ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าสาว(ตัวร้าย)ม.ปลายที่รัก

    ลำดับตอนที่ #14 : บทที่12 วันแต่งงาน

    • อัปเดตล่าสุด 31 ธ.ค. 60


    บทที่12 วันแต่งงาน


    รุ่งเช้าวันต่อมาเป็นวันที่อากาศเหมือนจะเป็นใจเพราะฝนไม่ตกลงมา พายัพเมฆตื่นแต่เช้ามาแต่งองค์ทรงเครื่องจนหล่อเหลาอย่างตื่นเต้น 'วันนี้แล้วที่เขาจะได้แต่งงานกันพิมพ์ชนก วันนี้แล้ว ตื่นเต้นเว้ย'

    "หล่อแล้วไอ้น้อง ไม่ต้องมองกระจกบ่อยหรอก" พีมตะวันเอ่ยอย่างขำขันเมื่อพายัพเมฆส่องกระจกเช็คดูความเรียบร้อยของชุดเป็นครั้งที่เท่าไหรก็ไม่รู้ เพราะไม่ได้นับ แต่ที่แน่ๆมันไม่ต่ำกว่าห้าครั้งแน่นอน

    "หล่ออะผมรู้ แต่ดูแก่ไปมั้ยพี่" คนเป็นเจ้าบ่าวถามมองตัวเองในกระจกอีกครั้ง กังวลว่ามันจะดูแก่ไปรึเปล่าถ้าไปยืนคู่กับเจ้าสาว

    พีมตะวันเดินวนรอบคนเป็นน้องสองรอบแล้วก็หยุดนิ่ง "ข้าว่าพอดีแล้วแหละ เพราะว่าแม่สั่งช่างแต่งหน้า แต่งหน้าให้พริกไทยดูเป็นสาววัย20กว่า อย่ากังวลซิวะไอ้น้อง นึกถึงคืนเข้าหอ นึกถึงชีวิตหลังแต่งงานอันแสนสุขไว้"

    "บลิ้วไปแล้ว ให้นึกถึงชีวิตหลังแต่งงานนี่หน้าอาธามลอยละล่องมาเลย ไม่รู้ว่าคุณพ่อตาที่รักจะทำอะไรอีก" พายัพเมฆบอกแล้วก็ถอนหายใจพรืด

    "แค่นี้ก็ถอนหายใจแล้วเหรอ อ่อนจริงเอ็งเนี่ย" พีมตะวันบอกก่อนที่จะกอดไหล่คนน้อง "หลับตาลงไอ้พลาย"

    พายัพเมฆมองอย่างงงๆแล้วก็หลับตาลงตามที่พี่ชายสั่ง พีมตะวันมองก่อนที่จะเอ่ย "จินตนาการซิ จินตนาการว่ามีเด็กเล็กๆสามสี่คนมาวิ่งเล่นอยู่ในบ้าน แล้วก็เรียกเอ็งว่าพ่อ เรียกพริกไทยว่าแม่ เอ็งยิ้มอย่างมีความสุข พริกไทยก็ยิ้มอย่างมีความสุขเล่นกันตามประสาพ่อ แม่ ลูก มโนมาถึงตอนนี้แล้วเอ็งอยากมีวันนั้นมั้ย"

    "อยากว่ะ" คนคิดตามที่พี่ชายบอกพูดแล้วลืมตาขึ้นมามอง

    "ถ้าอยากมีวันนั้น เอ็งก็ด้านไว้อย่าไปกังวลเรื่องอาธาม" พีมตะวันบอกแล้วก็ตบไหล่น้องชายอย่างให้กำลังใจ "คิดจะเป็นเขยผบ.ธาม ใจต้องนิ่งแล้วหน้าต้องด้าน"

    พายัพเมฆพยักหน้าอย่างมีกำลังใจก่อนที่จะมองตัวเองในกระจกอีกครั้ง "คนอะไรหล่อชะมัด"

