ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SEHUN X YOU SO WHAT?

    ลำดับตอนที่ #15 : SO WHAT? CHAPTER 14

    • อัปเดตล่าสุด 10 ม.ค. 58


     

     

    SO WHAT?

     

     

     

    CHAPTER 14

     

     

     

        W. 08.59 AM


        ยังไม่เก้าโมงเท่าไหร่เหลือแค่หนึ่งนาทีกับอีกไม่กี่วินาทีไอ้คนที่ชวนฉันยังไม่โผล่หน้ามาปล่อยให้ไอ้เด็กนรกนั่งแทะโลมฉันอยู่เนี่ย รำคาญชะมัดฉันชอบเด็กก็จริงแต่ไอ้พวกปากแบบนี้มันน่าตบสักห้าหกทีและไม่ต้องถามว่าจงอินคนเดี๋ยวหรือเปล่าลู่หานชานยอลที่บอกจะมาเป็นเพื่อนหายหัวแม้แต่แจฮยองและแบคฮยอน

    “พี่ฮะสัดส่วนเท่าไหร่เนี่ย...” ฉันเริ่มจะเกลียดเด็กแล้ววะ น่าหมั่นไส้จริงฉันต้องไปดูแลพวกนี้ด้วยหรือเปล่าวะ “ดูหน้าเธอออกจะเซ็กซี่ยามที่....”


    “ยามที่อะไรไอ้เด็กเวร...”

    “อ่าวพี่เซฮุนป่ะนึกว่าตายแล้วเปลี่ยนทรงผมดูหล่อสัสเลยนะครับแดงซะ” ฉันมองไปที่เซฮุนเขาดึงเด็กที่นั่งอยู่ตรงปลายเท้าฉันออกไปนั่งอีกที่แล้วนั่งลงกับกลุ่มสาวๆที่ร่วมทริปนี้ด้วย...ไม่มองหน้าฉันด้วยซ้ำ


        เซฮุนผมสีแดงสดมันเป็นสีที่ฉันชอบผมเขายาวตัดด้านหน้าให้สั่นปรกคิ้วแล้วฉันจะสนใจทำไมไม่ได้เกี่ยวอะไรกันสักหน่อยฉันมองไปที่ลานจอดรถของตึกก็เห็นไอ้รุ่นพี่จงอินลู่หานมาครบแก๊งแจฮยอนมากับ...แบคฮยอนหรอไม่น่าช่วงนี้มันไม่ค่อยสนใจใยดีฉันเท่าไหร่

    “ยูมานานยังอ่ะ”

    “สักพัก แล้วแจเธอกับไอ้ขี้เหล่นั้นมันยังไง”

    “เหมือนยูกับเซฮุนละมั่ง” อึก! ฉันยกกระเป๋าตัวเองแล้วลุกขึ้นมองแจฮยอนที่มองไปยังเพื่อนแบคเก็บกระเป๋าเข้าตู้ของรถบัสอยู่

    “อย่าเหมือนเลย” แจฮยองหันมาขมวดคิ้วมองฉันแล้วทำหน้าเสียฉันเลยเดินออกมา


        อยู่คนเดี๋ยวก็ได้ปล่อยคนรักเขามีความสุขกันเถอะฉันโยนกระเป๋าเข้าไปลวกๆแล้วเดินขึ้นรถฉันเลือกนั่งดูทางกับคนขับดีกว่าต้องไปนั่งคู่ใครสักคนในนั้นมันอึดอัดอย่างบอกไม่ถูกเปิดมินเนี่ยนดูยังดีกว่าฉันเสียบหูฟังแล้วเปิดยูทูบในโทรศัพท์เครื่องใหม่ที่พ่อซื้อให้อย่างรีบร้อนเมื่อเช้าตอนมาส่งฉัน

    “ยู ยู ยู” ฉันหันไปมองจงอินที่สะกิดบ่าฉันแล้วพูดอะไรสักอย่างที่ฉันไม่รู้เรื่องเลยต้องถอดหูฟังออก

    “อะไรวะ”

    “กินไรมายัง อ่ะ เซ...หาน ไอ้หานให้เอามาให้” ฉันส่ายหน้าไม่รับแล้วจะเสียบสายหูฟังต่อแต่ถูกอีกคนจับแขนไว้แน่น “แจฮยองฝากมา เร็วดิรถออกแล้วฉันหัวทิ่มจะทำไง”ฉันรับมาแล้วเก็บสายหูฟังไว้เปิดดูถุงกระดาษสีน้ำตาลมีเบอร์เกอร์และไก่อยู่ในนั้น

    “ลุงค่ะ คนละอัน”

    “เอ่อ ขอบคุณครับ” ฉันยื่นให้คนข้างๆที่กำลังติดเครื่องยนต์ไว้แต่ยังไม่ขับออกไปลุงรับแล้วยิ้มให้ฉันมันพอทำให้อารมณ์แปลกๆหายไปบ้าง

