ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Short fic : SJ & TVXQ by Cho-kune

    ลำดับตอนที่ #15 : [KangxTeuk] Keep your vehemently touch 3.....[Ft. : YaeRyo]

    • อัปเดตล่าสุด 1 ส.ค. 52


     

    Title :[KangxTeuk]  Keep your vehemently touch 3.....[Ft. : YaeRyo] Type : Short Fic

    Rate : PG

     

     

     

     

    ===================================================

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    หลังจากการตกลงเสร็จสิ้นต่างคนต่างแยกย้ายกลับบ้าน ส่วนเรียวุคนั้นก็สะพายเป้ใบเก่งเดินฮัมเพลงไปตามทาง

     

    "ฝากแฟนผมด้วยช่วยดูแลน้องเขาที หากน้องทำตัวไม่ดีพี่อย่าเพิ่งใจร้อน แฟนผมคนนี้เป็นเด็กค่อนข้างขี้งอน ให้เอาน้ำเย็นลูบก่อนเดี๋ยวพี่ค่อยสอนก็ได้...."

     

     

    หมับ!!!

     

     

    ร่างเล็กถูกมือใครคนนึงปิดปากและดึงเข้าซอกตึก พอหลุดจากการพันธนาการเรียววุคหันไปมองคนที่ลากเข้ามา

     

    "ไอ้ซาลาเปา ! ! ! ! ! !"

     

    "เลิกเรียกฉันแบบนี้ซะทีได้มั้ย ฉันเหมือนซาลาเปาตรงไหนวะ"

     

    "ลองเอาหน้าแกไปเทียบกับซาลาเปาในเซเว่นดูสิ"

     

    "หึ ปากเก่งจังนะ Hackker boy"

     

    ร่างเล็กตาโต

     

    "ดูท่าจะตกใจที่ฉันรู้ว่านายคือHackker boy"

     

    "นะ นายรู้ได้ไง"

     

    "ตอนที่นายยิ้มออกมาน่ะซิ มันไม่ใช่รอยยิ้มที่ดีใจหรือว่าโล่งใจเลยสักนิด มันเป็นรอยยิ้ม.......ของผู้ชนะ แต่ฉันต่างหากที่ชนะนาย คิม เรียววุค"

     

    ร่างเล็กกัดริมฝีปากอย่างเจ็บใจ ถ้าตอนนั้นเขาไม่ยิ้มออกมาล่ะก็ป่านนี้คงชนะคนตรงหน้าไปแล้ว ! !

     

    "แล้วรางวัลล่ะ"

     

    ร่างหนากระตุกที่มุมปาก

     

    "ไม่มี"

     

    เรียววุคส่งสายตาไม่พอใจไปให้

     

    "อ้าวๆ อย่ามาพาลกันซิครับคุณ คิม เรียววุค เกิดวันที่21 เดือน6 ค.ศ.1987 เลือดกรุ๊ปโอ สูง173 หนัก58..."

     

    "นายรู้ได้ยังไงกัน ! ! !"

     

    "แล้วผมทำงานที่ไหนกันล่ะครับ"

     

    ริมฝีปากอมชมพูหุบทันทีไม่วายส่งค้อนปะหลักปะเหลือกไปให้อีกต่างหาก  ...ไอ้ซาลาเปาหน้าบานนี่น่าจับฆ่าหักคอซะจริง คอยดูนะแม่จะเอาไดนาไมต์โยนใส่บ้านให้เละเทะไปเลย ! !...

     

    "ตาจะหลุดออกนอกเบ้าแล้วพ่อคู๊ณ"

     

    เรียววุคเตะหน้าแข้งร่างหนาไปทีนึงด้วยความหมั่นไส้

     

    "สมน้ำหน้า ไอ้ซาลาเปาบ้า"

     

    ร่างเล็กแลบลิ้นปลิ้นตาใส่และก้าวฉับๆออกจากซอนตึกทันที ไม่วายยังโดนมือแกร่งคว้าแขนเล็กไว้ได้ทันก่อนที่จะประทับจุมพิตลงกลีบปากอมชมพู...ร่างหนาผละออกจากกลีบปากสวยเมื่อเรียววุคเริ่่มประท้วงว่ากำลังขาดอากาศหายใจ

     

    "รางวัลที่จับเจ้าตัวป่วนได้"

     

    ร่างเล็กหมดแรงกองลงไปอยู่กับพื้นทันทีที่ร่างหนาปล่อยมือและเดินจากไปพร้อมกับรอยยิ้มแสนกล

     

    "ไอ้บ้า ไอ้ซาลาเปาเก๋าเจ้ง ไอ้ชั่วร้าย ! ! ! !"