    "เหอๆ" พีมตะวันหัวเราะหมั่นไส้ก่อนที่สองพี่น้องจะกอดไหล่กันออกไปจากห้องของพายัพเมฆ 

    ขบวนแห่ขันหมากถูกตั้งขึ้นห่างจากบ้านเจ้าสาวเกือบหนึ่งกิโลเมตร เมื่อเคลื่อนตัวมาถึงหน้าบ้านเจ้าสาว ขบวนเจ้าบ่าวก็ต้องเจอกับแถวประตูเงิน ประตูทองยาวเหยียดนับได้เกือบยี่สิบชั้น

    "ไอ้ธามเอาอีกแล้วซินา" เพลิงตะวันบ่นพึมพำขณะที่มองแถวประตูเงินประตูทองมหาโหดตรงหน้า ห้าประตูแรกเป็นลูกหลานของธนกฤตที่มาร่วมงานแต่ล่ะประตูกว่าจะผ่านไปได้เจ้าบ่าวต้องเหนื่อยไม่ใช่เล่นจนมาถึงห้าด่านประตูสุดท้ายที่ถือน่าจะมหาโหดกว่า5ประตูแรก

    "นี่เอากับเขาด้วยเหรอเจ๊ พี่ข้าว" พายัพเมฆถามเมื่อเห็นสองสาวใหญ่วัยสี่สิบกว่าที่ยังคงสวยไม่ส่างอย่างพี่สะใภ้อย่างกรรณิการ์ และลูกสาวเพื่อนพ่ออย่างพัญวลัยหรือพั้นที่เขาเรียกติดปากว่าเจ๊อดีตดาราซุปเปอร์สตาร์ที่ผลันตัวไปทำงานเบื้องหลังกล้องกว่า10ปี

    "แน่นอน เราสองคนเป็นเพื่อนพริกหวาน ลูกพริกหวานก็เหมือนลูกของเรา" พัญวลัยตอบแล้วยิ้มสะใจส่งมาให้ "อย่าคิดว่าฉันจะปล่อยนายไปง่ายๆไอ้ไม้พาย"

    "พี่ก็ไม่ยอมง่ายๆเหมือนกัน" กรรณิการ์เอ่ยบอกทำให้พายัพเมฆหันไปส่งสายตาให้พีมตะวัน

    "เพื่อนที่รักกับเมียที่บูชาจะทำอะไรก็เชิญเลยครับ พีมไม่เกี่ยว" พีมตะวันเอ่ยบอก ก็อยากจะช่วยน้องนะแต่ด่านนี้เขาขอผ่านหนึ่งคนคือเมียที่รักและบูชา อีกคนคือเพื่อนที่หัดตั้งไข่มาพร้อมกันจับมือกันเดินเล่นเที่ยวมาด้วยกัน งานนี้ตัวใครตัวมันเขาไม่ยุ่ง

    "ดีมากพีมเพื่อนรัก เอาล่ะนายพลาย นายอยากผ่านได้นี้เข้าไปมั้ย" พัญวลัยเอ่ยบอกเพื่อนสนิทก่อนที่จะหันมาถามเจ้าบ่าวที่วันนี้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นเป็นไหนๆ

    "อยากดิ" พายัพเมฆตอบตามปกติอย่างที่เคยพูดกับทั้งสองคน

    "สิ่งที่ฉันต้องการคือคำขอโทษที่ไพเราะจากนาย ที่ผ่านมานายเคยแกล้งอะไรฉันไว้บ้างฉันจำได้ นายไม่เคยขอโทษหรือพูดเพราะๆเลย เพราะฉะนั้นวันนี้นายต้องพูดขอโทษและขอร้องเพราะๆให้ฉันกับข้าวฟ่างฟังจนกว่าเราจะพอใจ" พัญวลัยบอกแล้วยิ้มมุมปาก พายัพเมฆเป็นคนไม่ลงให้ใครง่ายๆเธอรู้ชอบแกล้งคนอื่นแต่ไม่เคยขอโทษด้วยน้ำเสียงไพเราะเลย

