ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Strange Tales Of Panorama Island

    ลำดับตอนที่ #208 : THE EVIL WITHIN | Chapter 1: Alive After Death

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.ย. 65


    THE EVIL WITHIN
    Inspiration: The Evil Within (Video Game, 2014) & The Evil Within 2 (Video Game, 2017)
    Playlist: Mikko Tarmia – Light Inside Darkness (Penumbra Soundtrack)











    .

    ๔.

    นานมากแล้วที่เคียวเฮไม่ได้สะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเหงื่อกาฬที่ไหลท่วมตัว ศีรษะปวดหน่วงจนต้องยกมือข้างหนึ่งขึ้นกอบกุม เหมือนกับความรู้สึกที่แล่นปราดอยู่ตรงท่อนขาจากบาดแผลที่เคยเผชิญ ไม่ต่างจากอาการปวดหลอนแม้เขาจะไม่ได้สูญเสียอวัยวะใด เคียวเฮแน่ใจอย่างนั้น ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเอาแต่หาเหตุผลมาโต้แย้ง ทั้งหมอที่ตรวจไม่พบบาดแผลจากใบเลื่อยใด นอกจากรอยถลอกและกระดูกที่แตกในหลายๆ ส่วนจากอุบัติเหตุรถชน หรือตำรวจที่บอกว่าไม่มีการแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายจากโรงพยาบาลจิตเวชบีคอนในวันนั้นแต่อย่างใด สิ่งที่เกิดขึ้นคือเขา รุ่นพี่ทามาโมริ และรุ่นพี่โฮโซยะ ได้เดินทางออกจากสถานีเพื่อไปตรวจสอบคดีฆ่ายกครัว แต่เพราะฝนที่ตกหนักเลยทำให้รถเสียหลักไปชนกับรถบรรทุกที่สวนมาเข้าอย่างจัง มีเพียงเขาที่รอดชีวิตมาได้เนื่องจากสายสืบอาวุโสทั้งสองที่นั่งหน้าสุดถูกแรงกระแทกอัดเข้าไปทำให้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเรื่องที่เขาเล่ามานั้นไม่ใช่ความจริง เรื่องเหนือธรรมชาติแบบนั้นไม่มีทางเกิดขึ้นจริง บางคนถึงกับเสนอความเห็นว่าอาจเป็นความฝันทับซ้อนในตอนที่เขาเข้าโคม่าอยู่ก็ได้

    ทว่าความพยายามในการเสาะหาความจริงที่โรงพยาบาลจิตเวชเมื่อเขาฟื้นขึ้นมาในอีกสามเดือนให้หลัง กลับถูกขัดขวางด้วยคำสั่งฟ้าผ่าให้โยกย้ายไปทำงานยังเรนโบว์ คีย์ เมืองท่องเที่ยวริมฝั่งทะเลซึ่งอยู่ห่างออกไปนับพันไมล์ ด้วยขนาดที่ไม่ใหญ่เกินไปอย่างคริมสัน ซิตี้ แต่ก็ไม่เล็กเกินไปอย่างแบล็ก ฮิลล์ซึ่งเขาจรจากมาด้วยความหวังในการมองหาโอกาสที่ดีกว่า หัวหน้าบอกว่าอากาศที่สดชื่น บรรยากาศริมทะเลที่ปลอดโปร่งจะส่งผลดีกับการรักษา ทั้งในแง่ของร่างกาย ความคิด และจิตใจ

    เคียวเฮรู้ดีว่านั่นไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริง แต่เป็นเพราะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นที่โรงพยาบาลจิตเวชในวันนั้นจริง ซึ่งพรากเอาชีวิตของทั้งรุ่นพี่ทามาโมริ รุ่นพี่โฮโซยะ...และอาจรวมถึงเด็กหนุ่มคนนั้นไป

