ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Short fic : SJ & TVXQ by Cho-kune

    ลำดับตอนที่ #13 : [Many Couple * only SJ] SJ School 5

    • อัปเดตล่าสุด 17 ก.ค. 52


    Title : [Many Couple * only SJ]  SJ School 5

    Type : Short Fic

    Rate : PG

     

     

     

     

    =========================================================

     

     

     

     

     

     

     

     

    "ฮึๆ ในที่สุดข้าก็หาพวกเจ้าเจอซะที"


    "มะ เมี้ยว ว เจอซะทีเนอะเจ้านาย ฮิฮิ ^O^"


    "ใช่ เนโกะ"


    มือหนาลูบหัวเด็กหญิงอายุประมาณห้าหกขวบ


    "อีกไม่นานข้าก็จะได้มาครอบครอง นัยน์ตาสีทองแห่งตำนาน"


    "คิกๆ ตาสีทอง ตาสีทอง ^O^"

     

    .

    .


    .

     

    .

     


    .

     

    .

     

     

     


    .


    เท้าเรียวขาวกำลังเดินบนพื้นน้ำเช่นเดิมรอบข้างมีแต่ความเงียบงัน นัยน์ตาสีดำดูเลื่อนลอย ไม่นานนักผิวน้ำด้านหน้าค่อยๆก่อตัวเป็นรูปร่างของมนุษย์เพศชายที่ยื่นมือมาหมายจะบีบคอของเค้า ท้องฟ้าด้านบนก็ยืดย้วยลงมาแล้วกลายรูปร่างเป็นสิงโตเข้ามาขวางและกระโจนเข้าต่อสู้ 

    ภาพตรงหน้าทำเอานัยน์ตาที่เลื่อนลอยกลายเป็นความหวาดกลัวและถอยหนีแทนที่พื้นน้ำจะสามารถเดินได้ดั่งเดิมมันกลายเป็นผืนน้ำธรรมดาจนร่างบางจมดิ่งลงไปราวกับถูกน้ำวนดูด แต่ก็ถูกอ้อมแขนอุ่นของใครบางคนโอบกอดเอาไว้น้ำค่อยๆก่อร่างขึ้นจากปลายเท้า ขา ร่างกายกำยำ ลำคอ ใบหน้าคม และผมสีดำพริ้วไหวในน้ำ ใบหน้านั้น ! !

     


    .

    .

    .

     

    .

     

     

    .


    แสงแรกแห่งอรุณสาดแสงปลุกทุกสรรพสิ่งให้ตื่นขึ้นมารับอรุณ รวมถึงสองร่างที่นอนบนเตียงหนานุ่มด้วยกันมานานสองปีกว่า เปลือกตาเริ่มกระพริบปรับกับแสงแดด นัยน์ตาดำสนิทเหลือบมองคนที่กอดตนต่างหมอนข้าง

    ...เอาอีกแล้วไอ้สิงโตจอมฉวยโอกาส แต่ก็เอาเห๊อะ ชินซะแล้ว... ร่างบอบบางพลิกตัวออกจากอ้อมแขนแต่มันได้ผลซะที่ไหนกันล่ะ ...อ๊าก ก ก ก ไอ้บ้านิกอดอยู่ได้ถึงมันจะอุ่นก็เถอะ ฮ้า า อากาศบ้านี่ก็เป็นใจให้ไอ้เด็กเปรตจริงจริ๊ง ง ง =_=^^... ใบหน้าหวานยับยู่ยี่จากอาการเพิ่งตื่นนอนและขัดใจ แต่แล้วบางสิ่งก็ทำให้ใบหน้านั้นมีแววตื่นเต้นเหมือนเด็กๆ


    "ฮ้า ! ! หิมะๆ"


    ฮีชอลดันตัวเองออกจากออ้อมแขนพร้อมกับม้วนผ้าหม่คลุมตัวเหมือนแยมโรลไม่มีผิดโดยไม่สนใจว่าอีกคนจะนอนหนาวตายรึเปล่า ปุยหิมะสีขาวที่ลอยเข้ามาทางช่องหน้าต่างดึงดูดให้คนที่อายุมากแต่นิสัยเหมือนวิ่งดุ๊กๆมายืนตื่นเต้นอยู่ข้างๆหน้าต่าง


    "ซีวอนๆ ตื่นเร็ว หิมะล่ะ *O*"


    ร่างสูงขยี้ตาอย่างงัวเงีย


    "อะไรอ่ะ พี่ฮีชอล ฮ้าว ว ว ~~ -_-"


    "หิมะไงล้า า า หิมะๆ ฮิ ฮิ >.<"


    ร่างบางยืนยิ้มแฉ่งเหมือนเด็กอายุสักสิบขวบเพิ่งเห็นหิมะเป็นครั้งแรก ทำเอาซีวอนตื่นเต็มตาขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ก็ในเมื่อภาพตรงหน้าเหมือนราวกับภาพวาดชั้นเยี่ยม คนตรงหน้ากำลังยิ้มทั้งปากและตาอีกทั้งเป็นประกายสวยงาม ไอสีขาวลอยออกจากริมฝีปากที่ตอนนี้แดงสดเหมือนผลเชอร์รี่เนื่องจากอากาศหนาวโชว์ฟันสีขาวเรียงเป็นระเบียบ ผมเคยเป็นสีแดงสดกลายเป็นสีดำสนิทดั่งไข่มุกดำเหมือนเทพสปริงแห่งฤดูใบไม้ผลิ

    ...อา า า า ทำไมพี่เค้าชอบทำแบบนี้จังนะ ชอบทำให้ผมใจเต้นเสมอๆ แล้วยิ่งตอนนี้พี่ยิ่งเหมือนนางฟ้าเข้าไปใหญ่ พี่กำลังเล่นตลกกับหัวใจผมอยู่ใช่มั้ย ย =_=/ /... ร่างสูงลุกขึ้นจากเตียงแล้วจัดการผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า ยังไม่ทันที่จะได้ถอดเสื้อคลุม


