ลำดับตอนที่ #147
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #147 : ตอนที่ยังไม่ได้ตั้งชื่อ
✿ Application ✿
"วันนี้ท้องฟ้าก็ยังแจ่มใสเหมือนเดิมเลยนะคะ"
"ถึงชีวิตของคนเรานั้นบางครั้งไร้ทางเลือกใด แต่เราน่ะ สามารถสร้างทางเลือกนั้นให้กับตนเองได้ค่ะ ฉันเชื่อมั่นแบบนั้น"
คู่ :: อาคาชิ เซย์จูโร่
ชื่อ :: โนบาระ ซากิ [Nobara Saki]
ชื่อเล่น :: ซากิ , คุณครูซัตจัง [Saki / satchan sensei]
ความหมายของชื่อ :: โนบาระ - กุหลาบป่าริมทาง
ซากิ - ดอกไม้แห่งความหวัง
ชื่อโนบาระ ซากิ ที่มีความหมายแบบนั้นก็เหมือนจะสื่อว่า ถึงแม้เธอจะเป็นดอกไม้ดอกเล็กๆ ที่เบ่งบานอย่างเจือจางอยู่ข้างทาง อาจจะไม่มีคนสังเกตเห็น อาจไม่สวยงามโดดเด่น แต่ว่าถ้าหากสักวันดอกไม้ริมทางดอกนี้สามารถสรรสร้างรอยยิ้มหรือความหวังเล็กๆ ให้กับผู้คนที่ได้สังเกตมันแล้วล่ะก็ นั่นคงจะดีที่สุดแล้ว พ่อกับแม่ของซากิตั้งชื่อต้นนี้ให้ก็เพราะอยากให้เธอได้กลายเป็นความหวังของใครบางคน ได้กลายเป็นแสงสว่างสำหรับใครสักคน
อายุ :: 24 ปี
ลักษณะรูปร่างหน้าตา :: หญิงสาวมีใบหน้าสวยหวานที่อาจพบเห็นได้ทั่วไป หากรอยยิ้มของเธอก็สามารถสะกดตรึงผู้คนที่ได้มองชั่วเสี้ยวเวลา เธอมีเรือนผมสีขาวปลอดประหลาดตายาวสลวยล้อมกรอบใบหน้ามนรูปไข่ นัยน์ตากลมโตสีทรายที่ทอประกายเเห่งความหวังอยู่ตลอดเวลา ริมฝีปากสีชมพูซีดที่ประดับด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนสายหนึ่งที่พอผู้คนที่ได้ลองมองรอยยิ้มเธอแล้วก็มักจะรู้สึกราวกับได้รับการปลอบประโลม รูปร่างผอมบางดูราวกับตุ๊กตากระเบื้องที่พร้อมแตกสลายหากไปสัมผัสแรงเกินไปสักเล็กน้อย ผิวขาวซีดเซียวแทบจะไร้สีเลือด จนทำให้แค่มองมาก็รู้ได้ทันทีว่าเธอนั้นอ่อนแอและขี้โรค แต่โดยรวมแล้วตัวซากิเองก็จัดได้ว่าเป็นหญิงสาวน่ารักและมีเสน่ห์คนหนึ่งก็ว่าได้
ลักษณะคำพูด :: ซากิเป็นหญิงสาวที่พูดจาสุภาพและมีสัมมาคารวะ เธอให้เกียตริผู้ที่เธอพูดด้วยเสมอแต่ก็ไม่ได้ใช้น้ำเสียงหรือคำพูด
เป็นทางการเสียจนน่าอึดอัด จะประมาณความรู้สึกเวลาพูดกับหญิงสาวคนนี้ว่าเหมือนพูดกับครอบครัวหรือเพื่อนสนิทที่ทำให้สบายใจก็ได้ ด้วยน้ำเสียงสดใสราวกับแก้ว และรอยยิ้มเล็กๆ แสนอ่อนโยนเป็นมิตรที่มักจะเผยเวลาพูดคุยกับผู้อื่นเสมอไม่ว่าจะรู้จักกันดีหรือรู้จักกันผิวเผินก็ตาม ก็ทำให้ทุกๆ คนรู้สึกดีเวลาได้คุยกับเธอมากแล้วล่ะ ซากิมักเรียกแทนตนเองว่า ฉัน ถ้าหากเรียกคนอื่นที่ไม่สนิทสนมมากนักหรือว่าอายุมากกว่าก็จะเติมคำว่าคุณ (ซัง) แต่ถ้าเป็นรุ่นเดียวกันหรือรุ่นน้องและสนิทกันก็จะลงท้ายว่า จัง/คุง แต่เธอก็ไม่เคยเรียกชื่อต้นใครเลยสักครั้ง ตัวหางเสียงเองก็แตกต่างไปตามบุคคล ส่วนใหญ่ก็จะลงท้ายด้วย ค่ะ/คะ แต่กับเด็กๆ อนุบาลจะเป็น จ้ะ/จ๊ะ แทน
ยกตัวอย่างการพูดของโนบาระ ซากิ
"อรุณสวัสดิ์จ้ะ ฟุตามิคุง (นามสมมุติ) วันนี้อากาศดีเนอะ อารมณ์ดีแต่เช้าเชียว" - พูดกับเด็กอนุบาล
"ขอบคุณที่ให้คำแนะนำนะคะ (นามสมมุติ)ซัง" - พูดกับผู้อาวุโสกว่าหรือไม่สนิทกัน
"น่าสนุกจังเลยนะคะ เด็กๆ เองก็ต้องชอบมากแน่ๆ เลยล่ะ" - มีเพื่อนร่วมงานแสดงความเห็นที่ดีๆเกี่ยวกับวันกีฬาสี
"คุณน่ะ มีแววตาที่เหมือนกับน้ำแข็งไม่มีผิดเลยนะคะ" -..........
"ถ้าหากเรายังเชื่อมั่นในความหวัง สักวันหนึ่งความสุขที่เฝ้าหามันต้องมาถึงแน่ๆ เลยล่ะค่ะ"
"อย่าทำร้ายคนอื่นเพื่อปกป้องตนเองเลยนะคะ เพราะสุดท้ายสิ่งที่ได้รับกลับมามันคือความเจ็บปวดค่ะ"
"น่ารักจังเลยนะ นี่ให้ครูเหรอจ๊ะ" - เด็กเอารูปวาดมาให้
ส่วนสูง :: 159 ซม.
น้ำหนัก :: 41 กก.
อาชีพ :: คุณครูในโรงเรียนอนุบาลเล็กๆ ไม่มีชื่อเสียงนัก
วันเกิด :: 15 / 05 / 1xxx
ราศี :: พฤษก
กรุ๊ปเลือด :: AB - (เนกาทีฟ)
ลักษณะนิสัย :: อืม....ถ้าหากจะเริ่มกล่าวถึงนิสัยของหญิงสาวนามว่าโบาระ ซากิ คนนี้แล้วล่ะก็...นั่นสินะ งั้นก็เริ่มจากนิสัยที่เห็นได้ชัดจากผู้คนรอบด้านก่อนเลยแล้วกัน
คุณสมับัติเรื่องความเป็นกุลสตรีไม่ต้องพูดถึง เพราะเธอคนนี้เพรียบพร้อมทุกระเบียบนิ้ว
โนบาระ ซากิ พูดได้ว่าเพอร์เฟ็คเรื่องความเป็นกุลสตรีที่ดีพร้อม นั่นเป็นเพราะตั้งแต่เด็กๆ เธอก็ต้องใช้ชีวิตอย่างพึ่งพาจัดการตนเอง และคอยดูแลงานบ้านแทนคุณยายคุณตาที่หาเงินส่งเสียเลี้ยงดูเธอ เพราะแบบนั้นเด็กสาวคนนี้จึงถนัดการทำงานบ้านแบบจัดการได้เรียบเนียนกริบรวดเร็วเสียยิ่งกว่าเเม่บ้านมือโปร แถมเธอยังพูดเองเสียด้วยว่าเวลามีเรื่องทุกข์ใจงานบ้านนี่ล่ะที่ดีคอยเป็นเครื่องระบายทุกข์ แหม่...