    ด้วยระยะทางที่เป็นอยู่นี้ เขาไม่อาจทำการสืบหาข้อมูลได้อย่างเหมาะสม เขาไม่สามารถพบข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์ในอินเทอร์เน็ตหรือแม้แต่ฐานข้อมูลของกรมตำรวจเอง สิ่งที่เคียวเฮเจอดูเหมือนจะมีแต่การคว้าน้ำเหลว อีกทั้งงานที่เมืองท่องเที่ยวก็ยุ่งวุ่นวายมากเกินกว่าที่เขาจะคาดคิดถึง แม้ส่วนใหญ่อาจเป็นแค่งานเบ็ดเตล็ดทั่วไปก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตการเป็นสายสืบของเคียวเฮไร้ค่าไปซะทั้งหมด บางครั้งก็จะมีคดีใหญ่เข้ามาจนเขาแทบไม่มีแรงเหลือพอให้คิดถึงอะไรได้อีก เรื่องราวของคริมสัน ซิตี้จึงค่อยๆ จางหายไปจากความสนใจ กระนั้นก็ไม่ได้ลบเลือนไปจากความทรงจำ เพราะความฝันและความเจ็บปวดที่ยังคงตามหลอกหลอน เหมือนกับคดีแช่แข็งในแฟ้มที่สักวันหนึ่งเขาจะได้ปัดฝุ่นมันขึ้นใหม่อีกครั้งเมื่อพบสิ่งที่เชื่อมโยงกัน ไม่ต่างจากตอนที่เขาได้พบกับอดีตเพื่อนร่วมห้องสมัยไฮสคูลอย่างคันดะ มายากะ ถึงแทบจะเรียกว่าสนิทสนมกันไม่ได้เลยก็ตาม หากการได้หวนกลับมาพบหน้าคนรู้จักอีกครั้งเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ก็ราวกับการได้ปะติดปะต่อชิ้นส่วนที่แต่ละคนขาดหาย กระทั่งประกอบขึ้นเป็นเรื่องราวบทใหม่ที่เคียวเฮอยากสร้างมันร่วมกันกับเธอ

    “ฝันร้ายเหรอ?”

    เคียวเฮสั่นหัวปฏิเสธด้วยไม่อยากให้เธอต้องเป็นห่วง แต่หญิงสาวคนข้างกายก็จะค่อยๆ ลุกขึ้นมา โอบกอดแผ่นหลังของร่างกายเปลือยเปล่าที่ชื้นไปด้วยเหงื่อนั้นไว้โดยไม่รังเกียจ พึมพำซ้ำไปซ้ำมาราวกับคาถาที่ช่วยปลอบประโลมว่า “ไม่เป็นไรแล้วนะ เคียวเฮ ฉันอยู่นี่แล้ว”

    และเมื่อเคียวเฮหันไปแนบประทับริมฝีปากลงไปกับมายากะที่เผยอรอต้อนรับไม่ว่าเมื่อไหร่ ความรู้สึกเจ็บปวดใดๆ ก็พลันสลายหายไป สิ่งที่หลงเหลืออยู่ ณ ขณะนี้มีเพียงความเป็นจริงที่ชัดเจนอยู่ตรงหน้ายามผสานและรับรู้ถึงลมหายใจ

     

    เขาน่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่าความเป็นจริงที่งดงามราวกับความฝันนั้นย่อมคงอยู่ได้ไม่นาน เมื่ออยู่มาวันหนึ่ง มายากะก็จะหายตัวไป ไม่ได้ไปที่ทำงาน ไม่ได้กลับมาที่บ้าน โทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ ไม่ได้ทิ้งข้อความหรือคำบอกเล่าอะไรไว้ นอกจากทิ้งเคียวเฮไว้กับความสับสนและไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขาพยายามเสาะหาเธอในทุกแห่งหนที่เป็นไปได้ แต่เมื่อไม่มีจุดเริ่มต้น มันจึงเหมือนการคลำทางในที่มืด ไม่ว่าจะมุ่งมั่นแค่ไหนก็ไม่อาจมองเห็นทางออก เหตุการณ์นั้นผ่านมาเกือบหนึ่งเดือนได้แล้ว หากเขาก็ยังไม่ถอดใจในการเฝ้าตามหา

