คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : CHAPTER 11 INNOCENT II 100 %
CHAPTER 11 INNOCENT II
เมื่อฉันคิดว่าทุกอย่างจะราบรื่นไปด้วยดี การประชุมผู้บริหารและพนักงาน
ในครั้งนี้ ฉันกลับอดที่จะตื่นเต้นไปกับมันไม่ได้ หลังจากที่ฉันขอให้เขาช่วย
ให้ฉันได้สืบหาข้อเท็จจริงบางอย่างด้วยตัวเอง
อย่างเช่นวันนี้ที่ฉันนั่งเรือไปประชุมที่เกาะเชจูพร้อมกับพี่จองชิน พอเรือจอด
เทียบท่า รถประจำทางขาเข้าเมืองเชจูก็เข้ามาจอดรับผู้โดยสารตรงทางออก
ในระหว่างที่ฉันเตรียมจะขึ้นไปบนนั้น ใครบางคนก็คว้าปกคอเสื้อกันหนาวฉัน
ถอยกรูดลงมา จนคนบนรถถึงกลับมองลงมาด้วยความสงสัย
“ ฉันลืมบอกเธอไปอย่าง รายชื่อผู้เข้าประชุมวันนี้ไม่ใช่เธอนะ แต่เธอควรจะ
เป็นตัวแทนคิมคีซุนมากกว่า” พูดจบพี่จองชินก็โยนถุงใบใหญ่มาทางฉัน ที่เกือบ
จะล่วงหลุดมือไป พร้อมเงยหน้ามองเขาสลับกับถุงใบใหญ่ด้วยความประหลาดใจ
“ นี่มัน…เสื้อผ้าผู้ชายไม่ใช่เหรอ…”
“ ถ้าไม่ใช่เสื้อผู้ชายแล้วจะให้เป็นเสื้อผู้หญิงรึไง ” พี่จองชินผู้มีสีหน้าเรียบนิ่งมา
แต่ไหนแต่ไรกลับยิ้มหวานขึ้นมาซะอย่างงั้น แล้วจู่ๆเขาก็ไม่รีรอที่จะฉุดลากฉันผลัก
เข้าไปในห้องน้ำแถวๆนั้น -_-
“ เล่นบ้าอะไรเนี่ย อย่าขังฉันไว้ในนี้สิ เหม็นฉี่จะตายชัก เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ
ถ้าออกไปเมื่อไหร่ฉันจะจัดการพี่จริงๆด้วย ” ฉันตะโกนออกไปสุดเสียงสองมือ
ฉุดดึงกลอนประตูห้องน้ำให้เปิดออก
“ถ้าเสร็จเมื่อไหร่ฉันจะกลับมาเปิดให้แล้วกันน่ะ” แล้วมนุษย์ตัวสูงหน้าห้องน้ำ
ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
หน้าโรงแรมฮิลตัน
ขาแข้งฉันสั่นไปหมด หลังจากที่พี่จองชินทิ้งฉันไว้ตามลำพังหน้าโรงแรม
ไม่มีใครที่ฉันพอจะรู้จักสักคนเดียว จะหันไปคุยกับใครก็ไม่ได้ ได้แต่วนไป
วนมาอยู่กับเครื่องดื่มซึ่งจัดเตรียมไว้สำหรับแขก ทำให้นมกับขนมปังจึงพอ
ประทังระหว่างมื้อไปได้บ้าง
“ ผู้เข้าร่วมประชุมใช่มั้ยคะ… ไม่ทราบว่าชื่ออะไรคะ”
“ คิมคีย์บอมครับ ”
“ คุณคิมคีย์บอมช่วยเซ็นชื่อและรับเอกสารทางด้านนั้นด้วยนะค่ะ ”
นึกว่าจะถูกจับได้แล้วซะอีกนะ แสดงว่าเรา…ก็ทำเนียนเหมือนกันนะ
เนี่ย คิๆ ^o^
“ ฉันว่าพวกเราไม่ควรจะมาที่นี่เลยนะ ” เสียงคุ้นนะ…-_-
“ มันเรื่องอะไรที่เราจะไม่รู้ความเคลื่อนไหวของคนพวกนี้บ้างล่ะ ”