จะให้พูดก็พูดแบบนี้มันไม่ต่างจากคนชอบทำงานบ้านเข้ากระแสเลือดไม่ใช่หรือ (ผิด) นอกจากเรื่องงานบ้านงานเรือนจะสมบูรณ์แบบแล้ว ซากิยังมีเสน่ห์ปลายจวัก สามารถทำอาหารออกมาได้อร่อยมาก แน่นอนว่ามันอาจไม่ใช่อาหารทีหรูหราอะไร แต่คนที่ได้กินไปบอกว่ามันอร่อยเสียยิ่งกว่าร้านแพงๆ นั่นเพราะทานแล้วให้ความรู้สึก 'อบอุ่นหัวใจราวกับว่าคนทำใส่ความรักลงไปในทุกขั้นตอน' ที่ทำได้ขนาดนั้นเพราะซากิอยากที่จะเรียนรู้การทำอาหารอร่อยๆ ไว้ตั้งแต่เด็กๆ เพื่อที่อย่างน้อยๆ เวลาที่คุณตาคุณยายกลับบ้านมาแล้ว จะได้มีความสุขและมีรอยยิ้มจากอาหารของเธอ พอทำไปเรื่อยๆ จนโต มันก็เลยกลายเป็นความชอบทำอาหารไปเสียอย่างนั้น นอกเหนือจากเรื่องที่แม่บ้าน..แค่ก กุลสตรีที่ดีควรมี ซากินั้นยังเป็นคนที่มีความสง่างามในกริยามารยาทโดยอัตโนมัติ ทั้งๆ ที่เจ้าตัวไม่ได้ตั้งใจทำก็ตาม และเธอยังมีความสามารถพิเศษคืองานประดิษฐ์ เช่นของจำพวก ตุ๊กตาคุณหมีทำมือ (ส่วนใหญ่มักทำไปเป็นของรางวัลให้เด็กอนุบาลที่โรงเรียน) กระเป๋าผ้าน่ารักๆ หรือพวกสิ่งของที่ทำจากไหมพรม ผ้าพันคอ การถักนิตติ้งสวยๆ ของพวกนี้คืองานอดิเรกที่ไม่ต้องใช้เรี่ยวแรงเยอะซึ่งเธอสันทัดมากที่สุด และมีความสุขทุกครั้งที่ได้ประดิษฐ์ประดอยของน่ารักๆ เหล่านี้มาเป็นของขวัญให้คนอื่นๆ ได้มีรอยยิ้ม และยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ซากิยังสามารถเล่นดนตรีได้ดีอีกด้วย โดยดนตรีที่เจ้าตัวชอบเล่นเป็นประจำคือเปียโน (ส่วนใหญ่ชอบมาเล่นคนเดียวในห้องดนตรีของรร.อนุบาลหลังเลิกเรียน) เพราะซากิถือว่าเปียโนนี้เป็นความทรงจำที่มีค่าที่เธอและคุณพ่อกับคุณแม่มีร่วมกัน
อุปนิสัยน่ะหรือ เธอคือนางฟ้ากลับชาติมาเกิด
เจ้าตัวเองนั้นมีความขี้เกรงอกเกรงใจ สุภาพ และอ่อนน้อม นั่นทำให้เป็นที่รักที่เอ็นดูของคนรอบข้าง ซากิมักเอาใจใส่กับความรู้สึกของผู้คนรอบตัว ถึงบางครั้งจะเอาใจใส่มากไปจนไม่นึกถึงตัวเอง ซึ่งนั่นอาจนับเป็นข้อเสียอย่างหนึ่งของเจ้าตัวก็ได้ ด้วยความที่ช่างเอาใจใส่ความรู้สึกคนอื่น ทำให้กลายเป็นคนเจ้าสังเกตสังกาคนรอบตัว (แต่ไม่ถึงขนาดจับผิดหรอกนะ) เรียกได้ว่าใครที่กำลังเศร้าใจ ไม่สบายใจ เคร่งเครียด ฯลฯ ตัวซากิเองก็มักจะสังเกตเห็นก่อนเป็นคนแรกๆ เสมอ และคอยหาทางช่วยเหลือเท่าที่ตนเองจะทำไหว (และบางครั้งก็ทำให้ตนเองลำบากกว่าเสียเอง) ถึงแม้ซากิจะมีความสามารถหลายๆ ด้านเพรียบพร้อม แต่ก็ไม่เคยหยิ่งผยองหรืออวดอ้าง กลับกัน เธอมักจะชื่นชมผู้อื่นมากกว่าตัวเองเสียด้วยซ้ำ อาจเพราะตัวซากิเองไม่ใช่คนมีความมั่นใจสูงอะไรเท่าไหร่นักก็ด้วย ถ้าหากเธอเห็นผู้อื่นทำอะไรพลาด พนันกันมั้ย