    เพราะอย่างนั้นเคียวเฮถึงได้รีบร้อนลุกจากโซฟาออกไปทันทีที่ได้ยินเสียงกริ่งประตู แน่นอนว่าด้วยความคาดหวังถึงเธอ...ไม่ใช่หล่อนที่จดเขม็งตรงมายังเขาด้วยใบหน้าไร้รอยยิ้ม ไม่เหมือนกับชายหนุ่มที่มีส่วนสูงไล่เลี่ยกับเธอซึ่งยกริมฝีปากขึ้นโดยนัยที่ผสานทั้งความเป็นมิตรและความเห็นใจไม่ต่างจากท่าที

    “สวัสดีครับ คุณทากาฮาชิ เคียวเฮ เรามาจากกรมตำรวจคริมสัน ซิตี้ ขออภัยที่มารบกวนโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า แต่เรามีเรื่องสำคัญมากเกี่ยวกับคู่หมั้นของคุณที่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบ” ทั้งที่เคียวเฮควรต้องตื่นเต้น ตกใจ ไม่ก็ประหลาดใจจากถ้อยประโยคที่ชายผู้นั้นเอ่ย ทว่ากลับเป็นภาพเบื้องหน้านี้ต่างหากที่เรียกเอาความรู้สึกเหล่านั้นออกมาจนเขาได้แต่นิ่งค้าง “ผมสายสืบโอฮาชิ คาซึยะ ส่วนนี่ มิคามิ อารีน่า” ด้วยชื่อที่ไม่เพี้ยนผิดไปจากความทรงจำที่ไม่เคยหล่นหาย

    เคียวเฮรู้สึกได้ถึงหัวใจที่บีบรัดอยู่ในอก เป็นอาการที่เกิดขึ้นจริงไม่ใช่เพียงความรู้สึกหลอนบนอวัยวะภายนอก เมื่อพบกับสิ่งกระตุ้นมันจึงกำเริบขึ้นมา แม้ว่าจะเนิ่นนานกว่าสิบปีที่พ้นผ่าน มันก็ยังคงถูกกระตุ้นได้ด้วยสิ่งเดิมๆ...คนเดิมๆ...อีกครั้งหนึ่ง

     

    ๕.

    ไม่เพียงแค่การปรากฏตัวของพวกเขาที่เรียกความงุนงง สับสน หลากหลายความรู้สึกระคนปนเปให้กับเคียวเฮ หากยังรวมไปถึงประโยคเริ่มต้นบทสนทนาจากโอฮาชิอีกครั้ง ในตอนที่ต่างนั่งประจันหน้ากันอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก กองหนังสือที่แออัดกับผนังอิฐที่เคยให้ความรู้สึกอบอุ่น ก่อนแปรเปลี่ยนไปเป็นความเปลี่ยวเหงาที่เย็นเยือก ทว่าในยามนี้กลับกลายเป็นความอึดอัดราวกับจะหายใจไม่ออก

    “คุณคงจะสงสัยว่าทำไมพวกเราต้องเดินทางมาถึงนี่ด้วยตัวเอง แต่เรื่องที่เรากำลังจะพูดต่อไปนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก เกี่ยวกับคุณคันดะ มายากะ คู่หมั้นของคุณ...”