    "อ๊าก ก ก ก ก ไอ้บ้าจะเปลี่ยนเสื้อก็บอกกันก่อนเซ่ / />O</ /"


    ฮีชอลหันหนีทันทีก่อนที่จะเห็นอะไรต่อมิอะไร ...โอ๊ย ไอ้เด็กบ้าถึงแม้จะเป็นผู้ชายเหมือนกรูก้อมียางอายนะเฟ้ย แม้ว่าจะอยู่กันมาสองปีกว่าก็เหอะ ขนาดไอ้เจ๊กนั่นชั้นยังชินได้แต่กับไอ้หมอนี่ไม่รู้เป็นอะไรไม่เคยชินได้สักที =_=/ /... ซีวอนหัวเราะในลำคอ ...เฮ้อ พี่ครับทำไมตัวน่ารักจังน้า า...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    หลังจากนั้นทั้งสองคนก็เดินออกมารับประทานอาหารตรงห้องโถง


    "องค์ชาย ท่านฮีชอลพระกระยาหารเพิ่งเสร็จพอดีเลยเพคะ"


    นางกำนัลฮาดียกกับข้าวมาวางไว้บนที่นั่งซึ่งเป็นแทนขนาดใหญ่และปูด้วยพรมหลากสีแต่เข้ากันอย่างน่าประหลาดเป็นฝีมือของฮีชอลตัวแสบเนี่ยล่ะ ฮีชอลนั่งจุ้มปุ๊กแล้วลงมือหยิบอาหารเข้าปาก


    "พี่กินเลอะเทอะอีกแล้ว"


    ซีวอนเช็ดเศษอาหารที่ติดอยู่มุมปาก ภาพตรงหน้าทำให้อิลวานีและเหล่านางกำนัลอดอมยิ้มไม่ได้เพราะนานๆทีจะได้เห็นองค์ชายแบบนี้เสียที ก่อนที่ซีวอนจะพบฮีชอล ชีวิตขององค์ชายมีแต่งาน งาน และงาน มีเพียงบางครั้งที่เหล่าหญิงสาวจะแวะเวียนมาให้เชยชมทำให้จนได้ฉายาว่าองค์ชายเพล์ยบอย แต่การที่ซีวอนได้เจอกับฮีชอลโดยบังเอิญถือว่าทำให้วิถีชีวิตของเค้าเปลี่ยนไปมากเลยทีเดียว


    "รู้แล้วน่า =3="


    พูดเสร็จก็กินต่อไม่ได้สนใจคำพูดของอีกฝ่าย ถึงกระนั้นในใจก็ยังคงนึกถึงฝันของตนเมื่อคืน ...เมื่อคืนนี้เราฝันอะไรกันนะมันรู้สึกไม่ดีเลยจริงๆ แล้วไอ้ใบหน้านั่นมัน...


    "พี่เป็นอะไรครับ สีหน้าไม่ค่อยดีเลย"


    "อ๋อ เอ่อ เปล่าหรอกแค่นึกอะไรเพลินๆน่ะ"


    "ครับ แต่พี่โอเคเเน่นะ"


    "แน่เซ่ไอ้นี่ =3="


    "ครับๆ ^_^ แต่ว่า....พี่ก็อยู่ที่นี่มาสองปีกว่าแล้วสิเนอะ"


    "อืม ดูแล้วมันไวจัง"


    ฮีชอลทอดสายตามองเบื้องหน้า แม้ว่าฮีชอลอยู่ที่นี่ก็ไม่ปล่อยให้เสียเวลาไปเปล่าๆได้ศึกษาร่ำเรียนเกี่ยวทางด้านการปกครอง การฑูต และการสงครามถึงขนาดแสดงความคิดเห็นได้อย่างฉะฉานแม้อยู่ต่อหน้าองค์พระมหากษัตริย์หรือเสด็จพ่อของซีวอน จนอิลวานีและนางกำนัลฮาดีอยากให้องค์ชายแต่งตั้งฮีชอลขึ้นเป็นพระมเหสีแต่ก็ทำไม่ได้

    เนื่องจากเป็นเพศชายและขัดต่อธรรมเนียมนานมาซึ่งต้องให้เพียงแค่คนที่มีฐานะหรือพูดง่ายๆคือพวกราชวงศ์ หรือ องค์หญิงจากต่างถิ่นนั่นเอง อีกทั้งองค์ชายยังให้เหตุผลว่า 

     

    'ที่พี่ฮีชอลได้มาอยู่ที่นี่เพราะความบังเอิญ....พี่เค้ามีครอบครัวพ่อแม่ที่คิดถึงเค้าอยู่ตอนนี้ ที่สำคัญเลยพี่ฮีชอลไม่ใช่คนในโลกของเรา สักวันนึงก็ต้องกลับไปในที่ๆพี่เค้ามา เพราะฉะนั้นเราไม่ควรรั้งเค้าไว้ด้วยเหตุผลแบบนี้'

     

    อิลวานีรีบพูดค้านขึ้น

     

    'ถ้าได้คุณฮีชอลมาล่ะก็อาณาจักรนี้คงจะเจิญรุ่งเรืองยิ่งกว่าที่เป็นอยู่แน่นอน....คุณฮีชอลคือคนสำคัญของพระราชา ไม่ใช่คนที่จะมีไว้เพียงแค่อยู่ในตำหนักหลังหรือเอาไว้เป็นแค่คนข้างกายโดยไม่แต่งตั้งฐานะใดๆให้เลย แต่เป็นคนที่มองเห็นสิ่งเดียวกันและคิดถึงสิ่งเดียวกันกับกษัตริย์

    เป็นคนที่สามารถยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับกษัตริย์ได้อย่างแท้จริงอีกทั้งเป็นคนที่ทุกประเทศต้องการไว้ในครอบครองถ้าเปรียบล่ะก็คุณฮีชอลคือทองคำที่พลัดหลงมาดีๆนั่นเอง....หรือท่านจะเถียงกระหม่อม....

