขาก่อนล่วงหน้าด้วยซ้ำและสิ่งที่พวกเขารับรู้จากรอนในเวลาต่อมาก็คือ รอนเองก็ได้คบหาอยู่กับสาวน้อยแสนสวยของบ้านสลิธลีนเพื่อนคนหนึ่งของ เดรโกเช่นกัน เธอมีชื่อว่าดีไลล่า ปัญหาอันหนักอึ้งของเอฮร์ไมโอนี่เกี่ยวกับเพื่อนของเธอจึงตกไป
ในตอนนี้ปัญหาใหญ่ของพวกเขาทั้งคู่มาอยู่ตรงหน้าแล้ว
"ใช่ครับแม่ พวกเราหมั้นกันแล้ว"เดรโกพูดช้าๆอย่างใจเย็น
ในขณะที่นาร์ซีสซาร์มองไปที่เด็กสาวหน้าตาสะสวยที่กุมมือนั่งอยู่ข้างๆเดรโกอย่างควบคุมอารมณ์ตนเองไม่อยู่
"แต่ แต่ มันเกี่ยวกับซื่อเสียงของวงศ์ตระกูลนะ เดรโก"เธอพูดเสียงสั่นด้วยความโกรธที่พุ่งขึ้นราวลาวาที่กำลังจะทะลุออกจากปล่องภูเขาไฟ
“ผมกำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงที่สวย มีความสามารถ และวิเศษที่สุด แม่ไม่รู้สึกดีใจไป กับผมหรอกหรือฮะ"เดรโกหน้าแดงเล็กน้อยเมื่อเขารับรู้ถึงความโกรธจากแม่ของเขาในขณะที่เธอมองพวกเขาด้วยความรังเกียจเหยียดหยาม
"พ่อ ของ ลูกเขาจะว่ายังไงเคยคิดบ้างไหม -"เธอพูดอย่างเยือกเย็นและมองพวกเขาด้วยหางตา
"เขาไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วฮะ”เดรโกเงยหน้ามองแม่ของเขาด้วยดวงตาที่แข็งกร้าว “เขาตายไปแล้วจะไม่มีเลือดบริสุทธ์และเลือดสีโคลนอีกต่อไป ให้มันจบๆไปเสียที เขาไม่มีโอกาสที่จะมาคัดค้านในงานแต่งงานของผมอีกแล้วรวมทั้งแม่ด้วย ดังนั้นยอมรับมันซะ"เขากล่าวอย่างน้อยใจ"แม่ก็รู้ว่าพวกเรามาที่นี่เพื่อมาบอกแม่เพราะพวกเราคิดว่าแม่สมควรที่จะรู้เรื่อง พวกเราไม่อยากจะปกปิดแม่"เขาเริ่มต้น
"แต่พวกเธอคบกันได้ยังไม่นานเลย ลูกรู้จักเธอดีแค่ไหนกัน" นาร์ซีสซาร์ตะโกนโต้ตอบอย่างไม่เห็นด้วย
“พอเถอะค่ะ”ในที่สุดเฮอร์ไมโอนี่ก็กล่าวขึ้นมาเมื่อเธอซึ่งนิ่งฟังมานานแล้ว และมันสมควรแล้วที่เธอจะต้องลุกขึ้นเพื่อพูดในสิ่งที่เธออัดอั้น เธอปล่อยมือออกจากเดรโก และหันมาจ้องตาแดงกล่ำอย่างไม่พอใจของนาร์ซีสซาร์
”หยุดเถียงกันได้แล้ว ได้โปรด”เฮอร์ไมโอนี่กล่าวอย่างช้าๆและชัดๆ พวกเขาทั้งคู่นั่งลงและมองมาที่เธอด้วยอารมณ์ที่แตกต่างกัน เดรโกมองเธอด้วยความรักและห่วงใยในความรู้สึกของเธอ ซึ่งแตกต่างจากนาร์ซีสซาร์ซึ่งดูเหมือนเธออยากจะสาปแช่งเด็กสาวตรงหน้าด้วยคาถาที่ร้ายแรงบทใดบทหนึ่ง