    เคียวเฮเผลอเหลือบมองหญิงสาวที่นั่งไขว่ห้างกอดอกอยู่ข้างกันกับคู่หู หากแม้จะได้ยินคำว่า คู่หมั้นที่ทำให้แววตาของเขาวูบไหว ใบหน้าของเธอที่จดจ้องมองมาก็ยังคงนิ่งเฉยเย็นชา เหมือนกำลังจ้องตากับคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่ไม่ใช่ เธอรู้จักเขา...ดี เหมือนกับที่เคียวเฮก็รู้จักเธอดี ในฐานะอารีน่า ไม่ใช่แค่สายสืบมิคามิอย่างที่เธอขีดกั้นกำแพงไว้อยู่นี้

    รวมถึงเรื่องราวที่คริมสัน ซิตี้ในวันนั้นด้วย”

    เมื่อโอฮาชิพูดมาถึงตรงนี้ สีหน้าของเคียวเฮก็จะพลันเปลี่ยนไป

    มันคือเรื่องจริงมาตลอด...ใช่ไหม?

    โอฮาชิพยักหน้ารับ เอ่ยสำทับเพื่อเป็นการยืนยัน

    เหตุการณ์ทุกอย่างที่คุณได้เจอในบีคอนเป็นเรื่องจริงทั้งหมด แค่ว่าเรามีเหตุผลสำคัญมากที่ต้องปกปิดมัน แต่ตอนนี้ถึงเวลาที่คุณควรได้รู้ความจริงสักที เพราะเราต้องการความช่วยเหลือของคุณ”

    แล้ว...เมืองที่ถล่ม...ถนนที่แยก...”

    ทุกสิ่งที่คุณได้ประสบมาคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นข้างในจิต คุณถึงได้ไม่มีบาดแผลภายนอกเหมือนอย่างที่บอกกับพวกตำรวจ แต่ถ้าเกิดว่าคุณตายอยู่ในโลกนั้น คุณก็จะตายในโลกจริงด้วย เหมือนอย่างคุณทามาโมริกับคุณโฮโซยะ” ชื่อของอดีตเพื่อนร่วมงานทั้งสองคนทำให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเคียวเฮกระตุกไหว ต้องขออภัยด้วยจริงๆ ครับ เรื่องนั้นเป็นความผิดของเราเอง” โอฮาชิค้อมหัวลงเพื่อแสดงเจตนารมย์ต่อคำพูดของตัวเอง “อันที่จริงพวกเราก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง แต่ดูเหมือนพวกคุณจะถูกลูกหลงดึงเข้าไปในสเต็ม — ระบบที่จำลองโลกความเป็นจริงขึ้นมา ถึงจะเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ต้องเกิดการสูญเสีย แต่เราก็ต้องขอบคุณที่คุณช่วยเหลือเด็กคนนั้นออกมาได้อย่างปลอดภัย เขาเป็นคนไข้ที่มีค่ามากของเรา”

    คำอธิบายของเขาไม่ได้ช่วยให้เคียวเฮกระจ่างขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย กลับเป็นตรงกันข้ามเลยต่างหาก

    ผ...ผมไม่เข้าใจ เราที่คุณว่านั่นหมายถึงใครกันแน่?

    เรามาจากองค์กรโมเบียส” ครั้นโอฮาชิหันมาพยักเพยิดให้หญิงสาวคนข้างตัว เธอที่นั่งเงียบอยู่นาน — แทบไม่กระดิกกระเดี้ยเลยด้วยซ้ำ — ก็จำต้องเปิดปากพูดอย่างเสียไม่ได้ ดูเหมือนว่าเธอจะเชื่อฟังคู่หูมากจนทำให้เคียวเฮนึกประหลาดใจกับอีกความเปลี่ยนแปลงอยู่ไม่น้อย “เป้าหมายของเราคือการสร้างโลกจำลองขึ้นมาด้วยระบบสเต็มผ่านการเชื่อมต่อทางสมอง ระบบโปรโตไทป์ของเราอยู่ที่ห้องใต้ดินของโรงพยาบาลจิตเวชบีคอน เราเลยเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่พวกคุณจะถูกดึงเข้าไปผ่านทางคลื่นสมอง ถึงเราจะยังไม่รู้แน่ชัดว่าเรื่องนั้นเกิดขึ้นได้ยังไงก็ตาม”

    แต่ทุกอย่างมันเหมือนกับ...”