     

    เสียงก่นด่าสาปแช่งจากเรียววุคดังไม่หยุดหย่อน เยซองที่ยืนแอบฟังแถวๆนั้นถึงกับหัวเราะพรืดออกมา

     

    "ฉันจะเอาระเบิดไปปาใส่บ้านแก ไอ้ซาลาเปาหน้าบาน ฮึ้ย ! ! ! ! ! เอาจูบแรกของฉันคืนมานะ ไอ้คนเฮงซวย ฮึก"

     

    เรียววุคน้ำตาคลอเบ้า   ...ทั้งๆที่เป็นจูบแรกแท้ๆกลับต้อมาเสียให้ไอ้งี่เง่าพรรค์นั้น ! ! เจ็บใจเป็นบ้า...   แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจและโกรธตัวเองที่เคลิ้มไปกับจูบที่แสนหวาน ร่างสูงที่เดินย้อนกลับมายื่นมือปาดน้ำตาที่ไหลรินออกจากนัยน์ตาสีเดียวกับรัตติกาล

     

    "เงียบซะ.."

     

    ร่างเล็กเบะปากก่อนที่จะปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายคนตรงหน้าแถมยังทึ้งหัวไอ้คนที่ขโมยจูบและฟาดไม่ยั้งอีกต่างหาก.....

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     


    คังอินที่เพิ่งกลับมาถึงบ้านตรงดิ่งขึ้นไปหาคนป่วยที่อยู่ในห้องทันที

     

    "อ้าว กลับมาแล้วเหรอ"

     

    ทึกกี้เงยหน้าจากหนังสือสไปเดอร์วิกขึ้นมาทักทายคนที่เพิ่งมาถึง ผมยาวถูกรวบขึ้นเป็นมวยโชว์คอยาวระหงอย่างเต็มตา ขาเพรียวลุกขึ้นจากโซฟาเดินไปรินน้ำให้และยื่นให้คังอิน มือหนารับมาและกระดกดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว

     

    "ทำไมไม่นอนพัก"

     

    ทึกกี้ยู่หน้าอย่างไม่พอใจ

     

    "นอนจนเบื่อจะเฉาตายอยู่แล้ว ไม่คิดจะให้เดินยืดเส้นยืดสายรึไง"

     

    ว่าจบก็ทิ้งตัวลงบนโซฟาหนานุ่ม ร่างสูงส่ายหน้าเบาๆแต่ก็นั่งลงข้างๆ สักพักพ่อบ้านนำเสื้อผ้าที่ถูกซักแห้งเรียบร้อยแล้วมาไว้ในตู้เสื้อผ้า ทึกกี้มองพวกเสื้อผ้าอย่าง งงๆ

     

    "ฉันซื้อมาให้นายเอง ไม่รู้ว่าถูกใจรึเปล่า"

     

    ริมฝีปากสวยคลี่ยิ้มออกมาก่อนที่จะวิ่งปรู๊ดไปดู มือเรียวหยิบชุดนู้นชุดนี้ออกมาสีเสื้อเกือบทุกตัวมักจะเป็นสีขาวที่เขาชอบอยู่แล้วด้วย

     

    "ถูกใจผมสิครับ ขอบคุณมากๆเลยครับคุณคิม"

     

    "คังอิน"

     

    "เห ? ? ?"

     

    "ต่อไปนี้เรียกฉันว่าคังอิน ไม่ใช่คุณคิม"

     

    "ครับ คังอิน"

     

    ร่างบางแย้มจนแก้มแทบปริ  ...ดีใจจัง ได้เข้าใกล้คนๆนี้ไปอีกก้าวเเล้วสินะ...  ร่างสูงนั่งเบือนหน้าไปอีกทาง ทึกกี้หัวเราะคิกๆกับหูที่เป็นสีชมพูบ่งบอกว่าเจ้าตัวเขินขนาดไหน

     

    "หัวเราะอะไร"

     

    "คุณเขินอยู่นี่นา"

     

    "คะ ใครเขินกัน !"

