คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : ตอนพิเศษรับปีใหม่(ไม่อ่านก็ไม่ว่ากัน)
ชี้แจงๆ ไรต์ขอนำเสนอตอนพิเศษรับปีใหม่คร่าาา
ตอนพิเศษจะมีทั้งหมด...อาจจะ10ตอน หรือไม่ก็จนกว่าจะครบทุกคู่555 ในตอนพิเศษไรต์จะรวบรวมพระ-นางจากนิยายที่จบแล้วของไรต์มาฮากันในตอนพิเศษนะคะ(ป.ล.อย่าคิดไรมากแค่ขำๆรับปีใหม่) จะอัปจนจบจากนั้นจะปิดตอนนะคะ แต่ถ้ามีใครอยากเก็บไว้อ่านไรต์ก็จะทำเป็นอีบุ๊คแจก หรือขาย อันนี้ดูจากการตอบรับก่อน555 มาๆมาอ่านกัน
พระเอกนางเอกของเวณิตาทอฝัน
-พันธนาการร้ายพ่ายรัก
หมอเสือ พงศ์พยัคฆ์ &แพร แพรวารินทร์
คุณพี รณพีร์ & ทราย เพลงพิชชา
-โคแก่แพ้รัก + โคอ่อนอ้อนรัก
พ่อเลี้ยงชล ชนะชล &กระแต กรรณณารา
ชัช ชัชรินทร์ & ไผ่หวาน ผกาเกศ
-เจ้าสาว(สำรอง)ม.ปลายที่รัก
ผู้การธาม ธนกฤต & พริกหวาน พิมพ์ลภัส
-รึจะรักราชนาวี
ผู้การเมฆ เจ้าสมุทร & ผู้กองพราว แพรชมพู
-ราชนาวีพ่อลูกอ่อน
ผู้กองมินทร์ ปรมินทร์ & ไข่หวาน ขวัญชีวิน
-เจ้าสาววัยใส(ป่วนหัวใจโคแก่)
ผู้การสรัน อิสรัน & ภีร์ ภีรพิชชา
-ชนทีพ่ายรัก
พ่อเลี้ยงชุณห์ ชนที & หมอแก้ม กรรัมภา
และพิเศษคู่ที่ยังไม่จบ
-เจ้าสาว(ตัวร้าย)ม.ปลายที่รัก
ผู้การพาย พายัพเมฆ & พริกไทย พิมพ์ชนก
เพชรแท้ พชรดนัย & เม็ดทราย ศิริกานดา
-วิวาห์ร้ายหัวใจพ่ายรัก
สิงโต สิรดนัย & ต้องตา ตฤณรดา
ตอนพิเศษส่งสุขปีใหม่
ตอน นิยายอลวน 1
ในช่วงฤดูหนาว ณ จังหวัดมหาสารคาม ป่าน สาวน้อยหุ่นผอมบางอย่างกะโอ่งผู้ชอบเพ้อฝันและจินตนาการสูงที่มีงานอดิเรก(และงานหลัก)คือการมโนและแต่งนิยาย โดยใช้นามปากกา เวณิตา ทอฝัน อั๋น อั๋น (เอคโค่ๆ)กำลังนั่งสั่นหงักๆๆๆๆเพราะความหนาวเย็น
"อยู่ภาคใต้มา18ปีไม่เค้ย ไม่เคยเจออาการหนาวขนาดนี้มาก่อน พอขึ้นมามหาสารคามเท่านั้นแหละ เจอเต็มๆ หลบใต้ดีหว่า โอ๊ยหนาวววววว" ป่านพูดกับตัวเองก่อนที่จะจัดแจงเก็บกระเป๋า กะว่าจะหนีออกจากบ้านลงไปบ้านที่พังงาสักพักเพื่อหลบหนีความหนาวเย็นที่ตัวเธอและ จี้น้อย น้องหมาสุดที่รักของพี่ชายไม่เคยพบเจอมาก่อน
ในกระเป๋าของป่านมีทั้งเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นและที่ขาดไม่ได้ก็คือเครื่องมือทำมาหากินในการแต่งนิยาย สมุดสันห่วงที่ใช้ในการจดพล็อตสามเล่ม ปากกา และที่ขาดไม่ได้ก็คือจี้น้อย 'ปล่อยไว้ไม่ได้ ต้องเอานางไปด้วยถ้าพี่ชายรู้ว่าทิ้งหมานางไว้โดนเนรเทศออกจากบ้านตลอดชีวิตแน่'