    “กินเสร็จแล้วค่อยไปก็ได้ค่ะไม่มีใครว่าหรอก”

    “ขอบคุณนะหนูชื่ออะไร”

    “คิมค่ะ” ฉันลังเลสักพักก่อนจะบอกนามสกุลของพ่อไปพ่อบอกว่าใครถามให้ตอบไปอย่างนี้และก็ห้ามไว้ใจใครไปไหนต้องพกปืนตลอดเลยต้องทำเพราะความสบายใจพ่อกลัวฉันจะได้ไปเป็นเมียไอ้แก่ที่เขาระแวงอยู่

     

     




        รถเริ่มออกมาได้สักพักฉันนั่งฟังเพลงและดูวิวรอบๆและถ่ายรูปไปด้วยเสียงเพลงด้านในรถดังออกมาถึงข้างนอกถ้านั่งด้านในคงได้เป็นประสาทแน่ๆคุณลุงชาวฉันคุยตลอดและยังใจดีเปิดเพลงให้ฟังด้วย...รู้สึกสนุก

     

        อีวิลมินเนี่ยน

        ฉันลงรถแล้วเห็นมันตั้งอยู่ตรงด้านหน้าจุดพักรถน่ะฉันจำชื่อมันได้ลู่หานเคยบอกไปถ่ายรูปกับมันสักหน่อยคงไม่เป็นไร...

    “ให้ถ่ายให้ไหมยู”

    “ก็ดีนะ” ฉันยื่นกล้องไปให้ชานยอลแล้วเดินเข้าไปกอดไอ้ตัวโตสีม่วงก่อนจะซบลงที่อกมันแล้วให้อีกคนถ่ายรูปให้

    “สวยแล้ว”

    “ขอบคุณ” ฉันรับกล้องคืนจากชานยอลแล้วมองใบหน้ายิ้มแย้มของเขาที่จ้องหน้าฉันอยู่คิดอะไรอยู่วะ


        ฉันรู้ว่าหมอนี่ไม่ได้มองฉันเหมือนเพื่อนหรือคนรู้จักทั่วไปมันต่างไปจากนั้นแต่ฉันไม่ชอบเขาไงเลยเดินมาก่อนเขาพอเห็นแจฮยองกับแบคฮยนคุยกันโดยที่มีลู่หานนั่งคั้นตรงกลางยิ่งไม่อยากเข้าไปหาปวดสมองฟังคนเถียงกัน

     




    “เธอๆ หลบทางหน่อย” ใครว่ะ ฉันมองตัวเองที่ยืนแทบชิดพนังยังมีคนขอให้หลบทางอีกหรอฉันมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นเธอจ้องฉันอยู่ใบหน้านิ่งไปยิ้มแต่เสียงที่ถูกเปล่งออกมาเป็นมิตรสุดๆ


        ผมสั้น สีทอง ตัวเล็ก ขาว น่ารัก ฉันเคยเจอเธอคนนี้ที่บ้านย่าเซฮุนเธอมองตาฉันแล้วกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะหันหน้ากลับไปแล้วเดินไปซื้ออาหาร


    “เป็นประสาทหรือไง”


       บอกแล้วว่าฉันเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายถ้าเป็นคนของไอ้หัวแดงที่นั่งอยู่กับเพื่อนๆมั่งของมันเธอน่ารักคนเมื่อกี้คงต้องทำการบ้านเรื่องฉันหน่อยละฉันน่ะไม่ชอบยุ่งกับใครและไม่ชอบให้ใครมาระรานไม่อยากจะร้ายใส่ให้เสียนิสัยเดี๋ยวใครๆจะมองว่าร้ายเข้าชั้นเลว


        ฉันเดินไปซื้อช็อกโกแลตกินล้างคอช่วยให้ความดันอยู่ในระดับปกติยังจะดีกว่าอีก

    “ชอบเฮอร์ชี่หรอ”

    “อืม...” คยองซูไงหมอนี่ยืนอยู่ข้างๆฉันแล้วมองที่มือฉันก่อนจะมองมือตัวเองที่หยิบฟลอเรโล่อยู่ในมือเขาวางไว้แล้วหยิบเหมือนฉัน

    “ฉันไม่เคยกินยี่ห้อนี้เลย มันคงอร่อยเดี๋ยวลอง”

    “ถ้านายเอาไปหมดฉันจะกินอะไรวะ”

    “เลี้ยง” ไม่ขัดศรัทธาฉันวางของตัวเองไว้บนกล่องวางที่อยู่บนมือคยองซูเขาเดินไปจ่ายเงินฉันเลยเดินไปหาพวกเครื่องดื่มแทน


        แดกเบียร์ดีไหมฉันต้องการอะไรมากรอกปากตัวเองมากตอนนี้ในอกมันร้อนรุ่มไปหมดราวกับจะระเบิดออกมาซะให้ได้

    “เซฮุนอ่า นายชอบรสดาร์กช็อกโกแลตไม่ใช่หรอแล้วหยิบเรดเวลเว็ททำไม”

    “ให้ตาย...”


