ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] อลวนรัก หอพักสุดเพี้ยน (Super Junior Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #15 : Chapter 14 : Help me please!

    • อัปเดตล่าสุด 10 ก.ค. 53



    Chapter 14Help me please!
     
     
     
     
     
     
                    สแตนเชียร์ที่ว่างเปล่าไม่ถึงชั่วโมงก่อนหน้านี้กลับมาคึกคักอีกครั้ง เหล่ากองเชียร์เข้าประจำที่ของตัวเองก่อนจะส่งเสียงเชียร์กันอย่างเมามัน เหล่านักกีฬาก็เตรียมเพื่อการแข่งขันเกมสุดมันที่จะเริ่มขึ้นในรอบบ่ายนี้ คะแนนของแต่ละหอตอนนี้ไล่เลี่ยกันแต่ที่เป็นที่น่าจับตามองก็คงเป็นหอเจ็ดที่กวาดคะแนนเต็มไปได้หลายรายการทีเดียว
     
                    เกมต่างๆเริ่มแข่งขันกันขึ้นท่ามกลางกองเชียร์ที่สร้างความครึกครื้นให้ได้มากทีเดียว จนกระทั่งมาถึงตามองตาซึ่งเป็นเกมที่ค่อนข้างหนักอยู่พอสมควรกับการประคองลูกแคนตาลูปให้เข้าเส้นชัย ใครที่ทำตกต้องกลับไปเริ่มใหม่ แถมยังโดนหักคะแนนอีกด้วยหากแคนตาลูปลูกนั้นแตก
     
                    “ให้ตายสินั่นมันแตงโมหรือแคนตาลูปกันแน่เนี่ย” ขณะที่รอเวลาแข่งขันอีทึกที่หันไปเห็นกรรมการขนแคนตาลูปเข้ามาวางในสนามก็อดจะบ่นไม่ได้ อยากรู้จริงๆใครมันช่างคิดเกม ผลไม้มีออกเยอะแยะให้เอาแคนตาลูปลูกเบ้อเร่อมาเล่น
     
                    “อย่าทำหล่นเด็ดขาดเลยนะอีทึกลูกละหนึ่งคะแนนเชียวนะ” ชินดงที่ยืนอยู่ข้างๆกำชับ ไม่ได้ดูหน้าเพื่อนเลยว่าอยากจะเล่นเกมนี้ขนาดไหน แล้วถ้าเกิดมันหล่นโดนเท้าขึ้นมาคงเดินไม่ได้หลายวัน
     
                    อีทึกได้แต่ทำหน้านิ้วคิ้วขมวด สีหน้าดูเอือมๆ บวกเหนื่อยใจไปพร้อมๆกัน แคนตาลูปลูกใหญ่ขนาดนั้นใครสามารถประคองไปถึงเส้นชัยได้ภายในเวลาหนึ่งนาทีจะนับถือเลย หัวต้องแข็งแรงสุดๆ
     
                    “อย่ากังวลไปเลย มีคังอินอยู่ทั้งคน ชนะอยู่แล้ว เรื่องกำลังไม่ต้องห่วง” คังอินยืนกอดอกพูดด้วยความมั่นใจสุดๆ แต่อีทึกกลับทำหน้าไม่เชื่อถือ เพราะใช้แรงอย่างเดียวคงไม่ได้ คนหนึ่งแรงเยอะแต่คนแรงไม่เยอะอย่างเขา แล้วจะไปรอดมั้ยเนี่ย
     
                    “กลับมามันกันต่อในช่วงบ่ายแล้วคร๊าบบบ!! เป็นไงบ้าง ทานข้าวอร่อยไหมมมมมม~” เสียงของพิธีกรภาคสนามดังขึ้นอีกตามเคย และตามด้วยเสียงตอบรับของเหล่ากองเชียร์
     
                    ในที่สุดก็ได้เวลาแข่งขัน นักกีฬาทั้งสิบสามหอต่างเดินไปอยู่ในลู่ของตัวเอง ก่อนกรรมการจะเอาแคนตาลูปมาวางไว้ที่ระหว่างหน้าผากของนักกีฬา ส่วนมือให้ไขว้หลังเอาไว้ เมื่อเสียงนกหวีดดังขึ้นกรรมการทุกคนก็ปล่อยมืออกจากลูกแคนตาลูปทันที
     
                    ตุบ!
     
