คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ลำดับตอนที่ 13
กาลครั้งหนึ่ง... นานมาแล้ว... ในยุคที่เจ้าชายช่วยเจ้าหญิงบนหอคอย ยุคอัศวินปราบปีศาจ ยุคพ่อมดเรืองอำนาจ ยุคนักรบบนหลังมังกร ยุคแห่งสัตว์อสูร มันได้มีตำนานอย่างหนึ่งที่เล่าขานกันมา
เรื่องนั้นมันเล่าว่า
“แค่กๆ”
“ท่านปู่ ท่านหยุดเล่าทำไมอ่า..” เสียงผู้เป็นหลานดังขึ้นอย่างไม่ค่อยพอใจ
“โทษทีๆ ปู่ค่อนข้างหิวน้ำ หลานเอ๋ย เจ้าไปเอาน้ำมาให้ปู่หน่อยสิ”
ตึกตึก
“เฮ้ยๆ ใจเย็นๆ เดี๋ยวทำน้ำหก”
“มาแล้วท่านปู่ ดื่มเร็วๆ”
“เสร็จแล้วใช่ไหมท่านปู่ ท่านเล่าต่อได้หรือยังครับ”
“ฮ่าๆ ได้ๆ เจ้านี่ใจร้อนจัง”
เรื่องนั้นมันเล่าว่า
ครั้งหนึ่ง ยังมีเจ้าชายแห่งแดนภูต ราชาแห่งแดนปีศาจ ผู้วิเศษหญิง และสาวน้อยแดนมนุษย์
“ออนิเทียยยยย ข้าหิวแล้ว ข้าวข้าล่ะ” ซาเบียลโวยวาย
“ถ้าเจ้ายังจะร้องแบบนั้นข้าจะเอากระทะฟาดหน้าเจ้า” ออนิเทียตอบด้วยน้ำเสียงเย็นๆ
“ใจเย็นน่า ออนิเทีย อืม... ลาซิส เจ้าอ่านอะไรอยู่เนี่ย” เนอานเธียถามลาซิสที่นั่งอ่านหนังสือเล่มหนา
“ไหน... มันคือคู่มือการปกครองน่ะ เจ้าสนใจไหมเนอา” ลาซิสตอบกลับมา
“ข้าเกรงใจ ขอบคุณมากลาซิส และจะดีมาก ถ้าเจ้าหาอะไรอย่างอื่นทำบ้างนอกจากอ่านไอ้หนังสือชวนปวดหัวพวกนี้”
“ข้าตอบให้นะเนอา ข้าว่าอีก 10 ปี ไอ้ลาซิสมันก็ไม่หาอย่างอื่นทำหรอก” ซาเบียล
ลาซิสหัวเราะ “ข้ายังมีหนังสือว่าด้วยการทหารอีกเล่มนะเนอา เจ้าสนใจไหม”
“เก็บไอ้หนังสือบ้าพวกนั้นไปซะ” เนอานเธีย
ง่ำ ...(ซาเบียลแอบย่องไปหยิบเนื้อทอดมากิน)
“ซาเบียล เจ้าอยากตายมากใช่ไหม ด้ายยยยยยยย เดี๋ยวข้าจะสงเคราะห์ให้” ออนิเทีย
“.....” ลาซิส/เนอานเธีย
“ช่วยข้าด้วยยยยยยย” ซาเบียล
“เป็นเพื่อนที่สนิทจังเลยนะครับ”
“ฮ่าๆ แต่นั่นก็เป็นช่วงก่อนสงครามล่ะนะ”
“สงครามหรือครับ?”
“เป็นสงครามระหว่างแดนภูตของซาเบียล แดนปีศาจของลาซิส และแดนมนุษย์ของเนอานเธียกับออนิเทีย”
“ทำไมล่ะครับ ทั้งที่เป็นเพื่อนกันทำไมถึงได้ทำสงครามกันล่ะครับ”
“เพราะ ความที่เป็นเพื่อนกัน มันเลยเกิดสงครามยังไงล่ะ
ซาเบียลนั่งตรวจเอกสารอยู่ในห้องทำงานที่ดินแดนภูต
โครม!!