        เรื่องเหี้_อะไรของฉันละเนี่ยหลบทำไมกับอีแค่คนซื้อไอศกรีมฉันเดินไปหยิบน้ำเปล่ามาสามขวดและน้ำอัดลมสีแดงก่อนจะเดินไปจ่ายเงินคยองซูยืนอยู่ข้างเคาเตอร์แล้วยิ้มให้ฉันก่อนจะโบกช็อกโกแลตไปมา

    “อร่อยอย่างเธอบอกให้ทายว่าฉันชอบสีไหน” เขายื่นมาด้านหน้าฉันสองอันซองสีน้ำตาลและสีครีมและฉลาดอย่างฉันก็เลือก

    “ไวท์ช็อก”

    “เดาถูกด้วยเก่งอ่ะ” ใครๆเขาก็ชอบรสนี้กันทั้งนั้นแหละทำเวอร์ไปได้ฉันกำเอาจากกล่องในมือคยองซูสักแปดเก้าอันโยนน้ำเปล่าให้เขาสองขวดก่อนจะวิ่งไปขึ้นรถ

     

     

     

     








        กว่าจะมาถึงก็ค่ำเราแยกย้ายกันทำธุระส่วนตัวเพื่อจะได้เข้านอนกับการเดินทางฉันกินและฟังอย่างเดียวให้ตายน้ำหนักขึ้นแน่เลยวะกิจกรรมที่ฉันวางไว้ไม่มีอะไรมากมายส่วนมากจะดูมีสาระเพราะเป็นค่ายของคนในมหาลัยไม่ใช่ของคณะจำนวนเลยจำกัดแค่สามสิบคนและคนที่สมัคเกินด้วยซ้ำเมื่อติดป้ายประกาศแน่นอนว่าไอ้ลู่มันใช้หน้าตาให้มีประโยชน์ด้วยการขึ้นรูปหน้าตัวเองโปรโมทโปสเตอร์


        สามสิบคนแบ่งเป็นสามกลุ่มๆละสิบที่ต้องมีคือแรงและความเสียสละสูงลู่มันขอมีสาระมาฉันเลยจัดให้ โครการสร้างรั้วดิน หมายถึงกันแนวดินด้วยการขุดและใช้ทรัพยากรธรรมชาติสร้างรั้วกั้นแนวดินไว้กันถล่มในฤดูน้ำหลากที่ๆเรามาคือภูเขานอกเมืองที่นี่หนาวและที่เราอยู่เป็นเต็นขนาดใหญ่ข้างในมีเตียงนอนขนาดใหญ่และผ้าห่มผืนใหญ่สองผืนโซฟาห้องน้ำรวมแยกชายหญิงส่วนที่นอนเป็นคู่ไม่มีอะไรยากลำบาก


    “เธอนอนคนเดียวนะยัยโหด สิทธิพิเศษของคนคิดโครงการ”

    “ฉันนอนกับมันก็ได้ไอ้จงอิน”

    “กฎห้าม”

    “กูไม่เห็นหมาตัวไหนเขียนว่าห้ามเลยครับ มึงร่างไว้ตอนไหนบอกกูหน่อยเมื่อกี้กูเห็นไอ้แบคมันดึงน้องกูเข้าไปเป็นรูมเมทอยู่เลย”

    “แล้วมึงยอมหรอลู่”

    “ยอมสิเพราะกูจะนอนตรงกลางไง ฮี่ๆ” ลู่หานเดินออกไปทิ้งไว้แค่ฉันกับจงอินที่ยืนมองกันงงๆตกลงมันบอกจะนอนกับฉันแต่ก็จะนอนกับน้องด้วยไอ้ประสาท

    “นอนได้นะ”

    “เออ ไปไหนก็ไปๆ รำคาญ”

    “มีคนเคยบอกเธอไหมว่าเวลาไม่พูดแล้วสวยแค่ไหน” ด่าละสิฉันไม่สะทกสะท้านอะไรหรอกหนาวจะตายห่า


        ฉันเดินออกจากกองไฟที่จุดอยู่ตรงกลางโดยมีเต็นของพวกเราอยู่รอบๆไปเต้นตัวเองดีกว่ายัยหัวทองเดินมาทางนี้แล้วฉันไม่อยากจะหลบให้อีกเดี๋ยวได้ล่ามโซ่ไว้แทน

     



    “นาย” เขาล้มตัวนอนบนเตียงเฉยแล้วห่มผ้าก่อนจะหันหลังให้ฉันที่ยืนอยู่ข้างเตียง

    “อะไร” ไม่มองหน้าฉันอีกแล้วเซฮุน!ไหนว่านอนเดี่ยวไงแล้วหมอนี่เข้ามาได้ยังไงฉันหันไปมองด้านนอกก็ไม่เห็นใครอยู่มีเพียงผู้หญิงหัวทองที่เดินไปเดินมา

    “นี่มันเต็นฉัน...”