     

    "ก็หูคุณมันเป็นสีชมพูเลยนี่"

     

    "ฉะ ฉันจะไปหาลุงชินแป๊ปนึง"

     

    ร่างสูงรีบเดินออกไปด้านนอกเพื่อกลบอาการเขิน

     

    "ครับๆ พ่อคนขี้อาย"

     

    คังอินหันกลับมาส่งสายตาคาดโทษไว้ก่อนที่จะหายไปจากช่องประตูไม้วอลนัท สายตาที่ดุๆไม่คิดจะลงโทษเขาจริงๆจังๆ ทำให้ทึกกี้ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเต็มที่

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เมื่อลับร่างเจ้าตัวไปแล้วไม่วายที่คนหูดีอย่างพ่อหมียังได้ยินแถมยืนอายจนหูแดงแจ๋อยู่ด้านนอก ส่วนลุงชินที่ยืนอยู่ด้านข้างหัวเราะในลำคอมือก็เช็ดเครื่องเรือนอยู่

     

    "เป็นไงครับ โดนคุณหนูหยอกอะไรอีกล่ะครับถึงได้รีบหาข้ออ้างออกมาพบผม"

     

    "เงียบไปเลยน่าลุง"

     

    คังอินเสหยิบมือถือขึ้นมาและโทรหาไอ้เย

     

    "ฮัลโหล ไอ้คังมีอะไรวะ....โอ๊ย ! ! ! เจ็บนะเฟ้ย เจ้าตัวป่วน ! ! !"

     

    "ไอ้ซาลาเปาเซเว่น ไปตายซะๆ โฮๆไอ้หมีแกมาจัดการกับมันเดี๋ยวนี้เลยนะ"

     

    "นั่นเสียงไอ้จัสมินใช่มั้ย"

     

    "ห่ะ ใครคือจัสมิน"

     

    "ไอ้วุคยังไงล่ะ แกอยู่กับมันยังงั้นเรอะ"

     

    "ใช่"

     

    "ฮือๆๆๆ ไอ้หมีจัดการมันที แงๆๆๆ"

     

    "มึงไปทำอะไรจัสมินมันวะ ไอ้ซาลาเปา ! ! !"

     

    "มึงจะตะคอกใส่กูทำไมวะ"

     

    "มึงทำอะไร"

     

    "ก็แค่...เอารางวัลนิดๆหน่อย"

     

    "รางวัลห่าอะไรวะ"

     

    เยซองก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้คังอินโดยมีเสียงร้องไห้เป็นซาว์นแอฟเฟคแถมยังมีเสียงด่าสาปแช่งไอ้ซาลาเปาไปด้วย

     

    "สมควร มึงจัดการซ่อมแซมบริษัทให้ด้วย ไอ้เวรเเค่นี้นะ"

     

    คังอินวางสายไปและกดโทรหาฮันกยองเพื่อนของตนอีกคนให้จัดการหาคอมมาให้คนที่ยังหัวเราะคิกคักไม่เลิก

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    หลังจากนั้นเขาถึงเข้าไปด้านในห้องเจอกับร่างบางที่นั่งอมยิ้มมองเขาอยู่

     

    "ยิ้มอะไร"

     

    "เปล๊า"

     

    ทึกกี้ปฏิเสธเสียงสูงพร้อมกับหัวเราะเอิ๊กอ๊าก คังอินล๊อคคอนางฟ้าตัวผอมบางทันที

     

    "จะบอกมั้ยห๊า"

     

    "โอย รังแกคนป่วยนี่นาๆ"

     

    ทึกกี้โวยวายจนคังอินคลายล็อคและนั่งลงด้านข้าง

     

    "อีกสองวัน....จะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นกับนาย"

     

    ร่างบางเอียงคอด้วยความสงสัย

     

    "เมื่อถึงวันนั้นนายก็จะรู้เอง"

     

    มือหนาเลื่อนแตะหน้าผากมน

     

    "ไข้ลดลงไปเยอะแล้วนะ อยากออกไปเดินเล่นมั้ย"

     