                    เสียงแคนตาลูปของหอสี่กับหอเก้าหล่นลงพร้อมกันโดยที่ยังไม่ได้ออกสตาร์ทเลยซักนิด ส่วนหออื่นก็ค่อยเดินกันไปทีละนิด รวมไปถึงหอสิบสามด้วย คงไม่มีใครเสี่ยงที่จะเดินเร็วๆแล้วทำให้ลูกแคนตาลูปมันหล่นจนเสียคะแนนไปเปล่าๆ เกมนี้จึงเป็นเกมที่ใช้เวลาและสร้างความลุ้นระทึกอยู่พอสมควร
     
                    “แค่เริ่มต้นก็ดูท่าจะแย่ซะแล้วล่ะครับ แล้วมันจะเป็นยังไงต่อไปล่ะเนี่ยยยย!!!!~” ท่าทางที่ดูอินกับเหตุการณ์แบบออกนอกหน้ายังคงสร้างความสนุกสนานได้เหมือนเดิม
     
                    เสียงโห่ร้องดังขึ้นอีกครั้งเมื่อหอหกทำลูกแคนตาลูปตกต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่แถมแคนตาลูปยังแตกกระจายเต็มพื้นอีกต่างหาก
     
                    “อีทึก” เดินมาได้ไม่เท่าไหร่คังอินก็พูดขึ้น ตลอดทางสายตาของทั้งสองจ้องมองกันตลอด คังอินเลยอดไม่ได้ที่จะต้องพูดอะไรออกมาบ้าง จะให้เงียบตลอดทางจนถึงเส้นชัยก็ไม่ไหว
     
                    “หืม” ตอบรับกลับมาเบาๆเพราะสมาธิทั้งหมดตอนนี้ไปรวมอยู่ที่ลูกแคนตาลูปหมดแล้ว
     
                    “ตาของนายสวยมากเลยรู้มั้ย”
     
                    “อ่ะเหรอ....อืม” อีทึกตอบรับกลับไปสั้นๆ ไม่ได้ใส่ใจมากนัก เพราะใครๆก็ชมเขาว่าตาสวยทั้งนั้น
     
                    “สายตาของนายมันทำให้ฉันหลงรักตั้งแต่แรกเห็น ฉันดีใจมากที่ได้เป็นรูมเมทกับนาย ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแทบจะทั้งวันทั้งคืนแบบนี้” แล้วคังอินก็พร่ำเพ้อความในใจของตนเองออกมา ทำให้อีทึกเริ่มจะเสียสมาธิกับแคนตาลูปไปบ้างแล้ว แต่นางฟ้าคนสวยก็ยังทำเป็นไม่สนใจอยู่ดี
     
                    “อืม” ตอบรับสั้นๆเช่นเคย เพราะเขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าคังอินคิดยังไงกับตน
     
                    “นายสั่งให้คยูฮยอนกับซองมินเป็นแฟนกัน และก็ดูเหมือนว่าตอนนี้สองคนนั้นจะเริ่มมีใจให้กันจริงๆแล้วด้วย”
     
                    “นายอย่าชวนฉันคุยสิคังอิน เดี๋ยวมันก็ตกหรอก” อีทึกเริ่มจะทนไม่ได้กับเรื่องที่คังอินยกขึ้นมาคุย เลยต้องค้านขึ้น ไม่รู้ว่าจะมาพูดเรื่องรักๆใคร่ๆอะไรตอนนี้ เรื่องแบบนี้มันมักทำให้หวั่นไหวใครๆก็รู้ เพราะงั้นควรหยุดพูดก่อนที่แคนตาลูปมันจะตกพื้นแล้วต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่
     
                    “นายคบกับฉันนะอีทึก ลองคบกันหนึ่งสัปดาห์เผื่อนายจะมีใจให้ฉันบ้างไง” คังอินไม่ได้สนใจคำที่อีทึกบอก จนสุดท้ายก็พูดสิ่งที่ต้องการออกไป
     
    ได้ฟังแบบนี้อีทึกก็ถลึงตาใส่ทันที ใบหน้าขาวใสที่เริ่มขึ้นสีแดงจางๆเพราะโดนขอคบสายฟ้าแลบแบบนี้ ทำให้อีทึกต้องหันหน้าหนีคังอินที่ทำหน้าตาขอร้องเขาเต็มที่ มันก็ดูน่ารักอยู่หรอกนะ แต่ว่า....
     
    ตุบ! โบ๊ก!
     
    “โอ้ย!!” เสียงสามเสียงดังขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน เพราะอีทึกหันหน้าหนีทำให้ลูกแคนตาลูปตก ต่อด้วยเสียงของโหลกศีระษะที่กระแทกกันอย่างแรง เนื่องจากทั้งคู่กำลังออกแรงดันลูกแคนตาลูปเอาไว้พอไม่มีอะไรกั้นหัวเลยเข้ามากระแทกกันจนตอนนี้ต่างคนเด้งตัวออกไปคนละฝั่งพร้อมกับเสียงที่สามที่แสดงถึงความเจ็บปวดนั่นเอง
     
    “หอสิบสามทำตกซะแล้วล่ะครับ และดูเหมือนว่าหัวจะโขกกันด้วย โถ~ น่าสงสาร” พูดไปคุณพิธีกรประจำงานก็แสดงสีหน้าท่าทางไปด้วย ไม่ได้แคร์สายตาชาวบ้านด้วยว่าจะมองอย่างไร
     