”เขาเป็นลูกของคุณไม่ใช่หรือค่ะ คุณนายนาร์ซีสซาร์และถ้าคุณไม่ยอมรับความจริงว่าพวกเรารักกัน”เฮอร์ไมโอนี่หยุดคิดเธอไม่อยากพูดจารุนแรงใดๆกับแม่ของเดรโก แต่ครั้งนี้เธอคงจะหลบเลี่ยงไม่ได้เธอกำลังคิดว่าการอ่อนน้อมถ่อมตนกับคนอย่างนาร์ซีสซาร์ย่อมเปล่าประโยชน์เพราะคนอย่างนางไม่เห็นใจคนที่อ่อนแอกว่าอยู่แล้ว กลับกลายเป็นว่ามักชอบกดขึ่คนทีอ่อนแอกว่าตนเองด้วยซ้ำไปและ ถ้าเธอลองทำสิ่งที่ตรงข้ามดูบ้างบางทีมันอาจจะกระตุ้นนางนาร์ซีสซาร์ให้ยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นได้ เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจก่อนพูดประโยคต่อไป
”คุณก็ควรออกไปจากพวกเราซะ คุณไม่มีสิทธิ์มาแทรกแซงกับชีวิตรักของเดรโกอีกต่อไป เดรโกเองก็ได้บอกกับคุณครั้งแล้วครั้เงล่าว่าจะไม่แต่งงานโดยปราศจากความรักกับใครคนไหนและในตอนนี้เขาก็ได้ค้นพบคนที่เขารักแล้วเพียงแค่คุณอนุญาติเขาทุกอย่างก็จะจบลงด้วยดี”เฮอร์ไมโอนี่กล่าวอย่างมาดมั่น
“เธอกล้าดียังไงมาพูดจากับฉันแบบนี้”นาร์ซีสซาร์ส่งเสียงกรีดร้องอย่างไม่พอใจ และเธอเริ่มประท้วงโดยการผุดลุกขึ้นยืนและมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยใบหน้าที่ก้าวร้าว
“เดรโก”เฮอร์ไมโอนี่พูดต่อไปโดยไม่สนว่านาร์ซีสซาร์จะพูดอะไรหรือทำอะไรต่อไป
”ถ้าแม่ของคุณไม่ต้องการที่จะยอมรับพวกเรา เราก็ควรที่จะยอมรับในการตัดสินใจของเธอ เพราะถ้าเธอรักคุณ”เฮอร์ไมโอนี่แกล้งส่งสายตาไปที่นาร์ซีสซาร์”ถ้าเธอรักคุณเธอจะต้องยอมรับการแต่งงานของพวกเรา และ ถ้าไม่...มันก็ขึ้นอยู่กับเธอ”
เดรโกพยักหน้าและถอนหายใจเล็กน้อย
“อย่างงั้นก็ตามใจแม่เถอะฮะ พวกเราไม่มีเรื่องที่จะต้องคุยกันอีกแล้ว แต่แม่ก็โปรดจำไว้ด้วยนะฮะว่าลูกชายคนนี้ของแม่ได้ตายจากแม่ไปแล้วเราจะไม่มีการติดต่อหรือว่าพูดคุยกันอีก รักษาตัวด้วยฮะแม่”เดรโกกล่าวเสียงเย็น เฮอร์ไมโอนี่หอบหายใจอย่างแรง แต่พยายามที่จะเก็บอาการให้ดูสงบเธอไม่ได้มีเจตนาที่จะรุนแรงเพียงนั้น เธอหันกลับไปดูปฎิกิริยาของนางนาร์ซีสซาร์
นาร์ซีสซาร์ถอนหายใจและสำรวจดูบุตรชายของเธอและคู่หมั้นของเขาอีกครั้ง
”ฉันไม่มีสิทธิ์คัดค้าน คุณเกรนเจอร์ แต่คุณเป็นคนที่ฉันเห็นว่าไม่เหมาะสมที่เขาจะแต่งงานด้วยกับบุตรชายของฉัน คุณเป็นเพียง...”นาร์ซีสซาร์นิ่งไปเธอไม่รู้ว่าจะใช้คำพูดไหนให้เหมาะสมดี ในที่สุดเธอก็ส่ายหน้า“ฉันก็ไม่รุ้หรอกน่ะ มันเพียงแต่รู้สึกว่าไม่ถูกต้อง”
เฮอร์ไมโอนี่ดึงเสี้อคลุมของเธอเงียบๆและยืนขึ้นและมันทำให้นางนาร์ซีสซาร์รู้ได้ในนาทีต่อมาว่าเวลาของเธอได้หมดลงแล้วกับการพูดคุยกับบุตรชายของเธอ เดรโกยืนขึ้นและเดินตามเฮอร์ไมโอนี่ตรงไปที่ประตู
และในทันใดนั้นนาร์ซีสซาร์ยืนขึ้นและพูดขึ้นมาว่า”คอยก่อน”พวกเขาหันกลับมาเผชิญหน้ากับเธอ
”ฉัน เสียใจ ก็ได้ ?ฉันยอมแพ้”นาร์ซีสซาร์ส่งสายตาวิงวอนไปให้บุตรชายของเธอ เธอไม่สามารถที่จะสูญเสียลูกชายคนเดียวของเธอไปได้อีกแล้ว