    คริมสัน ซิตี้” เธอต่อประโยคที่ไม่จำเป็นต้องรอเขาพูดให้จบด้วยน้ำเสียงห้วนกระด้าง ราวกับความพยายามที่จะเหินห่างตั้งแต่สรรพนามที่เรียกขาน “เพราะเราเลียนแบบทุกอย่างที่อยู่ในเมืองนั้น ทุกรายละเอียดเท่าที่จะเป็นไปได้ จนกระทั่งระบบเกิดความผิดพลาดและล่มสลายอย่างที่คุณได้เห็น เราจึงละทิ้งระบบโปรโตไทป์นั้นแล้วสร้างโลกใหม่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับความเป็นจริงขึ้นมา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความเป็นจริงทับซ้อนแบบนั้นอีก”

    เพื่ออะไร?” เคียวเฮถาม “แล้วเด็กคนนั้นเกี่ยวข้องอะไรด้วย?”

    โมเบียสของเราจับตาดูคุณมาโดยตลอด” โอฮาชิไม่ได้ตอบคำถามทั้งสองข้อของเขา “คุณคันดะ มายากะเป็นคนเสนอตัวเอง เผื่อว่าเราอาจจำเป็นต้องการคุณ และดูเหมือนว่าตอนนี้จะถึงเวลานั้นแล้ว”

    มายากะ...จับตาดูผมเหรอ?”

    คู่หมั้นของคุณเป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่ดูแลระบบสเต็ม” เคียวเฮเชื่อว่ามีความเย้ยเยาะอยู่ในคำพูดที่อารีน่าเน้นย้ำลงไป “เธอสมัครใจมาที่นี่เพราะคุณช่วยน้องชายของเธอออกมาจากสเต็ม แต่เป็นเพราะว่าเราขาดการติดต่อกับคนในสเต็มแห่งที่สองที่น้องของเธออยู่ เธอถึงได้รีบบึ่งกลับไป เข้าไปในนั้น และตอนนี้เราก็ขาดการติดต่อกับเธอไปอีกคน เพราะอย่างนั้นเราเลยอยากส่งคุณเข้าไปเพื่อช่วยบอกเราว่ามันเกิดอะไรขึ้น”

    เคียวเฮถึงกับพูดอะไรไม่ออกหลังจากได้ยินเรื่องราวทั้งหมดจากปากของเธอ มันเป็นเรื่องจริงแน่หรือที่มายากะเข้าหาเขาด้วยเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ หรือสิ่งที่เคียวเฮเชื่อว่าคือความรักแท้จริงแล้วอาจเป็นเพราะบุญคุณ กระนั้นเขาก็ไม่ได้โกรธเคืองหล่อนมากไปกว่าความไม่เข้าใจ แม้ว่าบัดนี้เขาจะเข้าใจทุกเรื่องราวที่อารีน่าและโอฮาชิบอกกับเขาแล้วก็ตาม สิ่งที่หลุดรอดออกมาจึงเป็น “แล้ว...ทำไมต้องเป็นผม?”

    เพราะคุณคือคนเดียวที่รอดจากโปรโตไทป์มาได้” อารีน่าตอบ “คุณไม่อยากช่วยคู่หมั้นของคุณเหรอคะ คุณทากาฮาชิ?”

    มิคามิ!” โอฮาชิส่งน้ำเสียงเอ็ดอึงใส่เธอที่ไม่ปิดบังน้ำเสียงประชดประชันเป็นครั้งที่สอง

    ผมขอถามอะไรสักอย่างได้ไหม?”

    โอฮาชิพยักหน้า

    คนที่ผมเห็นอยู่ในสเต็ม ผู้ชายที่ชำแหละเนื้อกับผู้ชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมที่ฆ่าคนอื่นไปจนหมด พวกเขามีอยู่จริงหรือว่า...”