    ทึกกี้พยักหน้าอย่างรวดเร็วและคังอินพาคนป่วยออกจากห้องไปผ่อนคลายด้านนอกของห้องที่เขาอยู่มานานหลายปี เป็นครั้งที่สองที่เขาได้เห็นตัวบ้าน บ้านหรือคฤหาสน์ที่คุณชายคังอินอยู่ดูหรูหราไม่เคยเปลี่ยน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ทึกกี้เดินดูโน่นดูนี่จนทั่วทุกชั้นและมาจบลงที่ห้องนั่งเล่นเพื่อจะได้นั่งพักเหนื่อย พ่อบ้านชินดงรินน้ำและยื่นให้คนทั้งสองแต่ก็ส่งสายดุๆไปทางคุณชาย

     

    "คุณชายครับ คุณหนูทึกกี้ไม่สบายอยู่ทำไมถึงพาออกมาตะลอนๆแบบนี้ล่ะครับ เดี๋ยวไข้ขึ้นอีกรอบหรอกครับ"

     

    "ผมขอให้คังอินเขาพาออกมาเองครับ คังอินเขาไม่ผิดหรอกฮะ"

     

    พ่อบ้านมองด้วยสายตาแปลกใจก่อนที่จะยิ้มละมุนออกมาและโค้งตัวทีนึง

     

    "ครับคุณหนู"

     

    "จริงสิ ถ้าจำไม่ผิดด้านนอกยังมีที่ๆให้ไปเดินดูอีกหลายที่เลยใช่มั้ย"

     

    "ใช่ ทำไมงั้นเหรอ"

     

    "พาไปเดินดูหน่อยสิ อยากเห็นน่ะ"

     

    ทึกกี้หันไปอ้อนคนตัวโตกว่า 

     

    "แต่คุณหนูถ้าตากแดดโดนลมเดี๋ยวไข้ขึ้นกันพอดีนะครับ"

     

    "ถ้ายังงั้นผมใส่หมวกไปด้วยก็ได้ใช่มั้ยครับ"

     

    "แต่...."

     

    "งั้นเปลี่ยนเป็นร่ม ใช้ได้มั้ยครับลุงชิน"

     

    ร่างบางยิ้มหวาน พ่อบ้านมีสีหน้ากระอักกระอ่วนแต่ก็พยักหน้าโดยดี คังอินหัวเราะหึหึ     ...ไม่คิดว่าคนๆนี้จะหัวดื้อหัวรั้นแบบเงียบๆขนาดนี้...    หลังจากนั้นพ่อบ้านนำร่มมาให้ทั้งสองคนก็เดินออกไปชมทิวทัศน์ด้านนอก

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    รอบบ้านด้านนอกมีทั้งสระว่ายน้ำ สวนหย่อมที่ตกแต่งสไตล์จีน ญี่ปุ่น อีกทั้งมีกระดานหมากรุกขนาดยักษ์ที่ร่างบางถูกใจนักหนาจนถึงขนาดปีนเล่นเกือบพลัดตกลงมาเลยโดนร่างสูงว่าเสียจนหงอได้แค่ไม่นานเท่านั้นก็กลับมาร่าเริงเหมือนเดิมเมื่อเจอเรือนกระจกขนาดใหญที่บรรจุพืชพรรณต่างทั้งพืชเขตร้อน เขตหนาวที่ถูกกั้นไว้อีกด้านนึงที่ถูกปรับให้อยู่ในอุณหภูมิที่พอเหมาะ

    สิ่งที่ทำให้ร่างบางแวะเวียนไปหาอยู่บ่อยครั้งนั่นคือน้ำตกขนาดจำลองแต่เกือบเท่าของจริงถ้าไม่ติดว่าเป็นไข้เขาจะกระโดดลงไปเล่นให้หนำใจเลยทีเดียวแต่ตอนนี้ได้แค่จุ่มเท้าลงไปเท่านั้นเอง

     

    "ถ้านายกระโดดลงไป ฉันจับไปนอนในโรงพยาบาลแน่ ! !"

     

    จบคำของคังอิน ทึกกี้หน้าบูดและโมโหตัวเอง      ...ทำไมต้องมาไม่สบายตอนนี้ด้วยนะ ! ! ! ทั้งๆที่น้ำตกแสนสวยกำลังรอให้เขาลงไปเล่นแท้ๆ...

     

    "รู้แล้วน่า ย้ำจริงๆ"

     

    ขาเพรียวสะบัดไปมาในน้ำ เย็นดีจัง สักพักคังอินลงมานั่งจุ่มขาด้วย

     

    "อยากเล่นน้าม ม ม ม ม ม ม ม ม ! ! !"