“ แล้วแกอยากน่าแตกนักรึไงว่ะคิมจงฮยอน ” ฉันหยุดยืนหายใจอยู่พักหนึ่ง
พลางค่อยๆยกเอกสารขึ้นบังหน้าตาตัวเองไว้พร้อมทั้งเดินจ้ำเท้าเข้าไปใน
ห้องประชุมและหาที่นั่งใกล้ๆ แต่เหมือนตัวเองนั้นจะมีบุญน้อย พอฉันเดิน
ไปได้ไม่เท่าไหร่ เสียงทักทายที่ไม่อยากให้เป็นเขาคนนั้นก็ดูจะผิดคาดไปซะ
แล้ว
“ มาประชุมที่นี่ด้วยหรือครับ พี่เขย ”
“ นั่นพี่เขยนายเหรอ”
“ ทำไมครับ ผมก็เป็นพนักงานของซองวอนเหมือนกันนะคุณ ”
“ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ครับ ว่าแต่คีซุนเธอติดต่อหาคุณบ้างหรือเปล่า ”
“ คุณจะถามผมทำไม เธอจะติดต่อกับผมหรือไม่มันก็เรื่องของเราสองคน
พี่น้องไม่ใช่หรือ ผมขอตัวล่ะ ”
“ นี่คุณยังไม่รู้เรื่องน้องสาวของคุณสินะ ” จะพูดอะไรอีกล่ะ อยากพูดอะไร
ก็พูดออกมาเถอะนะ เพราะตอนนี้ฉันก็ไม่ใช่คิมคีซุนผู้อ่อนไหวอยู่แล้ว และ
คนที่เขากำลังพูดด้วย นั่นก็คือน้องสาวของเขาเอง ไม่ใช่คิมคีย์บอม
“ แต่ถึงคุณจะรู้แล้ว ผมก็”
“ จะพูดอะไรก็รีบพูดมาเถอะน่า ผมรีบ” ฉันเอ่ยสอดมือที่แสนจะเย็นเหยียบ
เข้าไปในกระเป๋ากางเกงสเล็ค ตระเตรียมใจกับเรื่องที่เขาจะพูดในไม่ช้านี้
“ น้องสาวคุณน่ะ เธอไม่ใช่ภรรยาผม คุณคงจะรู้แล้วว่าสามีคนใหม่ของ
เธอเป็นใคร เพราะงั้นเราเลยไม่ได้หย่ากันอย่างเป็นทางการสักเท่าไหร่ ถ้า
น้องสาวคุณต้องการจะหย่ากับผมล่ะก็ ฝากบอกเธอด้วยนะครับว่า..ผมจะ
ไม่ยอมหย่าให้เธอโดยเด็ดขาด”
“ งั้นคุณก็ติดต่อเธอเองแล้วกัน ”
“ พี่ค่ะ ”
“ อ้าว แล้วคุณลุงล่ะ ”
“ คุณพ่อคุยธุระอยู่ค่ะ นี่เพื่อนพี่ใช่มั้ยค่ะ “
“ ก็ไม่เชิงหรอก เพราะเขาอายุน้อยกว่าฉัน ”
“ งั้นเหรอคะ เอ่อ ฉันชื่อ จองซูจองค่ะ ” ดวงตาสีน้ำตาลดำคล้ำ ใบหน้า
งดงาม ทำให้รอยยิ้มนั้น แม้แต่ผู้หญิงด้วยกันก็ไม่อาจละสายตาไปได้
“ นี่จงฮยอน ฉันขอตัวเข้าไปข้างในก่อนนะ ตามไปล่ะโอเค้“ คุณชอนดุง
เดินเข้าไปข้างในทันที เมื่อเขาสองคนเริ่มคุยกันในท่าทีที่สนิทสนม ส่วนฉัน
ก็ไม่รอช้าที่จะส่งยิ้มให้เธอพร้อมกับหลีกตัวออกมาด้วยเช่นกัน และพอเข้า
มาได้ ฉันก็ตัดสินใจนั่งลงตรงที่นั่งแถวๆนั้น
“ใช่เธอสินะ…ซีอีโอสาวสวยอายุยังน้อยคนนั้น ”
“อืมม.. เห็นว่าเธอคนนั้นท่าจะสนใจรองผู้จัดการใหญ่มากทีเดียวล่ะ ”
“ น่าสงสารท่านรองนะที่ต้องมาเป็นพ่อหม้ายลูกติด แต่เขาก็หา
ภรรยาใหม่ได้สบายๆอยู่แล้ว ” ฉันไม่กล้าจะเงยหน้ามองผู้หญิง
สองคนทางด้านข้างเลยจริงๆ แล้วฉันก็เลยคว้าเอกสารตรงหน้าขึ้น