    สิ่งที่กระหม่อมพูดไปทั้งหมดเป็นแค่คำโป้ปดมดเท็จอย่างั้นหรือ องค์ชาย ท่านลองคิดดูดีๆเถอะพะยะค่ะ........อย่าใช้ข้ออ้างนั้นเพื่อปิดบังความรู้สึกที่แท้จริงของท่านเลย ความรู้สึกที่มีต่อคุณฮีชอล....กรุณาเปิดใจของท่านให้กว้างด้วยเถอะพะยะค่ะ เพื่อประเทศ เพื่อราษฎร เพื่อพวกเราและที่สำคัญที่สุดก็เพื่อตัวท่านเอง'
    .
    .
    .
    .

    .


    .

     


    .

     


    .

     


    แมวดำที่สวมสูทกำลังนอนง่าวบนต้นไม้มองลูกหลานของอดัมและเอวาด้วยสายตายากจะหยั่งถึงก่อนที่จะลุกขึ้นไปเดินเล่นแถวริมสระน้ำในเขตพระราชฐานและล้มตัวลงนอนอีกรอบเพื่ออาบแดด


    "ไง โคลว ว ว >O<"


    เสียงหญิงสาวดังขึ้นที่สระ


    'อรุณสวัสดิ์ครับ ท่านแม่มด'


    "จ้า า า นี่ๆสองคนนั้นเป็นไงบ้างล่ะ คืบหน้าขึ้นบ้างมั้ย *O*"


    'ข้าคิดว่าคงคืบหน้าแล้วมั้งครับ เห็นเจ้าเด็กแสบนั่นค่อยๆยอมรับองค์ชายขึ้นมาบ้างไม่เหมือนกับตอนแรกทำท่าขู่ฟ่อๆเหมือนแมวไม่มีผิด หึหึ'


    "คิกๆงานนี้คงมีหวังล่ะซิเนี่ย >.<"


    'คงงั้นล่ะมั้งครับ'


    ใบหน้าหวานกระยิ่มยิ้มย่องเจ้าแมวก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่นักแต่แค่แว้บก็กลายเป็นเคร่งเครียดและตื่นตระหนกทันที


    "หืม มีอะไรงั้นเหรอ ? ?"


    'มีใครบางคนฝ่าห้วงมิติเวลาเข้ามา ขอตัวก่อนนะครับ'


    ว่าจบโคลวรีบพุ่งทะยานไปหาคนที่อาจจะตกเป็นเป้าหมายในทันที ทิ้งให้แม่มดแห่งมิติงุนงง


    .
    .
    .
    .

    .

     

    .

     

    .

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     


    สองคนที่เพิ่งรับประทานอาหารเสร็จกำลังเดินเล่นไปเรื่อยๆจนเกือบจะถึงคอกม้า เสียงใสๆของฮีชอลยังดังแจ้วๆไม่ขาดสายผสมกับเสียงหัวเราะทุ้มๆของซีวอนเป็นลูกคู่แต่เพียงแค่นั้นเท่านั้น


    "เน่ๆ ชั้นสงสัยมาตั้งนานแล้วอ่ะว่าทำไมนายถึงไม่ยอมมีสนมหรือพระชายาเลยล่ะ เท่าที่ชั้นเคยอ่านในหนังสือประวัติศาสตร์มานะส่วนมากกษัตริย์หรือองค์ชายจะมีกันหลายๆคนเพราะว่าต้องการที่จะให้คลอดลูกชายออกมาเพื่อสืบทอดราชบัลลังค์ อีกอย่างก็เพื่อทางการเมือง เพื่อการทหารและเศรษฐกิจ แต่ก็นะบางทีพวกลุงแก่ๆก็อยากจะมีเด็กเอ๊าะๆให้ชื่นหัวใจ เฒ่าหัวงูชะมัด -_-

    อย่างบางองค์มีถึงห้าร้อยกว่าคนเชียวนะ แถมยังมีลูกอีกสะบะละฮึ่มฮั่ม นายไม่คิดจะมีบ้างรึไง ? ? พอนายขึ้นเป็นกษัตริย์ก็จำเป็นต้องมีไม่ใช่หรอ ? ?.......ถึงชั้นจะโดนทั้งคุณอิลวานีและฮาดีขยั้นขยอให้ขึ้นเป็นพระมเหสีของนายก็เหอะ มันเป็นเรื่องที่ตลกดีชะมัด =_=;; ไม่รู้พวกเค้าคิดได้ไงที่จะให้คนอย่างชั้นไปเป็นมเหสีนาย วู้ว ว ว  ทั้งชั้นทั้งนายก็ออกจะแม๊นแมน -^-"


    ซีวอนทำได้เพียงแค่ยิ้มบางๆตอบอีกฝ่าย


    "สักวันผมจะขึ้นครองราชย์ เพราะฉะนั้นผมต้องหาเฟ้นหาคนที่เหมาะสมจะมาเป็นมเหสีของผม คนๆนั้นจะต้องมีความสามารถยืนอยู่เหนือคนรู้จักยับยั้งชั่งใจ ควบคุมตนเอง และอีกมากมาย....แต่ที่ผมไม่มีสนมนั้นเพราะผมจะรักคนที่เป็นมเหสีคนนั้นคนเดียวตลอดไป"


    ขาเพรียวหยุดเดินทันที หัวสมองหมุนคว้างและขาวโพลนไปหมด ...'ผมจะรักคนที่เป็นมเหสีคนนั้นคนเดียวตลอดไป'.......เราก็แค่เกี่ยวข้องในฐานะคนรู้จักที่บังเอิญมาเจอกันเท่านั้นเอง เท่านั้นจริงๆแต่ทำไมเรารู้สึกเจ็บปวดในอกเหลือเกิน ? ?...