ไหล่ของเฮอร์ไมโอนี่เริ่มผ่อนคลายลงหลังจากที่มันเครียดตึงตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ ในขณะที่เดรโกถอนหายใจและก้าวเข้ามาอีกสองสามก้าวก่อนถามย้ำให้มั่นใจ
”แม่ยอมรับการแต่งงานแล้วหรือฮะ”
นาร์ซีสซาร์พยักหน้า”ใช่”เธอสูดลมหายใจ”แม่ยอมรับว่าเธอเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งดื้อดึง สวยงาม และมีความสามารถเธอเหมาะสมกับตระกูล,มัลฟอย”เธอกล่าว “ดังนั้นเมื่อไรที่เราจะวางแผนกัน”
เฮอร์ไมโอนี่แทบสำลัก นี่คือมารดาที่เข้มงวดของเดรโก มัลฟอย เธอกำลังจะจัดงานแต่งงานให้กับบุตรชายของเธอหรือนี่ โฮ้วเมอลิน โลกแทบพลิกคว่ำ “ค... คุณยอมรับแล้วหรือค่ะ”
“พระเจ้า เขาบอกว่าเธอมีความสามารถ และแน่นอนฉันยอมรับฉันจะไม่ยอมสูญเสียบุตรของฉันไปเพียงเพราะว่าฉันไม่ชอบภรรยาคนใหม่ของเขาหรอก”เฮอร์ไมโอนี่ผงะถอยหลังนาร์ซีสซาร์ไม่ได้ยอมรับเธอเพียงแต่นางไม่อยากสูญเสียบุตรชายของนางไป แต่เฮอร์ไมโอนี่ยังฟังไม่จบ ประโยคต่อไปที่นาร์ซีสซาร์พูดมันทำให้เธอโล่งใจ ”อย่างน้อยฉันก็ควรทำความรู้จักกับเธอเสียก่อนๆที่จะตัดสินใจว่าฉันชอบเธอหรือไม่ เธอว่าจริงไหม”
เฮอร์ไมโอนี่และเดรโกยิ้ม”ขอบคุณฮะ ผมนึกว่าแม่จะบังคับผมไม่ให้ต้องพูดกับแม่หรือพบแม่อีก”เดรโกกล่าวกับแม่ของเขาและกอดเธอแน่นด้วยความรัก
เธอหัวเราะราวเสียงดนตรี “เดรโก ฉันไม่อยากสูญเสียลูกอีก ลูกคือทั้งหมดที่ฉันมี อยางน้อยลูกก็อยู่ที่นี่ได้กับแม่และเธอ”เธอยิ้มไปที่เฮอร์ไมโอนี่ที่ยิ้มตอบกลับอย่างสบายใจ
วันต่อมา...
“ขอบคุณพระเจ้า แม่ของคุณทำให้ฉันแทบไม่หายใจเลยในการวางแผนงานแต่งงานครั้งนี้ ฉันคิดว่าฉันคงไม่เจอคุณอีกแล้วจนกว่าเราจะได้แต่งงานกัน”เฮอร์ไมโอนี่บ่นเบาๆมันทำให้เดรโกรู้สึกขำเดรโกหัวเราะและกอดเธอมาพิงที่ไหล่ของเขา
“ฉันรักเธอ เฮอร์ไมโอนี่”เขาถอนหายใจอย่างเป็นสุข
เธอมองไปที่เดรโกและโอบแขนเธอไปรอบๆเอวเขา”ฉันก็รักคุณเช่นกัน เดรโก ”เธอครางเบาๆเมื่อเดรโกจูบลงที่หน้าผากของเธอและจับมือของเธอจูงเข้าไปในบ้านของพวกเขา
เฮอร์ไมโอนี่ล้มตัวลงบนที่นั่งโซฟาเตะรองเท้าของเธอและโยนกระเป๋าของเธอไว้บนโต๊ะใกล้ๆ”ดังนั้น คุณชายมัลฟอยพวกเราควจะทำอะไรกันดีในตอนนี้ค่ะ”เธอมองเดรโกอย่างอายๆ
เขาก้าวไปนั่งบนที่วางแขนใกล้ๆเธอและดึงเธอมาหาเขาอย่างแผ่วเบา