อ่านเเทนที่จะสบตาพวกเธอเข้า
รอบๆด้านแทบจะทำให้ฉันรู้สึกตึงเครียดขึ้นมามากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
หลังจากคุณชินมินซูกล่าวเปิดการประชุมไปได้ไม่เท่าไหร่ เสียงข้อโต้
แย้งระหว่างทั้งสองฝ่ายจึงเกิดขึ้นเสียจนได้
“ ทำไมครับ ถึงพวกคุณจะสร้างรายได้ให้กับซองวอนก็จริง มีอะไรที่ผม
ไม่รู้สัจธรรมของโลกบ้าง ว่าคนเรามันเห็นแก่ตัวแค่ไหน ก็เพื่อผลประโยชน์
ของตัวเองทั้งนั้น ”
“ ว่าไงนะ!!! ซีอีโอคนไหนบ้างที่จะพูดจาสกปรก… หยาบคายได้เท่าเธอกัน!! ”
“ ม๊อกโกลีเป็นเครื่องดื่มที่มียอดจำหน่ายสูงก็จริงๆ แต่จะให้ส่งเสริมไวน์ของ
ยุโรปมาเป็นสินค้าเรา มันไม่เท่ากับว่าเราขายสินค้าให้เขาต่อหรอกหรือครับ”
“ ไอ้ข่าวที่ว่า ไวน์ยุโรปหวังพึ่งตลาดเอเชียนี้มันยังไงกันครับเนี่ย”
“ จริงๆเหรอ ไม่อยากจะเชื่อเลย ข่าวที่ว่านั้นมันเรื่องจริงใช่มั้ย ”
“ คุณเอาอะไรมาพูด ไม่รู้จริงก็อย่ากล่าวหากันเลยจะดีกว่า ”
“ บางครั้งในทางธุรกิจก็ต้องมีแข่งขันกันบ้างไม่ใช่เหรอครับ หรือผมพูดผิดคน ”
เขาเหมือนตัวละครร้ายในหนังอังกฤษเรื่องหนึ่ง หลังจากที่สามีของฉันคิมจงฮยอน
หลุดปากออกไป ผู้บริหารระดับสูงหลายคนก็เริ่มพูดคุยเสียงดังเซ็งแซ่หนาหู ต่างคน
ต่างหันมองหน้ากันเลิ่กลัก คุณจงฮยอนเอาแต่ปั้นหน้ายิ้ม ไม่ใส่ใจเสียงรอบๆตัวสัก
เท่าไหร่ แล้วสักพักเขาก็ลุกออกจากห้องไปเป็นคนแรกภายหลังการประชุมที่สิ้นสุด
***********************
“ คาปูชิโน่ปั่นหวานน้อยหนึ่งแก้วครับ ”
“ ผมขอเอสเปสโซ่ปั่น ”
ฉันเอ่ยสั่งกับพนักงานขาย หันไปมองเสียงข้างๆ และพบว่าคุณจงฮยอน
ยืนรอเครื่องดื่มที่สั่งไว้เช่นเดียวกันกับฉัน เพื่อนของเขาโบกมือทักทายฉันก่อน
คนแรกพลางกระทุ้งข้อศอกสะกิดเขาอยู่หลายที จนกระทั่งเขาเงยหน้าขึ้นมาเห็น
ฉันเข้า
“ อ้าว!! ดื่มอะไรดีครับพี่เขย ”
“ ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่ใช่พี่เขยคุณ!! คุณมีพี่สาวด้วยรึไงถึงได้บอกว่าผมเป็นพี่
เขยของคุณน่ะ ให้ตายสิ ”
“ ผมไม่รู้หรอก พูดไปอย่างงั้นเองน่ะ ”
“ คราวหลังก็ช่วยเรียกให้ถูกด้วยนะครับท่านรองคิม ”
“ เอ่อ คุณคีย์บอมเราไปหาอะไรดื่มด้วยกันนะครับ ”
“ คุณคนนี้เขาไม่ยอมไปไหนกับใครหรอกนะ อย่าชวนให้เสียเวลา
เปล่าเลย ”
“ หลายๆคนสนุกดีออก ”
“ กาแฟที่สั่งได้แล้วค่ะ”
“ งั้นฉันไปรอข้างนอกก่อนนะ ” เขารับของเสร็จก็เดินปริตัวออกไปข้างนอกร้าน