     

    ได้ทีทึกกี้อาละวาดงอแงเหมือนตอนอยู่กับเหล่าเพื่อนๆ ขาเพรียวสะบัดไปมาเหมือนเด็กเวลาถูกขัดใจ

     

    "งั้นนายต้องไปนอนโรงพยาบาลและฉันจะไม่นายก้าวออกจากห้องอีกต่อไป"

     

    ทึกกี้หุบปากฉับหน้าบูดบึ้งไม่วายแอบบ่นอุบอิบอีกต่างหาก

     

    "บ่นอะไร"

     

    "เปล่า"

     

    ใบหน้าหวานสะบัดเชิด ทำให้คังอินหัวเราะร่า ร่างบอบบางลุกขึ้นยืนพร้อมกับกวักน้ำใส่ด้วยความหมั่นไส้แล้ววิ่งปรู๊ดแต่ไม่ลืมคว้าร่มติดมือออกไปด้วยตรงดิ่งกลับคฤหาสน์ทันที

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    คังอินวิ่งตามร่างเพรียวบางที่หลบไปทางนู้นพาไปโผล่ซอกนี้แค่พาเดินเที่ยวครั้งแรกยังรู้ช่องทางหลบหนีพอๆกับเขา   ...ถ้าปล่อยให้ออกมาเดินเล่นบ่อยๆคงจะสร้างวีรกรรมพอๆกับซินเดอเรลล่าแหงๆ ถึงแม้จะไม่ได้เจอกันนานชาติกว่าๆแต่ฤทธิ์ความแสบอยู่กับตัวอย่างครบถ้วน...

     

    "ลุงชิ๊น น น น น น น ช่วยทึกด้วย ! !"

     

    ทึกกี้วิ่งมาหลบหลังพ่อบ้าน

     

    "อะ อะไรกันครับคุณแล้วทำไมเหงื่ออกเยอะขนาดนี้กันล่ะครับ ! !"

     

    "ทึกกี้ ! ! !"

     

    เสียงทุ้มตวาดอย่างเหลืออดตอนนี้ร่างสูงยืนหอบแฮ่กๆ

     

    "เจ้าตัวแสบอย่าคิดนะว่าหลบหลังลุงแล้วจะรอดน่ะ"

     

    "อย่างน้อยลุงชินก็ช่วยผมได้ก็แล้วกัน"

     

    "ไอ้ตัวแสบ"

     

    "ลุงชิ๊น น น น ! !"

     

    และทึกกี้ก็ลุงชินเป็นโล่ต่อไป

     

    "หยู๊ด ด ด ! !"

     

    ลุงชินดงพูดออกมาอย่างเหลืออด นานๆทีที่พ่อบ้านคนนี้จะสติแตกออกมา

     

    "เลิกเล่นกันได้แล้วครับ คุณหนูทึกกี้ ! !"

     

    ทึกกี้ก้มหน้างุดก่อนที่จะย้ายตัวเองไปยืนอยู่ข้างๆคังอินตามนิ้วอวบของพ่อบ้านที่ชี้ไปตำแหน่งตรงนั้น

     

    "คุณหนูก็รู้ตัวอยู่นะครับว่าตัวเองไม่สบายกำลังเป็นไข้ ทำไมถึงวิ่งจนเหงื่ออกขนาดนี้ถ้าเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาจะว่ายังไงครับ.."

     

    "เดี๋ยวคังอินก็พาผมมาที่นี่เอง"

     

    "คุณหนู ! ! ! !"

     

    พูดจบทึกกี้ก้มหน้างุดต่อ มีแต่คังอินเท่านั้นที่กระหยิ่มยิ้มย่องจนทึกกี้แอบเบ้ปาก คังอินถลึงตาใส่ใบหน้าหวานก็ลอยไปลอยมาอย่างกวนอารมณ์

     

    "คุณชาย ผมให้คุณชายดูแลคุณหนูไม่ใช่หรือครับ ไม่ใช่พากันวิ่งเล่นแบบนี้ถึงแดดมันจะไม่แรงแต่นอนนี้เริ่มจะเข้าฤดูฝนแล้ว ถ้าฝนมันตกขึ้นมาตอนวิ่งไล่กันอยู่ขึ้นมาจะทำยังไงครับ อีกอย่างเดี๋ยวคุณหนูจะไม่สบายเอานะครับ"

     

    "แต่เจ้านี่สาดน้ำใส่ฉันก่อน"

     

    "ถึงยังงั้นก็ไม่ควรวิ่งไล่คุณหนู ! ! !"