    "คิดดู ถ้านายไม่ทำ พวกเราก็ไม่ปล่อย" คนเป็นพี่สะใภ้เจ้าบ่าวเอ่ยบอก

    "พี่พั้นครับ พี่ข้าวฟ่างครับ สิ่งที่ผมเคยล่วงเกินพี่ๆทั้งาองไปผมขอโทษนะครับ กรุณาให้ผมผ่านเข้าไปเถอะครับ ให้ทำอะไรผมยอมทุกอย่างแล้ว" ณ วินาทีนี้คือเขาต้องยอมทุกอย่างแล้ว แม้ต้องก้มหัวให้คนอื่นก็ยอม

    "งั้นร้องเพลงให้ฟังหน่อย" พัญวลัยผู้ที่มีนิสัยชอบแกล้งบอก "ตะตุงตวงนะน้องรัก"

    "มันคือเพลงอะไรครับพี่พั้น"  คนไม่รู้จักเพลงที่พัญวลัยบอกถามออกมาก่อนที่พี่ชายจะยื่นสมาร์ทโฟนมาเปิดให้ฟัง...

    "มันง่ายจังเลยเนาะ" พายัพเมฆประชด "เพลงอื่นแทนได้ม่ะ "

    "ไม่เอาซิพลาย พี่อยากฟังเพลงนี้อะ แต่อนุโลมให้เต้นก็ได้" พัญวลัยบอกก่อนที่จะตะโกนเรียกลูกชายวัยเก้าขวบ "ต้นน้ำครับมานี่เร็วววว"

    "ครับมามี๊" เด็กชายเพชรณรงค์หรือต้นน้ำผู้เป็นลูกรีบวิ่งมาหาทันที

    "ต้นน้ำเต้นให้น้าพลายเต้นตามได้มั้ยครับ" พัญวลัยบอกก่อนที่เด็กชายวัยเก้าขวบจะพยักหน้า 

    พีมตะวันเปิดเพลงขึ้นทันที พายัพเมฆมองท่าเต้นของเพชรณรงค์แล้วรู้สึกเพลียจิตเพลียใจ 'นี่ไอ้เจ้าต้นน้ำมันมีกระดูกมั้ยเนี่ย ดูเต้นเข้า'

    "เต้นตามหลานดิเดี๋ยวก็ไม่ได้เข้าไปกันพอดี" พีมตะวันบอก

    "ปรัช เอ็งเต้นเป็นเพื่อนข้าหน่อยดิ" เจ้าบ่าวหันไปบอกเพื่อนเจ้าบ่าวทันที

    "ไม่เอาเว้ย" หมอนักปราชญ์ปฏิเสธทันควัน เรื่องอะไรเขาจะต้องไปเต้นเป็นแมวโดนน้ำร้อนลวงแบบนั้นด้วยเล่า

    "ไอ้ปรัช ถ้าไม่เต้นตัดเพื่อนน่ะเว้ย" พายัพเมฆบอกก่อนที่คนเป็นเพื่อนจะต้องถอนหายใจแล้วพยักหน้า รอวันงานเขาก่อนเถอะ เขาจะเอาแบบมันมั้ง

    "ต๊ะตุงตวง ต๊ะตุงตวง" พัญวลัยและกรรณิการ์ยิ้มให้กันอย่างพอใจในขณะที่มองภาพในจอสมาร์ทโฟนที่กรรณิการ์กำลังถ่ายวิดีโอสองหนุ่มที่เต้นตามเพชรณรงค์  'นานทีปีละหนที่เธอสองคนจะได้ชำระความเจ้าคนกวนประสาทขี้แกล้งอย่างพายัพเมฆขอถ่ายเก็บไว้ดูนานๆหน่อยเถอะ'