ทันที จู่ๆคุณชอนดุงก็ยิ้มแปลกๆ ยิงคำถามลูกใหญ่มาให้ฉันยืนตัวแข็งค้างไม่
กล้าตอบ
“ ว่าไงครับ อย่าบอกนะว่าคุณไม่ใช่ ”
ฉันแอบกลืนน้ำลายไปหลายอึก สายตาค่อยๆมองแผ่นหลังนั้น ยืนถือแก้วกาแฟ
เหม่อมองรถที่ขับผ่านไปมาคันแล้วคันเล่า
“ ก็เพราะสายตาที่คุณมองเพื่อนผมต่างหากไงล่ะครับ ผมถึงรู้”
“ ฉันนี่แย่จังเลยนะ ”
“ แต่เหมือนเพื่อนผมเขาจะยังไม่รู้นะ ช่วยขัดขว้างจงฮยอนกับซูจองให้
ผมทีได้มั้ยครับ แล้วผมจะไม่เปิดเผยเรื่องของคุณกับเจ้านั่นให้แน่นอน ”
ใบหน้าสลดหดหู่ โค้งคำนับให้แก่ฉัน แต่ไม่นานนักทั้งฉันและเขาเราต่าง
ก็เงยหน้าไปทางนั้นพร้อมๆกัน
“ มาช้าจังนะ รู้มั้ยว่าคนเขารอเธออยู่”
“ โถๆ อย่างอนเลยนะค่ะพี่ เราไปกันดีกว่านะ”
“ รอชอนดุงมันก่อนสิ”
“ เราจะไปแค่สองคนไม่ได้หรือค่ะ ”
ฉันพอจะจับใจความได้คร่าวๆ กับเสียงบทสนทนาที่ดังอยู่ข้างนอก ระหว่าง
ความสัมพันธ์นั้น ถึงเราจะไม่แสดงออกกันมากมายนัก สำหรับฉันผู้ชายคนนั้น
เป็นพ่อของลูกที่ใครๆ ก็คว้าเขาไปจากฉันไม่ได้
ร้านเหล้าเล็กๆตั้งอยู่ใจกลางถนนฮงแด บรรยากาศเงียบสงบระหว่าง
ที่พวกเรานั่งดื่มจนเหล้าหมดไปอีกขวด แม้จะมีผู้คนทยอยเข้ามา
ใช้บริการน้อยนิด ทว่าอาหารกำลังทานอยู่นี่อร่อยเหาะสุดๆ ^ o^
“ กินอาหารด้วยสิซูจอง ขืนเมาขึ้นมาจะว่าไง น้อยๆหน่อยนะขี้เกียจ
แบกกลับ”
“ พี่ก็ ฉันอยากดื่มให้เมาไปเลย รู้มั้ยคะว่ากว่าจะเกลี่ยกล่อมให้พ่อ
เปลี่ยนใจมันเหนื่อยใจแค่ไหน ช่างหัวไดโนเสาร์เต่าล้านปีพวกนั้นเฮ่อะ
เรามาดื่มเหล้าด้วยกันดีกว่านะคะคุณคีย์บอม นี่ค่ะ ” จองซูจองส่งแก้ว
เหล้าใบเล็กมาที่ฉันด้วยรอยยิ้ม ฉันยิ้มตอบไม่รู้สึกว่าการทำความรู้จัก
กับเธอจะเป็นเรื่องเลวร้ายไปซะทีเดียว
“ พี่จงฮยอนเราน่ะ แต่งงานกันเถอะนะ”
“ สงสัยจะเมามาก งั้นฉันไปส่งเธอให้แล้วกันนะจงฮยอน”
“ อย่ามาจับตัวฉันนะ!! พี่คะฉันน่ะรักมินฮวานเหมือนกับลูกแท้ๆ พี่ไม่คิด
จะเปิดโอกาสให้ฉันบ้างเลยรึไงคะ ฮือ!! ”
“………”
“ นะคะ…พี่ตอบฉันหน่อยสิ”
เวลาผ่านไปเกือบครึ่งค่อน คนที่ออกอาการเมาได้ที่ไม่ใช่ฉัน หรือแม้แต่
เพื่อนของเขา เธอพยายามคาดคั้นคำตอบจากเขาแต่ก็เปล่าประโยชน์
เมื่อเขาไม่มีทีท่าจะตอบมัน จองซูจองก็ตัดสินใจดื่มมันอีกหน ทว่าเขากลับ
คว้าแก้วเหล้าจากมือจองซูจองดื่มแทนเสีย
“ เธอเมามากแล้วนะ นี่ชอนดุงแกช่วยไปส่งซูจองที่บ้านทีนะ” ทันทีที่เขา