    “...”

        เวลาผ่านไปสักพักเขาก็ยังนอนเฉยอยู่ฉันเลยเดินไปรูดซิบเต็นลมหนาวเริ่มโกรกฉันดึงเอาผ้าห่มปลายเตียงแล้วนอนลงที่โซฟาข้างเตียงแทนให้มันได้อย่างนี้เถอะไม่มองหน้าแล้วยังมาให้เจอหน้าทำไมฉันหยิบโทรศัพท์สั่นเตือนในกระเป๋าออกมา


    “ว่ายังไง”


    “อยู่ไหนแล้ว เป็นยังไงบ้าง” พ่อฉันโทรมาถามแค่นี้หรือไง


    “ก็นอนแล้ว มาถึงก็ดึก”


    “อากาศเป็นยังไง ได้ข่าวว่าหนาว”


    “ใครโทรบอกอีกละเนี่ยยุ่งชะมัด แล้วอยู่ไหน”


    “แบคฮยอน อยู่บริษัท ไม่มีอะไรก็แค่นี้แหละเปลืองเงิน”


    “ตลก”


    “ถ้ามีอะไรก็รีบโทรหาพ่อ เข้าใจที่พูดไหม”


    “เข้าใจน่า”


    “อาหารทะเล รสจัด อย่าเผลอไปกิน”


    “รู้”



        พ่อกดวางสายไปดื้อๆฉันเลยควักสายหูฟังออกมาจากกระเป๋าเสื้อเสียบเข้ากับโทรศัพท์แล้วเปิดมินเนี่ยนดูอีกครั้งสงสัยลึกๆว่าตัวเองใกล้บ้าวะพอเห็นไอ้ตัวสีม่วงแทนที่จะขยะแขยงกลับนั่งยิ้มเฉย


    เหมือนแฟนมึงเลย แสกกลางฟูสัส


        ฉันเกลียดลู่ชะมัดเขาไม่เหมือนเดิมแล้วต่างหากดูหล่อกว่าที่ผ่านมาเยอะเหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคนฉันลุกนั่งแล้วมองไปที่เซฮุนเขานอนหลับตาพริ้มหันมาทางฉันใบหน้าเรียวสวยว่าผู้หญิงไหล่กว้างและฉันจะมองหาสวรรค์อะไร

    “อะไรมึง” เพราะเสียบสายหูฟังโทรศัพท์ฉันเลยรับอัตโนมัต


    “กูไปนอนกับมึงได้ป่ะรู้สึกว่าเป็นขี้เสือกยังไงไม่รู้แม่งจีบกันข้ามหัวกูเลย” เพิ่งรู้หรือยังไง


    “แล้วแต่เถอะ”


    “ห้ามทำอะไรแบคนะแจฮยอง เดี๋ยวเฮียไปหาสาว”


        ฉันได้ยินเสียงไปๆ ไกลๆจากปลายโทรศัพท์ไม่ใช่เสียงเพื่อนแบคซะด้วยยัยนั่นแรดเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่และสายก็ถูกตัดไปอีกพร้อมกับซิบเต้นที่ถูกรูดลงมันเดินเข้ามาแบบเหนื่อยๆแล้วรูดซิบเต็นขึ้นก่อนจะทิ้งตัวนอนบนพื้น


    “ไอ้จงอินชี้หน้ากูเฉยเลย ยูกูได้ข่าวว่ามึงยังไม่แดกอะไรเลยอ่ะขนมสองคนนั่นกูหยิบมาให้”เขาโยนน้ำส้มสองขวดนมสามกล่องกับขนมปังหลากหลายรสหกห่อมากองที่โซฟาฉันดูเป็นพวกตะกระขนาดนั้นเลยหรือไง


        ลู่หานกำลังจะโดดไปที่เตียงแต่กลับเห็นตัวอะไรบางอย่างที่จ้องมองอยู่มันก้มลงไปดูใกล้ๆแล้วมองมาทางฉันเป็นเชิงถามเพราะไม่มีคำตอบฉันเลยนิ่งไว้


    “หวังว่าพวกมึงคงไม่จีบกันข้ามหัวกูเหมือนคู่นั้นนะ” ฉันแกะขนมกินแล้วมองหน้าจอโทรศัพท์ต่อ...จะจีบได้ยังไง “เท้าอะอย่าเขี่ย ทำไมกูนอนใกล้แล้วอดใจไม่ไหวหรอ”


    “เออ อยากกดมึงซิบหาย”

    “เอาดิ เซฮุนข๊าเรามาฟีดเจอร์ริ่งกันเบเบ๊” อย่าคิดว่าเสียบสายหูฟังอยู่แล้วไม่ได้ยินนะฉันดึงออกแล้วโยนโทรศัพท์ไว้ข้างๆแล้วหันมองลู่หานที่ค่อมเซฮุนอยู่มันส่งสายตาหวานเยิ้มให้กันทำไม “อ่า อ๊า อย่าจับตรงนั้นสิ๊ เสียว อ๊า”

    “ให้ตาย...”