“เฮ้ย!!” (ซาเบียลตกใจ หันไปมอง) “ทำบ้าอะไรของเจ้าเนี่ยออนิเทีย ค่าซ่อมประตูมันแพงนะโว้ย พังมาทำไม”
(ออนิเทียไม่ได้พูดอะไร เดินเข้ามาหาซาเบียล กระชากคอเสื้อแล้วถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า)
“เจ้าทำอะไรกับราเนร่า”
“หา!! เจ้าพูดถึงเรื่องอะไรเนี่ย”
“อย่ามาเล่นลิ้น”
“เล่นลง เล่นลิ้นอะไรกันเล่า ข้าอยู่ของข้าดีๆ จู่เจ้าก็เข้ามาพังประตูห้องข้าเนี่ยนะ แล้วก็มาถามอะไรก็ไม่รู้ ได้โปรดเถอะ อย่างน้อยๆอธิบายมาหน่อยได้ไหมเล่า”
“มันมีเวลาอธิบายด้วยหรือไง ลาซิสเตรียมจะยกทัพเข้ามาตีแดนภูตของเจ้าแล้วนะ”
(ซาเบียลอ้าปากค้างอย่างตกใจ) “ว่าไงนะ” ซาเบียลตะโกน “ลาซิสมันจะทำแบบนั้นทำไม”
“ก็เจ้าฆ่าราเนร่าไงเล่า อย่ามาแกล้งทำเป็นไม่รู้นะ”
(ซาเบียลอึ้งหนักเป็นสองเท่า) “ข้าไม่ได้แกล้งนะโว๊ยยยยยยยย ข้าแทบจะไม่รู้จักไอ้คนที่ชื่อราเนร่าอะไรนั่นเลย แล้วไอ้เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับลาซิสด้วย”
“ไอ้สมองปลาทอง ราเนร่าคือ ราน่า น้องสาวของลาซิสไงล่ะ”
(ซาเบียลอึ้งเป็นรอบที่สาม) “นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ข้าไม่เห็นจะรู้เรื่องอะไรเลย ข้าไม่ได้ฆ่าราน่า ได้โปรดเถอะข้าไม่ได้ทำจริงๆ”
(ออนิเทียมองปฏิกิริยาของเพื่อนที่สนิทกันมานาน ด้วยสายตาเย็นชา)
“ข้าไม่ได้ทำจริงๆ เจ้าเชื่อข้าเถอะนะ นะ นะ ออนิเทีย ข้าไม่ได้ทำจริงๆ สองเดือนมานี้ข้าแทบจะไม่ได้ก้าวเท้าออกจากวังเลย เจ้าก็รู้นิ ข้ากำลังจะขึ้นครองราชย์แทนท่านพ่อแล้ว ข้าจะยังมีเวลาไปทำเรื่องแบบนั้นอีกหรือไง อีกอย่างนะข้าจะไปฆ่าราน่าทำไมเล่า มันไม่มีเหตุผลเลยนะ” ซาเบียลมองด้วยสายตาอ้อนวอน
(ออนิเทียถอนหายใจ) “ข้าไม่รู้จะเชื่อเจ้ายังไงดี หลักฐานมันมีอยู่ทั่วเลย ซาเบียล ถ้าเจ้าทำจริง เจ้าก็ยอมรับมาเถอะ แล้วก็ตามข้าไปให้ลาซิสมันตัดสิน”
“เจ้าจะบ้าหรออออ ข้ากับราน่าก็สนิทกันดี ข้าจะไปฆ่ามันทำไม จริงอยู่ที่ช่วงนี้ข้าทะเลาะกับลาซิส แต่มันก็ไม่ถึงกับจะต้องฆ่าต้องแกงกับเลย ออนิเทีย ข้าไม่ได้ทำ”
(ออนิเทียทำท่าจะเถียงต่อ แต่มีมือของเนอานเธียมากดบ่าเอาไว้) “ข้าเดาแล้วเชียวออนิเทีย ว่าถ้าเจ้ารู้เจ้าจะต้องมาหาซาเบียล”
“เนอา?”