พูดจบ ซูจองจึงขดตัวเล็กลงยิ่งกว่าเดิม เธอได้แต่ก้มหน้าร้องไห้ ปัดป่าย
มือคุณชอนดุงซึ่งพยุงตัวเธอไว้ให้พ้นๆ ทว่าท่าทีต่อต้านนั้นกลับเป็นเรื่อง
ที่ง่ายแสนง่าย
“ ปล่อยฉันลงนะ ”
“ ในเมื่อเธอไม่ไปดีๆฉันก็จะแบกเธอออกไปอย่างงี้หล่ะ”
“ ปล่อยฉันลง โถโว้ย!! ” เสียงพวกเขาค่อยๆเบาลงและเงียบหายไป
ในที่สุด ฉันถอนหายใจเข้าออกเหนื่อยๆมองตามคนสองคน ซึ่งคาดว่า
ไม่น่าจะถูกกันสักเท่าไหร่ และแล้วบรรยากาศเงียบสงบก็เกิดขึ้นระหว่าง
เราทั้งสองคน
“ ทำไมคุณถึงไม่ชอบเธอล่ะ น่าเสียดายนะ คุณน่าจะคว้าเธอไว้ ”
“ มันเรื่องของผม”
“ นั่นมันเรื่องของคุณถูกมั้ย งั้นเชิญคุณดื่มตามสบายเลยนะครับผมกลับ
โซลล่ะ ” พูดจบฉันก็คว้าแก้วเหล้าที่เหลือมาดื่ม แล้วลุกออกไปเช่นเดียว
กับสองคนนั้น แต่คุณจงฮยอนก็คว้าจับข้อมือฉันไว้
“ คุณคิมคีย์บอม ผมรู้สึกมึนหัวนิดหน่อย ช่วยพาผมกลับไปที่โรงแรมนั่น
จะได้รึเปล่า “
“ ขอโทษนะ ผมคงไม่มีเวลาไปกับคุณได้หรอก ”
“ งั้นเหรอ กลับดีๆล่ะ ” คุณจงฮยอนลุกขึ้นวางมือลงบนไหล่ฉัน ก่อนเดินออก
ไปนอกร้าน หลังจากที่ฉันปฏิเสธเขา ฉันไม่รู้เขาแสร้งทำหรืออย่างไร ดูจากสีหน้า
อิดโรยแถมยังส่งเสียงไอเป็นระยะ ร่างกายที่เดินโอนเอนเหมือนกับจะล้มลง
ผิดต่างไปจากชั่วโมงก่อนๆ ฉันตะโกนออกไปแล้วได้แต่มองตามแผ่นหลังของเขา
จนเหลือเล็กลงนิดเดียว ไม่ได้หวังหรอกว่าเขาจะต้องได้ยินเสียงฉัน เพราะอีกไม่
กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ฉันก็ต้องกลับมาเป็นคิมคีซุนคนเดิมที่ได้ทิ้งเขาไปแล้ว
“ ผมจะไปส่งคุณที่นั่นให้ก็ได้ ” พอพยุงตัวเขาไว้ได้ ฉันถึงได้ตัดสินใจพาเขามายัง
โรงพยาบาลซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก
“ ผมจะกลับโรงแรม คุณพาผมมาที่นี่ทำไม ”
“ หมอว่าคุณน่าจะนอนพักที่นี่สักหน่อยนะ เพราะร่างกายของคุณพักผ่อน
ไม่เพียงพอเท่าไหร่เลย ดังนั้นคุณน่าจะนอนพักผ่อนให้มากกว่านี้นะครับ แล้ว
พรุ่งนี้เช้าผมจะให้พยาบาลจัดยาไว้ให้ ขอตัวก่อนนะครับ”
“ เดี๋ยวก่อนสิครับหมอ…. มาถอดสายน้ำเกลือให้ผมก่อนสิ” คุณหมอไม่ยอม
ให้เขาออกจากโรงพยาบาล ดังนั้นทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดได้แต่นอนก่ายหน้าผาก
ระหว่างถูกสายน้ำเกลือเจาะเข้ากับผิวหนังบนเตียงคนไข้ ฉันก็เลยต้องนั่งเป็น
เพื่อนเขา ไม่นานนักคุณจงฮยอนก็พูดมันขึ้นมา หูตาฉันเลยสว่างไปชั่วขณะ