    "ผมพยายามมองหาท่านหญิงที่เหมาะสมกับตำแหน่งมเหสีมาตลอด ท่านหญิงที่สามารถปกครองอาณราจักรนี้ซึ่งยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาอาณาจักรทั้งหมด ณ เวลานี้ได้ เงื่อนไขนี้ช่างหาท่านหญิงที่เหมาะสมได้น้อยนักและเป็นเงื่อนไขที่ยากจริงๆ แล้วในที่สุดผมก็พบคนๆนึงราวกับปาฎิหารย์ เพียงแค่ได้คนๆนี้ที่ไม่น่าจะได้มาอยู่ในมือ ก็เหมือนกับเรื่องราวของปาฎิหารย์ได้เริ่มต้นขึ้น แล้วผมก็อยากให้พี่รู้ไว้ว่าคนๆนี้เป็นสิ่งจำเป็นต่ออาณาจักรนี้ ไม่ว่ายังไงผมจะทำให้คนๆนั้นขึ้นเป็นมเหสีให้ได้ ! !"


    ใบหน้าคมของซีวอนนั้นดูอ่อนโยนจนน่าหลงใหล นัยน์ตาคมนั้นทอดมองคนในประโยคสนทนาเปี่ยมไปด้วยความรัก เสน่ห์หาและความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวในเวลาเดียวกัน ตอนนี้ฮีชอลอยากจะสลายหายเป็นอากาศไปเสียเดี๋ยวนี้ ...ไม่นะ อย่าพูดอะไรอีกเลยขอร้อง ชั้นไม่อยากฟัง ไม่อยากฟังอะไรทั้งสิ้น  ! !...


    ".... พี่ยังไงล่ะ ผมอยากให้พี่มาเป็นมเหสีของผม"


    ...ชายหนุ่มที่มาจากโลกที่เราไม่รู้จัก ชายหนุ่มที่สักวันที่ต้องกลับไปยังบ้านเกิดเมืองนอนเมื่อความสามารถของนัยน์ตาตื่นขึ้น ตอนพบกันครั้งแรกเราไม่เคยนึกฝันมาก่อน การพบกันโดยบังเอิญแบบนี้แต่กลับมีคุณสมบัติของมเหสีมากกว่าท่านหญิงในแคว้นใด ทำไมถึงต้องเป็นพี่แล้วทำไมหัวใจของผมถึงเรียกร้องว่ารักและต้องการพี่ได้มากขนาดนี้...


    "O_O"


    ฮีชอลยืนเหวอรับประทานไม่ทันที่ซีวอนจะขอคำตอบหรือให้เจ้ายืนคิดกับสิ่งที่เพิ่งได้ยินมากับหูก็ถูกเสียงของชายวัยกลางคนและเสียงของโคลวดังขัดขึ้นพร้อมกัน


    "สวัสดีลูกหลานของอดัมและเอวา / ฮีชอล ซีวอน ! !"


    ทั้งสองคนตื่นตระหนกว่าใครกันที่จู่ๆโผล่ขึ้นมาผืนดินและโคลวที่เพิ่งจะวิ่งมาขวางด้านหน้าพวกเขา ชายวัยกลางคนที่สวมชุดกีเพ้าแบบคนจีน และเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆมีหูแมวแทนหูมนุษย์ หางแมวโผล่ออกมา


    "คิกๆ พี่ตาสีทอง คิกๆ มี้~ ~"


    เด็กผู้หญิงตัวน้อยเดินลอยมาหาพวกเค้ากำลังเอื้อมมือมาแตะ นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนแต่นัยน์ตาดำเรียวเล็กมองพวกเค้าด้วยนัยน์ตาเป็นประกายและสั่นระริกที่เต็มไปด้วยความสดใสแต่ก็แฝงไปด้วยความอันตรายด้วยเช่นกัน กรงเล็บสีขาวจากโคลวข่วนจนเลือดสีแดงสดไหลออกมาซิบๆ


    'อย่าแตะพวกเค้า ยัยวายร้าย'


    โคลวขู่ฟ่อ เด็กหญิงลอยไปหลบหลังผู้เป็นนายอย่างรวดเร็ว


    "ฮึก เนโกะเจ็บ มี้ เจ้านายเนโกะเจ็บจัง T^T"


    "หึหึ ไม่เป็นไรหรอกเนโกะ อีกเดี๋ยวเธอก็จะสนุกจนลืมความเจ็บไปเลยล่ะ"


    "จะ จริงหรอ ฮึก เจ้านายไม่หลอกเนโกะแน่นะ *^*"


    "แล้วชั้นเคยหลอกเธอมั้ยล่ะ"


    "ไม่เล้ย ย ย ย เจ้านายของเนโกะไม่เคยหลอกเนโกะสักครั้ง เมี้ยว ว ว >O<"


    ประโยคสนทนาของทั้งคู่ทำเอาผู้คนที่เหลือขนลุกซู่ตามๆกัน ...อะ อะไรกันไอ้ประโยคเมื่อกี้ทำไมมันรู้แย่จนอยากจะขย้อนเอาอาหารมื้อเช้าออกมาจัง ให้ตายเหอะ ไอ้พวกบ้านี่เป็นใครกันแล้วยัยเด็กหูแมวนั่นอีก What's that hell !?... ซีวอนก็รับรู้ถึงอันตรายได้เช่นกันจึงดันร่างบางให้อยู่ด้านหลังเขา ตอนนี้โคลวยืนขู่ฟ่อกับสองคนตรงหน้า


    "ไม่ต้องขู่ฟ่อพองขนแบบนั้นก็ได้กระมัง คุณโคลว ผู้รักษาการณ์แห่งห้วงมิติ ไม่สิ ผู้ดูแลแห่งห้วงมิติ สัญลักษณ์ของเทพโครนอส"


    นัยน์ตากลมเบิกกว้าง ...อะ ไอ้แมวผีเนี่ยนะเป็นถึงผู้ดูแลมิติแล้วก็เป็นสัญลักษณ์ของเทพโครนอส ตำแหน่งที่เทียบเท่ากับผู้บัญชาการแห่งกองทหารรักษาพระองค์ ไม่คิดว่าไอ้แมวผีจะมีตำแหน่งบิ๊กเบิ้มแบบนี้แล้วตูก็ดันไปด่าไปทึ้งมันซะเยอะ กรูจะรอดมั้ยว้า า =_=;;...