    “เฮ้ย!! ไปเริ่มใหม่สิวะ!! ยืนทำอะไรกันอยู่!!” ยังไม่ทันหายเจ็บเสียงของรุ่นพี่ก็ตะโกนข้ามสนามมา ทั้งสองเลยต้องวิ่งกลับไปที่จุดเริ่มต้นทั้งที่ออกมาได้ไกลแล้วแท้ๆ
     
    แต่พอกรรมการจะเอาลูกแคนตาลูปมาวางทั้งสองกลับผละหนีออก หัวเจ็บอยู่แบบนี้จะให้ไปออกแรงดันไอ้แตงลูกใหญ่แบบนั้นคงทำไม่ได้แน่ อีกอย่างอีทึกก็คงจะไม่มีสมาธิเล่นแล้วตอนนี้
     
    “เอ่อ...สละสิทธิ์ได้มั้ยครับ ขอไปหน่วยปฐมพยาบาลก่อน” พูดไปก็ร้องซี้ดไป คังอินยังคงเอามือกุมส่วนที่กระแทกกันไม่ยอมปล่อยเช่นเดียวกับอีทึก ตอนนี้คงต้องรีบหาอะไรมาประคบอย่างด่วน
     
    “แล้วแต่เลยครับ” กรรมการตอบกลับมา คังอินเลยรีบพาอีทึกกับไปที่สแตนเชียร์ของหอสิบสามทันที
     
    “อ้าว!! นั่นหอสิบสามจะไปไหนล่ะคร๊าบบบบบ~ หรือว่าสละสิทธิ์แล้ว ผมว่าเรามาดูกันดีกว่าครับว่าหอใดจะเป็นผู้ชนะในเกมนี้!!!~” กรรมการที่อยู่จุดเริ่มต้นส่งซิกให้ พิธีกรจึงพยักหน้ารับก่อนจะหันไปสนใจพวกที่อยู่ในสนามแทน
     
    “เดี๋ยวฉันพาอีทึกไปทำแผลก่อนนะ หัวคงโนเป็นลูกมะนาวแล้วตอนนี้ พี่ครับ ผมขอโทษด้วยนะครับ แต่เล่นต่อไม่ไหวจริงๆ” บอกเพื่อนๆเสร็จก็หันไปบอกรุ่นพี่ที่เดินเข้ามาหาก่อนจะพาอีทึกตรงไปยังห้องพยาบาล
     
     
     
    ที่หน่วยปฐมพยาบาลซึ่งอยู่ด้านข้างของสแตนเชียร์มีเยซองกับเรียวอุกประจำการอยู่ แต่บุรุษพยาบาลจำเป็นของงานนี้ดูท่าจะไม่สามัคคีกันเท่าไหร่นัก
     
    “นั่งรอตรงนี้อีทึก” เรียวอุกดันอีทึกให้ไปนั่งรออยู่เก้าอี้ที่ถูกจัดเอาไว้ ส่วนตัวเองก็เดินไปที่ตู้ยาหยิบยาทาออกมา
     
    “หัวโนแบบนี้ก็ต้องใช้น้ำแข็งประคบสิเรียวอุก” เยซองที่อยู่อีกฝั่งห้องค้านขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ เรียวอุกเลยหันไปค้อนใส่ทันที
     
    “ก็ฉันจะใช้ยาทา นายไม่ต้องมายุ่งเลยเยซอง” หันไปตวาดใส่เพราะยังไม่หายโกรธ แถมเยซองมาขัดใจแบบนี้ยิ่งรู้สึกโกรธเข้าไปใหญ่
     
    “ฉันแค่เสนอเองนะ นายหาว่าฉันยุ่งเหรอเรียวอุก” แต่แทนที่เยซองจะยอมกลับเถียงกลับ ทำเอาเรียวอุกเริ่มควันออกหู
     
    “ก็ใช่น่ะสิ ฉันทำเองได้นายไม่ต้องมายุ่งเลย คนใจร้าย!” ใช้ศอกดันตัวเยซองออกเพื่อจะเดินเอายาไปทาให้อีทึก แต่เยซองกลับไม่ยอมถอยไปง่ายๆ
     
    “นายมีเหตุผลหน่อยสิเรียวอุก ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเต่านายเลยนะ อย่างอนเป็นเด็กนักเลย”
     
    “เยซอง!”
     
    “พอทั้งสองคนนั่นแหละ เอายามานี่ฉันทำเอง ส่วนนายสองคนก็ออกไปซะ! ไปเคลียร์กันให้จบ ไม่จบไม่ต้องเข้ามา!” คังอินที่นั่งฟังมานานทนไม่ไหวเลยลุกขึ้นไปดึงหลอดยามาจากเรียวอุก พร้อมกับออกปากไล่ไปในตัว ถ้ามัวแต่เถียงกันอยู่แบบนี้คนเจ็บจะได้รับการรักษามั้ยล่ะเนี่ย
     