คุณจะเห็นว่าซากิวิ่งเข้าไปหาคนๆ นั้นเป็นคนแรกและกล่าวให้กำลังใจด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนของเธออย่างแน่นอน นอกเหนือจากนิสัยพวกนั้นแล้วนิสัยอีกอย่างที่ทำให้คนอื่นนิยมชมชอบในตัวเธอคือ เธอเป็นคนมีมารยาทดีมากและสุภาพกับทุกคนเสมอ ซ้ำยังมีน้ำใจชอบแบ่งปันและช่วยเหลืออีกด้วย แต่ถึงเจ้าตัวจะไม่มีความยโส ไร้ซึ่งอีโก้ แต่มีความภาคภูมิใจในศักดิ์ศรีของตน และไม่จะยอมให้ใครมาดูถูกศักดิ์ศรีของตนหรือคนรอบตัว ถึงเวลาโกรธเจ้าตัวก็ไม่มัวมานั่งตัวสั่นหรือหวาดกลัว แต่พร้อมกางแขนเพื่อปกป้องคนสำคัญทุกๆ คน โดยไม่สนใจว่าตนจะเป็นยังไง
เอาล่ะ มาพูดเรื่องอุปนิสัยกันต่อ ถ้าหากพูดถึงโลกปัจจุบัน ใครๆ ก็คงอาจมองมันเป็นเทาไม่ก็ดำหรือไม่ก็ขาวบริสุทธิ์ไปเลย แต่เด็กสาวกุหลาบป่าคนนี้นั้นมองโลกเป็นสีสันมากมายค่ะ มีทั้งสีสันสดใส สีดำมืดหม่น สีบริสุทธิ์ เพราะเธอไม่คิดว่าในตัวคนๆ หนึ่งจะมีแค่สีดำหรือขาว แต่พวกเขามีอะไรอยู่ในนั้นมากมาย จะว่าหญิงสาวมองโลกในแง่ดีก็ไม่ใช่ เธอแค่มองโลกอย่างที่มันเป็นและไม่เติมแต่งอะไรลงไป ไม่ว่าจะเป็นอคติ ทิฐิ หรือสิ่งที่คนอื่นเขากำหนดกัน ซากินั้นไม่เคยมองคนที่ภายนอกแต่จะพยายามมองให้เห็นเนื้อแท้ของคนๆ นั้นโดยใช้เหตุผลและความเข้าอกเข้าใจ เชื่อมั่นว่าชีวิตคนเราสามารถสร้างทางเลือกได้เสมอ อาจเพราะคุณตาคุณยายสั่งสอนเอาไว้ หรือไม่ก็คงเป็นเพราะจิตใจของหญิงสาวคนนี้บริสุทธิ์มากเหลือเกิน เจ้าตัวถึงเป็นคนมีความเกรงใจคนอื่น แต่ถ้าหากมีอะไรที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สมควร เธอก็จะเอ่ยตักเตือนตรงๆแบบไม่อ้อมค้อม (น่าแปลกใจที่คนที่เคยโดนซากิตักเตือนไป(อย่างสุภาพ)แทบไม่เคยโกรธเคืองอะไรเธอเลย) นอกจากนั้นซากิยังมีความอ่อนโยนและเรียบร้อยอ่อนหวาน มักทำให้ใครต่อใครก็ตามที่ได้พบเจอพูดคุยต่างก็รู้สึกสบายใจเปรียบเสมือนเป็นที่พักพิงใจของคนรอบๆ ตัว ทั้งเข้าใจและคอยปลอบโยน ราวกับแสงสว่างที่อบอุ่น ตัวซากินั้นรักที่จะได้เห็นรอยยิ้มมีความสุขของผู้คน เคยมีคนถามว่า 'ความสุขของซากิซังคืออะไรงั้นเหรอ?' ตัวคนถูกถามก็กระพริบตาปริบๆ แล้วค่อยแย้มยิ้มพร้อมตอบด้วยน้ำเสียงอันแสนอ่อนโยน 'ความสุขของฉันหรือคะ การที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ คอยมองรอยยิ้มของทุกคน และคอยช่วยเหลือใครสักคน