ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SHinee JONGKEY INNOCENT XX รักร้ายคุณชายตัวเเสบ 18+ part II

    ลำดับตอนที่ #13 : CHAPTER 12 INNOCENT II 100 %

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 56


    THE' FARRY

     

    Chapter 12  innocent   jongkey

     

    “ เธอนี่ท่าจะบ้า ” 

      เสียงของหญิงสาวดังมาแต่ไกลลับ   ชายหนุ่มเงยหน้ายิ้มให้กับหล่อนขณะยืน

    พิงข้างเสาโรมันสูดอากาศข้างนอกคนเดียวเงียบๆ     แม้ว่าสาวเจ้าเสนห์จะส่ง

    เสียงโวยวายใส่เขายังไง   คิมจงฮยอนก็ยังหน้ายิ้มระรื่นอีกตามเคย  

     

     

     

    “ เซคยองฉันไม่ได้ขอให้เธอมาด่าฉันน่ะ ” 

     

     

     

      แล้วใครกันล่ะที่บอกว่าฉันเป็นภรรยาของเธอ  เราตกลงกันแล้ว  ว่าเธอจะ

    ไม่พูดอะไรจนกว่าฉันจะเป็นฝ่ายพูดมันเอง ”   หญิงสาวแสดงความกรุ่นโกรธ  

    เพราะคำพูดไม่ยั้งคิดจากปากเพื่อนสนิทของเธอเอง    

     

     

     ชินเซคยอง  เธอเป็นเพียงเพื่อนสนิทของเขาสมัยมัธยมต้น  ผู้หญิงที่เพียบพร้อม

    และรักสนุกอย่างเธอ   จู่ๆก็กลายมาเป็นคุณแม่จำเป็นและภรรยาจอมปลอมของ

    เพื่อนสนิทชั่วคราว  เท่านี้เธอก็คิดจนหัวแทบปั่นจะแย่  ได้เห็นสายตาเขาที่อ้อน

    วอนขอร้องเธอ 

     

     

     ฉันคิดว่าเธอจะเข้าใจความรู้สึกของฉันซะอีก   รูปหัวใจสองดวงในสมุดแคลคูรัส

    ของฉัน เธอคงวาดมันเองสินะเซคยอง ”     

     

     

     

      ความรู้สึกช้าจังเลยนะ  เก็บมันเอาไว้เป็นความทรงจำเถอะ ” 

     

     

     

       ขอโทษนะ     

     

     

     

      รู้ตัวบ้างก็ดี  แต่ทำไมต้องเป็นฉันล่ะ   ซอจูฮยอนน่าจะช่วยเธอได้ดีกว่า

    ฉันอีกนะ  นายก็รู้    ตอนนี้ฉันไม่รู้สึกอยากจะจริงใจกับใครเลย   

     

     

     

    “ แต่ก็ไม่ใช่กับฉันใช่มั้ยล่ะ”  

     

     

     

     คนหลงตัวเอง  .....ผู้หญิงคนนั้นสวยดีนะ  เธอร้ายกาจมากที่กล้าทิ้งผู้ชายดีๆ

    อย่างเธอ   ให้ตายสินี่ฉันคงจะกินเยอะไปหน่อย   ไปหาน้ำข้างในดื่มดีกว่า เธอ

    จะไปด้วยกันมั้ย “    หญิงสาวเบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่น  พลางชี้นิ้วเข้าไปในงาน

    ที่เธอออกจะชอบมันมากกว่าตัวเขาซะอีก

     

     

     

    “ ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ   เธอไปก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันตามไป”   เธอผงกศรีษะ หันหลัง

    กลับเข้าไปในงานไม่รอช้า    ข้างนอกหอประชุมจึงเหลือเพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้น 

     

     

     

      

     คิมจงฮยอนก้มหน้าตลอดทางระหว่างเดินไปเข้าห้องน้ำทางซ้ายมือ  แต่แล้วใคร

    คนหนึ่งก็ทำให้เขาหยุดชะงัก   มองตามรองเท้าส้นสูงสีเทาประกายระยิบระยับ ไล่

    สายตามองเจ้าของร่างอย่างช้าๆ      

     

     

     

       หญิงสาวได้แต่ทำหน้าตกใจเมื่อเห็นเขา  ทว่าก็ปรับสีหน้าไว้ได้ทัน    ร่างสูงโปร่ง

    จึงกลับจ้องมองเธออยู่นิ่งนาน       เสื้อไหมพรมแขนยาวสีขาวและกางเกงขายาว

    สีเดียวกัน      ทำให้เส้นผมสีน้ำตาลทองนั้นเข้ากันดีกับสร้อยคอคริสตัลที่เธอ

    สวมมันอยู่

     

     

      วันนี้คุณแต่งตัวสวยจังเลยนะ ”     คิมจงฮยอนเอ่ย จังหวะที่เธอกำลังจะเดินหนี

     

     

     

    “คุณคงไม่สบายอยู่ล่ะสิ ” 

     

     

     

     

    “...”