    เด็กแสบคิม ฮีชอลคนนี้ไม่ได้เป็นพวกแสบไร้สมองแต่กลับมีมากกว่านั้นเกินคาด เด็กแสบที่ทำให้โรงเรียนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศทั้งด้านวิชาการและความแสบสันของเจ้าตัว คนที่สอบได้ที่หนึ่งของโรงเรียนทุกเทอมและคนที่ใหญ่ที่สุดในโรงเรียนจนหลายคนขยาด


    'แกมาที่นี่ทำไม'


    "ถามอะไรแปลกๆ ชั้นก็แค่มารับนัยน์ตาสีทองเท่านั้นเอง"


    'อย่าหวังว่าจะได้ไป คนอย่างแกเอาไปก็รังแต่จะสร้างความเดือดร้อน หลี่เฟย ! !'


    ฮีชอลสะดุ้งเฮือกด้วความกลัวเป็นครั้งแรกที่เค้ารู้สึกแบบนี้คนตรงหน้าไม่ได้มีแววล้อเล่นแม้แต่น้อย ...ท่าไม่ดีแล้วไอ้ลุงหน้าเจ๊กตรงนั้นก่ะจะจับพวกเราจริงๆ... ฮีชอลไม่ทันที่จะคิดอะไรต่อเหล่าลูกน้องผู้ซื่อสัตย์ของคนที่หมายปองจะเอาตัวพวกเขาก็โผล่ขึ้นมาจากผืนดิน 

    แต่ละคนสวมชุดเกราะสึดำและมีตราสัญลักษณ์บางอย่างเหมือนรูปซูซาคุเทพที่คอยปกปักษณ์รักษาฃดินแดนทางใต้ตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่นแต่เป็นสีดำสนิทอยู่ในวงกลมเหมือนวงกลมไสยเวทย์ กลุ่มคนเหล่านั้นพุ่งเข้ามาโจมตีแต่มิหรือคนอย่างคิมฮีจะให้เข้ามาซัดแล้วถูกลากไปน่ะ ไม่มีทางซะล่ะ ! !


    โครม ม ม  ม ! !


    "ไปตายซะ อย่ามาถูกตัวชั้นนะเฟ้ย -O-^^"


    ขาเรียวที่เพิ่งส่งให้ไอ้คนที่กระโจนเข้ามาใกล้นอนเเอ้งแม้งที่พื้นพร้อมกับเสียงโอดโอย ร่างสูงยกยิ้มมุมปาก ...ยังงี้สิสมกับเป็นพี่... ร่างสูงผิวปากเรียกเหล่าพลทหารที่อยู่แถวนั้นแต่ก็ไม่มีใครสักคนที่โผล่มาช่วยตอนนี้ที่กำลังตะลุมบอนกันอยู่


    "เรียกไปก็ไร้ประโยชน์เจ้าหนูตอนนี้ข้ากางตาข่ายเวทมนต์ไปแล้วด้านนอกน่ะไม่รู้เรื่องหรอก หึหึ"


    ซีวอนจิ๊ปากอย่างไม่ชอบใจคนตรงหน้าก่อนที่เหลือบไปเห็นร่างบางที่กำลังเสียท่าถูกอีกฝ่ายใส่กรงเล็บข่วนจนเสื้อขาด


    "พี่ครับ รับนะ ! !"


    ฮีชอลหันตามเสียงและรับดาบมา


    "ต้องอย่างนี้ซี่ไอ้น้อง แกตายแน่ไอ้เวรตะไล"


    ร่างบางแสยะยิ้มออกมาจนอีกฝ่ายรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวของคนตรงหน้า ขาเพรียววิ่งไปยังเป้าหมายและฟันลงไปไม่ยั้งมือก่ะให้ไม่ถึงตายแต่ก็ลุกขึ้นมาซ่าส์ต่อไม่ได้เช่นกัน ทางด้านซีวอนที่จัดการคนพวกนั้นลงไปกองอย่างง่ายดายสมกับฝีมือเรื่องด้านดาบอันดับหนึ่งของอาณาจักร การต่อสู้ที่ดูแล้วฝั่งทางโคลวจะชนะ หลี่เฟยหยิบยันต์ที่เขียนภาษาจีนหลายใบออกมาและโยนมาทางฮีชอลที่กำลังฟันลูกน้อง


    "พี่ฮีชอล ! !"


    ซีวอนวิ่งมารวบตัวอีกฝ่ายไว้ในอ้อมกอด โคลวรีบวิ่งมาพ่นลูกไฟสีเทาเงินพ่นยันต์แผ่นนั้นไหม้จนไร้เถ้าทุลีและลูกไฟร่วงลงมาอีกระลอกและรีบกางม่านพลังแต่ก็ไม่ทันทำให้ซีวอนโดนลูกเลือดไหลซิบๆตรงแขนล่ำ ในม่านพลังคนภายนอกไม่สามารถเห็นคนด้านในได้แต่คนด้านในสามารถเห็นเหตุการณ์ด้านนอกได้ชัดแจ๋ว หลี่เฟยยังร่ายเมนต์โจมตีใส่อย่างไม่หยุดหย่อน


    'ท่านไม่เป็นไรมากใช่มั้ย องค์ชาย'


    "ครับ แค่โดนนิดหน่อย"


    'อืม'