“ฉันมีโครงการไว้แล้ว” เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจด้วยความเปี่ยมสุขระหว่างที่ซบลงกับอกของเขา ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีกต่อไปเขาประคองใบหน้าของเธอด้วยฝ่ามือทั้งสอง เดรโกครอบครองริมฝีปากเธอในทันทีหลังจากนั้นเขาจึงประคองเธอเอาไว้ในอุ้งแขนอย่างอ่อนโยนเขาเอนร่างเธอลงนอนบนโซฟาแล้วตัวเขาจึงตามไปนอนเคียงข้างเขาลูบผมและใบหน้าของเธอ
“เฮอร์ไมโอนี่ที่รักของผม”เขากระซิบและจูบเธออีกครั้ง
“รู้ไหมว่าผมต้องการคุณมากแค่ไหน”น้ำเสียงของเขาแหบพล่าเฮอร์ไมโอนี่หัวเราะคิกคักพร้อมกับเบียดร่างเข้าหาเขามือของเขาสัมผัสที่สะโพกของเธอเพื่อกระชับร่างเธอให้ใกล้เขามากขึ้นไปอีก
“โอ้ว เฮอร์ไมโอนี่”เขาพึมพำมือข้างหนึ่งโอบร่างของเธอเอาไว้ส่วนมืออีกข้างค่อยๆปลดเสื้อของเธอออกมือของเขาลูบไล้ผิวเนื้อเนียนนุ่มตรงบริเวณหัวไหล่และสัมผัสเบาๆด้วยริมฝีปากของเขา
เฮอร์ไมโอนี่ส่งเสียงหัวเราะและกำลังจะพูดบางอย่างถึงความเซ็กซี่ของคู่หมั้นของเธอเมื่อมีเสียงกริ่งที่หน้าประตูดังขึ้น
“โอ้ไม่นะ”เดรโกสบถเมื่อเฮอร์ไมโอนี่ผละออกจากเขาและรีบลุกขึ้นนั่ง จัดเสื้อผ้าให้เข้าที่และลุกจากเก้าอี้เดินไปยังประตูเธอกรอกตาไปมาเมื่อเดรโกส่งเสียงคราง
“อย่าเปิด”เฮอร์ไมโอนี่ยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ เธอเปิดประตูและส่งเสียงร้องกรี๊ดออกมาอย่างดีใจเมื่อพบว่าใครยืนอยู่ตรงนั้น
“แพนซี่”
แพนซี่โผเข้าไปยังอ้อมแขนของเธอใบหน้าของเธอดูเศร้าหมองเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ไม่เคยเห็นแพนซี่ในสภาพนี้มาก่อน”เฮอร์ไมโอนี่ มันแย่มากๆเลย”เธอร่ำร้อง
เฮอร์ไมโอนี่มองไปที่เดรโกและเธอก็พบว่าเขาเองก็สับสนพอๆกับเธอเช่นกัน เฮอร์ไมโอนี่กรอกตาของเธอและแสดงท่าทางให้เขาออกไปก่อน เขาเดินออกจากคู่หมั้นและเพื่อนเข้าไปในห้องพักในขณะที่เธอพาแพนซี่เข้าไปนั่งที่โซฟา
”แพนซี่เกิดอะไรขึ้น”เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างกังวลและยังคงมองแพนซี่ที่สะอึกสะอื้นอย่างหนัก
แพนซี่สูดลมหายใจอย่างยากลำบาก และเช็ดน้ำตาอย่างคนโมโหจัด”ฉันไม่รู้ว่าจะบอกเธอยังไงดีเฮอร์ไมโอนี่ ฉันเพิ่งตรวจสอบมันด้วยตัวของฉันเอง มันๆช่างน่ากลัวมาก” เธอร่ำร้อง น้ำตาเริ่มล้นทะลักออกมาอีกครั้ง
”ฉันไม่รู้ว่าเบลสจะคิดยังไง ฉันกลัวที่จะบอกเขา ถ้าเกิดเบลสทิ้งฉันไปล่ะ”แพนซี่ยังคงพูดพล่ามในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่พยายามที่จะจับความผิดปกติที่เกิดขึ้นและในที่สุดเฮอร์ไมโอนี่ดึงแพนซี่มาซบไหล่ของเธอ
“แพนซี่บอกฉันว่าเกิดอะไรขึ้น”เธอถามอย่างใจเย็น แพนซี่สูดลมหายใจอย่างรวดเร็วก่อนจะตอบเสียงสั่น
“ฉันท้อง”เฮอร์ไมโอนี่ตาเบิกกว้างและติดตามด้วยรอยยิ้มของเธอด้วยความตื่นเต้นยินดี
