คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : [12] my carmen - Elle Serafim Brooke
[ my carmen ]
มนุษย์ทุกคนล้วนมีสวนผลไม้ต้องห้ามในจิตวิญญาณของพวกเขา
สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์..ดินแดนที่มีแต่พวกเขาเหล่านั้นเท่านั้นจะสามารถเหยียบย่างเข้าไปได้ ท้องฟ้าเปิดกว้าง ก้อนเมฆสีขาวปุย พระอาทิตย์ดวงโต กลิ่นหญ้าหอมลอยมากับสายลม ดอกไม้ต้นน้อยถูกปลูกไว้ประปราย และที่ตรงกลางนั้น, มันจะมีผลไม้ต้นหนึ่งถูกปลูกเอาไว้
กล่าวว่านั่นคือผลแห่งความปรารถนา
แรกเริ่มจะเป็นเพียงต้นอ่อนต้นเล็กจ้อย..ค่อย ๆ เติบโตทีละน้อย ด้วยหยดน้ำล่อลวงอันเรียกว่า 'ความหวัง' ใช้เวลาหลายต่อหลายปี หรืออาจจะเป็นชั่วชีวิตนั้นเพื่อทำให้มันงอกเงยสวยงามเติบใหญ่แข็งแรงได้
แต่รู้อะไรไหม?
ตอนที่สายฟ้ามันผ่าลงมาน่ะ..แค่ครั้งเดียวมันก็ตายแล้ว
เสียงรถยนตร์ขับเคลื่อนตลอดเวลาแม้ล่วงเลยเข้าคืนวันใหม่มากว่าสามชั่วโมง
กลิ่นไม่พึงประสงค์ลอยกระทบจมูก ไม่รู้ว่ามันมาจากไหนกันแน่
หรือกระทั่งบ้านหลังเล็กคับแคบที่ชั้นใต้ดินของตึกเช่าราคาถูกในกรุงลอนดอน
ไม่ว่าอะไร..ก็ล้วนแต่ไม่เคยคาดฝันว่าสักวันหนึ่งชีวิตจะต้องมาถึงในจุดนี้
"เอลล์ ตื่นรึยังจ๊ะลูก?" เสียงเรียกเอ่ยจากด้านนอกห้องนอนขนาดสามคูณสาม มาพร้อมกับแรงที่เคาะลงบนบานประตูไม้ส่งเสียงก้องไปทั่ว ส่งผลให้ร่างที่นอนขดอยู่บนเตียงขยับตัวลุกขึ้นมา ใช้ดวงตาของเธอจดจ้องโลกเงียบ ๆ
"ค่ะ.."
ขานเสียงรับตอบกลับไปอย่างแผ่วเบา
ทั้งที่ความจริงแล้วเธอยังไม่ได้แม้แต่จะหลับสักตื่นเลยด้วยซ้ำ
เอลลีคือชื่อของเธอ
และโลกที่เธอเคยมองเห็น, มันแตกต่างจากโลกในตอนนี้โดยสิ้นเชิง
ร่างกายก้าวเท้าเดินไปตามทาง สายลมแรงพัดผ่านกระทบผิวชวนให้รู้สึกหนาวสั่น หากแต่เสื้อกันหนาวตัวใหญ่ก็ยังพอช่วยให้รู้สึกอบอุ่นได้บ้าง เด็กสาวตัวน้อยที่หน้าตาน่ารักเหมือนกับตุ๊กตา ดูบอบบางและแตกหักได้ง่าย กลับกำลังเดินทางด้วยเท้ากับระยะทางกว่าห้ากิโลเมตร
'โรงเรียนอยู่ใกล้แค่นี้เอง ลูกไปเองได้ใช่ไหม?' เสียงของแม่ดังก้องไปมา มันเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอก้าวเท้าไปเรื่อย ๆ
แม้ว่าจะอยากจะวิ่งหนีไปให้พ้นซะก็ตามที..
"เอลล์"
ร่างเล็กชะงัก เสียงเอ่ยเรียกชื่อเล่นที่ไม่ว่าใครก็เรียกแบบนั้น แต่เพราะน้ำเสียงหวานที่ฟังดูชวนเคลิบเคลิ้มนั่น มันถึงทำให้เอลลีรู้ว่าใครกันที่ก้าวเท้าลงมาจากรถลีมูซีนคันหรู และบังเอิญหันมาเห็นเธอที่กำลังก้าวเท้าเข้าไปในโรงเรียนพอดิบพอดี
เด็กสาวหน้าตาสะสวย เส้นผมหยักสีจินเจอร์ ดวงตาสีเทาอ่อนประกายความสวยงาม เครื่องแต่งกายเรียบหรูราคาแพงตั้งแต่หัวจรดเท้า กลิ่นหอมของน้ำหอมชื่อดังลอยมากับสายลมหิมะ และเอลลีเคยจำได้ว่าร่างกายของตนก็เคยมีกลิ่นนี้ติดตัว
ไม่ใช่แค่น้ำหอมหรอก
ทุก ๆ อย่างที่หล่อนสวมใส่ ทุก ๆ อย่างที่หล่อนมี..