    “จำเขาไม่ได้เหรอ!” เป็นอารีน่าที่โพล่งแทรกขึ้นมาอีกครั้ง เรียกทั้งสายตาและความคิดของเคียวเฮให้หวนย้อนกลับไปหา “ฟุคุโมโตะ ไทเซย์ เพื่อนเก่าของเราไง ทำไม! นานเกินไปจนนายจำเขาไม่ได้แล้วเหรอ!” ด้วยน้ำเสียงที่อารีน่ากระแทกลงไปอย่างแรงมาก “ทุกอย่างที่นายเห็นในนั้นมาจากความคิดของไทเซย์ เขาเป็นคนสร้างมันขึ้นมาด้วยตัวเองทั้งหมด และตอนนี้เขาก็อยู่ในสเต็มแห่งที่สองของเราด้วยเพราะเราต้องการความคิดของเขา ถึงเขาจะสร้างความบ้าคลั่งนั้นขึ้นมา แต่เขาก็ยังมีความสำคัญกับเรา”

    ด้วยการฆ่าคนตายเหรออารีน่า!” เคียวเฮเหลืออดเต็มทีกับคำพูดที่ฟังดูเข้าข้างคนผิดนั้น เขาละทิ้งคำพูดสุภาพ ไม่สนใจแขกอีกคนที่นั่งอยู่ด้วย แล้วเริ่มต้นขึ้นเสียงดังใส่เธอที่ก็ไม่ยอมลดราวาศอกเฉกเช่นกัน “ฉันเห็นเขาเชือดคอฆ่ารุ่นพี่ของฉันต่อหน้าต่อตาเลย แต่พวกโมเบียสของเธอก็ยังเก็บเขาไว้เพราะต้องการความคิดของเขาเนี่ยนะ! ทำไมเหรออารีน่า! ความคิดของเขามันสำคัญมากกว่าชีวิตคนขนาดนั้นเลยหรือไง!”

    ใช่! เคียวเฮ! ความคิดของเขาสำคัญมาก! มีค่ามาก! และฉันไม่สนใจเรื่องรุ่นพี่หรือว่าคู่หมั้นห่าเหวของนายทั้งนั้น! เพราะคนที่นายต้องเข้าไปช่วยก็คือไทเซย์! อย่าทำเป็นลืมว่านายติดค้างเขาอยู่!

    มิคามิ! พอได้แล้ว!” โอฮาชิตัดสินใจเบรกการสนทนาที่หยาบคายเกินไปแล้วของคู่หู ที่จะทำให้อารีน่าลุกพรวดพราด ตอกฝีเท้าปึงปังจากไปด้วยความหัวเสีย ครั้นเสียงประตูปิดไล่หลังดังมาแล้ว เขาที่ไม่ได้สนใจมองตามเธอไปเหมือนกับชายหนุ่มฝั่งตรงกันข้ามจึงค่อยพรูลมหายใจออกมา

    ผมเข้าใจว่าเธอเคยเป็นเพื่อนกับคุณ แต่ยังไงผมก็ต้องขอโทษด้วยที่เธอพูดจาละลาบละล้วงรุ่นพี่กับคู่หมั้นของคุณแบบนั้น”

    ไม่เป็นไรครับ”

    คุณไม่จำเป็นต้องไปก็ได้ เราจะไม่บังคับคุณ”

    ผมจะไป” ไม่มีความลังเลใจในตอนที่เขาสวนย้อน “แต่ผมจะไม่ช่วยฆาตกรแบบนั้น ถึงเขาจะเคยเป็นเพื่อนของผมก็ตาม”

    โอฮาชิสั่นหัว “คุณแค่พาคุณคันดะกับน้องชายของเธอออกมา แจ้งข่าวว่าเกิดอะไรขึ้นข้างในนั้นให้เราทราบ เรื่องหลังจากนั้นเราจะจัดการต่อเอง”

    แล้วถ้าผมออกมาไม่ได้ล่ะ?”