    ฮีชอลฉีกเสื้อที่หลุดหลุ่ยของตนมาพันบาดแผล นัยน์ตาคมมองอีกฝ่ายด้วยสายตาอบอุ่นจนพวงแก้มนิ่มแดงระเรื่อ บางอย่างพุ่งทะลุลงในตาข่ายเวทมนตร์ของหลี่เฟยและโคลว รูปร่างเป็นภูตตัวจิ๋วมีหูใหญ่เหมือนกระต่าย ผมสีทองสั้นเป็นประกาย นัยน์ตากลมโตสีฟ้าอ่อน สวมชุดเหมือนคนจีนและหมวกใบโตสีฟ้าขาว ตรงคอเล็กห้อยลูกแก้วสีแดงสดขนาดใหญ่ไว้


    'หนี่ฮ่าว ว  ผมซูจือ โบอาส่งผมมาหาพวกคุณ'


    ไม่ทันที่ฮีชอลจะตกใจแล้วสบถอะไรออกมา ลูกแก้วสีแดงส่องแสงฉายให้เห็นภาพโบอาหรือแม่มดแห่งมิติ


    "ไฮ ซูจือไปหาพวกเธอแล้วใช่มั้ย ดูท่าจะเดือดร้อนกันนี่"


    'ครับ'


    "เจ้านั่นไปหาแล้วใช่มั้ย"


    'ใช่ ตอนนี้พวกเรากำลังปะทะกันอยู่'


    "เจ๊เป็นแม่มดใช่มั้ย เจ๊ช่วยทำอะไรสักอย่างหน่อยสิไม่งั้นมันย่างสดพวกผมแน่ =O="


    "ได้แต่ต้องมีสิ่งตอบแทน"


    'ข้าจ่ายแทน'


    "โอเคหยวนให้ บอกสิ่งที่ต้องการมา"


    'เปิดอุโมงค์มิติที ท่านคงรู้ปลายทางเป็นอย่างดี'


    "ได้ แต่อย่าลืมนะ ของตอบแทน ^.^"


    'ท่านนี่.....-_-;;'


    "อ่อ แล้วทั้งสองคนอย่าลืมนะของตอบแทนถ้าเป็นเหล้าจะดีมาก ฮิฮิ"


    "เดี๋ยวๆ ไอ้แมวผีจ่ายไปแล้วทำไมต้องมาเก็บที่ผมด้วยล่ะ -O- / ผมยังไม่ได้ขอคุณเลยนะ O.O"


    "ถึงยังไงพวกนายมีเอี่ยว"


    ฮีชอลสบถพรืด ซีวอนเกาหัวแกรกๆต่างคนก็ต่างสงสัยว่าตนเองไปมีเอี่ยวด้วยเรื่องอะไร


    'ท่านต้องเวลาเตรียมการเท่าไหร่'


    "สิบห้านาทีเหลือเฟือแล้วจะส่งสัญญาณผ่านซูจือ"


    ภาพของแม่มดหายไป


    'พอข้านับสามข้าเลิกกางม่านพลังแต่อย่าไปไกลๆจากข้า'


    ทั้งสองคนพยักหน้า ส่วนซูจือลอยหวือไปหลบอยู่บนไหล่บาง


    '1'


    '2'


    '3'


    ม่านพลังสลายไปพร้อมกับลูกไฟโจมตีลงมือมาใส่ ทันใดนั้นลูกไฟกลับหยุดค้างอยู่กลางอากาศมีออร่าสีทองห่อหุ้มอยู่รอบๆรวมถึงตัวของโคลวด้วย ลูกไฟร่วงลงสู้พื้นดิน วงเวทย์ขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ใต้เท้าของโคลว สัญลักษณ์ของพระอาทิตย์ พระจันทร์ และดวงดาวลำแสงสีทองพุ่งขึ้นจากวงเวทย์สูงเกือบเสียดฟ้า นัยน์ตาหวานเบิกกว้างด้วยความตกใจ ซีวอนดึงให้คนที่อายุมากกว่าตนให้ออกห่าง


    "ว้า า า ดูท่างานนี้จะยากขึ้นซะแล้วสิ"


    "ฮิ ยาก ยาก เมี้ยว"


    แต่ท่าทางของทั้งคู่นั้นตรงข้ามกับประโยคเมื่อครู่โดยสิ้งเชิง เหมือนกำลังสนุกอย่างท่วมท้นกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้มากกว่า ลำแสงสีทองเริ่มจางหายก็พบกับสิงโตตัวใหญ่แต่ผิวกายนั้นเป็นสีดำสนิท นัยน์ตาสีแดงสด มีปลอกคอสีเงินสลักลวดลายสวยงาม


    'กรร ร ร '


    "นะ นั่นใช่ไอ้แมวผีรึเปล่า ซีวอน =O=;;"


    'ข้าเอง โคลวเจ้าเด็กแสบ'


    ...อื้อหือ อ อ อ ไอ้แมวผีมันดูน่างเกรงขามขนนาดนี้เลยหรอฟร่ะ =_=;; แต่ก็สมแล้วที่เป็นสัญลักษณ์ของเทพโครนอส... แต่ไม่ทันไรเด็กผู้หญิงที่อยู่ข้างกายของหลี่เฟยก็แปลงร่างเป็นเสือโคร่งสีขาว


    "เนโกะอยากเล่นอะไรสนุกๆใช่มั้ย"


    "กรร ร ร"


    "งั้นก็....เล่นให้สนุกไปเลย ! !"


    เสือโคร่งตัวขาวพุ่งทะยานมาหากลุ่มของฮีชอลแต่ก็โดนโคลวเข้าตะปบจึงเกิดเหตุการณ์ตะลุมบอนขนาดย่อมขึ้น ส่วนหลี่เฟยพุ่งทะยานมาหาพวกเขาฮีชอลกระชับดาบแน่นหมายจะฟันหน้าให้ยับจนหมอศัลยกรรมก็ยังไม่อยากจะรักษา ซีวอนรีบตะรุบให้ฮีชอลก้มลงและหลี่เฟยก็บิดเฉียดพวกเขาไปแต่ก็สร้างแผลให้ตรงกลางหลังแต่ตำแหน่งที่อีกฝ่ายเล็งนั้นคือตรงตาพอดี ! !