     

     

     

     ช่วงนี้ผมเองก็ยุ่งๆจนไม่มีเวลาพักผ่อนเลย  แต่ผมก็ยังคิดถึงคุณและก็อยากจะ

    เจอหน้าคุณด้วย     ชายหนุ่มเอ่ยถามออกไป ทันทีที่ได้พบกันครั้งนี้  เขาอยากกอด

    และจูบเธอมากเหลือเกิน เธอต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะเขา    ผู้หญิงคนนั้นถึงได้แสดง

    ความเย็นชาใส่โดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ  

     

     

    ผมมีเรื่องอยากจะพูดกับคุณตั้งเยอะแยะ  แต่ตอนนี้คุณเป็นภรรยาของเชวมินโฮ 

    ผมจึงไม่มีสิทธิ์พูดอะไรแบบนั้นกับคุณได้อีก   ”    คิมจงฮยอนไม่ได้ตั้งใจออกมาเจอ

    กับเธอ      แต่มันยิ่งทำให้เขารู้สึกคลางแคลงใจเสียเหลือเกิน   ที่จู่ๆใบหน้าของ

    หญิงสาวกับพี่ชายของเธอนั้นกลับซ้อนทับกัน จนเขานึกถึงเรื่องที่พี่ชายเธอบอกกับ

    เขาผู้หญิงคนนี้จะกลับมางั้นหรือ   เธอเย็นชาใส่เขาขนาดนี้   เป็นไปไม่ได้หรอกที่

    เธอจะกลับมาหาเขา    

     

     

     เลิกคิดเสียเถอะ!!  คิมจงฮยอน

     

     

     

     

     

      ฉันยังหวาดกลัวที่ต้องเผชิญหน้ากับเขาจึงเดินหนีออกมาเข้าห้องน้ำ   เขากับ

    ผู้หญิงคนนั้นดูเหมาะสมกันดีทีเดียว   จู่ๆ ความอิจฉาก็ดันปะปนกับความเสีย

    ดายเล็กๆ  ทันทีที่ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำได้ไม่เท่าไหร่  เพราะไม่คิดว่าจะได้

    เจอ ก็เล่นเอาฉันปรับตัวไม่ถูกมากเลยทีเดียว

     

     

      วันนี้คุณแต่งตัวสวยจังเลยนะ ”    

     

     

     

    “ คุณคงไม่สบายอยู่ล่ะสิ   

     

     

      ช่วงนี้ผมเองก็ยุ่งๆจนไม่มีเวลาพักผ่อนเลย  แต่ผมก็ยังคิดถึงคุณและก็อยากจะ

    เจอหน้าคุณด้วย    

     

     

    “ ผมมีเรื่องอยากจะพูดกับคุณตั้งเยอะแยะ  แต่ตอนนี้คุณเป็นภรรยาของเชวมินโฮ 

    ผมจึงไม่มีสิทธิ์พูดอะไรแบบนั้นกับคุณได้อีก     

     

     

    “ คิดแบบนั้นได้ก็ดีนะ   ฉันเองก็รู้สึกโชคดีเหลือเกิน  คำพูดของคุณน่ะไม่ได้

    ทำให้ฉันรู้สึกอะไรแบบนั้นอีกแล้ว   อย่างมากคุณก็แค่เศษฝุ่นเศษดินสำหรับ

    ฉันก็เท่านั้น     คุณจงฮยอนก้มหน้าลงต่ำ  พ่นลมหายใจอย่างหนักหน่วง  

    เขาไม่รู้หรอกว่าฉันต้องพยายามแค่ไหน หลังจากที่ฉันเอ่ยปากพูดไปแบบนั้นแล้ว

     

     