    ถึงอยากจะเถียงกลับแต่เรียวอุกก็ยอมเดินออกไปแต่โดยดี เยซองจึงเดินตามออกไปด้วย จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงแว่วๆเหมือนคนทะเลาะกันดังมาจากด้านนอก ทำเอาคังอินกับอีทึกถอนหายใจออกมาพร้อมกัน
     
    “หันหน้ามาหน่อยสิฉันจะได้ทายาให้” บอกกับอีทึกที่นั่งหันข้างให้พร้อมกับบีบยาออกมาจากหลอดแตะไว้ที่ปลายนิ้ว
     
    อีทึกค่อยๆหันหน้ามาหาคังอินช้าๆ ไอ้คำที่คังอินพูดเมื่อตอนแข่งขันมันยังฝังใจไม่หาย
     
    “ให้ตายสิ ทั้งที่เราก็ไปได้ไกลแล้วแท้ๆ ไอ้แตงนั่นไม่น่าหล่นเลย ไม่งั้นคงเก็บคะแนนเข้าหอได้แล้ว” ขณะทายาให้อีทึกไปคังอินก็บ่นไป เพราะเขาหวังไว้มากว่าจะต้องเก็บคะแนนเข้าหอให้ได้ ไม่ว่าจะกี่คะแนนก็ตาม
     
    “ก็เพราะใครล่ะ ยังจะมีหน้ามาพูดอีก” อีทึกแย้งขึ้นเบาๆ ถ้าคังอินไม่มาขอเขาคบตอนนี้ ลูกแคนตาลูปก็คงไม่หล่นและก็ไม่ต้องมาเจ็บตัวกันแบบนี้
     
    “ทำไมเป็นฉันล่ะ”
     
    คำถามที่ย้อนกลับมาทำเอาอีทึกนิ่งเงียบไป ใบหน้าขาวใสแดงขึ้นเรื่อยๆตามความร้อนของใบหน้า ไม่รู้ว่าคนถามไม่รู้จริงๆ หรือแค่แกล้งถามกันแน่
     
    “เอ่อ...ฉันว่าฉันทาให้นายบ้างดีกว่านะ” พูดจบก็ดึงหลอดยามาจากคังอินบีบมันลงบนนิ้วก่อนจะทาให้คังอินอย่างเบามือเพื่อกลบเกลื่อนความเขินของตนเองและเป็นการเปลี่ยนเรื่องไปในตัว
     
    “เสร็จแล้ว” นวดอยู่ซักพักก็จัดการปิดฝาหลอดยาก่อนจะลุกขึ้นเพื่อนำยาไปเก็บไว้ที่เดิม และจะได้เดินออกจากห้องพยาบาลไปด้วยเลย
     
    “อีทึก ที่ฉันขอคบนายน่ะฉันจริงจังนะ ให้คำตอบฉันได้มั้ย” ขณะที่อีทึกกำลังจะก้าวออกจากห้องคังอินก็ถามขึ้น คนที่ถูกขอคบเลยได้แต่ยืนหน้าแดงก่อนจะวิ่งออกจากห้องไปทันที ส่วนคังอินจะร้องเรียกเอาไว้ก็ไม่ทันเสียแล้ว เลยได้แต่ยิ้มบางๆ ยังไงซะเขากับอีทึกก็ต้องอยู่ด้วยกันตลอดอยู่แล้ว จะได้คำตอบเมื่อไหร่เขาก็จะรอ
     
     
     
     
    หลังจากที่จบเกมตามองตาไปก็มีการแข่งขันอีกสี่เกมจนมาถึงเกมที่หลายคนรอคอย ทั้งนักกีฬาทั้งคนเชียร์ก็ดูจะตื่นเต้นไม่แพ้กัน เกมยอดฮิตเกมแรก help me please!
     
    “ไอ้อุโมงค์นั่นมันน่ากลัวชะมัด” อุปกรณ์ที่เหล่ากรรมการกำลังขนเข้ามาในสนามนั้นทำเอาฮันคยองชักรู้สึกไม่อยากจะเล่นขึ้นมา ก็ไอ้อุโมงค์ที่ฮันคยองพูดถึงก็คือท่อทรงกลมยาวถึงสี่เมตรที่เขาต้องมุดไปมุดมาแถมมันยังหมุนอยู่ตลอดเวลาอีกต่างหาก ไม่จบแค่นั้นก่อนที่จะต้องเข้าไปในท่อนั้นต้องมุดหน้าลงไปหากุญแจในจานแป้งเพื่อเอาไปช่วยฮยอกแจอีกต่างหาก
     
    “ฉันว่าไอ้กล่องนั่นน่ากลัวกว่า” ว่าแล้วฮยอกแจก็เบ้ปากไปยังตู้กระจกสี่เหลี่ยมที่สูงราวๆสองเมตรที่เขาต้องเข้าไปอยู่ในนั้นเพื่อรอฮันคยองหากุญแจมาช่วยเขาออกไป พูดไปอาจจะเหมือนว่าสบาย แต่ไม่เลย เพราะในตู้นั้นน้ำจะถูกปล่อยออกมาเรื่อยๆ ถ้าเกิดน้ำเต็มกล่องยังช่วยไม่ได้ก็แพ้ไป และถ้าหากฮันฮยองเจอกุญแจช้าเขาไม่ต้องจมน้ำเหรอ เพราะตู้กระจกนั่นมันสูงกว่าเขาตั้งยี่สิบกว่าเซน
     