“ คุณไม่กลับโซลหรือ ”
“ ผมลืมไปเลยนะ ไม่รู้ว่าเรือเที่ยวสุดท้ายจะหมดไปแล้วรึยัง ทำไงดี ”
“ เพราะผมคุณถึงต้องตกเที่ยวเรือกลับโซล ผมขอโทษด้วยนะ ”
“ มันไม่ได้หนักหนาอะไรซะหน่อย ผมลาล่ะครับ ” ฉันลืมไปสนิทจัดการ
หยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายโดยเร็ว เพียงไม่กี่ก้าวที่ฉันเตรียมจะเดินออก
ไปจากห้องผู้ป่วย
“ มันแปลกๆนะ ที่ผมรู้สึกว่าอยากให้คุณอยู่ต่อ หรืออาจเป็นเพราะ
เวลาที่ผมมองคุณคิมคีย์บอมมันจะทำให้ผมนึกถึงน้องสาวคุณเช่นนี้ได้
ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ผมเสียใจนะ แต่ผมคงจะบอกกับเธออย่างงั้น
ไม่ได้อีกแล้วล่ะ เพราะตอนนี้เธอทิ้งผมไปแล้ว ทำไงดีล่ะผมควรจะ
บอกว่าผมชอบคุณด้วยดีมั้ย “
“ ไม่ดีหรอก ผมกับมินฮยอกเราแต่งงานกันแล้ว คุณรักผมไม่ได้!!!
ถ้าคุณพูดเพียงเพราะผมเหมือนกับน้องสาวของผมล่ะก็ ล้มเลิกความ
คิดนั่นซะเถอะ รอหน่อยนะ เธอจะต้องกลับมาหาคุณแน่ๆ ”
“ คนโกหก ”
น้ำตาฉันไหลลงมาโดยไม่รู้ตัว เมื่อทุกๆอย่างสายเกินกว่าจะย้อนกลับ
ยังไงๆฉันก็ไม่อยากให้เขาต้องชอบพี่ เพราะคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาก็คือ
ฉัน และก่อนที่อะไรๆมันจะยื้อเยื้อไปมากกว่านี้ ฉันก็ตัดสินใจเดินจาก
เขาไปในคืนนั้น
สามวันหลังจากที่ฉันกลับมาจากเกาะเชจู วันของการทำงานที่แสน
จะน่าเบื่อ คุณนายโบยองและสามีเก่า พวกเขาต่างเดินเข้ามาในห้อง
ทำงานของฉัน ฉันนั่งนิ่ง ทำใจให้เย็นสงบ ถ้าไม่ติดตรงที่ว่าพวกเขา
จะคิดบัญชีกับฉันทีหลัง ฉันอาจจะหนีพวกเขาไปนานแล้ว -_-“
“ ผู้หญิงคนนี้ชื่อคิมคีย์ซุนงั้นหรือ ” ชายกลางคนสวมเสื้อลายดอกหยิบ
บุหรี่ขึ้นมาสูบ ฉันจำเข้าได้แม่นในการประชุมที่เพิ่งผ่านมาไม่กี่วัน ฉันเบือน
หน้าหนีคว้ารีโมทพัดลมระบายอากาศเร่งระดับ เมื่อห้องทำงานของฉัน
เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นแสบจมูกชวนคลื่นไส้
“ กลับมาได้แล้วรึไง หัดรู้จักเจียมตัวเองซะบ้างนะ ว่าเธอเป็นใคร
ถึงได้ออกไปข้างนอกโดยไม่ได้ขออนุญาต “
“ จะขออนุญาตใครหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยวกับคุณแม่ไม่ใช่หรือค่ะ คุณแม่
ต้องการจะพูดอะไรกับหนูก็รีบๆพูดมาเถอะค่ะ ”
“ ให้ตายสิ!! หล่อนนี่ยังจองหองเหมือนเดิม ฉันมีเรื่องจะให้เธอ
ช่วยอะไรนิดหน่อย!! ”
“ ใจเย็นๆสิคุณ ฉันว่าเธอหน้าคุ้นๆน่ะ มิน่า เธอสวยเซ็กซี่