      ในเวลานี้อะไรก็มืดหม่นไปหมด     คนเลวๆไม่รู้จักพอสุดจะโลภมากพวกนั้น 

    ที่มีแต่จะจ้องทำร้ายพวกเรา   เกี่ยวกับมรดกและทรัพย์สมบัติที่กลัวจะตกเป็น

    ของคนอื่น    ฉันก็ไม่รู้เรื่องนี้มากนัก  ถ้าไม่ทำแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าจะปกป้องพวกเขา

    ได้โดยวิธีไหนแล้วเหมือนกัน     

       

     

     ผมว่าเราสองคนมาไกลกันเกินไป จนผมไม่อยากเชื่อว่าคุณจะเปลี่ยนไปได้

    ขนาดนี้ มินฮวานก็คงจะรู้สึกเช่นเดียวกัน   แต่จะให้ผมเชื่อได้หรือว่าผมไม่มีค่า

    พอสำหรับคุณ    ในเมื่อตอนนี้คุณยังใส่แหวนแต่งงานของเราบนนิ้วนางอยู่เลย ”  

    เขาเอ่ยถามชี้นิ้วมายังแหวนแต่งงานบนนิ้วฉันด้วยความสงสัย  

     

     

      เครื่องประดับใหม่น่ะ คุณเองก็ทิ้งมันไปแล้วไม่ใช่รึไง จะสำคัญอะไรอีกล่ะ 

    เมื่อแหวนคู่วงนี้คุณต่างหากที่เป็นคนทิ้งมัน   เหมือนกับพวกเราที่ต่างก็จบความ

    สัมพันธ์นั้น      พูดจบฉันก็เดินผ่านหน้าคุณจงฮยอนกลับเข้าไปในงานอีกครั้ง    

    จังหวะเดียวกัน เทวดาผู้ช่วยชีวิตก็ส่งเสียงเรียกฉันหน้าประตูบานใหญ่ ฉันจึงรีบ

    เร่งฝีเท้าของตัวเองเดินออกมาให้ห่าง

     

     

     

      เชวมินโฮเดินจูงมือหญิงสาวเอาไว้แน่น    หลังจากที่พวกเขาได้รับเกียรติ

    ขึ้นกล่าวบนเวที    คิมจงฮยอนซึ่งยืนอยู่ข้างๆเวทีคอยเฝ้าจับตามองหญิงสาว

    ไม่คลาด    ผู้หญิงคนนั้นจะโกหกได้สักแค่ไหนกันเชียว  

     

     

    “ อย่างที่ทุกท่านทราบ    กระผมขอเรียนว่าต่อไปนี้ลูกสะใภ้ลูกชายคนรอง

    ของผม       จะเข้ามาดูแลกิจการร่วมกันกับพวกเราทุกคน     เพื่อส่งเสริม

    กิจการไวน์ข้าวซองวอนก้าวสู่ระดับสากล        กระผมปาร์คยูซอนขอต้อน

    รับการกลับมาของลูกชายคนโตของผม   และขอแสดงความยินดีกับตำแหน่ง

    หัวหน้าฝ่ายผลิต     ต่อจากนี้คิมจงฮยอนจะออกมากล่าวอะไรกับทุกท่านสัก

    เล็กน้อย            ทันใดนั้นเสียงปรบมือกลับดังสะท้อนทั่วทั้งหอประชุม  

    ที่ จู่ๆ   คิมจงฮยอนก็ขึ้นมาอยู่เวทีเดียวกันกับคิมคีซุนและเชวมินโฮ

       

     

      สำหรับตำแหน่งใหม่ที่มอบให้กับผม   ถึงผมจะไม่ได้กลับไปทำงานเดิม  

    ผมก็รู้สึกขอบคุณอย่างสูงที่ทุกๆท่านเมตตากรุณาผมอีกครั้ง    สี่ปีที่ทำให้

    ผมได้รู้ว่า ทำไมไฮยีน่าถึงอยู่ร่วมกันกับสิงโตไม่ได้  ซึ่งนั้นเป็นสิ่งที่คุณตา

    ของผมท่านได้สอนเอาไว้เสมอ      และที่สำคัญผมคงไม่มีวันได้พบกับ

    ชินเซคยอง  หากเธอคนนั้นไม่ทิ้งลูกชายของเธอไว้กับผมเพื่อหาชายคนอื่น 

    ขอบคุณครับ ”  ประโยคท้ายสุด สร้างความตื่นตะลึงแก่ผู้ฟังได้เป็นอย่างดี

    ชายหนุ่มพูดพร้อมกับหันหน้าไปทางหญิงสาว  ก่อนจะเดินหายลับตาไป

    จากเวที

     