เมื่อจัดแจงเก็บของเสร็จแล้วป่านก็ไม่วายเขียนโน๊ตบอกกับพ่อแม่ที่รักว่าลูกนี้ขอหนีหนาวก่อนไว้หน้าร้อนมาเมื่อไหรลูกป่านจะรีบหลบมา
เมื่อเขียนโน๊ตเสร็จป่านก็สะพายกระเป๋าอุ้มใส่สายจูงให้จี้น้อยแล้วออกเดิน เดิน เดิน แล้วก็เดิน ก่อนที่จะหยุด แล้วก็เดินต่อ
"จะเดินเพื่อ?" ถามตัวเองแล้วก็เดิน เดิน เดิน จนไปถึงหนองน้ำขนาดใหญ่ซึ่งสร้างติดกับถนนทางเข้าบ้านเดินไปยืนอยู่บนคูหนองอย่างขบคิด จะไปยังไง รถก็ไม่มี เงินติดเป๋าก็ไม่มี
ในขณะที่ป่านกำลังคิดอยู่นั้นเธอจูงหมาเดินต่อไปก่อนที่จะหยุดชะงักเมื่อรู้สึกว่าเท้าไปเหยียบอะไรเข้าสักอย่าง ป่านค่อยๆก้มหน้าลงมองแล้วเบิกตากว้าง
"อี๋ขี้" เด็กสาวร้องลั่นก่อนที่จะกระโดดไปกระโดดมา แต่ด้วยน้ำหนักที่มากเอาการของเธอทำให้ร่างแบบบางอย่างกะช้างเซจนล้มแล้วกลิ้งสามตลบลงไปในน้ำหนองอันเย็นยะเยือกพร้อมด้วยจี้น้อยผู่น่าสงสาร
"แค่กๆ จี้ช่วยด้วยว่ายน้ำไม่เป็นนนน" เสียงตะโกนอันโหยหวนดังลั่นไปทั้งทั่วทิศก่อนที่ร่างของหนึ่งคนกับหนึ่งหมาและกระเป๋าอีกหนึ่งใบจะจมหายลงไปในน้ำ
ในขณะที่จมลงไปในน้ำป่านและจี้ก็หลุดเข้าไปในอีกมิติหนึ่ง ไม่ใช่โลกคู่ขนาน ไม่ใช่ยุคจีนโบราณ แต่...
"ตื่นแล้วเหรอ ลุกไหวมั้ย" เสียงถามอย่างเป็นห่วงของหญิงสาวในชุดเดรสสวมทับด้วยเสื้อกาวน์เอ่ยถาม
"ที่นี่ที่ไหนอ่าาา แล้วจี้น้อยล่ะ จี้น้อยของหนูอยู่ไหน" ป่านลนลานถามไม่ได้สนใจว่าตัวเองเป็นอะไรรีบถามหาน้องหมาน้อยทันที
"หมายถึงหมาที่มาด้วยกันอะนะ ตอนนี้หลับสบายอยู่ในห้องแอร์โน้นแหนะ" สาวในชุดกาวน์บอกก่อนที่จะตรวจวัดการเต้นของหัวใจให้ป่าน
"แล้วที่นี่ที่ไหนเหรอ?" ป่านถามแล้วลอบสังเกตหญิงสาวตรงหน้า เธอสวยราวกับนางฟ้า อายุน่าจะราวๆ25-26
"ที่นี่เหรอ ก็โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพไง" เธอคนนั้นบอกก่อนที่จะยกมือขึ้นกอดอก "ว่าแต่เธอเป็นใคร ทำไมมาโผล่อยู่ในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลได้"
"หาาาา โผล่ในห้องฉุกเฉิน แถมนี่กรุงเทพ บ้าไปแย้ววววว" ป่านที่ฟังและเรียบเรียงคำพูดของเธอคนนั้นแล้วก็ต้องสติแตก เธอมาอยู่ที่ไหนกันเนี่ย 'นี่โรงบาล โรงบาล อ๊ากกกก ป่านไม่ชอบโรงบาล'
เธอคนนั้นปล่อยให้ป่านได้บ้าโวยวายอยู่ครู่ก่อนที่จะตบโต๊ะเสียงดัง ปัง!