เหมาะสมกับมินโฮของเรามากเลยนะว่ามั้ยคุณ ถ้าต้องการอะไร
ก็บอกฉันมาได้เลยนะ ฉันจะให้ลูกน้องของฉันช่วยเหลือเธออย่าง
เต็มที่ ”
“ ขอบคุณนะค่ะ แต่หนูไม่ต้องการความช่วยเหลือจากใครหรอกค่ะ ”
“ ฮ่าๆ เธอนี่เป็นผู้หญิงที่เฉียบขาดได้โดนใจอะไรอย่างงี้นะ รับนี่ไปสิ ”
ภายในนั้นบรรจุก้อนเงินและเอกสารฉบับหนึ่ง ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร
อย่างกับเอกสารที่ดินที่ไหนสักแห่งนะ
“ ยังไงก็ถือซะว่าช่วยๆพ่อตาคนนี้หน่อยล่ะกัน อีกอย่างที่ดินตรงนั้น
ไม่เหมาะจะทำโรงงานไวน์อีกต่อไปแล้ว เนื่องจากตัวอาคาร
ค่อนข้างเก่าและทรุดโทรมไปมาก ดังนั้นน่าจะบูรณะที่นั้น
ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวน่าจะดีกว่า ”
“ สถานที่ท่องเที่ยวอย่างงั้นหรือ… แต่ที่ดินที่เคียงจูน่ะ เป็นกรรมสิทธ์
ของท่านประธานใหญ่ไม่ใช่รึไงคะ ”
“ ก็ใช่ ตอนนี้นายทุนจากบริษัทเวสลี่ ต้องการจะทำสัญญาร่วมกับซองวอน
กรุ๊ปจริงๆนะ อีกอย่างพวกเขาให้ความสนใจกับโรงงานนั่นมาก เสียดาย
ค่าตอบแทนในการเซ็นสัญญาที่ใช้เป็นสิบๆปีก็ยังใช้ไม่หมดเลย ถ้าฉันทำ
ให้พวกมันยอมเซ็นสัญญาดีๆไม่ได้ ”
“ ถ้าหนูทำสำเร็จ คุณจะยินดีรับข้อเสนอของหนูหรือเปล่าคะ ”
“ ว่าไงนะ ข้อเสนอหรือ ฮ่าๆ ดูสิ!! ลูกสะใภ้คนสวยของคุณหล่อน
พูดกับผมว่ายังไง ” ผู้ชายคนนี้ทำเสียงสูง ราวกับคำพูดของฉันเป็น
เรื่องแปลกประหลาดน่าตกใจสำหรับเขา
“ ก็เรื่องที่ลูกชายของภรรยาคุณพูดไว้ไงคะ หนูหวังว่าคุณแม่จะ
ไม่ลืมเรื่องที่รักษาสัญญาไว้กับหนูและก็คุณเชวมินโฮหรอกนะค่ะ
หากยินดีรับข้อเสนอนี้ หนูก็จะทำ!! ”
ในคืนนี้ฉันเก็บแฟ้มกลับมาทำต่อที่บ้าน พอกลับไปถึงด้วยทางเดินที่
ค่อนข้างจะมืดสนิท ขึ้นบันไดไปได้ไม่เท่าไหร่ จู่ๆขาของฉันกลับไร้เรี่ยว
แรงและหน้ามืดขึ้นมาเฉยๆ ขณะหลับตาลงไปสักพัก ทันใดนั้นเสียง
แผ่วเบาจากใครคนหนึ่งก็ดังขึ้น
“ คงคิดถึงเขามากสินะ ถึงได้มานอนตรงนี้นะ”
“ คุณตื่นแล้วหรือค่ะ นี่ก็ยังไม่สว่างเลย…กลับไปนอนต่อเถอะค่ะ ”
เพราะตกใจไม่รู้ว่าเขาอยู่ตรงนั้น หลังจากพูดจบฉันก็วิ่งกลับ
มายังห้องนอนของตัวเองอย่างหวุดหวิด
“ ยินดีด้วยนะมินโฮ เธอเพิ่งจะกลับมา แล้วช่วงนั้นเธอหาย
ไปไหนล่ะ ”
“ อย่างงั้นก็ ที่งานแต่งงานต้องยกเลิกคือเธอสินะใช่มั้ย ”
“ มินโฮ นายเชื่อใจเธอได้เหรอ ”