      หลังจากคิมจงฮยอนทิ้งระเบิดลูกใหญ่ปริศนาไว้ให้  ขณะนี้ แสงแฟลช

    แวววับด้านหน้าเวที     ทำให้หญิงสาวรู้สึกลายตาไปหมด หล่อนพยายาม

    เกาะแขนเชวมินโฮเอาไว้แน่น  หน้าตาซีดผาดจนเหงื่อตก  

     

     

    “ เรื่องการแต่งงานของลูกชายคนโตกับภรรยาคนเก่า ท่านมีส่วนรู้เห็น

    หรือเปล่าค่ะ”    

     

     

    “ เรื่องนี้ผมไม่ทราบจริงๆครับ ” 

     

     

     

     คุณคิมคีซุน รู้จักกับท่านประธานคิมซองวอนและก็หลานชายของท่านด้วย

    ใช่มั้ยคะเนี่ย ”   

     

     

     “ ดิฉันรู้จักกับท่านประธานคิมซองวอนจริงค่ะ  แต่คุณจงฮยอนฉันไม่ได้รู้จัก

    เขาเป็นการส่วนตัวเลยค่ะ” 

     

     

    “ เกี่ยวกับพินัยกรรมที่คุณนายคนที่หนึ่งเขียนเอาไว้    ลูกชายคนโตของคุณ

    มีสิทธิ์จะได้สืบทอดกิจการของซองวอน พร้อมกับคุณคิมคีซุน หรือเป็นคุณ

    มินโฮกันแน่คะ ”   

     

     

    “ คำถามนี้ผมไม่ขอตอบจะดีกว่านะครับ   คงต้องขอเวลาพิสูจน์ความสามารถ

    ในการบริหารของพวกเขาก่อน  และบริษัทที่ผมดูแลอยู่ในฝรั่งเศสผมอาจจะยก

    ให้ใครคนหนึ่งก็ได้   ดังนั้นผมจึงไม่ขอพูด ณ ที่นี่จะดีกว่า ”

     

      แม้การสัมภาษณ์สุดเซอร์ไพส์ระยะสั้นจะจบลงไปแล้ว  ฉันออกจะชอบบรรยากาศ

    แบบนี้เสียด้วยซ้ำ เพราะเสียงเพลงบรรเลงเบาๆที่กำลังเปิดอยู่ในตอนนี้  ทันทีที่เดิน

    ลงจากเวทีได้ไม่เท่าไหร่ 

     

     ทว่าสายตาผู้คนรอบๆตัว เสียงซุบซิบนินทาเหล่านั้น  กลับทำให้ฉันอยาก

    จะหนีไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด

     

     

     

      อะไรกัน  ผู้หญิงคนนั้นกล้าโกหกเราได้ยังไง  นังผู้หญิงเห็นแก่เงิน ”

     

     

      ผู้หญิงคนนั้นแต่งงานกับจงฮยอนไม่ใช่หรือ  แล้วทำไมเธอถึงเป็นภรรยา

    ของเชวมินโฮไปได้ล่ะเนี่ย ”

     

     

      ที่แท้หล่อนก็หวังจับผู้ชายดีๆไปทั่วนี่เอง ” 

      

     

    “ คิดจะควบทั้งพี่ทั้งน้องล่ะมั้ง จะอะไรซะอีก ”   ฉันไม่รู้ว่าเขาเล่าอะไรให้คนอื่น

    ฟังไปบ้าง  ถึงคุณจงฮยอนจะไม่เอ่ยถึงว่าเป็นใครก็ตาม  เท่านี้พวกเพื่อนๆของ

    เขาก็สงสัยฉันได้ไม่ยาก คุณลีจุนเข้ามาทักทายตามด้วยคุณชอนดุง ฉันแสร้ง

    ทำเป็นไม่เห็น ตัดสินใจเดินออกจากงานเลี้ยง  โดยไม่บอกใครล่วงหน้า

     

     

