ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คลังเก็บฟิค ( sf / os )

    ลำดับตอนที่ #14 : OS - Can't (Markno)

    • อัปเดตล่าสุด 8 ม.ค. 60


    T
    H
    E
    M
    Y
    B
    Markno } Can't
    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ tumblr be hand in hand



        วันเปิดภาคเรียนที่สอง ชั้นม.สาม

        “มาร์ค!” เสียงใสดังขึ้นพร้อมกับร่างบางเจ้าของดวงตาเสี้ยวพระจันทร์ยามยกยิ้ม เจโน่ เดินตรงมาหามาร์คที่นั่งอยู่บนม้านั่งที่ประจำ

        “ค่อยๆเดินก็ได้ เดี๋ยวล้ม” มาร์ค พูดด้วยน้ำเสียงละมุน ดวงตาอบอุ่นอย่างที่เจโน่ชอบมองมาชวนให้หัวใจพองโต ร่างบางยิ้มกว้างแล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ

        “ยิ้มอะไร” มืออุ่นขยี้หัวเจโน่เบาๆพลางหัวเราะ

        ยิ้มเพราะมีความสุขไง เจโน่เอียงหัวใส่มือของใหญ่ของมาร์ค

        ยังไง หืม? น้ำเสียงอบอุ่นของมาร์คถามขึ้น เจโน่หัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ

        ก็เพราะมีมาร์คอยู่ด้วยไง ทุกวันของเราเลยมีความสุข ร่างบางตอบพร้อมรอยยิ้มที่ใครต่อใครต่างก็บอกว่าเพียงได้มองก็ตกหลุมรัก
         
        ใครๆก็ต้องคิดว่าคำพูดและรอยยิ้มที่มีให้กันมันคงมีสถานะมากเกินกว่าคำว่าเพื่อนแน่ๆ แต่ไม่ใช่...ไม่ใช่เลย เพราะพวกเขารู้ดีว่าแม้ใครต่อใครจะคิดยังไง ทั้งสองก็ยังรู้ตัวเองดีว่าเราเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น...

        แม้ใครบางคนจะคิดเกินคำว่าเพื่อนก็ตาม



        “เจโน่” มาร์คเรียกเจโน่ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มดูมีความสุขผิดปกติ เจโน่ขานรับเสียงสูง ปากคลี่ยิ้ม ดวงตาทอประกายความสงสัย ร่างเล็กเอียงคอมองเพื่อนรักของตัวเอง

        “หืม?”

        “คือ...เรา” มาร์คพูดตะกุกตะกักพลางเล่นนิ้วตัวเอง ใบหน้าก้มงุดซ่อนความเขินอายเอาไว้ เขาถอนหายใจออกมาก่อนจะพูดสิ่งที่ต้องการจะบอก “เรากับแจมินเป็นแฟนกันแล้วนะ”


        “...” หัวใจเจโน่เหมือนหยุดติด วินาทีนั้นเขาคิดว่าตัวเองตายไปแล้วแน่ๆ ศีรษะเหมือนถูกทุบด้วยของหนักๆจนมันเบลอไปหมด เจโน่มองมาร์คด้วยสายตาว่างเปล่า 

        “เจโน่?”

        “อะ...อะไร” เจโน่ฝืนยิ้ม มือกำแน่นพยายามกลั้นน้ำตาและก้อนสะอื้นที่ขึ้นมาจุกอยู่ที่คอ ฟันขบกัดริมฝีปากจนได้กลิ่นคาวเลือด มาร์คพูดย้ำสิ่งที่บาดหัวใจดวงน้อยอีกครั้ง

        “เรากับแจมินคบกันแล้ว”

        “อะ อ๋อ...อื้ม” เจโน่ยิ้มกว้าง มาร์คพ่นลมออกมาอย่างโล่งอก มือเล็กตบบ่ามาร์คเบาๆ ร่างบางพยักหน้าช้าๆ “เรายินดีด้วยนะ...”

        “อื้ม ขอบใจ คือ...เราจะบอกว่าเราคง...ไปไหนกับเจโน่ไม่ได้บ่อยๆแล้วอะ”

        “อือ ไม่เป็นไร...มาร์คไปกับแจมินเถอะ” เจโน่ยิ้ม ในขณะที่น้ำตาเหมือนจะไหลออกมา มือเล็กยกขึ้นกุมหน้า “โอ๊ย อะไรเข้าตาไม่รู้อะ..”

        “ไหน เป็นอะไรหรือเปล่า” น้ำเสียงและท่าทีเป็นห่วงของมาร์คทำให้ร่างเล็กใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ก่อนที่มันจะค่อยๆช้าลงและช้าลงเรื่อยๆจนหยุดเต้นเมื่อนึกถึงภาพของมาร์คกับใครอีกคน...