"เงียบได้แล้ว หนวกหูเว้ย" เธอบอกก่อนที่จะชี้หน้ามาทางป่าน "บอกมาว่าเธอชื่ออะไร"
"ชะ ชื่อเวคับ" ป่านเอ่ยบอกอย่างหวาดกลัว "แล้วพี่คนสวยชื่อไรอ่า"
"พี่เหรอ พี่ชื่อแก้ม" เธอบอก ป่านพยักหน้าหงึกหงักแล้วก็รู้สึกสะดุด 'ชื่อแก้ม เป็นหมอด้วย บังเอิญจัง'
"หมอกรรัมภาคะ น้องหมาตัวนั้นตื่อแล้วค่ะ" เสียงของพยาบาลทำให้การสนทนาของทั้งหยุดลงและทำให้ป่านชะงักไป
"มะ หมอแก้ม กรรัมภา อย่าบอกนะว่านามสกุลสัตยากรณ์น่ะ" เด็กสาวถาม คงไม่ใช่ว่าเธอหลงมาอยู่ในนิยายของตัวเองหรอกนะ
"รู้ได้ไงอะ รู้จักพี่มาก่อนเหรอ แปลกจัง เพิ่งจะกลับจากเมืองนอกแท้ๆมีคนรู้จักด้วย" หมอแก้ม หรือแพทย์หญิงกรรัมภาเอ่ยบอกอย่างคาดไม่ถึงว่าจะมีคนรู้จักเธอ
ป่านมองคุณหมอตรงหน้าด้วยอาการใบ้กิน แพทย์หญิงกรรัมภา หรือ หมอแก้ม เป็นนางเอกในนิยายเรื่องชนทีพ่ายรัก ที่เธอเพิ่งจะแต่งจบก่อนที่ลมหนาวจะมานี้เอง
'หมอแก้มสวยขนาดนี้ พี่ชุณห์ก็ต้องหล่อแน่ๆเลย' เด็กสาวได้แต่คิดอย่างตกใจและอยากเจอกับพระเอกของเรื่องบ้าง
"หมาของเวตื่นแล้ว เข้าไปดูซิ เป็นห่วงไม่ใช่เหรอ" หมอแก้มบอกทำให้ป่านผู้ที่ตอนนี้ใช้นามแฝงว่าเวต้องพยักหน้าแล้วลุกขึ้นเดินตามไป หมอแก้มเปิดประตูห้องให้แต่ไม่เข้าไปด้วย ป่านรีบวิ่งเข้าไปหาน้องหมาสุดที่รักในทันที
"จี้น้อยของพี่ เป็นไงบ้าง" เธอถามทั้งที่รู้ว่านางคงตอบเธอไม่ได้
แต่แล้วอยู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น "เอาหัวเหม็นๆออกไปจากจมูกฉันน่ะนังทาส"
"หือ" ป่านผละออกจากร่างอ้วนปุกของเจ้าหมาแล้วมองซ้ายมองขวา "ใครพูดหว่า"
"จะใครล่ะยัยทาส ฉันเอง จี้" เสียงนั้นตอบกลับมาทำให้ป่านถึงกับตกใจ "จะ จี้ จี้พูดได้ อ๊ากกกกกก ผีหลอก"
"นี่ยัยทาส เงียบ ที่นี่น่ะอะไรก็เกิดขึ้นได้ย่ะ ฉันพูดได้ส่วนเธอ ก็ผอมลง" จี้น้อยบอกแล้วยกขาหน้าขี้ชี้มาที่ตัวของป่าน ป่านมองตามแล้วตะลึงหนักกว่าเดิม
"อ๊ากกกก ไขมันที่รักของฉันไปไหนนนนนน" คนที่ตะลึงเพราะอยู่ๆหุ่นก็บอบบางอย่างกับขี้ก้างโวยวาย 'ใครเอาไขมันเวไป เอาคืนมาาาาาา'
"พอๆ อย่าเว่อร์ซิยัยทาส ตั้งสติๆ สติมาปัญเกิด สติเตลิดจะเกิดปัญหา สติมาปัญหาหายย่ะ" จี้น้อยบอกอย่างเอือมๆ ยัยขี้ข้าของเธอนี่ช่างโอเวอร์ขนาดหนัก เล่นใหญ่ซะไม่มี
"สติ สติ ใช่แล้วสติ" ป่านพูดได้แค่นั้นก็เดินไปเดินมาท่องคำว่าสติ สติ สติ ซ้ำไปซ้ำมาอยู่ร่วมชั่วโมงจึงหันมามองแรกใส่จี้