    "ไอ้เด็กบ้ามาช่วยทำไมฟ่ะ ชั้นจะฟันหน้ามัน"


    "ก่อนที่พี่จะได้ฟันหน้าพี่นั่นแหละจะได้ถูกควักลูกตาก่อน ! !"


    ร่าบางหันไปมองศัตรูที่ตอนนี้มือที่มีริ้วรอยแห่งวัยมีเล็บยาวแหลมงอกออกมา ก็ได้กลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ ...ดีชะมัดที่ไอ้เด็กนี่ช่วยไว้ก่อนไม่งั้นกรูได้เป็นไอ้บอดตาเดียวแหง...

    หลี่เฟยได้พยายามโจมตีอีกหลายครั้งแต่ก็เฉียดฉิวทุกครั้งไปอีกทั้งยังถูกฮีชอลฟันเข้าที่แขนจนเลือดอาบ ใช่ว่าฮีชอลจะไม่ได้แผลกลับมาเล็บยาวและเวทมนต์โจมตีของอีกฝ่ายก็สรางรอยแผลตามแขนและขารวมถึงใบหน้าหวานด้วยแต่น้อยกว่าซีวอนนักซึ่งต้องโจมตีและช่วยเหลือร่างบางที่บ้าบิ่นเหลือเกิน


    "กรร ร ร ร ร ! !"


    เสียงร้องอย่างเจ็บปวดโหยหวนดังขึ้นและร่างของเสือขาวล้มลง โคลวพุ่งทะยานมาช่วยเหลือพวกเขาทั้งๆที่แผลตัวเองนั้นเยอะเสียจนนับไม่ถ้วนมาขวางด้านหน้าไว้และข่วนหลี่เฟยจนได้แผลไปอีกรอบ


    'รีบขึ้นขี่หลังข้าเร็วเข้า ! !'


    ทั้งสองรีบกระโจนขึ้นหลังอย่างว่าง่าย ปีกสีขาวแผ่สยายออกจากหลังและพาบินขึ้นสู่ท้องฟ้า ศึกกลางอากาศคราวนี้ดูสมน้ำสมเนื้อขึ้นมาทันที ลูกไฟสีเงินถูกพ่นใส่ศัตรูแต่ก็ถูกปัดทิ้งด้วยยันต์ที่เรียกน้ำวนออกมา


    "เจ้าจิ๋วอีกนานมั้ยกว่าเจ๊จะเสร็จ ! !"


    "ข้าชื่อซูจือนะไม่ใช่เจ้าจิ๋ว ! !"


    "นั่นแหละ อีกนานรึเปล่า"


    "ไม่รู้ อ๊ะ ! !"


    นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนเลื่อนลอยและเสียงที่หลุดออกมานั้นไม่ใช่เสียงของเจ้าตัว


    "เรียบร้อยแล้วโคลว อุโมงค์อยู่ที่ในป่าข้างๆปราสาทขที่อยู่ถัดจากปราสาทองคืชายทางทิศตะวันออก พิกัดที่345,655 / 165,980.329"


    'เกาะดีๆ'


    "เอ๋ ? ?"


    โคลวกระชากตัวไปด้านหน้าเหมือนครั้งแรกที่ฮีชอลได้ลิ้มรสมาแล้ว ฮีชอลเกาะโคลวแน่นส่วนซีวอนที่นั่งต่อจากฮีชอลก็ไม่ต่างกันเกาะเอวคอดเสียแน่นจนกระดูกแทบหัก ซูจือนั้นเกือบปลิวไปตามแรงลมแต่ยังดีที่ถูกซีวอนคว้าไว้ได้ทัน เมื่อฮีชอลหันไปก็เจอกับหลี่เฟยนั้นบินตามาติดๆ


    "อ๊าก ก ก ไอ้แมวผีบินเร็วๆโว้ย ไอ้เจ๊กหน้าแก่มันจะตามทันแล้ว TTOTT"


    ซีวอนซุกหน้าลงซอกคอขาวทำเอาเจ้าตัวสะดุ้งเฮือก


    "อะ ไอ้ซิมบ้า ทำห่าอะไรของแกห๊า า า า  า O[]O/ /"


    "พะ พี่ผมไม่ไหวแล้ว"


    ร่างสูงช้อนสายตามองอีกฝ่าย นัยน์ตาคมปรือหวานฉ่ำ ริมฝีปากเผยอออกจากกัน หายใจหอบรวยระริน


    "ห๊า า า O[]O/ / /"


    ...ไอ้เด็กบ้านี่มันเป็นบ้าอะไรของมัน จู่ๆพูดเรื่องน่าอายแบบนี้ต่อหน้าธารกำนัลแถมตอนนี้ไม่ใช่สถานการณ์มาเกิดฟิลบ้าบออะไรเลยแม้แต่น้อยเลยนะ แล้วแถมก่อนหน้านี้มันยังบอกว่าอยากให้เป็นเมียมันอีก โอ้ว ว คิมฮีเครียด TT-TT... แขนแกร่งกระชับอ้อมกอดมากขึ้นลมหายใจร้อนที่เป่ารดซอกคอทำเอาร่างบางแทบจะไม่มีแรงยึดเกาะโคลว


    "พี่....ผมไม่ไหวแล้วจริงๆนะ ผมจะอ้วก คุณโคลวช่วยลดความเร็วลงนิดนึงได้มั้ยครับ TTOTT"


    ...เพล้ง ง ! ! คิมฮีหน้าแตก =_=/ / / อับอายที่สุดในชีวิต คิดเป็นตุเป็นตะคนเดียวอย่างแรง...