    คุณออกมาได้” โอฮาชิยืนยันให้เขาอย่างหนักแน่น “ฟุคุโมโตะคือคอร์ (ใจกลาง) คุณเข้าใจที่ผมพูดใช่ไหม?”

    เคียวเฮเข้าใจในความหมายนั้น นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการ...และแน่นอนว่าเขาจะทำ












    2022年07月13日
    _______________ 
     ฤกษ์งามยามดีเพราะวันนี้เป็นวันที่บั้มเฟิร์สเลิฟของนานิวะวางแผงแล้วววว เย่ะ! >_< ดีใจที่ตามวงนี้เร็วเลยไม่ต้องไล่เก็บเยอะ ว่าไปย้อนรอยสโตนส์เปี๊ยบเลยว่ะ เพราะกูก็มาตามตอนซิงเกิ้ลที่สองเหมือนกัน เพลงแนวคล้ายกัน ลุคดาร์กๆ คือกัน แถมก็กูบ้าจากเอ็มวีเหมือนกันทั้งนาวิเกเตอร์กับดิแอนเซอร์ ฮ่าๆๆ / เห็นกูลงสั้นพันคำมึงก็อย่ารีบร้อนด่า เอ๊! ที่จริงกูแต่งจบแล้ว อีกพาร์ทก็มีแค่สามคนนี้คุยกันเรื่องมายากะกับโมเบียส แต่เพราะอะไรรู้ไหม เพราะกูเขียนไม่รู้เรื่อง! เหมือนที่กูเคยบอกมึงไปว่าเรื่องในเกมนี้กูอ่านยังไงก็ไม่รู้เรื่อง! แล้วฟิคกูจะเอาไหนมารู้เรื่อง! แถมพอแต่งๆ ไปถึงพบว่ามีช่องโหว่ซึ่งมาจากบทนำอยู่แต่กูจะไม่แก้แล้ว ลงทุนไปเยอะแล้ว สตูดิโอ (กูนี่แหละ) บอกว่าเอ็งก็ไปเปลี่ยนเนื้อเรื่องให้เข้ากับไพล็อตสิวะอย่าโง่! ถึงเรื่องของกูจะไปอยู่ในช่อง GAME SINS | Everything Wrong With ก็ต้องแคร์อะไร! กูบอกไปเองว่าจะขายแต่ฉากบู๊ เลือดสาด น้ำเน่า ผู้ชายหล่อ เต้าอั้น!
     กูว่ากูพิมพ์ชื่อโอฮาชิบ่อยกว่าเคียวเฮมากๆ อีผี นี่หรือเปล่าว่าที่นักแสดงคู่บุญคนใหม่ของกูเอง คุณไมเคิล เคน แต่เห็นไหมร่ะ! มึงเห็นไหมร่ะ! โอฮาชิกับโจมาโควต้าจากะกับเก็นตะเป๊ะๆ! ตอนช่วงตามทราจาใหม่ๆ กูก็แนะนำลีดเดอร์ให้ แต่มึงไม่เอา พอตามๆ ไปสักพักกูถึงเปลี่ยนมาซุยเก็นตะเพราะรู้ว่าเนี่ยไทป์มึง แล้วมึงก็ด่ากูยับจนกูปิดปากเงียบ รูดซิปกริบ สุดท้ายมึงก็มาชอบเอง โธ่อี เขินๆ ออตโต้เหล็กดัดฟัน ^(+++++)^ แล้วมึงคิดว่ากูจะไม่รู้เหรอว่าโจ (และโคจิเคน) จะเป็นไทป์มึงเพราะมาเวย์เดียวกับเจสซี่! กูรู้กูเห็นอยู่แล้วว่ามันต้องลงอีหรอบนี้แหละ กูเคยผิดที่ไหน เฮ้อออ แต่ถ้ากูแต่งให้ก่อนมึงก็ด่ากู คนเรา สันดารแท้ มึงนี่เองคู่เวรคู่กรรมกู
     สังเกตไหมว่าเมืองทั้งสามชื่อลงด้วย Quay / City / Hill ข้างหน้าเป็นชื่อสีหมดเลย ก็ไม่ทำไมหรอก แค่กูจงใจตั้งเอง T-T ชื่อตอนเอามาจากอัลบั้มของปู่จอห์น คาร์เพนเตอร์ที่บังเอิญผ่านตาในสปอติฟาย ซึ่งก็ตรงกับเคียวเฮนั่นเองฮร่ะ และกูได้แรงบันดาลใจ การใช้ภาษาเพิ่มเติมมาจากเรื่องมูน (ผวา) ของเจมส์ เฮอร์เบิร์ท สำนวนแปลไทย (ปี 2529) ของคุณสุุวิทย์ที่บังเอิญหยิบมาอ่านอีกรอบด้วยฮร่ะ เพราะเรื่องนั้นเป็นแนว gore ไม่เบา ส่วนวันนี้ขอลาไปดูหนังก่อน ใส่สูทไป (ไม่) ดูมินเนี่ยน  >_<