        ที่ไม่ใช่เจโน่...และไม่มีทางเป็นเจโน่

        “ไม่เป็นไร...เดี๋ยวเราไป...ล้างหน้าที่ห้อง...น้ำก่อนนะ” เจโน่พูดตะกุกตะกักเพราะกลั้นก้อนสะอื้นเอาไว้ มาร์คเงียบไปสักพักก่อนจะเสนอขึ้นมา

        “ให้เราพาไปล้างมั้ย?”

        “ไม่เป็นไร มาร์คไปหาแจมินเถอะ” เจโน่พูดกลั้วหัวเราะ มาร์คพยักหน้ารับรู้แล้วมองตามแผ่นหลังที่เล็กลงเรื่อยๆตามระยะทาง ถ้าเขาไม่ได้ตาฝาด..

        แผ่นหลังนั้นกำลังสั่นไหว

        และถ้าเขาไม่ได้คิดไปเอง...

        เขาเห็นว่าน้ำตาของเจโน่มันไหลออกมา



        “มาร์ค!” เสียงสดใสของแจมินดังขึ้นพร้อมกับร่างเล็กที่วิ่งตรงมากอดแขน มาร์คยิ้มให้ก่อนจะขยี้หัวแจมินเบาด้วยความเอ็นดู “เป็นอะไรหรือเปล่า?”

        “เจโน่เป็นอะไรไม่รู้อะ...”

        “ทำไมอะ?”

        “ไม่รู้สิ ช่วงนี้เจโน่ดูซึมๆแล้วก็ชอบหลบหน้าเราด้วย” มาร์คพูดด้วยสีหน้าเป็นห่วง แจมินขมวดคิ้วแล้วน้อยก่อนจะผละออกมาแล้วเอียงคอจ้องหน้าแฟนของตัวเอง

        “มาร์ค...เราถามจริงๆนะ”

        “...ว่า?”

        “มาร์คชอบเจโน่ใช่มั้ย?”

        “...เฮ้ย ทำไมถามงั้นอะ” มาร์คถามกลั้วหัวเราะ ร่างสูงเดินเข้าไปใกล้และกุมมือเล็กไว้ แจมินบิดข้อมือออกแล้วถามย้ำอีกครั้ง

        “มาร์คชอบเจโน่ใช่มั้ย?”

        “ชอบ...แต่ชอบแบบเพื่อนอะ”

        “ไม่ มาร์ค...มาร์คชอบเจโน่” แจมินจ้องมาร์คด้วยสายตาว่างเปล่า ดวงตากลมเสมองไปทางอื่น “ชอบแบบที่ไม่ใช่เพื่อน”

        “ไม่ใช่สักหน่อย...แจมินอย่าคิดมากสิ”

        “เราสังเกตมาสักพักแล้วแหละ ตั้งแต่เราเริ่มคุยๆกัน” ร่างเล็กคลี่ยิ้มแล้วตบไหล่กว้างเบาๆ “ถ้าเรามองไม่ผิด เจโน่ก็ชอบมาร์คเหมือนกันนะ”

        “...”

        “เคลียร์ความรู้สึกตัวเองให้ชัดเจนก่อนจะเริ่มอะไรใหม่...ไม่งั้นมันจะค้างคาแล้วไม่เหลืออะไรเลย”



        มาร์คชอบเจโน่

        มาร์คชอบเจโน่

        มาร์คชอบเจโน่

        มาร์คชอบเจโน่

        คำเหล่านี้วนเวียนอยู่ในหัวมาร์ค เขาพยายามสะบัดหัวไล่ความคิดพวกนั้นออกไป แต่มันก็ยังย้อนกลับมาอยู่ดี ร่างสูงถอนหายใจหนักๆแล้วลุกพรวดขึ้นจากม้านั่งโดยลืมไปว่าตรงหน้ามีคนนั่งอยู่อีกคน

        “เราไม่ได้ชอบเจโน่”

        “...” เจโน่มองร่างของมาร์คที่ลุกขึ้นยืน เขามองผ่านหัวเจโน่ไป...ที่ไหนไม่รู้ แต่ที่แน่ๆคือเขาไม่ได้มองเจโน่ ร่างเล็กนิ่งงันไปก่อนจะยิ้มบางๆ “อืม...รู้แล้วแหละ”

        “...!!!” มาร์คเบิกตากว้างแล้วเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงสั่นๆ “จะ...เจโน่”

        “เรารู้อยู่แล้ว...ว่ามาร์คไม่ได้คิดอะไรหรอก” หัวใจของมาร์คสั่นระรัว...ไม่ใช่ว่ามันกำลังพองโตหรือสบายใจ หรือว่ามีความสุข แต่มันกำลังกลัว...

        กลัวว่าจะเสียเจโน่ไป

        “มีแต่เรานั่นแหละที่คิดไปไกล...แต่มาร์ค” น้ำเสียงตัดพ้อน้อยใจของเจโน่พูดขึ้นเรื่อยๆ เจโน่ช้อนตาขึ้นมองมาร์คที่ยังยืนนิ่งด้วยดวงตาสั่นไหว “จะเหลือพื้นที่ให้เราเป็นเพื่อนก็ไม่ได้เหรอ?”