    หลังเต้นจบเพลงสองสาวใหญ่จึงยอมให้ผ่านด่านไปได้ด่านประตูถัดไปของพายัพเมฆคือน้องชายวัย15ปีสองคนของพิมพ์ชนกที่ยืนยิ้มอย่างมีเลศนัยรออยู่

    "ยิ้มกันแบบนี้คงไม่ยอมให้เข้าไปง่ายๆใช่มั้ย คุณธีน คุณธัน" พายัพเมฆถาม

    "พวกผมก็ไม่อยากจะทำหรอกนะแต่พ่อสั่งมา" ธีลภัสและธัญนกฤตตอบพร้อมกันอย่างพร้อมเพรียงก่อนที่ธีลภัสหรือธีนจะหยิบซองจากกระเป๋าออกมาสี่ใบ แบ่งกันถือกับธัญนกฤตหรือธันคนละสองใบ

    "เลือกครับ เลือก" เด็กหนุ่มบอก พายัพเมฆลังเลแล้วหยิบซองที่อยู่ในมือด้านซ้ายของธัญนกฤต "เปิดดูเลย"

    คนเป็นเจ้าบ่าวหันมองหน้าพ่อและพี่ชายแล้วหันมองเพื่อนสนิทก่อนที่จะเปิดซองหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมา

    "ให้เจ้าบ่าวปั่นจิ้งหรีดสองยกแล้วบอกให้ถูกว่าคนไหนธีนคนไหนธัน" พายัพเมฆอ่านข้อความที่อยู่ในกระดาษแล้วเบ้หน้า สองยกไม่ใช่สองครั้ง สองยกเชียวนะ ยกนึงก็ห้ารอบ สองยกก็สิบรอบมึนแน่

    "ปฏิบัติซิครับเจ้าบ่าว ไม่ทำผมไม่ให้เข้าไปเจอพี่พริกไทยนะ" ธีลภัสบอกแล้วยกยิ้ม พ่อสั่งมาแบบนี้ก็ต้องทำล่ะนะก็คนมันรักครอบครัวนิ

    "โอเค" พายัพเมฆตอบก่อนที่จะเริ่มปั่นจิ้งหรีดระหว่างนั้นสองหนุ่มก็สลับที่ยืนกันแต่แล้วก็เปลี่ยนใจ หนุ่มน้อยคนแรกเดินไปอยู่อีกมุมหนึ่งแทน

    พายัพเมฆพยายามทรงตัวให้อยู่แล้วเพ่งมองใบหน้าของสองเด็กหนุ่ม ตามันลายๆจนเขาต้องหลับตา สองคนนี้มีส่วนสูงเท่ากัน ใบหน้าเหมือนกันวันนี้ยังใส่ชุดเหมือนกัน ไม่ยื่นห่างกันยิ่งเปลี่ยบเทียบยาก

    "ไหวมั้ยพลาย" นักปราชญ์ถาม

    "ไหว ไอ้ที่ยืนตรงนี้ธีน ยืนตรงนั้นธัน" พายัพเมฆบอกตายังลายทรงตัวไม่ค่อยไหวแต่เขามั่นใจในสัมผัสพิเศษบางอย่างว่าต้องใช่ล่ะ 

    "แพ้แล้ว ไม่หนุกเลยธีน" "นั่นดิธัน ไปเล่นที่อื่นกันดีกว่า" สองหนุ่มน้อยคุยกันแล้วก็เดินมาหาพีมตะวัน "เอาซองมาพี่พีม"

    พีมตะวันยื่นซองให้ก่อนที่สองหนุ่มน้อยจะวิ่งออกไปเล่นกันที่อื่น เป็นอันว่าพายัพเมฆชนะในเกมนี้ผ่านด่านประตูไปได้อีกชั้นหนึ่ง

    ประตูเงินประตูทองชั้นถัดมาเป็นพชรดนัยกับเพื่อนสนิทนามว่าเจ้าสมุทรหรือเมฆ ทั้งสองยิ้มให้ก่อนที่พชรดนัยจะยื่นซองจดหมายมาให้พายัพเมฆเลือก