แค่นี้ก็พอแล้วล่ะค่ะ แค่นี้ก็เป็นความสุขที่ดีที่สุดแล้ว' ถ้าหากเป็นคนอื่นที่ไม่รู้จักมักจี่คงคิดว่าหญิงสาวคนนี้พูดเพื่อให้ตนดูดีเฉยๆ หรือไม่ แต่นั่นไม่ใช่กับคนที่รู้จักหญิงสาวดี เพราะรู้ว่าคำพูดนั้นกรองมาจากใจของเธอจริงๆ และเพราะหญิงสาวเป็นคนโกหกไม่เป็นเสแสร้งไม่เคยทำ ถ้าหากเผลอโกหก (ด้วยหวังดี) แล้วก็จะแสดงท่าทางที่ทำให้ดูออกง่ายดายมาก
และถ้าถามว่า เอ๊ะ แล้วหญิงสาวที่เหมือนเพิ่งบวชชี...แค่ก...แสนดีคนนี้เคยโกรธใครบ้างมั้ยเนี่ย ก็คงต้องบอกว่า แทบไม่เคยเลย ไม่ใช่แค่เพราะเจ้าตัวเป็นคนใจเย็นและมีเหตุผล แต่เป็นเพราะเธอเป็นคนที่ขี้ใจอ่อนและโกรธใครไม่ค่อยเป็นต่างหากล่ะ ด้วยความเป็นพระแม่..แค่ก..แม่พระทำให้เธอเลือกที่จะปลง...เอ่อ ปล่อยวาง และคิดว่าการถือโทษโกรธคนอื่นนั้นมีแต่ทำให้ตัวเราเป็นทุกข์ใจ (บวชมั้ยแม่...#ผิด) แต่ถึงอย่างนั้นใช่ว่าจะไม่เคยโกรธนะ แต่เธอไม่เคยถือโทษโกรธใครที่มาเอาเปรียบ ว่าร้าย หรือทำร้ายเธอ แต่ถ้าหากมาทำร้ายคนรอบตัว หญิงสาวแสนดีคนนี้ก็พร้อมจะโกรธเหมือนกัน แต่โดยปกติเจ้าตัวก็เป็นคนใจเย็นและมีเหตุผล มักเป็นตัวกลางคอยไกล่เกลี่ยปัญหาให้ผู้อื่นอยู่เสมอ เจ้าตัวมีความเป็นผู้ใหญ่กว่าที่เห็นภายนอก ในบางครั้งกลับแสดงภาวะผู้นำออกมาโดยที่แม้แต่ตัวเองยังไม่รู้ตัว ซากิคิดไตร่ตรองอะไรรอบคอบก่อนตัดสินใจ และคอยฟังความเห็นคนอื่นเสมอ เป็นคนฉลาดดหัวไว คิดอ่านอะไรได้อย่างรวดเร็ว ถึงจะดูเป็นคนสบายๆแต่ก็มีมุมจริงจังอยู่ในบางครั้งเฉพาะกับเรื่องเคร่งเครียดจริงๆ (ส่วนใหญ่เป็นความจริงจังตั้งใจเพื่อช่วยเหลือคนอื่นด้วยนะ) ขยันขันแข็ง มีความพยายามและมีความอดทนอดกลั้นสูง เธอเชื่อมั่นว่า ถ้าหากไม่ละทิ้งความพยายามและความหวัง เรื่องทุกอย่างต้องผ่านไปได้ (ถึงในหลายๆครั้งจะพยายามจนฝืนร่างกายและสังขารที่ป่วยเรื้อรังของตัวเอง) จริงๆ อนาคตไปได้ไกลแต่ทว่าติดปัญหาเรื่องความสะดวก สุขภาพและฐานะ เจ้าตัวที่รักเด็กเลยเลือกมาทำงานเป็นครูอนุบาล
อ้อ ลืมบอกไป ซากิน่ะชอบของน่ารักๆ โดยเฉพาะเด็กๆ กับสัตว์ มากๆ เลยล่ะนะ แถมยังมีฟีโรโมนประหลาดที่ดึงดูดเด็กๆ กับพวกสัตว์น้อยสัตว์ใหญ่อีก เวลาอยู่ที่โรงเรียนอนุบาลเจ้าตัวเลยเป็นคุณครูซัตจังที่ป๊อปปูล่าห์ในหมู่เด็กน้อยสุดๆ และเธอก็ชอบที่จะได้ดูแลเด็กๆ เสียด้วยสิ ว่ายังไงดี เห็นเพื่อนร่วมงานรวมถึงคนรู้จักชอบพูดว่า 'ซากิน่ะเหรอ อืม...