       โชคดีที่รถแท็กซี่จอดเทียบอยู่ริมฟุตบาท ฉันรีบกระโดดขึ้นไปนั่งบนรถอย่างเร่งรีบ

     คุณลุงซึ่งขับมาไกลพอสมควร จึงต้องเหยียบเบรกหลบกะทันหัน  เมื่อรถสปอต์สี

    น้ำเงินเข้มวาววับ พรวดพราดขับตัดหน้าช่วงจังหวะที่รถเลี้ยวไปทางซ้ายมือ  

    หน้าผากฉันกระแทกกับเบาะด้านหน้า เพราะรถคันนั้นเข้า

     

     

    “ ไอ้รถคันนี้มันอยากตายห่ารึไงว่ะ!!    คุณลุงเสื้อฟ้ากระโดดลงจากรถ ฉันไม่รู้ว่าเกิด

    อะไรขึ้น ค่อยๆเงยหน้าขึ้น  ก่อนได้ยินเสียงคุณลุงคนขับตวาดใส่เจ้าของรถคันนั้นเพราะ

    โมโหสุดๆ    เหตุการณ์ด้านนอกแทบจะสงบศึกลงในทันที   ชายร่างสูงสวมชุดสูธเดิน

    ดุ่มๆเข้ามาใกล้   และแล้วฝั่งประตูรถด้านซ้ายจึงเปิดออกทันใด 

     

     

    “ ลงมา!!!!      ไม่สิ..  มันไม่ใช่ความฝันซะหน่อย    แล้วฉันก็นึกขึ้นได้เกี่ยวกับเรื่อง

    เมื่อไม่นานมานี้

     

     

     

      คุณลุง... เร็วๆสิคะ ช่วยไปส่งฉันที่อับกูจองทีเถอะค่ะ” 

     

     

     

     ผมบอกให้คุณลงมาจากรถ!!  

     

     

    “ คุณลุงยืนอยู่ตรงนั้นทำไมค่ะ   ต้องการเท่าไหร่บอกมาเลยค่ะฉันมีเงิน

    จ่ายให้มากกว่าที่คุณลุงคิดอีกนะคะ ”    ฉันพูดพลางปิดประตูรถใส่ 

    ทว่าคุณจงฮยอนกลับกระชากประตูรถไปอีกหน  พร้อมกับฉุดข้อมือฉัน

    ลงจากรถท่ามกลางความวุ่นวายที่ซึ่งเกิดขึ้น       

     

     

       เขาจับยัดฉันขึ้นมาบนรถได้สำเร็จ   ฉันไม่รู้ว่าเขากำลังจะพาไปที่ไหน

    ตะโกนถาม   เขาก็นั่งนิ่งไม่ยอมตอบตั้งหน้าตั้งตาขับรถจนฉันอดรู้สึก

    หงุดหงิดระหว่างนั่งรถไปด้วยกันไม่ได้

     

     

    “ นี่จะขับไปอีกไกลแค่ไหน...       

     

     

     

    “ ...... ” 

     

     

    “มันจะเลยออกจากตัวเมืองอยู่แล้วนะ!!

     

     

     

    “ ยังไงผมก็ไม่พาคุณไปไกลกว่านี้หรอก  อีกอย่างผมไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วที่คุณต้อง

    ไปเป็นภรรยาหลอกๆแค่ในนามกับมัน   น่าภูมิใจนักหรือไง ”       

     

     

    “ เรื่องนั้นเรื่องนี่มันเกี่ยวกันตรงไหน!  คุณนี่มันทุเรศที่สุดเลยนะ!! ฮึ~ ฉันจะภูมิใจ

    หรือไม่  ทำไมคุณต้องทำให้มันยุ่งยากสำหรับฉันด้วยล่ะ    ได้โปรด~ทิ้งฉันไปหา

    ผู้หญิงคนนั้นของคุณซะเถอะ  และก็ช่วยจอดรถสักทีฉันจะลง!!!! ” เพราะการ

    แบกรับภาระไว้คนเดียว ฉันถึงได้ระเบิดอารมณ์ใส่เขาเช่นนั้น   อยู่ๆความเร็วซึ่งค่อยๆ

    ชะลอลงหยุดอยู่กับที่  และคำพูดของเขา   ฉันจึงจ้องมองคุณจงฮยอนผ่านม่านน้ำ

    ด้วยลมหายใจที่หยุดไปชั่วขณะ  

     

     

     “ คิดว่าผมช่วยอะไรคุณไม่ได้สินะ  คุณถึงไม่ยอมบอกอะไรผมเลย!    ฉันว่าฉันไม่

    เคยบอกเรื่องนี้กับใครนอกจาก พี่จองชิน  และคุณมินโฮ   แล้วนี่เขา..O_O

     