    "เรื่องของแกโว้ยไอ้ซิมบ้า ไอ้บ้า ไอ้จั๊ดง่าว ว ! ! เร่งความเร็วเลยไอ้แมวผี อย่าไปลดมันเลยความร้งความเร็วรีบทิ้งห่างไอ้เจ๊กแก่ไปได้เลยยิ่งดี >O<"


    "พี่ผมพูดจริงๆนะ  ผมจะอ้วกอยู่แล้ว TT^TT"


    โคลวค่อยๆลดความเร็วให้นิดนึงเพื่อคนที่ซ้อนจะได้รู้สึกดีขึ้นเท่านั้นแหละก็รับรู้ถึงรังสีอำมหิตอย่างเหลือล้น มือบางดึงขนสีดำสนิทเต็มแรง


    "ใครใช้ให้แกลดความเร็วลงห๊า า า ไอ้แมวผี =_=+++ แล้วไอ้ซิมบ้าแกจะกอดฉันให้ตัวหักเลยใช่มั้ยห๊ะ =O=**"


    และโคลวก็ต้องเร่งสปีดต่อไปเพื่อสวัสดิภาพของตน ...ขอโทษนะองค์ชายแต่ความกลัวมันมีมากกว่าความสงสารอ่ะ โดยเฉพาะกับไอ้เด็กแสบนี่ =_=;;... ความเร็วก็ยังคงถูกเร่งเรื่อยๆเมื่อมีคำสั่งหลุดออกมาจากกลีบปากสวย


    "เกาะกันแน่นๆนะจะถึงที่หมายแล้ว"


    แต่ละคนกระชับอ้อมกอดยิ่งขึ้นโดยเฉพาะซีวอนที่กอดฮีชอลจนแน่นสุดๆแล้วยิ่งเพิ่มแรงเข้าไปอีกพร้อมอาการของมื้อเช้าจะออกมาทักทายโลกภายนอกด้วยเช่นกัน


    "ไอ้เด็กเปรตแกไม่ฆ่าชั้นเล...อ๊าก ก ก ก ก ก ก ! ! TTOTT"


    แนวบินที่เป็นปกติจู่ๆถูกหักมุมดิ่งลงสู่ที่หมายทำเอาฮีชอลแหกปากร้องทันที กิ่งไม้ก็เกี่ยวตามเนิ้อตัวของแต่ละคนทำให้ได้แผลเพิ่มขึ้นอีกฮีชอลที่แหกปากว่าแว้ดๆต้องหุบฉับไม่งั้นใบไม้คงเต็มปากเค้าแน่ ภาพดงต้นไม้ก็บิดเบือนอีกครั้งอุโมงค์มิติปรากฎแล้ว ! !

    โคลวพุ่งตรงเข้าไปอย่างไม่ลังเลและปากอุโมงค์ปิดไปทันทีเช่นกัน ปล่อยให้หลี่เฟยอารมณ์หงุดหงิดและสบถออกมาเป็นภาษาบ้านเกิด ...อีกแค่อีกนิดเดียวก็จะเข้าไปได้แท้ๆ... สมองกำลังประมวลผลว่าทำไมจู่ๆอุโมงค์มิติที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นกลับโผล่ขึ้นมาและข้อมูลทุกอย่างเท่าที่มีในหัวประมวลออกมาก็ได้คำตอบนั่นคือ


    "แม่มดต่างมิติ โบอา ยัยตัวแสบ ! !"


    หลังจากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิมเมื่อคนก่อปัญหาได้กลับไป.....

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    อิลวานีที่เพิ่งได้รับข่าวจากเสด็จพ่อของซีวอนจึงเดินหาจนทั่วและได้รับคำบอกจากทหารว่าเดินมาทางโรงม้ากับท่านฮีชอล ...โอ องค์ชายถ้าท่านรู้ข่าวนี้ท่านคงจะทรงปลื้มปิติเป็นอย่างมาก ในที่สุดเสด็จพ่อของท่าน เสด็จแม่ของ่ทาน และเหล่าสภาผู้เฒ่าก็ทรงยอมรับในตัวของท่านฮีชอลจนได้ อีกไม่นานท่านฮีชอลจะกลายเป็นมเหสีที่ท่านใฝ่หาเสียที... เมื่ออิลวานีมาถึงก็ต้องตกตะลึงสภาพพื้นที่นั้นมีร่องรอยการต่อสู้และรอยเลือดอีกทั้งมีร่องรอยของสัตว์ขนาดใหญ่ รอยเท้าของเสือและสิงโต


    "ทหาร  ! ! !"


    ทหารหลายนายวิ่งมาต้นเสียง


    "อะ อ๊ะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นครับคุณอิลวานี"


    และอีกหลายเสียงถามกันให้เซ็งแซ่


    "ออกตามหาองค์ชายและท่านฮีชอล ทุกที่ ทุกแห่ง เร็วเข้า  ! !"


    ...ได้โปรดเถอะ องค์ชาย ท่านฮีชอล กรุณาปลอดภัยด้วยเถิด...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    =============================

     

    แหะๆ

     

    วันนี้โชจะบอกว่ามาอัพให้เป็นครั้งสุดท้ายของอาทิตย์นี้นะเจ้าคะ ^^;;

     

    เพราะว่าอาทิตย์หน้าที่ม.โชอ่ะเค้ามีสอบกลางภาคกันเเว้ว =_=;;

     

    เพราะฉะนั้นอีโชก้อต้องขอตัวชะแว้บไปอ่านหนังสือก่อนเพื่อจะได้เกรดออกมาสวยงามไม่งั้นอีโชมีแววโดนรีไทร์ทแน่

     

    เหอๆ

     

    ถ้าสอบเสร็จโชจะเอาคังทึกมาอัพให้แน่นอน

     

    I sware ><v

     

    พี เอส ส ส . รักคนอ่านเช่นเคย >3<

     

    ถ้าเม้นกันเยอะๆโชก้ออาจจะอัพให้สักสองสามตอนรวดเลย

     

     

    อิอิ

     

      M ag ic 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×