    "ไม่เลือกแล้ว นายเมฆ เลือกให้หน่อยแล้วกัน น้าเชื่อว่าเราจะไม่ทำให้ผิดหวัง" พายัพเมฆเอ่ยบอกเจ้าสมุทรที่ความจริงแล้วก็เป็นลูกชายพี่สาวของกรรณิการ์ นิสัยใจขอต่างจากพชรดนัยมากโข ถ้าเปรียบพชรดนัยเป็นไฟ เจ้าสมุทรก็เป็นน้ำแข็งขั่วโลก ถ้าเปรียบพชรดนัยเป็นซาตาน เจ้าสมุทรก็เป็นเทพบุตร

    เจ้าสมุทรยิ้มก่อนที่จะเลือกซองหนึ่งมายื่นให้ "นี่ครับน้าพลาย"

    "ให้เจ้าบ่าวส่งตัวแทนหนึ่งคนมาให้เราเขียนหน้า" พายัพเมฆอ่านแล้วก็หันมาทางเพื่อนเจ้าบ่าว "ปรัชเพื่อนรัก ข้ายกตำแหน่งอันทรงเกียรตินี่ให้เอ็งเลย"

    "ไอ้พลาย" คนได้รับมอบหมายหน้าที่อันทรงเกียรติเรียกแล้วมองดุๆใส่แต่ก็โดนพชรดนัยจับไปเขียนหน้า

    "เชิญครับเจ้าบ่าว" เจ้าสมุทรบอกก่อนที่จะผ่ายมือให้เข้าไปในบ้าน ประตูชั้นต่อไปอยู่ที่ริมบันได ขบวนขันหมากได้แยกไปนั่งส่วนเจ้าบ่าวอย่างพายัพเมฆต้องแยกไปเจอประตูเงินประตูทองอีกสองชั้นเพื่อไปรับเจ้าสาวจากบนห้องลงมา

    "พิชากับธาราไม่ขออะไรมากค่ะ แค่สัญญาจะดูแลเจ้าสาวให้ดี จะไม่ทำให้เจ้าสาวเสียใจ และจะไม่นอกใจเจ้าสาวก็พอใจแล้วค่ะ" พิชาภัสบอก

    "ต้องตะโกนดังๆนะคะ ตะโกนให้ได้ยินถึงห้องเจ้าสาว ถ้าข้างบนไม่ได้ยินก็ไม่ให้ผ่าน"  ธาราภัสเอ่ยเสริม

    พายัพเมฆยิ้มให้สองสาวน้อยก่อนที่จะส่งเสียงตะโกน "ผมขอสัญญาว่าจะจะดูแลเจ้าสาวให้ดี จะไม่ทำให้เจ้าสาวเสียใจ และจะไม่นอกใจเจ้าสาวครับ"

    "ข้างบนได้ยินมั้ยยยยย" ธาราภัสตะโกนถาม

    "ไม่ได้ยินเลย ดังๆหน่อย" มีเสียงตอบกลับมาเป็นเสียงของพิมพ์ดาว แฝดผู้น้องของพายัพเมฆที่ขึ้นมาจากภูเก็ตเพื่อร่วมงานแค่งของแฝดผู้พี่

    "ผมขอสัญญาว่าจะจะดูแลเจ้าสาวให้ดี จะไม่ทำให้เจ้าสาวเสียใจ และจะไม่นอกใจเจ้าสาวครับ"

    "อะไร ไม่ได้ยินเลย"

    "ผมขอสัญญาว่าจะจะดูแลเจ้าสาวให้ดี จะไม่ทำให้เจ้าสาวเสียใจ และจะไม่นอกใจเจ้าสาวครับ"

    "ผมขอสัญญาว่าจะจะดูแลเจ้าสาวให้ดี จะไม่ทำให้เจ้าสาวเสียใจ และจะไม่นอกใจเจ้าสาวครับ"