เธอก็เคยมีมันเหมือนกัน
"วันนี้เดินมาโรงเรียนเหรอ?" เด็กสาวเอ่ยถาม ส่วนสูงที่มากกว่าทำให้เธอต้องกดสายตาลงมองมาที่เอลลี
เอลลีก้มหน้าลงเล็กน้อย เธอไม่ชอบที่สายตาคู่นั้นกดต่ำลงมาเช่นนี้ และไม่ชอบเลยด้วยที่ต้องเห็นดวงตาฉาบแววสงสาร หากแต่ลึก ๆ กลับเต็มไปด้วยความเวทนาและสมเพช
"..อื้อ" หากสุดท้ายก็ต้องตอบกลับไป ฝืนยิ้มขึ้นมาทั้งที่สั่นสะท้านไปร่าง "อยากออกกำลังบ้างน่ะ"
แล้วเธอก็ได้รับสายตาเวทนาที่ชัดเจนเสียยิ่งกว่าเดิมจากเธอคนนั้นเข้าจนได้
คารีน่า เลร่า เป็นเพื่อนร่วมห้องของเธอที่เหมือนกับว่าถูกองค์เทพเลือกให้เป็นเจ้าสาวของพระองค์
เธอคนนั้นงดงาม ใบหน้าเลิศเลอ มันสมองอันชาญฉลาด หรือกระทั่งพรสวรรค์ และความโชคดีที่ทำให้เธอไปเกิดในตระกูลผู้ดีขุนนางเก่าของอังกฤษ เป็นคนที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบแทบทุกอย่าง และถูกเรียกว่าเป็นสาวในดวงใจของชายหนุ่มค่อนโรงเรียน
ความจริงแล้วเราสองคนเคยเป็นเพื่อนสนิทกัน
แต่หลังจากวันนั้น, เอลลีก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปยื่นอยู่ข้างเธอได้อีก
บ้านของเอลลีเคยเป็นเจ้าของกิจการน้ำชาที่โด่งดังไปทั่วทวีปยุโรป ภายในสังคมผู้ดีที่อยู่ยอดสุดของพีระมิด เอลลีจำได้ดีเลยว่ามันมีมากมายจนนับครั้งไม่ได้เสียแล้ว ที่เธอได้ไปเชิดหน้าชูตาอยู่ในงานเลี้ยงของสังคมชั้นสูง
ยกยิ้มกว้างจนแทบหุบไม่ลง สวมใส่แพรพรรณสวยงาม รองเท้าส้นสูงที่ชอบ และความสุขล้นอกกับสายตาที่จับจ้องมองมา..
ในตอนที่อยู่ที่โรงเรียน ผู้คนก็พากันรุมสนใจ เพราะใบหน้าน่ารักแบบนี้ เงินทองมากมายแบบนี้ ชื่อเสียงตระกูลที่โด่งดังแบบนี้ ไม่แปลกหรอกถ้าจะมีคนมารักใคร่..แต่ความจริงแล้ว วันแรกที่เอลลีเข้ามาในโรงเรียน เธอก็ยังเป็นแค่ลูกเศรษฐีมีชื่อที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรนอกจากหน้าตานั่นแหละ
จนกระทั่งคารีน่าเริ่มจะสังเกตเห็นตัวตนของเอลลี..และเลือกที่จะก้าวเข้ามาหา
"พวกเรานี่เหมือนกันดีนะ" ฝ่ามือยื่นมาตรงหน้า ทำให้หัวใจเต้นกระหน่ำ "คิดว่าไง? ถ้าฉันอยากจะเป็นเพื่อนกันเธอ"
เธอคนนั้นน่ะ คือเทพธิดาของทุกคน..
เพราะฉะนั้น ถ้าอยากจะได้รับความสนใจมากกว่า ถ้าอยากจะได้รับความรักมากกว่านี้ล่ะก็..
"อื้อ" จะต้องเป็นแบบเธอให้ได้
'ถ้าเป็นแบบคารีน่าได้ ทุกคนก็จะให้ความสนใจ' เรื่องแบบนั้นน่ะไม่ว่าใครก็รู้ แต่คนที่ทำแบบนั้นได้จริง ๆ น่ะ..ไม่รู้หรอกว่ามีอยู่รึเปล่า
"อ้าว เอลล์?" เสียงหวาน ๆ ของใครสักคนดังขึ้น เอ่ยทักเด็กสาวที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง "ดัดผมมาเหรอ"
รอยยิ้มแย้มกว้างตอนที่ได้รับคำชม หัวใจพองฟูเต็มอก รู้สึกชอบใจยิ่งกว่าตอนไหน ๆ แม้ว่าจะมีสายตาของต้นแบบที่เธอพยายามเปลี่ยนตนเองให้เป็นเช่นเดียวกัน คอยจับจ้องเอาไว้ไม่ห่างก็ตาม
"เหมาะกับเธอดีนะ" คารีน่ากล่าวเช่นนั้น ยิ้ม และไม่พูดอะไรอีก
หล่อนก็คงจะรู้อยู่บางแหละว่ากำลังโดนเลียนแบบ แต่ก็เลือกที่จะไม่พูดอะไร ปล่อยทุกอย่างไว้แบบนี้
เอลลีนก็ยังคงหลงระเริงไปกับโลกของเธอ นับวันยิ่งก้าวเข้าใกล้กับคารีน่า ไม่ว่าจะเสื้อผ้า ทรงผม สิ่งของที่หล่อนชื่นชอบ ก็คอยเลือกตามเพื่อให้อยู่ในกลุ่มที่เขาเรียกกันว่า 'สวยงามและน่าให้ความสนใจ'
แต่ว่ามันก็เหมือนกับว่าจะไม่พอ..