                                                         -ต่อ-

     

     คุณจงฮยอน   รู้ตัวมั้ยว่าคุณกำลังทำอะไรลงไป

     

     

     

      รู้!!   ผมก็ไม่ได้ ขอให้คุณยกโทษให้ผมไม่ใช่รึไง   

     

     

       ฉันต้องอับอายขายหน้า  เพราะคำพูดไม่รู้จักคิดของคุณนั่นล่ะ  มันจะเป็น

    ข่าวใหญ่โตสักแค่ไหนคิดบ้างรึเปล่า     ใช่!คุณเป็นผู้ชายจะเข้าใจหัวอกผู้หญิง

    ได้ยังไงกัน     อย่างมากฉันมันก็แค่นังผู้หญิงหน้าด้านชอบ ”  พูดไม่ทันจบ คุณ

    จงฮยอนกลับดึงฉันเข้าไปกอดพูดงึมงำอะไรบางอย่างเบา ๆ   ฉันปฏิเสธสะบัด

    ตัวจากเขาในทันที    ทว่าอ้อมกอดซึ่งดูเหมือนจะแน่นหนากว่าเดิม  จึงปล่อยให้

    น้ำตาของตัวเอง  เช็ดเข้ากับเสื้อสูธนั้นด้วยความรู้สึกโกรธอยู่ไม่น้อย  

     

     

      ตั้งแต่พรุ่งนี้เชคฮยองจะมาอยู่กับเราในฐานะภรรยาของผม  ส่วนคุณ

    เป็นภรรยาของมินโฮ     ข่าวไม่ต้องห่วงนะผมให้ชอนดุงจัดการให้เรียบร้อย

    แล้ว    รอเห็นข่าวดีๆบนหน้าหนังสือพิมพ์ได้เลย   อีกอย่างเรื่องที่ผมพูดบน

    เวทีก็มีแต่นักข่าวที่รู้จักกันกับผมทั้งนั้น         ฉันถึงกับออกอาการพูดไม่

    ออกไปชั่วขณะ    นี่เขา..คิดจะทำอะไรอีกแล้วรึไงเนี่ย

     

     

     

    “ อะไร!! ไม่เห็นจะต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นเลย   แค่เล่นละครตบตา   

    คุณเองก็ถนัดมากไม่ใช่เหรอ ” 

     

     

     

       คุณนี่มันเหลี่ยมเยอะจัดจริงๆนะ    ต้องการอะไรกันแน่ ”

     

     

     

    “ ถ้ารู้ จะยอมนอนกับผมทุกคืนหรือเปล่าล่ะ ”    คำตอบนั้นยิ่งกระตุ้นต่อม

    ประสาทตรงปลายเท้าเข้าไปใหญ่จนฉันไม่คิดจะอยากรู้ด้วย   พอจะเดา

    ได้คราวๆ ไม่รู้ว่าแผนการของเขาจะส่งผลกระทบกับงานของฉันด้วยหรือ

    เปล่า   แต่สิ่งที่ทำให้ฉันนึกไม่ถึงก็คือ   ทำไมแม่เลี้ยงของเขาถึงยอมตกลงรับ

    ข้อเสนอง่ายๆแบบนั้น    ทั้งๆที่พวกเขาต่อต้านการกลับมาของคุณจงฮยอน

    ยิ่งกว่าอะไร   ดังนั้นการเซ็นต์สัญญาที่ดินโรงงานนั่น    ยังไงฉันก็บอกให้

    เขารู้ไม่ได้เด็ดขาด!!   

     

     

     

      กลับดึกสักวันคงไม่เป็นไรหรอก     ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าคุณมากับผม

    วางใจซะเถอะ ”    

     

     

     

     เรื่องอะไรฉันจะต้องไปกับคุณ!  

     

     

     

     

      ก็เพราะพวกเราจะไปตามหาแหวนวงนั้นด้วยกันยังไง  

     

     

     

    ..ตามหางั้นหรือ   ถึงยังไงคุณก็หามันไม่เจอหรอกนะ ”   

     

     

     

      ว่าไงนะ!! 