    "ผมขอสัญญาว่าจะจะดูแลเจ้าสาวให้ดี จะไม่ทำให้เจ้าสาวเสียใจ และจะไม่นอกใจเจ้าสาวครับ"

    "เจ้าสาวได้ยินแล้วค่ะ" 

    กว่าเจ้าสาวจะได้ยินพายัพเมฆก็ถึงกับไอแคกๆเพราะเจ็บคอ แต่เชื่อซิ เจ้าสาวตัวจริงน่ะได้ยินตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว แค่น้องสาวเขามันขี้แกล้ง

    พายัพเมฆเดินขึ้นบันไดมาจนถึงหน้าห้องและเจอกันประตูชั้นที่ยี่สิบของงานซึ่งเป็นชั้นสุดท้าย ผู้กั้นประตูคือศศิกานต์และชมพูนุชเพื่อนสนิทของเจ้าสาว

    "ไม่ให้ผ่านหรอก" เด็กสาวเอ่ยพร้อมกัน

    "ให้ผ่านไปเถอะสาวๆ เจ้าบ่าวขอร้อง" คนเป็นเจ้าบ่าวเอ่ยบอก การกั้นประตูเงินประตูทองมีขึ้นเพื่อให้เจ้าบ่าวได้รู้ว่ากว่าจะได้เข้ามาหาเจ้าสาวนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ยิ่งได้ยากยิ่งต้องรักษาไว้ดีๆ เขาจึงไม่นึกโกรธเคืองที่ตั้งแถวประตูเงินประตูทองกันซะยาวเยียดจากหน้าบ้านจนถึงหน้าห้องขนาดนี้

    "อยากเข้าไปหาเจ้าสาวมั้ยค่ะ" ศศิกานต์ถามในใจกำลังรู้สึกฟินที่เจ้าวบ่าวของพิมพ์ชนกดูรักเพื่อนเธอขนาดนี้

    "อยากครับ" ตอบไปสองสาวก็หันสบตากันเขินๆ

    "สองกับเอมมีท่อนฮุกของเพลงอยู่ห้าเพลงในกระดาษที่อยู่ในซองเหล่านี้ หยิบขึ้นมาหนึ่งซองเพื่อร้องเพลงที่อยู่ในนั้นให้เจ้าสาวฟัง ถ้าเจ้าสาวไม่ยอมเปิดประตูแสดงว่าไม่ชอบ ต้องหยิบซองใหม่มาร้อง จนกว่าเจ้าสาวจะยอมเปิด" ชมพูนุชบอกก่อนที่ศศิกานต์จะยื่นซองมาให้เลือก

    "ไม่เลือกไม่จบนะบอกให้ พริกไทยไม่ออกมาด้วย" ศศิกานต์บอกทำให้พายัพเมฆรีบหยิบซองที่อยู่ตรงกลางมาเปิดออก

    ครู่ใหญ่ต่อมาพายัพเมฆถึงกับเท้าสะเอวมองประตู เขาร้องจบห้าเพลงแล้วแต่ประตูก็ยังไม่เปิด

    "คราวนี้ให้เจ้าบ่าวเลือกเพลงเองดีกว่านะ เพลงเสี่ยงไม่ค่อยซึ้งเลย" เสียงของพิมพ์ดาวลอดออกจากในห้องแล้วหันมาหาพิมพ์ชนก "พริกไทยจะยอมเปิดหรือไม่มีแล้วแต่พริกไทยเสมอ อย่าลืมนะ"

    "ค่ะ" เด็กสาวรับคำ ตั้งแต่เพลงแรกจนถึงเมื่อครู่เธอเลือกที่จะไม่เปิดเพราะไม่ค่อยมีความจริงใจเท่าไหร่ เธออยากให้เขาเลือกเองว่าจะเลือกเพลงไหน และเพลงที่เขาเลือกเธอจะพิจารณาอีกทีว่าควรเปิดประตูออกไปหรือไม่