        “เรา...”

        “ไม่เป็นไร...” น้ำตาหยดแรกร่วงผล็อยลงบนหนังสือเรียน เจโน่ปาดมันออกเรื่อยๆ แต่ยิ่งปาดมันกลับยิ่งไหลออกมาเยอะขึ้น “ถ้ามาร์คไม่โอเคเราไปเองก็ได้”

        เจโน่ยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่เศร้าที่สุดของเจโน่ ในสมองมีแต่ภาพรอยยิ้มเก่าๆของเพื่อนที่เขารักมากที่สุดอย่างเจโน่ เขาไม่เคยสังเกตเลยว่ามันเศร้าขนาดไหน...โดนเฉพาะดวงตาที่เป็นประกายตลอดเวลา มันมีทั้งความเศร้าและความสุข...

        มาร์คไม่แม้แต่จะมีแรงรั้งเจโน่ด้วยซ้ำ ร่างสูงล้มลงนั่งบนเก้าอี้หินอ่อนอย่างหมดแรง มือยกขึ้นกุมขมับแล้วปล่อยให้น้ำตาหลั่งไหลลงมาช้าๆ



        วันจบปีการศึกษา...

        ตั้งแต่วันนั้นจนถึงตอนนี้เจโน่ก็หลบหน้าและไม่คุยกับมาร์คอีกเลย เขาเองก็ไม่รู้จะเริ่มทักยังไง เจโน่ในวันรับปริญญาก็ยังคงดูสดใสเหมือนเดิม...ดูมีความสุขกว่าเดิมด้วยซ้ำ

        มาร์คมองภาพตรงหน้าด้วยสมองว่างเปล่า มาร์คเหม่อลอยจนไม่ทันได้รับรู้ว่าเจโน่หันมาเห็นเขาแล้ว เจโน่ยิ้มกว้างแล้วเดินมากอดคอมาร์คไปถ่ายรูปด้วยกัน ตาเรียวเบิกกว้างอย่างแปลกใจ

        “เจโน่...ยอมคุยกับเราแล้วเหรอ?”

        “วันนี้วันจบการศึกษาแล้วนะ...ถ้าไม่คุยตอนนี้ก็ไม่รู้จะได้คุยกันอีกมั้ย” เจโน่ตอบพลางหัวเราะ มาร์คยิ้มตามคนตรงหน้าก่อนจะรวบรวมความกล้าแล้วพูดออกไป

        “เจโน่...”

        “หืม?”

        “เราไปจัดการความรู้สึกของเรามาแล้วนะ...ไม่รู้ว่าเจโน่ยังต้องการหรือเปล่า...แต่...”

        “ต้องการสิ...ต้องการเสมอนั่นแหละ” เจโน่พูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ดวงตาว่างเปล่าที่จ้องมองมานั้นชวนให้ใจสั่นวูบด้วยความรู้สึกแปลกๆ... “แต่มาร์ครู้อะไรมั้ย...คนเราจะรู้อะไรและจัดการอะไรๆได้ก็ต่อเมื่อมันสายไปก็เท่านั้น”


        “มันไม่สายเกินไปหรอกเจโน่...”

        “สายสิ”

        “ถ้าเจโน่ชอบเรา เราชอบเจโน่...มันก็น่าจะโอเคไม่ใช่เหรอ? หรือถ้าเจโน่มีคนอื่นเจโน่ก็แค่เลิก...” มาร์คพูดด้วยสีหน้าที่เศร้าหมองและกังวลขึ้นเรื่อยๆ

        “มาร์ค เราไม่สามารถทำนิสัยเห็นแก่ตัวแบบนั้นได้จริงๆ...จีซองไม่ผิดอะไร”

        “แล้วเราผิดอะไร...?”

        “นายไม่ชัดเจนตั้งแต่แรกเองมาร์ค...ใครเหรอที่ทำให้เราเจ็บมาตลอดห้าปีที่ผ่านมา...เราชอบมาร์คตั้งแต่ป.ห้า...มาร์คให้ความหวังเรามาตลอด แต่มาร์คไม่เคยให้ใจเราเลย” เจโน่ตัดพ้อด้วยนัยน์ตาเศร้าหมอง เขาถอนหายใจก่อนจะยิ้มออกมาแล้วกุมมือมาร์คไว้

        “ขอโทษนะมาร์ค...อย่างมากเราคงให้ได้แค่เพื่อน”

        “...อืม ไม่เป็นไร”

        “ประโยคคุ้นๆนะ” เจโน่พูดขำๆ มาร์คยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าช้าๆ ดวงตาหม่นหมองจ้องมองเจโน่ก่อนจะพูดย้ำอีกครั้ง

        “ไม่เป็นไร”

    - - - - - - - - - - - - - - - -
    มาแล้ววววววว
    ช้ามา ขอโทษน้า T_T
    หวังว่าจะชอบนะคะ <3

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×