    “เอาเป็นว่าน่ากลัวพอกัน ลงสนามไปได้แล้ว” ชินดงเข้ามากอดคอทั้งสองไว้ด้านหลังก่อนจะทำการผลักเพื่อนทั้งสองลงสนามไป
     
    “ฮยอกแจสู้ๆ” ซีวอนส่งเสียงเชียร์พร้อมกับทำท่าไฟติ้ง มันดูแอ๊บเกินจนเพื่อนอย่างฮันคยองกับรูมเมทอย่างฮีชอลหมั่นไส้
     
    “ชอบล่ะสิ” ฮยอกแจที่หันไปยิ้มแหยๆ ให้เลยโดนฮันคยองกัดเล็กๆน้อยๆ เพื่อนไม่เคยคิดจะเชียร์เลยนะไอ้คุณชาย
     
    “ไม่อ่ะ” ส่ายหน้ารัวพร้อมกับทำท่าขยะแขยงปานว่าตัวเองไม่ได้ชอบผู้ชาย โดยเฉพาะคนกล้ามโตๆอย่างซีวอนนั่นมันคู่แข่งชัดๆ
     
    ฮันคยองกระตุกยิ้มเบาๆเมื่อได้ฟังคำตอบ ขอให้มันจริงอย่างที่บอกเถอะฮยอกแจ
     
    “กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้วนะครับสำหรับเกม help me please! ปีนี้ใครจะเป็นผู้ชนะ จะมีใครจมน้ำในตู้กระจกนั่นหรือเปล่า ใครจะสลบคาท่อพิฆาตของเรา หรือใครจะสำลักแป้งจนต้องออกจากการแข่งขันไปซะก่อน มาลุ้นกันเลยคร๊าบบบบบ!!!!~” จบเสียงของพิธีกรเจ้าเก่าเสียงเฮก็กระหน่ำพร้อมกับเหล่านักกีฬาที่เดินลงสนาม
     
    ดูท่าแล้วเกมนี้นักกีฬาจะถูกคัดมาเป็นพิเศษจริงๆ แต่ละคนดูสูงและแข็งแรงทั้งนั้น จะเว้นก็แต่ฮยอกแจที่เหมือนจะตัวเตี้ยที่สุดในนั้น
     
    “หุ่นนายแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มเกมเลยนะ” ก่อนจะถึงเวลาแข่งขันก็กัดกันอีกเล็กน้อยพอเป็นพิธีเพื่อความสนุกสนานในการเล่นเกม แต่ดูเหมือนฮยอกแจจะไม่ชอบใจเท่านัก
     
    “โธ่! ไอ้สูงเอ๊ย! ถ้านายปล่อยให้ฉันจมน้ำนะน่าดู” คาดโทษไว้ก่อนจะโดนกรรมการพาไปที่ตู้กระจก ฮันคยองเลยยักคิ้วกวนๆให้ซักสองสามที
     
    นักกีฬาที่ถูกวางไว้เป็นคนวิ่งเดินเข้าประจำที่ของตน ไม่กี่วินานทีต่อมาเสียงนกหวีดก็ดังขึ้น ชายหนุ่มร่างกายสมส่วนทั้งสิบสามคนออกตัวพร้อมๆกัน มุ่งตรงไปที่จานแป้งที่วางอยู่บนโต๊ะซึ่งในนั้นมีกุญแจอยู่ทั้งหมดสิบดอก ต้องหาให้ได้ทีละดอกและวิ่งมุดเข้าไปในท่อหมุนเพื่อนำไปไขกุญแจที่ขังเพื่อนร่วมทีมไว้ ทำไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอดอกที่ไขได้ ทีมนั้นจะเป็นผู้ชนะ
     
    “เริ่มต้นได้อย่างดุเดือดจริงๆครับ แต่ละคน ผมไม่อยากจะเซด พวกคุณเป็นใครก๊านนนน!!!~” หน้าตาของเหล่าผู้แข่งขันที่เลอะไปด้วยแป้งทำให้พิธีกรออกอาการท่าทางเว่อร์ไปซักนิดแต่ก็เป็นสีสันหนึ่งในงานที่ขาดไม่ได้เลย
     
    ฮยอกแจที่อยู่ในตู้จับตามองฮันคยองไม่วางตาเพราะถือว่าชีวิตเขาตอนนี้อยู่ในมือฮันคยองแล้ว น้ำค่อยๆไหลเข้ามาเรื่อยๆอย่างช้าๆ ความกว้างของตู้นั้นไม่มากนักไม่นานน้ำก็คงจะเต็มหากไม่รีบ แต่ในจานมีกุญแจตั้งสิบดอก คงไม่มีใครดวงซวยหาเจอเป็นดอกสุดท้าย ไม่งั้นสภาพคงดูไม่ได้ทั้งคู่
     