    “เห็นแค่นี้มาทำเป็นอยากตาย” ถ้าพวกที่อยู่ด้านนอกได้ยินมันจะคิดว่ายังไงละแล้วเสียงลู่หานก็ไม่ใช่จะแตกห้าวเหมือนผู้ชายด้วยนะ “เซฮุนหัวนมมึงสีชมพูอ้อ เหมือนของกูเลย”


        ผู้ชายสองคนถอดเสื้อออกเฉยๆท้าลมหนาวอีกคนอยู่ด้านล่างส่วนอีกคนนั่งโยกอยู่ด้านบนฉันควรจะทำอะไรต่อวะ นั่งมอง ด่า ห้าม ไม่สนใจ หรือ เข้าไปตบไอ้พี่เวรดีละ

     

    “ยูๆ เธอเป็นอะไรหรือเปล่า” ฉันรีบเดินไปรูดซิบลงแล้วชี้ไปยังสองตัวบนเตียงจงอินมองแล้วส่ายหน้าไปมาฉันเลยเดินออกมาด้านนอกแล้วรูดซิบเต็นกลับ

    “มันจะเอากันต่อหน้าฉัน”

    “ฉันนึกว่าเสียงเธอซะอีก พวกนั้นแอบฟังกันใหญ่” เขาชี้ไปที่พวกข้างกองไฟแล้วหัวเราะออกมา ก่อนจะหันมาหาฉัน“ไอ้ลู่แม่งชอบเล่นแรง เฝ้ายามด้วยกันไหม”

    “ง่วงมาก...” ฉันง่วงจริงๆแต่หลับไม่ลงแค่นั้น

    “ไปนอนเต็นฉันก่อนได้นะไม่มีใครนอนหรอกเฝ้าเวรทั้งคืน” เขาชี้ไปยังเต็นข้างๆฉันแล้วพยักหน้าให้ “ไว้ใจได้ ฉันแมนนะเว้ยไม่โกหกอยู่แล้ว”

    “เออ ขอบคุณ แล้วบอกพวกนั้นอย่าครางเสียงดัง รำคาญ” ฉันชี้ไปที่เต็นตัวเองแล้วตบไหล่จะอินแทนคำขอบคุณฉันเกลียดจริงๆเวลาหมอนี่ยิ้ม

     

     

     

     






        ฉันตื่นขึ้นมาไม่ใช่เต็นจงอินแต่เป็นเต็นของตัวเองเซฮุนนอนบนโซฟากับลู่หานสองคนนั้นนอนทับกันอยู่และฉันนอนบนเตียงของตัวเองนาฬิกาข้อมือบอกว่าเพิ่งตีห้าถึงจะอากาศหนาวเย็นแค่ไหนฉันก็ต้องอาบน้ำอยู่ดีเพราะความเคยชินไม่อย่างนั้นหัวฉันเหนียวแน่


        พออาบน้ำเสร็จฉันจึงเดินกลับไอ้พวกที่เฝ้ายามนอนอยู่รอบกองไฟกอดกันอยู่ที่นี่เงียบมีเสียงนกร้องเสียงใบไม้ที่ถูกลมพัดฉันเห็นเจ้าของรีสอร์ทเดินไปมาอยู่ฝั่งที่นั่งกินข้าวทุกอย่างในที่นี้มันสวยและเคล้ากับธรรมชาติได้ดีกว่าในเน็ตที่ฉันค้นซะอีก


    “ยู ตื่นเร็วจังนะเธอ”

    “นายมีปัญหากับฉันหรือไง แล้วได้นอนบ้างไหมวะ” จงอินพยักหน้าแล้วเอาแก้วอะไรสักอย่างยื่นมาให้ฉัน “โก้ๆ ฉันไม่กินหรอกกาแฟ ไม่ได้ใส่อะไรหน้าเธอมันเห็นฉันเป็นคนอย่างนั้นหรือไง” ฉันรับมาไว้แต่หมอนี่มันทำท่าเดินเข้ามาใกล้ฉันจึงต้องถอยหลังหลบ

    “อะไรของนายฮะ”

    “ผมเธอเปียกให้เช็ดให้ป่าว”

    “ไม่ต้อง”

    “ถ้าไม่ต้องก็กลับเข้าไปในเต็นก่อนที่ไข้หวัดจะมาเยือน นะยัยโหด” ไอ้หมอนี่มันผลักหัวฉันแล้วเดินไปทางครัวเฉยเลยกล้าดียังไง