เพราะไม่ว่าทำอย่างไร..ก็สู้ตัวจริงไม่ได้
คารีน่าคือเทพธิดาที่ถือครองอำนาจของความรักและอำนาจ ในขนาดที่เอลลีนเป็นเพียงมนุษย์โง่เขลาหวังทัดเทียมเทพ
นั่นน่ะเป็นสถานะที่ชัดเจนที่สุดสำหรับเราแล้วล่ะ
ต่อให้เอลลีนจะพยายามไล่ตามเท่าไหร่ เธอก็ไม่เคยไล่ทันเลย..ทั้งที่ตอนนี้ ไม่ว่าจะหน้าตาหรือทรงผมก็สมบูรณ์แบบ เธอมีทุกอย่างในแบบที่คารีน่ามี เกรดเฉลี่ยที่มากมายจากการพยายามจะก้าวข้าม แม้แต่เงินทองของเธอก็เหลือใช้ล้นมือไม่แพ้หล่อน
ถึงอย่างนั้นก็ไม่เข้าใจ..ว่าทำไมถึงยังก้าวข้ามไม่ได้
ดวงตาจ้องมองภาพสะท้อนภายในกระจก เห็นเด็กสาวตัวน้อยในนั้น ใบหน้าบิดเบี้ยว คิ้วที่พับย่นเข้าหากันทำให้ใบหน้าดูน่าเกลียดจากแรงอารมณ์ เอลลีนยกปลายเล็บขึ้นขบกัดจนมันเกิดแผล ปลายเล็บฉีกออกมาจนสีแดงเริ่มซึมตามขอบเล็บ
"..ต้องมากกว่านี้..รึเปล่านะ?"
"วันนี้เป็นลิปสติกเหรอ"
สัมผัสที่วางลงบนไหล่ทำให้ต้องเงยหน้ามอง คารีน่ายืนซ้อนอยู่ด้านหลัง จ้องมองสีอ่อนระเรื่อของลิปสติกบนริมฝีปากอวบอิ่มของเพื่อนสาว ซึ่งคราวนี้ มันไม่ใช่สิ่งที่มีอยู่บนตัวของหล่อน
ถ้าเหมือนเสียจนแทบจะเป็นคน ๆ เดียวกันก็ยังก้าวข้ามไม่ได้ แบบนั้นก็คงต้องลองเป็นสิ่งที่ไม่เหมือนเดิม..ให้คนเขารู้สึกตื่นใจ
แต่ว่า, คนที่คิดได้แบบนั้น มันมีแค่เอลลีซะเมื่อไหร่
"ว้าว! นั่นมันเสื้อกันหนาวซีซั่นล่าสุดของแบรนด์oxxนี่นา! สุดยอดไปเลยคารีน่า!"
แล้วสีสันบนริมฝีปากของเธอก็ถูกหมางเมิน เพียงเพราะเสื้อกันหนาวราคาแพงที่อยู่บนเรือนร่างสวย ๆ ของหล่อน เอลลีจ้องมองภาพพวกนั้น และจำต้องก้มหน้าต่ำ เมื่อได้รับสายตาจากคารีน่าเหลือบมามองนิ่ง ๆ ปลายนิ้วของเด็กสาวกำเข้าหากัน ดวงตาดำมืดลงเรื่อย ๆ จนแทบไม่เห็นสีสันอีกเเล้ว
เอลลีอยากจะเป็นคนที่ไม่ว่าใครก็รัก
เธออยากจะเป็นคนแรกและเพียงคนเดียว ที่คนเหล่านั้นจะพูดว่า คู่ควรที่สุด
แต่โลกนี้ก็ช่างแสนใจร้าย..ไม่ว่าเธอจะพยายามฟูมฟักผลไม้แห่งความปรารถนานั้นให้งอกเงยขึ้นมามากเท่าไหร่ มันก็ไม่เคยเทียบเท่าคารีน่าได้..แล้วก็เหมือนฟ้าได้สาปกัน ในวันที่คิดว่าจะต้องพยายามมากกว่านี้ และโดดเด่นยิ่งกว่านี้..มันก็กลับกลายเป็นวันที่ไม่เหลืออะไรเลยสักอย่าง
ความคิดเห็น