    ฝ่ายฮันคยองเมื่อหากุญแจดอกแรกได้ก็รีบวิ่งมาที่ท่อหมุนทันที เพียงแค่ก้าวแรกที่ก้าวผ่านเข้ามาในท่อก็ทำให้เกือบล้มซะแล้ว แต่คนที่มีทักษะดีอย่างฮันฮยองเลยผ่านมันไปได้ถึงจะไม่ได้คล่องแคล่วมากก็ตาม เพราะความเร็วที่ท่อหมุนก็ไม่ใช่น้อยๆ ถือว่าเป็นเกมที่ทรมานคนได้อย่างดีเยี่ยมจริงๆ
     
    เมื่อวิ่งผ่านท่อมาได้ฮันคยองก็ตรงไปหาตู้กระจกที่ฮยอกแจถูกขังอยู่ทันทีก่อนจะใช้กุญแจที่งมหามาได้ไขลงไป แต่มันกลับไขไม่ออก
     
    “เว้ย! ผิดดอก” สบถออกมาอย่างหัวเสียก่อนจะวิ่งกลับไปที่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง โชคดีที่ขากลับไม่ต้องวิ่งผ่านท่อ ไม่งั้นคงเสียเวลาน่าดู
     
    ฮันคยองทำการเป่าแป้งที่อยู่เต็มจานใบใหญ่เพื่อหากุญแจดอกต่อไป แต่มันก็ใช่ว่าจะง่ายซะที่ไหน เป่าทีแป้งก็ฟุ้งเต็มไปหมด แถมต้องคอยกันไม่ให้มันเข้าตาอีก พระเจ้าเล่นตลกอะไรกับเขากันที่ดลบันดาลให้รุ่นพี่จับฉลากได้คู่เขากับฮยอกแจต้องมาเล่นเกมประหลาดๆแบบนี้
     
    หลังจากที่เป่าแป้งหาอยู่ได้ซักพักฮันคยองก็เจอกุญแจดอกใหม่ จากนั้นก็รีบวิ่งไปที่ท่อหมุนทันทีคืบคลานเข้าไปในท่ออย่างคล่องแคล่วไม่ต่างจากรอบแรก ก่อนจะรีบเอากุญแจไปไขตู้ของฮยอกแจที่น้ำไหลออกมาถึงหน้าแข้งแล้วตอนนี้
     
    “อะไรวะ! ไม่ใช่อีกแล้ว!” โยนลูกกุญแจดอกนั้นทิ้งอย่างไม่ใยดีก่อนจะวิ่งกลับไปที่จุดเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ทำเอาฮยอกแจที่ทำหน้าลุ้นอยู่ตอนแรกทำหน้าเหี่ยวทันที เมื่อไหร่ฮันคยองจะช่วยเขาออกไปซักที help me please!
     
    ว่าแล้วฮันคยองก็ทำการหาลูกกุญแจดอกใหม่อีกครั้ง ท่ามกลางเหล่ากองเชียร์ที่ลุ้นกันตัวโก่ง เพราะยังไม่มีทีมไหนหากุญแจเจอเลยซักทีม
     
    “ช่วยได้สำเร็จแล้วครับ!! หอเจ็ดของเราทำแต้มได้อีกแล้ว!!!~” เสียงของพิธีกรที่ดังแทรกขึ้นมาเรียกความสนใจจากทั้งกองเชียร์และนักกีฬาได้เป็นอย่างดี เหล่าสมาชิกหอเจ็ดต่างส่งเสียงร้องออกมาด้วยความดีใจที่หอตัวเองคว้าคะแนนเต็มมาได้อีกครั้ง
     
    เห็นแบบนี้แล้วฮันคยองก็รีบวิ่งกลับไปที่จุดเริ่มต้นอีกครั้งเพราะกุญแจดอกที่สามยังไม่ใช่ดอกที่ถูกต้อง ตอนนี้น้ำเพิ่มขึ้นมาถึงระดับขาอ่อนแล้วแถมน้ำที่ใส่ไปในตู้นั้นเป็นน้ำเย็น ฮยอกแจยกมือขึ้นมากอดตัวเองเอาไว้ เมื่อไหร่ฮันคยองจะช่วยเขาได้ซักที
     
    เวลาผ่านไปราวๆสิบนาที กุญแจดอกแล้วดอกเล่าที่ฮันคยองหาขึ้นมาได้ก็ไม่ใช่ดอกที่ถูกต้องอยู่ดี จนตอนนี้มาถึงดอกที่แปดแล้ว น้ำในตู้ถูกปล่อยไหลออกมาจนถึงหน้าอกของฮยอกแจเป็นที่เรียบร้อย พร้อมด้วยอาการหนาวสั่น ปากที่เคยเป็นสีแดงเริ่มซีดอย่างเห็นได้ชัด
     