“นั่นมันวิเศษสุดเลย”เธอร้องพลางกอดแพนซี่เอาไว้แน่น”เธอกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างงั้นเหรอ”
แพนซี่พยักหน้าพร้อมกับหายใจอย่างลำบาก”ฉันยังไม่ได้แต่งงานมันไม่ถูกต้อง”
เฮอร์ไมโอนี่ยังคงนั่งฟังเมื่อแพนซี่พูดขึ้นทั้งน้ำตา”ถ้าเบลส ทิ้งฉันไปล่ะฉันไม่รู้ว่าหัวใจของฉันจะทนไหวหรือเปล่า”แพนซี่ดูวิตกกังวลและเฮอร์ไมโอนี่จึงพูดในบางสิ่ง
“ฟังนี่ ที่รัก ประการแรก ทุกอย่างมันถูกเตรียมการไว้แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นมันมีคุณค่าต่อพวกคุณมากประการที่สองเบลสจะไม่ทิ้งคุณไม่มีทางที่จะเกิดขึ้น เขารักคุณและฉันก็รู้ว่าเขารักลูกของเขาด้วยเช่นกัน”เธอบอกอย่างรักใคร่และมันทำให้แพนซี่ยิ้มออกมาได้เล็กน้อย
”นอกจากมาเรียจะไม่มีหัวคิดถ้าเธอไม่คอยดูแลคุณและหลานในไส้ของเธอในตอนนี้”เฮอร์ไมโอนี่กล่าวเพิ่มเติมและทำให้แพนซี่หัวเราะ
“เธอจำได้ไหม”เฮอร์ไมโอนี่ถามแพนซี่ที่ดูสบายใจขึ้นหลังจากที่ได้พูดคุยกับเธอและได้กำลังใจจากเธอแล้ว
“ตอนที่มาเรียได้เจอเธอกับเบลสกอดจูบกันในห้องมาเรียยังบอกกับเขาเลยว่าถ้าเขาทำให้เธอเจ็บแม่ของเขาจะลงโทษเขาให้เจ็บอีกเป็นร้อยเท่า”แพนซี่พยักหน้ารับ “ฉันจำได้”
“นั่นก็แสดงว่ามาเรียยอมรับเธอแล้วล่ะ แพนซี่”
หญิงสาวทั้งสองยิ้มให้กันและกันอย่างบริสุทธิ์ใจ
“เธอคิดว่าเบลสจะยอมรับเด็กหรือเปล่า”แพนซี่ถามอย่างไม่แน่ใจนัก
“โธ่ แพนซี่ เขาจะต้องยอมรับมันแน่นอนอยู่แล้ว บอกความจริงกับเขา เขาอาจจะตกใจในครั้งแรกแต่เขาจะยอมรับมันในที่สุด และฉันบอกได้อย่างเต็มปากเลยว่าทั้งเขาและมาเรียจะต้องดีใจอย่างมากด้วย”
แพนซี่หัวเราะและยืนขึ้นพร้อมกอดเฮอร์ไมโอนี่”ขอบใจไมอา บอกเดรโกด้วยว่าสวัสดี และฉันขอโทษด้วยที่มาขัดจังหวะพวกเธอ”แพนซี่หัวเราะเมื่อเห็นเฮอร์ไมโอนี่หน้าแดง
เฮอร์ไมโอนี่เดินไปส่งแพนซี่ที่ประตู”บอกฉันเมื่อคุณไปถึง ตกลงนะ”แพนซี่พยักหน้าและบอกคำร่ำลาต่อกันก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะไปตามหาเดรโกและหวังว่าจะหาเขาพบ
เธอพบเขานอนอยู่บนเตียงกำลังอ่านเดลี่พรอเฟต
”มีอะไรเหรอ”เขาถามเสียงอ่อนโยนพับหนังสือพิมพ์เหวี่ยงไปที่โต๊ะหัวเตียง และกางมือทั้งสองข้างของเขาเพื่อรับร่างเธอในขณะที่เธอคลานขึ้นมาหาเขา
เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มไปที่เขา”เดี๊ยวคุณก็รู้ แต่อย่าเพิ่งคาดหวังว่าเบลสมีความสามารถพอที่จะบอกกับคุณในตอนนี้”เธอกล่าวอย่างลึกลับ
