ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Yak's Delivery "ห้องส่งของ ไม่จำเป็นกรุณาอย่าเข้าจ้า!"

    ลำดับตอนที่ #14 : Sub event 2: Nostalgic dream

    • อัปเดตล่าสุด 6 ต.ค. 59


                   

           Sub event: Nostalgic Dream



                   เผลอไปเผลอมา...อาบิเกลก็มาอยู่ที่นี่ประมาณเดือนหนึ่งแล้ว

                   ช้ากว่าที่คาด แต่ก็เร็วกว่าที่คิด

                   และพอได้มาสัมผัสการใช้ชีวิตจริงๆ เธอก็พบว่าเงินมันหายากกว่าที่คิดเยอะเลย! คิดได้ดังนั้น หญิงสาวก็หัวเราะออกมาเบาๆ เธอรู้หรอกว่าเงินมันหายาก แต่ให้ตายเถอะ มันไม่ได้รวดเร็วและมากมายอย่างที่คิด กระนั้นเธอก็ยังรู้สึกผ่อนคลายกว่าตอนอยู่ที่บ้าน แม้จะต้องทำบัญชีหนักกว่าตอนที่เรียน แม้จะต้องออกแรงหนักกว่าตอนทำงานบ้าน

                   แต่เธอยิ้มมากกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย

                   มันไม่ใช่รอยยิ้มที่อาบิเกลมักใช้ปกปิดความรู้สึก หรือรอยยิ้มที่ใช้บอกว่าเธอไม่เป็นอะไร มันเป็นรอยยิ้มที่ออกมาจากภายใน บางครั้งหญิงสาวยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ

                   นึกได้ถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา เธอก็ยิ้มออกมา ความรู้สึกแย่ค่อยๆ ละลายหายไป แก้มข้างที่ไม่เป็นแผลของเธอแนบไปกับแขน เสียงฮัมเพลงอย่างรู้สึกดีดังคลอไปกับหน่วยความคิด ร่างกายโยกเบาๆ ท่ามกลางความสบายของแสงจันทร์

                   สังคมที่นี่ไม่เหมือนกับสังคมที่เธอจากมา อาบิเกลแทบจะเดาความคิดของคนที่นี่ไม่ได้เลย พวกเขามีความหลากหลายและเป็นตัวของตัวเองมากเหลือเกิน เธอต้องปรับตัวเยอะมาก ทั้งสภาพภูทิประเทศ สภาพอากาศ สังคม ผู้คน การใช้ชีวิต นั่นไม่ใช่เรื่องไม่ดีหรอก ดีมากเลยต่างหาก ดีที่เธอได้มาสัมผัสอะไรใหม่ๆ ได้รู้จักอะไรแปลกๆ  ได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ที่ไม่สัมผัส

                   เธอดีใจที่หนีจากกรงขังนั้นมาได้

                   คิ้วเรียวสีน้ำตาลขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อคิดถึงที่บ้าน เปลือกตาค่อยๆ ขยับเปิดขึ้นและสิ่งที่เข้ามาแทนที่เสียงฮัมเบาๆ คือเสียงถอนหายใจ นัยน์ตาสีฟ้าสะท้อนกับแสงจันทร์จนเป็นประกายเมื่อเธอหันหน้าไปมองท้องฟ้าอีกครั้ง คืนนี้ฟ้าค่อนข้างเปิด เธอเห็นดวงดาวมากมายรายเรียงกัน มันยิ่งทำให้เธอคิดถึงท้องฟ้าที่มักสว่างไสวด้วยแสงไฟจนไม่เห็นแสงดาว

                   อาบิเกล แอนเดอร์สัน บุตรสาวเพียงคนเดียวของฮันเตอร์และแอนนา แอนเดอร์สัน นักธุรกิจในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบความสำเร็จและโดดเด่น ฮันเตอร์นั้นเก่งและฉลาด เขาสามารถคำนวนและคาดเดาสถานการณ์ของราคาที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้แม่นยำราวกับตาเห็น ส่วนแอนนาก็เป็นนายหน้าที่จัดได้ว่าไม่เคยพลาด ทั้งสองทำงานเคียงคู่กันมาตลอด โดยมีพยานรักคือลูกสาวคนเดียวของพวกเขา

                   อาบิเกลเป็นเด็กสาวน่ารัก ใบหน้าจิ้มลิ้มคล้ายบิดา ผมยาวสีน้ำตาลเข้มไม่เคยถูกปล่อยให้ยุ่ง ผิวขาวนวลตัดกับดวงตาสีฟ้าสดใสที่ได้มาจากมารดาที่ใครเห็นก็เป็นเอ็นดู แน่นอนทุกคนเอ็นดูอาบิเกล และความเอ็นดูนั้นมาพร้อมความคาดหวัง