    แต่แล้วกุญแจดอกที่แปดก็ยังไม่ใช่ดอกที่ถูกต้องอยู่ดี ในตอนนี้เหลืออีกเพียงหอเดียวเท่านั้นที่จะได้สองคะแนนไปครอบครอง ฮันคยองเดินโซซัดเซกลับไปที่จุดเริ่มต้น การวิ่งกลับไปกลับมาแถมยังต้องวิ่งผ่านท่อที่หมุนด้วยความเร็วไม่ใช่น้อยแบบนั้นมันทำให้เขามึนหัวเป็นอย่างมาก
     
     
    “ซีวอน ฮีชอล นายสองคนมาช่วยพี่ขนน้ำพวกนี้ไปไว้หลังสแตนหน่อยสิ” ขณะที่กำลังยืนเชียร์ฮันคยองกับฮยอกแจอยู่นั้น รุ่นพี่ก็เดินเข้ามาเรียกฮีชอลกับซีวอนไปให้ช่วยยกของ จะปฏิเสธก็ไม่ได้ซะด้วย เลยต้องจำใจเดินยกของตามรุ่นพี่ไป
     
    “ครับ” รับคำตามคำขอของรุ่นพี่ก่อนที่ทั้งสองจะช่วยกันขนลังน้ำดื่มที่เพิ่งเอามาส่งไปไว้หลังสแตนเพื่อเอาไว้แจกจ่ายให้กับเหล่ากองเชียร์
     
    ขนกันอยู่สองสามรอบกว่าจะเสร็จ พอวางลังใบท้ายได้เท่านั้นซีวอนก็ทำท่าจะวิ่งไปด้านหน้าสแตนทันที
     
    “จะรีบไปไหนของนาย” ฮีชอลถามขึ้นเพราะเห็นท่าทางรีบร้อนของซีวอนแล้วมันอดหมั่นไส้ไม่ได้ แต่ที่จริงไม่ต้องบอกเขาก็รู้ว่าซีวอนจะไปไหน
     
    “ก็ไปเชียร์ฮยอกแจไง”
     
    “ฮยอกแจคนเดียวหรือไง ฮันคยองก็เพื่อนนายไม่ใช่หรือไงทำไมไม่เชียร์” ได้ฟังคำตอบแบบนี้ก็เกิดอาการหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย ห่วงแต่ฮยอกแจแต่เพื่อนอย่างฮันคยองกลับไม่ห่วง
     
    “เออน่า! ก็ทั้งสองคนนั่นแหละ ไปได้แล้วเดี๋ยวเกมก็จบก่อนหรอก” พูดจบทั้งสองก็เดินออกไปที่หน้าสแตน และภาพที่เห็นก็คือตู้ของฮยอกแจถูกน้ำท่วมจนมิดหัวเสียแล้ว ส่วนฮันคยองก็ดูท่าจะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน
     
    “ฮยอกแจ!!” ตะโกนเรียกออกมาเสียงดัง ทำท่าจะวิ่งเข้าไปช่วยแต่ก็โดนฮีชอลดึงรั้งเอาไว้ เพราะตอนนี้กำลังอยู่ในการแข่งขัน หากซีวอนวิ่งเข้าไปต้องโดนปรับแพ้ทันที
     
    “เข้าไปไม่ได้”
     
    “แต่ฮยอกแจกำลังจะจมน้ำไม่เห็นหรือไง” ออกแรงสะบัดแขนเพื่อให้หลุดจากการเกาะกุมของฮีชอล แต่ฮีชอลกลับเกาะแน่นเข้าไปอีก
     
    “ฮยอกแจไม่เป็นไรหรอกน่า”
     
     
    ฮันคยองยังพยายามก้มลงไปหากุญแจที่ซ่อนอยู่ในจานที่เต็มไปด้วยแป้งอีกครั้ง ใบหน้าที่หล่อเหลาบัดนี้เปื้อนไปด้วยแป้งผสมกับเหงื่อจนทำให้เนื้อแป้งมันจับตัวเป็นก้อน ไม่เหลือเคล้าฮันคยองคนเดิมเลยแม้แต่น้อย
     
    เมื่อหากุญแจดอกที่เก้าได้ฮันคยองก็เดินไปยังท่อหมุน แต่พอก้าวเท้าเข้าไปกลับล้มกลิ้งไปตามแรงของท่อทำให้อาการมึนหัวเริ่มปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ท้องไส้เริ่มปั่นป่วนมากขึ้นเรื่อยๆ ไอ้ของที่กินไปเมื่อตอนกลางวันมันก็ทำท่าจะออกมาสูดอาการข้างนอกภายในไม่ช้านี้
     