มีบุคลิกของ คุณแม่ ล่ะนะ เด็กๆ เขาถึงได้ติดกันเกลียวเลยไงล่ะ' นอกจากนั้นคุณแม่ประจำโรงเรียนอนุบาล (แค่กๆๆ) ก็ไม่ประสีประสาเรื่องของความรักเลยแม้แต่นิดด้วยล่ะ ไม่ใช่ไร้เสน่ห์ไม่มีคนมาจีบนะ มีและมีพอสมควรเลยล่ะ แต่เจ้าตัวก็หาทางเลี่ยงเรื่องพวกนี้ทุกครั้งไป จนอายุขึ้นเลขสองแล้วยังไม่เคยมีประสบการณ์ในการเดทหรือแม้กระทั่งจูบแรกเลยด้วยซ้ำ เชื่อรึไม่ หญิงสาวคนนี้มีความเชื่อในรักแรก รักเดียว และรักสุดท้าย เพราะฉะนั้นเธอเลยเป็นหญิงสาวหัวโบราณที่ตั้งมั่นว่าจะไม่ยอมคบกับคนอื่นแบบมั่วๆ คนที่เธอจะคบหรือเดทด้วยนั้น จะต้องเป็นคนแรกและคนสุดท้ายของเธอ เคยมีคนถามเธอว่า 'ซากิซัง ถ้าหากเชื่อในรักแท้แบบนี้ งั้นเชื่อในรักนิรันดร์ด้วยหรือเปล่า แบบต่อให้คุณตายไปฉันก็จะรักคุณไปตลอดกาล อะไรแบบนั้นน่ะ' หญิงสาวทำหน้าครุ่นคิดไปพักหนึ่งแล้วตอบด้วยน้ำเสียงเศร้า 'ถึงจะเชื่อ แต่ฉันไม่อยากให้คนที่ฉันรักต้องยึดติดกับฉันถึงแม้ฉันจะตายไปก็เถอะนะคะ ถ้าหากฉันจะตายไปในสักวัน ก็อยากให้คนที่ฉันรัก ได้เจอกับคนที่จะสามารถรักเขาและอยู่กับเขาต่อไปได้ค่ะ'
ภายใต้รอยยิ้มแสนอ่อนโยน กลับซ่อนอะไรไว้มากมาย
อย่างที่รู้ๆ กัน ซากิคือหญิงสาวแสนดีที่เข้าอกเข้าใจผู้อื่น คอยปลอบโยนและช่วยเหลือ ทุกๆ คนสบายใจเวลาที่ได้อยู่กับเธอ แต่ภายใต้รอยยิ้มอ่อนโยน ภายใต้ความมีชีวิตชีวา กลับซ่อนความเศร้าและความทุกข์มากมายไว้ได้อย่างแนบเนียน เจ้าตัวเอาใจใส่ความรู้สึกคนอื่น แต่ไม่สนใจไม่ว่าตนจะเจอเรื่องเจ็บปวดอย่างไรบ้าง อันที่จริงเจ้าตัวที่เป็นคนสุขภาพร่างกายไม่แข็งงแรงเท่าคนปกติก็เป็นคนอ่อนไหวมากเช่นกัน แต่เลือกที่จะเผยรอยยิ้มและใช้ชีวิตอย่างเข้มเเข็ง เพราะรักที่จะเห็นรอยยิ้มของทุกคน เพราะไม่อยากให้ใครต้องมาเศร้าหรือกังวลใจเรื่องของเธอ เจ้าตัวจึงเลือกที่จะเก็บทุกอย่างไว้ในใจไม่บอกระบายกับใครแม้กระทั่งกับคุณตาคุณยาย (เอาไประบายกับถังซักผ้า...#ผิด) ในหลายต่อหลายครั้งที่เธอเหนื่อยเกินกว่าสองบ่าเล็กบอบบางจะเเบกไหว เจ้าตัวก็จะไม่ยอมร้องไห้ ไม่เคยร้องไห้กับความอ่อนแอของตน และมักหันไปมองตนเองในกระจกแล้วยิ้มขึ้นมาพร้อมให้กำลังใจตนเองว่า 'สู้ๆ ทุกอย่างต้องไม่เป็นไร' ก็ได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่ง จะมีคนมองเห็นความเศร้าที่อยู่ลึกลงไปของหญิงสาวและช่วยปลอบโยนมัน....