        สองคนนั้นยังนอนทับกันเหมือนเดิมฉันเดินไปดึงลู่หานออกเบาๆกลัวอีกคนจะนอนไม่สบายแต่มันกลับตกลงมาที่พื้นตรงเท้าฉันซะงั้นมีเวลานอนอีกแค่ชั่วโมงกว่าๆแปดโมงก็ต้องไปแบกไม้กั้นแนวดินแล้วไม่อยากจะปลุก

    “เซฮุน” ฉันไม่ได้ปลุกแต่เขาจับขาฉันอยู่ไงบีบแน่นเลยคงจะละเมอหรือฝันแปลกๆอยู่ฉันดึงมือเขาออกแล้ววางไว้ที่หน้าท้องหนาวขนาดนี้ยังไม่ใส่เสื้ออีกผ้าห่มผืนเดียวยังแย่งกัน

    “ไม่เช็ดให้แห้งก็เป็นหวัดหรอก” ตกลงไม่หลับเขาดึงฉันลงไปแทนเซฮุนดึงผ้าที่พาดหัวฉันอยู่ถูที่หัวแรงๆอย่างนี้แถวบ้านฉันไม่เรียกว่าเช็ดหรอกมันทึ้งผมฉันอยู่ต่างหาก


        ฉันอยู่ในภาวะไม่มีอะไรจะพูดจริงๆเซฮุนยันตัวลุกขึ้นทำให้กลายเป็นว่าฉันนั่งค่อมเขาอยู่ในสภาพที่ล่อแหลมก็มันไม่ใส่เสื้อที่เช็ดผมฉันอยู่ไม่มองหน้ากันด้วยซ้ำฉันรู้เหตุแต่ไม่รู้ความคิดเขามันแปลกตรงที่ฉันยังนั่งให้เขาเช็ดหัวโดยที่ไม่ลุกออกไปแล้วถีบมันแรงๆสักครั้งสองครั้ง


    “....”


    “....”


    “โอ๊ย หิวโว๊ย” ฉันหันไปมองลู่หานที่นอนมองเราสองคนอยู่ตรงพื้นโซฟา “นั้นผัวกูนะยูมึงทำอย่างนี้ได้ยังไง กูเป็นพี่มึงนะ โอ๊ยถูกแทงข้างหลังทำไมเจ็บอย่างนี้...”


        ฉันว่าไม่น่าตื่นนะไอ้หมอนี่เกลียดชะมัดมันลุกนั่งแล้วทำท่าโหยหวนราวกับเสียคนรักไปและฉันก็ดูเป็นนางร้ายในตัวละครทันที

    “นายจะอธิบายเรื่องนี้ยังไงเซฮุน”

    “ฉันแค่เช็ดผมให้เธอ มึงจะงี่เง่าทำไม” เซฮุนโยนผ้าใส่หน้าลู่หานที่ทำหน้าโกรธอยู่แล้วจับเอวฉันไว้ด้วยความที่ตกใจฉันจึงตีเข้าที่ไหล่ไอ้คนใต้ร่างอย่างแรง “ทั้งพี่ทั้งน้อง”

    “ทำไมกูสองคนทำไม ยูมึงช่วยลุกออกจากผัวกูด่วนๆ” ฉันลุกออกจากตัวเซฮุนแล้วหยิบโทรศัพท์ของตัวเองที่อยู่บนพื้นข้างลู่หาน

    “งี่เง่าเหมือนกันทั้งคู่” พอจะเดินออกไปก็ได้ยินเต็มสองหูมันว่าฉันกับไอ้เวรงี่เง่าตัวเองดีตายห่าเลยนี่นอนด้วยกันแค่คืนเดียวเป็นผัวเมียกันเลยหรอฉันเกลียดทั้งสองออกไปหาจงอินแล้วชวนมันเถียงยังจะดีกว่า

     

     



    “เธอ” พอก้าวออกจากเต้นได้ผู้หญิงหัวทองก็เดินมาดักหน้าฉันแล้วยื่นคอส่งสายตาไปมองด้านในที่มีผู้ชายสองชีวิตเถียงกันอยู่ “เซฮุนนิ เขามาอยู่กับเธอได้ยังไงหรอ” เสียงที่เป็นมิตรแต่ใบหน้ากลับนิ่งเฉย “เขาบอกจะนอนกับฉันแต่ทำไมถึงมาอยู่เต็นเธอ”

    “...” ฉันรู้สึกหิวน้ำและอยากจะกินช็อกโกแลตแต่เช้าเลยทำยังไงรู้สึกความดันภายในร่างกายมันสูงขึ้นเพียงแค่ผู้หญิงน่ารักคนนี้จับแขน

    “เขาโกหกกันนี่น่า...ทั้งๆที่เราตกลงคบกันแล้วแต่ยังให้เกรียติฉันแล้วมาระบายกับเธอน่ารักเนอะว่าไหม” ฉันก็ว่างั้นแต่ผิดตรงที่เขาไม่ได้มาระบายกับฉันไงคบกันงั้นหรอแล้วมันมาเกี่ยวกับฉันตรงไหนไม่มีสักอย่าง “แล้วเธอชื่ออะไรหรอ...”