    ถึงจะลำบากยากเย็นแสนเข็นแค่ไหนฮันคยองก็ตะเกียดตะกายจนออกมาจากท่อได้สำเร็จโดยใช้เวลาไปเกือบห้านาที ฮันคยองค่อยๆคลานออกมาจากท่อที่ยังคงหมุนอยู่โดยมีส่วนตัวท่อนบนที่โผล่ออกมา มือทั้งสองข้างถูกยกขึ้นมาปิดปากเอาไว้กันของเสียที่มันกำลังไหลย้อนขึ้นมาจากกระเพาะอาหาร แรงกระแทกขึ้นๆลงๆซึ่งเกิดจากการหมุนของท่อยิ่งทำให้ฮันคยองรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่ สายตาที่มองไปยังฮยอกแจก็เริ่มพร่าเลือนลงเต็มที
     
    ตู้กระจกสูงกว่าสองเมตรที่ฮยอกแจถูกขังอยู่บัดนี้น้ำถูกปล่อยออกมาจนเกือบเต็ม ร่างเล็กๆใช้มือทั้งสองข้างตะเกียกตะกายในน้ำเพื่อหาทางออก แต่น้ำที่เย็นกลับทำให้ฮยอกแจเริ่มรู้สึกหมดแรงลงไปเรื่อยๆ สายตาที่จ้องมองฮันคยองอยู่ตลอดเริ่มอ้อนล้าจนมันใกล้จะปิดลงทุกที
     
    ปี๊ด!!
     
    เสียงนกหวีดดังขึ้นเป็นอันว่าสิ้นสุดการแข่งขันเมื่อหอหนึ่งเก็บสองคะแนนสุดท้ายไปได้ ของที่ฮันคยองพยายามเก็บมันเอาไว้ถูกปล่อยออกมาทันที ท่อยาวหยุดหมุนพร้อมกับร่างสูงที่ลงไปนอนราบอยู่กับพื้น น้ำในตู้กระจกก็ถูกปล่อยออกจนหมดภายในเวลาไม่ถึงสามสิบวินาทีเช่นกัน เพราะไม่เช่นนั้นนักกีฬาคงได้ตายกันไปข้างแน่ๆ
     
    สิ้นเสียงนกหวีดฮีชอลจึงปล่อยแขนของซีวอนออกเจ้าตัวจึงรีบวิ่งไปหาฮยอกแจทันที ฮีชอลเองก็กำลังจะวิ่งตามไปเช่นกันแต่เมื่อหันไปเห็นฮันคยองอาการแย่ไม่แพ้กันจึงเลือกที่จะไปดูฮันคยองแทน
     
    “แค่กๆ...แค่ก” ฮยอกแจที่ถูกขังอยู่ในน้ำเป็นเวลานานเมื่อถูกปล่อยออกมาก็สำลักน้ำเป็นการใหญ่ ซีวอนที่วิ่งเข้ามาหาฮยอกแจเป็นคนแรก หยิบผ้าขนหนูที่ห้อยไว้ที่มาเช็ดหน้าเช็ดผมให้ฮยอกแจก่อนจะพยุงให้ลุกขึ้น ฮันคยองเองก็พยายามดันตัวเองให้ลุกขึ้นแต่สังขารมันไม่ให้เลยได้แต่มองดูซีวอนพยุงฮยอกแจออกไป ทั้งที่ใจมันวิ่งไปช่วยฮยอกแจนานแล้วแต่ร่างกายกลับไม่ทำตาม จนกระทั่งฮีชอลกับเพื่อนเข้ามาช่วยพยุงให้ลุกขึ้น
     
    เสียงของเหล่ากองเชียร์ยังคงดังต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน แต่ก็คงเป็นเฉพาะกองเชียร์ของหอที่ชนะเท่านั้น

    ----------------------------------------------------

    kr...Talk
    สวัสดีจ้าเพื่อนที่น่ารักทุกคน
    มาอัพเกมฮันฮยอกให้แล้วนะ
    เกมนี้อาจจะดูทรมานไก่ของเราไปหน่อย แต่ก็แลกกับการที่ฮันได้...
    สำหรับเกมคยูมินต้องอดใจรออีกตอนนะ

    เรื่องทำหน้าปกอ่ะ ไม่มีค่อยมีคนส่งเลย
    มีบ้างแต่ไม่กี่คนเอง แล้วไรเตอร์จะเอาปกที่ไหนอ่ะ
    ลองที่บอกว่าไม่มีฝีมืออ่ะ แต่ถ้าว่างๆไม่มีอะไรทำก็ส่งมาเถอะนะ พลีสส~~~
    แล้วก็ขอขยายเวลาเห็นเพื่อยบางคนทำไม่ทัน
    เอาเป็นว่าอาทิตย์ที่18 ก.ค หมดเขตนะ

    MV No other ของพี่ๆน่ารักมากเลย
    ไลฟ์มิวสิกแบงค์ก็น่ารัก พี่มินยิ้มกระชากตับไตใส้พุง
    แอบเห็นสายตาที่กี้แทะโลมด้วยคะ กี้น่ารักอ่ะ
    ไปแล้วจ้า ตอนหน้ามาอัพวันคยูมินนะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×