ประวัติส่วนตัว :: แต่เดิม บ้านโนบาระมีสมาชิกห้าคนกับอีกหนึ่งตัว คือคุณพ่อที่ทำงานเป็นคุณครูสอนดนตรีโรงเรียนมัธยม คุณแม่ที่เป็นแม่บ้าน คุณตากับคุณยายและเจ้าหมาพันธุ์มาเมะชิบะชื่อมาสะ บ้านของเธอ โลกของเธอ คือบ้านสองชั้นซึ่งเป็นสถานที่ๆ ครอบครัวของเธออาศัยอยู่ ฐานะทางบ้านของซากิคือปานกลางไม่ร่ำรวยแต่ไม่ยากจน ถึงแม้เธอจะป่วยเป็นโรคหัวใจตั้งแต่เด็กๆ และไปโรงเรียนไม่ค่อยได้ทำให้ไม่ค่อยมีเพื่อน แต่มีคุณพ่อคุณแม่ที่แสนอ่อนโยน คุณตาคุณยายผู้ใจดี และเจ้ามาสะที่ทำตัววุ่นวายที่ก็รักเธอไม่แพ้ใคร เท่านี้ก็ทำให้เด็กสาวโชคร้ายที่ป่วยกระเสาะกระแสะมีกำลังใจในการมีชีวิตอยู่ต่อไป จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น....
ในตอนที่โนบาระ ซากิ อายุได้เจ็ดขวบ เธอก็ต้องพบกับการศูนย์เสียคนที่เป็นที่รักไปตลอดกาลอย่างตั้งตัวไม่ทัน จู่ๆ ก็มีโทรศัพท์จากโรงพยาบาลโทรมา บอกว่าพ่อกับแม่เธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตทั้งคู่ จู่ๆ เด็กสาววัยเจ็ดปีต้องพบเจอเรื่องราวที่ทำให้หัวใจเเทบเเตกสลายเป็นเสี่ยงๆ ในวินาทีนั้นเธอยังจำได้แม่นยำไม่มีวันลืมเลือน เสียงคุณตาคุณยายที่ร้องไห้พร่ำบอกคำปลอบโยนไม่ได้เข้าหูเธอ เธอไม่รู้สึกถึงสัมผัมอบอุ่นที่กอดเธอเอาไว้ จำได้แค่ว่าตัวเองร้องไห้อย่างสุดเสียงและหายใจไม่ออก ที่หน้าอกแน่นไปหมด จนคุณตาคุณยายต้องรีบไปเรียกคุณน้าข้างบ้านให้มาพาเธอไปโรงพยาบาล เด็กสาวตื่นมาโดยที่ยังคงพบความจริงอันโหดร้าย เรือนผมที่เคยเป็นสีดำก็กลับกลายเป็นขาวโพลนทั้งศีรษะเป็นผลมาจากความเครยีดและเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับจิตใจของเธอ หลังจากนั้นเหมือนว่าโชคร้ายยังคงไม่ปราณี เนื่องจากบ้านที่อยู่ยังผ่อนไม่หมด และเงินประกันของคุณพ่อไม่ได้มากมายอะไรนัก คุณตาคุณยายจึงต้องพาเธอระหกระเหินมาอยู่ในอพาร์ตเม้นทเล็กๆ ถูกๆ และคนชราสองคนที่ตั้งมั่นว่าจะดูแลหลานสาวของตนก็เริ่มทำงานหามรุ่งหามค่ำ ซากิไม่พูดไม่จาไม่ตอบสนองอะไรกับใครเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็มตั้งแต่คุณพ่อกับคุณแม่จากไป ร่างกายที่ผอมบางอยู่แล้ว ยิ่งผอใบางลงไปอีกจนแทบจะเรียกได้ว่าเธอเหมือนร่างกายไร้วิญญาณ จนสุดท้าย ในวันหนึ่งคุณตาคุณยายที่เห็นสภาพอันน่าเวทนาของหลานสาวผู้เป็นแก้วตาดวงใจ ก็เข้ามากอดเธอไว้และร้องไห้ นั่นทำให้ซากิคิดได้ว่าเธอไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ยังคงมีอยู่....ยังมีคุณตาคุณยายอยู่ เจ้ามาสะเห่าเสียงดังแล้วเข้ามาเลียใบหน้าที่เปื้อนน้ำตามากมายของเด็กสาว โดยที่เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอร้องไห้ออกมาตอนไหน
................'ใช่แล้ว ชีวิตของฉันมันไม่ได้สิ้นสุดเพียงเท่านี้เสียหน่อย'.................