     

     

     

     ถ้าหากว่ามันไม่ใช่ของมีค่าที่สามารถเลี้ยงคุณได้เป็นปีๆแล้วล่ะก็  มันไม่

    น่าเสียดายไปหน่อยหรือที่คุณจะโยนมันทิ้งไปแบบนั้น ”    คุณจงฮยอน

    ทำหน้าเลิ่กลัก  เบือนหน้าออกไปนอกกระจกรถ แล้วหันกลับมามองฉัน  

    ท่าทางสงสัยมากกว่าเดิมเสียด้วย           

     

     

     นี่ผมเดาไม่ผิดไปหรอกใช่มั้ย   ฮึ!  คุณเองสินะที่เป็นคนเก็บมันมา ถ้าหาก

    ผมต้องการเค้นคำตอบจากปากคุณแล้วล่ะก็นะ    คุณก็ห้ามผมไม่ได้หรอก

    เพราะว่าตอนนี้..คุณเป็นผู้ต้องหาของผมแล้วน่ะสิ     เสียงกระซิบนั้น

    เล่นเอาฉันขนลุกซูวว์ไปหมด  ขณะที่ร่างกายสูงใหญ่ของเขา โน้มตัวเข้าใกล้ 

    มือซ้ายค้ำไว้บนเบาะ   ถึงจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่หวั่น

    ไหวที่ถูกจ้องซะเมื่อไหร่ล่ะ        

     

     

     

      จะมองฉันอีกนานมั้ย   ไม่มีอะไรก็ขับรถกลับเถอะ ”   

     

     

    “ แหวนก็ไม่ต้องไปหาแล้ว  คุณจะให้ผมกลับไปตัวเปล่า  ไม่ใจร้ายกับผม

    ไปหน่อยรึไง ”   เพราะคิดว่าจะไม่รอดกับสถานการณ์ในตอนนี้แน่ๆ   เมื่อ

    ใบหน้าคุณจงฮยอนใกล้เข้ามามาก ฉันถึงกับต้องเอียงศีรษะหลบ 

    และแล้วเสียงโทรศัพท์ของฉันจึงดังขึ้นคั้นระหว่างเราสองคน     

     

     

    กริ้งงง~กริ้งง~~’  ด้วยเสียงของมันที่กำลังดังขึ้นเรื่อยๆ ฉันเลยรีบหยิบ

    มันออกจากกระเป๋าเตรียมจะกดรับ     หากไม่ใช่เบอร์มือถือคุณเชวมินโฮ  

    แล้วล่ะก็   ไม่เช่นนั้นคงไม่ถูกคว้าไปแบบนั้นแน่   

     

     

    “ อย่าลืมสิว่าตอนนี้คุณอยู่กับผม   คุณจงฮยอนเปิดลิ้นชัก วางโทรศัพท์

    ของฉันเอาไว้ในนั้น     แล้วข้อมือเขาก็ฉุดฉันไปยังที่นั่งฝั่งคนขับ

     

     

     

     

      นั่งอยู่เฉยๆสิ   คุณทำให้ผมไม่ถนัด   

     

     

    “ แล้วใครใช้ให้จับฉันมานั่งบนนี่ล่ะ  ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้เลยนะ!!   ฉันเอ่ย

    ระหว่างที่สองมือกำลังกอดรัดฉันไว้ไม่ยอมปล่อย    จนกระทั่งเสื้อแขน

    ยาวไหมพรมถูกขว้างทิ้งไปบนเบาะหลัง   ฉันจึงไม่มีโอกาสได้พูดอะไรอีก    

    เมื่อริมฝีปากของเขา  ยึดพี้นที่จากฉันเป็นการชั่วคราว

     

     

     

    “ คุณจงฮยอน~  ที่นี่ไม่ใช่ที่บ้านสักหน่อย  พอแค่นี้เถอะนะ”  ฉันหอบหายใจ

    แรงๆอยู่ครู่หนึ่ง ยกมือเกาะบนแผงอก ซบหน้าลงบนเสื้อเชิ้ตสีดำยับย่น

    จากรสจูบของเขาที่ทำเอาฉันหายใจแทบไม่ทันมากมายเลยทีเดียว      

     

     

      อะไรกัน  แค่จูบก็หมดแรงซะแล้ว ”    

     

     

       คนบ้า!!  คุณเล่นจูบฉันขนาดนี้  ยังมีหน้ามาพูดอีกนะ”   ฉันว่าพลาง

    ยกกำปั้นทุบบนหัวไหล่เขาเต็มๆแรง  ที่กล้ากวนประสาทฉันได้เหมือนเดิม

    ไม่เคยเปลี่ยน   

     