     

    ถึงแม้จะเป็นจะเป็นคนคุมบังเหียนวงการมืดทั้งหมดแต่ก็ต้องก้มหน้างุดเวลาโดนคนที่เลี้ยงตนมาดุเอา ทึ้กกี้แอบยิ้มและยักคิ้วกวนๆไปให้ ส่วนคังอินแยกเขี้ยวกลับมาแทน

     

    "ผมดุแล้วยังจะหยอกเล่นกันอีกหรือครับ คุณชาย คุณหนู ! ! ! !"

     

    ทั้งสองคนได้รับมะเหงกคนละหนึ่งทีและโดนเทศนายาวจนเกือบครึ่งชั่วโมงถึงปล่อยตัวออกมาให้ทึกกี้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าส่วนคังอินก็ยังโดนกักตัวต่อไป

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    พอมาถึงห้องทึกกี้หัวเราะก๊ากกับท่าทีของคนที่เคยเย็นชาใสใส่เขา  ...คนๆนี้เหมือนกับไอ้แก้มแตกลูกชายของซินชะมัด มาดนิ่งๆแต่จริงๆแล้วทำตัวรั่วได้อย่างกลมกลืนกับแม่ตัวเองสุดๆ... หลังจากนั้นคังอินถึงได้ถูกปล่อยตัวออกมา 

     

    "ถูกปล่อยตัวออกมาแล้วเหรอ"

     

    ร่างบางถามตาแป๊ว

     

    "ใช่ เจ้าตัวแสบเล่นเอาโดนว่าซะจนหูชาเลย"

     

    "แค่นี้ยังน้อยน่า สมัยเรียนฉันโดนครูมินทราโดนด่านานกว่ากว่านี้ตั้งเยอะแถมเกือบทุกวันด้วย"

     

    ทึกกี้กลิ้งไปมาบนโซฟา

     

    "หมายความว่าไง"

     

    "ตอนเรียนน่ะพวกฉันแค่ไปทักทายคุณครูประจำชั้นที่เข้าใหม่ทุกอาทิตย์เท่านั้นเอ๊ง"

     

    ร่างบางลากเสียงยาวในตอนท้าย คังอินทิ้งตัวลงบนโซฟาด้านข้าง    ...อยากจะรู้แล้วสิว่าเจ้านี่ไปทำอะไรไว้บ้างคงจะแสบพอๆกับไอ้ซินซะล่ะมั้งถึงได้อยู่ด้วยกันได้...

     

    "ทักทายยังไง ?"

     

    "ก็แค่......โดดเรียนอาทิตย์ละสามครั้งเพื่อออกไปทำงานบางครั้งก็โดดออกไปที่เกมส์เซ็นเตอร์ ป่วนตึกเรียนทั้งตึก บางวันนึกครึ้มมินกับวุคก็ปล่อยไวรัสใส่คอมที่เก็บข้อมูลทุกอย่างของโรงเรียนให้เจ๊งแล้วค่อยกู้กลับอีกสามเดือนต่อมาตอนที่ครูทำกันไปเกือบครึ่งหนึ่งแล้ว

    พังงานวันเกิดยัยครูแรดชอบเคี้ยวหญ้าอ่อน รับครูใหม่ด้วยการกรีดรถ ทุบกระจก ถอดล้อออก เผาแผนการเรียนการสอน ส่วนวันไหนไม่อยากเรียนพละก็ปล่อยลมลูกบอล เอาน้ำยาขัดพื้นทั้งแกลลอนราดบนพื้นโรงยิม เอาปลาปิรันย่าพันธุ์ที่ไม่ค่อยดุลงสระว่ายน้ำ เอ...อะไรอีกหว่า"

     

    ทึกกี้นับนิ้วไปเรื่อยๆตอนนี้คงที่นั่งฟังอึ้งทึ่งและเสียวสันหลังไปด้วย ...นิสัยแสบแบบนี้ถ้าจะหนีก็หนีออกไปได้นี่นาทำไมถึงไม่ทำกันล่ะ...