                   คาดหวังว่าเธอจะต้องยอดเยี่ยมทัดเทียมบุพการี

                   เด็กสาวตระหนักถึงบ่วงที่รัดคอเธอครั้งแรกเมื่ออายุสิบสองปี  วันประกาศผลการเรียนที่ใบเกรดของเธอมีตัว B+ โผล่มาหนึ่งตัว เพียงแค่ตัวหนึ่งที่เปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล ผู้เป็นแม่ไม่พอใจกับมันเอามากๆ ทั้งที่มันเป็นเกรดของวิชาพละศึกษาที่เธอไม่ค่อยถนัด มันเป็นแค่ B+ หนึ่งตัว คุณนายแอนเดอร์สันไม่ชอบใจถึงขนาดกักบริเวณเธอและเริ่มทำตารางการฝึกร่างกายให้

                   เมื่อกระพริบอีกหนึ่งที ชีวิตของเธอก็เต็มไปด้วยตารางเวลาที่เธอไม่ได้จัดเอง

                   ทุกวิชาที่เธอเรียก ทุกกิจกรรมที่เธอผ่านการรับรองโดยผู้ปกครองมาแล้วทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่การคบเพื่อนหรือกิจกรรมผ่อนคลายยามว่าง

                   นึกย้อนไปอาบิเกลสงสัยว่าเธอทนกับตารางเหล่านี้ได้อย่างไร และเหตุใดเธอจึงตัดสินใจหนีทันทีที่เรียนจบมหาวิทยาลัย คำถามเหล่านี้คั่งค้างอยู่ในจิตใจจนเธอรู้สึกราวกับตัวเองเป็นเด็กไม่รู้จักโต

                   ไม่อยากยอมรับก็ต้องยอมว่าทุกวันนี้เวลาเธอจะทำอะไร เธอยังมีความคิดที่จะโทรไปปรึกษามารดาของตนอยู่บ่อยๆ แม้จะบอกว่าไม่อยากอยู่ใต้เงาของทั้งสองคนอีกแล้ว เธอเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้เลย ทำได้แค่บอกว่าจะออกไป แล้วทำให้พวกเขาเสียใจ

                   เหมือนกับทุกครั้งที่เมื่อเธอยังคิดถึงภาระผูกพันกับที่บ้าน บุคคลอีกคนก็จะปรากฏขึ้นในศีรษะเธอทุกครั้ง

                   รอยยิ้มจากริมฝีปากกว้างกับผมสีสตรอว์เบอร์รี่บลอนด์สะท้อนแสงอาทิตย์

                   อาบิเกลคนที่นั่งอยู่บนเตียงหน้าหน้าต่างบานใหญ่ยิ้มบางๆ อีกครั้งกับความทรงจำถึงจุดเปลี่ยน แต่เธอยั้งความคิดของตัวเองไม่ให้คิดถึงเซลีนอีก

                   เซลีนหรอ...

                   ชื่อนี้ที่ได้ยินทีไรก็ปวดใจทุกครั้ง และภาพความทรงจำก็อดทำให้นึกถึงวันที่ฝนกระหน่ำลงมาที่สุสานไม่ได้ ความรู้สึกที่เกินจะรับไหวในวันนั้นราวกับมันเป็นกรรมที่เธอทำให้ใครหลายคนต้องเสียใจและผิดหวัง เกินรับจนเธอตัดสินใจที่จะหนีมาที่เมืองแห่งนี้

                   หญิงสาวดึงตัวเองออกมาจากภวังค์ ความง่วงและความเมื่อยขบเริ่มเข้าจู่โจมร่างกาย รวมถึงความหนาวเย็นอาจทำให้เธอเป็นหวัดได้ อาบิเกลรีบสะบัดผ้าห่มชื้นๆ ออกแล้วเปลี่ยนชุดมาเป็นชุดนอนสบายๆ ของตน

                   ศีรษะอิงไว้กับหมอนเรียบร้อย หญิงสาวก็กล่อมให้ตัวเองให้หลับเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่วันพรุ่งนี้

                   ความคิดสุดท้ายที่ทิ้งไว้ก่อนที่สติสัมปชัญญะของเธอจะดำดิ่งสู่จิตใต้สำนึกคือ

                   ถึงจะเป็นการหนี แต่ก็เป็นการหนีที่ไม่เลวเลยนะ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×