เดรโกยิ้มที่มุมปากเขาหรี่ตามองไปที่คู่หมั้นเหมือนต้องการค้นหาความจริง เขาอยากรู้ความลับนั้น ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่แสร้งยิ้มหวานอย่างยั่วยวนและสิ่งนั้นที่ทำให้เดรโกค้นพบได้ว่า คู่หมั้นของเขาช่างเป็นผู้หญิงที่เซ็กซี่และน่าค้นหาในวลาเดียวกัน
”บอกฉันเฮอร์ไมโอนี่” เขากล่าวพร้อมกับแกล้งทำเป็นหน้าบึ้งเขาจับแขนของเธอและดึงเข้าหาตัวเฮอร์ไมโอนี่ยิ้มและจูบเขาอย่างรวดเร็วเธอรู้สึกได้ถึงกระแสความตื่นเต้นผ่านกางเกงของเขา
"ไม่ เดี๊ยวคุณก็รู้เองแหละ"เธอจูบเขาอีกครั้งและปลดกระดุมสื้อเชิร์ตของเขาออก
"ฉันต้องการรู้ตอนนี้"เขาครางอยู่บนผมของเธอในขณะที่เธอจูบคอของเขาเธอสั่นหัวของเธออย่างท้าทายและหัวเราะอยู่ใต้ลมหายใจของเขา
ในขณะนั้นเองที่มีจดหมายเวทมนต์ผ่านเข้ามาทางหน้าต่างห้องนอนของพวกเขา เดรโกมองอย่างขัดใจ เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นและมองไปตามสายตาของเขาและแล้วเธอก็ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาอย่างเอาไม่อยู่ เมื่อจดหมายนั้นลอยมาใกล้ๆเธอ
“จดหมายของแฮร์รี่”เฮอร์ไมโอนี่กำลังจะคว้าจดหมายนั้นแต่เดรโกไวกว่าเขาคว้าจดหมายฉบับนั้น และขย้ำเป็นก้อนกลมๆจากนั้นจึงเหวี่ยงมันข้ามไปด้านหลัง
“เดรโก”เฮอร์ไมโอนี่ครางแต่ก็หยุดในทันทีเมื่อเดรโกคว้าใบหน้าของเธอและจูบอย่างดูดดื่ม
“ลืมมัน”เขาจูบเธอ”ลืมแฮร์รี่”เขาจูบแก้มเธอ”ลืมแพนซี่”เขาจูบคางเธอ”ลืมเบลส”เขาจูบคอเธอ”ลืมทุกๆคน”เขาจูบต่ำลงมาเรื่อยๆอย่างหิวกระหายและมันทำให้เฮอร์ไมโอนี่ร้องเสียงแหลม
“ฉันจะลืมมันเดรโกฉันจะลืมทุกคน”เธอพูดเมื่อเขาเงยขึ้นจ้องมองเธอด้วยความเร่าร้อนเฮอร์ไมโอนี่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เธอกระชากหมอนใบหนึ่งออกมาจากด้านหลังของเดรโกในขณะที่เขาทำสีหน้างุนงง และไม่นานเขาก็รู้ว่าทำไมเมื่อหมอนถูกตีลงบนหัวของเขาพร้อมกับเสียงหัวเราะกังวานของเฮอร์ไมโอนี่
“นี่เธอ “เขาทำตาโตและฉีกยิ้มกว้าง”เล่นแบบนี้ใช่ไหมเนี่ย”เดรโกคว้าหมอนอีกใบที่อยู่ใกล้ตัวและตีไปที่เฮอร์ไมโอนี่ เฮอร์ไมโอนี่ไม่ยอมแพ้เธอคว้าหมอนอีกใบและเหวี่ยงไปที่เขาเดรโกจับหมอนที่เธอตีลงมาและกระชากตัวเธอลงมาบนที่นอนเขาจับตัวเธอตรึงเอาไว้กับที่นอนโดยมีร่างกายของเขากดทับเธอเอาไว้ ริมฝีปากของเขากดทับกับเรียวปากนุ่มของเธอเป็นการลงโทษ พวกเขาจูบกันโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ในขณะที่มีขนนกจากหมอนปลิวอยู่กลางอากาศไปทั่วห้อง
ขนนกก็เปรียบกับความรักของพวกเขาที่มีความอ่อนโยนและนุ่มนวลเหมือนฉากสุดท้ายของพวกเขาที่จบลงอย่างสวยงาม
END………………
ความคิดเห็น