“ข้าเชื่อเจ้าซาเบียล ข้ารู้สึกว่าเรื่องนี้มันมีเบื้องหลัง มีใครบางคนที่ต้องการจะทำให้เกิดสงครามขึ้นโดยอาศัยความสัมพันธ์ของพวกเรา เจ้าก็รู้ ราน่าเป็นน้องสาวที่ลาซิสห่วงมาก ถ้าไม่ใช่คนที่สนิทจริงๆ ลาซิสจะไม่ยอมให้ใครพูดกับน้องสาวเกิน สามประโยค แต่สำหรับพวกเรา จะเรียกว่าเป็นคนที่สนิทกับลาซิสสุดๆ และเป็นคนที่ราน่ายอมคุยด้วยมากที่สุด เพราะราน่าเป็นคนไว้ใจคนยาก และจะระวังตัวตลอดเวลา ความระมัดระวังนั้นจะลดลงเมื่ออยู่ใกล้ชิดกับคนที่สนิท ซาเบียล เจ้าเคยประมือกับราน่ามาแล้ว เกราะป้องกันของราน่าแม้แต่พวกเรายังทำลายไม่ได้ เพราะฉะนั้นเรื่องลอบสังหารจึงเป็นไปไม่ได้เลย แต่ที่ราน่าตายนั้น แสดงว่าคนที่ฆ่าราน่าจึงต้องเป็นคนที่สนิทกับราน่ามากที่สุด คือ พวกเราสามคนยังไงล่ะ”
(ซาเบียลพยักหน้าเห็นด้วยกับเนอานเธีย)
“แล้วใครเป็นคนทำล่ะ คนที่สามารถทำให้ราน่ายอมลดความระมัดระวัง เพรานอกจากพวกเราสามคนแล้ว ไม่มีใครสนิทกับราน่ามากเท่าเลยนิ”
“เฮ้ๆ เดี๋ยวก่อนสิ ข้าไม่เข้าใจอยู่อย่าง ทำไมลาซิสถึงคิดว่าข้าทำล่ะ ทั้งที่พวกเจ้าก็ทำได้”
“ก็เพราะวันนั้นข้ากับเนอาไปนั่งกล่อมลาซิสให้ยอมคืนดีกับเจ้าน่ะสิ ตอนนั้นข้าเห็นชัดเลย และยังได้ประมือกับเจ้าด้วย ทำไมข้าจะจำเจ้าไม่ได้”
“หา!!!” (ซาเบียลอึ้งเป็นรอบที่ล้านแล้วมั้ง= =)
“ข้าเองก็เห็นนะ เป็นเจ้าจริงๆด้วย หรือเจ้าจะบอกว่ามีฝาแฝด” เนอานเธียพูด เหมือนจะกึ่งล้อ แต่ด้วยตานั้นเหมือนรู้อะไรบ้างอย่าง
คำถามที่ทำให้ซาเบียลอึ้ง ก่อนจะตอบบแบอ้อมแอ้มว่า “จะบอกว่ามีก็ได้นะ”
“หา!! (เป็นรอบที่เท่าไรแล้วเนี่ยของวัน) เจ้าหมายความว่ายังไง” ออนิเทียร้องด้วยความตกใจ
“ที่แดนภูตน่ะ มักมีความเชื่อกันว่าภูตแต่ล่ะตัวจะมีฝาแฝดของตัวเอง ฝาแฝดของภูตนั้นจะมีหน้าตาที่เหมือนกัน แต่สิ่งที่แตกต่างคือ ร่างนั้นมันเป็นร่างแห่งความมืดไงล่ะ มันจะคอยทำสิ่งที่ไม่ดี แล้วทำให้ภูตตนนั้นแปดเปี้อนโดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไป แต่เราก็ไม่สามารถแยกร่างฝาแฝดออกจากร่างของเราได้ เพราะว่าร่างฝาแฝดของเราคือ ‘เงา’ ยังไงล่ะ”
“แต่ว่า มันก็มีทางแก้อยู่ พิธีกรรมสะกดเงา ซึ่งแต่ก่อนพิธีกรรมนี้จะประกอบขึ้นทุกๆ สามปี แต่เดี๋ยวนี้เรื่องจากความเชื่อนี้ลดลง จึงได้ยกเลิกพิธีกรรมนี้ไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว”
“แสดงว่าคนที่ฆ่าราน่าคือ...”ออนิเทีย
“น่าจะเป็นเงาของข้านะ”
“งั้นเรารีบไปบอกลาซิสกัน”
“คิดว่าบอกไปแล้วมันจะฟังหรือยังไง ความโกรธของลาซิสเรียกว่าทะลุฟ้าทะลุดินไปแล้ว ต่อให้เป็นเพื่อนก็ไม่ฟังกันแล้วล่ะ” เนอานเธียพูดอย่างหมดหวัง
“แล้วจะทำยังไงดีล่ะ” ซาเบียลพูดด้วยความกังวล
“ทำยังไงดี”
ความคิดเห็น