“ เลิกเซ้าซี้มินโฮมันซะที พวกนายไม่เข้าใจรึไง ว่าหล่อนก็แค่
หนีตามผู้ชาย ฮ่าๆ ” -_-
เสียงหัวเราะขบขันดังแววๆเข้ามาในหู กลุ่มเพื่อนคุณมินโฮ
ต่างยืนรายล้อมเขารอบด้าน ฉันซึ่งหลีกตัวมายังฟังเครื่องดื่ม
สังเกตเห็นความกังวลภายในดวงตาของเขา ระหว่างที่พวกเพื่อนๆ
ตั้งคำถามกับคุณมินโฮไม่หยุดปาก
ฉันเหม่อมองไปรอบหอประชุม ขณะที่แขกวีไอพีและผู้บริหาร
ระดับสูง ทยอยกันเดินเข้ามาข้างในงานเลี้ยงด้วยชุดแต่งกาย
อันสวยงามเรียบหรูของพวกเขา
“ รับเครื่องดื่มมั้ยค่ะ” บริกรหญิงนำเครื่องดื่มมาเสริฟ์ จังหวะ
ที่ฉันหันไปมองทางนั้น บางสิ่งบางอย่างก็สะดุดตาไปชั่ว
ขณะ และเขาซึ่งน่าจะเป็นเหมือนกัน
“ นั่นจงฮยอนนี่” ฉันหันไปมองคุณจงฮยอนกับผู้หญิงคนใหม่
ความเปรี้ยวและความเซ็กซี่ในชุดราตรีสีน้ำเงินแหวกกลางหลัง
เผยเห็นแผ่นหลังสุดจะยั่วยวนพอหอมหอมปากหอมคอ ดูๆแล้ว
รสนิยมของเธอและฉันแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
“ ตายจริง! เด็กหน้าตาเหมือนเธอเลยนะ ลูกเธอล่ะสิ นี่ก็ยัง
ไม่รู้ว่าฝ่ายนั้นเขาจะลดโทษกับเธอยังไง อีกเดี๋ยวป้าว่าเราคง
จะได้ฟังข่าวดีของเธอด้วยกันนะจ๊ะ ”
“ ขอบคุณครับ ผมก็หวังว่าจะเป็นอย่างงั้น แต่ก็แปลกๆ“
“ แล้วแม่หนูคนนี้ ภรรยาแกล่ะสิ”
“ ชินเซคยองเธอเป็นภรรยาของผมครับ”
“ แล้วเธอทำงานอะไรล่ะ ”
“ ดิฉันทำงานธุรกรรมการส่งออกสินค้าน่ะค่ะ รู้สึกเป็นเกียรติ
อย่างยิ่งนะคะ ที่ได้พบกับท่านหัวหน้าจองและคุณนายใหญ่
ในงานเลี้ยงดีๆแบบนี้ ”
“ จริงด้วย!! พ่อของเธอเป็นเพื่อนฉัน บริษัทขายเครื่องประดับ
ที่นั่นเป็นยังไงบ้างล่ะ ” ถึงตรงนี้ ฉันกลับรู้สึกว่าตัวฉัน เป็น
ได้แค่ผู้หญิงบ้านๆ เทียบอะไรไม่ได้กับผู้หญิงที่มีฐานะร่ำรวย
คนนั้น
ฉันเปลี่ยนใจจะไม่ยืนอยู่ตรงนี้ต่อ ทว่าเด็กน้อยผู้ที่มีสายตา
หมองเศร้า กำลังเหม่อมองมายังฉัน ราวกับถูกบังคับว่าต้องทำ
เช่นไร ทั้งๆที่เรารู้จักซึ่งกันและกันดี
“ หนูรู้จักคุณน้าคนนั้นด้วยหรือ ” มินฮวานส่ายหน้าช้าๆให้กับ
ซูจอง ในขณะแทมินเดินจูงมือเด็กน้อยเข้ามาในงานด้วยเช่นกัน
แม่ขอโทษนะมินฮวาน ขอโทษที่แม่อยู่เคียงข้างลูกไม่ได้แม่สัญญา
ว่าแม่จะอยู่เคียงข้างลูก เพราะงั้นอย่าคิดร้องไห้ตรงนี้นะ
ยิ้มเข้าไว้สิจ้ะ
ฉันไม่คิดว่ามินฮวานจะรู้สึกได้ถึงสายตาของฉัน รอยยิ้มบางๆ
ที่คล้ายกับพ่อของเขา ฉันจึงยิ้มตอบกลับก่อนตัดสินใจไปเข้าห้อง
น้ำก่อนที่งานจะเริ่ม
ความคิดเห็น