     

      ช่วยไม่ได้….ก็ผมคิดถึงคุณมากนิ ”  เขาส่งเสียงหัวเราะเยาะ ก่อนจะจูบ

    ฉันอีกครั้งพร้อมกับฝ่ามือที่กอบกุมลงบนหน้าอก      ยังดีที่กระจกรถคันนี้เป็น

    กระจกทึบแสง เลยไม่สามารถมองเห็นได้จากข้างนอก    วินาทีนั้นริมฝีปากเขา

    จึงไล้ต่ำลงมาเรื่อยๆ ตามด้วยเรียวลิ้นอุ่นชื้นที่หยุดอยู่ตรงหน้าอกอันเปลือย

    เปล่าเนินนานพอสมควร        

     

     

       ครั้งนี้คุณต้องชดเชยให้ผมนะ ”   น้ำเสียงกระท่อนกระแท่นนั้นขณะที่เขา

    เงยหน้ามองฉันด้วยดวงตาหวานฉ่ำที่กำลังสื่อความหมายเช่นไร  

     

     

     “ คุณอยากจะให้ฉันช่วยสินะ     ถึงตอนนี้ร่างกายของฉันว่างเปล่าไม่มีเสื้อผ้า

    สักชิ้น  เพราะสัมผัสอันวาบหวามกลับทำให้ฉันซึ่งนั่งบนตักใช้มือโอบกอดรอบๆ

    คอเขา   เช่นเดียวกับอุณหภูมิภายใต้กางเกงสเล็คสีดำรัดรูป      หลังจากที่ฉัน

    จัดการดึงมันลงมาจนถึงข้อเท้า   ส่งผลให้เสียงครางนั้นดังผ่านจากลำคอของเขา

    จนปิดไม่มิด          

     

     

       

     

      ดวงตาสีเข้มทอดสายตามองรถที่ผ่านไปมาคันแล้วเล่า    ด้วยความกังวลว่า

    คิมจงฮยอนจะเจอกับเธอหรือไม่       ทำให้เสียงถอนหายใจของเขาผ่อนออกมา

    เป็นครั้งคราว      จังหวะนั้นสายตาเขาจึงเหลือบเห็นหญิงสาวในชุดราตรีสีน้ำ

    เงินเข้ม  ก่อนจะเดินไปหาเธอที่กำลังนั่งตรงขั้นบันไดเพียงลำพัง     

     

     

       คิมจงฮยอน ฉันคอยเธอจนจะเที่ยงคืนอยู่แล้วนะ  อพาร์ทเม้นต์อะไร ฉันไม่รู้

    หรอก   งั้นก็รีบกลับมาเร็วๆแล้วกัน แค่นี้ก่อนนะ  โอ๊ะ!คุณนี่เองยังไม่กลับอีก

    รึไงคะ ”   

     

     

    “ ครับ!!    พอดีว่าผมคอยภรรยาของผมอยู่น่ะแต่ก็ว่าจะกลับอยู่พอดีแล้ว

    จงฮยอนล่ะครับ ” 

     

     

    “ พอดีว่าเขาติดธุระที่โรงงานนะค่ะ   เขาเลยให้ฉันกลับไปที่อพาร์ทเม้นต์

    ของเขาก่อน   

     

     

    “ อย่างงั้นหรือครับ” 

     

     

      ต่อไปพวกเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว    ไม่รู้จงฮยอนจะกลับไปถึง

    หรือยัง   ฉันคงต้องขอตัวกลับก่อน ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะคะ “    

     

     

     

    “ เช่นกันครับ ”    ลับหลังหญิงสาวไปแล้ว    จู่ๆ เชวมินโฮกลับรู้สึก

    ตะขิดตะขวงใจแปลกๆ    ผู้หญิงคนนั้นมีความสัมพันธ์แบบไหนกับ

    คิมจงฮยอน      ในเมื่อหมอนั่นเพิ่งจะบอกเขาไม่นานมานี้  และ

    ไม่ทันจะได้เอ่ยถามไปตรงๆ   ผู้หญิงคนนั้นก็ขึ้นรถไปเสียก่อนแล้ว    


     

     


    ปล.  กลับมาเเล้วตามคำเรียกร้อง      พาร์ทหน้าไรท์เตอร์จะพยายาม

    เอาให้จบ    ขอบคุณมากๆนะค่ะที่ติดตามกันเสมอมา   ^o^ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×