    ขณะที่คนในห้องรอฟัง คนนอกห้องก็สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆก่อนที่จะเริ่มร้องเพลงออกมา

    "รู้ไหมว่าเราเจอกันครั้งแรกตอนไหน

    ความทรงจำเกิดขึ้นเมื่อไหร่

    เมื่อไหร่ที่ทำให้เราสองคนเริ่มหวั่นไหว

    หรือจะเป็นในตอนที่คุณต้องนอนเสียใจ

    หรือว่าตอนที่เราต้องไกล

    มันทำผมได้รู้ว่าคิดถึงแต่คุณ

    และในตอนนี้ ในเวลานี้

    ล่วงเลยมานานเป็นปี

    ให้ดวงดาวนั้นเป็นเหมือนพยานรักขอ

    สัญญาว่าจะรักเพียงคุณ

    ว่าจะรักแค่คุณ ว่าจะรักแค่คุณ เท่านั้น

    นานแสนนานก็จะรักเพียงคุณ

    ก็จะรักแค่คุณ อยากจะมีแค่คุณคนเดียว

    คืนวันที่เราเคยมีแต่ความเหงาใจ

    เมื่อมีคุณเข้ามาชิดใกล้

    ก็อบอุ่นใจดังไฟที่ร้อนตอนเหน็บหนาว

    และในตอนนี้ในเวลานี้

    ล่วงเลยมานานเป็นปี

    ให้ดวงดาวนั้นเป็นเหมือนพยานรัก

    ขอสัญญาว่าจะรักเพียงคุณ

    ว่าจะรักแค่คุณ ว่าจะรักแค่คุณ เท่านั้น

    นานแสนนานก็จะรักเพียงคุณ

    ก็จะรักแค่คุณ อยากจะมีแค่คุณคนเดียว

    ลืมเรื่องราวที่ได้เคยบอบช้ำ

    ทิ้งมันแล้วโยนมันไปไกล

    แล้วในวันพรุ่งนี้ก็จะมีแค่เพียงเรา

    ไม่มีใครต้องเหงา และไม่มีใครต้องเศร้า

    สองเราเดินเคียงกันไป"

    แอดดด

    ประตูบานหน้าถูกเปิดออกเผยให้เห็นร่างของคนเป็นเจ้าสาวที่ถูกแต่งหน้าแต่งตัวให้สวยใสราวสาวสะพรั่งวัยยี่สิบต้นๆด้านหลังของเด็กสาวคือพิมพ์ลภัสและพิมพ์ดาว พายัพเมฆมองก่อนที่จะร้องเพลงต่อให้จบ

    "ขอสัญญาว่าจะรักเพียงคุณ

    ว่าจะรักแค่คุณ ว่าจะรักแค่คุณ เท่านั้น

    นานแสนนานก็จะรักเพียงคุณ

    ก็จะรักแค่คุณ อยากจะมีแค่คุณคนเดียว

    ขอสัญญาว่าจะรักเพียงคุณ

    ว่าจะรักแค่คุณ ว่าจะรักแค่คุณ เท่านั้น

    นานแสนนานก็จะรักเพียงคุณ

    ก็จะรักแค่คุณ อยากจะมีแค่คุณคนเดียว"

    ดวงตาของคนทั้งสองมองสบประสานกันก่อนที่พายัพเมฆจะยื่นมือออกไปตรงหน้าเด็กสาว พิมพ์ชนกหันกลับไปมองพิมพ์ลภัสครู่หนึ่งก่อนที่จะส่งมือออกไปวางลงบนมือหน้าเมื่อคนเป็นแม่พยักหน้าให้ พายัพเมฆยิ้มแล้วรวบมือบางไปจับไว้แน่น "ไปกันเถอะ ลงไปข้างล่างกัน"


    อู๊ย อยากเป็นเจ้าสาวของเจ้าบ่าวคนนี้555 สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าคร่าาาาา


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×