หลังจากวันนั้น สภาพจิตใจของเด็กสาวก็กลับมาดีขึ้นทีละน้อย เธอเริ่มทานข้าว ออกไปเดินข้างนอกบ้าน และเริ่มฝึกทำความสะอาด ทำอาหาร (โดยที่คุณยายสอนบ้างเวลาที่ท่านว่างจากงาน) ดูแลบ้าน และถึงแม้จะใช้เวลาไปกว่าครึ่งปี เด็กสาวตัวน้อยก็เริ่มมีรอยยิ้มอีกครั้ง เธอเข้าสอบเทียบชั้นได้ ทำให้ไม่ต้องเรียนช้ากว่าคนรุ่นเดียวกัน และตั้งใจเรียนให้สมกับความเหนื่อยของครอบครัวเพียงสองคนที่เหลืออยู่ (จนจบตรีมหาวิทยาลัยรัฐ(ได้ทุน)แห่งหนึ่ง และเจ้าตัวก็เลือกที่จะมาเป็นครูอนุบาล) ซากิเปลี่ยนตนเองให้เข้มแข็งขึ้น ให้ตนเองดีขึ้น ไม่ต้องสร้างความลำบากใจให้เเก่คุณตาคุณยาย ที่เจ้าตัวเริ่มกลายเป็นคนที่คอยเอาใจใส่คนอื่นเพราะเคยรับรู้ว่าช่วงเวลาเเสนเจ็บปวดนั้นมันทรมาณขนาดไหน อย่างน้อยๆ เธอก็ไม่อยากให้ใครก็ตามต้องเศร้าเสียใจเพียงลำพัง
แต่ถึงจะมีสภาพจิตใจดีขึ้นอย่างไร โชคร้าย...ที่สภาพร่างกายและโรคที่เป็นอยู่ของหญิงสาวไม่ได้ดีขึ้นตาม โรคหัวใจที่เหมือนจะคงสภาพปกติ แต่ในบางครั้งก็แผลงฤทธิ์ร้ายกาจ ซากิไม่สามารถรักษาโรคหัวใจที่เป็นมาตั้งแต่เกิดให้หายขาดได้ เธอทำได้เพียงต่อสู่และไม่ยอมแพ้ต่อโรคร้าย ที่ถึงแม้มันจะรุนแรงขึ้นในทุกๆ วัน เหมือนจะเตือนให้เธอตระหนักว่าเวลาของเธอเหลืออีกไม่มากนัก นั่นทำให้หญิงสาวยิ่งใช้ชีวิตในทุกวันให้เต็มที่และไม่นึกเสียใจภายหลังเท่านั้น
งานอดิเรก :: เย็บปักถักร้อย งานประดิษฐ์งานฝีมือ ทำอาหาร ทำความสะอาด ดูแลเด็กๆ เล่นเปียโน
ชอบ :: ของน่ารักๆ โดยเฉพาะสัตว์กับเด็ก , รอยยิ้มที่มีความสุขของผู้คน
แพ้ :: สถานที่แออัดและอากาศร้อน มันทำให้โรคหัวใจเธอกำเริบได้ง่ายกว่าปกติ
เพิ่มเติม :: ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษแล้วนะครับ
Talk To Me
✿ สวัสดีค่ะ..เราไดอาน่าเองง จะเรียกไดอาก็ได้นะ! แล้วผปค.ชื่ออะไรเอ่ย?
:: คุไซครับผม
✿ ใบสมัครกับคำถามเราอาจจะเยอะไป(ไม่)หน่อย ขออภัยด้วยนะคะ! *กราบงามๆ*
:: เคยเจอเยอะกว่านี้อีก 555
✿ ทำไมถึงเลือกคู่กับคนนี้คะ?
:: ชอบยักษ์แดงเม็ดถั่วครับ
✿ ทำไมถึงมาสมัครเรื่องนี้ค---แค่ก
:: น่าสนใจดีน่ะครับ
✿ เรื่องนี้อาจจะมีการดองหรือลงช้าเป็นบ้างครั้งนะคะ รอได้รึเปล่าเอ่ย?
:: ได้ เพราะผมก็ดอง (โดนเตะ)
✿ ถ้าไม่ติด..เราขอโทษนะคะ ,_, ))
:: ไม่เป็นไรครับบบ
✿ สุดท้ายนี้ มีอะไรจะบอกเรามั้ยคะ? รักนะ ❤ 。◕‿◕
::
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น