    2022年08月07日
    _______________ 
     พอกูดูวันที่เอาครึ่งแรกลงแล้วตกใจมาก ผ่านมาเกือบเดือนแล้วกูมัวไปทำอะไรอยู่ ไม่เกลาสักที งานการก็ไม่ค่อยจะมี 55555 นึกว่ากูจะเทแล้วล่ะสิ หึๆ ขอโทษที่กูกลับมาแล้ว พร้อมกับเคียวเฮที่หายจากช่องเกมมิ่งรูมไปเกือบสองสัปดาห์และกลับมาพร้อมแก๊งบีสต์ >_< ร่วมด้วยเอ็มวีมาเฟียฮ่องกงของสโนว์ เอ็มวีปาร์ตี้โมร็อกโกของสโตนส์ และพรุ่งนี้เอ็มวีก้อดเบลสของเส้กสี้โสนนนน ที่วงนี้เดี๋ยวแนวกูเดี๋ยวแนวมึงสุดละ กูยอม ส่วนมึงยอมให้พี่ฟูมะในอันอันแร้ว ใส่กล่องสองชุด
     บางคำกูก็ไม่อยากแปลเลยจะขอทับศัพท์เอาถึงไม่ใช่คำเฉพาะก็เถอะนะ (ในมูนที่แปลปี 2529 เค้ายังเขียนทับศัพท์ว่าแม็ธเลย math) และเผื่อไม่เก็ต การทำลายใจกลางก็คือการทำลายระบบทั้งหมดนั่นเอง สวัสดี / กูนะชอบบทของอารีน่ากับไทเซย์มาก รองลงมาก็ไทกะ รองลงมาอีกก็ไคโตะกับโคจิเคน ถ้าพล็อตไม่หักไปจากที่คิดไว้นะ ส่วนเคียวเฮนี่ยังออกมาแนวพระเอกทั่วไปแบบที่กูจะไม่ชอบอยู่เลยว่ะ (เพราะกูรักเค้านั่นเอง หยอกๆ) และตอนหน้าเราก็ยังไม่ได้ไปยูเนียนกันเตื้อ เพราะจะย้อนความหลังเรื่องของเคียวเฮ ไทเซย์ และอารีน่า ขายความน้ำเน่าก่อนๆ ให้รู้ที่มา แล้วเมื่อไหร่จะได้บู๊ ได้กอร์สักทีวะ กูไม่อยากแต่งฉากพูดกันเยอะๆ แล้ว กูเหนื่อย และจนตอนนี้กูยังไม่ได้รูปคอมมิชสักเจ้าเลยว่ะ เป็นท้อ o<--<
    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×