    “ชื่อยู”

    “ชื่อแปลกๆนะ ยู...” ฉันเดินออกจากสาวหัวทองแต่ก็ถูกรั้งแขนไว้อยู่ดีเธอจับแขนฉันเบาๆแล้วมองไปด้านในอีกครั้งก่อนจะหันมามองหน้าฉัน “เธอดูนิ่งมากเลยฉันชอบคนแบบนี้จะเป็นไรไหมถ้าเราจะเป็นเพื่อนกัน ฉันย้ายมาใหม่ ฮานิ คณะเดียวกับเซฮุนยินดีที่ได้รู้จักน๊า”

    “ฉันคนเดียวที่มีสิทธิเป็นเพื่อนยูได้ มาจากไหนก็ไปไกลๆ” น้องลู่หานแปลงร่างอีกแล้วเธอเดินมากับแบคฮยอนดูเหมือนจะทะเลาะอะไรบางอย่างกันมาแจฮยองดึงแขนผู้หญิงตัวเล็กออกแล้วหันไปเหวี่ยงก่อนจะลากฉันมาที่ต้นไม้ใหญ่


    “เป็นอะไรแจ”

    “ยัยหัวทองนั้นยั่วแบคแล้วยังกล้ามายุ่งกับเธออีกฉันหึง”

    “หึงใคร”

    “ทั้งสองนั้นแหละ ยู...อยากกลับอ่ะ”

    “จะกลับก็กลับไปสิมาบอกทำไม” ฉันเดินออกจากยัยบ้าสติแตกแล้วให้แบคมันเดินเข้าไปดูแทนสงสัยจะเป็นเอามากไม่เห็นเรียบร้อยเหมือนเมื่อก่อนเลย

    “ประสาทป่ะวะ”

    “เธอนั่นแหละประสาทยัยยูสมองกลับ” อ่าวแล้วมาว่าฉันทำไมอีกฉันยังไม่ทำอะไรเลยนะตื่นเช้ามาอาบน้ำกินโก้ๆ มองหน้าจงอินก็แค่นั้น

     





    “จงอินไม้ที่เตรียมมาจะพอไหม”

    “เก็บจากป่าแถวนี้ก็ได้ ไหนว่าพวกกิ่งไม้ก็ได้ไม่ใช่หรอ” ฉันพยักหน้าแล้วมองดูท่อนไม้และกิ่งไม้ที่เตรียมมาสาธิตรอแค่รวมตัวกันก็พอเรามีคนนำทางเป็นเจ้าของรีสอร์ทและหัวหน้าหมู่บ้านที่ดูแลในแหล่งทางน้ำเขตนี้ “จะว่าไปเธอก็สวยมากนะมีเด็กในสังกัดยัง”

    “เรื่องของฉัน อย่ามาอยากรู้เลยเหอะ” ถ้าเด็กปีสองตบหัวรุ่นพี่ปีสี่จะเป็นอะไรไหม

    “โหดอย่างนี้ใครจะเอา”

    “คงงั้นมั่ง” ฉันลองหักกิ่งไม้ดูเบาๆ “ไม้พุใช้ไม่ได้นะ”

    “แล้วมันโดนน้ำทุกวันจะไม่พังหรอ”

    “บอกแล้วว่ามันใช้ได้ชั่วคราวตอนฤดูฝนก็เท่านั้น ประธานภาษาอะไร ไม้นี่มันโดนน้ำทุกวันตะกอนก็จะติดช่วยได้อยู่แล้ว” ฉันฟาดกิ่งไม้เข้าหัวประธานจงอินเบาๆแต่เขากลับแย่งไปแล้วหักทิ้ง

    “ไม้พุไง เธอบอกใช้ไม่ได้”

    “ก็เอาไปจุดไฟดิ อย่ามาโยนทิ้ง” เขาเดินกลับไปเก็บแล้วเอาวางไว้ที่เสา

    “อะไรของมึงเนี่ยนรก เปลี่ยนคู่ขาแล้วหรอ”

    “เสือกน่า” ลู่หานทำท่าจะเตะ ฉันเลยดึงจงอินมาใกล้ๆให้รับหน้าแข้งไอ้กวางบ้าแทน

    “แตะกูทำไมเนี่ย ไอ้ห่า”

    “กูไม่ได้เตะมึง แต่มันถูกมึงกูผิดหรอ ใช่สิ๊ก็กูมันไม่สวยนี๊!