"ยัยจี้ เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ"
"ก็ยัยทาสไง"
"ทำไมเรียกแบบนั้นอ่า"
"ก็เธอเป็นขี้ข้าประจำตัวฉันนี่ เจ้าคุณพ่อฉันสั่งให้เธอตามดูแลฉันให้ดีจำไม่ได้เหรอ"
"หราาาา เจ้าคุณพ่อเธอเนี่ยพี่ชายฉันปะยัยจี้น้อยจอมหยิ่ง"
"แล้วไง ใครแคร์"
"ย่ะแม่หมาเทวดา"
"เว คุยกันเสร็จยัง พี่จะออกไปข้างนอกแล้วนะ" เสียงของหมอแก้มดังลอดเข้ามาทำให้ป่านรีบอุ้มจี้แล้วออกจากห้องเดินมาหาทันที
"พี่หมอแก้มจะไปไหนอ่ะ ไปหาพี่ชุณห์เหรอ" ป่านถาม เพราะตามเนื้อเรื่องหลังจากกลับจากเรียนต่อต่างประเทศหมอแก้มต้องไปทวงสัญญาจากชนทีหรือชุณห์ที่เป็นพระเอกของเรื่อง
"จะไปหาทำไม ถ้าไปหาพี่ชุณห์ภรรเมียเขาได้ตบคว่ำซิ พี่จะไป...ไปทำงานที่โรงพยาบาลที่พัทยา" หมอแก้มบอกและคำบอกเล่าของเธอทำให้ป่านและจี้ขมวดคิ้วเข้าหากัน
'นี่มันไม่เหมือนในนิยายนิ' ป่านคิด
'ชุนชุ่นของเธอไปมีเมียที่ไหนล่ะยัยทาส ผิดเนื้อหาชัดๆ' จี้คิด
แต่ทั้งสองก็ได้ยินความคิดของกันและกันจนป่านยกมือขึ้นกุมขมับ 'นรกเถอะนี่มันอะไรกันฟระ'
"พี่จะไปแล้วนะ" หมอแก้มบอก
ป่านลังเลก่อนที่จะเอ่ยขอตามไปด้วย"พี่หมอแก้ม เวกับจี้ขอไปด้วยได้มั้ยอ่ะ"
หลายชั่วโมงต่อมา
"มันชักไปกันใหญ่แล้วนะยัยทาส" จี้น้อยเอ่ยบอกหลังจากติดสอยห้อยตามหมอแก้มมาถึงจังหวัดชลบุรี
"ก็นั่นดิ ไปกันใหญ่แล้ว" ป่านบอกตัวเองแล้วมองภาพตรงหน้าซึ่งหมอแก้มกำลังนั่งเชิดหน้าอยู่ในห้องรับแขกของบ้านไม้หลังหนึ่งที่มันดันไปเหมือนกับบ้านพระเอกในนิยายอีกเรื่องของเธอ ยิ่งไปกว่านั้นชายที่นั่งอยู่ข้างๆหมอแก้มคือผู้การเมฆ นาวาโทเจ้าสมุทร พระเอกในนิยายเรื่องรึจะรักราชนาวีของเธอและสารวัตรหมอก พันตำรวจตรีเจ้าพระยาน้องชายของเขา 'อ๊ากกกกกนี่มั้ยอะไรกัน แล้วผู้กองพราวนางเอกของพี่เมฆไปไหน อย่าบอกนะว่าไปแต่งงานกับพี่ชุณห์น่ะ ไม่หรอกๆ ไม่หรอก...มั้ง'
"น้องแก้มจะมาพักที่นี่จนกว่าจะหาที่พักใหม่ได้ พี่เมฆช่วยดูแลน้องสาวเพื่อนผมหน่อยนะ" สารวัตรหมอกบอกก่อนที่จะยิ้มให้แล้วเดินออกจากห้องรับแขกไป
ป่านรีบตามสารวัตรหนุ่มไปแล้วเอ่ยถาม "เอ่อ คุณตำรวจขาาา แล้วผู้กองพราวล่ะคะ"
"ผู้กองพราวเหรอ อยู่บ้านผู้กองมินทร์ครับ ผู้กองมินทร์เขารับไปดูแลเอง" สารวัตรหมอกบอก