     

    "อ่อ นึกออกแล้ว.....ปล่อยพังพอนเที่ยวเล่นในโรงเรียน ปล่อยไก่ที่อยู่หลังโรงเรียนใส่ห้องครูสอนวิทย์คนใหม่ที่กล้าทำร้ายหัวหน้าห้องแล้วก็จัดการกับรถของเขาเท่าที่จะทำได้ กรีดเบาะ เเงะเครื่องเสียง เอาพวงมาลัยออก ประมาณนั้นแหละเเละราดน้ำก๊าดเผาต่อหน้าต่อตา.."

     

    "พอก่อนๆ"

     

    คังอินยกมือห้ามเป็นเชิงให้หยุด

     

    "ทำไมนายถึงไม่หนีจากที่นี่ไปล่ะทั้งๆที่นายสามารถทำได้"

     

    ร่างบางมองคนตรงหน้าแล้วยิ้มหวานออกมาแต่ไม่ได้เฉลยคำตอบให้คนที่ตั้งคำถามได้รู้ก่อนที่จะเสไปถามเรื่องอื่นแทน

     

    "แล้วสมัยนายเรียนเป็นไงบ้างล่ะ"

     

    "ก็ไม่มีอะไรมาก ก็ใช้ชีวิตแบบนักเรียนตามปกติ"

     

    คังอินไหวไหล่    ...ถ้าเจ้านี่ไม่ต้องการบอกเขาก็จะไม่ถาม รอจนกว่าเจ้าตัวอยากจะพูดออกมาเองไม่อยากบังคับคนๆนี้ให้ตัวเองเสียความรู้สึกอีก...

     

    "จริงอ่ะ ฉันว่าอย่างนายต้องมีชกต่อยกันบ้างล่ะน่า"

     

    "ก็ต้องมีบ้างอยู่แล้ว"

     

    "เห็นม้า า า า า"

     

    ทึกกี้ยิ้มแฉ่ง บทสนทนาถูกขัดจังหวะด้วยอาหารเย็นที่พ่อบ้านนำมาให้ ร่างบางตักโจ๊กเข้าปาก ส่วนคังอินตักข้างแกงกะหรี่กำลังจะเข้าปากแต่ต้องชะงักเมื่อคนที่นั่งกินตรงกันข้ามจ้องมองน้ำลายยืด

     

    "อยากกินรึไง"

     

    ทึกกี้พยักหน้า มือหนาตักและยื่นให้มันเกือบจะเข้าปากแต่แล้วก็วกเข้าปากตนเองพร้อมกับส่งรอยยิ้มกวนๆไปให้

     

    "อ๊า า า า า า แกล้งกันนิ จากินๆๆๆๆ"

     

    ทึกกี้ดิ้นพราดๆบนเก้าอี้

     

    "ถึงนายดิ้นจนหมดแรง ฉันก็ไม่ให้กิน"

     

    ร่างบางหยุดดิ้นทันที นั่งหน้าบูดไม่ตักข้าวเขาปากแถมยังเชิดหน้าอย่างงอนๆอีกต่างหาก ร่างสูงที่กินข้าวเสร็จรวบช้อนและดื่มน้ำตาม

     

    "ถ้านายไม่กินข้าวก็ไม่หายเป็นไข้สักที.......สงสัยคงต้องเลื่อนการพาไปเล่นน้ำตกอีกรอบซะล่ะมั้ง"

     

    ใบหน้าหวานหันขวับ นัยน์ตาสวยเป็นประกายเหมือนคริสตัลชั้นยอดเวลาต้องแสง

     

    "จริงเหรอ"

     

    "ถ้านายไม่หายฉันก็ไม่พาไป"

     

    "งั้นป้อนหน่อยซินะๆ"

     

    ร่างบางเริ่มออดอ้อนคนตรงหน้า คังอินได้แต่ลอบยิ้มภายในใจกับการอ้อนขอเหมือนลูกแมวตัวน้อย แต่ก็ทำตามคำขอโดยดีร่างสูงป้อนโจ๊กจนหมดชามและตามด้วยยาลดไข้ก่อนที่จะให้เจ้าตัวแสบเข้านอนจนหลับปุ๋ย ส่วนเขาต้องนั่งทำงานที่ค้างไว้ต่อ......

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    M ag ic 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×