    “เฮ้อ เออๆ ไปเรียกน้องๆมาได้แล้วกูจะให้พรีเซนเตอร์อธิบายว่ายังไง ทำอะไร” ฉันขอผลักภาระนี้ให้แจฮยองเลยแล้วกันยังไงก็อธิบายให้ยัยคนหัวดีฟังหมดแล้วถ้าฉันอธิบายคงมีหลายคนไม่เข้าใจ

     

     

     

     





        เฮ้ย...มากักแนวดินไม่ใช่ให้มาเล่นน้ำเหลือฉันจงอินลู่หานที่ยังเป็นการเป็นงานอยู่อากาศตอนนี้ดีมากจะหนาวแต่ช่วงเย็นและตอนเช้าๆพอสายๆก็อบอุ่นพอดีๆฉันชอบนะ

    “ขุดอย่างนี้ใช่ไหม”

    “โง่” ฉันแย่งจอบจากมือประธานที่ถูกเลือกมาอย่างไรไม่รู้มาขุดเองยังจะดีกว่ากับอีแค่ขุดแล้วเอาไม้เสียบมันยากขนาดนั้นเลยหรือไง “เอาเสียบดิ ลู่มึงรีบตอกเลย”

    “ครับๆ เอาลึกป่ะ” มันเงยหน้ามาถ่ายรูปฉันแล้วถามขึ้น

    “เหลือไว้...สามคืบ”

    “เธอเก่งเนอะ นึกว่าโหดแค่นิสัย ดูดิผู้หญิงที่ไหนจะมาทำอย่างนี้”

    “รีบทำเถอะจะได้ให้พวกมันเลิกเล่นน้ำแล้วมามีสาระสักทีดูดิกล้องเยอะยิ่งกว่าถ่ายหนัง”


        ฉันหันไปมองก็เป็นอย่างที่ลู่หานว่าตกลงพวกนี้มาเที่ยวหรือยังไงกัน

    “พวกน้องครับ ทำตามที่พี่แจฮยองเคยบอกไว้นะ”

    “จงอินลวดอยู่ไหน”

    “อยู่กับลุงหัวหน้าหมู่บ้านอ่ะ เขาไปขอกำลังชาวบ้านที่ว่างๆมาช่วยอยู่ อ้อในกระเป๋าฉันก็มีนะแขวนอยู่ตรงกิ่งไม้นู้น”


        ฉันมองตามนิ้วจงอินมันห้อยอยู่บนกิ่งไม้ไอ้หมอนี่เอาลวดไว้ในกระเป๋ากุชชี่ตลกวะมันคิดได้ยังไงฉันเดินอย่างระวังกลัวจะล้มไปตามคำแซวของไอ้พวกเด็กนรกไปซะก่อนพวกนี้มันบ้ากันจริงๆ

    “เฮือก!” บนกิ่งไม้เป็นกระเป๋าจงอินแต่ด้านล่างพื้นหญ้าเป็นงูและแทบไม่ต้องคิดว่ามีพิษไหมดูจากลวดลายแล้วแทบไม่ต้องเดา

    “อยู่นิ่งๆ หายใจช้าๆ” ไม่ต้องบอกฉันคงทำอยู่แล้วรู้ไหมว่านอกจากจะกินอาหารทะเลเข้าไปฉันไม่เคยกลัวอะไรเท่าสัตว์ไม่มีขาอย่างไอ้ตัวที่แผ่แม่เบี้ยอยู่ตรงหน้าเลย


    อย่าเพิ่งช็อกหรือเป็นลมไปนะยู


        ฉันได้แต่บอกตัวเองไปอย่างนั้นฉันจ้องกับมันเกินสิบนาทีไม่ได้นะอาจจะเข้าโรงบาลเพราะหัวใจวายแน่ๆรับประกัน

    “พวกมึงอย่าเข้ามานะ งูอยู่ตรงหน้ายู” ฉันได้ยินเสียงจากด้านหลังฉันรู้ว่าเป็นเซฮุนและไม่คิดว่าหน้าอย่างมันจะรู้เรื่องฉลาดเช่น การให้ยืนจ้องหน้ากับงู


        มันเลิกแผ่แม่เบี้ยแล้วเลื้อยเข้าป่าไปแล้วแต่ขาฉันสั่นบ้าจริงอยู่ๆก็อยากร้องไห้

    “ยูเป็นไงบ้าง”

    “แบค กูๆ ไม่เค” ฉันลากมือสั่นๆไปที่ไหล่แบคฮยอนแน่นอนมันรู้ว่าฉันกลัวแค่ไหนมันกอดเอวฉันแล้วยกขึ้นให้ยืนก่อนจะอุ้มออกมาจากตรงนั้น

    “ปล่อย”

    “มันช็อกสัสมึงจะมาออกอาการอะไรตอนนี้”

    “ปล่อยมาให้กู”

    “...”




























    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×