"เอ๋!!! อย่าบอกนะว่าผู้กองมินทร์เนี่ย เรือเอกปรมินทร์น่ะ" ป่านถามอย่างตกใจก่อนที่สารวัตรหนุ่มจะพยักหน้าแล้วเดินหนีไป ป่านมองหน้าจี้น้อยแล้วทำหน้าจะร้องไห้ เรือเอกปรมินทร์เนี่ยคือพระเอกจากนิยายเรื่องราชนาวีพ่อลูกอ่อน พระเอกเจ้าชู้แบบนั้นผู้กองพราวผู้มีอคติกับทหารเรือเจ้าชู้จะไม่ยิงทิ้งเอาเหรอ
ในขณะที่ป่านกำลังนั่งงุนงงหมอแก้มก็ลอบสังเกตผู้การหนุ่มตั้งแต่หัวจรดเท้า
'ดูดีจังเลย' หมอแก้มคิดแล้วแอบลอบยิ้มลืมความรู้สึกที่มีให้กับชนทีที่มีมายาวนานไปทันที 'ต้องคนนี้ซิถึงจะใช่พ่อของลูกในอนาคต'
"น้องแก้มหิวข้าวรึเปล่าครับ เดี๋ยวพี่ทำอะไรให้ทาน" ผู้การหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงสุภาพกิริยาท่าทางของเขาไม่ได้สร้างความกังวลให้แก่หมอแก้มเลยสักนิด
"อุ๊ย พี่เมฆทำกับข้าวเป็นด้วยเหรอคะ" หมอแก้มถามอย่างมีจริต 'คิดจะจีบผู้ก่อนใจต้องนิ่ง แบ้วไว้ แรดเบาๆ'
"พอได้ครับ แม่พี่สอนไว้" ผู้การเมฆบอกแล้วยิ้มให้กับน้องสาวของเพื่อนน้องชาย
'พี่เมฆจะสุภาพบุรุษเกินไปแล้ว เดี๋ยวน้องแก้มจะทำให้พี่เมฆเป็นผู้ชายธรรมดาๆเหมือนคนอื่นเขาเอง' หมอแก้มคิดก่อนจะฉีกยิ้มน่ารักในแบบที่เธอเคยยิ้มให้ชนทีดู "น้องแก้มอยากกินข้าวผัดค่ะ"
"โอเคครับ" เขาบอกก่อนที่จะหายลับเข้าไปในครัว
"เว มานี่ๆ" หมอแก้วส่งเสียงเรียกทำให้ป่านต้องรีบเดินมาหา "อ้ะ พี่ให้ทั้งกระเป๋าเลย ออกไปหาไรกินซะนะ แล้วก็ไปหาที่พักซะ พี่จะอยู่ที่นี่"
"กับพี่เมฆ2คน?" ป่านผู้มีมโนอันล้ำลึกถามตามที่จินตนาการแล้วก็ได้รับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์กลับมา
"ก็แบบนั้นแหละ ไปได้แล้วไป" หมอแก้มบอกก่อนที่จะไล่ ป่านรับกระเป๋าสตางค์มาแล้วพยักหน้ากับจี้ก่อนจะพากันเดินออกไป
"พี่เมฆคะ ฮือๆ ยัยเด็กเวขโมยของน้องแก้มไปหมดแล้ว" คุณหมอสาววิ่งเข้ามากอดผู้การหนุ่มในครัวแล้วบีบน้ำตา
'นางเอกฉัน11รดไปแล้วจี้'
'ก็ว่างั้น นอกจากเนื้อเรื่องเปลี่ยนนิสัยคุณหมอแก้มก็เปลี่ยนด้วย'
'เราไปหาพระเอกเรื่องอื่นกันดีมั้ยจี้'
'ดี ไปหาผู้กองพราวก่อนมะ กลัวใจนาง'
'อืม ดีๆ งั้นไปกันเถอะ'
'อุ้มหน่อยขี้เกียจเดือน'
'อีจี้'
เมื่อตกลงกับได้ป่านและจี้น้อยจึงเดือนจากไป ในขณะที่หมอแก้มนั้นก็กอดอ้อนผู้การเมฆเพลิน ผู้การเมฆผู้แสนสุภาพก็มีหรือจะกล้าปฏิเสธผู้หญิง เขาสุภาพและขี้เกรงใจจะตายไป
จบตอนที่1
ขำๆสนุกๆ ใครไม่ชอบไม่อ่านต่อไม่ว่ากันจ้า สวัสดีปีใหม่ทุกคนนะคะ ขอให้ปีนี้เป็นปีที่ดีของทุกๆคน ร่ำรวยเงินทองกันทั่วหน้าจ้า
ความคิดเห็น